ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #21 : Fic Maze Runner [minewt AU] : Beside you and Beside me.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.07K
      8
      15 พ.ย. 57




    Fic Maze Runner : Beside you and Beside me.

    Couple : Minho x Newt, minewt [AU]

    Rate : PG

     



    เสียงเพลงในจังหวะสนุกๆ ดังแข่งกับเสียงกรีดร้องไร้สติของคนหนุ่มสาวที่กำลังสนุกสนานอยู่กับการเต้น แก้วเหล้าในมือ และการมองหาคู่นอนซักคน ภาพน่าเบื่อที่ทำให้เด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีชาได้แต่นั่งทำหน้าเซ็งจิบเหล้ามองอย่างไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับมันมากนัก


    “เฮ้ นายว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นไง”


    เสียงทุ้มๆ ของคนข้างตัวถูกส่งมาให้พร้อมกับแรงกระทุ้งจากข้อศอก เรียกให้ดวงตาสีน้ำตาลต้องหันไปมองตาตี่ๆ ของคนพูด หน้าหล่อๆ ในแบบฉบับคนเอเชียกำลังยกยิ้มพราวระยับก่อนจะพยักพเยิดให้เขาเลื่อนสายตาไปยังจุดโฟกัสที่อยู่ห่างออกไปสองโต๊ะ ผู้หญิงสวยจัดในชุดรัดรูปสีแดงสดกำลังมองมาทางนี้ ด้วยสายตาที่เรียกว่าแทบจะกลืนกินเพื่อนของเขาลงไปได้ทั้งตัว


    “มองมาขนาดนี้ก็คงไม่ต้องถามความเห็นกันแล้วมั้ง” ออกความเห็นด้วยน้ำเสียงติดจะขำๆ แต่กลับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างที่บอกว่าไม่ได้ขำอะไรอย่างที่พูดเลยด้วยซ้ำ


    “นั่นแหละ ฉันถึงต้องถามล่ะ”


    “หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอที่ทำให้คนถามต้องหัวเราะตาม ก่อนที่ใบหน้าหล่อๆ นั้นจะหันมามองคนข้างตัวอีกครั้ง


    มินโฮมองร่างผอมๆ ของคนข้างตัวอย่างติดจะขำๆ หน้าที่เด็กกว่าอายุจริงทำให้เจ้าตัวดูไม่ค่อยเข้ากับสถานที่อโคจรแบบนี้ซักเท่าไหร่นัก แต่ไอ้ท่าทางบอบบางแบบนี้นี่แหละที่มันซ่อนความแสบเอาไว้อย่างที่ใครก็คงนึกไม่ถึง


    นอกจากคนที่คบกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงอย่างเขาแล้ว คนอื่นๆ ก็คงมองหมอนี่เป็นเทวดาตัวน้อยกันหมดแต่วันนี้ไอ้เทวดาตัวน้อยตรงหน้ากลับเอาแต่นั่งทำหน้าซังกะตายอย่างที่ทำให้มินโฮเริ่มหมดอารมณ์สนุกตามไปด้วย


    ความคิดที่ทำให้ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างติดจะปลงๆ ก่อนจะหันไปส่งคำด่าอย่างอดไม่ได้


    “ขอร้องเหอะนิวท์ เลิกทำหน้าซักกะตายแบบนั้นซักห้านาทีได้มั๊ย ฉันพานายมาคลายเครียดนะเว้ย คลายเครียดน่ะ ไม่ใช่ให้มานั่งทำหน้าเซ็งเบื่อโลกแบบนี้ ไอ้ปลวก!



    และคนถูกด่าก็ยังคงเอาแต่นั่งเงียบกระดกเหล้าอึกๆ อย่างที่ทำให้มินโฮแทบจะกรอกตาขึ้นฟ้า


    เขาเกลียดเวลาที่หมอนี่เป็นแบบนี้สุดๆ


    ถ้าแค่ทะเลาะกับแฟนตามปกติเขาก็คงจะไม่ต้องมานั่งห่วงมันมากเท่าไหร่ เพราะมันก็คงเป็นแค่การทะเลาะกันรอบที่ร้อยที่พัน แต่ที่น่าเป็นห่วงก็เพราะว่าคราวนี้ดูเหมือนจะเป็นการทะเลาะกันที่รุนแรงมาก แรงจนหมอนี่ต้องมานั่งทำหน้าซังกะตายให้เขาต้องถ่อมานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนมันอยู่แบบนี้นี่แหละ


    ก็เคยบอกไปหลายรอบแล้วว่าให้เลิกกับหมอนั่นไปซะก็ไม่เคยเชื่อ นิสัยก็ไม่เข้ากัน อะไรก็เข้ากันไม่ได้เลยซักอย่างยังจะทนคบกันอยู่ได้ และที่สำคัญมินโฮโคตรไม่ชอบหน้าหมอนั่นสุดๆ ไม่ชอบเอามากๆ ไอ้หน้าแบบที่ดูปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าไม่มีวันรักเพื่อนเขาจริงแบบนั้นน่ะ


    แต่ก็นั่นแหละ มันเรื่องส่วนตัวของหมอนี่ เขาที่เป็นเพื่อนก็คงจะทำได้แค่เตือน ไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายนอกจากมันจะขอให้เขาเข้าไปก้าวก่ายเอง


    “เอาเถอะ”


    และสุดท้ายมินโฮก็ทำได้แค่ยักไหล่ แล้วหันกลับไปให้ความสนใจกับการเหล่สาวอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้ตัดสินใจว่าควรจะเข้าไปทักแม่สาวชุดแดงนั่นดีมั๊ย มินโฮก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นนิดเมื่ออยู่ๆ ไอ้คนที่เอาแต่นั่งเงียบมันก็นึกอยากจะพูดขึ้นมาเอาดื้อๆ


    “ฉันเบื่อ”


    “เออรู้”


    “เหนื่อยเป็นบ้าเลยด้วย”


    คำพูดที่ทำให้คนฟังต้องถอนหายใจเล็กน้อย นั่งเงียบกันอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนที่คนตัวใหญ่กว่าจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนคนเหนื่อยให้ลุกขึ้นตาม นิวท์เลิกคิ้วมองงงๆ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากโวยวายอะไร ก็ถูกมือใหญ่ๆ ของคนเป็นเพื่อนลากตรงไปยังฟลอร์ที่มีคนนับร้อยกำลังเต้นกันอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวของผับ


    มินโฮลากร่างผอมๆ มาหยุดลงกลางฝูงชน ก่อนจะยกยิ้มกวนๆ แล้วยักคิ้วส่งให้อย่างที่อ่านความหมายได้ว่า เอาเลยสิ ปลดปล่อยมันออกมาซะ!’


    ซึ่งนั่นมันก็ทำให้นิวท์ยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรกของวัน


    ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้ากวนๆ ของเพื่อนนิดๆ ก่อนจะตัดสินใจตะโกนไปกับเสียงเพลงจนสุดเสียง แล้วเริ่มต้นกระโดดเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อยล้าทุกอย่างออกมา ปลดปล่อยเรื่องงี่เง่าที่มันทำให้เขานึกอยากร้องไห้มาทั้งวัน


    ทิ้งมันไปให้หมด




     

     

     

    นิวท์เดินออกมาจากประตูผับด้วยหัวที่โล่งกว่าตอนเข้าไปมาก แขนเล็กๆ โอบรอบบ่าใหญ่ๆ ของเพื่อนรัก ในขณะที่พากันเดินโซเซ ตะโกนร้องเพลงเสียงดังราวกับคนไร้สติ ทั้งที่แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เมาได้ด้วยซ้ำ


    แต่ก็นั่นแหละ ใครจะสนเรื่องนั้นกันล่ะ


    ความคิดที่ทำให้ต้องยกยิ้มเหยียดก่อนจะตะโกนร้องเพลงด้วยเสียงที่ดังมากกว่าเดิม ให้เพื่อนคนที่เดินกอดคอกันอยู่ต้องแหกปากร้องแข่งบ้าง ก่อนที่เสียงร้องเพลงจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ และจบลงที่การชะงักกึกของนิวท์


    “หือ?”


    อาการหยุดชะงักที่ทำให้มินโฮต้องเลิกคิ้วอย่างติดจะแปลกใจ มองหน้าติดจะสวยของคนที่อยู่ๆ ก็หยุดเดินหยุดหัวเราะเอาดื้อๆ ก่อนจะเบนสายตาออกไปยังจุดที่ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นกำลังโฟกัสอยู่


    หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังคั่วกันอยู่หลังกระโปรงรถที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลราวกับไม่อายฟ้าอายดิน


    และมันก็คงจะไม่มีอะไรมาก ถ้าผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่คนที่กำลังคบอยู่กับไอ้คนข้างตัวเขานี่


    เยี่ยม!


    มินโฮเอ่ยคำประชดในใจ แทบสบถออกมาเมื่อเห็นสีหน้านิ่งเรียบของคนเป็นเพื่อนในตอนนี้ สีหน้าราบเรียบที่มันทำให้เขานึกอยากจะยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ด้วยความอ่อนใจ


    นี่เขาพยายามแทบตายกว่าจะทำให้มันหัวเราะออกมาได้นะเว้ย ปลวกเอ๊ย!


    นิวท์ค่อยๆ ยกแขนของมินโฮที่โอบอยู่บนไหล่ตนออก ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเขม่งไปยังชายหญิงที่ยังคงจูบกันดูดดื่มราวกับไม่สนใจว่าใครจะมองอยู่ แม้ใบหน้าจะยังคงราบเรียบไม่สื่ออารมณ์ใดๆ หากแต่มือกลับกำหมัดแน่น ก่อนจะที่ร่างเล็กๆ นั้นจะสาวเท้าตรงเข้าไปหาอย่างที่บอกถึงการหมดความอดทน


    อาการน็อตหลุดของเพื่อนรักที่ทำให้มินโฮต้องยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วสาวเท้าเดินตามไป


    เอาวะ เอาไงเอากัน มินโฮเองก็ไม่ได้มีเรื่องกับใครมานานแล้วเหมือนกัน


    ได้ออกกำลังกายนิดหน่อยก็คงดี


    “ถ้าคิดจะมาคั่วกับคนอื่นกลางถนนแบบนี้ ก็ควรจะหัดเลิกกับแฟนให้เรียบร้อยซะก่อนนะ”


    น้ำเสียงเย็นๆ เอ่ยคำทักอย่างที่ทำให้มินโฮนึกทึ่งอยู่ในใจ ถ้าเป็นเขาป่านนี้คงโมโหจนง้างหมัดซัดหน้ามันไปแล้ว แต่นิวท์กลับนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งอันที่จริงมันก็เป็นวิธีที่สมกับเป็นคนมีสติอย่างหมอนี่แล้วแหละนะ


    ถ้าไม่ติดว่า


    ถ้าไม่ติดว่าไอ้น้ำเสียงเย็นๆ แบบนี้นี่แหละที่มันน่ากลัวที่สุดน่ะ!


    “นิวท์”


    ไอ้หน้าปลวกที่เพิ่งจะสะดุ้งกับคำทักนั่น หันมามองพวกเขาด้วยสายตาติดจะอึ้งๆ หญิงสาวที่นอนเกยอยู่บนกระโปรงรถก็กำลังหันมามองด้วยความงุนงงเช่นกัน หากแต่รอยยิ้มบางเบากลับเป็นของเทวดาตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร


    เทวดาตัวน้อยที่กำลังจะกลายร่างเป็นปีศาจล่ะสิไม่ว่า


    ความคิดที่ทำให้มินโฮต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใจนึงก็นึกสนุกกับภาพตรงหน้า แต่อีกใจก็นึกเป็นห่วงไอ้เทวดาที่มันกำลังทำท่าทางเข้มแข็งไม่เจียมตัวอยู่นี่


    มันโกรธแค่ไหน เสียใจมากเท่าไหร่ ทำไมเขาจะไม่รู้


    “นอกใจสินะ?”


    คำถามที่ฟังก็รู้ว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ไอ้หน้าปลวกที่ตอนนี้กลับมาตั้งสติได้อีกครั้งกลับกำลังยกยิ้มด้วยท่าทางที่ทำให้มินโฮเห็นแล้วรู้สึกอยากจะกระโดดเข้าไปอัดมันซักหมัดสองหมัด


    “ก็แค่ One night stand น่า”


    “เป็นข้อแก้ตัวที่บัดซบดีนะ”


    “ไม่เอาน่านิวท์ ทำอย่างกับว่านายไม่เคยนอนกับคนอื่นนอกจากฉันอย่างนั้นแหละ” คำพูดที่ทำให้นิวท์ต้องกัดฟันกรอด ก่อนจะกระแทกเสียงตอบกลับอย่างหมดความอดทน


    “ไม่ใช่ตอนที่เรากำลังคบกันอยู่แน่นอนแจ็ค!


    แจ็คหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ ก่อนจะโต้กลับด้วยคำพูดที่สื่อแววดูถูกอย่างชัดเจน


    “นายแน่ใจเหรอว่าไม่เคย แล้วไอ้ตี๋นี่ล่ะ ตัวติดกันซะขนาดนั้น ใครมันเชื่อว่าเป็นแค่เพื่อนก็โง่แล้ว!



    “โดยเฉพาะกับคนอย่างนายเนี่ยหึ”


    น้ำเสียงและสายตาดูถูกที่ทำให้คนโดนดูถูกต้องกำหมัดแน่น นิวท์ยังคงจ้องผู้ชายคนตรงหน้าด้วยความโกรธจัด แต่คนที่โกรธมากยิ่งกว่ากลับเป็นผู้ถูกพาดพิงอีกคน


    “มินโฮใช่มั๊ย? ไหนบอกซิว่าลีลาของแฟนฉันเนี่ย มันเด็ดมากแค่ไหน?”


    “ไอ้ปลวกเอ๊ย!


    ความอดทนที่มีอยู่ไม่มากนักขาดลงทันที มินโฮพุ่งเข้าไปส่งหมัดลุ่นๆ ลงบนหน้าปลวกๆ นั่นจนสุดแรง ร่างของคนที่โดนต่อยเซถลากลับไปกระแทกเข้ากับกระโปรงรถยนต์ เรียกเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจจากหญิงสาวหนึ่งเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และก่อนที่จะได้พุ่งตามไปส่งหมัดที่สอง มินโฮก็ต้องชะงักเมื่อรับรู้ถึงแรงดึงจากแขนเล็กๆ ของคนเป็นเพื่อน


    “ไม่ต้องมาห้ามฉัน!” มินโฮหันกลับมาตะคอกใส่คนที่รั้งเขาเอาไว้อย่างเหลืออด หากแต่ใบหน้าราบเรียบนั้นก็กลับทำให้เขาต้องชะงักนิ่ง


    “ฉันไม่ได้ห้าม


    ใบหน้าติดจะสวยของคนพูดยกยิ้มนิดๆ หันกลับไปมองหน้าคนโดนต่อยที่ยังคงตกตะลึงอยู่ ก่อนที่นิวท์จะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้



    และ



    พลั่ก!!!


    หมัดลุ่นๆ กระแทกเข้าหน้าปลวกๆ นั่นจนเลือดกบปาก อย่างที่ทำให้คนมองอีกสองคนได้แต่อ้าปากค้าง


    “จบกันแค่นี้แหละแจ็ค”


    พูดจบใบหน้าติดจะสวยนั้นก็ยกยิ้มเหยียดหยาม ถ่มน้ำลายลงบนพื้น ก่อนจะคว้ามือของเพื่อนรักแล้วลากออกมาจากตรงนั้น

     

     




    มินโฮเดินตามคนตัวเล็กที่เดินลากเขาดุ่มๆ ด้วยความรู้สึกทึ่ง เขามองแผ่นหลังบางๆ ที่เอาแต่เดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ยอมพูดหรือหันกลับมามองข้างหลังด้วยซ้ำ และเมื่อตั้งสติได้มินโฮก็ต้องหลุดหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะส่ายหัวให้กับความแสบของคนตรงหน้า


    “หมัดเมื่อกี้เจ๋งเป็นบ้าเลยว่ะ”


    “ของนายก็เจ๋งไม่เบา”


    “ของฉันน่ะไม่แปลก แต่ของนายนี่สิ” น้ำเสียงติดจะขำๆ ที่ทำให้คนที่เดินดุ่มๆ อยู่ต้องหยุดเดินแล้วหันมามองด้วยสายตาที่บอกว่าอารมณ์ยังไม่คงที่ดีนัก


    “ของฉันมันทำไม?!


    มินโฮยักไหล่เล็กน้อย ก่อนจะตอบคำถามด้วยรอยยิ้มกวนๆ ตามแบบฉบับ


    “เปล่า”


    “นายคงไม่คิดว่าฉันจะร้องไห้ฟูมฟายเป็นสาวน้อยอกหักหรอกใช่มั๊ย ไอ้ปลวก!


    “ไม่เป็นก็ดี ฉันก็ขี้เกียจปลอบเหมือนกัน”


    “เออ!


    และนั่นก็เป็นคำตอบที่ทำให้มินโฮต้องหัวเราะลั่น ก่อนจะเอื้อมมือคว้าใหล่เล็กๆ ของคนอกหักเข้ามากอดคอเอาไว้ รอยยิ้มละไมยังคงแต้มอยู่บนใบหน้าตามแบบฉบับคนเอเชีย ในขณะที่มือใหญ่ก็ยกขึ้นขยี้กลุ่มผมสีชานั้นแรงๆ


    “คืนนี้ไปนอนห้องฉันนะ”


    “นายชวนฉันไปนอนด้วย หลังจากที่โดนไอ้บ้านั่นมันดูถูกแบบนั้นเนี่ยนะมินโฮ”


    “เออ”


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    ทำเป็นเก่ง สุดท้ายก็ต้องถ่อมานอนห้องเขาอยู่ดีล่ะวะ


    ความคิดที่ทำให้มินโฮต้องส่ายหัวมองร่างผอมๆ ของคนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ริมระเบียง ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นกำลังมองตรงออกไปยังแสงไฟระยิบระยับเบื้องล่างมหานครนิวยอร์ก ในขณะที่ริมฝีปากก็ปล่อยควันสีเทาของมวลบุหรี่ให้ลอยออกไปด้านนอก ภาพที่ทำให้มินโฮต้องถอนหายใจด้วยความเป็นห่วง หากแต่ก็ยังคงระบายยิ้มน้อยๆ เมื่อสาวเท้าเดินเข้าไปหา


    มินโฮเดินไปหยุดลงข้างๆ เพื่อนตัวเล็ก มองทิวทัศน์ชินตาในยามค่ำคืนของมหานครนิวยอร์กอยู่ซักพัก ก่อนจะหันไปรับมวลบุหรี่ที่ถูกคนข้างตัวยื่นส่งมาให้


    “ขอบใจ”


    เอ่ยคำขอบคุณสั้นๆ ก่อนที่มินโฮจะคาบบุหรี่มวลนั้นเอาไว้ในปาก แล้วก้มลงต่อไฟจากปลายบุหรี่ที่นิวท์คาบอยู่อีกที เมื่อจุดบุหรี่ติดแล้วใบหน้าเข้มก็ผละห่างออกมาอีกครั้ง พ่นควันสีเทาบางเบาให้ล่องลอยออกไปยังความมืดสีดำตรงหน้า และปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ


    เนิ่นนานที่ไม่มีบทสนทนาใดๆ หลุดออกมา นานมากพอที่จะทำให้บุหรี่สองมวลหดสั้นลงไปจนเหลือแต่ก้น นานจนสุดท้ายก็เป็นเสียงถอนหายใจของคนตัวเล็กกว่าที่ทำลายความเงียบลง


    เสียงถอนหายใจที่ทำให้มินโฮต้องเหลือบมองยิ้มๆ ทิ้งก้นบุหรี่ออกไปนอกระเบียง ก่อนจะส่งคำถามเป็นครั้งแรก


    “แล้วทีนี้นายจะเอาไงต่อ?”


    “เอาไงต่อ?”


    “ก็ไอ้หน้าปลวกนั่นไง”


    “นายคงไม่คิดว่าฉันจะโง่มากพอที่จะคบกับมันต่อหรอกนะ”


    “ก็เห็นคบมาได้ตั้งนานสองนานนี่” คำตอบกวนๆ ที่ทำให้คนฟังต้องตวัดตามองอย่างติดจะเหวี่ยงๆ แต่คนพูดกลับยังคงยกยิ้มกวนอย่างไม่คิดสะทกสะท้านกับสายตานั่นเลยซักนิด


    และสุดท้ายก็เป็นนิวท์ที่ต้องเป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาอีกรอบ


    “ฮ่าๆ เอาน่า เลิกๆ กันไปน่ะดีแล้ว อย่างนายน่ะ ไม่เกินสามวันก็หาใหม่ได้แล้วมั้ง”


    “แน่นอน”


    “ฮ่าๆ แต่ถ้าจะหาใหม่ก็เอาที่มันดีกว่าไอ้ปลวกนั่นหน่อยนะ”


    นิวท์หลุดขำกับคำแนะนำนั้น ก่อนจะเบือนสายตาออกไปมองแสงไฟนอกระเบียงอีกครั้ง


    จะบอกว่าไม่เจ็บก็คงจะโกหก จะบอกว่าไม่เสียใจก็คงจะไม่ใช่ แต่ที่มากกว่าเจ็บมากกว่าเสียใจก็คือความเจ็บใจที่ถูกหักหลัง มันไม่ใช่การอกหักหรือเลิกราครั้งแรก แน่นอนว่ามันไม่ใช่รักแรกด้วย อันที่จริงนิวท์เองก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ารักหมอนั่นจริงๆ รึเปล่า


    แต่ถ้าจะไม่ให้รู้สึกอะไรเลยมันก็คงยาก


    ความคิดที่ทำให้ต้องเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะชะงักกับคำพูดในประโยคต่อมาของคนข้างตัว


    “ถ้าอยากร้องไห้ ก็ร้องได้นะ”


    คำพูดที่ทำให้นิวท์หลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง


    “ใครมันจะไปร้องไห้วะ”


    “เอ้า! ก็นายอกหัก”


    “เออ อกหัก แต่นายก็รู้ว่าฉันไม่ใช่พวกชอบฟูมฟาย”


    “ไม่อ่ะ ฉันไม่รู้”


    “ไอ้เพียกนี่!


    “ฮ่าๆ”


    นิวท์แยกเขี้ยวให้กับเสียงหัวเราะกวนประสาทนั่น ก่อนจะส่ายหัวขำๆ อย่างนึกขอบคุณที่ตัวเองยังโชคดีที่เวลาแบบนี้ยังมีคนคอยกวนประสาทอยู่ข้างๆ


    “นี่มินโฮ


    “หือ?”


    “ขอบใจนะ”


    คำขอบใจที่ทำให้ใบหน้าหล่อๆ ต้องหันมาเลิกคิ้วมองเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มกว้างแล้วหันกลับไปมองแสงไฟระยิบระยับบนผืนกำมะหยี่สีดำตรงหน้าอีกครั้ง


    “ถือว่านายติดหนี้ฉันก็แล้วกัน” คนเป็นลูกหนี้มุ่นหัวคิ้วขึ้นนิด ก่อนจะระบายยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหันไปมองเจ้าหนี้ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า


    “ใช้หนี้ด้วยจูบดีมั๊ย?”


    ไม่ใช่แค่พูดเปล่าแต่ขาเรียวก็ก้าวเข้าไปชิดจนคนฟังแทบผงะ นิวท์ยกยิ้มพราวระยับก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าหล่อๆ ของเพื่อนอย่างจงใจแกล้ง แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปใกล้ มือใหญ่ๆ ก็เอื้อมออกมาดันหน้าผากเขาเอาไว้ซะก่อน


    “หยุดเลยนะ! ฉันไม่จูบกับผู้ชายเว้ย!!


    “เอาน่า ใครๆ ก็อยากจูบกับฉันกันทั้งนั้น นายต้องดีใจสิ” พูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ทั้งๆ ที่หน้าผากก็ยังคงถูกมือใหญ่ๆ ยันเอาไว้อยู่อย่างนั้น


    “ไม่เว้ยยย! ฉันไม่ใช่เกย์แบบแกเว้ยไอ้เพียก!


    เสียงร้องโหยหวนกับการปกป้องตัวเองที่ทำให้นิวท์ต้องหัวเราะลั่น ไหล่เล็กๆ สั่นระริกเพราะแรงหัวเราะ เมื่อยอมผละตัวออกห่างไอ้คนที่ไม่ใช่เกย์ตรงหน้า


    ใช่เขาเป็นเกย์ แต่มินโฮไม่ใช่


    ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาหมอนี่คบแต่ผู้หญิงและสนใจแต่ผู้หญิงเท่านั้น จนบางทีนิวท์เองก็ยังสงสัยว่าทำไมมันถึงได้คบเขาได้เป็นนานสองนานโดยที่ไม่กลัวว่าจะโดนเขาลุกขึ้นมาปล้ำซักวัน


    แต่ก็นั่นแหละ


    มินโฮคงรู้พอๆ กับที่นิวท์รู้ พวกเขาสนิทกันมากเกินกว่าที่จะคิดอะไรแบบนั้น รู้จักกันดีเกินกว่าที่จะรู้สึกต่อกันในเชิงนั้นได้ มินโฮไม่มีวันคิดกับเขาแบบนั้น พอๆ กับที่นิวท์เองก็คงจะไม่มีวันที่จะรู้สึกกับมินโฮเป็นอย่างอื่นที่มากกว่าเพื่อน


    เล่นรู้ไส้รู้พุงกันแบบที่แค่มองตาก็รู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่แบบนี้ขืนรักกัน คบกันแบบนั้นจริง มีหวังคงได้เลิกกันตั้งแต่สามวันแรกแหงๆ


    ความคิดที่ทำให้นิวท์ต้องเบ้หน้านิดๆ อย่างนึกขยาดอยู่ในใจ


    “ทำหน้าแบบนั้น กำลังคิดอะไรปลวกๆ อยู่ล่ะสิ”


    “แล้วนายคิดว่าฉันคิดอะไรอยู่ล่ะ?”


    “เหอะๆ”


    ทาทางรู้ทันกับอาการเบ้หน้าที่ทำให้นิวท์ต้องหลุดหัวเราะเสียงดัง


    เพราะแบบนี้ไง ถึงได้บอกว่าไม่มีวันแน่ๆ


    ความคิดที่ทำให้ได้แต่ส่ายหน้าปลงๆ แต่ก็กลับสบายใจจนลืมเรื่องแย่ๆ ที่เจอมาทั้งวันไปได้ แปลกที่แม้แต่ในเวลาที่อยากจะร้องไห้มากที่สุดแบบนี้ นิวท์ก็ยังคงหัวเราะออกมาได้


    และเขาก็คงจะไม่มีวันที่ไม่ได้หัวเราะถ้ายังมีไอ้ปลวกนี่คอยอยู่ข้างๆ แบบนี้ตลอดไป


     

     

     



    End… Or TBC?????

     


    *******************************************************************

     


    ค่ะ ตามนั้นค่ะ

    ไม่รู้ว่าจะ End หรือ TBC. ดี ฮ่าๆ

     

    อยากเขียนฟิคโมเม้นท์เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่เพื่อนแอบรักเพื่อนอ่ะค่ะ

    แต่อยากให้มันออกมาเป็นความรู้สึกแบบคนที่จะอยู่ข้างๆ กันเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หรืออะไรแบบนั้น

     

    ใจจริงแล้วไอวิชอยากเขียนให้เป็นเรื่องยาวนะ

    อยากเห็นความสัมพันธ์ในแบบที่พวกเขาค่อยๆ ช่วยกันก่อ ช่วยกันพัฒนาไปแบบไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่รู้ตัว หรืออะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ

     

    แต่ถ้าเขียนเป็นเรื่องยาวจริงๆ ก็กลัวว่าจะล่ม เพราะไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องที่ชัดเจน และเพราะความขี้เกียจ

     

    เอาเป็นว่าแล้วแต่ความขี้เกียจและเวลาว่างจะกรุณาก็แล้วกันเนอะ ฮา

    แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ

    ไอวิชรักคนอ่านน้า ^3^





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×