คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : ตอน คนเห็นแก่ตัว
"หิวน้ำ"
"หยิบผ้าขนหนูให้หน่อยได้มั้ย"
"เหงื่อออกเยอะเลย เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนนะ"
เป็นแบบนี้มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว เห็นชัด ๆ ว่าคนพูดทำหน้าแบบว่าฝืนใจที่จะพูด คงจะรู้สึกแปลก ๆ ตัวเอง แล้วก็คงเขินที่จะพูดแบบนี้
อยากจะหัวเราะก็อยาก อยากฟังก็อยากฟัง
เลยไม่รู้ว่าควรจะบอกให้ทานตะวันหยุดพูดจาแบบนี้ หรือว่า ควรจะสนับสนุนให้พูดต่อไปดี
ในใจก็แอบขำ แต่แสดงออกไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าไปหัวเราะเยาะได้ซวยกันอีก
คิดแล้วก็ตลก มีแต่เรื่องตลกเยอะแยะไปหมด เริ่มจากคนตัวโตบ้าบอที่ขยันทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเกินเหตุ ทำตาปริบ ๆ เดินตัวตรงเป็นหุ่นยนต์ไปได้
เหตุผลคือ เดินหลังค่อมไม่ดี เดี๋ยวไม่น่าภูมิใจ เกี่ยวกันตรงไหน
ไม่เห็นต้องสนเรื่องภูมิใจหรือไม่ภูมิใจในเมื่ออ้อนก็เดินลากขาแบบนี้ ทานตะวันควรจะอายที่ต้องมาเดินกับคนขาเป๋ ทำอะไรเชื่องช้าเป็นเต่าคลานมากกว่า
อ้อนเดินหิ้วกระเป๋าและนำมาวางไว้บนม้านั่งตัวยาว ส่วนทานตะวันค้นหาผ้าขนหนูในกระเป๋าแล้วก็วิ่งลิ่วไปอาบน้ำ ปล่อยให้อ้อนนั่งเล่นอยู่คนเดียวและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
หน้าที่แฟนที่ดีเหรอ
หน้าที่แฟนที่ดีเป็นยังไง
ให้ไอ้ทานทำหน้าที่แฟนที่ดีได้เหรอ เรื่องตลก ๆ แบบนั้น จะให้บอกเหรอ จะให้บอกว่าช่วยเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เพื่อมาเป็นอย่างที่อยากได้งั้นเหรอ
ถ้าไอ้ทานมันไม่เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้ จะรักเหรอ ถ้าต่างจากนี้ ถ้าหน้าตาไม่ใช่แบบนี้ ถ้าไม่โวยวายอย่างนี้
ถ้าทานมันเป็นเฮียก๋วยของไอ้รัก....คนที่ทำให้ไอ้รักนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเพียงเพราะว่าเฮียโกรธที่ไม่ยอมกินข้าวให้ตรงเวลาจนปวดท้อง คนแบบนั้นจะทำให้รักได้หรือไง
แล้วจะชอบมั้ย.....ถ้าไม่ใช่ไอ้ทานบ้าคนนี้
คนที่แหกปากโวยวาย เพราะแกะริบบิ้นที่พันหัวไม่ออก
คนที่เอาแต่พูดปาว ๆ อยู่ทุกวันว่ากูคือประกาศิต คำสั่งกูเป็นสิทธิ์ขาด
คนที่แทบจะกระโดดเตะรุ่นน้องเพียงเพราะมันวิดพื้นช้า ไม่ยอมมาซ้อม หรือโดดซ้อม
คนที่ยิ้มแฉ่ง พูดจาดี มารยาร้อยแปดเวลาต้องเข้าหาผู้ใหญ่
คนที่ทำหน้าเศร้า เวลาที่มีปัญหากับครอบครัว
คนที่ท่าทางเหงา ๆ เวลาที่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
คนที่ร้องไห้ให้เห็น โดยไม่คิดจะวางฟอร์มอีกต่อไป
และเป็นคน ๆ เดียวกับที่บอกว่า "รักทานเถอะ....ขอร้องล่ะ"
คิดได้ถึงตรงนี้ แล้วอ้อนก็ได้แต่นั่งอมยิ้ม ก้มมองที่ฝ่ามือของตัวเอง แล้วก็ยิ่งยิ้มได้มากขึ้น
ทานตะวันยังคงเป็นทานตะวันไม่เปลี่ยนแปลง
ถ้าทานไม่ใช่คนนี้แล้วจะรักมั้ย คนมีเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมต้องเป็นคน ๆ นี้
ทำไมถึงทำให้รู้สึกถึงความพิเศษ ทำไมถึงได้รู้จักกัน ได้ทะเลาะกัน เกลียดกันมาก ๆ ไม่เคยเข้าใจกันเลย
มีแต่เรื่องให้ขัดแย้งกันตลอดเวลา
แล้วทำไม...........วันนี้ถึงได้ยิ้มได้เพราะคน ๆ นี้
แปลกดีนะ บางทีเรื่องตลก ๆ ก็มักเกิดขึ้นกับชีวิตโดยไม่ทันรู้ตัว
อ้อนนั่งคิดอะไรไปเรื่อย ๆ แล้วก็ยิ่งแปลกใจตัวเอง จะกลายเป็นคนฉวยโอกาสหรือเปล่า รู้ตัวว่าไม่ใช่คนดีอะไรนักหนา
หนี้ก็ยังติดไอ้ทานอยู่ไม่ได้ใช้คืนให้ ถ้าจะให้เป็นแฟนจริง ๆ แน่ใจหรือไงว่าจะเป็นได้
ในเมื่อ.......ไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยสักนิด
เอาใจไม่เป็น พูดหวาน ๆ ไม่ได้ ถ้าจะให้ปรับปรุงตัวก็คงได้ แต่จะทำได้ตลอดไปงั้นเหรอ จะรับปากได้ยังไงว่าจะทำไปได้ตลอด
แล้วอนาคตล่ะ อนาคตจะเป็นยังไง วันหนึ่งถ้าทานมันเปลี่ยนไปจะทำยังไง ในเมื่อโอกาสในชีวิตของคนเรามีไม่เท่ากัน แล้วคนอย่างทาน มันจะมีความอดทนขนาดมาจมอยู่กับคนแบบนี้ได้ยังไง
ความอดทน
รู้อยู่แก่ใจตัวเองว่า ทานมันทนอะไรนาน ๆ ไม่ได้ แล้วก็พร้อมจะระเบิดออกมาเสมอ
ดีแน่แล้วเหรอ ที่เป็นแบบนี้
แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าดีแล้ว
"หิวแล้ว......ไปหาข้าวกินกันเถอะ" เสียงของคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับผ้าขนหนูถูกเหวี่ยงโยนไว้ที่กระเป๋า หน้าที่ของอ้อนคือจัดการให้เรียบร้อย ใช่ หน้าที่คือจัดการให้เรียบร้อย
แล้วทานตะวันก็ก้าวยาว ๆ จากไปโดยไม่รอ เหมือนทุกวัน.......
เหมือนทุกวัน
เหมือนเมื่อวาน
เหมือนวันก่อน ๆ
แล้วแบบนี้แน่ใจแล้วใช่มั้ย.........ว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด
ดีแล้วเหรอ ที่เดินอยู่ข้างหลัง แล้วมองตามแผ่นหลังของคน ๆ นี้ ดีแล้วใช่มั้ย แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าดีแล้ว
รู้ได้ยังไงว่าทานมันจะรักกันจริง ๆ อย่างที่ปากมันพูด
ความคิดของอ้อนบั่นทอนความรู้สึกได้มากที่สุด ทั้งที่ควรจะยิ้ม ควรจะมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่ใช่ สิ่งที่รู้สึกไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
หวังให้ใส่ใจมากกว่าที่เป็น หวังให้อีกฝ่ายแสดงให้รู้ว่ารัก หวังสูงเกินไป กำลังหวังบางสิ่งบางอย่างที่สูงเกินไปใช่มั้ย
"อ้อน หิ้วกระเป๋าไปให้ตลอดนะ เดินตามหลังเราไปแบบนี้เรื่อย ๆ อ้อนทำหน้าที่ของอ้อน เราทำหน้าที่ของเรา
ชั่วโมงนี้เวลานี้ อ้อนทำหน้าที่ของอ้อน แต่ชั่วโมงถัดไปเราจะทำหน้าที่ของเรา เราไม่อยากให้อ้อนมองว่าตัวเองไม่มีค่าแล้วก็ไม่อยากให้อ้อนหาเงินมาใช้หนี้
เราแค่อยากให้อ้อนช่วยหิ้วกระเป๋าให้ อยากให้อ้อนช่วยถูหลัง ช่วยซักผ้า ช่วยทำนั่นทำนี่ให้เรา เพราะเราอยากให้อ้อนทำ...ทำให้เรา..ทำให้เพราะอยากทำให้เราคนเดียว"
แล้วคนที่ยืนหันหลังพูดอะไรยืดยาวก็หันกลับมา แล้วส่งยิ้มเศร้า ๆ มาให้
อ้อนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาเศร้า ๆ ของคนพูด แล้วความรู้สึกแย่ ๆ ที่คิดเมื่อไม่กี่นาทีก่อนก็ถูกพังทลายลงอย่าง ช้า ๆ
"เราเห็นแก่ตัวใช่มั้ย.....ที่อยากให้อ้อนทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เราคนเดียว...เราไม่อยากให้อ้อนไปทำแบบนี้ให้ใครอีก....เรายอมรับ....ว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว..เห็นแก่ตัวมาก ๆ กับอ้อนคนเดียว"
น้ำเสียงสั่น ๆ ท่าทางเศร้า ๆ
ทานตะวันหันกลับไปแล้ว และก้าวเดินอย่างช้า ๆ โดยมีคนที่เดินลากขา หิ้วกระเป๋าใบใหญ่เดินตามอยู่ข้างหลัง
กำแพงสูงเริ่มพังทลาย
คนบางคนเรียกร้องความสนใจ อยากให้มีคนทำบางสิ่งบางอย่างให้ ถ้าได้รับแล้วจะดีใจมากกว่าคนที่ได้รับอยู่เสมอแต่ไม่เห็นค่า
คนบางคนอย่างทานตะวัน
ต้องการคนที่เต็มใจช่วยถือกระเป๋า เต็มใจช่วยทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้
โยนภาระหน้าที่บ้า ๆ บอ ๆ เพื่อให้คน ๆ หนึ่งทำ และอยากให้คน ๆ นั้นทำเพียงแค่คนเดียว
มันคือความต้องการ มันคือความรู้สึกต้องการความรักที่จะถูกหยิบยื่นให้ แบบเป็นรูปธรรมไม่ใช่คำพูดลอยลม
แล้วทำไมถึงไว้วางใจให้คนๆ หนึ่งทำให้
ก็เพียงแค่อยากออดอ้อน อ้อนให้รักให้ดูแล ให้ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย
คนตัวโตบ้าบอคนนั้น กลับมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่าใคร ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
และพร้อมจะเสียใจตลอดเวลาหากถูกปฏิเสธความรัก
กระเป๋าไม่ได้หนัก ในเมื่อทั้งรองเท้าและของบางส่วน ถูกดึงออกหมด และก็เห็นอยู่ว่าทานตะวันเอาไปถือไว้เองหมดแล้ว
สิ่งที่อยากได้คืออยากให้ถือกระเป๋าให้ อยากให้เดินตามหลังไปด้วยกันเรื่อย ๆ อยากเก็บไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น
"ทาน......อยากเห็นแก่ตัวงั้นเหรอ....ทำให้ตลอดไปแล้วกัน...แล้วอย่าไปทำแบบนี้กับใคร...ให้ทำกับเราได้คนเดียวพอ"
เสียงที่บอกออกมา คำพูดของคนที่อยากฟังมากที่สุด
ทานตะวันหันกลับมาแล้ว และไม่รีรอที่จะเดินไปรั้งข้อมือของอ้อนให้เดินเคียงข้างกันอย่างช้า ๆ
รอยยิ้มสดใสถูกส่งให้กับคนที่ยอมรับความเห็นแก่ตัวของทานตะวันเอาไว้คนเดียว
รอยยิ้มที่อยากได้มากที่สุด จากคน ๆ นี้
"แน่ล่ะสิ....ก็ต้องเห็นแก่ตัวให้เยอะ ๆ อยู่แล้ว หนี้เป็นแสน ๆ เงินนะนั่น เงิน..เรื่องอะไรจะปล่อยทิ้ง...จริงมั้ย"
แทบจะสะบัดมือหนีและหยุดความซึ้งไว้เพียงเท่านั้น ดีกรีความดีลดลงจนแทบติดลบ อ้อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง แล้วก็เห็นว่า
ไอ้บ้าตรงหน้ากำลังยืนยิ้มกว้าง แถมนัยน์ตาคมยังส่องประกายระยิบระยับ เห็นแล้วน่ากระโดดต่อยให้หน้าหงายมากที่สุด
"แต่ไม่เป็นไร จะเพิ่มให้ตามที่แม่อ้อนเรียก เดี๋ยวเอาสมุดไปจดรายการมาแล้วกันว่าจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ จะได้ให้แม่เตรียมเงินไปขอได้ถูก.. อย่าลืมไปนอนคิดมานะ แล้วพรุ่งนี้มาให้คำตอบเรา....รออยู่....ห้ามลืมเด็ดขาดรู้มั้ย"
*****************************************
ความคิดเห็น