ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวบรวมตำนาน,นิทานพื้นบ้านค่ะ ^^

    ลำดับตอนที่ #19 : ผาแดงนางไอ่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      1
      18 ต.ค. 53

    ผาแดงนางไอ่ วรรณกรรมพื้นบ้านของอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี

    ตามเรื่องที่เล่าขานกันมา มูลเหตุที่ทำให้เกิด “หนองหาน” ต้นลำน้ำปาว และวรรณคดีเรื่องนี้ก็เป็นปฐมเหตุของบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นประเพณีที่ขึ้นชื่อลือชาของชาวอีสานพระยาขอมผู้ครองเมืองเอกชะธีตา มีธิดาชื่อ นางไอ่คำ เป็นสตรีที่มีรูปร่างงดงามเป็นที่เลื่องลือจนเป็นที่หมายปองของเจ้าชายเมืองต่างๆ ท้าวผาแดงโอรสเจ้าเมืองผาโพงก็หลงใหลใฝ่ฝันในตัวนางเป็นอันมาก เพราะบุพเพสันนิวาสในชาติปางก่อนของทั้งคู่ ในที่สุดก็ได้ครองรักกัน กล่าวถึงฝ่ายท้าวพังคีโอรสของสุทโธนาคเจ้าผู้ครองเมืองบาดาล เป็นผู้หนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากเห็นสิริโฉมอันงดงามของนางไอ่ ทั้งนี้เพราะอดีตชาติบันดาลให้เป็นไป โดยเรื่องมีอยู่ว่าในอดีตชาติ นางไอ่เป็นภรรยาของท้าวพังคี แต่ท้าวพังคีไม่รักใคร่ภรรยาของตนเลย แต่นางก็ปฏิบัติต่อสามีเยี่ยงภรรยาที่ดีเสมอมา วันหนึ่งท้าวพังคีได้พาภรรยาเดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดโดยให้นางเป็นคนหาบเสบียงทำให้นางลำบากและเหน็ดเหนื่อยมาก จนกระทั่งเสบียงหมดกลางทาง ท้าวพังคีเห็นต้นมะเดื่อมีผลสุกจึงขึ้นไปเก็บกินอิ่มคนเดียวแล้วลงจากต้นเดินหนีไป ฝ่ายนางไอ่จึงขึ้นไปเก็บกินเองเมื่ออิ่มแล้วลงจากต้นมะเดื่อไม่พบสามีเดินตามหาอย่างไรก็ไม่พบ ทำให้นางมีความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก นางจึงตัดสินใจอธิษฐานว่า “ชาติหน้าขอให้สามีนอนตายอยู่บนกิ่งไม้ อย่าได้เป็นสามีภรรยากันอีกเลย” ด้วยแรงอธิษฐานในชาติต่อมาสามีของนางจึงเกิดมาเป็นท้าวพังคี ส่วนนางได้เกิดมาเป็นนางไอ่
    พระยาขอมได้แจ้งข่าวให้หัวเมืองน้อยใหญ่จัดบั้งไฟมาจุดแข่งขันกัน เพื่อจุดขึ้นไปบูชาพระยาแถนอยู่บนฟ้าให้บันดาลฝนตกลงมาตามฤดูกาล และหากบั้งไฟของคนใดขึ้นสูงกว่าเพื่อนจะได้นางไอ่เป็นคู่ครอง โดยกำหนดวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันงาน ทำให้บ้านเมืองน้อยใหญ่ต่างพากันทำบั้งไฟหมื่นบั้งไฟแสนมาแข่งขันกันมากมาย มีการแข่งขันตีกลองหรือภาษอีสานเรียกว่า “เส็งกลอง” กันอย่างครึกครื้น ท้าวผาแดงได้นำบั้งไฟมาร่วมงานด้วย ฝ่ายท้าวพังคีได้แปลงร่างเป็นกระรอกเผือกออกติดตามชมความงามของนางไอ่อย่างหลงใหล การแข่งขันบั้งไฟเป็นไปด้วยความสนุกสนานแต่ก็ไม่มีผู้ใดชนะได้นางไอ่ไปเป็นคู่ครอง เมื่องานเสร็จสิ้นต่างฝ่ายต่างกลับบ้านเมืองของตน ฝ่ายท้าวพังคีทนอยู่ในเมืองบาดาลไม่ได้เพราะหลงใหลความงาม ของนางไอ่ จึงแปลงร่างเป็นกระรอกเผือกกระโดดไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้ใกล้หน้าต่างห้องนอนของนางไอ่ เมื่อนางไอ่เห็นก็อยากได้จึงสั่งให้นายพรานตามจับกระรอกเผือกให้ได้ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย ในที่สุดผลกรรมเก่าตามมาทันกระรอกเผือกถูกยิงด้วยหน้าไม้ซึ่งมีลูกอาบยาพิษอยู่บนต้นมะเดื่อขณะกัดกินผลมะเดื่อสุก ท้าวพังคีก่อนตายได้อธิษฐานให้เนื้อของตนมีมากมายพอเลี้ยงคนได้ทั้งเมือง นายพรานได้นำเอาไปชำแหละแบ่งให้ผู้คนได้กินกันทั้งเมือง ยกเว้นบ้านดอนแม่หม้ายหรือบ้านดอนแก้วซึ่งเป็นเกาะอยู่กลางทุ่งหนองหาน จึงรอดพ้นจากการถูกถล่มทลายและยังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
    ความทราบถึงพญานาค โกรธแค้นมากสั่งบ่าวไพร่จัดพลขึ้นไปถล่มเมืองพระยาขอมด้วยความแค้น ใครกินเนื้อลูกของตนอย่าไว้ชีวิตมัน พญานาคพาบริวารออกอาละวาดเสียงดังครืนๆ ทั่วแผ่นดิน เมืองเอกชะธีตาถล่มทลายลงเป็นหนองหานน้อย ซึ่งเป็นต้นลำน้ำปาวในปัจจุบัน ท้าวผาแดงทราบได้ทันทีว่าเป็นการกระทำของพวกพญานาค จึงพานางไอ่ขึ้นหลังม้าควบหนีออกจากเมืองเพื่อให้พ้นภัย แต่เนื่องจากนางไอ่ได้รับประทานเนื้อกระรอกเผือกด้วย หนีไปทางไหนพวกนาคก็ตามไปถล่มทลาย ในที่สุดนางไอ่ถูกหางนาคฟาดตกจากหลังม้าและจมหายไปในพื้นดินไปต่อหน้าต่อตาท้าวผาแดง เมื่อกลับถึงเมืองผาโพงท้าวผาแดงเกิดตรอมใจคิดถึงนางไอ่ตลอดเวลา ในที่สุดก็ตรอมใจตายตามนางไอ่ไป เมื่อท้าวผาแดงตายไปเป็นผีมีความอาฆาตต่อพญานาคอยู่ไม่วาย ได้สั่งไพร่พลกองทัพผีเป็นแสนๆ ไปล้อมเมืองบาดาล ต่างฝ่ายต่างใช้อิทธิฤทธิ์รบกันแต่ไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ ฝ่ายสุทโธนาคเจ้าเมืองบาดาลไม่อยากทำบาปกรรมต่อไป จึงขอร้องให้ท้าวเวสสุวัณผู้เป็นใหญ่มาตัดสิน เมื่อท้าวเวสสุวัณทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของกรรมเก่าที่ตามมาให้ผลในชาตินี้ จึงขอให้ทั้งสองฝ่ายเลิกรากันไป ให้มีเมตตาต่อกัน เมื่อทั้งสองได้ฟังคำสั่งสอนของท้าวเวสสุวัณ เข้าใจในเหตุผล ต่างฝ่ายต่างอนุโมทนา สาธุการ และให้อภัยกันในที่สุด

    credit : http://province.m-culture.go.th

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×