ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอน อ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      14
      30 ม.ค. 54

     ตอน อ้อน







    แล้วมันอะไรกันวะเนี่ย อุตส่าห์เดินได้หน่อยแล้ว ก็ต้องมานั่งปวดหัวเพราะไอ้บ้าทานอีก มันอะไรกันล่ะ

     

    โว้ยยยยยยยยยยยยยย

    อ้อนพยายามดึงแขนของทานตะวันให้ลุกขึ้นแต่ร่างนั้นก็เอาแต่นอนฟุบบนโซฟาและส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ จับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอะไร

    ทานตะวันไล่ให้อ้อนกลับมาที่บ้านก่อนในช่วงเย็น และตัวเองก็ไปเลี้ยงรุ่นน้อง เหตุผลไม่มี ไอ้ทานมันบอกว่ามันอยากเลี้ยงมีอะไรมั้ย แล้วตัวมันเองก็หายไปตั้งแต่เย็น แถมซ้ำยังมีการบังคับให้อ้อนกลับมารอที่บ้าน และโยนกระเป๋าใส่อุปกรณ์ใบโตให้เอากลับมาด้วย ส่วนตัวเองไปเที่ยวเล่นสบายใจเฉิบ คำสั่งถัดมาคือบอกว่า ซักผ้าให้ด้วย แล้วไม่บอกให้กวาดบ้าน หุงข้าวทำกับข้าวด้วยเลยล่ะ อย่านะ อย่าคิดว่าอ้อนไม่พูด แค่คิดในใจไม่ออกเสียงนิดหน่อย อีกฝ่ายก็เลยทำหน้าเหมือนรู้ดี ทำหน้าตาล้อเลียนใส่ แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

    นี่ขนาดอายนะ นี่ขนาดอายที่หกล้ม อายได้ไม่ถึงห้านาที ก็ไปเที่ยวได้ต่อ คงจะสนุกน่าดู ถึงได้ต้องให้รุ่นน้องในชมรมหิ้วปีกมาในสภาพกลิ่นเหล้าคลุ้ง และหมดสภาพได้ขนาดนี้

    แล้วทีนี้เป็นไงล่ะ กะว่าจะเมามาให้กูเช็ดอ้วกใช่มั้ยล่ะมึงไอ้ทานนะไอ้ทาน มึงนี่มัน โว้ยยยยยยยยย หงุดหงิดโว้ย

    "อ้อน อ้อน กี่นิ้วเหรอ นี่ทำไมมียี่สิบนิ้วอ่ะ ไม่เอายี่สิบนิ้วนะ ไม่เอา ไม่เอา"

    เออ ยี่สิบนิ้วบ้านมึงสิ นิ้วงอกหรือไง เมาแล้วบ้า ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังจะบ้าหนักขึ้นอีก

    "มายไม่ต้อบก๊านเลยเนอะ เนอะ แอ่ะ จาอ้วกกกกง่ะ"

    พูดจาลิ้นพันกันแบบนี้แถมยังจะอ้วกอีกเหรอวะ โธ่โว้ย ผ้าขนหนูอยู่ไหนวะ นี่กูต้องเช็ดอ้วกมันจริงเหรอเนี่ย แค่คิดก็สุดทนแล้ว

    "โห่เว้ย น่าเบื่อจริง ๆ เลย ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังเมาอีก กูจะทำยังไงดีวะ" ปากบ่นแต่มือก็ต้องทำงาน สภาพร่างกายไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก แต่ตอนนี้ถึงเจ็บขาจนต้องใช้ไม้ค้ำยันบ้างในบางเวลา แต่จะให้ใช้ตอนนี้ก็คงไม่ได้ ไอ้ยักษ์นี่ก็ตัวโตชะมัดปกติก็แทบพยุงมันไม่ไหว แล้วนี่ขาเจ็บอีก เลยไปกันใหญ่

    อ้อนรั้งแขนของทานตะวันให้มาอยู่บนต้นคอของตัวเองพยายามใช้มือจับที่เอวของอีกฝ่ายและพยุงให้ลุกขึ้นแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมลุกขึ้นตามแถมซ้ำยังพร่ำพูดคำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่องอีก

    "อ้อนอ่ะ อ้อน อ้อน หอมแก้มทีดิ" ห๊า นี่ มันยังจะเล่นอีกเหรอเนี่ย อะไรกันวะเนี่ย ใบหน้าคมทำท่าจะเบี่ยงลงมาหาแล้ว และอ้อนก็รีบเบี่ยงหน้าหนี ผลักแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายให้ล้มลงไปกองบนโซฟา ส่วนตัวเองมายืนเหนื่อยหอบ ทิ้งร่างของทานตะวันในสภาพเมาเละให้นอนคว่ำหน้า ส่วนตัวเองมายืนเสยผมที่มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้า หลังจากที่ต้องเหนื่อยกับการรบกับคนเมามาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็เลยทิ้งให้ทานตะวันนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟานั่นเอง

    "เออ ดี นอนไปเลยนะมึง กูไม่ช่วยแล้ว เมาเละนอนไปเลย น่าเบื่อจริง ๆ เลยโว้ย"

    อ้อนทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม และทอดสายตามองร่างของคนตัวโตที่เอียงกะเท่เล่จะตกลงมาจากโซฟาอยู่แล้ว

    "อื้ออออ ร้อนอ่ะ กินเหล้าอีก กินอีก อ้อนหายอ่ะ อ้อน ทำมายไม่เห็นบอกว่าทะเลาะกับแม่เลยอ่ะ ทำไมไม่เห็นบอกเลย เป็นภาระอะไรเหรอ ห๊า ภาระอะไร"

    ภาระอะไรงั้นเหรอ นี่มันไปได้ยินอะไรมาวะเนี่ย

    เพียงแค่ได้ยินสิ่งที่ทานตะวันพูด อ้อนก็ลุกพรวดพราด ลากขาเข้าไปนั่งอยู่ข้างโซฟาและพยายามฟังที่ทานตะวันพูดให้ชัด ๆ

    "อะไร พูดใหม่อีกทีซิ พูดว่าอะไร" ถามไปก็ป่วยการชื่อตัวเองยังจำไม่ได้ แล้วจะถามให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

    "ไอ้ทาน ถามว่าภาระอะไร" อ้อนพยายามจะดึงให้ใบหน้าของทานตะวันหันมาหา แล้วคนเมาก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง และผงกหัว

    "เฮ้ย ตกใจหมด จะลุกขึ้นทำไมไม่บอกวะ"

    อ้อนผงะหนีและทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิตที่เห็นใบหน้าโทรม ๆ หน้าตายับยู่ยี่ของทานตะวันที่ทำตาปรือและค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาจนตาหยี

    "อ้าว อ้อน มาตอนไหนอ่ะ ป่ะ ป่ะ อาบน้ำให้หน่อย เร็วไปอาบน้ำกัน ไปกันเร็ว ทานจะอาบน้ำแล้ว จะอาบตอนนี้เลย"

    แล้วไอ้บ้าที่เมาจนแทบไม่ได้สติ ก็จัดการปลดเสื้อของตัวเองและเหวี่ยงลงพื้น ตามมาด้วยการรูดซิปกางเกงลงเตรียมถอดกางเกงกองไว้ต่อหน้าต่อตาของอ้อน ที่ต้องเบะหน้าแล้วก็ลุกขึ้นคว้าแขนของทานตะวันและกดไหล่ให้อีกฝ่ายนั่งลง

    "พอเหอะ แค่แก้ผ้าก็ทุเรศพอแล้ว นี่ยังต้องอาบน้ำให้คนเมาอีก กูได้ตายกันพอดี แม่ง"

    ทานตะวันนั่งลงแล้ว และทำตาปรือ ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองและเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะหลับตาลงและค่อยๆ เลื้อยลงไปนั่งกับพื้น

    "เฮ้ย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำอะไรวะ อะไรของมึงอีกเนี่ย"

    แค่ลงไปกองกับพื้นยังไม่พอ แต่กระตุกแขนอ้อนลงมาด้วยและคนตัวโตก็บังคับใช้หน้าขาของอ้อนต่างหมอนหนุนนอน และหัวเราะอย่างชอบใจ

    "อ้อนอือ จะนอนแล้ว" ฝ่ามือของทานตะวันถูกเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอ และคนที่บ้าบอในยามปกติ ก็หลับตาลง นอนอมยิ้มมีความสุข ทิ้งให้อ้อนทำหน้าเซ็งโลกอยู่คนเดียว

    "ห่าอะไรอีกวะเนี่ย ต้องนั่งให้เหน็บกินขาอีกแล้วเหรอวะ"

    เสียงบ่นงึมงำอย่างไม่พอใจของอ้อนตามมาด้วยการที่มือค่อยๆ เอื้อมไปหยิบหมอนอิงที่โซฟา เอามารองที่ศีรษะของทานตะวัน และคนเมาก็ปรือตาตื่นขึ้นมองหน้าของอ้อนพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

     

    "ปายหนาย ไม่เอาไม่ให้ปาย" เออ ห้ามไปเหอะอย่างกับว่ากูจะเชื่อมึงนี่ อ้อนเหลือบสายตามองหน้าของทานตะวันแล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นเตรียมเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักเท้ายืนนิ่งและทิ้งกายลงนั่งอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำพูดของทานตะวันที่แทบฟังไม่รู้เรื่อง

    "ไปเลย ทิ้งกันไปให้หมดเลย เป็นหมาหัวเน่านี่ แม่ก็ทิ้งทานไป พ่อก็ไม่รัก ไม่มีใครรักทานเลย ไปกันให้หมดเลยไป๊ ไม่ต้องกลับมากันแล้ว ปายกันเลย"

    ไม่มีใครรักเหรอ อย่ามาทำเป็นตลกหน่อยเลย เงินทองมีใช้ขนาดนี้ยังจะเอาอะไรอีกวะ

    อ้อนนั่งลงข้าง ๆ ของคนที่หลับตาลงขมวดคิ้วมุ่นและเอาแต่พร่ำพูดประโยคที่คนฟังนึกสงสารขึ้นมาจับใจ

    "ไม่รักใครแล้ว ไม่รักใครทั้งนั้นแหละ มีแต่คนใจร้ายกันทั้งนั้นเลย ไม่รักใครแล้ว ไปไหนก็ไปกันให้หมดเลยไป๊"

    คนเมายังคงพร่ำพูดคำพูดที่อ้อนไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนอย่างทานตะวัน ไม่สงสารก็ต้องสงสารอยากนิ่งเฉยก็ทำไม่ได้ สุดท้ายต้องจำใจนั่งฟังทุกคำพูดเอาไว้และจดจำได้ทุกคำพูด

    "ไม่รักใครแล้ว เกลียดทุกคนในโลก เกลียด อย่ามายุ่งนะ ไปให้หมดเลยไป๊ ไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลย ไปให้พ้นมีแต่คนใจร้าย คนใจร้ายเต็มไปหมดเลย เยอะแยะไปหมดมีแต่คนใจร้าย"

    คนใจร้ายบ้าบออะไรล่ะ มึงนั่นแหละที่ร้ายไปกับใครเขาซะทั่ว แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าทุกคนใจร้ายอีก

    "ทาน ลุกไหวมั้ย ไปนอนเถอะ นอนไม่ใส่เสื้อแบบนี้ได้ยังไง น้ำก็ยังไม่ได้อาบนะ ข้าวกินหรือยัง ทานลุกเร็ว ทาน"

    ตีแขนก็แล้ว แตะที่ไหล่ก็แล้ว เขย่าหัวก็แล้ว แต่ทานตะวันกลับนอนนิ่งเงียบ และหันหน้าหนีไปอีกทาง จนหัวตกลงมาจากหมอน แล้วก็เป็นภาระของอ้อนที่จะต้องรั้งต้นคอของร่างนั้นให้มาหนุนอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง

    แล้วไอ้บ้านี่ก็ทำท่าจะกลิ้งไปกลิ้งมาอีก จนอ้อนต้องเป็นฝ่ายที่ค่อยรั้งไม่ให้คนตัวโตกลิ้งไปกลิ้งมาได้อีก

    มือถูกดึงไปแล้วและทานตะวันก็เอามือของอ้อนไปซุกที่คอ แต่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่เปลี่ยน

    "เป็นแฟนกันเหอะนะ เป็นแฟนกันจริงๆ เถอะ จะไม่ให้ไปคุยกับใครแล้ว"

    เออ เชิญบ้าไปคนเดียวเหอะไม่เอาด้วยหรอก ใครอยากเป็นแฟนกับมึงกันล่ะวะ กูไม่เอาด้วยคนนะเว้ย

    "นะ เป็นแฟนกันนะอ้อนนะ เป็นแฟนกันเถอะนะ" อ้าวไหงอยู่ดี ๆ กลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ เรื่องบ้าอะไรอีกวะเนี่ย

    "ไม่เอาหรอก อย่าบ้าน่ะ นอนไปเลยไป" ปฏิเสธไปแล้ว แต่คนที่นอนหนุนตักก็ยังเซ้าซี้ไม่เลิก

    "น๊า เป็นเหอะนะ เป็นเหอะ เป็นจริงๆ เถอะนะอ้อน เป็นเถอะ" นี่มันจะบ้าอีกนานมั้ย กูจะได้รีบ ๆ บ้าไปก่อนมันซะให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

    "ไม่"

    "ไม่เป็นจะจูบ" กลัวตายเลย เมาไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ยังจะกล้าพูด ไอ้เวรเอ้ย

    "ลองสิ จะเอาหนังสือฟาดหัวเลยมึงคอยดู" ท้าไปอย่างนั้นเอง แค่คำพูดพล่อย ๆ ของตัวเองที่พูดออกไปโดยไม่ทันคิดอะไร

    เพียงเท่านั้นทานตะวันก็ลุกขึ้นนั่งแบบคนสร่างเมา จนอ้อนถึงกับผงะหนี เมื่อเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ ของอีกฝ่าย ท่าทางแบบนี้ ต่างจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด แล้วไอ้ที่ร้องเอะอะโวยวายจะเอานั่นเอานี่ มัน มัน ไอ้ทาน มีใครทำได้แบบไอ้ทานบ้างเนี่ย ทำไมมันถึงได้มารยาสาไถได้ถึงขนาดนี้

    "เฮ้ย ไหนว่าเมาไง เมาไม่จริงเหรอเนี่ย มึงอย่ามาบ้านะ หยุดเลยไอ้ทาน ไอ้คนโกหก กูไม่น่าเชื่อมึงเลย โธ่โว้ย " มือถูกเอามาประกบปิดไว้ที่ปากแล้ว และอ้อนก็เตรียมลุกขึ้นเดินหนี

    ขนาดไม่เมามันยังบ้า แล้วนี่แกล้งเมาอีก เลยไม่ต้องคุยกันแล้วแบบนี้

    "ไปไหน มาเลย ขอจูบที เร็ว" เมาดิบ ตกลงมึงไม่ได้เมาจริง ๆ ใช่มั้ยเปล่าเนี่ยไอ้เลวเอ้ย

    อ้อนลุกขึ้นเตรียมเดินหนีแล้ว และทานตะวันก็รั้งแขนของอ้อนเอาไว้ให้นั่งลงข้าง ๆ กัน จนร่างนั้นเซถลาลงมา ตามด้วยใบหน้าคมที่โน้มเข้าหาอย่างรวดเร็ว

    ได้ ไม่ให้จูบงั้นหอมแก้มก่อนเป็นไง จมูกกดหนัก ๆ เข้าที่ข้างแก้มของอ้อนแล้ว และก็ตามมาด้วยกำปั้นหนัก ๆ ของอ้อน ที่ชกมาที่ใบหน้าของทานตะวัน แต่ข้อมือก็ถูกพลิกและแขนของอ้อนก็ถูกกดให้ไขว่อยู่ด้านหลังด้วยกำลังที่เหนือกว่าของอีกฝ่าย

    พื้นที่เปิดโล่ง ปากไม่มีสิ่งกีดขวาง แถมแผ่นอกบางยังแอ่นกายแนบชิดอยู่กับร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบนของทานตะวันด้วย ลมหายใจหอบเหนื่อย ส่งผลให้ร่างที่ถูกกลั่นแกล้งสั่นไหวไปมาเพราะอาการเหนื่อยหอบที่ต้องออกแรงต่อสู้กัน

    ดวงตากลมโตสบนิ่งอยู่กับดวงตาคม และสะบัดใบหน้าหนีให้พ้นคนที่ค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาหาในทันที

    "ไอ้ทาน ไม่เอานะโว้ย มึงแกล้งกู อย่าเล่นบ้า ๆ นะ ไอ้ทาน อื้อ" อ้อนหลับตาแน่น และเอียงหน้าหนีนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นเตรียมสะบัดทันทีที่ถูกแตะต้อง แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อปรือตาขึ้น และได้พบกับใบหน้าที่กำลังยิ้มชอบใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

    "เล่นบ้าอะไรวะ แม่งเอ้ย" หายใจหายคอได้ยังไม่ทันไร ใบหน้าที่ชะงักนิ่งอยู่แค่คืบก็ก้มลงมาหา และแนบริมฝีปากลงมาลิ้มลองรสชาติที่อยากลิ้มลองมานานทันที

    ไอ้ทาน ก็เมื่อกี้มันไม่จูบ แล้วทำไมพอลืมตาขึ้นมองมันถึงทำแบบนี้

     

    "ไอ้ทาน ไม่เอา อึก ไอ้ทา....อื้อออออ ปล่อยอึก" ทั้งปากทั้งจมูกถูกกดเข้าหาทั้งที่ผิวแก้มและต้นคอจนอ้อนต้องใช้กำลังที่เหลืออยู่ดิ้นรนหนีหาทางเอาตัวรอด มันบ้าไปแล้ว เมื่อก่อนมันก็เล่นแบบนี้หยอกล้อแบบนี้ แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ที่ได้เห็นว่าทำท่าไม่พอใจได้ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป สายตาที่บ่งบอกมันทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่การล้อเล่นอีกแล้ว

    "ห้ามหนี หือ หนีทำไม อื้อ หนีทำไม เร็ว จูบนิดจูบหน่อย ทำเป็นหนี หื้อ ทำไม อื้อ"

    พูดไปแล้วแกล้งไปแล้ว และก็ยิ่งสนุก ปล้ำผู้ชายด้วยกันไม่เห็นสนุกตรงไหน แต่ไอ้อ้อน มันน่าแกล้งเล่นชะมัด ไม่เคยสนุกขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะวะ

    "เมาไม่จริงนี่หว่า เมาดิบแล้วทำไมต้องแกล้งแบบนี้ด้วย อื้ออออออออออ ไอ้ทาน พอแล้ว อึก"

    ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนเมื่อได้แกล้งแตะจมูกเข้าที่แก้ม ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยง และใช้ริมฝีปากแตะเข้าหานิด ๆ หน่อย ได้ออกแรง ได้แกล้งจนพอใจ แล้วทานตะวันก็หยุดเล่น

    "โอ้ย เหนื่อยได้ออกแรงก่อนอาบน้ำ สนุกดีจะตายใช่มั้ย"

    สนุกสิ สนุกตายเลย มึงสนุกอยู่คนเดียว กูไม่ได้สนุกด้วยเลย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำไมมันถึงเป็นคนที่ โธ่โว้ย ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว

    เสื้อผ้าของอ้อนหลุดลุ่ยเพราะการต่อสู้กันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เผยให้เห็นร่างกายที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมา ทานตะวันผละใบหน้าออกห่างและแอบลอบมองร่างกายของอีกฝ่ายเงียบ ๆ โอ้โห เป็นผู้ชายแท้ ๆ มันยังยั่วได้ขนาดนี้ ไม่เลวไม่เลว แต่กูไม่ได้พิศวาสมึงแค่นั้นแหละเลยไม่มีกระใจเล่นด้วย ทานตะวันนั่งหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งให้อ้อนออกอาการฮึดฮัดได้ สองมือยังกระชับอยู่ที่ต้นแขนของร่างที่นิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า และสายตายังสำรวจใบหน้าที่แดงก่ำ และหอบหายใจหนักเพราะความเหนื่อยจากสงครามเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

    อ้อนยกมือขึ้นเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเอง และเบะหน้า เช็ดซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นไม่เลิก จนทานตะวันต้องหัวเราะออกมาด้วยความขำ

    "โธ่ อยากจูบตายเลย แบบนี้ไปหาเอาจากไหนก็ได้ ไม่ได้อยากจะจูบเลยสักนิดเดียวทำเป็นดีดดิ้น น่ารักตายเลย"

    ปากก็พูดไปอย่างนั้นเอง แต่นัยน์ตาพราวระยับ และยังจับจ้องปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไม่กระพริบตา

    "เออ สนุก คนใช้มึงนี่ เป็นหนี้มึงนี่ คิดอยากเล่นอะไรก็เล่นไปสิ เห็นว่าเมาหรอกถึงได้เป็นห่วง จะได้รู้ไว้ว่าคนอย่างมึงห้ามใช้ความเสน่ห์หาส่วนตัว ให้คิดเรื่องเงินอย่างเดียว ห้ามพูด ห้ามถาม ห้ามทุกอย่าง สนุกนักนี่ มาหลอกว่าเมาแบบนี้ก็สนุกด้วยงั้นสิ จะได้รู้ไว้ คนอย่างมึงมันเป็นแบบนี้ ห้ามเห็นใจเด็ดขาด เออ กูจะจำไว้"

    เป็นครั้งแรกที่ถูกพูดตอกกลับใส่หน้า แล้วคนที่ทำตัวเชื่องทุกครั้งที่ขู่เรื่องใช้หนี้ก็ลุกพรวดพราดขึ้นเดินกระโผลกกระเผลกขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านทิ้งให้ทานตะวันนั่งเงียบ เพราะไม่คิดว่าจะถูกตอบกลับด้วยคำพูดแบบนี้ของอีกฝ่าย

    รสชาติหวาน ๆ แปลก ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นจากการที่ได้หยอกล้อแตะต้องร่างกายของอีกฝ่ายจนคนตัวโตต้องใช้นิ้วแตะซ้ำ ๆ ที่ริมฝีปากไล้เลียเล่นแต่รสชาติหวาน ๆ ก็ยังคงติดแน่นอยู่ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ใบหน้ากลับมีริ้วรอยของความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

    "ก็แกล้งมึงสนุกดีนี่ มึงอยากทำหน้าทำตาแบบนี้เองทำไมล่ะ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ต้องโกรธด้วย กะอีแค่จูบเล่น ๆ ทีสองทีจะจริงจังอะไรกันนักกันหนาวะ"

    ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ใจก็ยังครุ่นคิดและเป็นกังวลไม่เลิก ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองไปที่ชั้นบนและลุกขึ้นคว้าเสื้อที่กองอยู่บนพื้น ก่อนจะวิ่งตามขึ้นไปหาคนที่เพิ่งลากขาเดินหนีขึ้นไปแล้ว

    "เออ มึงสนุกนี่ สนุกตายเลย เหี้ยเอ้ย สนุกมากเลยสิ สนุกตาย ไม่อยากสนุกด้วยหรอกนะ ไอ้บ้า"

    แค่ได้เห็นใบหน้าแค่ได้เห็นท่าทาง แค่ได้เห็นคนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตูห้องและยังใช้มือขัดถูที่ริมฝีปากไม่เลิกแถมออฟชั่นพิเศษด้วยการที่ดวงตากลมโตนั้นมีน้ำตาไหลพราก ๆ พูดจาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

    เพียงเท่านี้ ทานตะวันที่ไม่เคยรู้สึกผิดกับใครมาตลอดชีวิต ก็ได้รู้สึกถึงคำว่าผิดเป็น

     

    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกว่าไม่ควรทำให้คนอื่นเสียใจ เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่ได้รู้ ฝ่ามือเอื้อมรั้งร่างของคนที่กำลังโกรธเข้ามากอดไว้แนบอกทันที

    ถึงอีกฝ่ายจะขัดขืน ถึงจะสะบัดหนี ถึงจะไม่ยอมให้แตะ แต่สุดท้าย ก็ยอมยืนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ให้ทานตะวันกอดเอาไว้ได้ และยอมซุกซบใบหน้าแนบอกของคนที่ขยันสร้างเรื่องอย่างทานตะวัน

    "เออ ไม่เล่นแบบนี้แล้ว พอใจยัง ไอ้คนใช้ ไอ้เป๋เอ้ย หยุดร้องซะทีสิวะกูปลอบใจใครไม่เป็นนะโว้ย เร็ว หยุดร้องเหอะ ถ้าไม่ร้องแล้วจะลดหนี้ให้ทันที สัญญา สัญญา โธ่โว้ย หยุดเถอะวะ มึงจะร้องหาห่าอะไรมากมายเนี่ย จูบทีสองทีเอง กูแค่ล้อเล่นน่า อ้อน หยุดเหอะนะ"

    ตอนนี้ทานตะวันไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ ได้แต่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และกอดร่างของอ้อนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกเอาไว้แน่น

    ใบหน้าคมขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้จะจัดการยังไงกับคนในอ้อมแขน ทำได้แค่กอดเอาไว้ และลูบหลังลูบไหล่ของอ้อนไปเรื่อย ๆ

    ท่ามกลางความกลัดกลุ้มเล็ก ๆ แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ใบหน้าที่เครียดขรึมมีรอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

    ท่ามกลางความรู้สึกที่สับสน กลับมีความรู้สึกอย่างอื่นตามมาด้วย

    เออน่ะ เกิดมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมีใครมาซบหน้าร้องไห้อยู่แนบอก ไอ้เป๋นี่แหละคนแรก ที่จริงการที่มีคนมาร้องไห้ให้ปลอบใจแล้วก็ทำให้คิดอะไรไม่ออกบ้าง มันก็ไม่เลวนักนี่หว่า..........ถึงแม้มันจะออกมาไม่ค่อยสวยหรูนักก็เถอะ

    แต่แบบนี้มันก็..

    "เฮ้ย หยุดร้อง กูรำคาญ นะ นะ ขอร้องเถอะอ้อน ต่อไปทานไม่แกล้งอ้อนแล้วจริงๆ นะจริง ๆ"

    ปากพร่ำบ่น แต่ใบหน้าคมกลับแอบลอบยิ้มเล็ก ๆ อ้อนเหรอ เออ เรียกมันว่าอ้อนเฉย ๆ มัน.....ก็น่ารักดีนะ.......แต่จะให้เรียกบ่อย ๆ มันก็แปลกเหมือนกัน

    มันยังไงไม่รู้ อ้อนเหรอ ชื่อน่ารักชิบหาย เออ อ้อน อ้อนก็อ้อนวะ อารมณ์นี้อยากเรียกมันว่าอ้อน ใครช่างตั้งให้ชื่อน่ารักดีจริง ๆ

    "อ้อน อ้อน อ้อน" ฝ่ามืออุ่น ๆ ตบเบา ๆ ที่แผ่นหลังของคนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกและหัวเราะน้อย ๆ อย่างพอใจ

    เออเว้ย ไอ้อ้อนนี่มันน่ารักถูกใจจริง ๆ ก็หัดอ้อนให้มันสมชื่อหน่อยสิวะ ถ้ามันทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกใครจะไปแกล้งมันได้ลงคอ จริงมั้ย

     

    *****************************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×