The Legend of Zelda Phantom Hourglass (NDS) - The Legend of Zelda Phantom Hourglass (NDS) นิยาย The Legend of Zelda Phantom Hourglass (NDS) : Dek-D.com - Writer

    The Legend of Zelda Phantom Hourglass (NDS)

    โดย JiraJira

    ผู้เข้าชมรวม

    3,546

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    34

    ผู้เข้าชมรวม


    3.54K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.พ. 54 / 01:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      The Legend of Zelda Phantom Hourglass
       
      Walkthrough
       
       Mercay Island
       
      เราจะตื่นขึ้นมาบนเกาะหนึ่ง เสียงที่คุยกับเราคือเสียงของ Ciela พอคุยกับเธอแล้วเธอจะบินไปที่บ้านหลังหนึ่ง ให้เราเข้าไปในบ้านหลังนี้ คุยกับชายชราด้านในแล้วเราจะต้องเดินทางไปที่ท่าเรือ ออกจากบ้านแล้วมุ่งหน้าไปทางขวา พอเดินไปได้นิดหน่อยจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น เดินหน้าต่อแล้วคุยกับผู้หญิงใกล้ๆสะพานขาด จากนั้นให้เราออกจากฉากนี้ทางซ้ายบน เดินหน้าไปแล้วจะพบกับศัตรู กลับไปหาชายชรา Oshus แล้วคุยกับเขา คุยเสร็จแล้วให้เราออกจากบ้าน ยกถังที่ขวางทางขวาแล้วปาทิ้ง เดินไปทางขวานิดหน่อยจะพบกับถ้ำ เข้าไปด้านในแล้วสำรวจที่ป้าย เราจะต้องเขียนจำนวนต้นปาล์มที่ชายหาด เขียนเลข 7 ลงไปประตูจะเปิด สำรวจกล่องด้านในแล้วจะได้ OSHUS'S SWORD มาใช้ ทีนี้ให้เราออกจากถ้ำได้
       
      เราจะต้องเข้าไปฝึกการใช้ดาบกับ Oshus เมื่อฝึกเสร็จแล้วให้เราออกจากบ้าน คุยกับผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำตาลแล้วเข้าไปขว้างหินทิ้งให้หมด เขาจะวงกลมจุดน่าสนใจไว้ในแผนที่แก่เรา ออกจากฉากทางซ้ายบนแล้วจัดการพวก Red ChuChu เดินหน้าไปจนพบกับต้นไม้ขวางทาง ตัดต้นไม้ทิ้งแล้วให้เราเข้าไปในถ้ำทางขวา เดินไปทางขวาจะพบกับประตู ทางขวาสุดจะมีกล่อง สำรวจแล้วจะได้กุญแจ เปิดประตูแล้วเดินหน้าไป เราจะพบกับทางตันอีก ให้เราเดินไปทางขวาจะพบกับบล็อกขวางทาง คลิกที่บล็อกแล้วเราจะเข้าไปดัน คลิกที่ลูกศรขวาแล้วดันไปจนสุด ห้องทางขวาสุดจะมีกล่องอยู่ สำรวจแล้วจะได้เงินมา สำรวจที่ป้ายจะได้เรียนรู้เรื่องแผนที่ กลับมาห้องกลางแล้วดันบล็อกทางซ้ายไปทางซ้าย สำรวจป้ายที่อยู่ด้านในแล้วกลับมาห้องกลางอีก ให้เราดึงสวิทซ์ด้านบนตามนี้ (นับจากซ้ายไปขวา) 2 1 4 3 แล้วจะมีกุญแจตกลงมา เก็บแล้วนำมาไขประตู พอประตูเปิดก็ให้เราขึ้นบันไดไป
       
      พอขึ้นบันไดมาแล้วให้เราวิ่งไปทางซ้าย ผลักหินมาปิดรูด้านบนไว้แล้ววิ่งไปทางขวา มองดูแผนที่แล้วรอให้กุญแจวิ่งไปทางซ้ายก่อนจึงวิ่งตามไป พอหนูตัวที่ขนกุญแจวิ่งกลับมาก็จัดการมันเสีย เก็บกุญแจแล้วเอามาเปิดประตู เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากฉากนี้ทางขวาล่าง พอออกมาด้านนอก Ciela จะคุยกับเรา เดินไปทีท่าเรือแล้วจะทราบว่า Linebeck ไปที่บาร์ (อาคารตรงกลาง) เข้าไปแล้วคุยกับเจ้าของร้าน เขาจะบอกว่า Linebeck ไม่อยู่ ออกจากบาร์แล้วให้เราเข้าบ้านด้านล่าง ภายในจะเป็นร้านขายของ ถ้ามีเงิน 80 เหรียญแล้วแนะนำให้ซื้อ WOODEN SHIELD มาใช้ ออกจากร้านแล้วให้เราไปถือไก่ไว้ พอมีไก่เราจะกระโดดไปหากล่องทางซ้ายล่างได้ สำรวจกล่องแล้วจะได้สมบัติ หรือ Treasure แต่ของในกล่องนี้จะมาแบบสุ่มเน้อ เก็บแล้วให้เราออกจากฉากทางขวาบน เดินขึ้นไปด้านบนแล้วกลิ้งตัวชนต้นไม้ที่อยู่ในวงกลม (ในแผนที่) เก็บเงินที่ตกมาจะได้ 100 เหรียญ เดินหน้าไปทางซ้าย เดินไปตามทางจนออกจากฉากไป
       
      เราจะพบกับ Temple of the Ocean King เข้าไปด้านในแล้วเราสามารถคุยกับวิญญาณของโครงกระดูกได้ เข้าประตูด้านบนแล้วเราจะพบกับ Linebeck เขาจะติดกับดัก ฟังเขาพล่ามจนจบแล้วให้เราเดินไปทางซ้ายบน ฟันสวิทซ์แล้วหนามที่ขวางทางอยู่จะหายไป กลับมาคุยกับ Linebeck แล้วพอทราบว่าเรากำลังหา Ghost Ship เพื่อช่วยเพื่อนเขาจะไม่ยอมช่วย พอได้กุญแจจากเขาให้เราไปเปิดประตูทางซ้ายบน ไปสำรวจสวิทซ์ทางซ้ายบนแล้วหนามจะหายไป ให้เรารีบวิ่งไปทางขวาบน สับสวิทซ์ทางขวาบนแล้วประตูด้านบนจะเปิด เข้าไปสำรวจกล่องด้านในจะได้ Sea Chart กลับไปหา Linebeck จะพบว่าเขาออกจากที่นี่แล้ว ออกมาด้านนอกจะพบกับเขา คุยกันแล้วให้เราย้อนกลับไปที่ท่าเรือ ที่นี่เราจะพบกับ Oshus คุยกันแล้วเราจะต้องหาที่ซ่อนจากแผนที่สมบัติ ให้เราระบายเกาะทางขวาล่างแล้วจะพบกับจุดหมายใหม่ ตอบ Linebeck ว่า Ready แล้วการเดินทางจะเริ่มขึ้น
       
      Isle of Ember
       
      ให้เราลากปากกาขนนกไปยังสมอเรือของเกาะเป้าหมาย การเดินทางจะสมจริง (ตอนแรกนึกว่าจะตัดภาพไปเลย) ระยะทางก็จริงจนรู้สึกว่าทำมาทำไมหว่า พอถึงที่หมายแล้วให้เราไปหา Astrid ที่ร้านหมอดู ขึ้นบันไดไปแล้วจะพบกับร้านหมอดูเลย ลงบันไดไปชั้นล่างแล้วเราจะต้องจัดการกับศัตรูให้หมด จัดการแล้วไปสำรวจประตู Astrid จะบอกให้เราพูดอะไรบางอย่างออกมา (พูดใส่ Microphone) พอเขาได้ยินเสียงเราแล้วให้เราออกจากที่นี่ เข้าบ้านทางขวาแล้วจะพบ Kayo Journal และคบไฟ อ่านหนังสือแล้วออกจากบ้าน ออกจากฉากทางขวาแล้วเดินไปทางขวาเรื่อยๆ สำรวจศพแล้วจะพบว่าเป็นศพของ Kayo ทางขวาของเขามีคบไฟอยู่ ออกจากฉากทางซ้ายบนแล้วจะพบกับคบไฟอีกอันหนึ่ง (ทำสัญลักษณ์คบไฟไว้ทั้ง 3 จุด)
       
      กลับไปหา Astrid ที่บ้านแล้วสำรวจรูปภาพทางขวา คลิกตรงจุดที่มีคบไฟอยู่แล้ว Astrid จะออกมาได้ คุยกับเธอแล้วให้เราออกจากร้านหมอดู (การเลือกตอบคำถามจะทำให้บทสนทนาเปลี่ยน) ออกจากฉากทางขวาล่างแล้วเดินไปทางขวา ประตูที่เคยมีไฟฟ้าอยู่จะหายไปแล้ว เข้าประตูแล้วให้เราออกจากฉากทางซ้าย เดินหน้าไปแล้วจะพบกับหินร้อนตกลงมา ให้เราเดินไปตามทางบนภูเขาจนพบกับทางเข้า Temple of Fire ออกจากฉากทางซ้ายแล้วสำรวจกล่องจะได้เงิน ออกจากฉากทางขวาบนแล้วสำรวจแผ่นหิน เราจะได้วิธีเปิดประตูเข้าสู่ Temple of Fire มาที่ประตูแล้วให้เราเป่าเทียนให้ดับ (เป่าที่ Microphone นั่นละ) พอประตูเปิดให้เราเข้าไปได้เลย
       
      Dungeon One Temple of Fire
       
      เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเดินไปทางขวา กระโดดข้ามลาวาแล้วไปสำรวจแผ่นป้ายทางขวา ให้เราเปิดแผนที่แล้ววาดทางเดินแบบที่พบในแผนป้าย เดินลงมาด้านล่างแล้วประตูจะปิด จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปสำรวจกล่องจะได้กุญแจ นำมาเปิดประตูล็อคทางด้านบน เราจะต้องเดินแบบที่แผ่นป้ายเขียน เดินไปจนถึงทางซ้ายบนแล้วจะพบกับสวิทซ์ 4 อัน ใช้ Spinning Attack กับสวิทซ์ทั้ง 4 แล้วประตูด้านบนจะเปิด เดินย้อนกลับมาแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน เดินไปตามทางแล้วไปสับสวิทซ์ทางซ้ายบน ทีนี้เราจะสามารถเดินไปทางขวาได้ เดินไปทางขวาแล้วเดินลงมาประตูจะปิด จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจกล่องจะได้ BOOMERANG คลิกที่บูมเมอแรงทางขวาบนแล้ววาดเส้นทางให้เราจะปาออกไปได้ ปาบูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ทางขวาแล้วไฟจะหายไป เดินไปตามทางแล้วปาไปโดนสวิทซ์ทางซ้ายทั้ง 2 อันแล้วให้เราลงบันไดทางขวา วาดอ้อมไปโดนสวิทซ์ด้านล่างแล้วเดินลงมา พอประตูปิดให้เราจัดการศัตรูให้หมด โดยการปาบูมเมอแรงไปโดนมัน จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราขึ้นบันไดทางซ้าย
       
      ดึงสวิทซ์ทางขวาล่างแล้วกระโดดข้ามไปทางขวา ดึงสวิทซ์อีกอันแล้วประตูด้านบนจะเปิด เดินย้อนกลับมาแล้วให้เราปาบูมเมอแรงไปจัดการหนู เก็บกุญแจแล้วให้เรากระโดดข้ามมาทางขวา แล้วใช้บูมเมอแรงปาไปโดนสวิทซ์เพื่อเปิดทาง สุดทางจะมีประตูอยู่ พอประตูเปิดแล้วให้เราขึ้นบันไดไป เดินลงมาด้านล่างแล้วสำรวจแผ่นป้ายจะพบกับรูปภาพ จดจำหมายเลขไว้ในแผนที่ของเรา เดินย้อนกลับมาด้านบนแล้วเป่าเทียนให้ดับ พอไฟหายไปให้เราเดินขึ้นไป ปาบูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ตามหมายเลขที่พบแล้วเก็บกุญแจมา เปิดประตูทางซ้ายล่างแล้วเดินไปตามทาง พอพบกับประตูปิดให้เราจัดการศัตรูให้หมดแล้วประตูด้านบนจะเปิด เดินขึ้นไปด้านบนแล้วจัดการหัวกะโหลกไฟแล้วไฟที่ขวางทางจะหายไป เดินขึ้นไปด้านบนแล้วปาบูมเมอแรงไปทีคบไฟ แล้วปาต่อไปยังคบไฟที่ยังไม่ติด ไฟทางขวาจะหายไป เดินไปทางขวาแล้วปาบูมเมอแรงไปหาสวิทซ์แล้วทางจะถูกเชื่อม เดินไปทางขวาบนแล้วสำรวจกล่องจะได้ Boss Key เราจะต้องถือมันไปเปิดประตูของหัวหน้า พอประตูเปิดแล้วให้เราขึ้นบันไดไป สำรวจแผ่นหินทางซ้ายแล้วจะมี Warp Point ปรากฏออกมา ขึ้นบันไดไปแล้วจะพบกับหัวหน้าของที่นี่
       
      BLAAZ, Master of Fire
       
      พอมันแยกร่างให้เราปาบูมเมอแรงไปรวมมันทั้ง 3 เข้าด้วยกัน พอเหลือร่างเดียวก็ให้เราฟันไม่ยั้ง ดูจอบนไว้จะทราบจุดที่มันหายตัวได้ เอาชนะได้แล้วเราจะได้ Leaf, Spirit of Power มาครอง สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container มา เข้าไปใน Warp Point แล้วกลับไปหา Astrid ที่ร้านหมอดู คุยกับเธอแล้วเราจะได้ Power Gem มา กลับมาที่ท่าเรือแล้วคุยกับ Linebeck กลับมาที่ Mercay Island แล้วให้เราเข้าไปใน Temple of the Ocean King คุยกับ Linebeck และ Oshus แล้วให้เราขึ้นไปบนแท่น เราจะได้ PHANTOM HOURGLASS มาใช้ ทำให้เราสามารถเข้าไปใน Temple of the Ocean King โดยไม่เสียพลัง ให้เราเข้าไปด้านในได้เลย (มีเวลา 10 นาที)
       
      Temple of the Ocean King Part 1
       
      พอลงบันไดมาแล้วให้เราเปิดประตูลงไปชั้นล่าง ตั้งแต่ชั้น B1 เราจะพบกับ Phantom ศัตรูที่ร้ายกาจ เราทำได้แค่หนีหรือหลบมันเท่านั้น ให้เราหลบตรง Safe Zone มันก็จะมองไม่เห็นเรา (ไหนั้นมี 3 สี สีน้ำเงินจะมีของอยู่ สีแดงจะสร้าง Safe Zone ได้ ไหสีทองจะมีเวลาเพิ่มให้เรา แนะนำให้ทำลายทั้ง 3 สีเลย) ให้เราไปสับสวิทซ์ทางขวาบนก่อน จากนั้นให้เราลงมาข้างล่าง ใช้บูมเมอแรงจุดไฟที่คบเพลิงทางซ้าย พอไฟหายไปแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย อ้อมขึ้นเหยียบสวิทซ์แล้วเก็บกุญแจทางซ้ายบน พอได้กุญแจมาแล้วให้เราลงบันไดทางขวาบนของฉาก
       
      วิ่งลงมาแล้วสับสวิทซ์ Phantom จะวิ่งลงมาดู อาศัยจังหวะนี้ไปดึงสวิทซ์แล้วไฟด้านล่างจะหายไป สับสวิทซ์ทางซ้ายแล้วกุญแจจะตกลงมา วิ่งไปทางซ้ายแล้วใช้บูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ด้านล่าง พอไฟหายไปให้เราถือไหสีแดงไว้ วิ่งลงมาด้านล่างแล้ววิ่งไปทางขวา ด้านล่างจะมี Phantom เดินอยู่ เราสามารถสร้าง Safe Zone ไว้ได้ เหยียบสวิทซ์แล้วใช้บูมเมอแรงไปเก็บกุญแจ วิ่งย้อนกลับมาตรงที่พื้นมีบล็อกสีฟ้าอยู่ วิ่งขึ้นมาด้านบนแล้วใช้บูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ทางขวา เราจะสามารถเดินไปเปิดประตูสู่ชั้นต่อไปได้
       
      วิ่งขึ้นไปด้านบนแล้ววิ่งไปทางซ้าย ทำลายไหสีทองแล้ววิ่งไปทางซ้ายต่อ สำรวจกล่องแล้วจะได้ Force Gem เราจะต้องถือเจ้านี่วิ่งไปมา แนะนำให้ปามันไปตามทาง (เก็บแล้วปาไปเรื่อยๆ) ปามันลงมาเรื่อยๆจนพบกับไหสีแดง นำไหสีแดงไปปาไว้ทางขวา (ตรงที่ Phantom เดินอยู่) กลับมาที่ Force Gem แล้วปามันไปทางขวาอีก พอพบกับขั้นบันไดให้เราปามันขึ้นไปบนขั้นบันได กลับมาตรงที่พบไหสีแดงแล้ววิ่งลงมาด้านล่างต่อ ดึงสวิทซ์ด้านล่างแล้วไฟจะหายไป วิ่งไปทางขวาแล้วขึ้นบันไดไป เราจะพบกับสวิทซ์ที่พื้น ลองเหยียบแล้วพื้นจะหายไป ปาไหทางมาทางขวาแล้วไปยืนตรง Safe Zone รอจน Phantom เดินมาตรงจุดนั้นแล้วเหยียบสวิทซ์มันจะตกลงไป แล้วจะมีกุญแจปรากฏออกมา ใช้บูมเมอแรงไปที่สวิทซ์ทางขวาเพื่อหยุดหนามบนพื้น วิ่งอ้อมทางขวาไปเก็บกุญแจ กลับมาสำรวจกล่องจะได้ Force Gem นำมันขึ้นไปด้านบนแล้วไปทางซ้าย พอพบกับบันไดให้เราปาไปที่บันได วิ่งอ้อมกลับมาทางขวาล่าง ตรงกลางๆฉากจะมีประตูอยู่ เปิดประตูเข้าไปจะพบกับกล่อง สำรวจแล้วจะได้ Force Gem อันสุดท้าย เอาไปรวมไว้ที่เดียวกัน นำไปปาใส่ในแท่นแล้วสัญลักษณ์ Tri Force จะปรากฏ เข้าประตูแล้วไปเก็บ Northwestern Sea Chart ทางซ้ายบน ออกจากที่นี่แล้วให้เรากลับไปหา Linebeck ที่ท่าเรือ
       
      พอคุยกับ Linebeck แล้วให้เราเป่าแผนที่จะพบกับจุดหมายใหม่ (ก็เป่าใส่ Microphone นั่นละ) พอขึ้นเรือให้เราลากจุดหมายไปที่ตำแหน่ง N ในแผนที่ พอเรือออกเราจะถูกพายุพัดจนเรือลอยขึ้นฟ้า ให้เราเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ไปที่ก้อนหินที่เรียงกันทางซ้าย เราจะผ่านไปไม่ได้ถ้าไม่มีปืนใหญ่ ให้เราเปลี่ยนจุดหมายมาที่ Cannon Island ที่อยู่กลางขวาของแผนที่ ระหว่างทางเราจะพบกับ Sea Trap ให้เรากระโดดข้ามไป ไม่นานนักเราก็จะถึง Cannon Island แล้ว
       
      Cannon Island
       
      วิ่งลงมาด้านล่างแล้วขึ้นบันได คุยกับ Postman แล้วให้เราไปเข้าบ้านทางขวา ด้านในเราจะพบ Fuzo ที่อยู่ในร้าน Master Endo Shop คุยกับเขาแล้วเราจะต้องเข้าไปหา Master Endo เพื่อของยืมปืนใหญ่ ตามเขาออกมาด้านนอก คุยกับ Fuzo ที่อยู่ทางซ้ายแล้วให้เราวิ่งขึ้นไปด้านบน วิ่งไปตามทางเรื่อยๆจะพบกับถ้ำ ให้เราเข้าไปด้านในถ้ำได้ (ก่อนถึงถ้ำให้เราไปเก็บ Treasure Map ที่แยกทางขวาก่อน) ใช้ดอกไม้ระเบิดเปิดทาง แล้วใช้ดอกไม้ระเบิดปาเข้าไประเบิดหินในรั้ว ใช้ดอกไม้ระเบิดกับผนังร้าวทางขวาสุด เข้าไปสำรวจกล่องจะได้ Power Gem มา จากนั้นให้เราผลักบล็อกสีเทาไปทางขวาแล้วผลักมันไปแอบไว้ด้านล่าง เดินขึ้นไปด้านบนแล้วผลักบล็อกสีเทาลงมาแล้วไปแอบไว้ทางซ้าย ขึ้นไปด้านบนอีกแล้วให้เราผลักบล็อกสีเทาอันสุดท้ายขึ้นไปแอบไว้ข้างบน จัดการศัตรูทางซ้ายบนให้หมดแล้วนำระเบิดไปเปิดทางได้
       
      พอออกมาด้านนอกให้เราปาดอกไม้ระเบิดไปเปิดทางให้หมด ลงบันไดแล้วให้เราไปกลิ้งชนต้นไม้ทางขวาสุด (ติดกับเหวเลย) เราจะได้เงินมา 200 เหรียญ ทางขวาบนจะมีก้อนหินปิดทางอยู่ เราจะต้องถือดอกไม้ระเบิดแล้วปาใส่จะเปิดทางได้สำเร็จ ให้เราเข้าไปในบ้านทางขวาบนสุดจะพบกับ Master Endo คุยกับเขาแล้วจ่ายเงิน 50 เหรียญก็จะได้ Cannon มาใช้ ออกจากบ้านนี้ทางซ้ายแล้วออกจากที่นี่ไป เราจะพบกับ Postman เขาจะเอาจดหมายของ Postmaster มาอ่านให้เราฟัง เซ็นชื่อแล้วให้เรากลับไปหา Linebeck คุยกับเขาแล้วกลับขึ้นเรือ เขียนเส้นทางไปที่ Molida Island (ขีดเส้นผ่านหินไปยังเกาะทางซ้ายสุดของแผนที่) ระหว่างทางจะพบกับหินสีน้ำตาลให้เรายิงแล้วจะเดินทางต่อได้ ระหว่างทางเราจะพบกับ Ghost Ship ให้เราตามมันไปจนถึงทะเลด้านบนหรือ North Western Sea พอถึงทะเลด้านบนแล้วให้เราเดินหน้าตาม Ghost Ship ต่อ คอยยิงพวกระเบิดและสิ่งกีดขวางให้ดีๆ พอตามไปสักพักจะพบกับหมอก และ Ghost Ship จะหายไป กลับมาที่ทะเลด้านล่างแล้วมุ่งหน้าไปที่ Molida Island ต่อ
       
      Molida Island
       
      ตอบ Linebeck ว่า No แล้วออกสำรวจหมู่บ้าน ที่ตู้ไปรษณีย์เราจะได้จดหมายจาก Astrid เข้าไปคุยกับคนในบ้านทางขวาบน ออกจากบ้านแล้วกลับเข้าไปคุยกับเขาอีกรอบ ออกจากบ้านแล้วเข้าถ้ำที่อยู่ด้านบน พอเข้าถ้ำมาแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย ขึ้นบันไดแล้วกระโดดไปทางขวาเรื่อยๆ เดินขึ้นไปด้านบนเราจะพบกับศัตรู ปาบูมเมอแรงใส่ด้านข้างแล้วให้เราฟันไม่ยั้ง จัดการได้แล้วให้เราออกจากฉากทางด้านบน เดินไปตามทางเรื่อยๆจนพบกับผนังร้าว วางระเบิดแล้วเข้าไปด้านใน อ่านบันทึกแล้วสำรวจกล่องจะได้ SHOVEL เปลี่ยนของที่ใช้มาเป็นพลั่วแล้วขุดตรงพื้นแปลกๆจะได้เงินมา 100 เหรียญ ออกจากที่นี่แล้วเดินไปทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดไป
       
      สำรวจหลุมศพแล้วให้เราลากเส้นในแผนที่ลงมา ออกจากฉากทางขวาล่างแล้วจะพบกับหลุมศพอีก ลากเส้นไปทางซ้าย จุดตันกันก็คือทางลับ ทางลับจะอยู่หน้าต้นมะพร้าวต้นหนึ่ง (ต้นที่ 2 นับจากตู้ไปรษณีย์) พอขุดแล้วให้เราลงไปในรู อ่านบันทึกแล้วให้เราสำรวจกล่องจะได้ Treasure Map มา สำรวจแผ่นป้ายข้างๆกล่องจะพบกับเส้นทางเดินเรือที่ถูกต้อง วาดมันลงไปในแผนที่ของเรา เดินไปตามทางแล้วสำรวจประตูรูปพระอาทิตย์ เดินหน้าต่อแล้วออกจากที่นี่ทางขวาล่าง จากนั้นให้เรากลับเข้าไปคุยกับ Romanos แล้วกลับไปหา Linebeck ล่องเรือขึ้นไปที่ทะเลด้านบน พอถึงแล้วให้เราวาดเส้นทางตามที่ได้เรียนรู้มาจนไปถึง Isle of Gust เลย
       
      Isle of Gust
       
      ที่นี่จะมีลมแรงมาก ให้เรามุ่งหน้าไปทางขวาอย่าได้หวั่น (พอลมหยุดจึงค่อยกระโดดข้ามไป) พอถึงทางขวาบนแล้วจะพบกับผนังร้าว วางระเบิดแล้วเข้าไปด้านใน สำรวจกล่องจะได้ Courage Gem อ่านบันทึกแล้วสำรวจแผ่นป้ายทางขวา วาดลูกศรลงไปในแผนที่ของเรา ออกจากที่นี่แล้วอาศัยแรงลมกระโดดไปทางซ้าย เดินไปทางซ้ายจนพบกับถ้ำจึงค่อยเข้าไป เดินไปตามทางแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง (ไม่ต้องกลัวเครื่องเป่าลม) จัดการศัตรูให้หมดแล้วจะมีกล่องปรากฏออกมา สำรวจกล่องล่างจะได้ Wisdom Gem กล่องบนจะได้ Treasure Map ออกจากถ้ำนี้ทางขวาล่างแล้วเดินไปทางขวา เราจะพบกับลมพ่นขึ้นมาจากพื้น ใช้ลมขึ้นไปด้านบนสุดแล้วรอลมพัด พอลมพัดให้เรากระโดดไปทางซ้าย พอพบกับพื้นกระเบื้องให้เราออกจากฉากทางด้านบน สำรวจแผ่นกระดานจะพบเครื่องหมาย X ให้เราเขียนไว้ที่แผนที่ของเราด้วย
       
      ออกจากฉากทางด้านล่างแล้วเดินไปทางซ้าย ใช้ลมที่เป่าขึ้นมาด้านบนแล้วออกจากฉากทางด้านบน เดินไปตามทางจนพบกับจุดที่มีลมขึ้นมาจากพื้น ขุดตรงพื้นด้านล่างของพื้นที่ยกระดับจะพบกับลม (กล่องทางซ้ายคือ Power Gem) ใช้มันขึ้นไปแล้วออกจากฉากทางด้านบน เดินขึ้นไปเราจะมาถึงจุด X ในแผนที่ได้ (เราสามารถขุดดินตรงจุดที่อยากให้ลมหายไปได้) สำรวจแผ่นป้ายแล้วจะพบกับสัญลักษณ์ลม 3 จุด วาดสัญลักษณ์ลมที่แผนที่ ทำให้ลมทางขวาหายไปแล้วเดินไปทางขวา เราจะพบกับพื้นทรายที่มีอะไรอยู่ก็ไม่รู้ วิ่งไปทางขวาจนพบกับระเบิด ปาระเบิดลงพื้นจะสามารถจัดการมันได้ มาจนถึงพื้นทรายขนาดใหญ่ ให้เราไปสำรวจกังหันลมตามที่เราวาด (ทางขวา ทางซ้ายล่าง ทางซ้ายบน) แล้วประตูจะเปิด ออกจากทะเลทรายทางด้านล่าง กระโดดลงไปทางขวาแล้วเข้าไปใน Temple of Wind
       
      Dungeon Two Temple of Wind
       
      เดินฝ่าแรงลมขึ้นไปข้างบน ปาระเบิดไปทำให้สวิทซ์ทั้ง 2 ด้านเปลี่ยนสี ข้ามสะพานไปแล้วผลักบล็อกไปทางขวาเพื่อปิดแรงลม ฟันสวิทซ์แล้วจะเดินหน้าต่อได้ พอพบกับประตูบนและล่างให้เราเปิดประตูล่าง (แค่คลิกที่ประตู) เหยียบสวิทซ์ที่อยู่ด้านล่างประตูบนจะเปิด เดินไปทางขวาต่อจนถึงห้องที่มีประตูปิด จัดการศัตรูให้หมดแล้วประตูจะเปิด เดินไปทางซ้ายต่อแล้วผลักบล็อกไปทางซ้าย จัดการศัตรูแล้วให้เราผลักบล็อกลมไปทางซ้าย ใช้แรงลมกระโดดข้ามฝั่งไปแล้วเหยียบสวิทซ์ พอประตูเปิดให้เราลงบันไดที่อยู่ใกล้ๆ
       
      ปาศัตรูให้หมดแล้วจะพบศัตรู จัดการศัตรูให้หมดแล้วประตูจะเปิด เดินไปทางขวาแล้วเดินลงมาด้านล่าง เดินไปทางขวาแล้วไปเหยียบสวิทซ์ประตูจะเปิด เดินไปไปทางอีกแล้วลงไปหาบล็อก ผลักมันไปทางขวาแล้วให้เราใช้แรงลมด้านบนขึ้นไปเก็บ Courage Gem กระโดดลงมาแล้วให้เราเดินย้อนกลับมาทางขวา สำรวจกล่องที่อยู่ทางขวาล่างจะได้สมบัติมา 1 ชิ้น กลับมาที่บล็อกแล้วผลักมันไปปิดรูที่ 2 นับจากข้างบน พอใช้ลมแบบต่อเนื่องไปจนถึงบล็อกแล้วให้เรากระโดดลงทางขวา เรียบร้อยแล้วให้เราลงบันไดไป
       
      เดินไปทางซ้ายแล้ววางระเบิดตรงผนังร้าว ถือระเบิดไว้แล้วปาไปจัดการศัตรูในทราย เดินไปทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดไปสำรวจแผ่นป้ายแล้วจะพบกับเครื่องหมาย X 4 จุด เขียนลงในแผนที่ของเราแล้วไปขุดตามแผนที่ พอขุดครบทั้ง 4 จุดแล้วประตูจะเปิด ให้เราออกจากฉากทางด้านบนสุด (ตัวที่อยู่ใต้ทรายถ้าเราเดินมันจะไม่รู้ตัว) ขึ้นบันไดไปแล้วเดินลงมาด้านล่าง ผลักบล็อกลมไปทางซ้ายแล้วกังหันลมจะทำงาน ออกจากที่นี่ทางเดิมแล้วให้เราไปขึ้นบันไดทางซ้ายล่าง เดินไปทางขวาแล้วดึงบล็อกลมมาทางซ้าย พอกังหันลมทำงานให้เรากระโดดลงไปเก็บกุญแจ ใช้วิธีเดิมไปลงบันไดทางขวา พอถึงพื้นทรายให้เราเปิดประตูทางขวาบน สำรวจกล่องด้านในจะได้ BOMBS มาใช้ กลับมาที่พื้นทรายแล้ววิ่งตัดไปทางซ้าย วางระเบิดที่ผนังร้าวแล้วเข้าไปด้านใน วางระเบิดที่ลมแล้วหินด้านบนจะหายไป ขึ้นไปด้านบนแล้วขึ้นบันไดไป วางระเบิดที่ลมแล้ววิ่งไปทางขวา พอประตูเปิดให้เราเดินหน้าต่อ ขึ้นบันไดที่อยู่ทางขวาล่างไป (วางระเบิดที่พื้นแปลกๆจะเดินหน้าต่อได้) พอขึ้นบันไดมาแล้วให้เราวางระเบิดที่ผนังเปิดทาง เดินไปทางซ้ายแล้ววางระเบิด 2 ลูก (ตรงที่ว่างใกล้ๆกับดอกไม้ระเบิด) เดินลงมาด้านล่างแล้วสำรวจกล่องจะได้ Boss Key ถือเอาไว้แล้วปาไปทางซ้าย ปาระเบิดไปที่ลม 2 ลูกแล้วถือกุญแจแล้วลอยขึ้นไปข้างบน ปากุญแจแล้วให้เราเข้าประตูสุดท้ายไป
       
      CYCLOK, Stirrer of Winds
       
      เดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ พอ Warp Point ปรากฏออกมาแล้ว ให้เราเตรียมตัวให้พร้อมแล้วขึ้นบันไดไป ที่ดาดฟ้าเราจะพบกับเจ้าถิ่นของที่นี่ ถือระเบิดเอาไว้แล้วปาไปที่ลม พอมันโดนแรงระเบิดจะตกลงมา กระหน่ำฟันไม่ต้องยั้ง พอมันฟื้นให้เราถอยออกมาแล้วถือระเบิดเอาไว้ (ไม่ต้องกลัวระเบิดเน้อ) มองหาจุดที่มีลมพ่นออกมาแล้วปาระเบิดไป พอมันตกลงมาก็กระหน่ำฟันเรื่อยๆ ทำแบบนี้ไม่กี่ครั้งก็จะสามารถจัดการมันได้แล้ว
       
      Temple of the Ocean King Part 2
       
      เวลาในนาฬิกาทรายจะเพิ่มขึ้นอีก 2 นาที และเราจะพบกับ Neri ที่เป็น Spirit of Wisdom คุยกับเขาแล้วให้เราเก็บ Heart Container ออกจากที่นี่แล้วกลับไปหา Linebeck แล้วให้เราย้อนกลับมาที่ Mercay Island พอถึงแล้วให้เรามุ่งหน้าไปที่ Temple of the Ocean King ระหว่างทางจะพบกับผนังร้าว วางระเบิดเปิดทางเข้าไป จัดการศัตรูหมดแล้วให้เรากระโดดไปทางขวา สำรวจกล่องด้านในจะได้ Power Gem มา ออกจากที่นี่แล้วเข้าไปใน Temple of the Ocean King ลงไปด้านล่างแล้วลงไปชั้น B1 เดินไปทางขวาบนแล้วให้เราวางระเบิดทางซ้าย เดินไปเหยียบสวิทซ์แล้วไปเก็บกุญแจทางซ้ายบน เปิดประตูทางขวาบนแล้วลงไปชั้น B2
       
      วิ่งลงไปด้านล่างแล้ววาระเบิดผนังร้าวด้านล่าง สับสวิทซ์ทางซ้ายแล้ววิ่งอ้อมสับสวิทซ์ทางซ้ายบน พอกุญแจตกลงมาให้เราวิ่งไปที่ผนังที่เปิดทาง เหยียบสวิทซ์แล้วให้เราใช้บูมเมอแรงไปเก็บกุญแจได้ วิ่งลงมาด้านล่างแล้วเหยียบไหแดงมา เดินไปทางซ้ายแล้วปาไหเพื่อสร้าง Safe Zone พอ Phantom เดินผ่านไปทางขวาให้เราขึ้นไปด้านบน สับสวิทซ์ทางขวาแล้วให้เราลงไปชั้น B3 วิ่งไปทางขวาแผ่นหนามไป ลงมาด้านล่างสุดแล้วขุดตรงดินแปลกๆจะมีลมพุ่งขึ้นมา ใช้ลมขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ไหสีแดงสร้าง Safe Zone เข้าไปยืนแล้วใช้บูมเมอแรงไปที่สวิทซ์ทางขวา (เพื่อหยุดหนาม) ยืนรอจน Phantom เดินมาแล้วไปเหยียบสวิทซ์เพื่อเก็บกุญแจ เก็บกุญแจแล้วให้เรามาเก็บสัญลักษณ์ Force Gem ในกล่องขวาล่าง เปิดประตูทางซ้ายแล้วสำรวจกล่องจะได้ Force Gem มาอีกอัน นำ Force Gem ทั้ง 2 อันไปปาไว้ที่บันไดด้านบน ไปสำรวจกล่องทางซ้ายบนจะได้ Force Gem มาอีก 1 อัน (ไหทางขวาของกล่องจะมีเวลาเพิ่ม 30 วินาที) นำ Force Gem ทั้ง 3 อันไปโยนไว้ในที่ของมัน (ไหทางขวาจะมีเวลาเพิ่ม 30 วินาที) เรียบร้อยแล้วประตูจะเปิด เข้าประตูไปแล้วเราจะพบกับประตูที่มีสัญลักษณ์ Wisdom สัมผัสประตูแล้วลงไปชั้น B4
       
      พอลงมาแล้วเราจะพบกับ Phantom Eye ศัตรูใหม่ วิ่งลงมาทางขวาล่าง ให้เราปาบูมเมอแรงมาที่สวิทซ์เพื่อหยุดลม ปาบูมเมอแรงใส่ Phantom Eye แล้วเข้าไปฟันมัน รีบขึ้นไปหลบที่ Safe Zone ด้านบนก่อน (เพราะ Phantom จะเดินมาดู) วิ่งกลับลงมาด้านล่างแล้วใช้บูมเมอแรงไปทำลายไหทางขวาล่างจะได้เวลาเพิ่ม 30 วินาที ไปทางซ้ายแล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน เดินตาม Phantom ไปแล้วไปเก็บไหทางซ้ายบน ลงมาด้านล่างแล้วสร้าง Safe Zone ทางซ้ายของผนังร้าว วางระเบิดผนังแล้ววิ่งไปหลบที่ Safe Zone ด้านล่าง จัดการกับ Phantom Eye หมดแล้วจะมีกล่องปรากฏทางขวาสุด (Power Gem) ลงมาด้านล่างแล้วชุดพื้นแปลกๆ ลอยตัวขึ้นไปฟันสวิทซ์ วิ่งขึ้นมาฟันสวิทซ์ด้านบนแล้วหนามที่ขวางทางจะหายไป (เข้าไปตรงผนังร้าว) เข้าไปเก็บกุญแจแล้วนำมาไขประตูด้านล่างสุด ลงไปชั้น B5 ได้เลย
       
      วิ่งไปทางซ้ายแล้วจัดการศัตรูให้หมดห้อง พอหมดแล้วไปเก็บไหทางซ้ายจะได้เวลาเพิ่ม 15 วินาที วิ่งไปทางขวาแล้วจัดการศัตรูให้หมดห้องอีก เก็บไหทางขวาแล้วจะได้เวลาเพิ่ม 15 วินาที ออกจากห้องทางด้านบนแล้วใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์ทางขวา สำรวจกล่องแล้วจะได้ Red Potion วิ่งไปทางซ้ายแล้วลงไปชั้น B6
       
      วิ่งไปทางขวาแล้วสำรวจแผ่นหิน เปิดแผนที่แล้วเขียนเลข 2 ลงไปที่แผ่นหินนี้ ลงมาด้านล่างแล้วเหยียบสวิทซ์ (อย่าลืมจัดการ Phantom Eye ด้วย) เหยียบสวิทซ์แล้วให้เราใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์ทางขวาล่าง สำรวจแผ่นป้ายขวาล่างสุดแล้วเขียนเลข 4 ลงไป จัดการ Phantom Eye หมดแล้วหนามทางซ้ายสุดจะหายไป (ไหนั้นเป็นเวลา 30 วินาที) ขุดดินทางซ้ายบนแล้วจะมีลมพุ่งออกมา ปาไหสร้าง Safe Zone ไว้แล้วปาระเบิดไปที่ลม พอลมพุ่งขึ้นมาระเบิดจะลอยขึ้นไประเบิดหิน ให้เราใช้ลมขึ้นไปสับสวิทซ์หนามหน้าแผ่นหินซ้ายบนจะหายไป สำรวจแผ่นหินทางซ้ายบนแล้วเขียนเลข 1 สำรวจแผ่นหินทางซ้ายล่างแล้วเขียนเลข 3 ลองลากเส้นจาก 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 และ ไป 1 เราจะได้รูปของนาฬิกาทราย ไปสำรวจประตูสีแดงแล้ววาดรูปนาฬิกาทรายนี้ลงไป พอประตูเปิดให้เราเข้าไปด้านใน สำรวจแผ่นหินรูปพระอาทิตย์ด้านบนแล้วเราจะได้ Southwestern Sea Chart มา เปิดแผนที่แล้วพับปิดหน้าจอของเครื่อง NDS สุดหวงของเรา พอเปิดขึ้นมาใหม่เราจะพบสัญลักษณ์ในแผนที่ ออกจากที่นี่แล้วกลับไปหา Linebeck คุยกับเขาแล้วให้เราขึ้นเรือได้ (อย่าลืมอ่านจดหมายที่ Eddo ส่งมาด้วย)
       
      ให้เราไปที่ Cannon Island ก่อน คุยกับ Eddo แล้วเขาจะขายเราตามความดังของเสียง ยิ่งดังยิ่งถูก เพราะฉะนั้นตะโกนออกไปให้สุดเสียงเลย จ่ายเงินซื้อ Salvage Arm แล้วกลับไปหา Linebeck ขึ้นเรือแล้วให้เราขับเรือไปยังจุดสีเขียวในแผนที่ พอถึงแล้วให้เราใช้ Salvage Arm งมของที่อยู่ใต้ทะเล หลบหนามและปลาหมึกให้ดีๆ พอได้ของแล้วเราก็ต้องระวังตอนขึ้นด้วย สำรวจกล่องที่นำขึ้นมาจะได้ Sun Key จากนั้นให้เราไปที่ Molida Island เมื่อเราถึงที่นี่เราจะพบกับศัตรูขนาดใหญ่ ยิงลูกบอลหนามสีเขียวทิ้ง และพอมันลืมตาขึ้นมาให้เรายิงที่ตาสีเขียว เอาชนะได้เราจะเทียบท่าที่เกาะได้ พอขึ้นฝั่งมาแล้วให้เราไปตรงต้นมะพร้าวต้นที่ 2 นับจากตู้ไปรษณีย์ กระโดดลงรูแล้วเดินไปทางซ้ายจะพบกับประตูรูปพระอาทิตย์ เปิดประตูแล้วเข้าไปด้านในได้ พอออกมาด้านนอกให้เราเดินไปตามทาง พอพบกับรูปปั้นหน้าคนให้เราปาบูมเมอแรงใส่มันจะยิงลำแสงมาที่ประตู เดินไปทางขวาของประตูจะพบกับรูปปั้นอีก ใช้บูมเมอแรงยิงแล้วหันรูปปั้นให้ส่องแสงมาทางประตู เดินหน้าต่อพบกับ River Zora 2 ตน จัดการมันแล้วรูปปั้นหน้าคนจะปรากฏ ปาบูมเมอแรงใส่แล้วหันหน้าขึ้นข้างบน พอลำแสงทั้ง 3 ตัดกันประตูสู่ Temple of Courage จะเปิดออก
       
      Dungeon Three Temple of Courage
       
      พอเข้ามาด้านในแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ หลบหนามจนถึงด้านบนสุด ก่อนจะเดินไปทางขวาให้เราวางระเบิดตรงด้านล่างของกล่องจะสามารถเข้าไปเก็บสมบัติในกล่องได้ เดินหน้าต่อแล้วเดินลงมาด้านล่าง ผ่านกับดักใบมีดแล้วเหยียบสวิทซ์ด้านล่าง ประตูทางซ้ายจะเปิด ให้เราขึ้นบันไดไปสำรวจกล่องจะได้กุญแจ นำกุญแจมาใช้กับประตูทางขวาบน เดินไปตามทางแล้วประตูจะปิด จัดการศัตรูด้านในแล้วให้เราลงไปชั้น B1 (ฟันที่ก้นสีแดงของมัน) ใช้แท่นเลื่อนทางซ้ายข้ามฝั่งไป ใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์ด้านบนแล้วให้เราใช้แท่นเลื่อนข้ามไปทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดไป เดินขึ้นไปด้านบนจะพบแผ่นหิน 2 แผ่นกับก้อนหินไปทางขวา วางระเบิดระหว่างแผ่นหินจะเข้าไปด้านในได้ สำรวจกล่องทางซ้ายจะได้ Ship Part สำรวจกล่องทางขวาจะได้ Power Gem สำรวจแผ่นกระดานแล้วเขียนเส้นลงในแผนที่ด้วย (ชั้น B1 เน้อ) ออกจากห้องนี้แล้ววางระเบิดหินทางขวาแล้วเดินหน้าต่อ
       
      เดินลงมาด้านล่างสุดแล้วขึ้นบันไดไป จัดการศัตรูสีเหลืองด้านบนแล้วจะได้กุญแจ เหยียบสวิทซ์ทางขวาล่างแล้วใช้กุญแจที่ประตูด้านบน ขึ้นไปชั้น 2F แล้วไปดึงสวิทซ์ที่มี 4 อันให้หมด พอมีกล่องปรากฏให้เราไปสำรวจจะได้ Square Crystal ถือมันลงบันไดมา นำมันไปวางไว้บนแท่นด้านล่างแล้วประตูทางขวาบนจะเปิด ลงไปชั้น B1 ได้จากตรงนี้ เราจะมาอยู่ตรงจุดที่ให้เขียนลงในแผนที่ พื้นจะเป็นพื้นล่องหนแต่ถ้าเขียนการเดินไว้ในแผนที่ก็สบาย ไปสำรวจกล่องทางซ้ายบนจะได้ BOW และ ARROW มาใช้ ยิงธนูใส่ดวงตาแล้วสะพานจะทอดลงมาด้านล่าง ข้ามสะพานแล้วให้เราฟันสวิทซ์ธนูทางขวาให้หันไปทางขวา ยิงธนูใส่แล้วสวิทซ์จะยิงธนูไปหาสวิทซ์อีกอันหนึ่ง ทำให้สวิทซ์เป็นสีแดงแล้วขึ้นไปชั้น 1F จัดการศัตรูตามรายทางแล้วยิงดวงตาทางขวาล่าง พอประตูเปิดให้เราวิ่งขึ้นไปเก็บ Square Crystal ที่เคยใส่ไว้บนแท่นออกมา นำมาวางไว้บนแท่นทางซ้ายล่างแล้วประตูด้านล่างจะเปิด ให้เราขึ้นบันไดไป
       
      ที่ชั้น 2F นี้จัดการปลาหมึกให้หมดแล้วบันไดด้านบนจะปรากฏ ข้ามสะพานไปแล้วใช้แท่นเลื่อนลงไปด้านล่าง ยิงธนูใส่ดวงตาทั้ง 2 ดวงแล้วกล่องจะปรากฏ สำรวจแล้วจะได้ Power Gem ใช้แท่นเลื่อนไปทางขวาแล้วผ่านกับดักใบมีดจนมาพบกับตาเลเซอร์ กระโดดลงมาทางซ้ายล่างแล้ววางระเบิดก้อนหิน กระโดดกลับไปแล้วกระโดดลงมาทางขวาล่าง ผลักบล็อกลงมาแล้วกระโดดกลับไป กระโดดลงมาทางซ้ายล่างแล้วผลักบล็อกไปทางขวา พอเดินขึ้นได้ให้เราเดินขึ้นไปด้านบน สำรวจกล่องจะได้สมบัติ เก็บแล้วให้เราลงบันไดไปชั้น 1F เดินไปทางซ้ายแล้วเหยียบสวิทซ์สุดทาง พอประตูเปิดให้เราลงบันไดไปชั้น B1 ใช้แท่นเลื่อนไปทางขวา พอถึงแท่นเลื่อนขึ้นให้เราใช้บูมเมอแรงไปจุดไฟทั้งหมด 9 จุด กระโดดขึ้นไปด้านบนแล้วใช้บูมเมอแรงจนสวิทซ์ธนูหันไปทางซ้าย ยิงธนูใส่แล้วสวิทซ์สีแดงจะกลายเป็นสีน้ำเงิน ใช้บูมเมอแรงจนสวิทซ์ธนูหันไปด้านบน ยิงธนูใส่แล้วจะมีกล่องปรากฏ สำรวจแล้วจะได้ Wisdom Gem ให้เราขึ้นบันไดไปชั้น 1F ได้
       
      เดินลงมาด้านล่างแล้วจัดการศัตรู พอได้กุญแจมาให้เราเปิดประตูด้านบนแล้วขึ้นบันได เดินไปทางซ้ายเราจะพบกับแท่นเลื่อน พอเหยียบแล้วให้เราเปิดแผนที่ เพราะบล็อกนี้จะเคลื่อนที่ตามที่เราขีดเส้นไว้ ห้องใหญ่นี้จะมีตาทั้ง 4 ดวง เราจะต้องไปยิงให้หมดทั้ง 4 ดวง พอทำสำเร็จกล่องจะปรากฏขึ้นมา สำรวจแล้วจะได้ Boss Key ถือเข้าไว้แล้วยืนบนแท่นเลื่อน ขีดเส้นให้ไปตรงซ้ายล่าง พอถึงแล้วให้เราโยนกุญแจไปเปิดประตูสุดท้ายได้ พอขึ้นมาชั้น 3F แล้วให้เราสำรวจแผ่นป้าย พอมี Warp Point ขึ้นมาให้เราไปวางระเบิดผนังร้าวด้านบน สำรวจกล่องแล้วจะได้ Courage Gem เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราขึ้นบันไดไปชั้นสุดท้าย
       
      CRAYK, Bane of Courage
       
      ใช้ธนูยิงไปที่ลูกบอลสีม่วงที่เปลือก พอเปลือกแตกก็ให้เราเข้าไปฟันมัน (ธรรมดาๆนี่ละ) มันจะยกก้ามขึ้นมาป้องกัน อาศัยจังหวะนี้เดินเข้าด้านหลังแล้วฟันก้นเรืองแสงของมัน ทำซ้ำไปซ้ำมาก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก (ก็ไม่ยากจริงๆนั่นละ)
       
      พอจัดการได้เราจะได้เวลาใน Phantom Hourglass เพิ่มขึ้น 2 นาที เราจะช่วย Spirit of Courage ได้ แต่ว่าดูมันจืดชืดไร้สีสันอย่างกับไม่มีชีวิต (ดูคล้ายกับ Ciela มาก) สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากที่นี่
       
      Ghost Ship Rescue
       
      พอออกมาด้านนอกแล้วให้เราเดินไปตามทาง พอถึงบันไดแล้วให้เราใช้จอบขุดตรงหญ้าสีเข้ม (ไม่ห่างบันไดมาก) กระโดดลงรูไปแล้วสำรวจกล่องจะได้ Wisdom Gem กระโดดลงมาทางขวาแล้วออกจากถ้ำนี้ทางขวาล่าง (ใกล้กับบ้านของ Romanos นั่นเอง) วิ่งไปทางซ้ายแล้วไปอ่านไปรษณีย์ อ่านจบแล้วให้เราไปหา Romanos เขาจะให้เราเล่นเกมยิงธนู ถ้าทำได้เกิน 1700 แต้มจะได้ Quiver อันใหม่ (ใส่ลูกธนูได้ 30 อัน) เล่นอีกครั้งแล้วทำให้ได้เกิน 2000 แต้มจะได้ Heart Container (พระเจ้า) มา 1 ดวง กลับไปหา Linebeck แล้วดู Cut Scene พอจบแล้วให้เราล่องเรือขึ้นไปที่ทะเลด้านบน แต่ออกเรือได้ไม่เท่าไรเราก็ถูกเรือโจรสลัดโจมตี เอาชนะ Jolene แล้วให้เราเดินทางต่อ พอถึงทะเลด้านบนแล้วให้เราขีดเส้นตรงขึ้นไปหาหมอกเลย พอถึงหมอก Linebeck จะเรียกเรามาคุยเพราะเครื่องยนต์เสีย เราจะมีหน้าที่บังคับทิศทางซ้ายหรือขวา แล้วคอยฟังเสียงที่ Spirit คอยบอก ถ้าเป็นเสียงถี่ๆแสดงว่าเราหันหัวเรือตรงกับ Ghost Ship แล้ว ถ้าเป็นเสียงห่างๆแสดงว่าหันหัวเรือไม่ตรองกับ Ghost Ship ถ้าเงียบก็แสดงว่าแย่แล้ว ตามเสียงถี่ๆไปเรื่อยๆ (Ghost Ship มันเลี้ยวได้ ไม่ใช่จอดไว้เฉยๆ) พอถึงแล้วให้เราเอาเรือเข้าไปเทียบ แล้วเราจะปีนขึ้นไปบน Ghost Ship
       
      Ghost Ship
       
      เข้าประตูทางซ้ายเพื่อลงไปด้านล่าง วิ่งไปทางขวาล่างแล้วสำรวจกล่องจะได้สมบัติ วิ่งไปทางซ้ายแล้วประตูจะปิด คุยกับคนที่อยู่ทางซ้ายแล้วเดินขึ้นไปด้านบน มาหยุดอยู่หน้าหนามแล้วใช้บูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ด้านบน พอหนามหายไปแล้วให้เรามุ่งหน้าไปทางขวา สับสวิทซ์ทางขวาสุดแล้วหนามจะหายไป เข้าไปคุยกับผู้หญิงด้านในแล้วออกมาสำรวจกล่อง จะได้ Triangle Crystal เดินกลับมาทางซ้ายจนถึงแผ่นไม้ 3 แผ่น (2 แผ่นมีไฟอยู่ด้านบน) ปาคริสตัลไปตรงแผ่นไม้ที่ไม่มีไฟแล้วกระโดดข้ามไป นำคริสตัลไปใส่ไว้ในแท่นสามเหลี่ยมแล้วไฟด้านล่างจะหายไป กลับมาพาผู้หญิงคนนี้ไปหาผู้หญิงที่เราคุยเป็นคนแรก พอทั้ง 2 อยู่ด้วยกันแล้วให้เราย้อนกลับไปทางขวา แล้วลงบันไดไปชั้นล่าง ชั้นนี้เราจะพบกับยมทูตและเราจะต้องระวังตัวเหมือนกับตอนเจอ Phantom ที่นี่จะมี Safe Zone เหมือนกัน
       
      พอเริ่มต้นมาให้เราไปทางขวา ขึ้นไปด้านบนแล้ววิ่งไปทางซ้าย ทางซ้ายสุดจะมีผู้หญิงอยู่ สับสวิทซ์แล้วหนามจะหายไป คุยกับผู้หญิงแล้วเราจะต้องพาเธอกลับไปหาผู้หญิงที่ชั้นบน พาเธอเดินกลับมาแล้วสำรวจกล่องระหว่างทางจะได้ Round Crystal หยิบคริสตัลนี้มาแล้วขึ้นบันได นำคริสตัลไปวางบนแท่นวงกลมแล้วไฟทางซ้ายจะหายไป เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆจะถึงจุดที่ผู้หญิงอยู่ จากนั้นให้เราย้อนกลับมาลงบันได พอลงบันไดแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย ทางมุมซ้ายล่างจะมีบันไดอยู่ ให้เราลงบันไดนี้ไป เดินไปทางขวาจะพบกับสวิทซ์ 5 อัน เดินผ่านไปทางขวาอีกประตูจะปิด จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าไป สำรวจแผ่นหินสุดทางจะได้ตัวเลข 5 ตัว 2 4 5 1 3 กลับมาที่สวิทซ์แล้วดึงสวิทซ์ให้ตรงตำแหน่งของตัวเลข (ถ้านับเรียงตัวเลขจากซ้ายมาขวา เราจะต้องดึง 4 1 5 2 3) พอหนามหายไปแล้วให้เราไปตรงห้องที่มีแผ่นหิน ลงไปโยนถังทิ้งแล้วเหยียบสวิทซ์ที่ซ่อนอยู่ทางซ้าย เดินหน้าต่อแล้วไปโยนถังที่อยู่ทางซ้ายบน พอพบผู้หญิงให้เราคุยกับเธอ พาเธอกลับมายังจุดที่ผู้หญิงคนอื่นๆอยู่ พอช่วยได้ทั้ง 4 คนแล้วเราจะกลับมาอยู่บนดาดฟ้าเรือ แล้วทั้ง 4 คนจะเผยธาตุแท้ออกมา
       
      The Diabolical Cubus Sisters
       
      หลบเลเซอร์แล้วฟันลูกพลังกลับไปหาคนที่ปล่อย (ลูพลังมี 2 แบบ แบบที่กระทบอะไรแล้วแตกออก กับแบบที่สะท้อนกลับไปได้ ทั้ง 2 ลูกแตกต่างกันอย่างชัดเจนเน้อ) พอจัดการได้คนหนึ่งแล้วคราวนี้มันจะสะท้อนกลับไปมาได้ ความยากเพิ่มขึ้นนิดหน่อยไม่น่าห่วง จัดการได้ครบทั้ง 4 คนแล้วจะได้ Ghost Key มา สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container อีก 1 ดวง เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากที่นี่ได้
       
      วิ่งไปทางขวาแล้วลงบันไดไปชั้น B2 เปิดประตูล็อคทางขวา ขึ้นบันไดไปแล้วดู Cut Scene ยาวเลย พอดูจบแล้วให้เราคุยกับ LineBeck แล้วให้เราล่องเรือไปที่ Bannan Island ที่อยู่ทางขวาบน ระหว่างทางเราจะพบกับเกาะเล็กๆ ให้เราเปลี่ยนจุดหมายมาเป็นที่เกาะเล็กๆนี้ ที่นี่คือ Zaus’s Island นั่นเอง พอถึงแล้วให้เราอ่านจดหมายแล้วจะได้ Jolene’s Letter มา เข้าไปคุยกับ Zaus ด้านบนแล้วจะรู้ว่าต้องใช้ Phantom Sword ในการเอาชนะ Bellum แต่เราต้องออกรวบรวมแร่ที่ใช้ตี Phantom Sword ขึ้นมาก่อน ออกจากบ้านแล้วให้เราถือไก่ไว้ กระโดดไปทางขวาแล้วสำรวจกล่องจะได้ Wisdom Gem กลับมาหา Linebeck แล้วล่องเรือไปที่ Mercay Island พอถึงแล้วให้เราไปหา Oshus แล้วจะได้ Power Gem ออกจากบ้านแล้วให้เราข้ามสะพานกลับมา ใกล้กับทางออกทางขวาบนจะมีผู้ชายสวมเสื้อสีเขียวยืนอยู่ จ่ายเงิน 50 เหรียญซื้อ Treasure Map จากเขา เรียบร้อยแล้วให้เราเข้าไปใน Temple of the Ocean King ได้เลย
       
      Temple of the Ocean King Part 3
       
      ก่อนเข้ามาจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ไม่ต้องสนใจ พอลงมาที่ชั้น B1 จะพบ Phantom แบบใหม่ ที่มีความเร็วมากกว่าเดิม ให้เราวิ่งไปทางขวาบนแล้ววางระเบิดก้อนหิน พอเปิดทางได้ให้เราไปเหยียบสวิทซ์ทางซ้าย เก็บกุญแจทางซ้ายบนแล้วมาลงบันไดทางขวาบน ที่ชั้น B2 ให้เราวิ่งลงมาด้านล่างแล้ววางระเบิดผนังร้าว วิ่งไปทางซ้ายบนแล้วฟันสวิทซ์ พอเกิดเสียงให้เรารีบมาฟันสวิทซ์ด้านล่างกุญแจจะตกลงมา วิ่งผ่านผนังที่เปิดทางแล้วปาบูมเมอแรงไปเก็บกุญแจ วิ่งลงมาด้านล่างแล้วหยิบไห ปาลงพื้นทันทีแล้วเข้าไปใน Safe Zone เจ้า Phantom จะมาหยุดใกล้ๆเรา ให้เราวิ่งผ่านไปทางซ้ายแล้วเข้าไปฟันสวิทซ์ด้านบน วิ่งขึ้นไปด้านบนต่อแล้วเปิดประตูลงไปที่ชัน B3 ที่ชั้นนี้ให้เราวิ่งไปทางขวา พอสุดทางให้เราวิ่งลงมาด้านล่าง ขุดตรงพื้นแปลกๆแล้วใช้ลมขึ้นไปด้านบน หยิบไหแดงด้านบนแล้วปามาทางขวา เข้าไปใน Safe Zone แล้วรอให้ Phantom เดินมาทางขวา พอถึงจุดตรงกลางแล้วไปเหยียบสวิทซ์กุญแจจะกระเด็นออกมา ยิงสวิทซ์ทางขวาเพื่อหยุดหนาม ยิงดวงตาด้านบนแล้วจะมีกล่องปรากฏออกมา รีบวิ่งไปสำรวจจะได้ Power Gem มา กลับมาสำรวจกล่องทางขวาล่างเพื่อเก็บ Force Gem นำมันไปไว้ที่เดิม เปิดประตูด้านล่างสุดแล้วนำ Force Gem ไปไว้ที่เดิมอีก สำรวจกล่องทางซ้ายบนแล้วนำ Force Gem ไปไว้ที่เดิมอีก พอครบแล้วประตูลงชั้น B4 จะเปิด
       
      ที่ชั้น B4 ให้เราไปทางขวา ยิงธนูไปที่ดวงตาทางขวาบน วิ่งลงมาด้านล่างสุดแล้วใช้บูมเมอแรงไปเก็บเวลาทางขวาล่าง ตรงกลางฉากจะมีผนังร้าวอยู่ วางระเบิดแล้วให้เราเข้าไปใน Safe Zone ทางซ้าย จัดการ Phantom Eye แล้วไปขุดดินแปลกๆทางซ้ายล่าง ลอยขึ้นไปด้านบนแล้วใช้บูมเมอแรงไปเก็บเวลาที่ไหเหลืองด้านบน วิ่งเข้าไปในผนังที่เราวางระเบิดเปิดไว้แล้วฟันสวิทซ์ พอหนามหายไปให้เราวิ่งเข้าไปเก็บกุญแจ วิ่งลงมาด้านล่างแล้วเปิดประตูลงสู่ชั้น B5 ได้เลย ยิงดวงตาทางขวาแล้ววิ่งไปเก็บของทางขวา เก็บหมดแล้วให้เราวิ่งไปทางซ้าย พอเข้าไปในห้องประตูจะปิด จัดการศัตรูหมดแล้วเก็บเวลาที่ไหเหลืองทางซ้าย วิ่งไปทางขวาแล้วประตูจะปิดอีก จัดการศัตรูแล้วให้เราเก็บเวลาทางขวา เดินไปด้านบนแล้วยิงธนูใส่สวิทซ์ทางขวา แล้วลงไปชั้น B6 ได้เลย ให้เราวิ่งลงมาด้านล่างแล้วเหยียบสวิทซ์ที่พื้น วิ่งไปทางซ้ายจะพบกับประตูสีแดง วาดสัญลักษณ์ Tri Force ที่ประตูแล้วประตูจะเปิด พอเข้าไปด้านในแล้วให้เราคุยกับโครงกระดูก เรียบร้อยแล้วให้เราไปสำรวจประตูด้านบน พอประตูเปิดให้เราลงไปชั้น B7
       
      ใช้แท่นเลื่อนไปทางซ้าย พอถึงพื้นทางซ้ายบนแล้วให้เราลองคุยกับโครงกระดูก จากนั้นให้เราวิ่งลงมาด้านล่างเรื่อยๆ ด้านล่างสุดจะมีบันไดลงไปชั้น B8 ให้เราลงไป วิ่งไปทางขวาแล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน พอวิ่งมาได้กลางทางให้เราวิ่งไปทางขวาจะมีพื้นล่องหนอยู่ วิ่งลงมาด้านล่างแล้วขึ้นบันไดไปชั้น B7 ตรงจุดนี้จะมี Phantom อยู่ทางซ้ายบนและขวาล่าง ให้เราใช้ธนูยิง Phantom ทางขวาล่างมันจะงง ให้เราไปฟันสวิทซ์ทางขวาล่างแล้ว Phantom ทางซ้ายบนจะวิ่งมา ให้เราวิ่งขึ้นไปด้านบนแล้วนำไหสีแดงปาลงไปด้านล่าง วิ่งไปทางซ้ายบนแล้วใช้แท่นเลื่อนขึ้นไปด้านบน เก็บ Round Crystal ทางซ้ายบน พอเก็บแล้วไฟทางขวาจะหายไป ให้เราย้อนกลับมาลงบันไดไปชั้น B8 ไปยืนตรง Safe Zone ที่ให้ปาจะช่วยได้มาก) เดินไปทางซ้ายข้ามทางล่องหนไป เดินไปทางซ้ายแล้วเดินขึ้นไปด้านบน บริเวณกลางๆฉากจะมีจุดให้ใส่ Round Crystal พอวางแล้วหนามจะหายไป เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเหยียบสวิทซ์ พอลมพ่นขึ้นมาแล้วให้เราลงบันไดไปชั้น B9 เก็บ Triangle Crystal แล้วลงบันไดกลับมา ถือคริสตัลไว้แล้วเดินลงมาใช้ลมด้านล่าง พอลมพ่นขึ้นไปด้านบนแล้วให้เราเดินขึ้นไป เกือบถึงผนังทางซ้ายจะมีพื้นล่องหนอยู่ ให้เราเดินข้ามไปด้านบนได้เลย เดินมาทางซ้ายแล้ววางระเบิดผนังร้าวทางซ้าย พอผนังหายไปแล้วให้เรารีบเข้าไปยืนบน Safe Zone โยนคริสตัลใส่ไว้ในแท่นแล้วหนามด้านล่างจะหายไป ให้เราเดินย้อนกลับมาสำรวจกล่องที่ลอยอยู่กลางอากาศก่อน ด้านในคือ Courage Gem เก็บเรียบร้อยแล้วให้เราเดินตรงจุดที่หนามหายไป ฟันสวิทซ์แล้วประตูด้านบนจะเปิด ให้เราไปเก็บ Triangle Gem ที่เราวางไว้บนแท่นแล้วลงบันไดทางขวา
       
      คุยกับโครงกระดูกแล้วให้เราวิ่งไปทางขวา ปาคริสตัลลงพื้นก่อนแล้วใช้ธนูยิงขึ้นไปด้านบน จะโดนศัตรูที่กำลังหายตัวอยู่ เก็บคริสตัลแล้ววิ่งลงมาด้านล่าง เกือบถึงด้านล่างสุดให้ปาคริสตัลทิ้งไป ยิงธนูลงมาด้านล่างจะโดนศัตรูที่หายตัวอยู่ วิ่งไปทางซ้ายแล้วใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์ธนูให้หันขึ้นข้างบน รอให้ตาด้านบนเปิดแล้วใช้ธนูยิงไปที่สวิทซ์ หนามทางซ้ายล่างจะหายไป (สวิทซ์ตรงนี้ทำให้พื้นหายไป เอาไว้เล่นงาน Phantom) เดินขึ้นไปด้านบนแล้ววางระเบิดก้อนหิน เดินมาทางซ้ายล่างแล้วจัดการศัตรูที่หายตัวอยู่ ให้วิ่งขึ้นไปทางซ้ายบนแล้วจัดการศัตรูที่หายตัวอยู่ พอหมดแล้วจะมีกล่องปรากฏขึ้นมา ไปสำรวจกล่องจะได้ Wisdom Gem จากนั้นให้เราใช้ธนูยิงไปที่ Phantom พอมี Crystal ตกลงมาให้เราเอาไปปาไว้ที่บันไดด้านบนของฉาก เรียบร้อยแล้วให้เราลงบันไดกลับไปชั้น B8 จำได้ไหมว่าเอา Round Crystal ไปวางไว้ที่ไหน ถ้าจำได้แล้วก็ให้ไปเก็บ Round Crystal มา พอเก็บได้แล้วให้เราย้อนลงบันไดไปชั้น B9 (อาจจะยากสักหน่อย เจ้า Phantom ที่ตามมาที่ Safe Zone แนะนำให้ใช้ธนูยิงแล้ววิ่งหนีไปเลย) นำ Round Crystal ไปปาไว้ที่บันไดด้านบน เก็บ Triangle Crystal แล้วนำไปปาไว้ที่บันไดด้านบนด้วย พอได้ครบทั้ง 3 ชนิดแล้วให้เราปาคริสตัลไปไว้บนแท่น พอประตูเปิดก็ให้เราเข้าประตูไป สำรวจกล่องด้านในแล้วจะได้ Southeastern Sea Chart มา
       
      Goron Island
       
      พอออกมาด้านนอกแล้วให้เรากลับมาที่เรือ ล่องเรือไปทางขวาของแผนที่ พอถึงแผนที่ใหม่แล้วให้เราล่องเรือไปที่ Goron Island ที่อยู่ด้านล่างได้เลย พอถึงแล้วให้เราพยายามคุยกับชาว Goron เพื่อหาข่าวสาร ออกจากฉากทางขวาบนแล้วให้เราเดินไปแถวๆตีนเขา คุยกับชาว Goron บริเวณนี้แล้วให้เราขุดดินแปลกๆ อาศัยแรงลมขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ธนูยิง ChuChu สีเหลืองที่อยู่ด้านล่าง จัดการหมดแล้วเราจะได้ Treasure Map มา จากนั้นให้เราไปทางฝั่งขวาของเมือง เข้าไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน Biggoron จ่ายเงินเพื่อเข้ารับการทดสอบ การทดสอบก็คือการตอบคำถาม (มาแบบสุ่ม)
       
      - How many homes are there on this island?
      6
       
      - The Goron at this spot! *shows location* What is he staring at?
      Ship
       
      - How many Gorons live on this island?
      14
       
      - Easy one, stranger! What number question is this?!
      4
       
      - How many Rupees have you won so far? Easy!
      46
       
      - *shows location* How many rocks are there in this home?
      3
       
      - How many Gorons are outside right now?
      7
       
      - *shows location* What is on this spot?
      Chest
       
      - What color were the odd creatures on the cliff?
      Yellow
       
      - Of those Gorons outside, how many are adults?
      4
       
      - How many Goron children live on this island?
      6
       
      ตอบถูกหมดทุกข้อเราจะได้ Wisdom Gem มาเป็นรางวัลด้วย คุยกับชาว Goron เด็กที่อยู่ด้านในแล้วเราจะต้องเล่นไล่จับกับเขา ออกจากบ้านแล้วให้เราไปทางซ้ายของเกาะ บริเวณตีนเขาที่เราได้ Treasure Map เราจะพบกับเขา พอเขาหนีไปให้เราไปทางขวาของบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน ตามเขาเข้าไปด้านใน (ตรงจุดที่มีคนเฝ้า) ตามไปจน Ciela บอกว่าทางตัน ให้เราวางระเบิดเปิดทางไปเรื่อยๆ พอออกจากเขาวงกตทางซ้ายบนได้แล้ว ให้เราวิ่งลงมาด้านล่าง ออกจากฉากทางขวาล่างจะสามารถเดินไปเก็บ Power Gem ได้ เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆจะพบกับ Goron Temple ให้เราเข้าไปด้านใน
       
      Dungeon Four Goron Temple
       
      วิ่งไปทางขวาแล้วดันรูปปั้นมาทับสวิทซ์ที่พื้นจะเดินหน้าต่อได้ (ตัวยิงเลเซอร์ให้เรายิงธนูใส่ตามัน) เดินหน้าไปจนพบกับรูปปั้นมีชีวิต ปาระเบิดใส่มันแล้วผลักมันไปทับสวิทซ์ประตูทางขวาจะเปิด เข้าประตูที่เปิดแล้วปาระเบิดใส่รูปปั้นเพื่อนำไปทับสวิทซ์อีกจะมีทางเชื่อมปรากฏขึ้นมา ขุดหาลมทางด้านบนของห้องนี้จะขึ้นไปด้านบนได้ ข้ามไปทางซ้ายแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง ปาระเบิดใส่รูปปั้นทั้ง 2 แล้วประตูด้านล่างจะเปิด เดินลงมาด้านล่างแล้วเดินมาอยู่มุมขวาล่าง ยิงธนูใส่ตาทางขวาแล้วกล่องจะปรากฏ สำรวจแล้วจะได้เงิน เหยียบสวิทซ์แล้วหนามด้านล่างจะหายไป แต่ให้เราเดินไปทางซ้ายวางระเบิดผนังร้าวแล้วเข้าไปเก็บของ ออกจากห้องนี้แล้ววางระเบิดระหว่างเสาที่ 2 กับ 3 (นับจากผนังร้าวที่เราเปิด) เราจะพบกับทางลับ เข้าไปด้านในแล้วเก็บของตามทางแล้วลงไปชั้น B1
       
      จัดการศัตรู 2 ตนแล้วเดินหน้าต่อ ทางมุมขวาบนเราจะพบกับเด็กชาว Goron คุยกับเขาแล้วศัตรูจะปรากฏตัว ยิงไปที่ตาของมันแล้วเข้าไปฟัน จัดการได้แล้วเราจะสามารถเปลี่ยนมาบังคับ Gongoron ได้ บังคับ Gong ให้จัดการศัตรูหมดแล้วเราจะเดินหน้าต่อได้ เปลี่ยนมาเป็น Link แล้วเดินลงมาจัดการศัตรูให้หมด หมดแล้วไปเหยียบสวิทซ์ไว้ เปลี่ยนกลับมาเป็น Gong แล้วกลิ้งข้ามมาเหยียบสวิทซ์ไว้จะมีกล่องปรากฏออกมา เปลี่ยนกลับเป็น Link แล้วไปสำรวจกล่องจะได้ BOMBCHUS มา เปลี่ยนไปเป็น Gong แล้วให้เรากลิ้งลงมาด้านล่าง จัดการศัตรูระหว่างทางให้หมดแล้วประตูด้านล่างของ Link จะเปิด เปลี่ยนเป็น Link แล้วกระโดดลงไปทางซ้าย วิ่งลงมาด้านล่างผ่านประตูไป จัดการศัตรูหมดห้องแล้วจะมีกล่องปรากฏขึ้นมา สำรวจแล้วจะได้สมบัติ ใช้ Bombchu แล้วลากเส้นให้มันมาระเบิดสวิทซ์ทางขวาล่าง พอหนามหายไปให้เราขึ้นบันไดไปชั้น 1F (จำบันไดลงไว้เน้อ)
       
      ใช้ Bombchu ลงไปทางด้านล่างแล้วไประเบิดใส่สวิทซ์ทางซ้าย ข้ามทางเชื่อมไปแล้วให้เราไปอยู่ทางขวาบนของฉาก ใช้ Bombchu ลงมาด้านล่างแล้ววกไปทางซ้าย วกขึ้นด้านบนตรงช่องกลางแล้วจะมีกล่องปรากฏทางขวาบน สำรวจแล้วจะได้ Treasure Map จากนั้นให้เรากลับมายังบันไดที่ให้จำ เพื่อลงไปชั้น B2 จัดการศัตรูให้หมดรวมทั้งก้อนหินด้วย เราจะพบกับรูอยู่ทางด้านล่าง สวิทซ์อยู่ทางขวาบน ไปยืนตรงสวิทซ์ทางขวาบนแล้วใช้ Bombchu ผ่านรูด้านล่างไปหาสวิทซ์ทางขวาบน พอสวิทซ์ทางขวาบนโดนระเบิดแล้วให้เราฟันสวิทซ์ที่อยู่ฝั่งเรา เรียบร้อยแล้วให้เราลงไปชั้น B3 จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจกล่องจะได้เงิน สับสวิทซ์สีแดงให้เป็นน้ำเงินแล้วใช้ Bombchu ผ่านรูด้านบนไปโดนสวิทซ์ทางซ้ายล่าง แต่พอมันผ่านบล็อกสีแดงที่หุบไปแล้วให้เราสับสวิทซ์ให้เป็นสีแดงด้วย พอหนามหายไปให้เราเดินหน้าต่อ นำรูปปั้นทั้ง 4 มาทับสวิทซ์แล้วจะเดินหน้าต่อได้ เดินไปตามทางแล้วขึ้นบันไดกลับมาชั้น B2
       
      เหยียบสวิทซ์ทางซ้ายแล้วให้เราเดินไปทางขวา จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราเดินหน้าต่อ ไปยืนตรงหนามที่อยู่ด้านบนแล้วใช้ Bombchu ให้มาโดนสวิทซ์ด้านล่าง พอหนามหายไปให้เราเดินไปทางซ้าย จัดการที่อยู่ในทรายหมดแล้วกล่องจะปรากฏ สำรวจแล้วจะได้สมบัติมา 1 ชิ้น ใช้ Bombchu ไปโดนสวิทซ์ทางซ้ายบนและซ้ายล่างจะมีกล่องปรากฏขึ้น ใช้ Bombchu ไปโดนสวิทซ์ด้านล่างแล้วรีบเดินผ่านไปทางขวา สำรวจกล่องแล้วจะได้ Boss Key ถือกุญแจมาลงไปชั้น B3 เปิดประตูทางซ้ายแล้วเดินเข้าไปด้านใน เดินไปตามทางแล้วสำรวจแผ่นป้ายทางซ้ายจะมี Warp Point ปรากฏขึ้นมา เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้เราเข้าไปด้านในได้
       
      DONGORONGO, Armored Lizard
       
      เจ้าตัวนี้ดูน่าเกรงขามดี ให้เราใช้ Gong กลิ้งชนจนมันหงายท้อง แล้วเปลี่ยนกลับมาเป็น Link เพื่อใช้ Bombchu วิ่งเข้าไปในปากของมัน ทำได้ 3 ครั้งแล้วมันจะหงายเก๋ง (ระหว่างที่ Gong สู้อยู่ เราจะต้องเปลี่ยนกลับมาเป็น Link ด้วยเพราะจะมีลูกน้องคอยกวน) ให้เราเดินข้ามทางเชื่อมไปตรงกลาง เจ้าตะกวดนี่จะตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวกว่าเดิม ให้เราปาระเบิดเข้าปากตอนมันดูดลมเข้าท้อง พอมันล้มก็เข้าไปฟันหลังของมัน ทำสัก 3 รอบก็จะงัดการมันได้อย่างราบคาบ เวลาใน Phantom Hourglass จะเพิ่มขึ้นอีก 2 นาที สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container มา ตาม Gong ไปแล้วสำรวจหินด้านบนจะได้ Crimsonine ที่เราต้องการ
       
      Isle of Frost
       
      พอออกมาด้านนอกแล้วให้เราออกจากฉากทางซ้ายล่าง วิ่งไปทางขวาแล้วออกจากฉากไป กลับไปหาหัวหน้าหมู่บ้านแล้วจะได้เงินมา 200 เหรียญ คุยกับ Gong แล้วออกจากบ้านได้ กลับไปหา Linebeck แล้วให้เราล่องเรือไปที่เกาะทางขวาบน (ที่มีน้ำแข็งล้อมรอบ) พอไปถึงแล้วจะพบว่าทั้งเกาะถูกแข็งปกคลุม วาดเส้นทางล้อมรอบเกาะเพื่อยิงให้น้ำแข็งหมด พอหมดแล้วให้เราวาดเส้นทางเดินเรือไปที่เกาะนี้ได้ เมื่อถึงแล้วให้เราขึ้นบันไดไป เข้าไปในบ้านด้านบนแล้วคุยกับ Anouki หรือหัวหน้าเผ่าของที่นี่ คุยกับเขาแล้วให้เราออกจากบ้าน ออกจากฉากทางด้านบนแล้ววิ่งไปทางซ้าย ขุดพื้นตรงกลาง (ของเกาะทางซ้ายสุด) แล้วจะได้ Treasure Map ขุดพื้นหน้าแผ่นหินของบ้านทางซ้ายจะได้เงินมาอีก 100 เหรียญ (แนะนำให้ขุดหน้าแผ่นหินทุกแผ่นที่พบ) เข้าไปคุยกับบ้านทางซ้ายล่าง ซ้ายบน กลางบน กลางล่าง ขวาล่าง ขวาบน และปิดท้ายด้วยบ้านกลางบน เราจะถูกเป่ากระเด็นออกจากบ้าน กลับมาหาหัวหน้าเผ่าแล้วคุยกับเขา ออกจากบ้านแล้วให้เราไปคุยกับคนที่เฝ้าถ้ำทางขวาของหมู่บ้าน พอเขาหลีกทางให้เราเข้าไปในถ้ำ พอพ้นถ้ำมาแล้วให้เราปาระเบิดใส่ปากศัตรูตอนที่มันใช้ท่าดูด พอระเบิดทำงานก็ให้เราเข้าไปฟันจะจัดการมันได้ จัดการศัตรูทุกตัวแล้วหนามทางขวาบนจะหายไป ให้เราเดินหน้าต่อแล้วจะพบกับศัตรูที่เก่งกว่าเดิม (วิธีจัดการก็เหมือนเดิม) เอาชนะได้แล้วให้เราเข้าไปใน Temple of Ice
       
      Dungeon Five Temple of Ice
       
      ฟันสวิทซ์ทางซ้ายแล้วเดินหน้าไป ใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์แล้วจะเดินหน้าต่อได้ เดินไปตามทางจนมาเหยียบสวิทซ์ด้านล่างประตูทางขวาบนจะเปิด ให้เราใช้ Bombchu ไปที่สวิทซ์ (น่าจะจำจุดได้เน้อ) แล้วขึ้นบันไดไปชั้น 2F เดินหน้าไปแล้วขึ้นไปชั้น 3F วิ่งลงมาด้านล่างแล้วให้เรากระโดดขึ้นไปบนเสาเล็กๆ ใช้ธนูยิงสวิทซ์แล้วน้ำแข็งจะหายไป ข้ามไปฝั่งซ้ายแล้วไปสำรวจแผ่นหินทางซ้ายบน ซ้ายล่าง ขวาล่างแล้วจะได้ข้อมูลในการดึงสวิทซ์ ดึงสวิทซ์นับจากซ้ายไปขวาคือ 1 4 3 2 แล้วประตูด้านล่างจะเปิด ขึ้นบันไดด้านล่างแล้วให้เราเดินไปบนทางสีฟ้าด้านบน เดินไปจนถึงทางซ้ายล่างของฉากแล้วปาระเบิดลงไปหาสวิทซ์ทางซ้ายล่าง ทีนี้บล็อกสีแดงจะปรากฏขึ้นมา ส่วนบล็อกสีน้ำเงินก็จะหายไปแล้ว กระโดดลงไปสำรวจกล่องด้านล่างจะได้ Wisdom Gem กลับมาขึ้นบันไดด้านล่างแล้วเดินไปตามทางสีฟ้าทางซ้าย สำรวจแผ่นป้ายจะมีหมายเลขขึ้นมา ให้เราปาบูมเมอแรงไปที่สวิทซ์ทางขวาบน ซ้ายบน ซ้ายล่าง ขวาล่าง แล้วปาบูมเมอแรงไปเก็บกุญแจได้เลย ข้ามทางสีฟ้ากลับมาแล้วข้ามทางสีฟ้าด้านบนไป เปิดประตูที่ล็อคแล้วลงบันไดไปชั้น 2F
       
      จัดการศัตรูทั้ง 2 แล้วสำรวจกล่องจะได้ GRAPPLING HOOK (ตามมาจากภาค The Wind Waker เลยทีเดียว) ใช้ Hook กับเสาทางซ้ายบนแล้วลงบันไดไป เราสามารถใช้ Hook ดึงหน้ากากเหล็กออกมาได้ ใช้ Hook กับสวิทซ์ตรงกลางแล้วให้เราข้ามไปทางซ้ายล่าง เหยียบสวิทซ์แล้วเดินหน้าต่อ ใช้ Hook ดึงสวิทซ์ทั้ง 2 อันออกมาแล้วน้ำแข็งทางซ้ายล่างจะหายไป ให้เราลงบันไดไปชั้น B1 วางระเบิดผนังร้าวแล้วเข้าไปเหยียบสวิทซ์ ใช้ Hook กับกล่องแล้วเหยียบสวิทซ์จะมีทางเชื่อม สำรวจกล่องแล้วจะได้เงิน (ให้เราวางระเบิดผนังด้านบนเพื่อเปิดทางด้วย) วิ่งไปทางขวาแล้วทำลายไหให้หมด วางระเบิดตรงพื้นสีฟ้าแล้วจะพบทางลับ เข้าไปด้านในแล้วให้เราใช้ Hook กับเสาทางขวา 2 ต้น (อีกต้นอยู่อีกฝั่ง) เราจะสร้างเชือกเอาไว้ไต่ ไปเชือกไปทางขวาแล้วใช้ Hook ดึงสวิทซ์ด้านบนแล้วกล่องจะตกลงมา เดินขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ Hook กับสวิทซ์ (ดึงออกมาจนสุด) แล้วน้ำแข็งด้านล่างจะหายไป ให้เรารีบวิ่งลงไปด้านล่างแล้วสำรวจกล่องจะได้กุญแจ
       
      ดันบล็อกทางขวาขึ้นไปด้านบนแล้วเหยียบสวิทซ์ นำกุญแจที่ได้ไปเปิดประตูล็อคด้านบน สำรวจกล่องจะได้ Wisdom Gem ออกจากห้องนี้แล้วใช้บูมเมอแรงไปทำให้สวิทซ์สีแดงเป็นสีน้ำเงิน เดินลงมาด้านล่างแล้วไต่เชือกกลับไป ใช้ Hook สร้างเชือกแล้วไต่ไปทางซ้ายเรื่อยๆ พอถึงดวงตาที่มีน้ำแข็งขวางให้เราใช้บูมเมอแรงไปโดนสวิทซ์ด้านบนทั้ง 4 แล้วน้ำแข็งจะหายไป ใช้ธนูยิงดวงตาแล้วน้ำแข็งทางขวาล่างจะหายไป ไปดึงสวิทซ์ทางขวาล่างลงมาจนสุดแล้วรีบข้ามทางเชื่อมไป เข้าไปในช่องด้านบนแล้วใช้ Hook ไปทางซ้ายจนถึงด้านบน ใช้ Hook ไปทางขวาแล้วผ่านประตูไปก่อนที่จะปิด ลงบันไดไปชั้น B2 ใช้ Hook เกาะคบไฟทางซ้ายบนแล้วเข้าไปในห้อง จัดการศัตรูแล้วให้เราใช้ Hook ขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด ขึงเชือกไว้แล้วให้เราใช้เชือกเป็นตัวเสริมแรงกระโดดไปทางซ้าย เดินลงมาด้านล่างแล้วใช้ท่า Spin Attack กับสวิทซ์ทั้ง 4 อัน พอกล่องปรากฏแล้วให้เรามาทางขวาล่างของฉาก ใช้ Hook ขึงเชือกกับคบไฟทางขวาล่าง แล้วเสริมแรงกระโดดขึ้นไปด้านบน ใช้ Hook ข้ามไปจนถึงด้านบนของฉากใช้ธนูยิงที่ดวงตาแล้วประตูจะเปิด
       
      กระโดดลงไปด้านล่างแล้วเหยียบสวิทซ์ เข้าประตูแล้วเดินไปตามทาง เราจะพบกับดวงตา 2 ดวง มันจะปิดตอนที่เราหันไปหามัน ให้เราใช้ Hook ขึงเชือกไว้แล้วใช้ธนูยิงไปที่เชือกจะชิ่งไปโดนตาพอดี สำรวจกล่องที่ปรากฏจะได้กุญแจ เดินย้อนกลับมาด้านล่างแล้วเปิดประตูทางขวาล่าง เดินเข้าไปแล้วจัดการศัตรูให้หมด สำรวจกล่องแล้วจะได้เงิน เดินย้อนกลับมาแล้วให้เราเดินไปทางขวา ทำลายก้อนหินแล้วเดินหน้าไป ใช้ Hook กับเสาด้านล่างแล้วข้ามฝั่งไป กระโดดขึ้นไปบนเสาแล้วใช้ Hook กับเสาด้านบน ใช้วิธีนี้จนสามารถเหยียบสวิทซ์ด้านบน พอน้ำแข็งหายให้เราเดินไปตามทางแคบๆ เหยียบสวิทซ์ที่อยู่สุดทางแล้วน้ำแข็งล้อมรอบกล่องจะหายไป สำรวจกล่องแล้วจะได้ Boss Key (ใช้ Hook จะสามารถข้ามกลับมาได้ง่ายๆ) ถือกุญแจไว้แล้วขึ้นบันไดกลับมา ใช้ Boss Key กับประตูสุดท้ายแล้วเข้าไปด้านใน สำรวจแผ่นป้ายแล้วจะมี Warp Point ออกมา เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราขึ้นบันไดไป
       
      GLEEOK, Two-Headed Dragon
       
      เจ้ามังกร 2 ตัวนี้ เราจะต้องสะท้อนพลังกลับไปหาคู่ของมัน การสะท้อนจะต้องใช้ Hook ขึงเชือกแบบแนวทแยง (เสาจะมี 4 ต้น ให้เราขึงเชือกซ้ายบนและขวาล่างจะได้แนวทแยง) ถ้าไฟยิงมาให้เราขึงเชือกซ้ายบนและขวาล่าง ถ้าน้ำแข็งยิงมาให้เราขึงเชือกขวาบนและซ้ายล่าง พอมังกร 2 ตัวเรียกคลื่นยักษ์ให้เรากระโดดขึ้นไปบนเสา พอมันแลบลิ้นออกมาให้เราใช้ Hook เกี่ยวลิ้นมาใส่เสาด้านล่าง พอมันมึนก็ให้เราเข้าไปกระหน่ำฟัน เอาชนะได้แล้วเราจะได้เวลาใน Phantom Hourglass เพิ่มขึ้น สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container ข้ามสะพานแล้วให้เราเก็บ Azurine ที่อยู่ด้านในสุด
       
      Finding Island
       
      เมื่อออกมาแล้วให้เราคุยกับคนหน้าทางเข้า คุยแล้วให้เรากระโดดขึ้นไปบนเสา ใช้ Hook กับเสาทางซ้าย พอขึ้นไปถึงด้านบนสุดแล้วให้เราออกจากฉากทางด้านล่าง เดินไปทางขวาแล้วกระโดดลงไปสำรวจกล่องจะได้ Power Gem ไปสำรวจกล่องทางซ้ายของตู้ไปรษณีย์จะได้ Wisdom Gem กลับไปที่เรือแล้วล่องเรือมาแถวๆด้านล่างของแผนที่ พอพบเกาะเล็กๆให้เราลองใช้กล้องส่องทางไกลดู พอพบว่าเป็นเกาะให้เราล่องเรือไปที่เกาะนี้ได้เลย เกาะนี้คือ Dee Ess Island วิ่งไปทางซ้ายแล้วพยายามใช้จอบขุดพื้นที่แปลกๆให้หมดก่อน พอหมดแล้วให้เราขึ้นไปด้านบนสุดของเกาะแล้วกระโดดลงมาด้านล่าง จัดการศัตรูทั้ง 2 แล้วสำรวจกล่องจะได้ Courage Gem กระโดดลงไปด้านล่าง (ไปหาชาว Goron) ไปขุดตรงมุมซ้ายล่างจะได้ Courage Gem มา คุยกับชาว Goron ด้านบนแล้วจ่ายเงินเล่นเกม เราจะต้องกลิ้งเก็บคริสตัลให้หมด แล้วกลิ้งเข้าเส้นชัยก่อนเวลาหมด ออกมาสำรวจของแล้วจะได้ Bombchu Bag มา กลับไปที่เรือแล้วให้เราล่องเรือไปที่แผนที่ซ้าย
       
      พอถึงแล้วให้เราล่องไปแผนที่ด้านบน พอถึงอีกให้เราลากเป้าหมายไปที่โขนหินทางด้านบน (ก่อนจะแยกไปทางขวา) บริเวณนี้จะมีเกาะอยู่ พอพบให้เราลองส่องทางไกลดู เรียบร้อยแล้วให้เราล่องเรือไปที่เกาะนี้ นี่คือเกาะ Uncharted Island พอเทียบท่าแล้วให้เราวิ่งไปทางขวา สำรวจรูปปั้นนี้แล้วให้เราวิ่งไปทางขวาต่อ วิ่งขึ้นไปด้านบนแล้วสำรวจรูปปั้น วิ่งย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นแล้วให้เราไปสำรวจรูปปั้นทางซ้ายบน วิ่งลงมาด้านล่างสุดแล้วขึ้นบันไดไปสำรวจรูปปั้น ลงบันไดแล้ววิ่งไปสำรวจรูปปั้นด้านบน (ใกล้ๆ) พอมีทางเชื่อมปรากฏออกมาให้เราเข้าไปในถ้ำ ด้านในสุดเราจะพบกับหัวหน้าของกบทองคำ คุยกับเขาแล้วเราจะได้ Cyclone Slate มาใช้ (คราวนี้พอเจอกบทองคำให้เรายิงเขา พอเขาชูป้ายขึ้นมาให้เราวาดสัญลักษณ์นั้นในแผนที่ ต่อไปถ้าเราวาดสัญลักษณ์นี้ในแผ่นกระดานนี้ เราจะลอยมาอยู่ที่นี่เลย) ออกจากห้องนี้แล้วให้เราไปสำรวจกล่องทางขวาจะได้ Courage Gem กลับไปที่เรือแล้วให้เราล่องเรือไปที่ Bannan Island พอถึงแล้วให้เราใช้ Hook ข้ามไปหากล่องด้านล่างจะได้ Power Gem ข้ามกลับมาแล้วให้เราไปเข้าถ้ำทางขวา เดินไปตามทาง (วางระเบิดเปิดทางด้วย) จนออกมาด้านนอก
       
      ใช้ Hook ข้ามฝั่งไปด้านบน สำรวจกล่องแล้วจะได้ Courage Gem มา ข้ามฝั่งไปทางซ้ายบน สำรวจแผ่นหินทั้ง 3 แล้วให้เราข้ามฝั่งกลับมา ขุดดินตรงกลางระหว่างกล่องทั้ง 2 จะได้ Treasure Map กลับมาด้านล่างแล้วคุยกับผู้ชายที่นั่งอยู่ จ่ายเงินแล้วเล่นเกมกับเขา เราจะต้องยิงเป้าให้ได้คะแนนเกิน 2500 แล้วจะได้ Bomb Bag มาเป็นรางวัล กลับเข้าไปในถ้ำแล้วออกมาอีกฝั่งหนึ่ง เข้าไปในบ้านด้านบนแล้วคุยกับตาลุง คุยจบแล้วให้เราออกมาด้านนอก ในน้ำจะพบนางเงือกอยู่ ใช้บูมเมอแรงกับนางเงือกจะสามารถคุยกันได้ กลับไปคุยกับตาลุงแล้วออกจากบ้าน ขุดทางซ้ายของป้ายจะได้ Treasure Map มา กลับไปคุยกับ Linebeck แล้วให้เราเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับตาลุงอีกครั้ง คุยจบแล้วจะได้ Fishing Rod มาใช้ คุยกับนางเงือก 2 ครั้งเพื่อมอบจดหมายของ Jolene แก่เธอ พอเธออ่านจดหมายแล้วจะมอบ Wisdom Gem แก่เรา
       
      Temple of the Ocean King Part 4
       
      กลับมาที่ Temple of the Ocean King อีกครั้ง คราวที่แล้วเรามาถึงชั้น B9 คราวนี้จะต้องไปลึกกว่านี้แน่นอน พอถึงชั้น B10 แล้วเราจะพบกับ Golden Phantom เจ้านี่จะสามารถหายตัวมาหาเราได้ ให้เราวิ่งไปทางซ้ายจะพบกับ Safe Zone และก้อนหิน ให้เรายืนด้านล่างของก้อนหินเพื่อล่อ Phantom ด้านล่าง (ตัวที่มีกุญแจ) พอมันหายตัวมาหาเราแล้วให้เรารีบวิ่งขึ้นไปผลักหินลงมาใส่มัน เก็บกุญแจแล้วให้เราไปทางฝั่งขวา เดินไปตามทางจนถึง Safe Zone ด้านล่างสุด วางระเบิดผนังบริเวณนั้นแล้วเข้าไปด้านใน จัดการ Phantom Eye แล้วให้เราไปเปิดประตูล็อคเพื่อลงบันไดไปชั้น B11 วิ่งไปทางซ้ายแล้ววิ่งลงมาด้านล่าง ขุดพื้นแปลกๆแล้วให้เราไปทางซ้าย พอขึ้นด้านบนให้เราใช้ Hook จัดการ Phantom Eye ระหว่างทางด้วย (ไหแดงให้ทำลายเสียเพื่อเอาไว้หลบ Golden Phantom) ขุดดินแปลกๆด้านบนของบันไดที่เราลงมา เสร็จแล้วให้เราไปดึงสวิทซ์ทางขวาบนและทางซ้ายบนเพื่อสร้างทางเชื่อม ใช้ลมขึ้นไปเหยียบสวิทซ์ทางขวาและทางซ้าย เรียบร้อยแล้วให้เราไปฟันสวิทซ์ทางขวาล่าง รีบวิ่งไปใช้ลมทางซ้ายล่างเพื่อขึ้นไปด้านบน วิ่งไปเหยียบสวิทซ์ทางซ้ายก่อนที่ทางเชื่อมจะหายไป พอเหยียบสวิทซ์ทางซ้ายล่างและขวาล่างแล้วประตูจะเปิด ให้เราลงบันไดทางซ้ายล่างไปชั้น B12 ได้
       
      ดึงสวิทซ์ทางซ้ายแล้วหนามจะหายไป ให้เราใช้ Hook ขโมยเอา Tri Force Gem จาก Golden Phantom พอได้แล้วให้เรานำไปไว้บนแท่นด้านบนสุด สำรวจกล่องทางซ้ายบนจะได้ Tri Force Gem มาอีก แต่พอเก็บแล้วจะมี Phantom ปรากฏกายออกมา ให้เราหลบมันแล้วนำ Tri Force Gem ไปใส่ไว้บนแท่นอีก ไปสำรวจกล่องทางขวาบนจะได้ Tri Force Gem อีกเช่นกัน และจะมี Phantom ปรากฏกายออกมาอีก หลบมันแล้วให้เรานำ Tri Force Gem ไปใส่ไว้บนแท่น พอครบ 3 อันแล้วให้เราลงไปชั้น B13 วิ่งไปทางซ้ายแล้วกระโดดลงมาด้านล่าง สำรวจกล่องตรงกลางจะได้ Northeastern Sea Chart มาครอง เข้าไปใน Warp Point เพื่อออกมาด้านนอก กลับไปหา Linebeck แล้วล่องเรือไปที่ Northeastern Sea พอถึงแล้วให้เราล่องเรือไปยัง Isle of the Dead ที่อยู่ทางขวาของแผนที่
       
      เข้าไปในถ้ำทางขวาแล้วอ่านหนังสือในถ้ำ ออกจากถ้ำทางซ้ายแล้วให้เราเดินไปทางขวาบนของฉาก เข้าไปในพีระมิดทางขวาบน พอเข้ามาแล้วให้เราเดินไปทาง ขวา ขวา บน บน พอถึงสุสานแล้วให้เราไปคุยกับวิญญาณด้านใน ขึ้นบันไดแล้วสำรวจด้านบนจะได้ Regal Necklace มา กลับไปที่เรือแล้วล่องเรือไปที่เกาะทางซ้าย Isle of Ruins พอถึงพายุหมุนที่ปิดทาง Regal Necklace จะทำให้พายุหมุนหายไป พอเรือเทียบท่าแล้วให้เราไปเข้าพีระมิดทางซ้ายบน เข้าไปคุยกับวิญญาณด้านในแล้วให้เราออกมาด้านนอก ให้เราข้ามทางเชื่อมไปยังฝั่งขวาของเกาะแล้วเข้าไปในพีระมิดทางขวาบน เข้าไปคุยกับวิญญาณด้านในแล้วเราจะได้ King’s Key กลับไปพีระมิดทางซ้ายบนแล้วสำรวจพีระมิดเล็กด้านใน กุญแจที่ได้จะทำให้น้ำลดลงไป ออกไปด้านนอกจะพบว่าน้ำหายไปจนหมด ให้เราไปฝั่งขวาของเกาะแล้วกระโดดลงไปตรงจุดที่น้ำลด เข้าพีระมิดที่อยู่ด้านล่างจะพบกับวิญญาณสุดท้าย คุยกับเขาแล้วประตูสุดท้ายจะเปิด ออกจากพีระมิดแล้วให้เราเดินไปทางขวา เข้าประตูไปแล้วสำรวจประตูสีแดง ลากเส้นเป็นรูปฟันแล้วประตูจะเปิด เดินหน้าไปเรื่อยๆเราจะเข้าสู่ Mutoh's Temple ได้
       
      Dungeon Six Mutoh's Temple
       
      ที่นี่จะมีกับดักเยอะมาก และเป็นสถานที่ที่ต้องใช้ฝีมือในการเล่นสูงมาก วิ่งขึ้นไปด้านบนแล้วใช้แท่นเลื่อนจนไปถึงทางซ้ายแล้ว ก่อนเดินหน้าให้เราใช้บูมเมอแรงไปยังสวิทซ์ทางขวา พอปล่อยบูมเมอแรงแล้วให้เรารีบวิ่งขึ้นไป ก่อนที่ทางเชื่อมจะหายไป เดินขึ้นไปด้านบนอีกประตูจะปิด ให้เราจัดการโครงกระดูกแล้วให้เราเหยียบสวิทซ์ด้านบนสุด กลับมาจุดเริ่มต้นแล้วมายืนตรงสวิทซ์ วิ่งขึ้นไปด้านบนแล้ว (ทางเล็กๆ) วางระเบิดทางไว้ กลับมาที่สวิทซ์แล้วฟัน (หรือจะยืนตรงผนังที่เปิดแล้วใช้บูมเมอแรงก็ได้) พอมีทางเชื่อมปรากฏให้เรารีบข้ามทางเชื่อมไป (ระวังกับดักที่พื้นด้วย) พอข้ามมาได้แล้วให้เราวิ่งขึ้นไปด้านบน จัดการโครงกระดูกให้เรียบร้อยแล้วให้เราไปเหยียบสวิทซ์ด้านบน พอหนามหายไปให้เราลงไปชั้น B1 วิ่งไปทางขวาแล้ววิ่งลงมาด้านล่าง ขึ้นบันไดด้านล่างสุดกลับมาชั้น 1F ขึ้นบันไดต่อไปชั้น 2F วิ่งไปทางขวาแล้วให้เราหาทางลงไปด้านล่างสุด ขึ้นบันไดไปชั้น 3F แล้วจัดการศัตรูให้หมด สำรวจกล่องด้านบนแล้วเราจะได้ HAMMER มาใช้
       
      ลงบันไดมาแล้วใช้ค้อนทุบสวิทซ์ที่พื้นแล้วประตูจะเปิด เดินหน้าไปเราจะพบกับคานดีด ยืนด้านหนึ่งแล้วใช้ค้อนทุบอีกด้านหนึ่งแล้วเราจะถูกดีดขึ้นไปด้านบน ใช้คานดีดขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด (ค้อนใช้จัดการเจ้าตัวมีกระดองได้ดีมาก รวมถึงโครงกระดูกด้วย) กระโดดลงทางขวาแล้วลงบันไดไปชั้น 1F เดินลงไปด้านล่างแล้วทุบสวิทซ์ที่พื้นแล้วประตูทางซ้ายจะเปิด ให้เราลงบันไดไปชั้น B1 วิ่งไปทางซ้ายแล้วผลักก้อนหินทางซ้ายไปพังก้อนหินทางขวา เดินขึ้นไปด้านบนแล้ววิ่งไปทางซ้าย จัดการโครงกระดูกแล้วทางจะเปิด ให้เราลงบันไดไปชั้น B2 ทับสวิทซ์ที่พื้นทั้ง 2 อันแล้วเดินตามหนามไป เดินลงมาด้านล่าง รอแท่นเลื่อนมาแล้วกระโดดไปยืนบนแท่นเลื่อน ใช้ค้อนทุบสวิทซ์และพวกหัวโครงกระดูกให้หมด ขึ้นฝั่งทางขวาแล้วขึ้นบันไดไปสำรวจกล่องจะได้กุญแจ ขึ้นบันไดทางขวาแล้วให้เราเหยียบสวิทซ์ด้านบน เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเปิดประตูที่ล็อค ใช้ค้อนทุบพีระมิดอันเล็กให้มันหงายแล้วน้ำจะลด กระโดดลงไปด้านล่างแล้ววิ่งไปทางซ้าย เราจะพบกับบล็อกสีที่พื้น เราจะต้องทำให้เป็นสีแดงให้หมดทั้ง 9 อัน เรียบร้อยแล้วประตูด้านล่างจะเปิด เดินลงไปด้านล่างแล้วใช้ค้อนทุบคานดีด พอถึงด้านบนแล้วให้เราใช้ธนูยิงไปที่พีระมิดที่คว่ำอยู่ พอมันหงายน้ำถูกเติมเต็ม
       
      วิ่งลงมาด้านล่างแล้ววิ่งไปทางขวา ทำให้บล็อกเป็นสีแดงทั้งหมดแล้วประตูจะเปิด ให้เรายิงธนูไปที่พีระมิดเพื่อทำให้น้ำลด เรียบร้อยแล้วให้เราวิ่งไปทางขวา กระโดดลงไปด้านล่างแล้วลงบันไดไปชั้น B2 วิ่งไปทางขวาแล้วทำให้บล็อกกลายเป็นสีแดงให้หมด ข้ามไปทางขวาแล้วขึ้นบันไดไปชั้น B1 วิ่งไปทางขวาแล้วใช้คานดีดขึ้นไปด้านบนสุด ใช้บูมเมอแรงกับสวิทซ์ธนูทางขวาเพื่อให้มันหันลงไปด้านล่าง ยิงธนูไปที่สวิทซ์ธนูแล้วน้ำจะถูกเติมเต็ม ข้ามไปทางขวาแล้วใช้ธนูยิงที่สวิทซ์ธนูอีกครั้งเพื่อทำให้น้ำลด เราจะต้องทุบบล็อกสีด้านบนให้เหมือนกับบล็อกสีด้านล่าง ทำสำเร็จแล้วประตูจะเปิด กระโดดลงไปด้านล่างแล้วใช้คานดีดขึ้นไป 1 ครั้ง วิ่งไปทางซ้ายแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง เดินไปตามทางแล้วผลักก้อนหินไปไว้ที่คานดีด ใช้ค้อนทุบคานดีดแล้วก้อนหินจะลอยขึ้นไปด้านบน ให้เราลอยตามก้อนหินไปแล้วผลักก้อนหินไปทางขวา เดินไปทางขวาแล้วสำรวจกล่องจะได้กุญแจ ใช้คานดีดใกล้ๆขึ้นไปด้านบนแล้ววิ่งไปทางขวา เปิดประตูล็อคทางขวาสุดแล้ววิ่งไปตามทาง ใช้ค้อนทุบก้อนหินจนไปถึงด้านบนสุด ผลักก้อนหินไปทางซ้ายเพื่อทำลายก้อนหินอีกอันหนึ่ง เดินไปทางซ้ายสำรวจกล่องแล้วจะได้ Boss Key กระโดดลงไปด้านล่างแล้วลงบันไดไปชั้น B2  วางกุญแจไว้บนแท่นเลื่อน แล้วใช้ค้อนทุบพวกโครงกระดูกให้หมด พอขึ้นฝั่งทางซ้ายแล้วให้เราใช้ Boss Key พอประตูเปิดให้เราใช้คานดีดจนขึ้นไปด้านบนสุด ลงบันไดไปชั้น B3 วิ่งขึ้นไปด้านบนแล้วสำรวจป้ายจะมี Warp Point ออกมา เข้าไปในถ้ำด้านบนเราจะพบกับหัวหน้าของที่นี่แล้ว
       
      EOX, Ancient Stone Soldier
       
      เจ้าตัวนี้สนุกดี ให้เราใช้คานดีดลอยขึ้นไป จังหวะที่ลอยอยู่ให้เราใช้ค้อนกับจุดตรงข้อต่อ ทำลายเกราะให้หมดแล้วจะมีจุดขึ้นตรงลำตัว ใช้คานดีดลอยขึ้นไปแล้วใช้ค้อนทุบให้เป็นสีแดงให้หมดแล้วร่างกายของมันจะพังทลาย ใช้คานดีดขึ้นไปบนหัวแล้วฟันคริสตัล พอจัดการมันได้เวลาใน Phantom Hourglass จะเพิ่มขึ้นอีก สำรวจกล่องแล้วจะได้ Heart Container ลงบันไดเราจะพบกับ King Mutoh คุยกับเขาแล้วเราจะได้ Aquanine มา
       
      The Phantom Sword
       
      กลับไปที่เรือแล้วให้เราไปที่ Zauz's Island เข้าไปในบ้านด้านบนแล้วคุยกับ Zauz เขาจะนำแร่ทั้ง 3 ชนิดไปถลุงเป็น Phantom Sword ให้เรา กลับมาที่เรือแล้วอ่านจดหมายของ Jolene อ่านจบแล้วให้เราขึ้นเรือแล้วล่องเรือไปหา Jolene ไม่ต้องคิดมากให้เราเข้าไปชนเลย จัดการ Jolene ด้วยดาบแล้วเธอจะหนีไป ทีนี้ Linebeck จะเริ่มเล่าแล้วว่าทำไมเธอถึงได้แค้นฝังหุ่นนัก กลับไปหา Zauz แล้วเขาจะให้เราไปหา Oshus ไม่เป็นไรให้เราล่องเรือไปที่ Mercay Island เข้าไปหา Oshus แล้วเขาจะนำตัวดาบและ Phantom Hourglass มารวมกัน แล้วเราจะได้ Phantom Sword มาใช้ ทีนี้เราสามารถจัดการเหล่า Phantom ได้แล้ว ออกจากที่นี่แล้วให้เรามุ่งหน้าไปที่ Temple of the Ocean King ระหว่างทางเราจะพบกับ Linebeck คุยกับเขาแล้วให้เราเข้าไปใน Temple of the Ocean King ได้
       
      Final Part the Temple of the Ocean King
       
      ที่นี่ไม่สถานที่ยากเย็นอะไรแล้ว ถึง Phantom จะสู้ด้านหน้าได้ยาก แต่ถ้าเราอยู่ใน Safe Zone มันก็ยังมองไม่เห็นเราอยู่ดี เพราะฉะนั้นพอมันหันหลังกลับให้เราฟันด้านหลังมันทันที ส่วนเจ้า Golden Phantom ให้เราไปยืนด้านหลังตอนมันหายตัวมาหา พอปรากฏกายเต็มตัวก็ฟันได้เลย หรือจะใช้วิธีค่อยๆเดินเข้าไปฟันหลังหรือยิงธนูใส่เพื่อให้มันงงก่อนจึ่งค่อยจัดการก็ได้ เรามาที่นี่อย่างน้อยที่สุดก็ครั้งที่ 5 เข้าไปแล้ว เพราะฉะนั้นขอเริ่มที่ชั้น 12 เลย (แบบว่าขี้เกียจเน้อ) ใช้ค้อนทุบแท่นกระโดดให้เราลอยขึ้นไปทางซ้าย จัดการ Golden Phantom แล้วนำ Tri Force Gem ไปใส่ไว้ด้านบน ใช้ค้อนทุบสวิทซ์ทางขวาเพื่อให้หนามที่ขวางอยู่หายไป เข้าไปสำรวจกล่องแล้วนำ Tri Force Gem ไปใส่ไว้ยังที่ของมัน สำรวจกล่องทางซ้ายบนของฉาก แล้วนำ Tri Force Gem อันสุดท้ายไปใส่ไว้ พอลงไปชั้น B13 แล้วพวก Phantom จะปรากฏกายออกมาต้อนรับ เดินไปทางขวาแล้วถือไหสีแดงไว้ เดินลงมาด้านล่างแล้วลงบันได ปาไหสีแดงลงไปด้านล่างแล้วเข้าไปใน Safe Zone ตรงนี้จะมี Phantom ทั้งหมด 3 ชุด (มาครบทั้ง 3 สีนะแหละ) พอจัดการครบทั้ง 9 ตัวแล้วให้เราเข้าประตูไป เดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆก็จะพบกับต้นตอของเรื่องเลวร้ายทั้งหมดแล้ว
       
      BELLUM, Evil Phantom
       
      ใช้ Hook ดึงพิษที่อยู่รอบๆตัวของมันออกมาให้หมด แล้วใช้ Hook ดึงตัวของมันเข้ามาหาเรา กระหน่ำฟันมันไม่ยั้ง พอมันจมลงไปแล้วมันจะลอยขึ้นไปด้านบน ให้เราขึ้นบันไดไปด้านบน ใช้ธนูยิงหนวดที่มีแสงของมันจนมันตกลงไปข้างล่าง ลงบันไดไปแล้วใช้ Hook ดึงพิษรอบตัวของมันออกให้หมดอีก ใช้ Hook ดึงมันมาหาแล้วกระหน่ำฟันตามเดิม พอมันจมน้ำไม่ต้องรอดูผล ให้เราขึ้นบันไดไปรอที่ชั้น 2 ใช้ธนูยิงที่หนวดของมันตามเดิม แต่คราวนี้มันไม่ตกลงไปข้างล่าง ให้เราขึ้นบันไดไปชั้น 3 ใช้ธนูยิงที่หนวดของมันอีก แต่คราวนี้มันจะไม่แค่ตกลงไปข้างล่างแล้ว มันจะคายครามทรงจำของ Oshus ออกมา Ciela จะมีพลังของ Spirit of Time เพิ่มขึ้นมาอีก ลงไปด้านล่างแล้วเราจะได้พลังในการหยุดเวลามาใช้ (วาดเป็นรูปนาฬิกาทราย) Ciela จะปล่อยพลังที่ชื่อว่า Phantom Spheres ออกมา เก็บแล้วจะสามารถหยุดเวลาได้อีก หยุดเวลาแล้วจัดการมันให้ราบคาบ พอมันตกลงไปในน้ำพิษแล้ว ให้เราดู Cut Scene ไป
       
      Possessed Ghost Ship
       
      Bellum จะจับตัว Tetra ไปและเข้าไปสิงใน Ghost Ship ให้เรายิงไปที่ดวงรารอบเรือ แล้วคอยยิงก้อนสีม่วงด้วย อาจจะยากลำบากและอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย เมื่อจัดการมันได้แล้วเราจะขึ้นไปตัดสินขั้นเด็ดขาด แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ Linebeck ถูก Bellum เข้าสิง จะจัดการไปทั้งคู่เลยจะได้ไหมเนี่ย
       
      PHANTOM KNIGHT, Possessed Linebeck
       
      ต่อสู้ธรรมดาด้วยดาบจนมันบาดเจ็บแล้วเราจะได้ Phantom Spheres หยุดเวลาแล้วเข้าไปฟันด้านหลังของมัน แต่ครั้งแรกดวงตาของมันจะยังไม่เปิด เลยไม่สามารถสร้างความบาดเจ็บแก่มันได้ สู้ด้วยดาบจนกว่าจะได้ Phantom Spheres มา อย่าเพิ่งหยุดเวลา ให้เรารอจนดวงตาด้านหลังเปิดก่อนจึงค่อยหยุดเวลา เข้าไปฟันด้านหลังของมันจนมันกระเด็นออกไป ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจะสามารถจัดการ Bellum และช่วย Linebeck ได้ นั่งดูฉากจบของการผจญภัยในครั้งนี้ได้แล้ว
       
      GameSpot Review
       
      มันเป็นคำถามที่ชวนให้ประหลาดใจเสมอๆ แต่อย่างไรก็ตามเครื่อง NDS ก็มีอายุเกือบๆจะ 3 ขวบแล้ว The Legend of Zelda: Phantom Hourglass เพิ่งจะลงมาจุติเป็นภาคแรกของเครื่องนี้ ข่าวดีก็คือมันมีคุณค่าพอกับการรอคอย Phantom Hourglass เป็นเกมภาคต่อของ The Wind Waker ในเครื่อง GameCube มันยังคงเอาไว้ซึ่งงานศิลป์ สภาพของโลก และการดำเนินเรื่องของเกม แต่มีการแก้ไขให้สามารถเล่นได้กับเครื่อง NDS เป็นผลให้เกมนี้เป็น Zelda ที่มีความชัดเจน ประกอบด้วย Dungeon ที่อันตราย ปริศนาที่มีเล่ห์เหลี่ยม และการต่อสู้กับหัวหน้าฉากที่มีเสน่ห์ Phantom Hourglass มีลักษณะพิเศษเฉพาะและมีนวัตรกรรมที่ทำให้มันแตกต่างจากภาคอื่นๆ นั่นก็คือการควบคุมด้วย Touch Screen ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องทำภายในเกมนี้ ก็คือการจิ้มและการลาก Stylus เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้และการแก้ปริศนา มันสดใหม่และพิเศษจนทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดในการเล่นเกม Zelda ที่ผานมา
       
      Phantom Hourglass เกือบจะนำทุกสิ่งทุกอย่างของ The Wind Waker มาทั้งหมด Link ออกทะเลกว้างกับผองเพื่อน ซึ่งรวมถึง Tetra ผู้ซึ่งละทิ้งชีวิตของ Zelda แล้วเลือกเส้นทางชีวิตอันแสนสนุกสนาน ในขณะที่ลูกเรือกำลังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรือผีสิงอันแสนน่ากลัว แต่ใจความสำคัญของเรื่องนี้ อยู่ที่ภายในเรือผีสิงมีสมบัติรอคอยทุกคนอยู่ แต่มันก็ทำให้ผู้ที่ที่กลิ่นตัวอันแสนโลภหายสาบสูญไปนักต่อนัก และขณะที่กำลังเล่าเรื่องนี้อยู่เรือผีสิงลำนี้ก็ปรากฏขึ้น และ Tetra ได้กระโดดขึ้นไปสำรวจมัน โชคร้ายที่เสียงร้องแหลมสูงนั้นได้ดังขึ้น มันเหมือนเป็นสัญญาณของความผิดพลาด เรือผีสิงเริ่มเคลื่อนที่เข้าไปในหมอก Link ก็รีบกระโจนตามหลังไป แต่สุดท้ายก็ตกลงไปในน้ำ ในท้ายที่สุดเขาได้ตื่นขึ้นมายังชายฝั่งของเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการอธิบายถึงการหายไปของความสามารถและเครื่องมือต่างๆ อย่างไรก็ตามเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อจาก The Wind Waker ตามลำดับ
       
      หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว เราจะได้พบกับ Fairy ที่สูญเสียบางสิ่งไป เธอได้นำเราไปพบกับผู้เฒ่าที่อธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับเรือผีสิง และยังคอยเตือนถึงสิ่งที่เราจะต้องทำ เมื่อค้นหาดาบได้แล้วเราจะต้องเรียนรู้พื้นฐานของการต่อสู้ คิดว่าต้องเรียนรู้มากมายอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่เลย การนำเกม Zelda มาสร้างลงเครื่อง NDS นั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง ระบบการควบคุมไม่ยุ่งยากเลย เราเพียงแค่จิ้มแล้วลากไปบนหน้าจอ Touch Screen เท่านั้น การวิ่งของ Link ก็ให้เราลากไปยังเส้นทางที่เราต้องการไป ถ้าเราจิ้มที่ศัตรูเราจะกระโดดเข้าไปฟันอย่างเร็ว ท่วงท่าการเคลื่อนไหวก็ตอบสนองได้รวดเร็ว และถ้าเราวาดวงกลมรอบๆตัว Link เราก็จะได้ท่า Spin Attack มาใช้ ขณะวิ่งถ้าเราวาดวงกลมเล็กๆ Link ก็จะม้วนตัว ทั้งหมดฟังดูดีและง่าย แถมยังใช้งานได้ดีสมกับที่หวังไว้ แต่ก็มีบ้างที่ดันหมุนผิดทิศจนต้องตกน้ำ (หรือตกเขา) หรือฟันเข้ากับอะไรก็ตามในขณะที่เราต้องการกลับตัว อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่จะนำมากล่าวถึง อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะนี่คือการควบคุมที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
       
       เกมนี้จะไม่น่าสนใจเอาเสียเลย ถ้าทั้งหมดนั้นเราทำเพียงแค่วิ่งไปรอบๆ แล้วจิ้มไปยังศัตรูเพื่อจัดการเขา โชคดีที่เราจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น นอกจากการใช้ดาบอันเป็นพื้นฐานแล้ว เรายังต้องเรื่องยุ่งมากมายเกี่ยวกับระบบของเครื่อง NDS อย่างการผิวปากหรือตะโกนใส่ไมโครโฟนด้วยเหตุผลต่างๆกัน เราจะได้ใช้ไอเทมที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของ Link ไปตลอดทั้งเกม ไม่ว่าจะเป็น Bomb, Bombchu (มันคือระเบิดเคลื่อนที่ ที่จะพุ่งไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว), Bow, Boomerang และ Hookshot ทั้งหมดนี้เอาไว้จัดการศัตรูในรูปแบบต่างๆกัน สิ่งของต่างๆนั้นเป็นที่คุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความพิเศษของเครื่อง NDS จะทำให้เราได้รับความรู้สึกใหม่ๆ ยกตัวอย่างการใช้บูมเมอแรง เราสามารถวาดเส้นทางการไปของมันได้ เหมือนๆกับ Bombchu ที่เราสามารถเขียนให้มันวิ่งไประเบิดใส่เป้าหมายได้ Hookshot เราสามารถใช้มันข้ามเหวลึก หรือนำมันมาขึงระหว่างเสาทั้ง 2 เพื่อให้เราไต่ข้ามไป และสามารถใช้มันดึงเอาพวกไฟของศัตรูออกไปได้ด้วย
       
      สิ่งของทั้งหมดที่ถูกซ่อนอยู่ในเกมและการออกแบบปริศนา ไม่ได้เด่นชัดหรือซับซ้อนไปกว่าการผจญภัยของ Link ที่ผ่านๆมา Phantom Hourglass ได้บรรจุความท้าทายไว้มากมาย และความสนุกของการผ่านฉากที่ไม่สามารถเดินเอ้อละเหยลอยชายได้ ทั้งหมดนั้นเราจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ไอเทมเพื่อแก้ปริศนา แฟนเกม Zelda ที่มีประสบการณ์สูงส่ง จะค้นพบว่า Phantom Hourglass ไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายเท่ากับภาคที่ผ่านๆมา คงเพราะว่าฉากแต่ละฉากนั้นขาดความซับซ้อน เพราะเราจะต้องเดินย้อนกลับไปกลับมาบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าที่บอกมานั้นไม่สนุกอย่างที่คิด พวกเขายังคงทำให้ภาคนี้เป็น Zelda ที่สนุกสนานเหมือนภาคอื่นๆ เพราะมันอุดมไปด้วยปริศนาที่ดึงดูดใจและทำให้ยุ่งยากตลอดทาง แต่สิ่งที่จริงแท้ทั้งหมดเลยก็คือความตื่นเต้นในขณะต่อสู้กับหัวหน้าฉาก ที่เราจะได้ใช้ทั้ง 2 จอของเครื่อง NDS เลย
       
      ตลอดของการเล่นใน Dungeon เราสามารถเขียนโน้ตหรือวาดเส้นทางการผ่านของเราลงในแผนที่ได้ ฟังเหมือนเป็นสิ่งเล็กๆที่ใส่เพิ่มเข้ามา แต่ต่อไปมันจะเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นที่ถูกใส่เข้ามาในเกม Zelda ตลอดไป ความเรียบง่ายที่เกิดขึ้นจะช่วยให้เราผ่านเส้นทางล่องหน และบอกรายละเอียดของประตูที่เราเจอ การเขียนลำดับของสวิทซ์ที่เราจะต้องกด และต้องทำให้เหมือน คุณูปการอันใหญ่หลวงนี้ได้ขจัดการหลงทางหรือการเดินโดยไร้จุดหมายออกไปโดยสิ้น
       
      ความน่าสนใจไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เราสามารถได้แผนที่ถ้ำหรือแผนที่เกาะได้จากการเดินสำรวจหรือเก็บมันได้ แผนที่เดินทะเลใหม่จะทำให้เราสำรวจโลกได้กว้างมากขึ้น นี่เป็นผลผลิตจากภาค The Wind Waker เราจะล่องเรือจากเกาะสู่เกาะได้ แต่ก็ไม่เหมือน The Wind Waker เพราะมันไม่ต้องหมกมุ่นหรือจริงจังมากนัก เราเพียงแค่วาดเส้นทางการเดินเรือลงในแผนที่ และเรือก็จะเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายโดยอัตโนมัติ ขณะที่เรือกำลังเคลื่อนที่อยู่ เราจะยิงปืนใหญ่ใส่พวกสัตว์ประหลาดหรือเรือโจรสลัดก็ได้ (หรือพวกสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์แล้วแต่โอกาส) เรามีเครื่องมือจับพิเศษที่สามารถนำมากู้สมบัติที่จมน้ำได้ การกู้สมบัติก็เป็นหนึ่งใน Mini Game ของ Phantom Hourglass เราจะต้องบังคับแขนกลลงไปใต้น้ำ และนำสมบัติกลับขึ้นมา โดยหลบหลีกทุ่นระเบิดและอุปสรรค์ต่างๆให้ได้
       
      การล่องเรือถูกลดบทบาทลงกว่าภาค The Wind Waker ลงมาก มันง่ายและไม่เสียเวลามากอีกแล้ว อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความผิดพลาดอยู่เลย เพราะความผิดพลาดใหญ่หลวงนั้นอยู่ที่ Temple of the Ocean King ฉากแรกที่เราได้เข้าไปเผชิญ และฉากเดียวที่เราจะต้องกลับมาแล้วกลับมาอีกระหว่างการเล่นเกม มันไม่ใช่ฉากที่เลวร้าย และมันก็อุดมไปด้วยความท้าทาย มีเจ้า Phantom ที่เราไม่สามารถจัดการได้ และคอยพิทักษ์ฉากนี้โดยการไล่ขยี้เราอย่างไม่ลดละ เราจะต้องเข้าไปหลบใน Safe Zone เพื่อหลบสายตาสอดสายของพวกมัน หรือมี Phantom Hourglass อยู่ในมือ (มีเป็นสิ่งของที่ป้องกันเราจากพิษร้ายของฉากนี้ แต่ก็แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก่อนทรายจะไหลลงสู่ก้นกระบอกจนหมด)
       
      ปัญหามันจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เรากลับเข้ามาใหม่ เพราะเราจะต้องผ่านสถานที่ที่เราเคยผ่านมาแล้ว ทำทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม (หรือแตกต่างเพียงน้อยนิด) เพื่อไปให้ถึงจุดที่เราต้องการ สิ่งของที่ได้ระหว่างการเล่นเกมเช่น Bomb หรือ Hookshot จะทำให้การผ่านไปยังชั้นต่อไปง่ายขึ้น และพอเล่นไปได้ครึ่งหนึ่งเราสามารถสร้าง Warp Point ขึ้นมาได้ ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาของครึ่งแรกผ่านไปครึ่งหลังได้เลย แต่ไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าเราจะต้องเล่นซ้ำอีกครั้งหลังอีก มันเป็นสิ่งน่าเบื่อที่ทำให้รู้สึกว่าถูกใส่เข้ามาเพื่อทำให้เกมมันยาวขึ้น และเหมือนกับว่ายังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่
       
      แต่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความผิดพลาดหนึ่งเท่านั้น Phantom Hourglass ยังมีเนื้อเรื่องหลักที่ลุ่มลึกน่าติดตามคอยป้อนคุณทุกขณะที่เล่น เราสามารถจบเกมนี้โดยใช้เวลา 14-15 ชั่วโมง ถ้าเราไม่ออกค้นหาสมบัติและเกาะที่สาบสูญ แต่เราจะออกค้นหา เพราะว่ามันได้ถูกร้อยเรียงออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
       
      งานภาพที่แยกต่างจากภาคอื่นๆ คือสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากเหลือเกิน มันยากที่จะเชื่อว่า NINTNDO ได้ลดระดับของงานภาพลง ถึงจะไม่ได้หรูหราถ้าเทียบกับภาค The Wind Waker แต่มันก็ทำได้ดีมากเมื่ออยู่กับเครื่อง NDS นี้ มันก็ใช่ ที่ต้องลดทอนหลายสิ่งหลายอย่างในการสร้าง ตัวละครไม่ได้ดูชุดเจนหรือมีสีจัดจ้าน และโลกใบนี้ก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่ากว้างใหญ่ แต่เรายังอยากอยู่ในโลกใบนี้ และมันมีทุกสิ่งทุกอย่างที่น่าตื่นเต้น จากการเปิดตัวด้วยการ์ตูนภาพที่น่าขัน และการแสดงออกทางสีหน้าของตัวละคร ถึงความงดงามของทิศทัศน์ระหว่างที่เราล่องเรืออยู่ เกมนี้ได้อยู่ในระดับสูงสุดของงานศิลป์บนเครื่อง NDS สิ่งหนึ่งที่อย่างให้จดเอาไว้ เมื่อเราได้เข้าไปท่องในเกาะหรือถ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวนั้นได้สมดุล มันไม่ได้ดูแตกต่างจากเกม Zelda ที่ผ่านๆมาเลย ตัวละครทุกตัวในเกมและสิ่งแวดล้อมคือภาพแบบ 3D แต่การทำให้กล้องอยู่คงที่นั้น ถือเป็นความคิดที่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว
       
      ท้ายที่สุด The Legend of Zelda: Phantom Hourglass คือสิ่งสุดยอดและดีงาม เมื่อคุณต้องการสัมผัสสัมผัสเกมแรกของตระกูลในเครื่อง NDS มันยังมีปัญหาเล็กน้อยและหลายคนยังคงต้องการการบังคับในแบบเดิมๆ และขอให้นำเอาการบังคับแบบเฉพาะของเครื่องนี้ออกไป แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อมันหรือเกลียดการควบคุมโดย Touch Screen คุณจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเลยทีเดียวเมื่อคุณได้ลองเล่นเกมนี้ Phantom Hourglass ใช้วิธีการควบคุมที่แตกต่างจาก Zelda แบบปกติ การออกแบบจะต้องยากและใช้ความคิดสร้างสรรค์แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกชื่นชมในจุดนั้น จะมีสักกี่เกมที่สามารถใช้การควบคุมโดย Touch Screen ได้ดีอย่างที่ Phantom Hourglass ทำได้ มันคือสิ่งที่คนที่มีเครื่อง NDS จะต้องเล่น (You Must Play)

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×