ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KnB]Akashi x Kuroko:Emperor of Occult megic

    ลำดับตอนที่ #1 : [Fic KnB]Akashi x Kuroko:Emperor of Occult Magic:Part#1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.08K
      63
      26 ก.ย. 58



    Emperor of Occult megic

     

    Paring : Akashi x Kuroko

    Rate    : PG-18

    Story   : Lady*Vanila
     

    Part #1

     

    เมื่อครั้งที่ตำราแห่งไสยศาสตร์ถูกเปิดออก และมีมนุษย์ผู้เรียนรู้ฝึกฝนอย่างพากเพียรในศาสตร์นั้นจะได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนไป เส้นทางที่ตามจากมนุษย์ปกติทั่วไป ราวกับว่าจิตวิญญาณที่แปดเปื้อนนั้นต้องเป็นหนึ่งเดียวกับโลกของวิญญาณและพลังแห่งไสยเวทย์มนต์ดำที่สรรสร้างให้ผู้นั้นมีอำนาจ แต่จะเก่งกาจเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และพลังมืดที่ไหนเวียนในกาย

     

     

    ผู้นั้นถูกเรียกว่า'จอมขมังเวทย์'

     

     

    นานนับ1000ปี ที่พลังเวทย์แห่งไสยศาสตร์ถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่นอย่างเเพร่หลายได้ทางสายเลือด ทั้งถูกพัฒนาอย่างหลายรูปแบบเสียจนสิ่งที่อยู่ในตำราเป็นแค่ของง่ายๆที่เด็กก็ทำได้ แต่ถึงจะมีอำนาจมากเพียงใดพวกจอมขมังเวทย์ไม่มีทางเปิดเผยตัวตน เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกกวาดล้าง ผู้คนที่เดินสวนกันไปมาเหมือนคนปกติก็อาจจะเป็นจอมขมังเวทย์ที่ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนมนุษย์ธรรมดา ไม่มีใครจะคิดว่าจอมขมังเวทย์นั้นจะมีจริง บ้างก็ว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กหรือเป็นอาชีพของพวกสิบแปดมงกุฎ


    จอมขมังเวทย์ที่มีอำนาจและเก่งกาจที่สุดจะถูกแต่งตั้งเป็นราชาและได้รับการยกย่อง แต่การเป็นองค์ราชาที่ได้รับการสรรเสริญนั้นก็ต้องกลายการเป็นเป้าหมายในการแย่งชิงด้วยเช่นกัน 

     

    แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งจอมเวทย์คือ'จักรพรรดิ'

     

    และนี่คือการถือกำเนิดของจักรพรรดิจอมขมังเวทย์

     

     

     

     

    ในคืนที่เมฆสีดำหม่นเคลื่อนมาปกคลุมแสงแห่งจันทราจนมืดมิด ทายาทแห่งจอมขมังเวทย์ได้ถือกำเนิดขึ้นจากหญิงสาวผู้เป็นมนุษย์ธรรมดาและบุรุษผู้เป็นถึงราชาจอมขมังเวทย์มากอำนาจ ร่างสูงเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยืนภายในห้องนอนในคฤหาสน์ร้างข้างเตียงนอน เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลจากร่างของภรรยาเพิ่งคลอดลูก

     

    หญิงสาวหายใจหอบอย่างไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนใกล้หมดลมหายใจ เธอไม่ได้คลอดลูกอย่างปกติเหมือนใคร แต่สามีของเธอใช้มือแหวกท้องดึงลูกออกมา เพื่อให้ลูกชายผู้เป็นทายาทนั้นได้สัมผัสเสียงร้องแห่งความทรมาณตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้หลุดมาจากครรภ์

     

    ร่างทารกอาบเลือดมารดา เรือนผมสีแดงเหมือนกับเธอไม่มีแม้แต่เสียงร้องตอนแรกเกิดเหมือนเด็กทั่วไป ดวงตาสีทับทิมกลมโตสามารถเปิดมองสิ่งรอบๆตัวได้ทันทีที่ออกมาจากครรภ์ ดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองผู้เป็นพ่อ จอมขมังเวทย์ 'อาคาชิ มาซาโอมิ'

     

    "อาคาชิ  เซย์จูโร่จะเป็นว่าที่จักรพรรดิจอมขมังเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" มาซาโอมิกล่าวกับภรรยาที่นอนอาบเลือดอยู่บนเตียงนอน ดวงตาอ่อนล้าสีอ่อนพยายามมองลูกชายในอ้อมอกของมาซาโอมิด้วยความยินดี

     

    "ขอฉัน..เห็นเขา..ชัดๆ ได้ไหมคะ" ชิโอริกล่าวอ้อนวอนเสียงอ่อนล้าด้วยรอยยิ้ม แล้วใช้แรงอันน้อยนิดที่มีเอื้อมมือไปหาเด็กทารกผมแดง อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นปลายนิ้วจะได้สัมผัสลูก..แต่มาซาโอมิกลับพาเดินถอยออกมาไม่ยอมมนุษย์ที่ไม่มีพลังมืดในกายอย่างเธอได้แตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผม

     

    "เซย์จูโร่มีพลังเวทย์ใหลเวียนในตัวมากมายมหาศาลจนน่าทึ่งเกินจะเชื่อว่าเป็นทารก ฉันไม่ยอมให้ความอ่อนโยนจากแม่อย่างเธอมาทำให้พลังในตัวเขาเจือจางเด็ดขาด" คำพูดของมาซาโอมิทำให้ชิโอริเปลี่ยนสีหน้าจากรอยยิ้มอิ่มเอมใจได้ให้กำเนิดชีวิตใหม่เป็นความรวดร้าวในทันที เธอเป็นถึงแม้ที่อุ้มท้องนานถึง1ปีและคลอดออกมาด้วยความทรมานปานตายแต่แค่จะจับตัวลูกยังไม่มีสิทธิ

     

    "แล้วก็อีกอย่าง ในเมื่อเธอให้กำเนิดทายาทแก่ฉันแล้ว.." มาซาโอมิวรรคคำ มองร่างบนเตียงสายตาเย็นชาไร้หัวใจ แล้วพาทารกผมแดงผู้เป็นทายาทไปไว้ที่เปลเล็กๆข้างเตียง  เป็นมุมที่ดวงตาสีแดงบริสุทธิ์คู่นั้นได้มองเห็นร่างของมารดาได้ถนัดตา และชิโอริก็มีโอกาสเห็นหน้าลูกชัดๆในตอนนั้น

     

    แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น..

     

    เมื่อมาซาโอมิพูดประโยคถัดไปทำให้ชิโอริถึงกับช็อกสุดชีวิต

     

    "เธอหมดประโยชน์แล้ว.."

     

    "!!!!"

     

    "ตายไปซะ"

     

    สวบ!!!!!

     

    "กรี๊ดดดดดด!!!!!!!" 

     

    ร่างบนเตียงกระตุกดิ้นพล่าน เชิดหน้ากรีดร้องสุดเสียงในทันทีที่มือของชายหนุ่มพุ่งทะลวงเข้ามาที่อกซ้าย ดวงตาสีอ่อนเหลือกกว้างมองจอมขมังเวทย์ผู้มากอำนาจกำลังร่ายเวทย์ในขณะที่มือก็ควานหาก้อนเนื้อหัวใจที่เต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะราวกับสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นรนเมื่อความตายมาถึง

     

    มาซาโอมิกำลังฆ่าชิโอริต่อหน้าเซย์จูโร่...ฆ่าผู้หญิงที่ร่วมสมสู่จนเกิดลูกต่อหน้าเด็กที่เกิดมา

     

    ภาพที่ได้เห็น..เสียงกรีดร้องที่ได้ยินถูกซึบซับเข้าไปในโสตประสาทของเด็กแรกเกิด..

     

    เป็นเชื้อเพลิงจุดพลังเวทย์ในกายให้พุ่งพล่านจดจำในสิ่งที่เรียกว่า'ความโหดเหี้ยม'

     

    หมับ!

     

    มือหยาบที่ทะลวงเข้าไปในอกสัมผัสก้อนเนื้อที่เต้นแรงอย่างเอาเป็นเอาตาย มาซาโอมิจับหัวใจที่ยังมีเลือดไหลเวียนแล้วออกแรงบีบแน่นจนเนื้อเยื่อปริแตก

     

    "กรี๊ดดดดดดด!!!!! ด.. ได้ ป... รด!!! ยะ...กรี๊ดดดด!!!!" ร่างที่ยังมีลมหายใจกรีดร้องอ้อนวอนด้วยความทรมานเจ็บหัวใจที่กำลังถูกบีบให้แหลกเหลวทั้งเป็นอย่างทารุณ มาซาโอมิไม่มีความรู้สึกใดนอกจากความพึงพอใจที่ได้ทำให้ทายาทจอมขมังเวทย์ได้ซึมซับความโหดเหี้ยมที่เขากำลังทำกับภรรยา

     

    "ไ...ม่..อย่!!!!"

     

    พรวด!!!

     

    ร่างชิโอริกระตุกเฮือกสุดท้ายแล้วแน่นิ่งไป เธอตายด้วยน้ำมือของมาซาโอมิ ลูกตาเหลือกกว้างขาวโพลนไม่ยอมปิดลง..ความโหดเหี้ยมเลือดเย็นที่เป็นตัวตนของจอมขมังเวทย์ไม่ได้ทำให้มาซาโอมิรู้สึกผิดหรือเสียใจ กับผู้หญิงที่อุ้มท้องทารกที่เปรียบดั่งสายใยความสัมพันธ์ ..จอมปลอม

     

    ชิโอริแค่เบี้ยหมากที่ใช้ประโยชน์จนหมดแล้วก็เขี่ยทิ้งเท่านั้น..จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจใยดี

     

    เพราะเธอคนนี้ไม่ได้มีคุณค่าใดสำหรับเขา สำหรับมาซาโอมินั้นก็แค่ยืมมดลูกสืบเชื้อสาย

     

    ในมือที่อาบเลือดมีก้อนเนื้อหัวใจของชิโอถูกบีบจนเละเป็นเศษซาก.. ร่างสูงโปร่งสวมเชิดสีขาวทับด้วยผ้าคลุมฮูทสีดำเดินอ้อมเตียงมาหยุดข้างๆทารกผมแดงที่มองศพแม่ตัวเองตายอย่างสยดสยองด้วยความไร้เดียงสา จอมขมังเวทย์หลุบมองเลือดเนื้อของเขากับชิโอริบนเปลแล้วโอบอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดก่อนจะยัดก้อนเนื้อแหลกเละสีแดงสดในมือเข้าไปในปากเล็กที่ยังไม่มีฟันนมน้ำใช้เคี้ยว

     

    รสชาติแรกที่ลิ้นได้สัมผัสคือ'เลือด' ไม่ใช่น้ำนมที่จากอกแม่อย่างที่ควรเป็น เหงือกอ่อนบดเคี้ยวและกลืนกินหัวใจของมนุษย์ผู้ให้กำเนิดเป็นอาหารแรกจนหมดสิ้นเหลือเพียงคราบเลือดเลอะริมฝีปากด้วยความไม่รู้สา แววตาเเรกพบโลกลืมสุดเปลือกตา กระพริบช้าๆมองชายวัยหนุ่มกระตุกยิ้มเห็นแววของเด็กคนนี้จะต้องเดินตามรอยเท้าของเขาอย่างแน่นอน

     

    เซย์จูโร่เท่านั้นที่จะเป็นจักรพรรดิ เด็กคนนี้เท่านั้นจะถูกจารึกไว้ว่าเป็นจอมขมังเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด..

     

     

    ศพของชิโอริถูกลากไปทิ้งในทะเลสาบให้วิญญาณตายโหงที่หิวโหยกัดกินดวงวิญญาณ ทนทุกข์ทรมานจนไม่ได้ไปผุดเกิดในชาติต่อไป เพราะกลัวว่าสายใยจากแม่ที่มาเกิดใหม่จะดึงดูดบุตรชายที่เป็นทายาทให้เข้าหาและพลังมืดในกายจะเสื่อมถอย

     

    เด็กคนนี้จะไม่มีทางได้รู้จักแม่..ไม่ทางได้รับความอ่อนโยนหรือไออุ่น การอบรมดูแลจากมนุษย์ผู้ใดทั้งนั้น

     

     

    และเพราะเหตุนี้..จึงทำให้เขาไม่มีสามัญสำนึกในความเป็นมนุษย์เช่นกัน

     

     

    อาคาชิ เซย์จูโร่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับการได้เห็นความตาย มาซาโอมิปลูกฝังชินชากับกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าจากซากศพจนกลายเป็นสิ่งปกติในสายตา เห็นสิ่งที่โหดร้ายกลายเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเหมือนกับเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เด็กคนนี้โปรดปรานในเสียงโหยหวนแห่งความทรมาน และการได้ลงมือทำลายชีวิตของสัตว์เดียรฉานด้วยพลังและพรสวรรค์แห่งไสยเวทย์ที่มี เพื่อตอบสนองความกระหายในจิตใจดิบเถื่อนที่ไม่สิ้นสุด

     

    การฆ่าเปรียบเสมือนจิตวิญญาณและลมหายใจของอาคาชิ เซย์จูโร่..

     

    ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ได้เห็นเลือด

     

     

    นกแร้งสีดำได้กลิ่นเนื้อเหม็นเน่าลอยคลุ้งแตะจมูกก็สยายปีกโผบินออกหากินตามสัญชาติญาณ ภาพนกตัวใหญ่กำลังร่อนปีกลงมาจิกกินซากสุนัขสะท้อนในดวงตาสีแดงกลมโตของเด็กชาย ริมฝีปากเล็กยิ้มกริ่มเห็นเหยื่อเคราะห์ร้ายมาให้ฆ่าถึงที่

     

    อาคาชิวัย 12 ขวบ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเหลืองขุ่นของนกแร้งที่กำลังเอร็ดอร่อยกับซากศพ อาหารเหม็นเน่าน่าสะอิดสะเอียนบนพื้นนั้นคือเหยื่อล่อ ประหนึ่งไส้เดือนที่เกี่ยวไว้กับตะขอเอ็น แล้วในที่สุด ปลาตัวกระจ้อยก็ติดเบ็ด สัตว์ปีกสีดำหยุดชะงักปากที่กำลังฉีกกระชากเนื้อพลัน เรียวขาแหลมคมสีดำเดินเซถดถอยราวกับลืมซากศพอันหอมหวานที่ยังกินไม่หมด 

     

    "แคว๊ก!! แคว๊ก!!" 


    แผละ!!!!


    นกแร้งโก่งคอร้องขย้อนสำรอกเศษเนื้อที่กินเข้าไปออกมาเป็นเลือดสดๆ พร้อมกับตีปีกกระเเทกพื้นอย่างแรงจนสันปีกหักงอล้มดิ้นแถกกับปูนจนผิวหนังถลอก คลุกกองเลือดตัวเองที่เริ่มไหลออกจากเบ้าตาและผิวหนังจนขนสีดำขลับเหนียวเหนอะเลือดค่อยๆหลุดร่วงออกมาเป็นกระจุก

     

    "หึๆ"เด็กชายผมแดงหัวเราะในลำคอมองร่างนกแร้งในกองเลือดสีแดงข้นกระตุกกล้ามเนื้อทั้งดวงตาเหลือกถลนค่อยๆช้าลงทีละนิดๆจนแน่นิ่งไป.. ฝูงนกแร้งที่บินผ่านไปมาต่างโดนมนต์สะกดของอาคาชิก็เกิดกระหายซากศพขึ้นมาในทันใด และสิ่งแรกที่พวกมันเห็นแล้วพุ่งโฉบลงมารุมจิกกินก็ไม่พ้นซากของพวกเดียวกันที่นอนตายอยู่เบื้องล่าง

     

    สัตว์ปีกนักล่าน่าเกรงขามที่กินซากศพของสัตว์อื่นเป็นอาหารกลับต้องมาตายเป็นอาหารให้พวกเดียวกันซะเอง

     

    น่าสมเพช..

     



    เด็กชายวัย 12 ปีกำลังสนุกสนาน ภายในวันเดียวเขาฆ่าสัตว์ตายไปมากกว่า 10 ศพ เจ้านี่ยังน้อย แค่พอขำๆเท่านั้น

     

    ความดิบเถื่อนไร้หัวใจความเป็นมนุษย์ของทายาทจอมขมังเวทย์สร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้ให้กำเนิด ชายหนุ่มสวมเชิทสีเข้มเดินเข้ามาวางมือหยาบกร้านที่คร่าชีวิตไปนับล้านตลอดช่วงชีวิต 30 ปี บนเส้นผมสีแดงนุ่มนิ่มของลูกชายด้วยความชื่นชม อาคาชิเอียงคอหันกลับมามองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาเปี่ยมสุข เพียงสบตาก็เข้าใจในสิ่งที่พ่อสื่อสารด้วยสายตาได้ทันที

     

    พ่อกำลังชื่นชม และบอกว่าทำได้ดี..

     

    เส้นทางชีวิตของเด็กน้อยที่ถูกสาดเทด้วยเลือดในความมืดหม่นกลับกลายเป็นสิ่งที่เจ้าตัวเต็มใจจะก้าวเดินบนถนนเส้นนี้เสียเอง 

     

    และความวิปลาสที่ย้อมสีขาวบริสุทธิ์จนกลายเป็นสีดำแปดเปื้อนนั้นจะเป็นขั้นบันไดให้ทายาทแห่งจอมเวทย์ผู้แข็งแกร่งได้เดินขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของอำนาจมืดทั้งปวง

     

     

     

    ความสุขกับชีวิตที่ได้โลดแล่นบนกองซากศพที่คลุกคลีมาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นความมหัศจรรย์เกินความฝัน เขาอยู่กับสิ่งพวกนี้..ใช้ดวงตาสีแดงทรงอำนาจคู่นี้สื่อตัวแทนแห่งไสยเวทย์อันเป็นเอกลักษณ์ มาตลอดเวลา 18 ปี

     

    แปะ..แปะ..แปะ..

     

    เสียงหยดน้ำไหลจากปลายนิ้วที่ยื่นพ้นขอบอ่างสู่พื้นกระเบื้องสีเทา แต่นั่นไม่ใช่น้ำประปาแต่อย่างใด

     

    มันคือเลือด..

     

    โลหิตเหนี่ยวข้นสีแดงสดโชยกลิ่นคาวไหลชะโลมทั่วร่างกายเปลือยเปล่าบนอ่างอาบน้ำในคฤหาสน์รกร้างไม่มีการเก็บกวาดดูแลมาหลายสิบปี เรือนผมสีแดงกลมกลืนกับสีเลือดเปียกลู่บดบังเปลือกตาที่ปิดสนิทกำลังเพลิดเพลินกับการแช่น้ำจากศพนับร้อยของสัตว์เดียรฉาน

     

    พึงพอใจเหลือเกินกับความหอมหวานบนความทุข์ทรมาณของดวงวิญญาณเป็นจำนวนมาก


    แขนแกร่งทั้งสองข้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดแข็งแรงสมร่างชายวางบนขอบอ่างสีขาวที่ถูกย้อมเป็นสีแดงตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดก๊อกส่งน้ำเลือดจากบ่อทิ้งศพข้างนอกบ้านมาถึงอ่าง ดวงตาสีเข้มค่อยๆลืมขึ้นมองผิวพรรณขาวเนียนของตัวเองดูมีน้ำมีนวลเปล่งปลั่งกว่าเก่าจากการทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยจุดประสงค์คือการให้พลังวิญญาณซึมซับเข้าสู่ร่างกาย

     

     

    "พอได้แล้วเซย์จูโร่ แกจะนอนแช่อยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไรกัน" เสียงทุ้มเข้มที่ขึ้นเสียงต่อว่าไม่ได้ทำให้คนที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับคาวเลือดยอมลุกออกมาง่ายๆ ใบหน้าคมคายเชิดคางมองเพดานว่างเปล่าเห็นร่างสัมภเวสีเลือนลางเริ่มอ่อนแรงจากการสูญเสียกำลังไปทีละนิดก่อนคลี่ยิ้มตอบพ่อ

     

    "แค่ปีละครั้ง ขอผมแช่ต่อเถอะครับ"

     

    "มันเลยเวลาพิธี ถ้านานกว่านี้วิญญาณของแกจะหลุดจากร่างซะเอง ลุกเดี๋ยวนี้เซย์จูโร่" พ่อออกคำสั่งพร้อมเหตุผลอาคาชิถอนหายใจเสียดายช่วงเวลาอันแสนสบายยอมลุกจากท่านอนขึ้นมายืนบนอ่างสภาพเปลือยไร้อาภรณ์ เปียกโลหิตสีแดง ไหลลงมาตามเรือนร่างสมสมส่วนแม้จะอยู่ต่อหน้าพ่อเขาก็ไม่ยี่หระ มาซาโอมิเองก็ไม่ได้ว่าอะไร

     

    "แต่งตัวซะ" พูดจบร่างสูงโปร่งเริ่มเข้าวัยกลางคนก็เดินออกจากห้องน้ำที่มีแต่คราบเลือดลงบันไดไกลออกไปเรื่อยๆจนเสียงฝีเท้าเจือจาง  คนที่ยืนลำพังในห้องน้ำจึงก้าวข้ามขอบอ่างย้อมสีมาหยิบผ้าขนหนูซับร่างกายจนสะอาดแล้วแต่งตัวเดินตามพ่อลงไป

     

    ร่างสูงผมสีแดงในชุดสูทสีครามหม่นกับกางเกงขายาวเดินผายผึ่งลงจากบันไดอย่างเงียบๆ เท้าเปล่าหย่อนลงเหยียบขั้นบันไดยังมีเสียงดังก้องเพราะคฤหาสน์ขนาดใหญ่แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือบุคคลอาศัย นัยน์ตาสีเลือดมองจอมขมังเวทย์ผู้เป็นบิดานั่งเงียบๆอยู่นอกบ้านบนเก้าอี้ข้างโต๊ะน้ำชาสีขาวเรียบๆไร้รวมลายหรือดีไซน์สวยสะดุดตา

     

    ขายาวก้าวพ้นประตูคฤหาสน์มาถึงระเบียงด้านนอก มีห่านตัวเมียหลงมาคงเพราะใกล้ๆนี้มีคูน้ำ อาคาชิไม่ชายตามองเหมือนไม่สนใจ แต่เพราะความที่ติดเป็นนิสัยจึงทำเพียงแค่เดินผ่านแล้วเอื้อมมือแตะกะโหลกศีรษะขาวนวลเบาๆ 

     

    กร๊อบ!

     

    ลำคอยาวก็หักพับลงมาเองโดยไม่ต้องออกแรง...

     

    "พ่อครับ ผมเบื่อแล้วกับการฆ่าสัตว์" เสียงทุ้มเบื่อหน่ายอย่างว่ากล่าวบอกผู้เป็นพ่อ ชายวัยกลางหันใบหน้าเคร่งขรึมมองลูกชายที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วเรียกให้นั่ง ก่อนจะหันหน้าเข้าหาเพื่อพูดคุยถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไป อาคาชิคิดเดาในใจว่าพ่อคงจะคิดคำต่อว่าอะไรกับความคิดที่เบื่อกับการฆ่าสัตว์เดียรฉานที่ทำได้แต่แหกปากร้อง เมื่อก่อนมันทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น ในตอนนี้มันหายไปหมดแล้วความรู้สึกนั้น

     

    แต่คำพูดของพ่อมักจะผิดคาดเสมอ

     

    "ฉันรอให้แกพูดคำนี้มานานแล้ว"

     

    อาคาชิเลิกคิ้วแปลกใจกับคำพูดของมาซาโอมิ ดูท่าทางพ่อจะไม่โกรธและไม่มีการลั่นวาจาต่อว่าใส่อย่างที่คิด มือหยาบกร้านริ้วรอยบอกประสบการณ์ชีวิตประสานกันไว้ใต้คางแล้วพูดต่อ

     

    "ฉันก็คิดว่ามันถึงเวลาที่แกควรจะเลิกฆ่าสัตว์ แล้วหันมาฆ่าอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่า"

     

    "น่าสนใจกว่าสัตว์?"อาคาชิทวนคำ

     

    "ใช่ 'มนุษย์'ไงล่ะ"

     

    ริมฝีปากกระตุกยิ้มเหี้ยม ลูกชายถึงกับตะลึง เขาอยู่กับพ่อมาตลอด 18 ปีและรู้ว่าเป็นคนยิ้มยากแค่ไหน ถ้าไม่ใช่อะไรที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นได้ ก็ไม่มีทางเลยที่ริมฝีปากหนักๆจะเผยรอยยิ้มออกมา

     

    "การฆ่ามนุษย์ฉันคงไม่จำเป็นต้องสอน แกคงจะไม่ทำให้ผิดหวังนะเซย์จูโร่" 

     

    "แน่นอนครับ.." ชายผมแดงกระตุกยิ้มตาม ใบหน้าคมคายก้มมองร่างกายตัวเองที่สั่นสะท้านไปถึงอกซ้าย เมื่อนึกถึงภาพมนุษย์ร้องโหยหวนอ้อนวอนขอชีวิตก็ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว 

     

    นี่จะเป็นความสนุกแปลกใหม่ที่จะได้สัมผัส การฆ่าจะกลายความตื่นเต้นของอาคาชิอีกครั้ง

     

    แต่เป็นหายนะความตายที่น่าสยดสยองที่สุดของผู้โชคร้าย..

     

    แล้วใครล่ะที่จะเป็นเหยื่อรายแรก?

     

     

    End. Emperorr of Occult magic บทที่ 1 กำเนิดทายาทจอมขมังเวทย์

     

     ดี้เตือนก่อนสำหรบคนอ่านเรื่องนี้ มีเนื้อหารุนแรงกุโระผิดศีลธรรม มีฉากสยองมากค่ะ จริงๆเตยแต่งสดในทวิตเตอร์นะ แล้วเอามาเขียนเรียบเรียงใหม่ค่ะ

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×