คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Heal me baby (KrisHo) - ending part
Heal me baby
Pairing : Kris x Suho ft. Baekhyun , Luhan
Writer : Gornhai
Rating : PG-13
Ending Part
14 กุมภาพันธ์
ยามเช้าวันที่แสนสดใสอีกวันก็มาถึงเสียที สำหรับคริสแล้วมันเป็นอีกวันที่พลิกล็อคความขุ่นมัวในใจให้หายไปไหนก็ไม่อาจรู้ได้ จากที่ต้องทนหงุดหงิดกับอาการแขนเดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลหลายวัน พอออกมากลับไม่ได้น่าหดหู่อย่างที่คิด
ร่างสูงเดินลิ่วโปรยยิ้มละลายใจไปตามทางให้กับสาวๆเช่นอย่างเคย และแน่นอนที่เขาจะไม่ลืมพ่วงเอาเพื่อนรักหรือจะเรียกว่าเบ๊ในตอนนี้มาด้วยอีกเช่นกัน
จุนมยอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอย่างทุกทีที่ต้องแบกของสำหรับคนสองคนเอาไว้ เขาอดจะอิจฉาความป๊อบปูล่าของคริสไม่ได้เลยจริงๆ
ไม่ต้องรอให้คิดอะไรไปไกลจนประสาทเสียกว่านี้ หลังจากที่จุนมยอนวางข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะใต้ตึกคณะตัวเดิม เขาก็เห็นว่าพ่อเทพบุตรสุดหล่อในสภาพแขนหักแบบนี้จะถูกรุมล้อมไปด้วยสาวๆตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสุดท้าย นี่ถ้าไม่ติดว่าจะดูไม่ดี จุนมยอนคิดว่าอาจารย์สาวๆบางคนก็คงอยากจะร่วมด้วยไม่น้อยเลยล่ะ
ช็อคโกแล็ตะวันวาเลนไทน์ชิ้นน้อยชิ้นใหญ่มากมายถูกยื่นให้กับชายหนุ่ม บ้างก็อยู่ในกล่องสีหวาน บ้างก็อยู่ในห่อลายจุดน่ารัก หรือบางอันก็บรรจุอยู่ในกล่องหรูผูกโบว์อย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลนั้นคริสแทบจะรับเอาไว้ไม่ทันเลยทีเดียว
“ช่วยรับไว้ด้วยนะคะรุ่นพี่”
“คริสปีสามใช่มั้ย .. ฉันเอาช็อคโกแล็ตมาให้”
“น้องคริส รับไว้ทีนะคะ พี่ทำเองกับมือเลยนะ”
“กรี๊ดดดดด นั่นคริสนี่นา หล่อมากจริงๆด้วย”
จุนมยอนยืนดูอย่างอึ้งๆแล้วยิ้มแห้งๆออกมากับความบ้าของเจ้าหล่อนแต่ละคน โดยเฉพาะเสียงของคนสุดท้ายที่ดูท่าจะเป็นเอามาก ใบหน้าหล่อเหลายิ้มน้อยๆตามสไตล์ขณะที่รับช็อคโกแลมือเป็นระวิง แต่ละชิ้นถูกวางบนโต๊ะอันแล้วอันเล่าจนเริ่มกองพะเนิน ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าคริสจะได้นั่งเฉยๆเสียที จุนมยอนรู้สึกหมั้นไส้และหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันไรสีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไปทันทีเมื่อคริสแอบพยักหน้ามาให้เพื่ออยากจะบอกอะไรบางอย่าง จุนมยอนขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะเข้าใจภาษากายที่อีกฝ่ายพยายามจะบอก
“กระเป๋าเหรอ ..” มือบางรีบเปิดกระเป๋าของอีกฝ่ายออกอย่างที่ตัวเองเข้าใจ ถุงพลาสติกขนาดใหญ่เด้งออกมาจากด้านใน จุนมยอนเงยหน้ามองคนสั่งอีกครั้ง คริสพยักหน้าเร็วๆเป็นเชิงเร่งเร้าจนเขาเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ควรจะทำ
“หึ อย่างนี้นี่เอง .. ร้ายไม่เบานะไอ้เพื่อนคนนี้” บ่นเบาๆกับตัวเองแล้วก็รีบดึงเอาถุงใบนั้นออกมาอย่างเสียไม่ได้ ขณะที่คริสกำลังเรตติ้งพุ่งกระฉูดอยู่นั้น จุนมยอนก็เป็นฝ่ายก้มหน้าก้มตากวาดเอากองช็อคโกแลตลงไปในถุง และหากจะเงยหน้าขึ้นมาเสียหน่อย เขาอาจแอบเห็นสายตาของอีกฝ่ายกำลังมองลอดผ่านคนพวกนั้นออกมายังตัวเองอยู่ก็เป็นได้
ผ่านไปหลายนาที ร่างเล็กยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างคริสพลางเก็บช็อคโกแลตใส่ถุงไปเรื่อยๆ แล้วสายตาก็พลันหันไปเจอเพื่อนรักอีกคนที่เดินหอบหิ้วบางอย่างมาจากที่ไกลๆ แพคฮยอนกำลังเดินอุ้มลูกบาสคู่ใจตรงมาพร้อมกับช็อคโกแลตวาเลนไทน์ที่ไม่บอกก็รู้ว่ามาจากสาวๆเช่นกัน มิหนำซ้ำแขนอีกข้างยังห้อยตามมาด้วยถุงที่ใส่ดอกกุหลาบเอาไว้อีกหลายช่อ
“ไงคุณเบ๊ ขยันเชียวนะนาย” คำทักทายที่ย้ำฐานะให้กับจุนมยอนนั้นหลุดออกมาจากปากของแพคฮยอนตัวต้นความคิดของเรื่องทั้งหมด ใบหน้าได้รูปยิ้มให้ก่อนจะวางของพวกนี้ลงที่โต๊ะอย่างเบื่อที่จะถือเอาไว้ โดยที่เขาก็ไม่ลืมมองไปยังคริสที่นั่งยิ้มหน้าบานกับมือข้างเดียวที่คงเป็นระวิงอยู่
จุนมยอนถอนหายใจกับว่าตัวเองไม่เห็นได้บ้างเลยนะให้ตายสิ แล้วแพคฮยอนกับจุนมยอนก็ต้องมองหน้ากันเมื่อเห็นว่าหนึ่งในสาวๆที่ล้อมคริสนั้นจะมีน้องอึนนาที่เพิ่งบอกเลิกจุนมยอนไปหยกๆอยู่ด้วย
“นั่นมัน .. โหย จุนมยอนเอ๊ย ..” แพคฮยอนพูดได้แค่นั้น ขณะที่จุนมยอนยักไหล่นิดๆอย่างไม่สนใจอะไร คริสเองแอบมองอยู่ก็ได้แต่เลยตามเลย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเสียหน่อย
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เนอะจุนมยอน” แพคฮยอนเหมือนจะปลอบใจกลายๆ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องรู้สึกเหมือนตัวเองจะงานเข้า เมื่อเรื่องใหญ่ที่ว่านั้นดันเป็นของตัวเองเสียเอง
เมื่อลู่หานคนเดิมที่ไม่ลดละความพยายามกำลังเดินตรงมาพร้อมกับกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ถ้าไม่บอกแพคฮยอนคงคิดว่าอีกฝ่ายไปขุดมันมาทั้งสวนแล้วแน่ๆ
“เฮ้ยอะไรวะนั่นแพคฮยอน เค้ามาหานายแน่ๆ” จุนมยอนก้มลงกระซิบถาม แต่แพคฮยอนคงไม่อยากจะตอบอะไร ชายหนุ่มดันตัวเองลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาวและสั่งเสียเพื่อนรักเอาไว้สั้นๆ
“จุนมยอน ฉันฝากของพวกนี้ทีนะ” ว่าแล้วทั้งร่างก็คว้าเอาแค่กระเป๋าตัวเองและลูกบาสสุดรักเอาไว้ก่อนจะวิ่งหนีออกไปอีกทาง พ่อรูปหล่อที่เดินมาจะถึงอยู่แล้วเลยได้แต่ทำหน้าไม่ถูก จุนมยอนมองลู่หานอย่างช่วยอะไรไม่ได้ แม้ว่าจะแอบเห็นใจอยู่ก็ตามที
ร่างสูงเหมือนจะอยากพูดอะไร แต่แล้วก็ตัดสินใจไม่ดีกว่า ลู่หานหอบช่อกุหลาบแดงอันแสนยิ่งใหญ่ของเขาวิ่งตามแพคฮยอนออกไปท่ามกลางสายตาคนอื่นๆที่มองมาอย่างแปลกใจ
รวมทั้งจุนมยอนด้วยเช่นกัน
“สุดๆว่ะแพคฮยอน ..” พูดกับตัวเองแล้วก็ส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม สายตาทั้งคู่มองไปยังอดีตแฟนที่คบกันมาสองเดือน นึกแล้วก็อดขำไม่ได้ ไม่ได้รักกันแล้วจะคบกันได้ยังไง ต้องขอบคุณอีกฝ่ายมากกว่าที่ทำให้เขาได้รู้ว่าคบกันต่อไปมันก็คงจะแย่กว่าเดิม
“เฮ้อ ... “ เมื่อยืนจนเมื่อยขาเขาก็เลือกจะนั่งลงบ้าง จะว่าไปรอบๆกายก็มีแต่บรรยากาศวันแห่งความรักอบอวลไปหมด แล้วตัวเองล่ะ ไม่มีอะไรเลยสินะ ช็อคโกแลตสักชิ้น กุหลาบสักหนึ่งดอก ไม่มีอะไรเลยจริงๆ
ความคิดทั้งหมดหยุดลงทันทีเมื่อช่อดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ยื่นมาตรงหน้าของตัวเอง จุนมยอนเงยหน้ามองไปยังคนให้ ร่างสูงของใครบางคนยืนเท่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาจากใจ
“รุ่นพี่ทงเฮ...” จุนมยอนครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนบ้าง
“วันแห่งความรัก พี่อยากให้นาย .. รับไว้สิ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน จุนมยอนยิ้มให้ก่อนจะรับมาอย่างสุดแสนจะเกรงใจ
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยก็ได้นี่ครับ”
“หืม .. ไม่หรอกน่ะ ว่าแต่ว่าเย็นนี้ว่างมั้ยล่ะ พี่อยากชวนไปทานข้าวกันน่ะ” ยทงเฮถามตรงๆ ถึงแม้ว่าเขาไม่แน่ใจกับคำตอบก็ตามที จุนมยอนยิ้มเอาไว้ขณะที่กำลังคิดอยู่ในใจว่าจะไปดีหรือไม่ ชายหนุ่มไม่ทันจะได้ตอบออกไปเองเลยด้วยซ้ำ
“เห็นทีคงจะไม่ได้หรอกครับรุ่นพี่”
เสียงของใครอีกคนที่โผล่มาจกข้างหลังก็ตอบแทนให้เสียแล้ว จุนมยอนกันมามองคริสที่เขาคิดว่าหลุดออกมาจากสาวๆพวกนั้นได้ยังไง แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่มีเวลาหันไปสังเกตหรอก
ทงเฮค่อยๆหุบยิ้มลงนิดน้อยอย่างไม่ค่อยเข้าใจกับท่าทีของคนตรงหน้า รวมทั้งจุนมยอนเองที่กำลังทำหน้าไม่ถูก
“เอ่อ คือผม ...” จุนมยอนกำลังจะอธิบาย แต่แล้วคนข้างกายก็ดันขัดขึ้นมาอีก
“จุนมยอนเค้าไม่ว่างหรอกครับ เย็นนี้เค้ามีธุระ ...กับผม” คราวนี้คริสไม่พูดเปล่า มือข้างขวาตวัดเข้าที่เอวของจุนมยอนก่อนจะดึงเข้ามาชิดๆกันจนร่างเล็กยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ ทงเฮมองคนทั้งสองด้วยสายตาที่เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง แม้ว่าคริสจะพูดอย่างมีมารยาทและปกติที่สุด แต่น้ำเสียงและท่าทีอย่างนี้มันแสดงให้รู้เลยว่า “หวง”
“เอ่อ งั้นพี่ขอโทษนะจุนมยอน .. ไม่รู้ว่านายมีเจ้าของแล้ว” ชายหนุ่มรุ่นพี่ยิ้มให้ด้วยความผิดหวังในใจที่อุตส่าห์แอบชอบรุ่นน้องคนนี้มาเสียนาน จุนมยอนอ้าปากจะอธิบายแต่พออีกฝ่ายมองมาอย่างขอโทษ คริสก็เป็นฝ่ายยิ้มกลับไปให้อย่างพอใจแล้วตอบออกไปแทนเขาอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ”
เมื่อไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว จุนมยอนก็ได้แต่ยืนมองรุ่นพี่ที่แสนดีเดินจากไปด้วยสายตาละห้อย
“ไอ้บ้าคริส นายทำแบบนี้ทำไม...”
“มานี่เลย” ร่างสูงไม่ฟังที่จุนมยอนกำลังจะพูด เขาดึงอีกฝ่ายให้ตามตัวเองมา ทิ้งให้สาวๆทั้งหลายที่ถูกให้รออยู่นั้นรู้ตัวว่าโดนเบี้ยวเสียแล้ว
คริสดึงมือจุนมยอนให้วิ่งตามเขาออกมา ก่อนที่พวกหล่อนทั้งหลายจะตามมาให้วุ่นวายอีก สาวๆก็สาวๆเถอะ พอเจอเข้าแบบนี้คริสก็นั่งไม่ติดเพราะจุนมยอนจนได้ คนอะไร มีผู้ชายเอาดอกไม้มาให้แล้วชวนไปเดทอีก แบบนี้มีหรือที่เขาจะยอม
ทั้งสองหยุดลงที่เนินหญ้าในสวนหย่อมริมแม่น้ำมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย แดดอ่อนๆรับสีเขียวของผืนหญ้าที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ชวนให้สบายตา แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศดีๆแถวนี้ คริสปล่อยมือจุนมยอนออกให้เป็นอิสระทันทีที่อยู่กันสองคน
“อะไรเนี่ย .. นายจะบ้ารึไงคริส ไปบอกพี่ทงเฮเค้าแบบนั้นทำไม แล้วนี่ลากฉันออกมาตั้งไกล เหนื่อยนะรู้รึเปล่า...” พูดจบก็กลับมาหอบหายใจรวดเดียวด้วยความเหนื่อย
“เหอะ ใครกันแน่ที่บ้า ถ้าฉันไม่ปฎิเสธไปนายก็คงจะตอบตกลงเค้าไปแล้วล่ะสิ”
“ก็เออสิ ถ้าไม่ไปพี่เค้าคงเสียน้ำใจแย่”
“นั่นไง .. นายนี่มันจริงๆนะจุนมยอน ใครใช้ให้ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น แล้วยังมีหน้าจะไปเดทกับเค้าอีก” เสียงทุ้มต่อว่าจนคนฟังได้มองตามเพราะพูดไม่ออก จุนมยอนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะร้องไห้ออกมาก็ไม่ปาน ก็เล่นถูกว่าเอาเสียแบบนี้ ใครมันจะยิ้มอยู่ได้
“เฮ้ย อย่าร้องนะ...” คริสเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าดวงตากลมเริ่มมีน้ำใสๆคลอออกมา จุนมยอนเงียบไปจนคริสรู้สึกใจไม่ดี เขายอมรับก็ได้ว่าตัวเองใจร้อนเกินไป แถมยังไม่ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรเลยด้วย
“ไอ้บ้าเอ๊ย!! นายมันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ”
“ก็ฉัน....”
“แล้วทำไมล่ะ ถ้าฉันจะไปกับพี่เค้า ถ้าฉันจะยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอย่างที่นายว่าแล้วจะทำไมเล่า” พูดแล้วก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขากำลังโกรธ โกรธจนคิดว่าคนอย่างตัวเองไม่มีทางร้องไห้ให้ไอ้คนไม่เอาไหนแบบนี้หรอก ไม่มีวัน
คริสไม่ตอบ เขาสะอึกทันทีที่ถูกถามออกมาแบบนี้
“ตอบมาสิ ..”
“จะให้ตอบอะไรล่ะ”
“ก็นายมีปัญหาอะไรกับฉันรึไงเล่า”
“เออ .. อยากรู้ก็จะบอกให้ ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ แค่ไม่ชอบให้นายไปยุ่งกับใคร ก็แค่รู้ว่าไม่ชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบนายเข้าใจรึเปล่า”
“..........”
“ขนาดแพคฮยอนเองฉันยังไม่อยากให้มันเข้าใกล้นายเลยนะจุนมยอน”
ถึงตรงนี้แล้วจุนมยอนก็ต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
คริสกำลังจะเชื่อที่แพคฮยอนพูดแล้วเชียวว่าการบำบัดแบบที่เขายังไม่เข้าใจนั้นมันจะได้ผลไม่น้อย เขารู้สึกมีความสุขและอารมณ์ดีตั้งแต่วันนั้นมา แต่แล้วตอนนี้ล่ะ .. ตัวเองกลับจะบ้าเสียเอง
ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้คนตรงหน้า ลมเย็นๆพัดเอื่อยผ่านใบหน้าของจุนมยอนต่างจากความรู้สึกร้อนผ่าวในอก ยิ่งคริสเข้ามาใกล้กว่าเดิมด้วยแล้วเขากลับยิ่งทำตัวไม่ถูก
“บอกให้ก็ได้”
“ว่าฉันชอบ ........”
ขณะที่หัวใจกำลังเต้นตึกตัก ลูกบาสลูกหนึ่งก็กลิ้งออกมาจากพุ่มไม้ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ลูกกลมๆกลิ้งลงมาตามผืนหญ้าทางที่ทั้งสองยืนอยู่ คริสดึงให้จุนมยอนหลบออกมาอีกพลางมองไปยังต้นทางตรงพุ่มไม้ที่เริ่มขยับสั่น
“ใครน่ะ!!” เสียงทุ้มตะโกนถามอย่างระแวง ก่อนที่ร่างของใครบางคนจะโผล่พรวดขึ้นมาจากพุ่มไม้กลุ่มนั้น
“แพคฮยอน!” จุนมยอนเป็นฝ่ายร้องขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองรีบกระโจนออกมาจนเศษใบไม้กระเด็นออกไปคนละทิศละทาง มันติดหัวติดหางของแพคฮยอนจนเจ้าตัวต้องปัดออกให้วุ่น ถึงกระนั้นแล้วผมของชายหนุ่มก็ยังมิวายมีใบไม้ติดอยู่ดี
เขาวิ่งหน้าตื่นตรงมาหาเพื่อนทั้งสองก่อนจะยิ้มแห้งๆแทนการขอโทษ
“เอ่อคือ .. ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบดูพวกนายนะเว้ย” แน่นอน แพคฮยอนไม่ได้ตั้งใจ แค่เขากำลังวิ่งหนีใครบางคนมาหลบอยู่ตรงนั้น และบังเอิญเหลือเกินว่าคุณเพื่อนรักทั้งสองดันโผล่มายืนอยู่นี่กันสองคนอีก แล้วอย่างนี้มีหรือที่แพคฮยอนจะพลาด เขากำลังนั่งลุ้นอยู่หลังพุ่มไม้จนลืมไปเลยว่าหลบใครบางคนอยู่
แล้วพอถึงช็อตสำคัญ ไอ้ลูกบาสเจ้ากรรมก็ดันพยศหลุดจากมือของเขาออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ มิหนำซ้ำคนที่เขากำลังพยายามหนีสุดชีวิตก็ดันมาเจอเข้าใจจนได้ ทั้งห่วงลูกบาสสุดรักสุดหวงของตัวเอง ทั้งจะหนีไอ้บ้านั่นเลยทำให้ไม่มีทางเลือกต้องโผล่ออกมาทั้งอย่างนี้
และเรื่องทั้งหมด .. คริสกับจุนมยอนก็คงไม่มีทางได้รู้จากปากของแพคฮยอนเป็นแน่ เนื่องจากตอนนี้ จู่ๆบุคคลที่สี่ก็โผล่เข้ามาอย่างไม่ได้รับเชิญ
“โธ่เว้ย .. อ๊ะนั่น ลูกบาสฉัน!!!!” แพคฮยอนทำหน้าอยากจะบ้าเมื่อเห็นว่าลู่หานกับไอ้ช่อกุหลาบมหึมากำลังถลาตัวลงมาตามเนินหญ้า แต่พอหันไปเห็นว่าลูกบาสตัวเองกำลังจะกลิ้งตกลงไปในแม่น้ำเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มก็วิ่งตามมันไปทันทีอย่างไม่รอช้า
คริสกับจุนมยอนได้แต่ยืนมองด้วยอาการงุนงง
แพคฮยอนวิ่งตามลูกบาสที่ห่างเขาออกไปเรื่อยๆเพราะมันเล่นกลิ้งมาก่อน และแล้วเขาก็ตามมันไม่ทัน แพคฮยอนยืนมองมันหล่นลงไปในน้ำก่อนจะลอยไกลออกไปด้วยสายตาหมดหวัง แต่เรื่องอย่างนี้คนอย่างเขาไม่มีทางยอมง่ายๆแน่
ไม่ต้องรอให้ใครมาบอก ชายหนุ่มกำลังจะกระโดดลงไปเก็บเอาของรักขึ้นมา แต่แล้วร่างสูงของลู่หานที่อุ้มช่อกุหลาบแดงเอาไว้ก็รั้งเข้าที่เอวของแพคฮยอนไว้เสียก่อน
“เฮ้ย .. ปล่อยนะเว้ย ฉันจะไปเอาลูกบาสของฉันคืน เห็นมั้ยว่ามันตกน้ำไปแล้วน่ะ” เสียงตะโกนลั่นดังเต็มสองหูของลู่หาน เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าคนน่ารักของเขาจะบ้าดีเดือดได้ขนาดนี้ แต่เพราะอย่างนี้แหละ เขาถึงได้ชอบจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียที
“แค่ลูกบาส อย่าเสี่ยงเลยน่ะ ลู่หานออกความเห็นที่แพคฮยอนได้ยินก็หันหน้ามามองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“หึ .. เพราะใครล่ะ เพราะนายนั่นแหละไอ้บ้า”
“ใครกันแน่ที่บ้า อันตรายจะตายไป ขืนตะคริวกินขึ้นมาจะทำยังไงเล่า”
“แต่ทั้งหมดก็เพราะนายนั่นแหละ ถ้านายไม่ตามฉันมาก็คงไม่เป็นแบบนี้ โธ่เอ๊ย !! คนอะไรตื๊อเป็นบ้า” ใบหน้าที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟนั้นทำให้ลู่หานต้องลอบถอนหายใจ เขาเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“แล้วใครใช้ให้นายหนีฉันล่ะ...”
“นายว่าไงนะ”
“อ้อ เปล่า .. ไม่มีอะไร เอ้านี่ ถือไว้” ว่าแล้วเขาก็ดันช่อกุหลาบแดงออกไปให้คนที่เขาอยากจะให้นั้นอุ้มเอาไว้ และอีกฝ่ายก็ทำตามแต่โดยดี มันใหญ่มากขนาดที่แพคฮยอนต้องเอียงคอออกมามองหน้าลู่หาน
ร่างสูงถอดรองเท้าออกทีละข้าง
“นี่ ทำอะไรน่ะ”
“อยู่เฉยๆเหอะน่ะ”
แพคฮยอนได้แต่มองคนตรงหน้าที่คิดว่ามีดีแต่หล่อรวยไปวันๆ ท่าทางทะมัดทะแมงเอาจริงเอาจังอย่างนี้ทำเอาเขาอดจะเริ่มเห็นข้อดีของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่แล้วพอได้ยินประโยคถัดมาก็ทำให้แพคฮยอนเข้าใจว่าลู่หาน เป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่วันยังค่ำ
“กับอีแค่ลูกบาสลูกเดียว .. ฉันสามารถซื้อให้นายใช้แล้วทิ้งได้วันละลูกไปชั่วชีวิตเลยล่ะ”
พูดไปพลางแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออกตามด้วยเสื้อกล้าม ก่อนที่แผ่นอกและท่อนบนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจะโชว์ออกสู่สายตาทั้งคู่ของแพคฮยอน
“.........”
“แต่ครั้งนี้ ฉันจะแสดงให้เห็นว่าฉันจริงใจกับนายแค่ไหน” ชายหนุ่มบอกด้วยแววตาแน่วแน่ และไม่ทันที่แพคฮยอนจะได้เอ่ยอะไรออกไปบ้าง
ตู้ม!!!!!
ลู่หานกระโดดลงไปในน้ำแล้ว เป้าหมายของเขาคือลูกกลมๆที่ลอยเอื่อยอยู่บนผืนน้ำ แต่สำหรับแพคฮยอน เขาเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการจะเอาลูกบาสขึ้นมา
ตอนนี้เลยได้แต่ยืนกอดกุหลาบช่อยักษ์เอาไว้พลางมองผู้ชายบ้าๆอีกคนที่ทำให้เขาทั้งอึ้งทั้งทึ่งจนพูดไม่ออก
เช่นเดียวกันกับจุนมยอนที่ยืนอ้าปากค้างราวกับกำลังดูหนังอะไรสักเรื่อง คริสละสายตาจากเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วหันมากระตุกแขนคนข้างกายให้รู้สึกตัว
“นี่ .. เลิกทำหน้าเอ๋อแบบนี้ทีเถอะ”
จุนมยอนหันกลับมาตามเสียงของคริสก่อนที่ทั้งตัวจะถูกลากให้เดินตามไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
ร่างสูงปล่อยมืออีกฝ่ายออกเมื่อพากันเดินหลบฉากเรื่องวุ่นวายสุดท้ายที่เข้ามาขัดจังหวะ ทั้งสองอยู่ในที่ๆไม่ต่างจากที่เดิมนัก เพียงแค่คริสจงใจพาจุนมยอนมาอีกด้านของสวนหย่อมต่างหาก
“อะไรล่ะคริส ไม่เห็นเหรอว่าแพคฮยอนมันดูจะมีปัญหา”
“เฮ้อ .. เลิกยุ่งเรื่องคนอื่นแล้วมาสนใจเรื่องของเราดีกว่านะจุนมยอน”
ถึงตรงนี้จุนมยอนก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้กำลังทำอะไรอยู่
“อะ .. อะไรล่ะ เรื่องของเราหรือเรื่องอะไรของนายกันแน่ รีบๆพูดมาเลยดีกว่า” ใบหน้าขาวผ่องเริ่มขึ้นสีพูดกลบเกลื่อนไปต่างๆนานาจนคริสแอบหัวเราะอยู่ในใจ
“ฉันยังพูดไม่จบเลย” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไว้เชิง และเป็นอย่างที่คิด คิมจุนมยอนผู้ไม่อยากจะยอมใครแต่ก็ต้องยอมทุกครั้งเงยหน้าขึ้นถามตรงๆ
“ที่บอกว่าชอบน่ะเหรอ ชอบอะไรล่ะ ว่ามาสิ ฉันขี้เกียจรอ”
“ก็ ฉันชอบ ..” คริสเงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเลย แต่ความรู้สึกมันปะทุที่หน้าอกจนจะระเบิดออกมาแล้ว
แต่จะให้พูดไปน่ะเหรอ แต่ถ้าไม่พูด ถ้าไม่พูดแล้ว .. จู่ๆภาพของรุ่นพี่คนนั้นก็วนเข้ามาในหัว ถ้าต้องถูกหมอนั่นแย่งไปก่อนล่ะจะทำอย่างไร
“เฮ้อ ..ฟังนะจุนมยอน” คริสถือโอกาสก้มลงมาข้างแก้มขาวๆนั่น จุนมยอนใจเต้นตึกตักกับการกระทำของเพื่อนสนิทที่พักหลังจะทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมัน
คริสรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้บ้า หากจะบ้าคนที่ควรจะรับผิดชอบก็น่าจะได้รู้เอาไว้บ้างว่าเขาทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“ฉัน ชอบ นาย”
“..........”
“เฮ้ .. จุนมยอน” คริสจ้องคนตัวเล็กกว่าที่นิ่งค้างไป เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรขึ้นมาจึงจับไหล่บางเขย่าเบาๆ จุนมยอนเก็บหน้าที่แดงไปหมดแล้วก้มลงไป
“นายเป็นไรไป”
“ปะ เปล่า .. แค่ แค่ ....”
“จริงๆแล้วที่ฉันต้องเป็นแบบนี้มันไม่ใช่เพราะนายหรอก ขอโทษที่พาลหาเรื่องตลอด”
“เหรอ ไม่เป็นไรหรอก”
ดูเหมือนจุนมยอนจะลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตากันเพราะสิ่งที่ได้ยินทำให้ทำอะไรไม่ถูก คริสถอนหายใจพลางยกมือข้างที่ใช้ได้เสยผมลวกๆเหมือนจนปัญญา นี่เขาพูดอะไรออกไปนะ ไม่สมกับเป็นตัวเองเลย ตอนนี้ต่างคนจึงต่างเก้อเขินกันไปและเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายคริสจึงเป็นฝ่ายขยับเข้าหาจุนมยอนอีกครั้งแต่คราวนี้กลับถูกผลักออกอย่างแรง
“โอ๊ย .. เจ็บ”
“ฉะ ฉันขอโทษ นายเจ็บมากมั้ย”
“อืม” คริสปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาดูอย่างใกล้ชิด เรือนผมนุ่มที่ห่างจากหน้าเขาแค่คืบเดียวทำเอาคนมองอมยิ้มออกมา ขณะที่จุนมยอนกำลังสำรวจแขนของเขาอย่างลนลาน คริสก็เผลอโน้มหน้าลงไปสูดดมความหอมที่ทำให้ชื่นใจได้ตลอดในเวลาที่อยู่ใกล้กัน
อยากดึงมากอดเอาไว้ อยากทำมากกว่าที่คนเป็นเพื่อนเค้าทำกัน
จุนมยอนรู้ตัวอีกทีก็พบว่ามือของคริสอีกข้างนั้นโอบอยู่ที่เอวของเขาแล้ว ใบหน้านั้นก้มซบลงที่ไหล่บาง
“ทำอะไรน่ะ ...”
“อยู่นิ่งๆสิ”
“อะไรของนาย ปะ ปล่อยนะ”
“ขออยู่แบบนี้สักนาทีเถอะ”
“คริส....”
“อยากอยู่ใกล้นายแบบนี้ทุกวันเลย”
คริสแอบแนบปลายจมูกเข้าที่แก้มของจุนมยอน รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรกเหมือนจะทะลุออกมา
“ที่บอกเมื่อกี้ ไม่ได้ล้อเล่นนะ”
“.........”
“ไหนๆก็พูดไปแล้ว นายล่ะ ชอบฉันบ้างมั้ย”
จุนมยอนไม่ตอบอะไรนอกจากยืนนิ่งทั้งที่ในใจสั่นไหวอยู่ในอ้อมกอดของคริส เพิ่งรู้วันนี้ว่าตัวเองก็ไม่ได้บริสุทธิ์ใจไปมากกว่ากัน ถ้าไม่ชอบก็คงบอกไปแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าเขาเองก็ ...
“ว่าไงล่ะ”
“มะ ไม่รู้ ....”
“งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันแล้ว ฉันรู้แค่ว่าถ้าช้าไปกว่านี้แล้วมีคนมาแย่งนายไป ฉันต้องแย่แน่ๆ”
“พูดอะไรน่ะ ...”
“ก็บอกไปแล้วไงว่าชอบน่ะ โธ่ .. จุนมยอน”
คริสยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเชยคางนั้นขึ้น เขาแนบริมฝีปากเข้าหาช้าๆ จุนมยอนปล่อยให้อีกคนทำตามใจโดยไม่รังเกียจแม้แต่น้อย
.. หัวใจเจ้ากรรม คิดตรงกันกับเขาแล้วสินะ
◆◆◆◆◆◆
วาเลนไทน์อันแสนหวานสำหรับใครหลายๆคนได้ผ่านเลยไปแล้ว ยกเว้นก็แต่พ่อหนุ่มนักบาสที่พักหลังมามักจะนั่งเหม่อๆและทำหน้าหงุดหงิดใจโดยลืมจะสนใจเพื่อนรักที่อยู่ในสภาพแขนเดี้ยงยังไม่หาย คริสมองอีกฝ่ายด้วยสายตาละเหี่ยใจ ทำมาหวังดีเรื่องคนอื่น ทีเรื่องของตัวเองดูจะจัดการยากจังนะพยอนแพคฮยอน
ระหว่างที่นั่งอยู่กันสองคนที่โต๊ะตัวเดิมใต้ตึกคณะ คริสก็ไม่อยากจะแหย่ปากไปเอ่ยถึงเรื่องของอีกฝ่ายให้ถูกด่ากลับมาอีก
“เออนี่แพคฮยอน”
“อะไรเหรอ”
“ขอบใจนะ สำหรับทฤษฎีสีชมพูบ้าบออะไรของนายนั่นน่ะ โลกเป็นสีชมพูจริงๆว่ะ”
“หึ .. หมั่นไส้โว้ยยยยยยยย ก็ไม่เชิงว่าวางแผนให้หรอกนะ แต่ใครจะรู้ว่าจะเวิร์คขนาดนี้ รู้งี้ปล่อยให้จุนมยอนเกลียดนายมากกว่าเดิมก็ดีหรอกคริส”
“พูดไปนั่น หมอนั่นไม่มีวันเกลียดฉันหรอก เฮอะ”
“มั่นใจเหรอ แต่ถ้าไม่ได้ฉันคิดอะไรดีๆแบบวันนั้นให้นะ นายไม่มานั่งอารมณ์ดีแบบนี้หรอก”
“เออๆๆ มีความสุขสุดๆเลยว่ะ .. โอ๊ย” คริสร้องขึ้นเมื่อใครอีกคนเดินเข้ามาตีที่ไหล่ของเขา จุนมยอนยืนทำหน้างออยู่ข้างหลัง
“ทำไมไม่ยอมกินยา คิดว่าเมื่อคืนนี้ฉันไม่รู้เหรอว่านายเอามันไปเก็บไว้ไหนน่ะ”
จุนมยอนต่อว่าคริสอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเห็นสายตาของแพคฮยอนที่หรี่ลงเหมือนได้ยินอะไรดีๆ
“แหมๆ เมื่อคืนงั้นเหรอ อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยน้าพวกนายเนี่ย”
“ไม่ใช่นะแพคฮยอน ฉันแค่ไปส่งคริสที่บ้านต่างหากเล่า”
“เหรอ .. ไปส่งเหรอ ได้ข่าวว่าไปค้างไม่ใช่เหรอ” แพคฮยอนลากเสียงยาวอย่างรู้มันทำเอาจุนมยอนเถียงไม่ออก จึงได้แต่หันหน้ามามองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องได้ตลอด แพคฮยอนหัวเราะร่วนกับเพื่อนทั้งสองที่ยังเป็นอย่างเคย แต่มีหรือที่เขาจะไม่รู้
“เฮ้ย แพคฮยอน นั่นคุณลู่หานของนายเค้ามาหาแน่ะ”
“ไม่นะ ...” แพคฮยอนหันไปมองตามที่คริสชี้บอก ลู่หานที่เดินอุ้มลูกบาสมาจากที่ไกลๆนั้นทำเอาแพคฮยอนต้องรีบลุกจากที่นั่งทันที
“จะไปไหนน่ะ”
“ไม่อยู่แล้วเว้ย คนอะไรตื๊อเป็นบ้า บอกว่าฉันไม่ได้ชอบผู้ชายไงเล่ายังจะมายุ่งด้วยอีก โอ๊ย ” แพคฮยอนรีบคว้าเป้แล้ววิ่งหายไปอีกทางทันที
คริสและจุนมยอนมองตามคนทั้งคู่ที่อีกคนวิ่งหนีแต่อีกคนวิ่งตาม พวกเขาเริมชินกับภาพแบบนี้เสียแล้ว
“หึ .. บอกว่ารำคาญเค้า แต่พอเค้าไม่โผล่มาก็กลับเป็นฝ่ายใจลอย ยังไงกันนะแพคฮยอน” คริสพูด
“คนที่ชื่อลู่หานนั่นคงชอบแพคฮยอนจริงๆเนอะ ว่ามั้ย”
“อืม ก็คงงั้นแหละ .. คนเราจะรักจะชอบใคร มันห้ามได้ที่ไหนล่ะ” คริสพูดพลางหันหน้ามองคนข้างกาย ต่างฝ่ายต่างรู้ความนัยของมัน คนที่ทนไม่ไหวจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอ้านี่ยา รับไปสิ จะได้รีบๆหายซะที เดี๋ยวแย่ลงไปอีกล่ะมาโทษฉันไม่ได้นะ”
“ไม่เอา”
“ว่าไงนะคริส อย่าดื้อได้มั้ย”
“ฉันไม่อยากหายแล้ว”
“ทำไม”
“ก็ถ้าหายแล้ว นายจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆแบบนี้มั้ยล่ะ”
“...........”
“ถ้าเจ็บแล้วได้อยู่ข้างๆนายไปตลอด ฉันยอมเจ็บทั้งชาติเลย”
“อะ ไอ้บ้า งั้นก็ไม่ต้องหายมันแล้ว”
จุนมยอนตีมือลงไปแรงๆที่ไหล่ของคริส ก่อนจะเก็บหน้าแดงๆของตัวเองแล้วหอบหนังสือเดินจากไปอย่างรวดเร็ว คริสมองตามพลางยิ้มออกมาอย่างสุขใจ อย่างน้อยๆก็ใจตรงกันไปขั้นหนึ่งแล้วล่ะนะ
ชายหนุ่มลูบมือบริเวณที่ถูกตีลงมาอย่างแรง พลางคิดในใจไปไกลราวกับคนบ้า ใช่แล้ว เขายอมรับว่าตัวเองบ้ามาก
.. ถ้าเป็นนาย จะตีอีกก็ได้นะจุนมยอน ตีแรงๆเลย ตีลงมาที่กลางใจของฉันคนนี้เลย จะได้รู้ว่านายจะไม่มีวันหนีจากฉันไปไหน
ช็อกโกแลตมากมายของวาเลนไทน์ปีนี้ เทียบไม่ได้เลยกับบางอย่างที่เขาได้มา
ถึงวันนี้จะเป็นแค่เศษใจ แต่อีกไม่นานหรอก .. เขาจะได้หัวใจของอีกฝ่ายมาทั้งดวงอย่างแน่นอน
.
.
END { Heal me baby – KrisHo }
จะว่าเป็นโปรเจคท์วันวาเลนไทน์ก็ไม่เชิงค่ะ เพราะมี2เรื่อง 2คู่ แค่เอามาลงพร้อมกันเท่านั้นเอง แวะมาลงแบบสนองนีดส์ TvT แต่ละเรื่องอาจยาวไปนิด แต่ไม่รู้ถูกใจมั้ยนะคะ
เรื่องนี้มันง้องแง้งๆ จุนมยอนน่ารักน่าแกล้ง (ถ้าได้เขียนยาวกว่านี้คงได้ให้นายเอกโดนแกล้งสุดๆไปเลยเนอะ 555) คริสก็อะไรไม่รู้ ฟอร์มเยอะ หาเรื่องอีก แต่พอทนไม่ไหวพี่แกก็เสี่ยวได้ใจ เสี่ยวมันทั้งเรื่อง หะหะ จริงๆต้องโทษคนแต่ง อ้อ .. ลู่แบคคืออัลไล ????? ==
เผื่ออยากสครีม (รึเปล่า?) นึกไม่ออกเอาแท็กนี้ละกันนะคะ #ficHealmebaby
ขอบคุณสำหรับการแวะเข้ามานะคะ^^ .... *วิ่งไปลงคู่chankaiต่อ!!
ความคิดเห็น