ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :( TAOKACHA(yaoi ) ): สะดุดรัก(นาย)พี่เลี้ยงจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #34 : สะดุดรัก(นาย)พี่เลี้ยงจำเป็น 30 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.31K
      7
      6 ก.ย. 55





                      หลังจากที่ไปส่งต้นฉบับรายอาทิตย์ที่สำนักพิมพ์เรียบร้อยผมก็ขับรถมาที่ร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่งเพราะนัดกับพี่ต้นไว้ แต่มองดูนาฬิกาก็พบว่าเลยเวลานัดมามากแล้ว พอมาถึงจอดรถเรียบร้อยผมก็รีบผลักประตูกระจกเข้ามาในร้านทันที และก็เป็นอย่างที่คาดไว้พี่ต้นมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

     

     

    พี่ต้น “

     

    อ้าวคชา! มาแล้วเหรอ...” พี่ต้นเงยหน้าขึ้นมาจากนิตสารที่อ่าน

     

    รอนานไหมครับ “

     

    ไม่นานหรอก พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกัน “

     

    ขอโทษทีนะครับ พอดีผมแวะไปส่งต้นฉบับที่สำนักพิมพ์ก่อนมาที่นี่ “

     

    ไม่เป็นไรหรอก ก็บอกแล้วไงว่าพี่ก็เพิ่งมาถึง เข้าไปลองชุดกัน “ พี่ต้นวางนิตยสารแฟชั่นลงบนโต๊ะแล้วลุกจากโซฟารับแขกเพื่อพาผมเข้าไปข้างใน

     

    ครับ “

     

     

    ผมรับชุดที่พนักงานยื่นให้มาลองในห้องลองเสื้อพี่ต้นพาผมมาวัดตัวเมื่ออาทิตย์ก่อน เสื้อสูทตัวสั้นสีขาว หูกระต่ายสีดำ และกางเกงสแล็คสีขาว มองดูตัวเองในกระจกเมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ทำไมถึงรู้สึกว่า.....ข้านี้ช่างเกิดมาหล่อเหลายิ่งนักคชา! ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ! แต่ผมหล่อจริงๆ 55555

     

     

    คชา! เป็นยังไงบ้าง? ใส่พอดีหรือเปล่า “ พี่ต้นตะโกนถามจากด้านนอก

     

    ใส่ได้พอดีครับพี่ต้น “

     

    ออกมาให้พี่ดูหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง “

     

    ครับ “ ผมเปิดประตูออกมาจากห้องลองก็พบพี่ต้นยืนรออยู่แล้ว

     

    โห! คชาน่ารักเชียว!!~ “ พี่ต้นทำตาโตตื่นเต้นเมื่อผม ว่าแต่ทำไมพี่ต้นไม่ชอบว่าข้าหล่อฟร่ะ!!? -*-

     

    พี่ต้นใช้คำผิดแล้วล่ะครับ...ต้องหล่อต่างหากไม่ใช่น่ารัก “ งานนี้ต้องประท้วง!!

     

    น่ารักน่ะถูกแล้ว อย่าเถียงพี่แล้วก็อย่าทำปากยื่นเป็นเป็ดแบบนั้นด้วย “

     

    ครับ~ “ T^T พี่ต้นใจร้าย!!

     

    แหมๆ คิดแล้วไม่มีผิดเลย ไหนหมุนให้พี่ดูหน่อยสิ “ พี่ต้นออกคำสั่ง

     

    ครับ “ ผมก็หนุนตัวให้เค้าดู ใครจะไปกล้าหือ

     

    น่ารักมาก ใช้ได้ๆ พี่คิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าคชาใส่สุดนี้ยังไงก็ต้องเหมาะ แหมเข้ากั้นเข้ากันจริงๆ “

     

    อะไรเข้ากันครับพี่ “ ( -.-)?

     

    ก็.....ก็พี่หมายถึง... “ พี่ต้นทำหน้าคิดหนัก

     

    หมายถึง? “

     

    พี่หมายถึงว่ามันเข้ากันกับคชามากๆ เลยไงชุดนี้ “

     

    อ๋อ~ ครับ “ ผมหันไปมองตัวเองในกระจกอีกที....เออเว้ย! มันเข้ากันจริงๆ หล่อไปไหนอ่ะคชา!!! ><

     

    คชาชอบไหม “

     

    ชอบครับ “

     

    ดีแล้วล่ะ พี่เห็นคชาชอบพี่ก็ดีใจ “

     

    ว่าแต่...ชุดพี่ต้นล่ะครับ “ ตอนมาวัดตัวไม่ได้มีแต่ผมที่ตัดชุด พี่ต้นเองก็ตัดชุดเหมือนกัน

     

    ของพี่แขวนอยู่โน่น พี่ลองแล้วล่ะตอนที่คชายังมาไม่ถึง “

     

    อ๋อ~ เสียดายนะครับที่เต๋ากับคนอื่นๆ ไม่ว่างไม่งั้นคงได้ไปด้วยกัน “

     

    นั่นสิ! พี่ก็เสียดายเหมือนกัน “

     

    ผมไม่เคยออกงานสังคมแบบนี้ด้วยสิ...ไม่รู้จะทำพี่ต้นขายหน้าหรือเปล่า “

     

    ไม่หรอกน่า พี่เชื่อว่าคชาไม่ทำพี่ขายหน้าอยู่แล้ว “ พี่ต้นตบบ่าให้กำลังใจ

     

    งั้นผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ “

     

    อืม..ไปเปลี่ยนเถอะ เดี๋ยวต้องไปสปาร์อีกวันนี้วันสุดท้ายแล้ว “

     

    ครับ “ ผมพยักหน้ารับ

     

     

    พอนึกแล้วก็เอียนเลยล่ะครับ ก็พี่ต้นพาผมเข้าออกสปาร์นั่นมาสองอาทิย์กว่าแล้วน่ะสิ ใช่เวลาอยู่ในนั้นวันหนึ่งเป็นสองสามชั่วโมงน่าเบื่อจะตาย ดีใจสุดซึ้งเลยที่วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้ว!! เย้!!

     

     

    จริงสิ!! สงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าพวกผมมาตัดชุดกันทำไม ก็พี่ต้นอีกนั่นแหละครับชวนผมไปออกงานกาล่าดินเนอร์เพื่อการกุศลอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ ไอ้ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่ไปด้วยแล้วล่ะ แต่พี่ต้นมาขอร้องผมทุกวี่ทุกวันผมก็เลยใจอ่อนยอมไปด้วย คุณแม่ของเต๋าเองก็ช่วยพูดแทนพี่ต้นด้วยแล้วผมจะขัดได้ไงล่ะจริงไหม อีกอย่างพี่ต้นบอกว่างานนี้จัดบนเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาผมเลยอยากลองไปดูสักครั้ง

     

     

    กว่าจะกลับมาบ้านวันนี้ก็ค่ำเหมือนเดิม ตั้งแต่ไปสปาร์กับพี่ต้นผมก็ไม่ได้ทำอาหารเย็นเลย หน้าที่รับไตเติ้ลกลับจากโรงเรียนก็เปลี่ยนไปเป็นของเจมส์แทน บางครั้งผมก็รู้สึกแปลกๆ นะแต่ทุกคนก็ดูปกติดี ไตเติ้ลก็ไม่งอแงตามติดผมเหมือนเมื่อก่อน เต๋าก็กลับบ้านดึกทุกวันแล้วก็ไม่ง้องแง้งรบเร้าอยากกินกับข้าวฝีมือผม อาจเป็นเพราะพวกแม่ๆ ทำอร่อยด้วยแหละ มันก็สบายไปอีกแบบนะแต่ก็ยังอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้

     

     

    หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ช่วยนกน้อยกับป้าอิฐเก็บล้างเพราะไม่ได้ช่วยทำอาหารเลย พอเสร็จเรียบร้อยก็ไปส่งไตเติ้ลเข้านอน วันนี้ไม่งอแงให้เล่านิทานและก็หลับเร็วกว่าทุกวันเลย ผมจึงพอมีเวลากลับมาแต่งนิยายของผมต่อ

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

     

     

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ผมต้องลุกจากที่นั่งไปเปิดประตูดูว่าเป็นใคร พอเปิดออกไปก็พบว่าเป็นเต๋านั่นเอง

     

     

    นอนหรือยังจ๊ะชา “

     

    ยังเลยครับ เต๋ามีอะไรหรือเปล่า “

     

    ขอเข้าไปได้ไหม “

     

    อ๋อ...เอ่อ ได้สิ “ ผมเลี่ยงให้คนตัวสูงเดินเข้ามาในห้องได้

     

    ทำงานอยู่เหรอ “ เต๋าเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของผมแล้วถามขึ้น

     

    อืม...วันนี้ไตเติ้ลหลับเร็วก็เลยมีเวลาน่ะ “

     

    อ๋อ~ “ เต๋ามีท่าทางแปลกๆ ยังไงบอกไม่ถูกดูเหมือนมีเรื่องกังวลใจอะไรบางอย่าง

     

    เต๋าเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรจะพูดกับชาไหม “

     

    เอ่อ....คือว่า...” ร่างสูงมองหน้าผมแล้วก็หลุบตาลงต่ำอีก เป็นอะไรของเค้านะ!?

     

    เป็นอะไร “ ผมจับมือหนาแล้วจูงให้มานั่งที่เตียงด้วยกัน “

     

    คือว่า...”

     

    ใจเย็นๆ นะ~ มีอะไรไม่สบายใจก็บอกมาเถอะชาพร้อมจะรับฟังเต๋าทุกอย่างขอแค่ให้เต๋าบอกมา “

     

    ชา...” ร่างสูงมองหน้าผมด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

     

    ว่ายังไงล่ะ...เต๋ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ไหนบอกชาซิ “

     

    เปล่าหรอก...ความจริงเต๋าก็ไม่ได้มีเรื่องไม่สบายใจอะไรมากมายหรอกแค่ “

     

    แค่..? “

     

    เต๋าอยากจะถามชาให้แน่ใจน่ะ “ เหงื่อที่มือของเต๋าออกมาจนทำให้มือผมชื่นไปด้วย

     

    เรื่องอะไร “

     

    ชาจ๋า.... “

     

    จ๋า~ “

     

    ชารักเต๋าจริงๆ ใช่ไหม “

     

    ห๊ะ!!....” What!! ถามอะไรของมันวะ คชาเขินเป็นนะเว้ย! (-/////-)

     

    บอกหน่อยสินะ...บอกให้แน่ใจหน่อยสิ “

     

    เอ่อ.....เต๋าก็รู้อยู่แล้วนี่นา...” จะให้พูดอะไรกันบ่อยๆ อ่ะ!!

     

    นะคะ...นะคะ ชาจ๋า~ บอกเต๋าหน่อยนะ “ เต๋าเขย่ามือผมเบาๆ ท่าทางและน้ำเสียงมันออดอ้อนซะจน.......

     

    ก็......”

     

    ก็อะไรคะ...ชา “

     

    ก็.......รักไงคะ “ ยอมใจอ่อนบอกไปจนได้~~(>/////<)

     

    ดังๆ สิเต๋าไม่ได้ยินเลย “เต๋ายังอยากให้ย้ำอีกครั้ง โอ้ย!! ไอ้นี่ได้คืบจะเอาศอกไม่เห็นใจชาบ้างเลยนะเต๋า~~

     

    รักไงล่ะ...ชารักเต๋าได้ยินไหม “

     

    ได้ยินแล้ว..”

     

     

    มือของเต๋าแตะที่ปลายคางของผมก่อนจะเชยขึ้นมารับสัมผัสจากริมฝีปากของคนตรงหน้าเบาๆ ไม่ได้ลุกล้ำ ลึกซึ้งเหมือนที่เคยทำแต่เพียงเท่านี้มันก็พาให้หัวใจของผมลอยละล่องออกจากอกไปอยู่ที่เค้าแล้ว

     

     

    เต๋าก็รักชา...”

     

    “ …..(-////-).....”

     

    ขอบคุณนะคะที่ทำให้เต๋ามั่นใจ “

     

    อืม.... “

     

    ชานอนเถอะนะคืนนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว “

     

    แต่ว่า....”

     

    เชื่อเต๋านะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปงานสำคัญกับพี่ต้นไม่ใช่เหรอ “

     

    แต่มันเป็นงานตอนเย็นนะ “

     

    นอนเถอะเต๋าอยากส่งชาเข้านอน “

     

    ก็ได้...”

     

    เด็กดี~ “ เต๋าลูบที่แก้มผมเบาๆ

     

    งื้อ~ ไม่ใช่เด็กซะหน่อย “ ( -3-)

     

    ครับๆ ไม่เด็กก็ไม่เด็ก นอนนะเดี๋ยวเต๋าห่มผ้าให้ “

     

    ครับ “

     

     

    ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงหลังจากที่ปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เต๋ารอจนผมจัดท่าทางเรียบร้อยก็ห่มผ้าให้จนมิดคอ ก่อนจะจูบฝันดีที่หน้าผากอีกครั้งแล้วออกจากห้องไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดไฟให้ด้วย

     

     

    ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ จะหลับก็ได้ยินเหมือนเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ตอนแรกคิดว่าตัวเองหูฝาดแต่พอฟังดูดีๆ แล้วก็พบว่ามีคนเคาะจริงๆ ผมจึงลุกไปเปิดและพบว่าผู้ที่มาใหม่คราวนี้เป็นแม่ของผมเอง

     

     

    นอนเหรอยังลูก “ คำถามที่ได้รับรับเป็นครั้งที่สองของคืนนี้

     

    ยังครับแม่ แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ “

     

    วันนี้แม่ขอเข้าไปนอนกับลูกด้วยได้ไหม ”

     

    ได้สิครับ! “ ผมเปิดประตูออกกว้างให้แม่เข้ามา

     

     

    เราสองแม่ลุกจัดที่จัดทางบนที่นอนพอเสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ กัน ผมนอนกอดเอวแล้วซุกไปที่อกแม่ด้วยความเคยชิน ปกติถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเราอยู่ที่บ้านเก่าสองคนแม่ลูกผมก็มักจะนอนกับแม่เป็นประจำ มือนิ่มลูบหัวผมเบาๆ ช้าๆ ท่ามกลางความมืดอยู่ๆ แม่ก็พูดขึ้น

     

     

    คชาหลับหรือยัง “

     

    ยังครับ “

     

    คชา “

     

    ครับแม่ “

     

    แม่ถามจริงๆ นะลูก “

     

    ครับ “

     

    หนูรักคุณเต๋าเค้าจริงๆ ใช่ไหม “

     

    ทำไมแม่ถามอย่างนั้นล่ะครับแม่ “

     

    แม่อยากรู้ ว่ายังไงล่ะลูก “

     

    ครับ...”

     

    งั้นก็ดีแล้ว...แค่นี้แม่ก็สบายใจแล้วล่ะ “

     

    หมายความว่าไงครับแม่ ไม่เห็นเข้าใจเลย “ ยิ่งแม่พูดผมยิ่งง วันนี้ทั้งเต๋าทั้งแม่ทำไมถึงมาถามคำถามเดียวกัน?

     

    ไม่มีอะไรหรอกลูกนอนเถอะ นอนกอดกันๆ อีกหน่อยก็มานอนกอดกันแบบนี้ไม่ได้แล้ว “

     

    ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ “

     

    ก็.....”

     

    ก็อะไรครับ เรานอนคนละห้องไม่ใช่ว่าแม่จะมานอนกับชาแบบนี้ไม่ได้นี่นา “ ผมขยับตัวกอดแม่แน่นขึ้น

     

    ก็คชาโตแล้วไงลูก “

     

    ยังไงก็นอนได้...ต่อไปชาจะให้แม่ย้ายมานอนห้องเดียวกับชาเลยดีกว่า “

     

    เจ้าเด็กน้อยของแม่ “ แม่ก้มลงจูบเหม่งผมเบาๆ แบบที่ชอบทำเป็นประจำ

     

    ไหนเมื่อกี๊แม่บอกชาโตแล้วไง “

     

    หึหึหึ~ นอนซะลูกพรุ่งนี้ต้องตื่นไปกับคุณต้น “

     

    ไปเย็นครับแม่....“

     

    แต่แม่เห็นคุณต้นบอกว่าจะมารับแต่เช้าไปใช่เหรอ “

     

    เหรอครับ! ไม่รู้สิ...ผมจำไม่ได้แล้ว “

     

    งั้นก็รีบนอนเถอะ แม่เริ่มง่วงแล้ว “

     

    ครับ “

     

    ฝันดีนะเด็กน้อยของแม่ “

     

    ฝันดีครับแม่คนสวยของผม “

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------
     

    สวัสดีค่ะ

    ใกล้แล้วค่ะ ใกล้จบจริงๆ แล้วพอคิดแล้วแอบเศร้าเหมือนกัน

    เรื่องนี้แต่งยาวนานมาก แอบหวิวในใจมากๆ เลย ต่อไปก็จะไม่ได้มาอัพเรื่องนี้แล้ว T^T ดราม่าทำไม

    ยังไงก็ฝากตามกันจนจบด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้า ตอนจบแล้วค่ะ ^^

     

    ปล.เรื่องจองฟิคนะคะ สามารถโอนเงินได้เลยค่ะ แล้วค่อยส่งเมลล์มาบอกตามขึ้นตอนที่อินได้โพสไว้นะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×