ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพนิยายกรีก

    ลำดับตอนที่ #41 : ^0^มังกรจีนค่ะ^0^

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 285
      0
      23 ส.ค. 48





                                                                  ^0^มังกรจีนค่ะ^0^





                         ขอบคุณคุณ  Samadragon  ค่ะ





                         หมายเหตุ  จะไม่มีการเปลี่ยนเเปลงคำพูดใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ





                         มังกรจีนมีลักษณะที่มาจากสัตว์หลายๆชนิดคือ มีหัวเหมือนของอูฐ ,เขาเหมือนของกวาง ,ตาเหมือนของกระต่าย หรือปีศาจ ,หูเหมือนของวัว ,คอเหมือนของงู หรืออีกัวน่า ,ตัวเหมือนของงู ,เท้าเหมือนของเสือ ,กรงเล็บเหมือนของนกอินทรีย์ ,ท้องเหมือนของกบหรือหอยกาบ และเกล็ดเหมือนของปลาคาร์พ



                

                         มังกรจีนมีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่ขากรรไกรบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนของสิงโตอยู่บน คอ ,คาง และข้อศอก มังกรจีนมีเกล็ด 117 แผ่น ซึ่ง 81 แผ่นเป็นหยางมีความดี 36 แผ่นเป็นหยินมีความชั่ว เขามีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหาง เป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มังกรจีนมีโหนกอยู่บนหัวซึ่งทำให้เขาสามารถบินได้ เรียกว่า เชด เม่อ (ch’ih muh) แต่ถ้าเขาไม่มีโหนกนี่เขาจะกำคทาเล็กๆที่เรียกว่า โพ เชน (po-shan) ซึ่งสามารถทำให้เขาลอยได้



                

                         สีของมังกรจีนผันแปรตั้งแต่แกมเขียวจนถึงทอง หรือบางแหล่งว่ามังกรจีนมีสี น้ำเงิน ,ดำ ,ขาว ,แดง ,เขียว หรือเหลือง แต่ในกรณีของมังกรชนิด ไชโอะ (chiao) หลังของเขาเป็นสีเขียว ด้านข้างเป็นสีเหลือง และใต้ท้องเป็นสีแดงเข้ม มังกรจีนอีกตัวอย่าง มีปีกที่ด้านข้าง และเดินบนน้ำ อีกตัวอย่างสะบักแผงคอของเขาไปข้างหน้าและข้างหลัง ทำเสียงที่ฟังดูเหมือนขลุ่ย



                

                         มังกรจีนในตำนานสามารถทำตัวเองให้ใหญ่เท่ากับจักรวาล หรือเท่ากับหนอนไหมได้ และในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนมังกรจีนได้รับความนับถือมากที่สุด



                

                         มังกรจีนมีนิสัยเมตตากรุณา ,เป็นมิตร ,ทะเยอทะยาน และมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้มังกรจีนฉลาด ,มีปัญญามาก ,มีความเด็ดขาด และมีพลัง เขาจึงเป็นที่ปรึกษาของผู้นำ แต่มังกรจีนมีทิฐิ เขาจะถือว่าถูกหมิ่นประมาทเมื่อผู้นำไม่ทำตามคำแนะนำของเขา หรือเมื่อผู้คนไม่เคารพความสำคัญของเขา จากนั้นเขาจะทำให้ฝนหยุดตก หรือเป่าเมฆดำออกมาซึ่งจะนำพายุ และน้ำท่วมมาให้ มังกรตัวเล็กก็ทำเรื่องยุ่งยากเล็กๆ เช่นทำหลังคารั่ว หรือทำให้ข้าวเกิดความเหนอะหนะ



                

                        มังกรจีนมีเก้าชนิดใหญ่ๆคือ





                        1. มังกรมีเขา หรือ หล่ง (lung) มีอำนาจมากที่สุดสามารถทำให้เกิดฝนได้ และหูหนวกโดยสิ้นเชิง





                        2. มังกรมีปีก เรียกว่า ยิ่น หล่ง (Ying-lung)





                        3. มังกรสวรรค์หรือมังกรฟ้าเรียกว่า ทิ่น หล่ง (T’ien-Lung) เขาสนับสนุนและปกป้องคฤหาสน์สวรรค์ของเทพเจ้า





                        4. มังกรวิญญาณเรียกว่า เชน หล่ง (Shen-Lung) ที่ทำให้เกิดลมและฝนเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ





                        5. มังกรแห่งขุมทรัพย์ที่ซ่อนเร้น หรือแห่งขุมทรัพย์ลึกลับ เรียกว่า ฟู แซง (Fu-tsang) หรือ ฝัดซ์ หล่ง (Fut’s-Lung ,มังกรใต้ดิน) เขาดูแลขุมทรัพย์ที่ช่อนอยู่ หรือโลหะมีค่า และอัญมณี





                        6. มังกรขด (ซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำ)





                        7. มังกรเหลือง โผล่ขึ้นมาจากน้ำครั้งหนึ่ง และนำเสนอปัจจัยสำคัญของการเขียนให้กับจักรพรรดิ ฟู ซาย (Fu Shi) ที่เป็นตำนาน





                        8. มังกรไร้บ้านเรียกว่า อี่ (Ii) อาศัยอยู่ในมหาสมุทร อีกชนิดเรียกว่า ไชโอะ มีเกล็ดปกคลุมและมักจะอาศัยอยู่ในหนอง แต่มีถ้ำอยู่ในภูเขา





                        9. พญามังกร คือมังกร 4 ตัว ซึ่งปกครองอยู่เหนือทะเลทั้งสี่ คือทะเล ตะวันออก(ตัง) ,ใต้(น่ำ) ,ตะวันตก(ไซ) และเหนือ(ปัก) พญามังกรอาศัยอยู่ในปราสาทมหาสมุทรหรูหรา(วังใต้ทะเล) และกินไข่มุกเจียงตู หรือไข่มุก และโอปอล เป็นอาหาร และพญามังกรทั้งสี่ตัวเป็นพี่น้องกัน บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่ามังกร 4 ตัวนี้มีผู้ควบคุมชื่อ ฉิน แท็ง (Chien-Tang) เป็นมังกรที่มีสีแดงเลือด มีแผงคอเป็นไฟ และยาว 900 ฟุต



                

                        คนจีนแทนลักษณะเฉพาะของมังกร 9 อย่าง ตามประเพณี แต่ละอย่างแสดงถึงลักษณะของมังกรที่แตกต่างกัน (บางแหล่งมีชื่อของมังกรแต่ละอย่างด้วย)





                        ~ อย่างแรก มังกรชื่อ พิว โหล (p’u lao) ถูกสลักบนยอดของระฆังและฆ้องเพราะว่าเขามีนิสัยชอบส่งเสียงร้องดังเมื่อถูกโจมตี





                        ~ อย่างที่สอง มังกรชื่อ ไชยู (ch’iu) อยู่บนที่หมุนของซอตั้งแต่มังกรส่วนมากชอบดนตรี





                        ~ อย่างที่สาม มังกรชื่อ ไพ ไซ (pi his) ถูกสลักที่ส่วนบนของโต๊ะหินเนื่องจากความรักของมังกรที่มีต่อวรรณคดี





                        ~ อย่างที่สี่ มังกรชื่อ พา ไซ อะ (pa hsai) พบได้ที่ฐานของอนุสาวรีย์หินในฐานะที่มังกรสามารถรับน้ำหนักมากได้





                        ~ อย่างที่ห้า มังกรชื่อ เชโอะ เฟ่ง (chao feng) วางอยู่ที่ชายคาของวัดในฐานะที่มังกรตื่นตัวต่ออันตรายเสมอ





                        ~ อย่างที่หก มังกรชื่อ เช่ย (ch’ih) ปรากฏบนคานของสะพานตั้งแต่มังกรชอบน้ำ





                        ~ อย่างที่เจ็ด มังกรชื่อ ซ่วง หนี่ (Suan ni) ถูกสลักบนบัลลังก์ของพระพุทธรูปในถานะที่มังกรชอบพักผ่อน





                        ~ อย่างที่แปด มังกรชื่อ เย่ สึ (Yai tzu) ถูกสลักบนด้ามดาบ ตั้งแต่มังกรถูกรู้ว่ามีความสามารถที่จะฆ่าได้





                        ~ อย่างที่เก้า มังกรชื่อ ไพ ฮั่น (pi han) ถูกสลักบนประตูคุก เพราะมีมังกรที่ชอบการทะเลาะ และการสร้างปัญหา



                

                        มังกรจีนมีวงจรการเกิด 4,000 ปี จึงจะเป็นมังกรเต็มวัย





                        ไข่มังกรเป็นไข่ลักษณะอัญมณี จะถูกวางไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำและฝังไว้ลึกจนไม่ถูรบกวนโดยใครหรืออะไร





                        1,000 ปีต่อมาไข่จะฟัก





                        ในระหว่างช่วงเวลา 500 ปีต่อมา มังกรน้อยนี้เรียกว่าไคอาส (Kias ,มังกรมีเกล็ด) ในช่วงนี้เขามีลักษณะเหมือนกับงูน้ำ และหัวของปลาคาร์พค่อยๆพัฒนาขึ้น ขั้นนี้เรียกว่า ไคโอะ





                        1,000 ถัดไปเขาถูกรู้จักในฐานะของ หล่ง (lung ,มังกรตามมาตรฐาน) รยางค์ และเกล็ดของมังกรเจริญขึ้นแล้ว ความยาวของเขาเพิ่มขึ้น และหน้ามีหนวดเครา





                        500 ปีต่อมา เป็นเวลาที่ใช้ในการงอกของเขา ตอนนี้มังกรสามารถได้ยินได้แล้ว และถูกรู้จักในฐานะของ ไคโอ หล่ง (Kioh-Lung ,มีเขา)





                        1,000 ปีต่อมาใช้ในการเจริญของปีกเขาจะถูกรู้จักในฐานะ ยิ่น หล่ง (มังกรมีปีก) และเป็นมังกรเต็มวัย



                

                        นิ้วของมังกรจีนในแต่ละเท้าจะมี 4 หรือ 5 นิ้ว ถ้ามี 4 นิ้วเป็นมังกรทั่วไป แต่ถ้ามี 5 นิ้ว เป็นมังกรหลวง ซึ่งในสมัยก่อนจะมีเฉพาะจักรพรรดิเท่านั้น ที่สามารถใช้สิ่งของที่มีรูปมังกรหลวงประดับอยู่ถ้ามีใครอื่นใช้จะถูกประหาร



                

                        น้ำลายจากมังกรจีนจะทำให้เกิดลูกหรงกลมวิเศษซึ่งเรียกว่า “ไข่มุกแห่งพลัง” , “ดวงจันทร์” และ “ไข่แห่งความอุดมสมบูรณ์” เมื่อเลือดของมังกรจีนซึมซาบเข้าไปในแผ่นดิน มันจะเปลี่ยนกลายเป็นอำพัน เมื่อมังกรลอกคราบเป็นเหตุให้เขาเรืองแสงอย่างน่าขนลุกในความมืด



                

                        มังกรจีนชอบกินนกนางแอ่นย่าง จึงมีการถวายให้ก่อนเดินทางข้ามน้ำ เพื่อที่จะเอาใจมังกรและเพื่อให้การเดินทางปลอดภัย ว่ากันว่ามังกรจีนกลัวใบของต้น แว่ง (wang) ,ใบของต้น ลีน (lien) ,ด้ายไหม 5 สี ,สีผึ้ง ,เหล็ก และตะขาบ



                

                        ว่ากันว่าบางครั้งในยุคโบราณ มังกรจีนเพศผู้จะแต่งงานกับสัตว์ชนิดอื่น มังกรจะเป็นพ่อของช้างเมื่อแต่งงานกับหมู และเมื่อแต่งงานกับม้าจะได้ลูกเป็นม้าแข่ง



                

                        การที่มังกรจีนจะนำฝนตกลงสู่พื้นดิน ขึ้นอยู่กับ “บุคคลสง่างามแห่งหยก” หรือจักรพรรดิหยก ผู้ซึ่งมังกรจะรับคำสั่งว่า จะส่งน้ำจากท้องฟ้าเท่าไร จากนั้นพวกมังกรจะต่อสู้กับตัวอื่นอย่างมุ่งร้ายในอากาศ ฝนจะตกลงมาในจังหวะที่มังกรม้วนตัว และชักดิ้นชักงอ นอกจากนี้มังกรมีความสามารถที่จะอยู่ในทะเล บินขึ้นไปยังสวรรค์ และขดตัวบนพื้นในรูปของภูเขา มังกรจีนสามารถปัดเป่าวิญญาณพเนจรชั่วร้าย ปกป้องผู้บริสุทธิ์ และให้ความปลอดภัยกับทุกคนที่ถือสัญลักษณ์ของเขา



                

                        มังกรจีนเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจและคุณงามความดี ,ความองอาจและความกล้าหาญ ,ความเป็นวีรบุรุษและความอุตสาหะ และความสูงส่งและความศักดิ์สิทธิ์ และนอกจากนี้ มังกรจีนเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความเป็นมงคล และความมั่งคั่งอีกด้วย





                        ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×