คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : เชียงงาม
มีครอบครัวหนึ่งมีบุตรชายที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม หน้าตาน่ารักมาตั้งแต่เด็กๆเมื่อโตขึ้นอายุได้ ๑๐ ขวบ พ่อแม่ได้นำไปฝากให้บวชเป็นสามเณรอยู่วัดได้ประมาณ ๕ - ๖ ปี ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉานเฉลียวฉลาดรอบรู้ กอปรด้วยเป็นผู้มีบุคลิกลักษณะงดงามมีเสน่ห์จึงทำให้บรรดาสาวๆ หลงใหลมาเฝ้าปรนนิบัติไม่เว้นแต่ละวันจนไม่เป็นอันทำมาหากินเล่าลือไปถึงในวังเจ้าเมืองพระยาขอมทั้งหลาย นางสนมกำนัลแตกตื่นพากันออกมาดูใครเห็นแล้วก็เกิดความศรัทธารักใคร่เฝ้าอยู่ปรนนิบัติอุปัฏฐากไม่ยอมห่าง ทำให้พ่อบ้านเดือดร้อนเพราะแม่บ้านพากันไปเฝ้าอยู่แต่วัด จนพระยาขอมเห็นว่าหากปล่อยไว้จะทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนจึงให้สามเณรลาสิกขาออกมาเป็นเชียง (ตามภาษาท้องถิ่น) ชาวบ้านจึงเรียกว่าเชียงงาม และหมู่บ้านที่สามเณรบวชอยู่จึงได้ชื่อว่าบ้านเชียงงามมาตราบทุกวันนี้
เมื่อสึกแล้วกลับมีคนไปหาเชียงงามมากกว่าเดิม พระยาขอมจึงสั่งให้เชียงงามออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่อื่น เชียงงามจึงเดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด (บ้านเชียงในปัจจุบัน) ซึ่งมีระยะห่างถึง ๕๐๐ เส้น ก็ไม่เว้นที่พวกสนมกรมในสาวแก่แม่ม่าย ลูกเมียของพวกกรมการเมืองติดตามออกมาเฝ้าแห่แหน ทำให้พวกเจ้าพระยาเสนาอำมาตย์ทั้งหลายเดือดร้อนจึงร้องเรียนกล่าวโทษต่อพระยาขอม พระยาขอมใคร่ครวญแล้วถ้าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง จึงสั่งจับเชียงงามนำมาประหารชีวิต ก่อนที่เชียงงามจะถูกนำมา ประหารชีวิต ก็ได้ตั้งสัตยาธิษฐานสาปแช่งเอาไว้ต่อเทพเทวาฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ตัวข้าพเจ้าไม่มีความผิด แต่ถูกนำมาประหารให้ถึงแก่ความตายเพราะความงดงามแห่งบุญบารมีของตนเองนี้ไม่เป็นการยุติธรรม ขอให้เมืองหนองหานจงประสบแต่ความวิบัติฉิบหายล่มจม อย่าให้มีความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตกาลสืบไป เมื่อเชียงงามตายไปแล้ว บ้านเมืองได้ซบเซามาระยะหนึ่งเพราะพวกผู้หญิงต่างโศกเศร้าอาลัยอาวรณ์ถึงแต่เชียงงามอยู่มิรู้สร่างเป็นเวลาหลายสิบปี
credit : http://province.m-culture.go.th
ความคิดเห็น