ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :SHORT FIC: MARKIL MARK x TAEIL NCT SMROOKIES

    ลำดับตอนที่ #1 : :Forbidden love:

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      4
      10 เม.ย. 59

    :Forbidden love: markil

     

     

     

                    ความฝันของมุนแทอิลคือการได้เป็นครู ครูที่ให้ความรู้คำสั่งสอนแก่เด็กนักเรียน เป็นครูที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนที่อยู่ในความดูแลความปกครอง และความฝันของแทอิลก็เป็นจริงที่วันนี้แทอิลสอบบรรจุครูติดและได้เข้ามาสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในโซล

                    ย่างก้าวเดินเข้ามาในโรงเรียนมัธยมปลายซูซอนที่เปี่ยมเต็มไปด้วยความภูมิใจ รอยยิ้มภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นครูของโรงเรียนแห่งนี้ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขความดีใจที่จะได้เป็นครูอย่างที่ฝันตั้งแต่เด็กๆของแทอิล

                    สายตาของแทอิลนั้นมองดูเด็กๆด้วยความเอ็ดดู รอยยิ้มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ได้เห็นเด็กนักเรียนนั้นต่างทำกิจกรรมของตัวเองในยามเช้านี้ บ้างคนก็นั่งคุย เล่นฟุตกันตั้งแต่เช้าเมื่อมาถึงโรงเรียน ในช่วงชีวิตม.ปลายของแทอิลนั้นก็ไม่ต่างจากเด็กนักเรียนสักเท่าไรหรอก

                    แทอิลเดินดูเด็กๆอยู่ไม่ทันได้เห็นว่านักเรียนชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาชนจังๆทำให้หนังสือของแทอิลนั้นตกกระจัดกระจายกับพื้นจนแทอิลต้องหันมามองนักเรียนชายที่วิ่งเข้ามาชนและส่ายหน้ากับเด็กนักเรียนคนดังกล่าวที่วิ่งซนจนไม่ดูท่า

                    “อาจารย์ครับผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ”กลัวจะโดนดุโดนทำโทษนักเรียนคนดังกล่าวรีบกล่าวขอโทษและช่วยแทอิลเก็บหนังสือที่จะสอนวันนี้

                    “ทีหลังก็อย่าวิ่งแบบนี้อีกแล้วกัน”แทอิลไม่ได้ดุแค่ตักเตือน

                    “ครับอาจารย์”นักเรียนขานรับพลางยิ้มบางๆ “อาจารย์เป็นอาจารย์ใหม่หรอครับ”แทอิลพยักหน้าน้อยพร้อมกับยิ้มบางๆให้กับนักเรียนที่เอ่ยถาม

                    “ผมหวังว่าจะได้เรียนกับอาจารย์นะครับ”แทอิลได้แต่ยิ้มให้กับนักเรียน “ผมเข้าห้องเรียนก่อนนะครับอาจารย์ เดี๋ยวลอกการบ้านเพื่อนไม่ทัน”มีการมาบอกว่าจะไปลอกการบ้านเพื่อนอีก แทอิลได้แต่ยิ้มให้กับนักเรียนที่ดูจะซ่าและแสบไม่น้อย

                    แทอิลได้แต่ยิ้มมองตามนักเรียนคนดังกล่าวและเดินถือหนังสือมายังห้องพักครูที่ทางฝ่ายหัวหน้าครูได้จัดการเตรียมไว้ให้กับอาจารย์ใหม่เรียบร้อยแล้ว แทอิลทักทายแนะนำตัวกับอาจารย์อาวุโสของโรงเรียนอย่างสุภาพอ่อนน้อมกับอาจารย์ทุกท่าน ให้ความเคารพนับถือกับอาจารย์อาวุโสที่อยู่มานานหลายปี

                    “นี่คือสมุดรายชื่อประจำชั้นเด็กมอห้าห้องสามนะคะ อาจารย์จะต้องเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้กับห้องนี้จนเด็กๆจบมอหกเลยนะคะ”หัวหน้าครูเดินเข้ามายื่นสมุดรายชื่อเด็กห้องมอห้าแทอิลนั้นจะต้องเป็นครูที่ปรึกษาไปจนจบการศึกษาของเด็กห้องนี้

                    “ครับอาจารย์อี”แทอิลรับสมุดมาด้วยรอยยิ้ม

                    “เหนื่อยหน่อยนะคะกับการเป็นที่ปรึกษาให้กับเด็กห้องนี้”แทอิลมองอาจารย์ด้วยแววตาสงสัย “เด็กห้องนี้ถือว่าแสบไม่ใช่น้อย แต่ล่ะคนทั้งแสบทั้งซ่าส์จนอาจารย์คนเก่าๆต้องถอนใจของลาออกจากการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาห้องนี้กันทุกคน”อาจารย์อีเล่าวีรกรรมของเด็กมอห้าห้องสามอย่างเหนื่อยใจ “งานนี้อาจารย์แทอิลคงต้องเหนื่อยทำงานหนักหน่อยนะคะ”

                    “เข้ามาวันแรกก็เจองานหินเลยนะครับอาจารย์แทอิล”อาจารย์ยองโฮ อาจารย์อีกคนเดินเข้ามา “ผมว่าถ้าอาจารย์ไม่ไหวก็ถอนตัวได้นะครับ”

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าผมถอนตัวไม่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้กับพวกเขา แล้วจะมีใครไปเป็นอาจารย์ให้กับพวกเขาล่ะครับ”แทอิลมองหน้าอาจารย์ยองโฮและอาจารย์อีที่รู้ดีว่าคงไม่มีอาจารย์ท่านไหนจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้กับนักเรียนห้องนี้

                    “เด็กใหม่ก็ไฟแรงแบบนี้แหละ แต่ถ้าไม่ไหวอาจารย์บอกดิฉันได้นะคะ”

                    “ครับอาจารย์อี”แทอิลบอกด้วยรอยยิ้มที่เขานั้นมั่นใจตัวเองได้ว่าเขานั้นจะทำหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษาให้กับนักเรียนมอห้าห้องนี้ได้ด้วยดี

     

                    ถึงแม้ว่าอาจารย์ท่านอื่นจะพูดถึงวีรกรรมความแสบของนักเรียนห้องนี้อย่างไง แต่สำหรับแทอิลนั้นไม่ได้หวั่นใจหรือกลัวเลย เขามั่นใจว่าเด็กห้องนี้เขาสามารถจะอบรมสั่งสอนให้เด็กๆเป็นคนดีได้ ให้กับมาตั้งใจเรียนเหมือนกับห้องอื่นๆ ให้อาจารย์ท่านอื่นเห็นว่าเด็กห้องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด

                    พอเปิดประตูเข้ามาแทอิลกับเจอเด็กๆกำลังวิ่งเล่นโยนของกันไปมาในห้อง ส่งเสียงคุยกันเสียงดังไม่ได้สนใจว่าอาจารย์นั้นเข้ามาในห้องแล้ว แต่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทุกคนในห้องกลับไปนั่งที่ของตัวเอง แทอิลหันไปมองตามเสียงที่สั่งเพื่อนในห้องถึงกับยิ้มบางๆให้กับนักเรียนคนดังกล่าวที่เป็นคนเดียวที่เขาเจอเมื่อเช้า

                    แทอิลเดินเข้ามาที่โต๊ะอาจารย์หน้าห้องและวางหนังสือที่เตรียมจะสอนวันนี้ไว้บนโต๊ะก่อนที่จะแนะนำตัวกับนักเรียน ทำความรู้จักกับนักเรียนในความดูแลของตัวเอง

                    “ครูชื่อแทอิล ครูจะมาเป็นครูที่ปรึกษาให้กับพวกเธอทุกคน” แทอิลบอกด้วยรอยยิ้มที่มองเด็กๆแต่ละคนด้วยแววตาจริงใจ ใจดีเต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กับนักเรียน

                    “ทุกคนได้รู้จักชื่อครูไปแล้ว งั้นครูขอรู้จักชื่อพวกเธอบ้างแล้วกัน รีบจากเธอก่อนแล้วกัน”แทอิลเอ่ยบอกนักเรียนหญิงที่นั่งริมประตูตัวแรกของห้อง

                    แต่ละคนต่างแนะนำตัวเองให้กับอาจารย์ใหม่รู้จัก จนมาถึงคนสุดท้ายที่นั่งหลังสุดแทอิลมองเด็กนักเรียนคนดังกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างสนใจ

                    “ผมชื่อมาร์ค ลีครับอาจารย์”มาร์คแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มให้กับอาจารย์ใหม่ สิ่งที่เขาพูดไว้เมื่อเช้ากับอาจารย์คนใหม่ก็เป็นอย่างที่หวังที่จะได้เรียนกับอาจารย์ใหม่สักที

                    มาร์คแนะนำตัวเองเสร็จก็นั่งลงเหมือนเดิม แทอิลก็เริ่มพูดทำความเข้าใจกับเด็กนักเรียนในห้องทั้งเรื่องเรียนในปีนี้ การสอนในปีนี้ที่ทุกคนจะต้องเรียนถึงแม้นักเรียนในห้องจะนั่งฟังกันอย่างไม่สนใจ เบื่อหน่ายก็ตามแต่แทอิลยังทำหน้าที่ครูที่ดีให้กับนักเรียน ไม่ได้โมโหหรือหงุดหงิดใส่นักเรียนที่ไม่สนใจฟัง แทอิลคิดว่าเขาจะรีบร้อนรุกเร้าเด็กๆไม่ได้ จะต้องค่อยๆละลายพฤกติกรรมของเด็กๆลงให้เด็กๆยอมรับในตัวเขาเองถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานก็ตาม แต่มันก็เป็นวิธีดีที่สุด

                    ชั่วโมงแทอิลเริ่มสอนนั้นยังไม่เน้นอะไรมาก ยังคงเป็นเรื่องง่ายๆเน้นการพูดคุยทำความรู้จัก ความเข้าใจกับนักเรียนในห้องไปในตัว แทอิลอยากให้นักเรียนเห็นว่าเขานั้นสามารถเป็นทั้งเพื่อนและครูได้ในเวลากัน สามารถจะมาปรึกษาทุกอย่างได้ในเวลามีปัญหา

                    “วันนี้ครูจะยังไม่สั่งการบ้านของพวกเธอ”ทุกคนต่างโห่ร้องอย่างดีใจ “แต่คาบต่อไปครูจะมีการบ้านให้กับพวกเธอทุกคนแน่”ทุกคนต่างส่งเสียงโอดครวญ แทอิลได้แต่ยิ้มและเก็บหนังสือของตัวเองที่เตรียมปล่อยให้นักเรียนนั้นเรียนวิชาต่อไป “แค่นี้ก็พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”

                    “ทุกคนทำความเคารพ”หัวหน้าห้องกล่าวนำ    

                    “ขอบคุณครับ/ค่ะ”นักเรียนทุกคนต่างขอบคุณ แทอินนั้นยิ้มให้กับนักเรียนทุกคนและเดินหอบหนังสือเดินออกมาจากห้อง มาร์คนั้นรีบลุกจากโต๊ะวิ่งมาดักรอหน้าห้อง

                    “มีอะไรหรือเปล่ามาร์คลี”แทอิลถามขึ้นเมื่อเห็นนักเรียนเดินมาดักหน้า

                    “เย็นนี้อาจารย์ว่างหรือเปล่าครับ”แทอิลมองมาร์คด้วยเวลาตาสงสัย แต่ก็ตอบออกมา

                    “เย็นนี้ครูว่าง เธอมีอะไรกับครูหรือเปล่า”มาร์คยิ้มอย่างดีใจ

                    “ผมมีเรื่องจะปรึกษากับอาจารย์ครับ อาจารย์จะให้คำปรึกษากับผมได้หรือเปล่าครับ”

                    “ได้ซิ เดี๋ยวเย็นนี้ก็มาหาครูที่ห้องพักครูแล้วกัน เดี๋ยวครูจะรอเธออยู่ที่ห้อง”มาร์คทำหน้ามุ่ย

                    “ที่อื่นไม่ได้หรอครับอาจารย์ ผมไม่อยากไปห้องพักอาจารย์เลย”แทอิลได้ยิ้มขำ

                    “ก็ได้ ไหนเราจะให้ครูไปหาเราที่ไหนบอกมา”

                    “ผมจะรออาจารย์ที่สนามบอลแล้วกัน”

                    “ได้ซิ เย็นนี้เจอกันที่สนามบอล”มาร์คยิ้มอย่างดีใจ “ไปเข้าห้องเตรียมตัวเรียนได้แล้ว”

                    “ครับอาจารย์”ขานรับด้วยรอยยิ้มทะเล้นก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้อง แทอิลมองยิ้มขำแล้วเดินกลับไปยังห้องพักครู

                    “มึงไปคุยกับอะไรอาจารย์มาว่ะไอ้มาร์ค”ดงฮยอคถามขึ้นเมื่อเพื่อนกลับมานั่งที่

                    “ก็ไม่มีอะไรดิ กูแค่มีเรื่องปัญหาอาจารย์เท่านั้นเองมึง”มาร์คบอกออกมาอย่างไม่มีอะไร แต่สำหรับดงฮยอคไม่เชื่อว่าเพื่อนคนนี้จะไม่มีอะไร มันต้องมีอะไรที่ปิดบังเอาไว้แน่ๆ

     

     

     

                    ถึงเวลาเลิกเรียนมาร์คก็ไปนั่งรออาจารย์แทอิลข้างสนามฟุตบอล รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแทอิลก็เดินเข้ามานั่งข้างๆมาร์คที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มาร์คหันมามองอาจารย์แทอิลด้วยรอยยิ้ม

                    “เรามีอะไรหรือเปล่าถึงอยากจะคุยกับครู”แทอิลถามขึ้น

                    “อาจารย์ก็รู้ใช่ไหมว่าห้องผมเป็นห้องเด็กแสบ ไม่มีอาจารย์คนไหนเขาอยากมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษากันหรอก” มาร์คพูดขึ้น

                    “ใครว่า ก็มีครูไงที่อยากเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกเรา ครูยินดีจะเป็นครูที่ปรึกษาให้กับพวกเรารู้ไหม แต่แค่พวกเราต้องให้ความร่วมมือกับครูด้วย”มาร์คถึงกับยิ้มที่ยังมีครูเข้าใจความรู้สึกพวกเขา

                    “ผมดีใจนะครับที่อาจารย์อยากเป็นอาจารย์ของพวกผม ไม่คิดเหมือนกับอาจารย์คนอื่นที่คิดว่าพวกผมเป็นตัวปัญหาของโรงเรียน ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจพวกท่านเลย”

                    “แบบนี้เองซินะที่พวกเธอต่อต้าน ทำตัวเกเร แสบซ่ากันทั้งห้อง”แทอิลพอจะเข้าใจความรู้สึกของนักเรียนในห้องมากขึ้น เมื่อได้คุยกับมาร์ค

                    “อาจารย์รู้ไหมตั้งแต่มีอาจารย์ที่ปรึกษามาไม่เคยมีใครไม่เอาพวกผมไปเปรียบเทียบห้องอื่นเลย เข้ามาก็เข้ามาบ่นเอาพวกผมไปเปรียบเทียบว่าพวกผมทำแบบห้องเอไม่ได้ ทำตัวแบบนี้แล้วจะไปแข่งกับใครได้ จะไปสู้กับห้องอื่นได้อย่างไงกัน ทุกคนเข้ามาพูดแต่เรื่องนี้ตั้งแต่วันแรก แต่อาจารย์เป็นคนแรกที่ไม่พูดถึงเรื่องนี้ ไม่เอาพวกผมไปเปรียบเทียบกับห้องอื่น ไม่บังคับพวกผมถึงแม้ว่าพวกผมจะไม่ตั้งใจเรียนไม่ฟังอาจารย์ก็ตาม แต่อาจารย์ก็ยังพูดดีอธิบายให้พวกผมเข้าใจมากกว่าจะพูดดุว่าดูถูกพวกผม”สิ่งที่มาร์คเล่าระบายออกมาทำให้แทอิลเห็นถึงความแตกต่างของอาจารย์ท่านอื่นในโรงเรียนนี้ที่บ้างคนชอบจะเปรียบเทียบเด็ก เอาเด็กไปเปรียบเทียบกัน ต่อว่าดูถูกเด็กจึงทำให้เด็กนั้นต่อต้านขึ้นมา

                    “ครูรู้ว่าพวกเธอเป็นเด็กดี ไม่ใช่อย่างที่ครูท่านอื่นพูดกันและไม่ได้เป็นอย่างที่ใครคิดด้วย ครูถึงมาเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกเธอโดยไม่ฟังคำพูดว่าพวกนั้นแม้สักนิด”นี้คือความจริงที่แทอิลนั้นคิดแบบนี้จริงๆ “และครูอยากทำให้ครูท่านอื่นเห็นว่าพวกเรานั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดและยังเก่งมากกว่าที่เขาพูดอีก” มาร์คมองแทอิลอย่างชื่นชม ภูมิใจในตัวของครูแทอิลที่เข้าใจเด็กอย่างพวกเขา

                    “ผมและเพื่อนๆจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังเลย ผมจะลบคำสบประมาทนั้นไปให้ได้”

                    “ดีมากมาร์ค ลีที่เราคิดได้แบบนี้ แต่สิ่งแรกที่เราควรจะทำก่อนเลยเลิกลอกการบ้านเพื่อน ต้องทำการบ้านด้วยตัวเอง ไม่ใช่การลอกเพื่อนอย่างที่เราทำทุกวัน”มาร์คยิ้มแหยๆยิ้มแห้งพร้อมกับเกาหัว

                    “ก็ผมเรียนไม่รู้เรื่องนี้ครับอาจารย์ เรียนก็ไม่เก่งด้วยแล้วจะให้ผมทำอย่างไงล่ะครับ”

                    “แล้วคิดว่าการที่เราลอกการบ้านเพื่อนจะทำให้เราเรียนรู้เรื่อง เรียนเก่งขึ้นมาหรอมาร์ค ลี”มาร์คส่ายหน้าเป็นคำตอบ “งั้นเราก็ต้องตั้งใจเรียนในเวลาเรียน ต้องขยันมากขึ้นถ้าตรงไหนไม่เข้าใจก็ตามครูได้ ครูพร้อมจะสอนบอกเธอเสมอขอแค่เรามาถามครูก็พอ”สำหรับลูกศิษย์แล้วแทอิลพร้อมจะสอนแบ่งเวลาให้กับนักเรียนได้เสมอ

                    “งั้นอาจารย์ช่วยมาสอนพิเศษผมหน่อยได้ไหม ผมอยากเรียนพิเศษกับอาจารย์”

                    “ได้ซิ ครูไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ทุกเย็นหลังเลิกเรียนครูจะสอนพิเศษเธอ จะเสาร์อาทิตย์ด้วยไหมล่ะ”แทอิลแกล้งถาม

                    “ถ้าอาจารย์สะดวกผมก็ไม่มีปัญหา”แทอิลถึงกับยิ้มกับคำตอบของมาร์ค มาร์คนั้นก็มีรอยยิ้มให้กับอาจารย์แทอิลเหมือนกัน ต่างคนต่างมีรอยยิ้มมีความรู้สึกดีๆให้กัน ความรู้สึกดีๆที่เริ่มก่อกำเนิดขึ้นมาของทั้งสอง

     

     

     

                    หลังจากเย็นวันนั้นเป็นต้นมามาร์คก็มาเรียนพิเศษกับแทอิลทุกวันหลังเลิกเรียนและเสาร์อาทิตย์ในช่วงเช้า สถานที่เรียนพิเศษของมาร์คและอาจารย์แทอิลนั้นคงหนีไม่พ้นคอนโดของแทอิลที่จะใช้เป็นที่สอนพิเศษของครูกับลูกศิษย์คู่นี้

                    และนี้ก็เป็นอีกอาทิตย์ที่มาร์คจะมาคุอยู่ที่ห้องของอาจารย์แทอิล อาจารย์ที่มาร์ครู้สึกดีตั้งแต่ได้เห็นหน้ารู้จักตั้งแต่วันแรกและยอมเปลี่ยนตัวเองจากแสบซ่าเป็นตัวป่วนของห้องนั้นเป็นเด็กตั้งใจเรียน ขยันแต่ก็ไม่ทิ้งความซ่าความแสบทิ้งไปหมด แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากจากเดิมจนอาจารย์ที่โรงเรียนหลายท่านพูดในทางที่ดีกับเด็กนักเรียนอย่างมาร์คและเด็กมอห้าห้องสามที่การเรียนดีขึ้นมากขึ้นจากเดิม

                    เพราะมาร์คพูดกับเพื่อน อธิบายให้เพื่อนฟังให้เข้าใจอาจารย์แทอิลที่ยอมทำเพื่อเราทุกคนในห้อง ทำให้เพื่อนๆในห้องต่างไม่ต่อต้านและเชื่อฟังอาจารย์แทอิลที่เป็นที่ปรึกษาของพวกเขา จนทำให้เด็กห้องสามเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาและการเรียนดีขึ้นทุกคน

                    มาร์คเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่ารู้สึกอย่างไงกับอาจารย์แทอิลผู้อ่อนโยนและใจดีกับเด็กนักเรียน ความรู้สึกที่ฉายชัดขึ้นมาทำให้มาร์คเริ่มแสดงความรู้สึกออกมาให้แทอิลรู้ว่าเด็กวัยสิบหกอย่างเขานั้นคิดอะไรกับอาจารย์แทอิลวัยยี่สิบหก มาร์คไม่สนว่าตัวเองกับอาจารย์จะอายุห่างกันมากเท่าไร มาร์คสนเพียงอย่างเดียวว่าเขานั้นรักอาจารย์แทอิลเกินกว่าคำว่าอาจารย์และลูกศิษย์

                    “ทำได้ไหมข้อนี้”แทอิลถามขึ้นเมื่อดูสมุดของมาร์คที่มีอีกหนึ่งข้อยังไม่เสร็จ แต่มาร์คเอาแต่นั่งเท้าคางจ้องหน้าแทอิลด้วยรอยยิ้มแพรวพราว จนแทอิลรู้สึกเขินที่โดนมาร์คจ้องมองด้วยสายตาแพรวพราว “งั้นเราทำไปก่อน เดี๋ยวครูไปเตรียมขนมมาให้เราทาน”แทอิลเลือกที่จะปลีกตัวออกไปที่ไม่อยากตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ ทำไมแทอิลจะไม่รู้ว่ามาร์คนักเรียนของตัวเองคิดอย่างไงกับตน และเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับมาร์คแต่คำว่าลูกศิษย์อาจารย์ค้ำคออยู่ทำให้แทอิลนั้นไม่สามารถจะรับความรู้สึกของมาร์คได้ ซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองได้ว่ารักเด็กคนนี้เหมือนกัน เขาถึงต้องโกหกหัวใจตัวเอง ปฎิเสธความรู้สึกดีของมาร์คไม่ให้เกิดเลยไปมากกว่านี้

                    เพราะความรักของเขากับมาร์คไม่ควรจะเกิดขึ้นในตอนนี้............

                    แทอิลเดินเข้ามาในส่วนครัวทั้งที่ในใจยังรู้สึกผิดกับความรู้สึกของตัวเองที่ดันไปรักลูกศิษย์ของตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับครูอย่างเขา แต่แทอิลไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกไปจากใจได้ แต่เขาก็ต้องห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ให้รักลูกศิษย์ตัวเอง ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บก็ต้องยอมเจ็บเมื่อมันเป็นความรักต้องห้าม เป็นความรักที่ไม่สมควรเกิดขึ้นกับเขาและมาร์คในฐานะครูนักเรียน

                    แทอิลพยายามสลัดความรู้สึกทั้งหมดออกจากใจของตัวเอง พยายามไม่คิดถึงมันที่หยิบขนมจัดเรียงใส่จานให้มาร์คทานแก้หิวระหว่างช่วงเรียน

                    “อ๊ะ....”แทอิลถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อถูกมาร์คเดินเข้ามาสวมกอดเอวจากด้านหลัง วางคางเกยกับไหล่ของแทอิลที่ความสูงของมาร์คนั้นไล่เลี่ยกับแทอิล “มาร์คปล่อยครูเถอะ เราทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ”แทอิลพยายามพูดเตือนสติมาร์ค

                    “มันไม่ถูกอย่างไงล่ะครับครู ครูช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่ามันไม่ถุกอย่างไง มันผิดเพราะอะไร” มาร์คย้อนถามที่ยังคงกอดแทอิลไว้แน่น

                    “เราไม่ผิดเลย เราไม่ได้ผิดอะไรเลยมาร์ค แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นของคำว่าครูนักเรียนที่จะรักกัน ครูกับลูกศิษย์ไม่ควรจะมีเรื่องฉันท์ชู้สาวเกิดขึ้นในสถานะนี้ เราสองคนไม่ควรที่จะรักกัน”แทอิลพูดอย่างเจ็บปวดที่อยากให้มาร์คนั้นเข้าใจความจริง ความถูกต้องของสถานะของพวกเขาทั้งสอง แต่ดูว่ามาร์คจะไม่ได้คิดแบบนั้นกลับคลายอ้อมกอดออกและจับไหล่แทอิลให้หันมาเผชิญหน้า แววตาของแทอิลนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวด

                    “นั้นก็เป็นแค่กฎที่คนในสังคมตั้งขึ้นมาทั้งนั้น กฎที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่ถามความรู้สึกของคนที่รักกันบ้างเลยว่าต้องการกฎพวกนี้หรือไม่ ผมไม่สนพวกกฎพวกนี้หรอกในเมื่อผมรักครู รักครูตั้งแต่แรกเห็นแล้วด้วย ผมถึงยอมทำทุกอย่างเพื่ออยู่ใกล้ครู เปลี่ยนแปลงตัวเองก็เพื่อครู การที่ผมดีขึ้นก็เป็นเพราะครูคนเดียว ครูทำให้เด็กคนนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเพราะความรักของครูไงครับ”มาร์คบอกกับความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกของเด็กที่ไม่ได้เด็กอย่างพวกผู้ใหญ่คิดกัน

                    “แต่มันไม่สมควรอยู่ดีที่เราสองคนจะรักกัน แค่เป็นครูนักเรียนรักกันมันก็ผิดมากพอแล้ว แล้วนี่ครูยังอายุมากกว่าเราสิบปีแล้วเราจะรักกันได้อย่างไงกัน”แทอิลบอกออกมาที่ยังคงมีความหวั่นไหวแอบกลัวอยู่ในใจ

                    “ผมบอกแล้วไงครับความรักมันไม่มีกฎข้อไหนที่จะห้ามรักกัน ทุกอย่างที่มีกฎก็เพราะคนเราตั้งมันขึ้นมาทั้งนั้น ถึงครูจะห่างกับผมยี่สิบปีผมก็รักครู ครูจะอายุมากแค่ไหนผมก็รักครูในเมื่อผมรักคนแก่อย่างครูเข้าแล้ว”พูดด้วยรอยยิ้มทะเล้น “โอ๊ย...ครูตีผมทำไม”มาร์คร้องออกเมื่อโดนแทอิลตีที่แขน

                    “ก็มาว่าครูแก่ได้ไงกัน ครูเพิ่งอายุยี่สิบหกเอง”ใบหน้ามุ่ยเสียงง้อง้ำของแทอิลทำให้มาร์คถึงกับยิ้มขำ

                    “แปลว่าครูตกลงเป็นแฟนผมแล้วใช่ไหม”ทำสายตาหวานเจ้าเล่ห์เชิงถาม แทอิลนั้นเม้มริมฝีปากไม่กล้าจะตอบตกลง “ว่าไงครับครู ครูจะยอมเป็นแฟนผมไหม”ทำสายตาอ้อนวอนรอคำตอบ แทอิลพยักหน้าเป็นคำตอบด้วยรอยยิ้ม “ว่าไงครับ”ยังแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

                    “ครูเป็นแฟนเราก็ได้”ตอบอย่างเขินอาย แก้มทั้งสองมีสีแดงระเรื่ออยู่บนแก้มทั้งสอง มาร์คได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มร่าดีใจและยังหอมแก้มแทอิลไปหนึ่งฟอดอย่างดีใจ แทอิลนั้นไม่ทันตั้งตัว แทอิลนั้นได้ยิ้มเขินอายแต่มาร์คกับยิ้มอย่างมีความสุขและเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าใกล้กับใบหน้าอ่อนหวานของครูที่รัก

                    “ผมรักอาจารย์นะครับ”คำว่ารัก สายตาเต็มไปด้วยรักจ้องมองลึกลงไปนัยน์ตาสวย

                    “ครูก็รักเราเหมือนกัน แต่ครูขอให้เรื่องของเราสองคนเป็นความลับได้ไหม รอให้มาร์คเรียนจบก่อนแล้วเราค่อยเปิดเผยสถานะของเราสองคน”

                    “ได้ซิครับ ขอแค่ครูรักผม ยอมเป็นแฟนผมแค่นี้ผมก็พอใจ”

                    “ขอบคุณนะที่รักครูและยอมให้ความรักของเราเป็นความลับ”แทอิลจับมือของมาร์คอย่างขอบคุณ สายตาเต็มไปด้วยความรักและคำขอบคุณที่เด็กอย่างมาร์ครักเขา

                    “เพราะผมรักครูไงครับ ผมถึงยอมทำเพื่อครูที่ผมรัก”ไม่มีอะไรที่มาร์คจะทำเพื่อคนที่เขารักได้

                    ต่างฝ่ายต่างมองกันด้วยความรักก่อนที่ริมฝีปากหนาของเด็กอย่างมาร์คนั้นจะกดแนบจูบกับริมฝีปากบางของครูแทอิลที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะเป็นแฟนของมาร์ค ลีเรียบร้อย

                    ริมฝีปากทั้งสองต่างกดจูบกันอย่างดูดดื่ม แลกเปลี่ยนความรักให้กันด้วยความรัก ความรักที่แทอิลยอมผิดต่อหน้าที่ของตัวเองที่จะรักเด็กนักเรียนตัวเอง แทอิลเลือกแล้วที่จะรักมาร์ค เลือกจะผิดเพราะความรักที่มีให้เด็กอย่างมาร์ค

                    ถ้าความรักจะทำให้เรามีความสุข ทำให้เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ผมก็ยอมท่าจะผิดเพื่อที่จะรักเขา อยู่กับเขาตลอดไป....................................

     

     

     

     

     

     

    END

    TALK

                มันเป็นฟิคที่อยากแต่งมาก หาฟิคคู่นี้ไม่มีให้อ่านก็เลยแต่งเลย สนองนี๊ดตัวเองนิดหนึ่ง ชอบคู่นี้เหมือนกันเห็นรูปมาร์คอิลอยู่ด้วยกันและน่ารักดีก็เลยจัดไป ชอบก็อย่าลืมเม้นหรือติดแท๊กในทวิตก็ได้นะคะ #ฟิครักเด็กรักคนแก่มาร์คอิล

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×