ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แนะนำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ~*!!!!!!
แนะนำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
ข. มีความพร้อมด้านอาคารสถานที่ในการจัดการเรียนการสอนชั้นปรีคลินิก โดยมีอาคารวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาคาร 6 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 9,000 ตารางเมตร พร้อมห้องประชุม ห้องเรียน ห้องทำงาน ห้องปฏิบัติการพร้อมครุภัณฑ์ และอุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนด้านปรีคลินิกได้ทันที ค. มีคณะที่เปิดดำเนินการจัดการเรียนการสอนด้านการพยาบาลและการสาธารณสุข คือ คณะพยาบาลศาสตร์ และ คณะสาธารณสุขศาสตร์ ที่ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมแล้ว ง. มีศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการเรียนการสอน การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และเปิดบริการรักษาพยาบาลทางการแพทย์และการสาธารณสุข โดยมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาขนาด 150 เตียง เพื่อรองรับการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัย จ. มีคณะวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬา และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่สามารถจัดการเรียนการสอนในรายวิชาพื้นฐานของการผลิตแพทย์ได้ ฉ. การจัดการเรียนการสอนในชั้นคลินิก มีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพและความพร้อมในพื้นที่ที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพา ประกอบด้วย โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โรงพยาบาลระยอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งสามารถรองรับการจัดการเรียนการสอนชั้นคลินิกได้อย่างสมบูรณ์ ช. มีโรงพยาบาลชุมชนระดับอำเภอที่มีความพร้อมเข้าร่วมสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชน
|
นโยบาย ปรัชญา และปณิธาน |
นโยบาย ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันว่า ในการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน คนหรือประชากรของประเทศเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา ถ้าสุขภาพของคนดี ไม่เจ็บป่วย การพัฒนาหรือการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ จะมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าสุขภาพของคนไม่ดี เกิดการเจ็บป่วย การพัฒนาหรือการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ จะไม่มีประสิทธิภาพหรือล้มเหลว จะเห็นได้ว่าปัญหาทางด้านสุขภาพของประชาชน หรือปัญหาทางการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม ดังนั้น ระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพอนามัยของประชากรจะต้องอยู่ในระดับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในเรื่องของการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Coverage) หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้ประชาชนมีหลักประกันในการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยมีการเข้าถึงในด้านความสะดวกต่อการเดินทาง และได้รับบริการโดยไม่มีอุปสรรคในด้านการเงิน ปัจจัยหลักที่จะทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อสถานบริการในโครงการนี้ คือ การพัฒนาระบบการบริการให้มีคุณภาพ ให้บริการในลักษณะองค์รวม (Holistic Care) อย่างผสมผสานและต่อเนื่อง ซึ่งจะดูแลประชาชนทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมที่มีผลต่อสุขภาพ ตามแนวนโยบายการศึกษาของรัฐที่มุ่งเน้นการกระจายโอกาสการศึกษาไปสู่ภูมิภาค ได้เน้นการพัฒนาคนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศและแข่งขันกับนานาประเทศได้ ทบวงมหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นว่าการขยายวิทยาเขตสารสนเทศเป็นทางเลือกที่มีทางเหมาะสมมากที่สุดเพื่อผลิตบัณฑิตให้ทันต่อความต้องการของประเทศ ทั้งในเชิงปริมาณและมีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ และได้ดำเนินการพัฒนาระบบการเรียนการสอนทางไกลโดยใช้ระบบเครือข่ายสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาจารย์ ปัญหาการกระจุกตัวของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์ระดับชาติ คือ ประชาชนจะต้องมีระดับคุณภาพชีวิต ความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่ดีขึ้น รวมทั้งได้รับการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยมีดัชนีความอยู่ดีมีสุข (Well-Being Index) วัดสุขภาพอนามัยที่ดี มีความรู้ มีงานทำที่ทั่วถึง มีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ มีครอบครัวที่อบอุ่นมั่นคง มีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีระบบบริหารจัดการที่ดีของภาครัฐ ในปี 2548 คาดว่าจะมีค่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ในปัจจุบันคุณภาพชีวิตและสุขภาพอนามัยของประชากรยังได้รับการตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแพทย์ จึงจำเป็นที่จะต้องผลิตแพทย์และบุคลากรทางด้านการสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับการพัฒนาประเทศ ในปี พ.ศ. 2545 ประเทศไทยมีประชากร 62,779,879 คน มีแพทย์ที่ทำงานจริง จำนวน 22,879 คน คิดเป็นสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร คือ แพทย์ : ประชากร เท่ากับ 1 : 2,745 คน โดยมีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรมากที่สุดในเขตกรุงเทพมหานคร 1 : 586 คน และน้อยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 : 7,239 คน ในจำนวนนี้เป็นแพทย์ผู้บริหารประมาณ 2,280 คน จะเหลือแพทย์ที่ทำหน้าที่ด้านบริการเพียง 20,599 คน คิดเป็นสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1 : 3,047 คน ซึ่งในภาพรวมแล้วจะเห็นได้ว่าประเทศไทยยังมีความขาดแคลนแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก จากรายงานการประชุมแพทยศาสตร์ศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนะว่าสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรควรเป็น 1 : 1,500 คน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้ประเมินการผลิตแพทย์ในโครงการเร่งรัดการผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาที่ขาดแคลน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 2551 สัดส่วนแพทย์ต่อประชากรอยู่ที่ 1 : 2,370 คน ซึ่งยังต่ำกว่าข้อเสนอแนะของที่ประชุมแพทยศาสตร์ศึกษา จากปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมา ประกอบกับเป็นนโยบายและยุทธศาสตร์ระดับชาติ ทำให้ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดการผลิตแพทย์ให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ จากการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งมีท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งเกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีการเคลื่อนย้ายของประชากรและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมากเข้ามาทำงานและอยู่อาศัยในบริเวณนี้ ในปี พ.ศ. 2545 มีประชากรประมาณ 5,288,646 คน แต่สัดส่วนแพทย์ต่อประชากรยังอยู่ในระดับที่ต่ำ คือ 1 : 3,247 คน โดยที่จังหวัดที่มีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรสูง คือ จังหวัดชลบุรี 1 : 1,831 และจังหวัดที่มีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรต่ำคือ จังหวัดสระแก้ว 1 : 9,257 (ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข 2545) มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐประจำภูมิภาคตะวันออกของประเทศ ได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแพทย์ดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการเตรียมแผนการจัดการเรียนการสอน และเตรียมความพร้อมในการผลิตแพทย์มาตั้งแต่แผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ 6 จนถึงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ 10 ซึ่งเป็นแผนปัจจุบัน ปรัชญาของหลักสูตร หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา มุ่งเน้นการผลิตแพทย์ให้เหมาะสมต่อระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออก มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา เทียบเท่ามาตรฐานสากล มีความรู้ความสามารถ และเจตคติที่จะปฏิบัติงานในชนบทได้เป็นอย่างดี และธำรงไว้ซึ่งศิลปะวัฒนธรรมไทย ปณิธาน 1. ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภาและเทียบเท่ามาตรฐานสากล และ สามารถประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้วยคุณธรรม มีความรู้ ความรับผิดชอบ ความเสียสละ และมนุษยสัมพันธ์ที่ดี 2. ผลิตบัณฑิตให้เหมาะสมต่อระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออก มีความรู้ ความสามารถ และเจตคติที่จะปฏิบัติงานในชนบทได้เป็นอย่างดี 3. ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถที่จะดูแลตนเองในด้านสุขภาพและการใช้ชีวิต สามารถศึกษาต่อเนื่องได้ตลอดชีวิต และมีความภูมิใจในเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าแห่งวิชาชีพ 4. ผลิตบัณฑิตให้เป็นที่พึ่งทางวิชาการ ธำรงไว้ซึ่งศิลปะวัฒนธรรมไทย ชี้นำแนวทางการพัฒนาแก่สังคมโดยเฉพาะ ภาคตะวันออก |
Credit : http://med.buu.ac.th |
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น