ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prince Recipe ป่วนวัง เจ้าชายกำมะลอ[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : กฎเหล็กของเจ้าชายข้อที่1 เจ้าชายต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.23K
      5
      22 ส.ค. 53

    "ฝ่าบาท" ข้าเรียกคนป่วยใกล้ตายที่ชอบทำตัวเป็นตาแก่ที่นั่งอยู่บนบันลังก์กลางห้องโถงขนาดใหญ่

    "...แอนโทนี....เจ้าหาเจอสิ่งนั้นเจอหรือยัง?"ตาแก่นั่นเริ่มชิงถามถึงเรืองที่เพิ่งจิกหัวใช้เอ๊ย!ไหว้วานข้า

    "เจอแล้ว นี่พ่ะย่ะค่ะ" ข้ายื่นซากหนังสือโบราณ(เก่ายิ่งกว่าหนังสือจนถ้าตาแก่นั่นไม่บอกให้ข้าหาหนังสือข้าก็คงไม่นึกว่ามันคือหนังสือหรอก)ให้ใกล้มือตาแก่นั่นเพราะข้าเกรงว่าถ้าไม่ยื่นให้ใกล้ขนาดนี้ตาแก่นั่นคงไม่มีปัญญาเอื้อมมาหยิบได้

    "ขอบใจมาก" ตาแก่นั่นรีบหยิบซากหนังสือจากมือของข้าไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าภาพตาแก่ใกล้ตายที่เกิดขึ้นตะกี้มันไม่เคยมีอยู่

    ".....พินัยกรรมลับของกษัตริย์แห่งเนอาร์โฮลีแลนด์องค์ที่17........." ตาแก่นั่นเริ่มเลื่อนนิ้วดูตัวหนังสือในซากพินัยกรรมเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่บรรทัดสุดท้าย

    "..........ข้าขอสั่งให้ลูกหลานที่สืบเชื้อสายกษัตริย์แห่งเนอาร์โฮลีแลนด์ได้อภิเษกลูกหลานของจอร์จ ดาร์ลนี เฟซิอาร์เทอร์........."


    ......ตาแก่นั่นเงียบไปซักพัก........

    "....แอนโทนี.....เจ้าพอจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้มีคนในตระกูลเฟซิอาร์เทอร์เหลืออยู่บ้างไหม?"ตาแก่นั่นหันมาถามข้า

    "ก็...มีพ่ะย่ะค่ะ...."

    "ใคร?"

    "เจ้าของร้านซ่อมเครื่องดนตรีข้างๆสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลีโอนาโด ยาโกร เฟซิอาร์เทอร์ พ่ะย่ะค่ะ"

    ".....งั้นหรอ.....งั้น...เจ้า....ช่วยตามตัวมาให้ข้าทีนะ..."

    "พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท"




    ณ ร้านซ่อมเครื่องดนตรี ในเมือง

    "ลี!" ประตูร้านได้เปิดพร้อมกับมีเสียงเด็กผู้ชายอายุไม่เกิน10ปีคนหนึ่งดังขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

    "ว่าไงฟรองซ์ มีอะไรมาให้ข้าซ่อมฟรีอีกล่ะ- -" เด็กหนุ่มร่างขาวนัยน์ตาสีม่วง(ต้องบอกว่าตัวขาวเพราะแทบหาสีอื่นนอกจากสีตาที่ไม่ขาวในตัวเขาได้เลย)พูดเซ็งๆอย่างรู้ใจว่ามีงานเข้ามาให้เหนื่อยฟรีๆโดยไม่ได้เงินเป็นค่าตอบแทน

    "ไวโอลินของข้าคอหัก สงสัยตอนที่ข้าทำกล่องกระแทกพื้นคอมันจะหักตั้งแต่ตอนนั่นน่ะ ลีช่วยซ่อมให้ข้าทีสินะ"เด็กคนนั้นมองลีโอนาโดเจ้าของร้านหนุ่มด้วยสายตาน่าสงสารชนิดถ้าไปขายพวงมาลัยข้างถนนคงจะขายหมดภายใน1ชั่วโมงได้ ประกอบกับสภาพชุดที่โทรมเหมือนไปลุยป่ามา3เดือน

    "ช่วยไม่ได้น้า~ ข้าซ่อมให้ก็ได้(วะ!)"เจ้าของร้าน(ซึ่งสภาพการแต่งตัวก็ไม่ได้ดีไปมากกว่าเด็กคนนั้น)อดสงสารไม่ได้แอบตำหนิตัวเองที่ใจอ่อนเกินไปเลยทำได้แต่ส่ายหัวก่อนที่จะยื่นมือไปหยิบซากไวโอลินมาซ่อมให้แต่โดยดี

    "พี่ลีน่าใจดีที่สุดเลย^^" เด็กนั่นยิ้มสดใสด้วยความดีใจจนข้าแอบเขินจนหน้าแดงนิดๆ ได้เด็กบ้า!ถ้าจะขอบใจก็หัดเรียกชื่อข้าเต็มๆสิฟะ?! อย่ามาย่อชื่อข้าซะเหมือนชื่อผู้หญิงอย่างนั้นเซ่ -*- !!!!!!!!!!

    ปัง!!! เสียงถีบประตูร้านอย่างแรงจนซากบานประตูกระเด็นไปติดกับข้างฝา

    "ข้าขอตัวก่อนนะพี่ลี!" ฟรองซ์รีบใส่เกียร์หมาหนีไปก่อนทางประตูหลังร้าน

    "อ๊ะ!!!O.O" ลีโอนาโดถึงกับสะดุ้งเพราะภาพที่เห็นตอนนี้คือทหารของเนอาร์โฮลีแลนด์1คน ไม่สิ! 2คน 3คน ทยอยเดินเข้ามาในร้านทางซากประตู(สภาพตอนนี้มันไม่น่าจะใช่ประตูแล้วล่ะ)จนหมด ทั้งหมดมีประมาณ ราวๆซัก...20คนได้!!!

    "ไม่นะประตูร้านของข้า/T[]T\!!!!!!!!"ประตูที่คู่บุญบารมีร้านมาตั้งแต่สมัยรุ่นทวดของข้าถูกพวกทหารที่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันพังซะแล้ว ร้านนี้กว่าพวกข้าจะผ่อนหมดนี่ต้องผ่อนนานถึงรุ่นข้าเลยนะเฟ้ย!!!! แล้วพวกแกมาหาเรื่องพังให้ข้าเสียเงินอีกทำไมกานนนนนนนT[]T!!!!!!!!

    "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกท่านเจ้าของร้าน ไว้ข้าจะจ่ายค่าเสียหายให้ท่านเป็นสองเท่าเลย" มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทำให้ลีโอนาโดที่กำลังสติแตกอยู่ชะงักแล้วหันมามอง สิ่งที่เห็นคือมีชายหนุ่มเดินออกมาจากทางกลุ่มทหารที่พร้อมใจกันหลีกทางให้ คาดว่าหมอนั่นน่าจะเป็นหัวหน้าของพวกทหารนั่นดูได้จากปฏิกิริยาที่แสดงความเคารพของทหารคนอื่นๆและท่าทางที่สง่าดูองอาจของหมอนั่นบวกกับผมสีน้ำตาลเข้มตาสีเทาที่ดูน่าหลงใหลนั่น หน้าตาที่หล่อเหลาคมคายและสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชาย แถมยังใส่ชุดที่ดูหรูกว่าทหารคนอื่นๆ ใช่แน่นอน!! ไอ้หมอนี่มันมีเงินนี่หว่า !!!!!!!

    "ยินดีต้อนรับขอรับท่านอัศวิน^^ ไม่ทราบว่าที่ท่านอุส่าห์ลำบากลำบนเดินทางมายังร้านเครื่องดนตรีในถิ่นทุรกันดารอย่างนี้ท่านต้องการอะไรหรือขอรับ? ท่านทั้งหลายเชิญนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวกระผมจะหาเครื่องดื่มมารองรับนะขอรับ^^" ข้ารีบเปลี่ยนท่าทีเป็นประจบประแจงทันที ฮ้า....มีโอกาสที่มังกรจะหลงเข้ามาในถ้ำเสือแล้วทั้งที เสือก็ต้องจัดการขู่กรรโชกทรัพย์เอ๊ย!บริการอย่างดีเพื่อผลประโยชน์

    แอนโทนีมองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นลีโอนาโดที่ตาแก่นั่นตามหาด้วยสายตาที่แฝงด้วยความสงสัย ผมสีขาวที่ยาวลงมาถึงเอว ผิวสีขาวดุจหิมะ ตาสีม่วงทอประกายเหมือนอัญมณี ใส่แว่นสายตากรอบสีเงินสำหรับทำงาน กับชุดสีขาวทังตัว คุณลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นนี้ใครได้ยินก็คงนึกว่าเจ้าชายที่สง่างามราวกับเทพบุตร แต่ถ้าเอามาพิจารณาดูดีๆแล้วมัน.....ไว้ผมยาวทั้งทีแต่กลับปล่อยให้กระเซิง........สีผิวขาวก็จริงแต่มันดูซีดไปหน่อยมั้ง......มีตาสีม่วงสวยขนาดนั้นแล้วแต่กลับมีแววตาที่หื่นกระหายเงินอย่างเห็นได้ชัด......แถมไอ้ชุดที่ว่าขาวนี่มันคือเสื้อผ้าที่เก่าจนซีดขาวที่ซื้อต่อๆมาหลายมือใส่ซ้อนทับกันหลายชุดเพราะไม่มีเงินซื้อเสื้อกันหนาวดีๆมาใส่ได้.....พอมารวมกันแล้วมัน......โคตรเหมือนวิณญาณเลยว่ะ!!!!!!

    "ไม่ทราบว่าท่านคือลีโอนาโด ยาโกร เฟซิอาร์เทอร์ เจ้าของร้านนี้ใช่หรือไม่?" หัวหน้าของพวกทหารคนนั้นถามข้าก่อน

    "ใช่ขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะรับบริการอะไรดีขอรับ^^?" ฮ่าๆๆ มีเหยื่อเอ๊ย!ลูกค้าเอาเงินมาสังเวยข้าแล้วสินะ

    "ถ้างั้นท่านช่วยมากับข้าหน่อยนะ" พูดไม่ทันไรหมอนั่นก็ขว้าข้อมือข้าไว้แน่นโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว มืออีกข้างก็เอากุญแจมือมาล็อคมือทั้งสองข้างของข้าไว้
     
    "อ๊ะ!" เสร็จกัน! มือโดนล็อคไว้อย่างนี้ก็หนีไม่ได้แล้วน่ะสิ= =

    ทหารที่ยืนอยู่ข้างหลังข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้คนหนึ่งเอาถุงคลุมหัวข้า ทำให้ตอนนี้ข้ามองไม่เห็นอะไรอีกนอกจากความมืด แต่ข้าก็รู้สึกได้ว่ามีคนได้อุ้มตัวข้าไปพาดไว้บนบ่าของคนๆนั้นแล้วอุ้มข้าเดินออกจากร้านไปตามถนน เพราะข้าได้ยินเสียงเด็กๆวิ่งเล่นกันข้างถนน

    "ทำอะไรของเจ้าน่ะ?! ปล่อยข้านะ!" ข้าเริ่มแหกปากตะโกนทันทีที่เริ่มได้สติ จู่ๆมาจับตัวข้าไปอย่างนี้เค้าคงไม่ได้ประสงค์ดีอยู่แล้วล่ะ

    "ท่านอยู่เฉยๆเถอะ ถ้าขยับมากเดี๋ยวปืนที่ข้าจ่อเองท่านไว้มันจะลั่นขึ้นมานะ^^" น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนขัดกับคำพูดที่น่ากลัวนั่นทำให้ข้าต้องหวาดผวา ยิ่งมีความรู้สึกเหมือนมีโลหะเย็นๆมาจ่ออยู่ตรงเอวข้ายิ่งไม่ต้องสงสัยเลย ข้าตายแหงT[]T

    ฮ่าๆๆๆๆ.....ข้าโง่เองสินะ.....จริงด้วย....ทหารบ้าที่ไหนจะบ้าถ่อมาถึงร้านเครื่องดนตรีโทรมๆอย่างนี้เพื่อมาซ่อมเครื่องดนตรีล่ะ....

    ..........มาขนาดนี้ข้าคงโดนจับไปฆ่าแหง........

    .........ข้าตายแน่ๆ.....ว่าแต่ว่า..ข้าทำผิดอะไรล่ะ................


    ...............................................

    .....โดนแบกนานไปแล้วนะเฟ้ย........

    ........ชักจะง่วงซะแล้วสิ....................

    ...................................

    ..........




    "..งืม....." มีแสงสว่างแยงตาข้าจนทำให้ข้าตื่น

    "ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย?" พอตาข้าเริ่มปรับสภาพได้ข้าก็เริ่มมองเห็นสภาพแวดล้อมตอนนี้ ข้านั่งอยู่บนโซฟาหรูๆในห้องนั่งเล่นที่หรูยิ่งกว่า จะว่ายังไงดีล่ะ...ประมาณว่าอารมณ์ประมาณวังในนิทานหลอกเด็กไม่มีผิด ตอนนี้มือข้าไม่ได้ถูกพันธนาการแล้ว หรือว่าที่นี่คือสวรรค์?! ข้าคงตายแล้วสินะ???!!!!

    "องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ" ระหว่างที่ข้ากำลังงงกับบรรยากาศบนสวรรค์(น่าจะใช่)ก็มีเสียงหนึ่งเรียกข้าข้างๆ เรียกเบาๆก็จริงแต่ในภาวะมึนงงอย่างนี้ข้าก็สะดุ้งได้เหมือนกัน ข้ารีบหันไปมองทางต้นเสียง มีหนุ่มผมดำสนิทในชุดสูทดำยืนอยู่ข้างๆข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ "ตื่นแล้วหรอพ่ะย่ะค่ะ ทุกท่านกำลังรอท่านอยู่ในท้องพระโรง รีบเสด็จไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ^^" ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มนั้นกำลังจ้องมองมาที่ข้า แต่ว่าเขาเรียกข้าว่าองค์ชายนี่นา?! หรือว่านี่คือความฝัน?!!! แต่ถึงจะงงยังไงดวงตาสีทองคู่นั้นที่จ้องข้าก็ทำให้ข้าต้องเออออเดินตามเขาไป

    หนุ่มคนนั้นพาข้าเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเรื่อยๆตามทางเดินที่ถูกปูด้วยพรมสีแดง ข้ามองไปรอบๆตอนนี้ก็เห็นแต่ผนังสีขาวที่มีโคมไฟส่องแสงสีเหลืองนวลกับประตูห้องต่างๆที่มีอยู่ข้างๆทางระยะห่างสม่ำเสมอ สักพักหนึ่งหลังจากพ้นระเบียงทางเดินยาวสุดๆนั่นแล้วข้าก็พบกับบันไดวนลงไปข้างล่างสูงลิบที่มีราวจับสีทองแกะสลักอย่างหรู เหนือบันไดวนนั่นมีแชนเดอร์เลียขนาดมหึมาแขวนอยู่บนนั้น

    "องค์ชาย เดินดีๆระวังลื่นนะพ่ะย่ะค่ะ^^" มือซ้ายที่นุ่มนิ่มแบบลูกคุณหนูของหนุ่มผมดำคนนั้นได้ยื่นมาจูงมือขวาที่หยาบกร้านและเย็นของข้าไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของข้าก็เกาะราวบันไดไว้แน่นเพราะหนุ่มผมดำคนนั้นจูงข้าลงบันไดเร็วมาก"ถ้าไม่เดินให้เร็วกว่านี้ก็จะไปถึงช้ากว่ากำหนดนะพ่ะย่ะค่ะ^^"หนุ่มคนนั้นหันมาพูดกับข้าด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มแบบอบอุ่นให้ข้าผ่อนคลายแต่เป็นยิ้มเย็นๆมากกว่า

    ตอนนี้หัวสมองข้าเริ่มสับสนจนไม่รู้ว่าตอนนี้จะเริ่มคิดเรื่องเหตุการณ์ที่น่าเวียนหัวนี่ยังไงดี ข้าได้แต่เงยหน้ามองแชนเดอร์เลียขนาดมหึมาที่อยู่เหนือหัวข้าตอนนี้แล้วเริ่มประเมิณราคา อืม....น่าจะราคาถึง1000เหรียญไม่สิ!3000เหรียญได้ มือซ้ายของข้าที่จับราวบันไดก็เริ่มใช้'พลังสัมผัสธาตุ'ได้แล้วว่าราวสีทองที่ข้าจับอยู่มันเป็นทองแท้100% อืม....ถ้าข้าหนีออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ข้าจะแอบเอาไปด้วยดีกว่า.....แต่ว่ามันคงยากไปหน่อยน่ะนะ.....

    ไม่ๆๆๆๆ!!!! อย่าลืมสิลีโอนาโด ตอนนี้ข้าอยู่ในสวรรค์แล้วนะ สวรรค์อันแสนสุขที่ข้าจะได้มีชีวิตอย่างสบายมีกินมีใช้ฟรีๆไปทั้งชาติ แถมยังมีคนรับใช้(หนุ่มผมดำซึ่งข้าคาดว่าน่าจะใช่คนรับใช้ของสวรรค์แห่งนี้)อยู่ปรนนิบัติด้วยนะ ตอนนี้เงินไม่จำเป็นสำหรับข้าอีกต่อไปแล้ว แต่ว่า.....มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแหยงๆอ่ะนะ ก็มีผู้ชายด้วยกันมาจับมือข้าอย่างนี้น่ะสิ= =

    "ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ" เสียงนี่ทำให้ข้าตื่นจากภวังค์ ข้าเงยหน้ามองสถานที่ๆข้าโดนลากมา ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าข้าคือประตูไม้ขนาดใหญ่ถูกแกะสลักเป็นรูปตราสัญลักษณ์เรือสำเภามีมังกรไฟบินโอบล้องเรือของเนอาร์โฮลีแลนด์ ถึงมันจะแปลกๆไปหน่อยที่มีตราสัญลักษณ์ประเทศข้าโผล่มาอยู่บนสวรรค์ได้ แต่ก็ช่างเถอะ "องค์ชายลีโอนาโดเสด็จ!" หนุ่มผมดำคนนั้นประกาศเสียงดัง ทหารอีกสองคนที่ยืนเฝ้าประตูอยู่รีบเปิดประตูให้พวกข้าทันที อะไรกัน?!เรียกข้าว่าองค์ชายอีกแล้ว!!!!

    หลังบานประตูบานตะกี้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่โทนสีขาวสว่างแสบตา บนเพดานมีแชนเดอร์เลียขนาดมหึมายิ่งกว่าแชนเดอร์เลียที่ข้าเห็นที่บันไดนั่น รอบๆทางที่ข้าโดนหนุ่มนั่นลากมานั้นมีฝูงชนดูท่าทางมีเงินยืนจ้องมาทางข้าอยู่สองข้างทาง บ้างคนก็ยิ้มให้ข้า บางคนก็มองข้าด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย แต่ข้าไม่มีเวลามาสนใจเทวดารุ่นพี่ที่มาคอยต้อนรับข้า(ข้าเดาเอา)พวกนี้หรอก เพราะข้ากำลังใช้สมาธิอย่างมากเพ่ง'พลังสัมผัสธาตุ'ประเมิณค่าแชนเดอร์เลียอยู่ อืม....โครงทำจากทองคำแท้หมดเลยแฮะ.....มีฝังพลอยซะด้วย....ท่าทางแพงน่าดูเลยนะเนี่ย.....

    พวกเจ้าอาจจะฟังคำว่าพลังสัมผัสธาตุของข้าจนเริ่มสงสัยแล้วสินะ งั้นจะอธิบายคร่าวๆก่อนแล้วกัน คนของเนอาร์โฮลีแลนด์เกิดมาทุกคนต้องมีพลังวิเศษเฉพาะของตัวเอง พลังสัมผัสธาตุของข้าก็เช่นกัน พลังนี้มีไว้เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติธาตุต่างๆ ว่าเป็นธาตุอะไร มีความเข้มข้นเท่าไหร่ จะสัมผัสจากระยะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ได้(ถ้าพลังในตัวข้ามีพออ่ะนะ) แต่ข้าไม่เห็นว่าพลังนี่มันจะวิเศษตรงไหนเลย หาเงินก็ไม่ได้ อย่างมากก็แค่ใช้สัมผัสธาตุในเครืองดนตรีเพื่อหาจุดซ่อมแซมแค่นั้นเอง

    และแล้วหนุ่มตาสีทองคนนั้นที่ลากข้ามาถึงกลางห้องโถงก็หยุดเดิน ทำให้ข้าหยุดความสนใจในการประเมิณราคาของในห้องโถงแล้ววางแผนแอบขโมยออกไปได้ ตรงหน้าข้าเป็นแท่นยกสูงขึ้นไป มีชายหนุ่มผิวขาวซีดกว่าข้าอายุราวๆเกือบ30ปี นั่งอยู่บนบัลลังก์ ชายคนนั้นมีผมสีทองหยักศกยาวลงมาดูสง่างาม ตาสีเขียวมรกต ใส่ชุดคลุมผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่างดี ถ้าไม่นับบุคลิกที่ดูเหมือนตาแก่ใกล้ตายนั่นแล้ว หมอนี่ก็นับว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีสง่างามราวกับเทพบุตรที่มีแต่สาวๆหลงใหลแท้ๆอย่างแน่นอน

    "ลีโอนาโด ยาโกร เฟซิอาร์เธอร์....ในที่สุดเจ้าก็มาซะที" ตาแก่เอ๊ย!ชายหนุ่มผมทองคนนั้นพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบ นี่ถ้าคนในห้องโถงทุกคนไม่เงียบให้ข้าก็คงไม่ได้ยินตาแก่เอ๊ย!ชายหนุ่มผมทองคนนี้พูดหรอก "เพื่อไม่ให้เป็นหารเสียเวลา ข้าจะขอให้จัดพิธีหมั้น ณ บัดนี้"

    นี่มันอะไรอีกเนี่ย?! พอข้ามาถึงสวรรค์ปุ๊บ พระเจ้า(น่าจะใช่นะ)ก็สั่งให้จัดงานหมั้นปั๊บ ใคร? ใครจะหมั้นกันบนสวรรค์ห๊ะ?!! ข้าเข้าใจแล้ว!!! ที่ข้าโดนลากมาอย่างนี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการหมั้นของเหล่าเทพใช่ไหม!!!!!(เดาเอาเองล้วนๆ)

    "ลีโอนาโด ยาโกร เฟซิอาร์เธอร์" เสียงเรียกชื่อข้าด้วยโทนเสียงทุ้มต่ำจากมุมต่ำนี้ทำเอาข้าสะดุ้งเฮือก รีบหันขวับลงไปมองเจ้าของเสียงที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นทันที 'ดำทะมึน'โดยภาพรวมของหนุ่มคนนี้อ่ะนะ นอกจากผิวขาวๆนั่นแล้วก็ดำตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยล่ะ ในมือสองข้างใหญ่นั้นได้ประคองกล่องกำมะหยี่สีแดงเล็กๆที่มีแหวนหน้าตาดูมีราคาโชว์หราอยู่ "เจ้ายินดีจะเป็นภรรยาของข้าไหม?"

    ตอนนี้ข้ากำลังใช้พลังสัมผัสธาตุเพ่งไปที่แหวนสุดหรูนั่นจนไม่ได้ยินคำพูดประโยคหลังของเขาแล้ว แหวนวงนี้ทำจากทองคำขาวแท้ๆ พลอยที่ฝังไว้ตรงกลางเป็นพลอยสีน้ำเงินหรือเอสเมอร์ที่หายากโคตรๆ มีแหล่งอยู่ในส่วนลึกๆของป่าโคลัสที่ต้องราบมังกรไม่รู้กี่ตัว สู้กับอมนุษย์อีกหลายตน กว่าจะได้มันมา เพราะฉะนั้น มันต้องมีราคาแพงสุดๆแน่นอน!!!!!!

    "อา....ช่างสวยงามเหลือเกินTvT" ข้าหยิบสุดยอดแหวนวงนั้นออกมาจากกล่องมองมองใกล้ๆ ใช้มือลูบไล้พลอยนั่นจนน้ำตาซึม อา....ถ้าข้ามีเจ้านี่ล่ะก็....ชีวิตนี้ข้าไม่ต้องทำงานอะไรอีกแล้ว นอนกินได้ทั้งชาติTvT

    ระหว่างที่ข้ากำลังชื่นชมความสวยงาม(ราคา)ของแหวนอยู่นั้นก็มีมือของหนุ่มดำทะมึนมาคว้าข้อมือซ้ายของข้าไว้แน่น

    "อะไรกัน ข้าขอดูชัดๆไม่ได้หรือไง?!!-*-" ข้าบ่นใส่หนุ่มดำทะมึนที่ข้าเพิ่งพบกันไม่ถึง5นาทีโดยไม่นึกถึงมารยาทเลยว่าเจ้าของแหวนสมควรบ่นใส่ไอ้บ้าที่จู่ๆมาหยิบแหวนของเขาไปดูซะเฉยเลยมากกว่า ข้าพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากมือใหญ่หยาบกร้านเหมือนคนที่จับดาบบ่อยๆนั้นแต่ก็สะบัดไม่หลุดซะที ส่วนหนุ่มดำทะมึนที่จับข้อมือของข้าไว้กลับแทบไม่ได้ออกแรงยื้อไว้เลยในขณะที่ข้าออกแรงแทบเป็นแทบตายจนหมดแรง หลังจากนั้นหนุ่มทะมึนก็หยิบแหวนออกจากมือของข้ามาสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของข้า

    "อะไรกันจะยกแหวนให้ก็ไม่บอก ข้าใส่เองได้น่า! แต่ว่า.....นี่มันนิ้วนางข้างซ้ายนี่........" ข้าเริ่มพูดช้าลงแล้วก็หยุดนิ่ง......นิ้ว...นาง.....ข้าง....ซ้าย....นิ้วนางข้างซ้าย!!!!!! งั้นก็หมายความว่า.....

    "บัดนี้องค์ชายอัลเนส เนอาร์โฮลี ได้สวมแหวนหมั้นให้กับองค์ชายลีโอนาโด ยาโกร เฟซิอาร์เธอร์แล้ว ถือว่าพิธีหมั้นได้เสร็จลงเรียบร้อย ไว้ข้าจะกำหนดฤกษ์พิธีอภิเษกสมรสขององค์ชายทั้งสองทีหลัง ขอบคุณพวกท่านมากที่มาร่วมงานหมั้น" ตาแก่หัวทองที่อยู่บนบัลลังก์ประกาศ

    เฮ้ย!!!O_O องค์ชาย....เนอาร์โฮลีแลนด์.....หมั้น....!!!!!!!

    ข้ารีบหันขวับไปยังบัลลังก์นั่น บนหัวของตาแก่ผมทองนั่นมีมงกุฏทองสวมอยู่ ไม่ผิดแน่!!!!!! นี่คือพระราชาแห่งนาอาร์โฮลีแลนด์ตัวจริงเสียงจริง งั้นหนุ่มดำทะมึนนี่ก็คือองค์ชายแห่งเนอาร์โฮลีแลนด์ คนที่นี่ก็คือพวกขุนนางหรือไม่ก็เชื้อพระวงศ์ หนุ่มตาสีทองคนที่พาข้ามาก็คือคนของที่นี่ งั้นที่นี่ก็คือวังเนอาร์โฮลีแลนด์น่ะสิ!!!!!!!

    "ฝ่าบาททรงพระเจริญ~ เจ้าชายอัลเนสทรงพระเจริญ~ เจ้าชายลีโอนาโดทรงพระเจริญ~" เหล่าผู้คนในวังโห่ร้องสรรเสริญ

    ข้ามองหันซ้ายหันขวามองรอบๆสภาพแวดล้อมอันแปลกใหม่ชวนน่าเวียนหัวนี้ และแล้วข้าก็เจอกับหลักฐาน(บุคคล)ที่ช่วยยืนยันความจริงในสภาวะงุนงงนี้ได้อีกคน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ตาสีเทา คนนั้นที่มาลักพาตัวข้าไปจากร้านมาทิ้งไว้ที่นี่ เรื่องนี้ข้าคงเดาไม่ผิดอีกแน่

    อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!! เรื่องนี้มันคือเรื่องจริงหรอเนี่ยยยยยยยยยย ข้าแทบอยากร้องไห้

    ข้าหันไปมองเจ้าชายอัลเนส(หนุ่มดำทะมึนคนนั้น)ที่จากตอนแรกที่ข้าเห็นคือท่าคุกเข่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นยืนกุมมือทั้งสองข้างของข้าเอาไว้ โดยที่เขาเองก็จ้องหน้าข้าเขม็งยิ่งกว่าข้าที่จ้องเขาอยู่ซะอีก

    'เจ้าชาย....ช่วยบอกข้าทีสิว่านี่มันเป็นแค่ความฝันน่ะ ท่านคงจะไม่แต่งงานกับข้าจริงๆใช่ไหม? ข้าเป็นผู้ชายนะT^T' ข้าส่งสายตาวิงวอนบอกเจ้าชายไปอย่างนี้

    '......ก็เจ้าตกลงจะแต่งงานกับข้าเองไม่ใช่หรอ?....หลักฐานก็ดูจากที่เจ้าหยิบแหวนหมั้นวงนั้นขึ้นมา......' สายตาของเจ้าชายที่จ้องตาข้ามันบอกข้าอย่างนี้T^T(เดาเอา)

    'แง้ๆๆๆๆ เจ้าชายอภัยให้ข้าด้วย เรื่องนี้ท่านเข้าใจข้าผิดนะ ข้าแค่เกิดความหลงใหลในความงดงาม(ราคา)ของแหวนเลยหยิบไปดู(แล้วกะจะชิ่ง)หน่อยเดียวเองนะ'

    '....สายไปเสียแล้วล่ะลีน่า' แม้แต่เจ้าชายก็ยังย่อชื่อข้าด้วยเรอะ?!! 

    "...ลีน่า...." เจ้าชายกระซิบชื่อข้าเบาๆด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ใครฟังก็รู้สึกเยือกเย็น ข้าเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติอย่างหนึ่งได้........ระยะห่างของหน้าข้ากับหน้าของเจ้าชายอัลเนสเริ่มแคบลงเรื่อยๆแล้ว!!!!!!

    งั้นก็หมายความว่า!!!!!!!!!

    ...จะ'จูบ'  !!!!!???????

    ม่ายยยยยน้า!!!!!! แค่เรื่องที่ข้าโดนหมั้นกับผู้ชายด้วยกันข้าก็จะช็อคตายอยู่แล้ว ยังจะต้องโดนผู้ชายด้วยกันพรากเฟิร์สคิสของข้าด้วยอีกหรอเนี่ย?????? แต่ว่าไม่ช้าก็เร็วถ้าข้าแต่งงานกับเจ้าชายอัลเนสไปแล้วข้าอาจจะต้องโดนอะไรที่มากกว่านี้ก็ได้ ไม่น๊าO[]O!!!!!!!

    "ดะ...ดะ ดะ ดะ เดี๋ยวก่อนสิ! นี่เจ้าจะทำอะไรของเจ้าน่ะ?!O///O" ข้าเริ่มตั้งสติใช้มือแผ่นอกของเจ้าชาย แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ระยะห่างลดลงได้เลยแม้แต่น้อย เหมือนกับใช้มือลูบซิกแพ็คเล่นๆแค่นั้นเองT^T

    "ก็....'จูบ'ไงล่ะ- -"อัลเนสตอบคำพูดที่น่าสะพรึงกลัวสุดๆสำหรับข้าด้วยสีหน้าเย็นชาเรียบเฉย

    "จะ จะ จะ...จะบ้าเรอะ???!!!! ข้าเป็นผู้ชายนะ! เป็นผู้ชายเหมือนเจ้าแล้วเจ้าคิดจะ....."

    "ก็...เราเป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่หรือไง?....เรื่องแค่นี้...ไม่ได้งั้นหรอ?- -"

    "ไม่ได้เฟ้ยยยยยยยยย!!!!!!!!" ข้าไม่ได้ตั้งใจอยากจะเป็นคู่หมั้นกับเจ้าซะหน่อย

    "ข้าไม่สน!- -" อัลเนสค่อยๆก้มหน้าลงมาใกล้หน้าข้าเรื่อยๆ(ข้าผิดใช่ไหมที่ข้าเกิดมาเตี้ย!)

    ทำไงดีว้า?!! ข้าหันไปมองรอบๆตัวเพื่อส่งสายตาขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าคนรอบๆตัวเกือบทุกคนพร้อมใจกันมองข้าที่กำลังจะถูกอัลเนสจูบอย่าจดจ่อ สายตาที่มองมานั้นเหมือนคนที่กำลังดูฉากเลิฟซีนในหนังรักโรแมนติกไม่มีผิด แต่ก็มีหนุ่มผมดำตาสีทองที่มองแล้วยิ้มเยือกเย็นตามปกติกับทหารผมสีน้ำตาลคนที่จับตัวข้ามาที่เบือนหน้าแดงๆนั่นหนีไปทางอื่นเหมือนกับว่าฉากที่เขาเห็นข้างหน้าคือฉากอีโรติกเรท18+ แต่หมอนั่นก็ยังแอบใช้หางตาเหลือบดูพวกข้าอยู่ดีนั่นแหละ!

    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากที่หมายที่ท่านเรียก....

    จบกันชีวิตข้าT^T หรือว่าข้าจะหนีตอนนี้เลยดี แต่พวกทหารยามคนอื่นๆก็จ้องข้าเขม็งเหมือนกัน แถมยังถืออาวุธครบมือกันทุกคนอีกต่างหาก ถ้าจะหนีตอนนี้ก็คงมีแต่ตายกับตายสินะT^T

    ...หรือว่าข้าจะยอมแต่งงานกับเจ้าชายอัลเนสดี ข้าจะได้ใช้ชีวิตอันสุขสบายตามความฝันของข้า....

    .......คิดจนมึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย............

    ..............


    "เฮ้ย! เจ้า!เป็นอะไรไปน่ะ?! เฮ้!" อัลเนสสังเกตเห็นความผิดปกติของลีโอนาโดที่สติเริ่มเลือนราง

    ....นี่...ข้า....เป็นอะไร...ไป.......

    ...............

    ......











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×