หน้าที่ 1
 
ใครแต่ง : รักต์ศรา
26 ก.ย. 66
80 %
38 Votes  
#1 REVIEW
 
เห็นด้วย
2
จาก 2 คน 
 
 
อคติวิจารณ์ โดย ปั๊มคุง(Pump-kun)

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 19 ก.ค. 58
***คำเตือน ถึงจะบอกว่าวิจารณ์แต่โพสนี้เป็นเพียงแค่การแสดงความเห็นโดยมีอคติเข้าร่วม***
***เนื้อหาอาจมีการสปอยเล็กน้อยถึงมากที่สุด หากไม่อยากเสียอรรถรสต่อนิยายควรละสายตาไปห่างๆ***

MYSTIC LAND ผ่ามิติพิศวง เรื่องโดย รักต์ศรา(วิหกน้อยปีกแดง)

ภาคแรก การกลับมาของเจ้าหญิงแห่งกินนร(ผมตั้งชื่อเองแหละ)

ยอมรับว่าแรกเริ่มเดิมที่ไม่คิดสนใจนิยายเรื่องนี้เท่าใหร่ ซึ่งด้วยเหตผลหลายประการเลยทำให้จับพลัดจับผลูเปิดอ่านเข้ามา หลักๆ เลยคือผมติดตามตัวละครซึ่งค่อนข้างมีเอี่ยวในเรื่องเล็กน้อย(หรืออาจมากขึ้นในภาคหลังๆ) อยากทราบความเป็นมาและสเกลพลัง ซึ่งในเรื่องที่ผมอ่านมาและติดตามมานั้นมีการปล่อนเนื้อหามาค่อนข้างน้อย และก็เหมือนจะโดนคนเขียนยุให้มาอ่านเรื่องนี้ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่ม
ซึ่งไม่ผิดหวังทีเดียวครับ ถึงจะบอกว่าคนแต่งคนเดียวกัน แต่แนวเรื่องนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จนผมต้องจูนระบบการคิดใหม่ๆ เพื่ออ่านเรื่องนี้โดยเฉพาะ เนื้อหาค่อนข้างอัดแน่นด้วยข้อมูล การกระทำของตัวละครทุกอย่างแม้จะดูไร้เหตผลไปบ้างถ้าเทียบเอาตัวผมเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้น แต่ทุกอย่างจะนำมาซึ่งผลของแผนการของตัวละครที่ถูกวางเอาไว้อย่างดี ซึ่งจะถูกเฉลยออกมาในเรื่องตอบข้อสงสัยเกือบทั้งหมด ประหนึ่งสงครามของ L กับไลท์ ยางามิ ใน Death Note เลยก็ว่าได้และปมของเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งก็จะปูทางเข้าสู่ภาคสอง(ที่หวังว่าจะตอบข้อสงสัยได้บ้าง) แต่ที่แน่ๆ เนื้อหาข้อมูลส่วนที่ผมต้องการยังไม่เปิดเผยออกมาเลยสักนิด หรือไม่ก็บอกมาแล้วแต่ผมไม่รู้รึเปล่า อันนี้ก็ต้องคอยตามภาคต่อๆ ไป (คนเขียนบอกว่ามีสามภาค ซึ่งตอนนี้เนื้อหาก็น่าจะถึงกลางๆ ของภาคสองแล้ว)

เอาล่ะเข้าสู่การแสดงอคติกันดีกว่า

การบรรยาย 5/10

ยอมรับว่าคะแนนผมให้น้อยครับ น้อยมากถ้าเทียบกับนิยายตามท้องตลาด บทบรรยายนั้นค่อนข้างฝืดทีเดียวในความคิดผม หรือไม่แน่สกิลการอ่านของผมเร็วเกินไปจนทำไม่เข้ากับลักษณะการบรรยายหรือเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผมลองอ่านช้าๆ แบบคุณลุงอ่านหลังสือพิมแล้ว พบว่าดีขึ้นครับ ให้อารมณ์อืมครึมดีกว่า แต่ของไม่ถนัดจะไปฝืนก็ไม่ใช่เรื่อง
อคติหลักๆ ของผมเลยคือ ฟ้า ตัวเอกของเรื่องที่มีหน้าที่บรรยายเหตการณ์ บอกตรงๆ คือลักษณะการบรรยายนั้นผมคิดว่าค่อนข้างไม่เหมาะแกบุคลิกของฟ้า หรือบุคลิกของเธอเป็นเช่นนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วอันนี้ผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือค่อนข้างขัดครับ การบรรยายของคนเขียนค่อนข้างเหมาะสมกับบุคลิกของชาย+ผู้ใหญ่ เสียมากกว่าจะเป็นของเด็กสาว ม.ปลาย ใสซื่อ และซึนน้อยๆ แบบนี้ ซึ่งจะให้เป็นภาพที่ดีก็ต้องลองไปอ่านนิยายของสำนักพิมพ์แจ่มใสดูครับ บุคลิกของเด็กสาววก็จะประมาณนั้นแล
ผลของการบรรยายนั้นทำให้ผมเห็นว่าฟ้านั้นค่อนข้างปลงตกกับชีวิตมากทีเดียว เนื่อหาของเรื่องกว่าครึ่งคือการผจญภัยพบสิ่งใหม่ๆ ดังนั้นบทบรรยายที่ต้องอึ้ง ทึ่ง เสียวตามสถานการณ์ควรมาเป็นอันดับแรก แต่ฟ้ากลับบรรยายเหมือนกับซะจนผมคิดว่าเธอเห็นสิ่งนี้ไม่แปลกไปกว่าเห็นแมวกัดกับสุนัขก็ไม่ปาน รีแอคชั่นในสถานการณ์เสี่ยงตายก็น้อยนิดเหมือนคนไม่ทันคิดว่าตัวเองใกล้ม้วยแล้ว ซึ่งนี้ก็คือเหตุผลทำให้ผมทำใจอ่านค่อนข้างยากครับ

เนื้อเรื่อง 7/10

เจ็ดคะแนนมอบให้แก่เนื้อหาช่วงหลังครับ หลังจากฟ้าได้รับพลังคืนไปแล้ว
ส่วนช่วงแรกตั้งแต่เริ่มเรื่องจนเข้าไปในมิติ ผมว่าค่อนข้างน่าสนใจมาก แต่ปัญหาคือการต้องบิ้วเนื้อหาแบบเซอร์ไววอลแก่ฟ้ามากขนิดไม่มีหนักเบานั้นคือปัญหาครับ กราฟความตื่นเต้นของเนื้อหาส่วนนี้พุ่งขึ้นพุ่งลงเป็นคลื่นรูปไซน์ ทำให้จากที่รู้สึกตื่นเต้นเข้าไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นว่าความน่าตื่นเต้นมั้นน้อยลง ถ้ายกตัวอย่างก็เหมือนดูหนังผีที่มีผีโผล่ออกมาทุกๆ ห้านาทีนั่นแหละครับ พอเจอแบบนั้นใครมันจะไปกลัวผีกัน
ส่วนเนื้อหาช่วงหลังนั้นพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าจนผมติดสตั้นไปหลายวินาที เนื้อหาค่อนข้างเป็นการเมืองแบบจัดหนัก ทั้งการเมืองภายนอกและภายใน ความเห็นของแต่ละคนที่แตกต่างกันถูกแสดงออกมาได้ดีผ่านการกระทำของตัวละคร ยอมรับว่าเป็นส่วนที่สนุกที่สุดของเนื้อเรื่องที่คนแต่งได้จัดออกมาเลยทีเดียว เห็นได้จากความสมจริงของสถานการณ์ทางการเมืองที่หากมีปัจจัยล่อแหลมเข้ามาเพียงเล็กน้อย ขั้วอำนาจทางการเจรจานี้แทบจะเปลี่ยนไปในทันที จะใด้เห็นการพลิกสถานการณ์วิกฤติให้เป็นโอกาสอยู่บ่อยครั้ง ทั้งฝ่ายตัวเอกและฝ่ายตัวโกงเพื่อที่จะสามารถคุมสถานการณ์ให้อยู่ในกำมือตน
การวางแผนของตัวละครถือเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง เนื้อหาถูกดำเนินส่วนใหญ่ตามแผนการที่ได้วางไว้ตั้งแต่ต้นของตัวละคร ไม่ว่าจะเจอสถานการ์ไหนตัวละครก็จะทำการวางแผนล่วงหน้า รวมถึงแผนสำรองหากสถานการณ์พลิกผัน และจะเป็นแพทเทิร์นเช่นนั้นไปจนจบเรื่อง ซึ่งถึงแม่มันจะแดงออกถึงความเก่วกล้าสามารถของตัวละครก็ตาม แต่มันก็ทำให้ขาดความรู้สึกถึงการเป็นมนุษย์ไปมากทีเดียว มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมได้เห็นลูกฟลุ๊กแบบไม่ได้คำนวนไว้ของตัวละครบ้าง
ฉากต่อสู้ถูกครีเอทให้สู้อย่างบู้สะบั้นหั่นแหลก ซึ่งมันจะสนุกมากเมื่อนำไปเขียนเป็นมังงะ ใช่แล้วครับ ตามอคติผมมันไม่เหมาะจะนำมาเป็นนิยายเท่าไหร่ เพราะมีการเกทับบัพแหลกกันอยู่ไปๆ มาๆ จะเห็นได้ว่าตัวเอกเกือบชนะแล้วแต่ตัวร้ายเหมือนจะถือไพ่ไม้ตายไว้แล้วเปิดมันอยู่ตลอด แถมยังเป็นไพ่หลายใบไม่ใช่ใบเดียว ซึ่งผมคิดว่าถ้าเอ็งเปิดแต่แรกซัดตูมเดียวไปมันก็จบตั้งนานแล้ว ฉากปะทะกันขาดการโจมตีแบบลับหลังแบบเม็ดเดียวจอด ซึ่งจะมีก็แต่บทองค์ชายนกทั้งสองที่โผล่มาทีนั้นเรียกได้ว่าปิดเกมเลยทีเดียว อีกหนึ่งของความไม่สนุกคือ บทพูดยอมแพ้เพื่อถ่วงสถานการณ์ของตัวละครฝ่ายที่เป็นรองครับ ถูกนำมาใช้ค่อนข้างบ่อยในเรื่องจนน่าปวดหัวเลยทีเดียว

ตัวละครหลัก 8/10

หนึ่งในเสน่ห์ของเรื่องคือตัวละครครับ ตั้งการสร้างตัวละครให้มีปมหลังที่ซับซ้อน ลักษณะของตัวละครที่แทบไม่ซ้ำบุคลิกกัน ถึงบุคลิกจะไม่เข้ากับปมบ้างแต่ถือว่าดีทีเดียว หนึ่งในข้อดีของนิยายเรื่องนี้นั่นคือการสร้างตัวร้ายที่ไม่จำเป็นต้องร้ายครับการกระทำของตัวร้ายบางตัวนั้นแสดงออกชัดเจนว่าผิด แต่เจตจำนงนั้นดูดีและมีความเป็นมนุษย์ยิ่งกว่าตัวดีบางตัวเสียอีก แน่นอนครับแม่พวกเขาทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม

ตัวประกอบ 3/10

ตัวประกอบโง่เง่าและขาดทักษะทางการคิดเป็นอย่างยิ่งครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกลูกกระจ๊อกที่มีบทมาแค่ให้พวกตัวเอกต่อยเล่น หรือจะเป็นเหล่าชาวบ้านที่เข้าร่วมในสงครามปฏิวัติ ถูกนำเสอออกมาในแง่ของตัวละครเส้นตรง ไม่มีความพลิกผันฉุกคิด หรือเห็นแก่ตัวเลยสักนิด การทำให้ตัวละครมีอุดมการนำหน้านั้นค่อนข้างเป็นอคติที่แย่ของผมครับ แม้ในฉากการต่อสู้ตัวประกอบก็ไม่ค่อยแสดงถึงการกลัวตายเลย นั่นทำให้ผมรู้สึกตะงิดๆ เล็กน้อย

ความชอบส่วนตัว 4/10

อคติแรกเริ่มดีของผมมาจากการอ่านนิยายแนวแฟนตาซีไทย ซึ่งโดยทั่วไปในท้องตลาดแล้วแนวนี้มีกระแสตอบรับน้อย เว้นเสียแต่บางแนวที่ดังกระฉูด ซึ่งมันก็เป็นผลพวงจากคุณภาพนิยายที่เอาไปเทียบกับกระแสหลักไม่ได้ แต่โดยเนื้อแท้แล้วทั้งแฟนตาซีสายหลักกับแฟนตาซีไทยนั้นไม่ต่างกันแต่อย่างใดครับ แตกต่างกันแค่องค์ประกอบบางส่วนจนถึงเกือบทั้งหมด เหมือนเซลล์พืชที่แตกต่างจากเซลล์สัตว์ สุดท้ายแล้วเมื่อเอาทั้งสองมาวางไว้ด้วยกันก็กลายเป็น 'แฟนตาซี' ที่ทุกคนคุ้นเลยดั่งเดิม
แน่นอนสำหรับนักอ่านกระจอกงอกง่อยอย่างผมการจัดลำดับความคิดให้เพื่ออ่านนิยายแนวใหม่ๆ นั้นค่อนข้างเหนื่อยครับ เช่นตอนจะผันไปอ่านนิยายจีนกำลังภายใน ตอนนั้นต้องปรับตัวอยู่กลายชั่วโมง ตอนนี้ต้องปรับมาอ่านแฟนตาซีไทยอีก
แต่เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีครับ ถึงแม้ในอดีตผมค่อนข้างจะผิดหวังกับนิยายแนวนี้พอสมควรก็ตาม ไม่ค่อยมีข้อติติงใดๆ กับส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นการตั้งชื่อ หรือรูปแบบพลังเหนือธรรมชาติ ถูกออกแบบมาให้สมเหตุสมผล (ที่บางครั้งก็สมเหตุสมผลจนเกินไป)

สรุปเป็นคอนเสปง่ายๆ คือ "นิยายแนวจริงจังที่อ่านได้ยามอยากหาสาระในเรื่องที่ไร้สาระ"

พอแล้วมั้ง ผมพิมพ์เหนื่อยแล้ว.......
     
 
หน้าที่ 1