ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอน ป่วย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.14K
      14
      10 ก.พ. 54

     ตอน ป่วย 











    อ้อนส่งกระดาษเช็ดหน้าให้กับคนที่ทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก ดวงตาคมแดงก่ำ และเหมือนมีไอร้อนแผ่ออกมาจากร่างกาย


    ทานตะวันรับสิ่งที่อ้อนส่งให้ และยังคงขับรถต่อไปเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

    เรื่องของคืนก่อนหน้านั้น ผ่านไปแล้ว และต่างฝ่ายต่างก็ทำเหมือนไม่มีอะไรขึ้น

    คืนนั้นกว่าทานตะวันจะเดินเข้าบ้านก็กินเวลาหลายชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะแช่น้ำให้ตัวเปื่อยหรือยังไง แต่หลังจากนั้น
    ไม่มีการพูดคุยไม่มีการหยอกล้อ ไม่มีแม้แต่จะมองหน้ากันเลยสักนิด

    ต่างฝ่ายต่างทำเป็นนิ่งเฉย ไม่พูด ไม่คุย ทำเหมือนไม่สนใจกันอีกเลย

    นอนด้วยกันบนเตียง แต่หันหน้าหนีออกไปคนละทิศละทาง

    ไม่เหมือนวันก่อน ๆ ที่ยังมีการหยอกล้อให้ปวดหัวเล่นก่อนนอน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ทำไมถึงได้ทำเย็นชา เมินเฉยกัน

    เพียงเพราะว่าไม่อยากรู้สึกแปลก ๆ ไปมากกว่านี้ ก็เลยต้องแกล้งทำเป็นนิ่งเฉย

    อ้อนเหลือบสายตามองใบหน้าด้านข้างของคนที่มีอาการไม่สู้ดีนัก

    ก็สมควรหรอก พี่ท่านเล่นแช่น้ำตั้งแต่สามทุ่ม เกือบตีสอง แล้วค่อย ๆ เดินย่อง เข้าบ้าน มาอาบน้ำ ปิดไฟนอน
    ทำเหมือนหลบหน้ากัน ทำอะไรเอาไว้ไม่มีความรับผิดชอบเลยหรือยังไง

    ประตูบ้านถูกเปิดออก และเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ประตูบ้านทานตะวันที่มีอาการเหมือนคนหายใจไม่ออก ดวงตาแดงก่ำ
    ก็เปิดประตูรถ วิ่งลิ่วไปเข้าห้องน้ำ และยืนโก่งคออาเจียนแทบเป็นแทบตาย จนอ้อนต้องรีบเดินตามเข้าไปช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้กับคนที่มีอาการไม่สู้ดีนัก

    "ไปหาหมอมั้ย" คนตัวโตที่มีอาการย่ำแย่ส่ายหน้าไม่ยอมไปหาหมอ และเดินมาบ้วนปากล้างมือ และเดินออกจากห้องน้ำไปทิ้ง

    กายลงนั่งเอนศีรษะพิงกับพนักโซฟา แล้วแหงนเงยใบหน้าขึ้น ก่อนจะหรี่ตาลง และนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ

    "ไอ้ทาน ไปหาหมอดีกว่ามั้ง" อ้อนพยายามเรียกคนที่นั่งนิ่ง ๆ แต่ใบหน้าแดงก่ำ และเมื่อลองใช้หลังมือสัมผัสความร้อนรุ่มของร่างกายของคนที่หรี่ปรือตาขึ้นมอง และหลับลงไปอีก ทำให้อ้อนต้องเรียกให้ทานตะวันรู้สึกตัวอีกครั้ง

    เล่นแช่น้ำขนาดนั้นก็สมควรหรอก เมื่อเช้าก็เห็นยังดี ๆ อยู่เลย เพียงแต่ไม่พูดมากเหมือนทุกวัน แล้วก็เงียบ ๆ ไปเห็นวิ่งอยู่กลางสนามได้ปกติสุข แหกปากโวยวายได้ แต่ทำไมพอกลับมาบ้านถึงได้ตัวร้อนจัดขึ้นมาแบบนี้

    ฝืนสังขารกันเห็น ๆ

    ทำไมจะต้องทำเป็นเข้มแข็งตลอดเวลาด้วย หัดอ่อนแอบ้างไม่ได้หรือไงวะ กะอีแค่บอกมาว่าไม่สบาย มันจะเป็นจะตายหรือยังไง

    "อาบน้ำแล้วนี่ตอนที่จะกลับจากชมรมน่ะ งั้นเดินขึ้นห้องไหวมั้ย ไปนอนเถอะ เดี๋ยวกินยาแล้วนอนพักหน่อยนะ ทานตื่นเร็ว เดินไหวมั้ย"

    อ้อนเขย่าร่างของคนที่หรี่ตาขึ้นมองอีกครั้ง และร่างนั้นก็ฝืนลุกขึ้นยืน ทั้งที่เดินโซเซ แม้แต่ตัวเองยังเดินไม่ไหว
    แล้วนี่มันขับรถกลับมาได้ยังไง มันไปวิ่งกลางสนามได้ยังไง มันแหกปากคุยกับคนอื่นตั้งนานสองนานได้ยังไง
    ฝืนตัวเองเก่งจริง ๆ เลยนะ

    อ้อนยกแขนของทานตะวันมาวางพาดไว้ที่ไหล่ของตัวเองและช่วยพยุงร่างของคนที่เดินโซเซขึ้นห้อง แต่ทานตะวันกลับสะบัดหนี และไม่ยอมให้ช่วย

    "ไม่ต้อง เดินเองได้ อย่ามายุ่งไปไกล ๆ เลยคืนนี้ไปนอนห้องเล็ก ไม่ต้องมายุ่งด้วยนะ จะล็อคห้อง"

    บ้าสิ ไม่สบายขนาดนี้ จะล็อคห้องทำไม ไอ้ทานนี่มันใกล้บ้าแล้วแน่ ๆ ทำไมมันทำตัวน่าโมโห น่าตบกบาลขนาดนี้วะ

    "พูดจาให้เหมือนคนดี ๆ เขาสักวันไม่ได้หรือไง" อ้อนนึกโมโหขึ้นมา และตะโกนถามคนที่พยายามพยุงร่างกายขึ้นไปบนห้อง

    นอนแต่ร่างนั้นกลับไม่ยอมตอบ และไม่ยอมให้ช่วยเหลือเลยสักนิด

    ทำไมทำตัวน่าหงุดหงิดขนาดนี้วะไอ้ทาน มึงมัน โธ่โว้ย ไม่เคยเห็นใครนิสัยกวนประสาทขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ จะยอมอ่อนแอบ้างไม่ได้เลยใช่มั้ย

    "เดินไม่ไหวแล้ว ยังจะฝืนอีก เดี๋ยวได้ตกบันไดคอหักตายหรอก" อ้อนเดินกระโผลกกระโผลกเข้าไปช่วยพยุง แต่ทานตะวันก็สะบัดมือหนีอีกครั้ง ไม่ยอมให้แตะตัวเลยสักนิด นัยน์ตาคมแดงเรื่อ ที่ทอดมองมา แข็งกร้าวและเห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใคร

    "อย่ามายุ่งกับกู ไปห่าง ๆ ไอ้เป๋" แม้จะป่วย แม้จะไม่สบาย แต่คนป่วยก็ยังตะคอกเสียงดัง

    ทานตะวันก้าวขึ้นบันไดขั้นสุดท้าย และเดินเข้าห้อง ปิดประตูเสียงดัง แล้วจัดการล็อคห้องเอาไว้ ไม่ยอมให้อ้อนเข้ามาได้

    เสียงกระแทกประตูดังๆ และเสียงตะโกนด่าหลายครั้งไม่ได้ช่วยให้ทานตะวันหันไปสนใจเลยสักนิด

    คนตัวโตเดินมาทิ้งกายลงนอนบนเตียงกว้าง และหลับตาลง

    ไม่มีแรง เดินแทบไม่ไหว แต่ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่ชอบ เกลียด ไม่อยากให้ใครมาสงสาร
    อยู่มาได้ตั้งนาน ป่วยมากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว เรื่องอะไรจะให้คนอย่างไอ้เป๋มาเห็นสภาพแย่ ๆ เหมือนตอนนี้

    ตอนนี้รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ห้องทั้งห้องหมุนคว้าง ลำคอแห้งผาก หายใจอึดอัด จนต้องปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกและยกแขนขึ้นวางไว้ที่หน้าผาก

    ร่างกายขยับไม่ได้ มีเพียงแววตาที่เลื่อนลอย และรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวที่ศีรษะจนต้องใช้มือกุมเอาไว้
    ไม่อยากคิดอะไร คิดเพียงแค่ไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพแย่ ๆ แบบนี้
    ทานตะวันนอนหลับตานิ่ง ๆ

    แค่ไข้หวัด อยู่ได้สบายมาก ไม่ตายหรอกของแค่นี้

    ต้องไม่เป็นอะไรสิ ต้องไม่เป็นอะไร
    ทานตะวันบอกกับตัวเองเหมือนทุกครั้ง และบอกว่าต้องทำให้ได้ เหมือนทุกครั้งที่เคยผ่านช่วงเวลานี้มาแล้ว

    ดวงตาคมหรี่ปรือลง ไม่อยากคิดอะไรอีก ไม่อยากครุ่นคิด เพราะร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
    เพราะพิษไข้ที่รุมเร้า เพราะจิตใจอ่อนแอ ในไม่ช้า ทานตะวันก็เผลอเคลิ้มหลับไป

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    สัมผัสเย็น ๆ ที่หน้าผาก จนต้องรีบเอื้อมมือคว้าเอาไว้ ทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มเย็นลง และรู้สึกได้ถึงความรู้สึกมีความสุขลึก ๆ ในใจ

    แม่มาหาทานแล้วเหรอ ทานไม่สบายอยู่นะ ทานไม่อยากไปโรงเรียนนะครับแม่ ทานไม่สบายงั้นทานไม่ไปหรอกนะครับ


    แม่ครับทานอยากกินข้าวต้มกุ้งฝีมือแม่ด้วย ทานจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ดื้อนะครับแม่ แม่ครับ แม่

    "แม่ครับแม่ ทานจะทำตัวเป็นเด็กดีนะครับแม่"

    เสียงพูดงึมงำฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ บ่งบอกได้ถึงความรู้สึกของคนพูดก็ทำให้อ้อนที่กำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดที่หน้าผากของคนที่นอนนิ่ง ๆ ต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อมือถูกรั้งมือให้ไปแนบที่ข้างแก้มของคนที่กำลังไม่ได้สติและเพ้อเพราะพิษไข้ พูดคำพูดแปลก ๆ จนต้องเงี่ยหูฟังหลายครั้ง ว่าทานตะวันพูดอะไร

    กว่าจะเข้ามาได้ ทั้งทุบประตู ทั้งพยายามผลัก ที่ไหนได้ พอบิดลูกบิดประตู ถึงได้รู้ ว่าลูกบิดประตูเสีย เลยได้เข้ามาในห้อง


    ห้องทั้งห้องมืดสนิท แเละเมื่อเปิดไฟให้สว่าง ถึงได้เห็นคนที่นอนแผ่หราอยู่เต็มเตียงในสภาพโทรมสุด ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ

    ลมหายใจที่ติดขัด และไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายทำให้ต้องรีบหาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตามร่างกายให้เพื่อลดความร้อน

    จนถึงเวลานี้ คนที่ปากดี อวดดี ว่าไม่เป็นอะไรก็ยังคงไม่รู้สึกตัว

    โถ ไอ้ทานเอ้ย อย่ามายุ่ง อยู่คนเดียวได้ ปากดี จะตายห่าแล้วเห็นมั้ย ยังทำเป็นอวดดีอีกนะมึง

    อ้อนลงมือเช็ดตามตัวให้กับคนที่ยังคงหลับใหล และยกกะละมังน้ำออกมาไว้ที่ข้างเตียง ก่อนจะมานั่งมองใบหน้าของคนที่ไม่ยอมกินยา และหลับสนิทไปแล้ว

    ก็ป่วยเป็นนี่หว่า
    นอนเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรก็เป็น
    ง้อใครก็ง้อได้

    หัวเราะเก่ง และชอบแกล้ง
    ร้องไห้เป็นหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่เคยเห็น
    แต่เรื่องชอบโวยวาย มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ วันหนึ่งมีร้อยอารมณ์ใครมันจะไปตามทันวะ
    เวลาแบบนี้ เวลาไม่สบาย ก็ทำหน้าสงบสุขได้เหมือนกันนี่หว่า หน้าตาสงบสุขงั้นเหรอ

    สงบสุข

    ตั้งแต่กูรู้จักมึงมา ไม่มีวันไหนเลยที่ชีวิตจะสงบสุข ปวดหัวทุกวัน ประสาทจะแดกทุกวัน เพราะทั้งโดนแกล้ง ทั้งถูกปั่นหัว แต่ก็อยู่ด้วยกันมาได้จนถึงวันนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงทนได้ขนาดนี้

    อ้อนลองใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเล่นที่เส้นผมของคนที่นอนหลับใหล ถ้าเป็นปกติคงไม่มีทางที่จะมาแตะผมเล่นหัวไอ้ทานได้แบบนี้แน่ ๆ แต่ตอนนี้ถือว่ามีโอกาสดี นาน ๆ ทีได้เล่นหัวไอ้ทานบ้างสะใจดีชะมัด

    ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ที่หน้าผาก แต่สายตากลับจับจ้องลงมาที่ริมฝีปากสีซีดของทานตะวัน

    โดยไม่ต้องรอ สมองสั่งการให้รื้อฟื้นความจำเรื่องของคืนก่อน ที่กลางสระน้ำขึ้นมา

    ไอ้..... ไอ้ทานมัน .... มันบ้า ทำห่าอะไรของมันวะ

    อ้อนรีบชักมือกลับ และเดินมานั่งอยู่บนโซฟาห่างออกไป นัยน์ตายังจ้องมองร่างที่คู้กายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
    แล้วความหงุดหงิดโมโหก็จู่โจมอย่างรวดเร็ว

    มึงเลย เพราะมึงเลย เพราะมึงคนเดียว ถึงทำให้กู ไม่กล้ามองหน้ามึง ไอ้ทาน ไอ้บ้าเอ้ย แม่ง

    อ้อนยกมือขึ้นขัดถูไปที่ริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง แต่กลับสลัดความรู้สึกแปลก ๆ ในใจออกไปไม่ได้
    ดวงตายังจับจ้องคนที่นอนกระสับกระส่ายไปมา แล้วเดินเข้าไปหาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าทานตะวันกำลังเพ้อพูดอะไรบางอย่าง

    และเมื่อก้มหน้าลงฟังชัด ๆ ถึงได้รู้สิ่งที่ทานตะวันพูด

    "ขอโทษ....อ้อน...ทานขอโทษ..ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว..อึก..ฮือ"

    ขอโทษจริง ๆ เหรอ ขอโทษทำไม ทำไมต้องขอโทษ จะขอโทษกูทำไมวะ แล้วทำไมถึง ทำไมถึงได้

    ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ที่ข้างแก้มของคนที่ยังกระสับกระส่ายและพร่ำพูดคำพูดที่อ้อนไม่คิดจะได้ฟัง
    อ้อนนิ่งฟังเงียบ ๆ แล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด
    ไม่รู้ว่าทำไมถึงสงสาร แต่ก็สงสารจับใจ

    "เออ พอแล้วไม่ต้องขอโทษ หยุดร้องไห้ด้วย ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ทาน หยุดร้องไห้ได้แล้ว ไม่เป็นไร บอกว่าไม่เป็นไรไง"

    เสียงกระซิบดังแผ่ว ๆ ส่งผ่านเข้าไปในความรู้สึกของคนป่วยด้วย ทานตะวันนิ่งเงียบลงแล้ว และหลับสนิทไม่รู้สึกตัวอีก

    ส่วนอ้อนได้แต่นั่งเงียบ และครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้

    แล้วนี่ทำไมกูต้องมานั่งดูแลไอ้ทานด้วยวะเนี่ย

    งงโว้ย จะสนใจมันทำไมนิสัยเสียขนาดนี้ กูทำอะไรอยู่วะเนี่ย ทำอะไรอยู่ จะห่วงมันทำไม ไม่เข้าใจเลยโว้ย

    อ้อนเกาหัวตัวเองแกรก ๆ แล้วก็หันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง
    จะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

    จะไปสนใจไอ้ทานมันทำไมวะ ปล่อยมันให้ตาย ๆ ไปเลยแหละยิ่งดี
    ถึงจะคิดอย่างนั้น ถึงอยากจะทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำ ตลอดทั้งคืน อ้อนวนเวียนเช็ดตัวให้ทานตะวันและคอยดูแลด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน
    สุดท้ายเผลอหลับไปในตอนเกือบสว่าง เพราะการอดนอนมาตลอดทั้งคืน

     

    **************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×