ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพนิยายกรีก

    ลำดับตอนที่ #3 : ^0^คิวปิดกับเทพเจ้าอพอลโล^0^

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.37K
      3
      20 ก.ค. 48





                                              ^0^คิวปิดกับเทพเจ้าอพอลโล^0^



                      

                        คิวปิดเป็นบุตรน้อยของเทวีวีนัส   เเม้ผู้เป็นมารดาจะบำรุงเลี้ยงเขาด้วยน้ำทิพย์เเละกระยาทิพย์   อันเป็นอาหารของเหล่าทวยเทพ  เเต่เขาก็ไม่เคยเติบใหญ่ขึ้นเลย   เเม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายปี  คิวปิดก็ยังคงเป็นเด็กตัวน้อย ๆ ที่มีลักยิ้ม   เเละช่างหัวเราะ   เเต่เขาก็สามารถเหาะเหินเเละวิ่งไปมายังเเห่งหนใดได้ตามใจปรารถนา   หรือในเวลาที่อยู่บนโลก   เขาก็สามารถดูเเลตัวเองได้ดีเท่ากับขณะที่อยุ่บนยอกเขาโอลิมปัส



                        ในยามที่เทพอพอลโลไม่ได้ขับราชรถ   คิวปิดมักจะติดตามอยู่เคียงข้างพระองค์เสมอ   เขาชื่นชมเทพเจ้าอพอลโลยิ่งกว่าเทพอื่นใด   อีกครั้งยังชื่นชอบคันธนูกับลูกศรของเทพเจ้าอพอลโล   เเละปรารถนาที่จะได้จับถือดูบ้าง



                        ครั้งหนึ่งเขาเห็นเทพเจ้าอพอลโลหยิบคันธนูอันเเข็งเเกร่งที่สุด   อีกทั้งลูกศรที่เเหลมคมที่สุดของพระองค์ขึ้นมา   เเล้วออกเดินทางมุ่งหน้าไปสังหารอสูรกายตัวมหึมาสีดำมืด  นามว่าไพธ็อน



                        ไพธ็อนเป็นสัตว์ร้ายเเห่งความมืดมน   มันพ่นควันสีดำทืบออกมาทางจมูก  ซึ่งจะเเผ่ปกคลุมท้องฟ้าอากาศที่อยู่โดยรอบให้มืดมิดเป็นอาณาบริเวณหลายไมส์   เเละม่านควันดังกล่าวจะหนาทึบกระทั่งผู้ใดที่ยืนอยู่ในหุบเขา  จะไม่อาจเเลเห็นยอดเขา



                        เพราะเทพอพอลโลเป็นเทพเเห่งเเสงสว่าง   พระองค์จึงไม่ชอบความมืดมน   ดังนั้น   พระองค์จึงมุ่งหน้าตรงไปยังหุบเขาซึ่งตกอยู่ในม่านเงา   มองหาอสูรร้ายไพธ็อน  เเล้วก็สังหารมันเสีย



                        คิวปิดเเอบติดตามไปอย่างเงียบ ๆ โดยที่เทพเจ้าอพอลโลไม่ทันรู้ตัว   กระทั่งเมื่ออสูรร้ายไพธ็อนถูกสังหารลงไปเเล้ว   เเละความมืดมนลอยออกไปจากหุบเขา   พระองค์จึงเเลเห็นหนูน้อยกำลังยืนอยู่ข้างกาย



                        \"โอ  ลูกศรของท่านมหัศจรรย์เหลือเกิน\"   คิวปิดอุทาน   \"ให้ข้าสักดอกหนึ่งสิ   เเละให้ข้าได้ถือคันธนูของท่านสักครั้ง  เเละข้ายินดีที่จะทำสิ่งใด ๆ ตามเเต่ท่านบัญชามา\"



                        เทพเจ้าอพอลโลได้เเต่หัวเราะ  พลางจูงมือคิวปิดกลับไปหามารดา



                        คิวปิดรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก   เเละตัดสินใจว่า   เมื่อเขาไม่มีโอกาสได้จับถือลูกศรเเละคันธนูของเทพอพอลโล   เขาก็จะหามาไว้สำหรับเป็นของตนเอง   เขารู้ว่า  เกือบทุกสิ่งที่เขาปรารถนา  เทพเจ้าวัลเเคนสามารถประดิษฐ์ให้ได้ด้วยทั่งเหล็กของพระองค์   ดังนั้น   วันหนึ่งเขาจึงเอ่ยปากขอคันธนูที่เหมือนของเทพเจ้าอพอลโล   รวมทั้งลูกศรปลายทองคำจำนวนหนึ่ง



                        เทพเจ้าวัลเเคนจึงได้ประดิษฐ์คันธนูเล็ก ๆ ขึ้นมาคันหนึ่ง  พร้อมกับลูกศรที่เรียวงาม  มีปลายศรที่เเหลมคม   เเละน้ำหนักเบา



                        เทวีวีนัสซึ่งกำลังเฝ้ามองอยู่  ก็ประทานพรให้ลูกศรเหล่านั้นมีอำนาจที่ลูกศรใหญ่ ๆ ไม่อาจมีได้   ใครก็ตาม   เมื่อถูกสัมผัสด้วยลูกศรทองคำนี้เเม้เพียงเเผ่วเบาที่สุด   เขาผู้นั้นก็จะบังเกิดความรักต่อผู้ที่ตนไปพบเห็นคนเเรก



                        คิวปิดรู้สึกยินดีกับคันธนูเเละลูกศรของตนยิ่งนัก   เเละมักจะเล่นอยู่กับของสิ่งนี้นับเเต่รุ่งเช้าจวบจนค่ำคืน



                        วันหนึ่งซึ่งเทพอพอลโลไม่ได้ขับราชรถออกไป   หากเเต่จอดไว้หลังม่านเมฆ   ในเเดนสวรรค์



                        \"นี่ก็เป็นสิ่งดี\"  พระองค์กล่าว  \"เพราะชาวโลกควรจะมีวันเวลาซึ่งท้องฟ้ามัวสลัวบ้าง\"   เเละในวันนั้น   พระองค์ก็เข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์



                        เมื่อพระองค์มาถึงบริเวณที่โล่งเเห่งหนึ่ง   ก็พบคิวปิดกำลังนั่งเล่นคันธนูกับลูกศรของตนอยู่บนโขดหินซึ่งปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำ   เทพเจ้าอพอลโลรู้สึกขัดเคืองใจเมื่อพบว่าคิวปิดสามารถจับถืออาวุธชนิดเดียวกับที่พระองค์ใช้สังหารอสูรร้ายไพธ็อนได้โดยคล่องเเคล่วชำนาญ

    พระองค์ขมวดคิ้ว   เเล้วกล่าวกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงห้าว ๆ ว่า



                        \"เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กับสิ่งที่คล้ายอาวุธทำศึกชิ้นนั้ล่ะ   หนูน้อยซุกซน\"   เทพเจ้าอพอลโลถาม   \"วางลงเถอะ  ของเช่นนั้นมีไว้สำหรับผู้ใหญ่\"



                        \"คิวปิดรู้สึกน้อยใจเเละขุ่นเคืองใจขึ้นมาพร้อมกัน   เขาคาดหวังไว้ว่าเทพเจ้าอพอลโลจะชื่นชมในความสามารถของเขา   เช่นที่เทวีวีนัสชื่นชม



                        \"ลูกศรของท่านสามารถสังหารอสูรร้ายไพธ็อนได้\"   คิวปิดกล่าว   \"เเต่ลูกศรของข้าจะทำให้ท่านเจ็บปวด\"



                        พูดจบ   คิวปิดก็ปล่อยลูกศรทะยานออกไป  ซึ่งมันก็พุ่งไปกระทบกายของเทพอพอลโลอย่างเเผ่วเบาจนเเทบไม่ระคายผิวเลย  เทพเจ้าอพอลโลได้เพียงเเต่หัวเราะเเล้วก็เดินต่อไป  โดยหาได้เข้าใจในความหมายอันเเท้จริงของความเจ็บปวดที่คิวปิดกล่าวถึงไม่



                        ไม่ช้าพระองค์ก็มาพบนางไม้ผู้งดงามตนหนึ่งกำลังเดินเก็บดอกไม้อยู่ในป่า   เธอมีนามว่า   ดาฟเน่   เทพเจ้าอพอลโลเคยพบเธอหลายครั้งหลายคราเเล้ว   เเต่ก็ดูเหมือนว่าไม่เคยมีครั้งใดที่เธอจะงดงามเท่าครั้งนี้   พระองค์จึงวิ่งเข้าไปเพื่อจะสนทนากับเธอ   เเต่เมื่อเธอเห็นพระองค์เข้าไปหา   ก็บังเกิดความตระหนกขึ้นมา



                        \"ฉันจะช่วยเธอเก็บดอกไม้นะ\"   เทพเจ้าอพอลโลอาสา   เเต่ดาฟเน่เป็นหญิงสาวที่ขี้อาย  เธอจึงวิ่หนีไป   เทพอพอลโลปรารถนาที่จะได้อยู่ใกล้เเละเจรจากับเธอ   พระองค์จึงวิ่งตามดาฟเน่ไป



                        นางไม้ผู้น่าสงสาร   ด้วยความตกใจกลัว  เธอจึงวิ่งเร็วขึ้นเเละเร็วขึ้น  กระทั่งเกือบจะหายใจไม่ออกเเละวิ่งต่อไปไม่ไหวอีกเเล้ว   เธอจึงร้องคร่ำครวญเสียงดัง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือจากพีนีอัส   เทพเจ้าเเห่งสายน้ำ



                        พีนีอัสผู้เป็นบิดาของเธอ   เมื่อได้ยินเสียงของธิดาดังเเว่วมาเเต่ไกล   ก็เข้าใจว่าคงจะเกิดเหตุร้ายที่น่าสะพรึงกลัวกับเธอ   พระองค์จึงเเผ่อำนาจเวทมนตร์ของตนปกคลุมไปทั่วเขตป่าอย่างรวดเร็ว   เเละเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้เป็นธิดา   พระองค์จึงเปลี่ยนร่างของเธอให้กลายเป็นต้นไม้ !



                        เท้าของดาฟเน่หยุดชะงักยืนนิ่งอยู่กับพื้นดิน   เเละหยั่งรากออกมายืดไว้   เธอรู้สึกว่ามีเปลือกที่เเข็งกระด้วงเเผ่ลามขึ้นมาทั่วไหล่เเละเเขนขา   มีกิ่งก้านสาขาเเตกเเขนงออกมาจากเเขนทั้งสอง  เเละฝ่ามือของเธอก็ปกคลุมไปด้วยใบไม้   เมื่อเทพเจ้าอพอลโลยื่นมือออกมาหมายจะสัมผัสกายเธอ   หญิงสาวผู้งดงามก็อันตรธานหายไป   มีเเต่ต้นลอเรลอันสวยงามปรากฎอยู่เเทนที่



                        \"นี่ฉันทำอะไรลงไป\"   เทพอพอลโลคร่ำครวญ



                        พระองค์รู้สึกทุกข์โศกเเละเสียใจที่ได้ทำให้ร่างของดาฟเน่ต้องเปลี่ยนไป   พระองค์จึงยืนอยู่ข้างต้นไม้ตลอดทั้งบ่าย   เจรจาเเละอ้อนวอนขอให้ดาฟเน่ยกโทษให้



                        พระองค์ขอใบลอเรลจากหญิงสาวจำนวนหนึ่ง   เพื่อว่าพระองค์จะได้นำไปร้อยเเละสวมไว้บนศีรษะ   ดาฟเน่จึงสะบัดกิ่งก้านสาขา   เเละใบไม้จำนวนหนึ่งก็ร่วงพรูลงมารอบกายเทพอพอลโล   ด้วยวิธีนี้   พระองค์ก็รู้เเล้วว่าดาฟเน่ยกโทษให้   พระองค์จึงเก็บรวบรวมใบไม้เหล่านั้นใส่ไว้ในมืออย่างทะนุถนอม   เเล้วสานร้อยเป็นมาลัย



                        เทพอพอลโลโยนมาลัยเก่าที่อยู่บนศีรษะทิ้งไป   เเล้วสวมมาลัยใบลอเรลไว้เเทน   ซึ่งมันก็ยังคงคงามสดเเละเป็นสีเขียวอยู่โดยเสมอมา   ส่วนดาฟเน่ก็ต้องกลายเป็นต้นลอเรลไปตลอดกาล





                         ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ



                         ตอนต่อไปเป็น  เทวีไดอาน่ากับเเอ็คตีอ็อนนะคะ  อย่าลืมติดตามอ่านให้ได้นะคะ  สนุกเเน่นอนค่ะ

                      





                        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×