ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    one heart one love เพียงหนึ่งรัก | exo

    ลำดับตอนที่ #29 : One heart One love :: 25

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.53K
      4
      30 ต.ค. 57





    One Heart One Love

    -Twenty-Five-

     

     

    ผมเสียใจ...

     

    ชานยอลนอนนิ่งไม่ไหวติง เปลือกตาขยับเปิดอย่างเชื่องช้า เขาหันมองรอบกายก็พบเพียงเหม่ยฉีซึ่งนอนหลับอยู่บนโซฟาเท่านั้น

     

    แล้วแบคฮยอน

     

    แบคฮยอนไปไหน?

     

    แล้วเขาหลับอย่างนี้ไปกี่วันแล้ว?

     

    ร่างสูงยันตัวเองขึ้น ก้าวลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า ยืนโงนเงนทรงตัวไม่อยู่ด้วยเพราะสมองหนักอึ้งและด้วยเพราะเพิ่งตื่นจากการนอนหลับมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ชานยอลยึดขอบเตียงนอนไว้ กระพริบตาถี่ๆไล่ความพร่ามัวที่เริ่มบดบังแววตา มือหนาดึงสายน้ำเกลือตรงหลังมือออก ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บแล่นริ้วขึ้นสมอง แต่ก็แค่เวลาชั่วครู่สำหรับความเจ็บ.. เพราะเวลาของเขามีให้แค่แบคฮยอนคนเดียวเท่านั้น... เรื่องอื่นไม่สำคัญมากพอให้ใส่ใจ

     

    เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่โหมดปกติชานยอลก็ค่อยๆก้าวขายาวๆออกจากห้อง เพื่อไม่ให้เวลาอันแสนมีค่าหดสั้นลงไปอีก 

     

    ทางเดินที่มีเพียงแสงไฟสลัวเกิดเสียงดังทุกครั้งยามชานยอลกดน้ำหนักลงไป เขาเกาะผนังไปเรื่อยๆพลางกวาดสายตาหาแบคฮยอนที่อาจจะอยู่แถวๆนี้ 

     

    ดวงตาดำขลับยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดี ชานยอลผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆเพราะสภาพร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังฝืนตามหาแบคฮยอนอย่างไร้จุดหมาย

     

    พระเจ้า...

     

    นำทางผมไปหาแบคฮยอนทีเถอะครับ... ได้โปรด

     

    เดินไปเรื่อยๆก็มาหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งตรงสุดทางเดิน แสงไฟสว่างออกมาด้านนอกพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของผู้ป่วยในห้อง ชานยอลถอนใจเตรียมจะเดินกลับแต่เพราะเสียงทุ้มปนหอบหายใจจากคุณหมอที่วิ่งตรงมาด้านหลังทำให้ชานยอลชะงักขาไว้อย่างนั้น

     

    "คุณแบคฮยอนอาการกำเริบอีกแล้วหรอ!?" 

     

    คุณหมอเงยหน้ามองชานยอลเล็กน้อยก่อนเบี่ยงตัวจะเข้าไปในห้องแต่กลับโดนชานยอลรั้งแขนไว้เสียก่อน

     

    "คนในห้อง...เอ่อ...พยอนแบคฮยอน..."

     

    "คุณเป็นญาติคนไข้งั้นหรอครับ" คุณหมอขยับแว่นตาขึ้นลง มองสำรวจร่างสูงตรงหน้าที่ยังอยู่ในชุดของโรงพยาบาลอย่างแปลกใจ

     

    "เอ่อ...ประมาณนั้นครับ จริงๆผม..."

     

    "งั้นไปด้วยกันเลยครับ!"

     

    ไม่รอให้ชานยอลพูดจบประโยคคุณหมอหนุ่มก็รีบดึงตัวชานยอลเข้าไปในห้องด้วยกันอย่างรวดเร็ว ร่างสูงก้าวตามไปด้วยหัวใจที่สั่นไหวแปลกๆ... รู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้

     

    "ปล่อยผม! ปล่อย!"

     

    ภาพตรงหน้าทำชานยอลแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ...ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยน้ำตามากมายพรั่งพรูไม่ยอมหยุด แขนขาที่โดนตรึงไว้กับเตียงจนขึ้นรอยแดงด้วยผ้าสีขาวผืนหนา ร่างเล็กดิ้นพล่าน หวังเพียงหลุดออกจากห้องนี้ไปให้ได้ ริมฝีปากเรียวบางแดงช้ำเนื่องจากคมฟันที่ขบกัดลงไปตลอดเวลา... 

     

    แบคฮยอน...

     

    เรี่ยวแรงที่มีหายไปจนเกือบหมด...

     

    ดวงตาทอประกายความปวดร้าวอย่างไม่อาจปกปิดคลอไปด้วยม่านน้ำตา ความสงสารจู่โจมเข้าสู่หัวใจอย่างรุนแรง ขายาวก้าวประชิดเตียงคนไข้ด้วยความรวดเร็วและเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

     

    "ขอผมอยู่กับเขาสองคนได้ไหมครับ"

     

    ไม่มีเสียงตอบรับใดเว้นแต่เสียงประตูเปิดและปิดออกไปเท่านั้น ชานยอลทอดสายตามองร่างที่นิ่งไปแล้วทั้งน้ำตา ดวงตาไร้แววแต่กลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามากมายแอบแฝงอยู่ ผมกระเซอะกระเซิงชื้นเหงื่อผสมกับเม็ดน้ำตาจนเลอะหมอนไปหมด  มือหนาปลดผ้าสีขาวซึ่งตรึงแขนและขาของแบคฮยอนออกให้อย่างเบามือเพราะเกรงว่าอีกคนจะเจ็บ

     

    ทำไมนายถึงเป็นแบบนี้...

     

    "แบคฮยอน..."

     

    "นาย... " แบคฮยอนปรือตามองร่างสูงซึ่งยืนค้ำหัวตัวเองด้วยความรู้สึกสับสน "ชานยอลหรอ...นายยังไม่ตายใช่ไหม...นาย.."

     

    หมับ!

     

    อ้อมแขนอบอุ่นตวัดรัดร่างเล็กเข้าแนบอก หลับตาลงพร้อมปล่อยน้ำตาแห่งความรักและห่วงใยให้รินไหล ใช้มือลูบผมของแบคฮยอนอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลมคนอ่อนแอที่ซุกหน้าเข้ากับอกของเขา

     

    "นาย...นายยังไม่ตายจริงๆด้วย"

     

    "ฉันอยู่นี่ ชานยอลอยู่ตรงนี้กับแบคฮยอน"

     

    "ลุงของนายบอกว่านายตายไปแล้วแต่แม่ของนายบอกว่านายยังไม่ตาย ฉัน...ฉันไม่รู้จะเชื่อใครถึงแกล้งอาละวาดไปอย่างนั้นเพื่อให้พวกพยาบาลปล่อยให้ฉันไปตามหานาย แต่เปล่าเลย...พวกเขาทำเหมือนกับต้องการขังฉันไว้ในห้อง ฉันโดนมัดแขนขาไว้กับเตียง..."

     

    "..."

     

    "แต่ละวันที่ไม่มีนาย...ฉัน..ฉันอยู่ไม่ได้ ฉันไม่รู้สึกหิวหรือง่วงนอนเลยถ้าไม่ได้เห็นหน้านายในฝัน ฉันไม่อยากกินยาถ้าพยาบาลพวกนั้นไม่บอกว่านายจะมาหา ฉัน...ฉันมันบ้าชะมัด"

     

    ชานยอลรับฟังทุกอย่างที่แบคฮยอนเล่าเงียบๆ เผยรอยยิ้มบางเบาเป็นบางครั้ง ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยในบางเรื่อง โกรธนิดหน่อยกับการที่แบคฮยอนไม่ยอมนอนถึงสี่วันเพราะรอเขามาหา

     

    นายทรมานตัวเองเกินไปแล้วแบคฮยอน...

     

    "วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ"

     

    หลังจากที่แบคฮยอนเล่าทุกเรื่องที่ตนเจอระหว่างที่ชานยอลไม่อยู่กระทั่งหลับไปในอ้อมกอดของเขาเรียบร้อยแล้วชานยอลถึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลกปนห่วงใย

     

    ถ้าเกิดนายเป็นอะไรขึ้นมา ฉันก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

     

     

     

     

    แอ๊ด....

     

    เสียงประตูเปิดดังขึ้นในความเงียบงัน ดวงตาที่คุ้นเคยมองตรงไปยังร่างคนสองคนที่นอนกอดกันอยู่บนเตียงด้วยความโกรธจัด มือสั่นรุนแรงเนื่องจากการบีบมันไว้ ริมฝีปากสีแดงสดกับแว่นตาอันใหญ่ช่วยอำพรางใบหน้าของเธอไม่ให้ทุกคนจำได้

     

    ฮานา ยิ้มเย้ยหยันให้กับคนที่นอนหลับสบายอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของชานยอล เธอนั่งลงบนโซฟา วางกระเป๋าใบโปรดไว้ข้างกาย ถอดแว่นตาที่น่ารำคาญออกแล้วเก็บมันใส่กล่องแว่น เหยียดขาคลายความเมื่อยล้าจากการต้องเดินวุ่นกับงานที่บริษัททั้งวันแต่ก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลาพักผ่อนอันน้อยนิดเพื่อจัดการเรื่องที่สำคัญกว่า

     

    ในเมื่อเจ็บแล้วไม่จำ...ก็คงต้องทำให้เข็ดไปจนวันตาย!

     


    ----------------------------------------

     

     

    แสงสว่างลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในห้องแยงสายตาของชานยอล ร่างสูงลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก สะบัดหัวแรงๆไล่ความง่วง ขยับแขนที่ใช้ต่างหมอนให้แบคฮยอนหนุนออกแล้วนำหมอนใบใหญ่ของทางโรงพยาบาลมาหนุนหัวให้ร่างเล็กแทน

     

    สายตาประกายแพรวพราวมองแบคฮยอนด้วยความรู้สึกรักเกินกว่าจะอธิบาย ริมฝีปากเรียวก้มประทับจุมพิตแสนหอมหวานให้ร่างบาง ก่อนเลื่อนไล้ไปตามแก้มใสจนถึงบริเวณขมับอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล

     

    เพื่อแสดงว่าคนคนนี้มีเจ้าของแล้ว

     

    เกรงใจกันบ้างก็ดีนะแกน่ะ

     

    ชานยอลหันขวับไปตามเสียงเรียก ใบหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือ...ปาร์คฮานา!

     

    คุณมาทำอะไรที่นี่!?”

     

    พูดให้มันสุภาพหน่อยสิปาร์คชานยอล ฉันเป็นแม่แกนะ มาขึ้นเสียงอย่างนี้ได้ยังไงฮานาต่อว่าเสียงเข้มแต่ชานยอลก็ไม่ได้สนใจ เขาทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินเสียงของฮานาแล้วเอ่ยถามต่อทันที 

     

    ผมถามว่าคุณมาทำอะไรที่นี่

     

    มาจัดการอุปสรรคที่ทำให้เงินก้อนโตที่ฉันกับเหม่ยฉีควรจะได้ลอยหายไปไงล่ะ!” 

     

    พูดจบก็ตวัดสายตามองร่างด้านหลังชานยอลด้วยความเคียดแค้น ก้าวดุ่มๆประชิดเตียงนอนแล้วผลักชานยอลออกห่าง

     

    ร่างสูงเซถลาจนตกเตียง มือที่ใช้พยุงน้ำหนักทั้งหมดชาไปจนถึงต้นแขน ความเจ็บแล่นพล่านไปทั้งร่าง ชานยอลกัดฟันแน่นไม่ยอมเผยความอ่อนแอซึ่งค่อยๆกัดกินร่างกายทีละส่วนช้าๆแล้วยันตัวเองลุกขึ้นประจันหน้ากับฮานาที่จับแบคฮยอนเป็นตัวประกันไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้!

     

    แบคฮยอนดิ้นอย่างแรงและพยายามส่งเสียงร้องตะโกนออกมาให้คนอื่นได้ยินแต่เพราะความเหนื่อยอ่อนบวกกับเพิ่งตื่นนอนร่างกายจึงยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรจะเป็นทำให้จะทำอะไรก็ดูติดขัดไปเสียหมด

     

    ปล่อยแบคฮยอนซะ คุณฮานา

     

    ชานยอลกดเสียงต่ำลงเพื่อให้หญิงสาวยอมปล่อยแบคฮยอนไปง่ายๆ แต่เขาคิดผิด...เพราะฮานาชักปืนที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมาจ่อที่ขมับของแบคฮยอนโดยไม่ทันให้ตั้งตัว

     

    คุณจะทำอะไร!?!”

     

    ร้องถามด้วยเสียงหวาดหวั่น ไม่กล้าแม้จะขยับตัวเพราะไม่รู้ว่าลูกกระสุนจะถูกยิงออกมาจากปลายกระบอกปืนตอนไหน 

     

    ฟังฉันให้ดีๆแล้วตอบตกลงซะ!”

     

    ฮานากระตุกยิ้มเยาะ กดปลายกระบอกลงบนขมับอย่างแรง แบคฮยอนหลับตาปี๋ เขาหยุดดิ้นและไม่กล้าส่งเสียงร้อง ความเย็นเยียบจากมือเล็กที่ใช้ปิดปากของตนยิ่งทำให้แบคฮยอนหวาดกลัวยิ่งกว่าเก่า

     

    ภาพฝันร้ายจากเมื่อตอนที่โดนฮานาตบหน้าแถมยังผลักจนหัวเขาแตกตามมาหลอกหลอน และสร้างภาพซ้อนขึ้นมาให้แบคฮยอนมองเห็นมันแต่เพียงผู้เดียว

     

    กลัว....

     

    ชานยอล...ฉันกลัว...

     

    จิตใจที่อ่อนไหวและเปราะบางส่งเสียงร้องตะโกน หากแต่ดวงตาแสนว่างเปล่ากลับเฉยชาเสียจนชานยอลไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดเขาบุ่มบ่ามเข้าไปกระชากตัวแบคฮยอนออกมาแล้วปืนเกิดลั่นโดนแขนไม่ก็ตามลำตัวของร่างบาง แบคฮยอนจะตกใจกลัวไหม...

     

    เขาไม่อยากให้แบคฮยอนเสียขวัญแต่ก็ไม่อยากให้แบคฮยอนทนกลัวอยู่แบบนั้น...เขาควรทำยังไงดี

     

    คุณมีอะไรจะพูดก็พูดมา

     

    ชานยอลตอบอย่างหนักแน่น จ้องกระบอกปืนนิ่งและพยายามอย่างยิ่งที่จะประคองสติของตนไว้

     

    เพราะแกแอบมาหาแบคฮยอน... ทางฝั่งนู้นเขาถึงยกเลิกงานแต่งงานของแกกับหนูซอลลี่

     

    “…”

     

    เพราะแกแอบมาหาแบคฮยอน...เงินก้อนโตกับหุ้นอีกห้าเท่าที่เราควรจะได้รับจากการแต่งงานถึงลอยหายไป!”

     

    เรางั้นหรอแค่คุณคนเดียวต่างหากคุณปาร์คฮานาถ้าผมแต่งงาน เงินพวกนั้นก็เข้ากระเป๋าคุณหมดแล้วอย่างนี้คุณจะเรียกว่า ‘เรา’ อีกหรอ!?”

     

    เพราะชานยอลเหมือนไฟและฮานาเหมือนน้ำมัน... ของสองสิ่งที่ไม่ควรเอาเข้าใกล้กันแต่พอต้องมาปะหน้ากันตรงๆห้องทั้งห้องถึงร้อนระอุราวกับจะมอดไหม้เสียให้ได้

     

    สายตาฟาดฟัดของทั้งคู่กดดันกันและกันไปมาและไม่มีใครยอมถอนสายตาออกไป กระทั่งความอดทนของปาร์คฮานาเดินมาถึงจุดสิ้นสุด

     

    แกเถียงฉันงั้นหรอปาร์คชานยอล... กล้าดียังไงฮะ!!”

     

    น้ำเสียงเนิบนาบไร้ซึ่งความโกรธแค้นอย่างที่ควรจะเป็นทำให้ชานยอลขนลุก... ร่างสูงก้าวถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตั้งหลักรอเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ

     

    ที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อให้แกเลิกกับไอ้เด็กนี่ซะ... ตอนแรกฉันคิดไว้นะว่าจะเจรจากับแกอย่างใจเย็นมีเหตุผลที่สุด แต่ในเมื่อแกเถียงฉันและฉันไม่ชอบ...ก็คงต้องใช้กำลังกันหน่อย!”

     

    เอ่ยจบฮานาก็ดีดนิ้วดังเป๊าะแล้วเก็บปืนเหน็บไว้ที่เดิมก่อนผู้ชายตัวใหญ่สองสามคนจะวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับล็อกตัวของชานยอลไว้โดยที่ไม่ต้องรอรับคำสั่งอะไรทั้งสิ้น

     

    เฮ้ย! ปล่อยดิวะ ปล่อย!”

     

    ชานยอลดิ้นอย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะชายสองคนที่ล็อกแขนเขาไว้แข็งแรงกว่าเขามากนัก

     

    จับมันให้แน่นๆนะพวกแก  ถ้าขืนมันดิ้นหลุด ม้วนหนังที่มันยังไม่เคยดูอาจต้องจบลงกลางคัน...

     

    ทิ้งคำพูดปริศนาไว้ให้ชานยอลสงสัยเล่น... แต่วินาทีต่อมาการกระทำของฮานาถึงกับทำให้ชานยอลอ้าปากค้างและเริ่มดิ้นแรงกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า!

     

    พลั่ก!

     

    หัวทุยๆกระแทกเข้ากับผนังห้องอย่างแรง แบคฮยอนร้องโอดโอยพร้อมกับร้องไห้อย่างหนักเมื่อเห็นเลือดค่อยๆไหลลงมาตามขมับกระทั่งถึงริมมุมปาก... ร่างเล็กกระเถิบตัวหนีแต่ก็ไม่ทันเพราะฮานาใช้ความยาวของแขนตัวเองให้เป็นประโยชน์ด้วยยการกระชากผมของแบคฮยอนกลับมา ก่อนฟาดฝ่ามือลงบนแก้มเปรอะน้ำตาโดยไม่ออมแรง

     

    แบคฮยอนหน้าหันไปตามแรงตบ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วช่องปากก่อนค่อยๆไหลลงมาจนเลอะเสื้อของทางโรงพยาบาล... แต่นั่นมันยังไม่พอสำหรับฮานา... เธอมีแรงเหลือเฟือพอให้เด็กคนนี้เจ็บเล่นๆอีกนาน!

     

    มือบางฟาดลงบนใบหน้าของแบคฮยอนไปมาไม่ยอมหยุด ส่วนมืออีกข้างที่ยังว่างก็กดร่างของแบคฮยอนให้แนบไปกับพื้นก่อนที่เธอจะขยับตัวขึ้นคร่อมร่างที่ตัวพอๆกับตนไว้ แล้วสวมวิญญาณนักตบอีกรอบราวกับคนเสียสติ

     

    หยุดสักทีพอได้แล้วคุณฮานา!!”

     

    เพียะ! เพียะ!

     

    ผมบอกให้พอไง!”

     

    เพียะ! เพียะ!

     

    ฮานาปล่อยให้เสียงร้องห้ามของชานยอลเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปโดยไม่คิดจะฟัง สมองของเธอคิดออกแต่ว่าต้องบีบให้ชานยอลยอมพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้แม้ว่าจะต้องตบแบคฮยอนจนตายกันไปข้าง เธอก็ยอม!

     

    แบคฮยอนร้องสะอึกสะอื้นหนักขึ้นๆ พยายามไม่มองหน้าของคนบ้าอย่างฮานาเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องกลัวหนักไปกว่านี้...

     

    พระเจ้า...ช่วยหยุดเธอที

     

    ผมเจ็บ...เจ็บไปหมดแล้ว...

     

    ร่างเล็กทำได้เพียงภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยสภาพที่ใกล้หมดสติลงเต็มที

     

    คุณฮานา! ปล่อยแบคฮยอนปล่อยเขาไปซะ!!!”

     

    ช...ชานยอลแบคฮยอนเอ่ยได้แค่นั้นเพราะริมฝีปากมันทั้งเจ็บทั้งแสบเกินกว่าจะพูดอะไรได้มากกว่านี้

     

    เพียะ!

     

    สงสัยมันคงยังไม่พอสินะ

     

    ฮานาเอ่ยกับตัวเองแล้วหยุดมือตัวเองชะงักค้างกลางอากาศ ดวงตาประกายความเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วกระชากร่างของแบคฮยอนตามไปด้วย

     

    รับลมเย็นๆหน่อยดีกว่าไหมพยอนแบคฮยอน

     

    พูดจบก็ดึงแขนของแบคฮยอนให้ตามตัวเองออกไปที่ระเบียง ร่างสะบักสะบอมไร้ซึ่งเรี่ยวแรงทำอะไรทั้งสิ้นตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อได้สัมผัสกับลมเย็นๆพร้อมกับร่างของตนเองที่ลอยขึ้นในอากาศก่อนจะถูกวางลงบนที่นั่งตรงไหนสักที่...

     

    ราวระเบียง!

     

    คราวนี้แบคฮยอนถึงกับตื่นเต็มตาเมื่อรู้ว่าตนเองถูกวางลงที่ใด ลมเย็นๆพัดเข้าหน้าอย่างแรง ขาเรียวทิ้งลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก มือเล็กล็อคราวระเบียงแน่นกันไม่ให้ตัวเองตกลงไปแม้จะรู้ว่ามันอาจไม่เป็นผลเพราะคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังอาจผลักเขาตกลงไปเมื่อไรก็ได้

     

    พระเจ้าครับ... ท่านจะไม่ช่วยผมเลยหรอ

     

    ท่านไม่สงสารผมบ้างเลยหรือครับ...

     

    ฉันจะผลักหมอนี่ลงไปถ้าแกไม่รับปากมาก่อนว่าจะเลิกยุ่งกับมันแล้วยอมแต่งงานกับหนูซอลลี่ใหม่อีกรอบ... ถึงเงินมันจะน้อยลงแต่ก็ดีแค่ไหนแล้วที่คุณชเวท่านยอมให้โอกาสเราอีกครั้ง

     

    “…”

     

    ฉันให้เวลาแกสิบวินาทีแลกกับการที่พยอนแบคฮยอนจะไม่ต้องตายก่อนวัยอันควร

     

    ชานยอลเริ่มลุกลิ้ลุกลน มองฮานาทีแบคฮยอนที สมองมันตีกันมั่วไปหมดจนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาดื้อๆแต่เขาก็ต้องฝืนทนต่อไปเพราะชีวิตของแบคฮยอนอยู่ในกำมือของฮานาทั้งหมด

     

     

    “10….9….”

    พระเจ้าครับ...ช่วยผมเลือกที

     

     

    “8….7…”

    ผมต้องยอมตอบตกลงเพื่อแลกกับความปลอดภัยของแบคฮยอนใช่ไหมครับ...

     

     

    “6…5…”

    ถ้าผมเลือกแบบนั้น...มันจะดีกับทุกฝ่ายใช่ไหมครับ

     

     

    “4…3…”

    แบคฮยอนขนลุกไปทั้งร่างเมื่อคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังหลังเริ่มดันร่างของเขาขยับออกจากราวระเบียงทีละนิด...ทีละนิด...

     

    ไม่นะ...

     

     

    “2…1..”

     

     

    ผมยอมแล้ว!!!” ชานยอลตะโกนสุดเสียง พร้อมบรรยากาศรอบกายที่เงียบสงบลงก่อนเสียงปรบมือเปาะแปะจะดังใกล้ๆหู

     

    ต้องอย่างนี้สิปาร์คชานยอล

     

    “…”

     

    แต่งงานกับหนูซอลลี่นอกจากจะได้รับการยอมรับจากนักธุรกิจจากทั่วโลกแล้วแกยังได้เงินใช้สบายๆอีกด้วย แกน่าจะเลือกมันตั้งแต่ที่ฉันเริ่มนับสิบแล้วด้วยซ้ำ

     

    ผมได้เงิน...ได้รับความการยอมรับ...เป็นที่รู้จัก... แล้วมันดียังไง

     

    “…”

     

    คุณไม่รู้จักความรัก... ถ้าจะให้ฟังผมพล่ามก็คงฟังไม่รู้เรื่องแต่ผมขอบอกอะไรไว้อย่าง

     

    “…”

     

    เงินกับ ‘ความรัก’ ที่ผมมีให้แบคฮยอนมันเทียบกันไม่ได้

     

    “…”

     

     

    ความรักของผมมีค่ามากกว่าเม็ดเงินพวกนั้นร้อยเท่าพันเท่า รู้ไว้ซะด้วย!!!”

     

     

    ฮึก...

     

    แบคฮยอนกลั้นสะอื้น... ร่างบางหันกลับมามองชานยอลทันทีที่ถูกอุ้มลงมาจากราวระเบียง ดวงตาแห่งความรักที่ทั้งคู่มีให้กันโอบล้อมหัวใจอันแสนเย็นเฉียบให้อุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

     

    นี่สินะ... ความรักที่แท้จริง

     

    ความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนและไม่หวังว่าต้องอยู่ด้วยกัน...

     

    ความรักที่ยิ่งใหญ่และมีค่ามหาศาลเกินจะอธิบายได้...

     

    ความรักที่จะพันผูกหัวใจสองดวงไว้ด้วยกันตลอดไป....

     

    หึ... ถ้าความรักมันกินได้ฉันก็คงไม่ดิ้นรนมาลากตัวแกกลับไปแต่งงานหรอกปาร์คชานยอล” 

     

    ฮานาอธิบายเหตุผลที่งี่เง่าเสียเหลือเกินในความคิดของชานยอลให้เขาฟังก่อนจะสั่งชายสองคนที่ล็อคแขนชานยอลอยู่ให้ลากเขาตามเธอออกไป ทิ้งแบคฮยอนกับชายอีกคนซึ่งเป็นลูกน้องของฮานาอยู่กันเพียงลำพัง

     

    ขอโทษที่ต้องรุนแรงกับนาย

     

    ไม่เป็นไรครับ...” แบคฮยอนตอบกลับเสียงเศร้า

     

    อย่าคิดมากเลย ผู้หญิงคนนั้นเขาก็แค่คิดไม่เป็น สักวันผลกรรมก็จะย้อนกลับมาหาเขาเอง” คนข้างกายเอ่ยปลอบพร้อมกับยกมือลูบหัวแบคฮยอนเบาๆ

     

    ผมจะพยายามไม่คิดมากนะครับ

     

    ต้องทำให้ได้นะ... เอ้านี่” 

     

    มือหนายืนกระดาษแผ่นเล็กสองใบให้แบคฮยอนที่รับมาอย่างงงๆ

     

    กระดาษนี่จะทำให้นายจดจำหมอนั่นได้...ตลอดไป”  

     

    แล้วชายคนนั้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

     

    แบคฮยอนคลี่กระดาษใบหนึ่งเปิดออกอ่านส่วนอีกใบก็ยัดใส่กระเสื้อไปก่อน

     

     

     

    ถึงแบคฮยอน

     

     

    เมื่อนายได้อ่านข้อความนี้ฉันอาจโดนคุณปาร์คฮานาลากตัวกลับจีนไปเรียบร้อยแล้วแต่ฉันอยากให้นายรู้ไว้อย่าง

     

    ฉันจะพยายามทุกวิถีทางให้ได้มาพบนาย

     

    จะแอบพวกลูกน้องทุกคนกลับมาหานายที่เกาหลี หวังว่านายจะรอฉันได้นะ ฉันสัญญาว่ามันต้องมีวันนั้น

     

    วันที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกัน

     

    ไม่ใช่ตลอดกาล... แต่เป็นตราบสิ้นลมหายใจ

     

     

    ชานยอล

     

     

     

     

    นายมันบ้าที่สุดเลย...

     

    พูดไปก็สะอื้นไป... แบคฮยอนพับกระดาษเก็บไว้ดังเดิมแล้วหยิบอีกใบมาเปิดอ่านด้วยความตื่นเต้น

     

     

     

    ถึงแบคฮยอน

     

    เห็นอะไรในนี้ไหม... สำหรับฉันและนายเท่านั้น นายเห็นมันหรือเปล่านายเห็น ‘ความรัก’ กับหัวใจ’ ของฉันไหม?

     

    ปล.เอากระดาษใบนี้ทาบกับแสงแล้วนายจะมองเห็นมัน

     

    ชานยอล

     

     

     

    แบคฮยอนทำตามวิธีในจดหมายก่อนน้ำตามากมายจะพร้อมใจกันรินไหลลงมาราวกับทำนบกั้นน้ำตาแตก

     

     

     

    ...ปาร์คชานยอล  พยอนแบคฮยอน...

     

     

     

    ฮึก...รักนายเหมือนกันนะชานยอล...จะรัก...ตลอดไป



     ----------------------------------------






     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แม้รักมากเพียงใด... แม้ต้องการอยู่ด้วยกันมากแค่ไหน... แต่เมื่อความตายคืบคลานเข้ามา สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่จึงมีเพียงร่างกายที่ไร้ซึ่ง...หัวใจ

     

     

     

    1+1=0

     

     

     

    หัวใจสองดวงรวมกันเป็นหนึ่ง... หากตอนนี้... กลับกลายเป็นแค่

    ความว่างเปล่าและการสูญเสีย

    พวกเขาเริ่มต้นนับเรื่องราวทุกอย่างใหม่โดยเริ่มจาก...จุดเริ่มต้นแห่งชีวิต



     

    ---------------------------------

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แม้จะอยากยื้อความรักนี้ไว้... แม้มันจะเป็นเรื่องที่ผิดบาป...

    แต่ในเมื่อเรารักกัน

    ใครก็ไม่อาจเข้ามาห้ามได้...

     

     

     

    1+1=1

     

     

     

    หัวใจสองดวงที่รักกันเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ

    ตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ดวงเดียว... เพราะว่าเจ้าของหัวใจอีกหนึ่งดวง

    เขาจากไปพร้อมกับหัวใจของเขาแล้ว...ตลอดกาล


    ---------------------------------





     

     

     

    แม้ต้องการทำตามคำสั่งของหัวใจ... แม้รู้ว่าผลสุดท้ายคือการจากลา...

    แต่หัวใจของพวกเขากลับพันผูกเกินกว่าจะแยกจากกัน

     

     

     

    1+1=2

     

     

     

    หัวใจที่อ่อนแอและเจ็บช้ำ... ยังคงอยู่เคียงกันตลอดเวลา

    เพราะว่าพวกเขายังรักกันอยู่

    พวกเขายังต้องการกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม


    ---------------------------------

     

     

    The End

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×