ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♪♫ห้องเก็บของใต้บันได ♫♪

    ลำดับตอนที่ #37 : ใบสมัครจ้า

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 52




    ใบสมัคร


    ช่วงที่ 1 ข้อมูลผู้สมัคร

    ชื่อ :: ฝ้าย ค่ะ^^
    อายุ :: 13 ขวบ =.,=
    นามแฝง :: ++ปุยฝ้าย++
    แล้วคู่ใครเอ่ย:: ด๊องค่ะ ดงแฮ ณ เอสเจ >///<


    ช่วงที่ 2 ข้อมูลตัวละคร

    ชื่อ :: ชอง อิลฮโย (แปลว่า ดวงตะวันแห่งรุ่งอรุณค่ะ)
    อายุ :: 19 ปี
    ชื่อเล่น :: อิลจัง
    นิสัย3 :: ถ้าพูดถึงเธอก็คงต้องนึกถึงพระอาทิตย์ยามเช้าที่ทอแสงสดใสอ่อนหวานละมุนละไมและอบอุ่น เธอเปรียบเช่นนั้นจริงๆ เพราะเธอเป็นคนอ่อนหวานและอ่อนโยน เป็นคนขี้สงสาร มีความเมตตาปราณี ใจอ่อนง่าย ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง จนบางครั้งก็ปล่อยปละละเลยตัวเองไปบ้าง เธอชอบที่จะเห็นคนอื่นมีความสุข และเธอก็ชอบยิ้มเอามากๆเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะตั้งปณิธานให้กับตัวเองว่าเธอจะต้องยิ้มให้ได้ รอยยิ้มนี้ไม่ใช่เพื่อตัวของเธอเอง แต่เพื่อผู้อื่นต่างหาก เธอคิดเสมอว่ารอยยิ้มของเธอเป็นพลังให้กับผู้คนมากมายในยามที่พวกเขามีปัญหาหนักอกหนักใจ เธอรู้ดีถึงประโยชน์ของรอยยิ้มนี้ เธอเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่าย หัวไว และค่อนข้างฉลาด เธอเป็นคนร่าเริงและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ชอบอะไรที่เรียบๆไม่หวือหวา รักความสงบ ชอบธรรมชาติรักเด็กและรักสัตว์ ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งหรือมีปัญหา ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไร ไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้ทั้งนั้น เธอเก็บความรู้สึกเก่งเป็นบางเรื่อง รู้จักกาลเทศะ มีมารยาท เป็นที่พึ่งพาได้ แต่ภายในแล้วค่อนข้างอ่อนไหวง่ายและค่อนข้างขี้ตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูม เรื่องเล็กน้อยก็ชอบเก็บมาคิดมาก เธอเป็นคนร้องไห้ง่ายมาก แต่เธอจะไม่ร้องไห้ฟูมฟายแน่นอน เธอจะค่อยๆร้อง ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาช้าๆ แต่หลังจากนั้น เธอก็พร้อมที่จะยิ้มเสมอ แม้ว่ามันจะเป็นรอยยิ้มที่เปือนไปด้วยคราบน้ำตาก็ตามที

    ชอบ :: ธรรมชาติ , เด็ก , สัตว์ , รอยยิ้ม , หนังสือ , ที่เงียบๆและมีลมพัดเบาๆ , ผักผลไม้ , โกโก้เย็น/ร้อน(ถ้าอากาศร้อนก็กินเย็น ถ้าเย็นก็กินร้อน ฮา~)

    ไม่ชอบ :: กาแฟ , เสียงดัง , การทะเลาะ , สีดำ
    ประวัติครอบครัว :: ครอบครัวอันแสนอบอุ่นของเธอประกอบไปด้วยพ่อแม่ พี่ชาย น้องชาย และน้องสาว พ่อของเธอเป็นแพทย์อันดับหนึ่งของโลกเวทย์มนต์ แต่ถึงจะมีงานมากแค่ไหนก็ยังคงแบ่งเวลาไว้สำหรับครอบครัวด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของเธอก็เปิดร้านคอฟฟี่ช็อปมนตราเล็กๆแถวบ้าน แต่ก็เป็นที่เลื่องลือถึงความหอมหวานของเครื่องดื่มร้านนี้ พี่ชายอายุ 21 ชื่อ อิลกุก นิสัยนิ่งเงียบแต่แอบกวน น้องชายอายุ 17 ชื่อ อิลฮวาง คนนี้โผงผางและกวนประสาทเป็นที่หนึ่ง น้องสาวอายุ 15 ปี ชื่อ อิลนยอ น้องนุชผู้แสนไร้เดียงสา ลูกชายทั้งสองของครอบครัวนี้มักจะกัดกันเป็นประจำ ในขณะที่ลูกสาวรักกันดีดี๊ดี เวลาว่างของครอบครัวนี้จึงมักจะทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันเพื่อกระชับมิตรกันภายในครอบครัว แต่สุดท้ายก็ต้องมีการทะเลาะกันระหว่างพี่ชายและน้องชายเกิดขึ้นอยู่ดี=_=^
    ประวัติความรัก :: เธอเป็นคนตกหลุมรักคนง่ายและก็บ่อยเสียซะด้วย แต่ไม่ใช่คนเจ้าชู้นะ แอบชอบคนนั้นคนนี่ พออกหักสักพัก ถึงค่อยเปลี่ยนใหม่ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยแห้วทุกที ก็อย่างเธอน่ะ ไม่กล้าสารภาพรักหรอก แล้วแบบนี้ชายไหนมันจะไปรู้ใจเธอได้ล่ะ ก็ต้องโทษตัวเองนั้นแหละนะ
    ประวัติการเรียน :: เรียนดี แต่ไม่เทพ เพราะเธอไม่ได้เก่งไปเสียซะทุกด้าน วิชาที่ฉุดเกรดของเธอก็คือ วิชาที่เกี่ยวกับกีฬา งานประดิษฐ์ การช่างต่างๆ เกษตรกรรมก็ด้วย สรุปคือวิชาฉุดคือพวกวิชาเสริมทั้งหลาย แต่วิชาหลักของเธอนั้นถือว่าดีเยี่ยม
    ความสามารถพิเศษ :: ปรุงยาเวทย์มนต์ , มองเห็นทะลุทุกสิ่ง , ได้ยินเสียงจากที่ไกลๆ , แยกแยะพืชที่มีพิษได้ , ควบคุมสภาพอากาศ , ทำเครื่องดื่มอร่อย(แม่สอนมา) , วิ่งเร็ว
    อิมเมจนางเอก :: ลียอนฮีค่ะ น่ารักดีนะคนนี้ 55
    อิมเมจนางเอก :: ให้ไปเกิน 5 รูปเลย แหะๆๆ




    user posted image
    user posted image
    user posted image
    user posted image
    user posted image


    ชื่อภูติ :: โซซัน ชื่อเล่น ซันจัง (โซซันภาษาเกาหลีแปลว่าความปราณีของเด็ก แต่ถ้าโซซันภาษาอังกฤษก็แปลว่า เฉกเช่นปานกับดวงอาทิตย์ค่ะ จริงๆแล้วชื่อเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แต่ทุกคนมักจะเข้าใจเป็นภาษาเกาหลี เนื่องจากอยู่ที่เกาหลีกันอยู่)
    อิมเมจภูติ :: เคยเห็นเสือดาวแอ๊บแบ๊วไหมค่ะ คุคุๆๆ เสือดาวหิมะนะคะ
    เสือดาวหิมะ
    อิมเมจพระเอก :: ด๊องแด๊ง สัก 4 รูปแล้วกัน อ๊างงง~

    ลีดองแฮ ดาราเกาหลี หนุ่มหล่อ แห่ง Super Junior





    ช่วงที่ 3 คำถามชิงบท
    1.ถ้าเราเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นแม่มดจะทำยังไง
    :: นะ นี่มัน อะ อะไรกันเนี่ย!! แม่มดเนี่ยนะ? มันมีอยู่บนโลกนี้ด้วยจริงๆอย่างนั้นหรอ ไม่น่าเชื่อ ว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งจะมองทะลุกำแพงนั้นเห็นอีกฝั่งหนึ่ง แบบนี้มันเหลือเชื่อสุดๆเลย ฉันเป็นแม่มดจริงๆน่ะหรอ ไม่สิๆ บางทีฉันอาจจะเห็นภาพหลอนก็ได้นะ ใช่ๆ ฉันคงจะเห็นภาพหลอน ถ้าเกิดว่าเป็นแม่มดก็ต้องร่ายคาถาใช้เวทย์มนต์ได้สินะ แต่ฉันคงจะทำแบบนั้นไม่ได้หรอกมั้ง บางทีฉันอาจจะต้องไปตัดแว่นหรือไม่ก็พบจิตแพทย์ไปเลย แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่าถ้าฉันเป็นแม่มดจริงๆล่ะ ไม่นะ!! พูดไปใครจะเชื่อ ยังไงฉันก็ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ไม่งั้นอาจจะถูกพวกนักวิทยาศาสตร์จับตัวไปผ่าดูตับไตไส้พุงก็ได้ โอ้ววว! แต่ยังไงฉันก็อยากจะบอกกับใครสักคนหนึ่ง ถึงเขาคนนั้นจะหาว่าฉันบ้าก็เถอะ แต่ถ้าเกิดเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวฉันต้องบ้าไปจริงๆแน่ หลังจากบอกแล้วฉันก็ควรจะไปหาจิตแพทย์เพื่อตรวจอีกที แล้วคุณหมอก็จะบอกว่าฉันมีอาการทางจิตนิดหน่อย หลังจากนั้นฉันก็จะไปบอกเขาคนนั้นว่าเรื่องที่บอกไปน่ะฉันแค่บ้าไปเอง บางทีถ้าฉันเข้ารับการรักษาซะ ฉันก็อาจจะหายเป็นปกติได้ ใช่แล้ว! มันต้องเป็นแบบนั้นแหละถึงจะถูกต้องที่สุด!
    2.ถ้าอยู่ดีๆวันนึงเรากำลังจะเดินกลับบ้านแต่บ้านเราเป็นซอยเปลี่ยวแล้วมีพวกขี้ยามาลวนลามแล้วเกิดมีสัตว์ตัวนึงปรากฏกายมาช่วยเราเราจะรู้สึกยังไง
    :: นะ นั้นมัน เสือดาวนี่นา ไม่สิ ไม่ใช่เสือดาวธรรมดา นั้นมันเสือดาวหิมะ ทำไมสัตว์ป่าอย่างเสือดาวหิมะถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณมัน เพราะแค่มันแยกเขี้ยวใส่เจ้าพวกขี้ยาตัวแห้งกะร่องพวกนั้น พวกมันก็วิ่งหนีไปเลย ตอนแรกฉันก็อยากวิ่งเหมือนกัน แต่พอเห็นดวงตาใสปิ๊งของมันก็ทำให้ฉันเบาใจลง ฉันมันก็เป็นพวกรักสัตว์อยู่แล้วซะด้วย ฉันเลยค่อยๆเดินเข้าไปหามันช้าๆไม่ให้มันตกใจ ก่อนจะย่อตัวลงลูบหัวมันเหมือนมันเป็นแค่แมว ดีมากที่แกไม่กัดฉัน มือของฉันที่สั่นอยู่ก็ค่อยๆนิ่งลง
    "ขอบคุณนะที่มาช่วย มาจากไหนเนี่ย หลุดออกมาจากสวนสัตว์รึเปล่า เดี๋ยวฉันจะพาไปส่งดีไหม? หิวไหม อยากกินอะไรบ้างไหม"
    มันมองฉันตาแป๋วจนฉันอ่อนใจ พอฉันลุกขึ้นมันก็เดินหนีฉันไปทันที อะไรของมันเนี่ย เอาเถอะ หวังว่ามันคงจะไม่ไปกัดใครเขาเข้านะ ฉันว่าโทรไปหาตำรวจหน่อยดีกว่า ถึงจะพูดแบบนั้นในใจฉันก็ไม่อยากให้มันถูกตำรวจจับไปอยู่ในกรงหรอกนะ แต่เพื่อสันติสุขของโลก ฉันจำเป็นต้องทำ ขอให้แกหนีตำรวจได้นะ สู้ๆล่ะ อย่าให้เขาจับได้นะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้

    3.ถ้าเรารู้แล้วว่าตัวเองเป็นแม่มดมาจากต่างมิติจะบอกกับพระเอกว่าอย่างไร
    :: สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องมานั่งเครียดกับความจริงที่ว่าฉันเป็นแม่มด ฉันลองตัดแว่นแล้ว ไปหาจิตแพทย์แล้ว พวกเขาบอกว่าฉันปกติดี แต่อาจจะตาฝาดไปเอง แต่ถึงอย่างนั้นพักหลังๆฉันก็สามารถใช้เวทย์มนต์อื่นๆได้ รวมถึงเรื่องเสือดาวตัวนั้นด้วย มันไม่ใช่สัตว์ธรรมดา แต่มันเป็นภูติประจำตัวของฉัน ฉันแทบจะบ้าเมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง วันนี้ฉันตั้งใจจะบอกกับเขา และตอนนี้ฉันก็กำลังจะบอกด้วย
    "นี่นาย... ฉันเป็นแม่มดล่ะ"
    "ห๊ะ!? ฮ่าๆๆ ตลกดีอ่ะ คิดได้ไงเนี่ย ก๊ากๆๆ ถ้าเธอเป็นแม่มดฉันคงเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วล่ะ ฮ่าๆ!!"
    "นี่ฉันพูดจริงๆนะ มันไม่ใช่เรื่องตลกนะเข้าใจไหม!"
    "เธอจะบอกว่าจริงๆแล้วเธอเป็นแม่มดที่ถูกส่งข้ามมิติมา แล้วก็ลืมเรื่องทุกอย่างในโลกเวทย์มนต์ พอหลังจากนั้นก็เพิ่งค้นพบพลังของตัวเอง รวมถึงภูติประจำตัวที่คอยดูแลอยู่เสมอน่ะหรอ"
    "นะ นายรู้ได้ยังไง!! นี่นายรู้เรื่องทุกอย่างแล้วจริงๆหรอ? ทำไมไม่เห็นบอกฉันเลยล่ะ"
    "เฮ้ย! จะบ้าหรอไง เธอบ้าไปแล้วหรอ ฉันพูดมั่วนะ อย่าบอกนะว่าถูก"
    "กะ ก็ใช่น่ะสิ!"
    "ไปกันใหญ่แล้ว จบเรื่องแม่มดนี่เถอะ เพราะฉันมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องบอกเธอ..."
    "อะไร?"
    "เพราะจริงๆแล้วฉันน่ะเป็น...โจรสลัดผักน้ำข้นที่มาตามล่าขุมทรัพย์แถบนี้น่ะสิ ก๊ากกกก!!!"
    "นี่นายไม่เชื่อฉันหรอ!"
    "ก็แน่อยู่แล้ว ใครมันจะไปเชื่อล่ะ!!"
    "ฉันจะพิสูจน์ให้นายดู คอยดูให้ดีเถอะ"
    ฉันค่อยๆรวบรวมพลังไปที่ดวงตา ก่อนจะมองทะลุเข้าไปอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน ก่อนจะบอกทุกสิ่งให้เขาฟัง พอเขาเข้าไปก็เห็นตามนั้น ฉันจึงหันหน้าไปหาเข้าก่อนจะย้ำว่าฉันเป็นแม่มดจริงๆ แต่ภาพที่เห็นถึงกับทำเอาฉันค้างไปเลยทีเดียว เพราะตอนนี้ฉันยังไม่สามารถควบคุมพลังได้ดีนัก และบวกกับที่ฉันมองเขา ไม่ต้องพูดเลยว่าฉันเห็นอะไรบ้าง!!!
    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!"
    "เฮ้ย! เป็นอะไรๆๆ"
    เขาเดินเข้าใกล้ฉันมาอีก ฉันรีบหลับตาและเอามือปิดทับอีกชั้นทันที ตาบ้า! เดินเข้ามาทำไม ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเห็นชัดสิ!
    "ออกไปนะๆๆ"
    "อะไรของเธอเนี่ย"
    "ฉันควบคุมพลังไม่ได้ มันไม่ยอมหายไป ฉันยังมองเห็นทะลุทุกอย่างอยู่"
    "ถะ ถ้างั้นเมื่อกี้... เฮ้ยยยย!!"
    เขารีบเอามือปกปิดร่างกายตัวเองก่อนวิ่งออกไป ฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นตามปกติและมองทุกอย่างอย่างเต็มตา แต่ลืมอะไรไปไหม ว่าฉันพลังของฉันยังไม่หายไป ถึงเขาจะวิ่งออกไป แต่ฉันก็ยังเห็นอยู่นะ
    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!"
    และแล้วก็เอวังด้วยประการละฉะนี้แล...
    4.แล้วถ้าวันนึงมิติมันเปิดเราจะทำยังไง
    :: ฉันนั่งอยู่คนเดียวภายในห้องนอนของตัวเอง ห้องนอนของฉันในเมืองเวทย์มนต์ ใช่ ฉันกลับมาแล้ว เมื่อวันนั้นที่มิติเปิดออก ฉันตัดสินใจที่จะกลับมาในที่ของฉัน ที่ที่มีพ่อมีแม่มีพี่น้องและเพื่อนๆของฉันอยู่ ฉันมีความสุขดีกับที่นี่ แต่ในใจของฉันกลับเรียกร้องหาเขา ฉันอยากอยู่กับเขาตลอดไป แต่ฉันก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่อยู่กับครอบครัวของฉัน ส่วนเขาก็ต้องอยู่ที่นั้นกับผู้คนที่รักเขาเช่นกัน เขาเป็นถึงนักร้องดัง เขาจะมากับฉันได้ยังไง เพราะความรักของเราสองคนมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วนี่นา ทั้งๆที่รู้มาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมยังทำใจไม่ได้สักที...
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
    "เข้ามาได้ค่ะ..."
    ผู้มาเยือนก็คือแม่ของฉันนั้นเอง ท่านเข้ามานั่งข้างๆฉันก่อนจะโอบไหล่ฉันไว้ ฉันค่อยๆพิงหัวลงบนไหล่ของแม่ อบอุ่นเหลือเกิน สิ่งที่ฉันโหยหาคือความอบอุ่นสินะ หัวใจเหมือนถูกเยียวยาเพิ่มมากขึ้น แต่ส่วนลึกของมันก็ยังพร่ำเพ้อถึงเขา
    "ลูกรัก แม่รู้ว่าหนูหลงรักมนุษย์คนหนึ่ง ใช่ไหมจ๊ะ?"
    "ค่ะ..."
    ฉันตอบกลับไปอย่างแผ่วเบา คำถามของแม่เหมือนไปสะกิดตะกอนที่จมนิ่งสะนิดลงไปแล้วให้ลอยขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง น้ำฉันไหลเปียกชุ่มกับไหล่ของแม่ ฉันค่อยๆปล่อยให้มันไหลออกมา ไหลไปเถอะน้ำตาเอ๋ย เมื่อหยุดแล้วช่วยปลดปล่อยความเศร้าหมองให้ฉันทีเถอะ ขอรอยยิ้มกลับคืนมาให้ฉันอีกครั้ง รอยยิ้มของฉันที่จะทำให้ทุกคนสบายใจ ฉันทำให้คนอื่นเป็นห่วงมามากพอแล้ว
    "หนูยังรักเขาอยู่ใช่ไหม รักมากด้วยใช่ไหมล่ะ"
    "ค่ะ นะ หนูรักเขา รักมาก มะ มากเสียจนเกินไป จนตะ ตอนนี้ก็ต้องมาเจ็บปวดเสียเอง ทะ ทรมานกับน้ำตาแห่งความผิดหวังในความระ รัก..."
    "ถ้าอย่างนั้นทำไมหนูถึงไม่อยู่กับเขาล่ะจ๊ะ?"
    "เพราะหนูระ รู้ดีว่าทุกคนเป็นห่วงหนูแค่ไหน นะ หนูรู้ดีว่าทุกคนอยากที่จะได้เห็นรอยยิ้มของหนูอีกครั้ง หนูถะ ถึงกลับมา..."
    "แล้วที่หนูกลับมาเนี่ย หนูยิ้มบ้างรึยังจ๊ะ"
    "ยะ ยังเลยค่ะ..."
    "ถ้าอย่างนั้นหนูก็ไปเถอะ อยู่กับเขา ยิ้มให้เขา แม่ไม่อยากให้หนูอยู่ที่นี่ในเมื่อหนูเอาแต่ซึมแบบนี้ ไปเถอะจ๊ะ ขออย่างเดียวแค่ส่งข่าวคราวมา หรือมาเยี่ยมกันบ้างแค่นั้นก็พอ แค่กลับมาให้แม่ได้เห็นรอยยิ้มของหนูบ้าง เพราะหนูเป็นดวงตะวันยามเช้าที่แสนสดใสของแม่และของทุกคน ร้องไห้แบบนี้ฝนก็ตกพายุก็เข้า แล้วมันจะเป็นเช้าที่แสนสดชื่นได้ยังไงล่ะจ๊ะ เพราะฉะนั้นก็กลับไปหาเขา ไปเป็นดวงอาทิตย์ยามเช้าอีกครั้งเถอะ ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกจ๊ะ แม่มีทั้งพ่อ มีทั้งพี่อิลกุก ไหนจะเจ้าอิลฮวาง แล้วก็น้องอิลนยอด้วย พวกเราอยู่กันได้ เพราะทุกคนคือดวงอาทิตย์สำหรับแม่ ลูกๆทุกคนของแม่ล้วนเจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้า ลูกเป็นดวงอาทิตย์สำหรับแม่มามากพอแล้วล่ะจ๊ะ ไปเป็นดวงอาทิตย์ของเขาคนนั้นเถอะ ขอให้โชคดีนะจ๊ะ อิลฮโย ขอให้ลูกแม่ได้ครองรักกับพ่อหนุ่มโชคดีคนนั้นอย่างมีความสุข สู้เขานะอิลจังของแม่"
    คำพูดของแม่ทำเอาฉันยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำไมท่านช่างดีกับฉันแสนเหลือเกิน ใจหนึ่งฉันก็อยากจะอยู่กับครอบครัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันไม่อยากอยู่กับดงแฮ ในเมื่อแม่พูดแบบนี้ ฉันก็จะไปอยู่กับเขา ฉันจะไปเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าของเขา น้ำตาของฉันยิ่งไหลออกมามากขึ้นเมื่อคิดถึงช่วงเวลาอันแสนสุขของครอบครัวที่จะค่อยๆหายไป แต่ฉันเชื่อว่าฟ้าหลังฝนจะต้องสวยงามแน่นอน เฉกเช่นสายรุ้งที่ทอประดับท้องฟ้าหลังฝนตกยังไงล่ะ
    "ค่ะแม่ หนูจะไปเป็นดวงอาทิตย์ให้เขา แต่หนูก็จะเป็นดวงอาทิตย์ในใจแม่ตลอดไป หนูรักแม่ค่ะ..."
    "ทำเป็นพูดดี จริงๆรักเขามากกว่าแม่ใช่ไหมล่ะ ฮิฮิๆๆ"
    "โธ่แม่ก็ กำลังซึ้งเลยนะ"
    "จ้าๆ แม่ขอโทษไปบอกลาทุกคนเถอะ"
    "เอ๊ะ! นี่แสดงว่าเตรี๊ยมกันมาใช่ไหมเนี่ย?"
    "เอ๋? นี่ทุกคนเตรี๊ยมกันไว้หรอ"
    "ไม่ต้องเลยแม่!!"
    "ฮ่าๆๆ จ้าๆๆ หรือจะไม่ไป"
    "ไปค่ะ!!"
    รอยยิ้มของฉันมันกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมความรู้สึกดีๆมากมาย หนูสัญญาค่ะแม่ ว่าหนูจะต้องเป็นดวงอาทิตย์ที่ดีให้ได้ หนูจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ รักทุกคนที่สุดเลย...



    ช่วงสุดท้าย

    1.ว่าพล๊อตของจินเป็นไงบ้าง :: ฝ้ายว่าค่อนข้างจะเป็นแนวตลาดนะคะ คือเนื้อเรื่องมีเกลื่อน แต่เรื่องนี้ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองดีค่ะ ไม่ค่อยมีใครเปิดออแนวนี้เท่าไร ถือว่าพอใช้ได้ค่ะ ตอบแบบวิจารณ์หน่อยๆ ไม่ว่ากันนะคะ เพราะคิดว่าคำตอบนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้พี่จินนี่พัฒนาฝีมือการเขียนของตัวเองต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ^O^
    2.ถึงคำถามไม่ค่อยเยอะแต่ตั้งใจตอบนะ :: แน่นอนค่ะ! ตั้งใจสุดๆเลยล่ะ
    3.ถ้าไม่ติดแล้วจะเข้ามาอ่านมาคอมเม้นมั้ยเอ่ย :: ไม่อยากตอบแบบประจบประแจงว่าจะมา ขอตอบอย่างซื่อตรงเลยแล้วกันค่ะ เพราะในความเป็นจริงถ้าไม่ติดก็คงไม่ได้ค่อยเข้ามาเท่าไร หรือถ้ามาก็อาจจะนานๆที ไม่บ่อยเท่าที่ควร หรือต้องพูดว่า ไม่ได้มาเป็นนักอ่านประจำ^^
    4.ถ้าติดก็มารายงานตัวภายใน 3 วันนะ :: รับทราบขอรับกระผม!!
    5.ถามเยอะไปมั้ยเนี่ย :: ไม่เยอะหรอกค่ะ จริงๆควรจะเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ การจะเลือกตัวละครสักตัวนึงต้องใช้ความละเอียดละอ่อนกับมันมากๆ และคนที่มาสมัครก็ต้องใส่ใจกับคำถามแต่ละข้อด้วย ยิ่งผู้สมัครตอบได้เยอะเท่าไรก็ยิ่งแสดงถึงความตั้งใจจริงมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วคำถามเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญเลยนะ ฝ้ายว่ายิ่งเยอะเท่าไรก็คุณภาพของตัวละครก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ^_^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×