[Fic KHR] HBD Yamamoto Takeshi # No Time Left : 8059!
"ถ้าผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ฉันยังไม่มีของขวัญอะไรให้เขา ฉันคงจะรู้สึกเสียใจไปทั้งปีเลย
ผู้เข้าชมรวม
893
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : No Time Left -HBD Yamamoto Takeshi-
Paring : 8059 (Yamamoto Takeshi x Gokudera Hayato) ft. Ugetsu x G
Date : April 24th, 2013.
Author : Destiny_AB
Rate : ทุกเพศทุกวัย
Type : รั่วโรแมนติก + จืดชืด (?)
Date: April 24th
Time 00:01
ใครบางคนตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาที่แปลกประหลาดที่สุด... หากแต่ใบหน้าก็ยังดูสดชื่นจากการที่นอนเร็วตั้งแต่หกโมงเย็นทำให้ตัดปัญหาเรื่องการนอนไม่พอไปได้
“คิดจะลุกมาทำอะไรตอนเที่ยงคืนล่ะนั่น” ดวงตาโฉบเฉี่ยวของอีกชีวิตในห้องพักแห่งนี้เอ่ยทักขึ้น ร่างนั้นกอดอกเลิกคิ้วขึ้นสูงทำท่าเหมือนจะสงสัย
“แก่ก็อยู่ส่วนแก่ไปสิ”
“ว่าฉันแบบนี้ไม่ได้นะ!!” ดวงตาสีแดงดุจเพลิงมีร่องรอยโกรธขึ้งทันที แต่แล้วก็สงบลงเมื่อเห็นสีหน้าเนือยๆ ของเจ้าบ้านมองมา
...อย่าโวยวายในบ้านคนอี่นนะเฟ้ย!!...
“ก็...แค่อยากรู้เฉยๆ” เจ้าของเรือนผมสีเดียวกับดวงตาพร้อมแถบเปลวไฟที่แก้มขวาถึงกับหงอยลงทันที
คนแก่ก็อยากรู้เรื่องนะเฟ้ย ถึงแม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็เถอะ
“นี่จี..” จู่ๆ ร่างบางพอๆ กับตนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกะละมัง แป้งเค้ก ไข่ ไม้พาย เอ่อ... เอาเป็นว่า ‘อุปกรณ์ทำเค้ก’ นั่นล่ะอธิบายง่ายสุด แถมยังมานั่งลงบนโซฟาข้างๆ กันอีกต่างหาก
“อะไรเล่า..” ผู้เป็นบรรพบุรุษแห่งวายุกล่าวตอบเสียงแข็งนิดๆ
.
.
.
“เคยทำเค้กป่าว?”
.........................
Time 03:00
“นี่ๆ...ถึงฉันจะช่วยทำเค้กไม่ได้ แต่ฉันก็อยากจะเตือนนายไว้นา..”
“บอกแล้วไงว่าแก่ก็อยู่ส่วนแก่ไป” ฉึก!!!!!!!!!
ธนูดอกนี้เล็งอย่างแม่นยำเข้ากลางหัวใจของจีเป๊ะๆ
ทนไว้เรา...นั่นมันผู้สืบทอดที่เราคัดเลือกเอง
เตือนตัวเองไปก็เท่านั้นล่ะ จีก็ยังสงบพายุที่โหมกระหน่ำรุนแรงของตัวเองไม่ได้อยู่ดี
“นายน่ะมีพี่สาวนี่นา ไปขอให้เธอช่วยสิ”
“ช่วยทำให้กลายเป็นเค้กสยองขวัญน่ะ ฉันไม่ต้องการหรอก” แค่มองหน้ากันก็ยังทำไม่ได้ จะไปขอให้ช่วยได้ยังไง
อีกอย่าง...โกคุเดระ ฮายาโตะไม่ได้ต้องการสำเร็จวิชา Poison Cooking เหมือนพี่สาวคนสวยสักหน่อย
“จี...”
“หืม..?”
“...” คนทักเงียบไปนาน ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “วันเกิดของอุเก็ตสึ.. ทำอะไรให้เขาเหรอ”
บรรพบุรุษหลับตาเงยหน้าขึ้นหาเพดานราวกับใช้ความคิดระลึกชาติ
“เขาไม่เคยต้องการอะไรหรอก ถึงฉันจะถามย้ำแล้วย้ำอีก เขาก็ย้ำกับฉันยิ่งกว่าเดิมว่าเขาไม่ต้องการอะไรนอกเหนือไปจากเพื่อนพ้องและคนที่เขารัก..” พูดได้แค่นั้นจีก็ยิ้มกับตัวเองคนเดียว
“ชีวิตเขามีแค่เสียงเพลงและรอยยิ้มอ่อนโยนหาใช่ดาบไม่ เขามักจะนำพามาซึ่งความสงบสุขเยือกเย็นทำให้ทุกคนรอบข้างมีความสุขเสมอ คิดแล้วก็แปลก...คนที่เอาแต่ให้ผู้อื่นอยู่เสมอ ทำไมไม่ต้องการอะไรกลับคืนให้สมกับที่ตัวเองเคยทำ..”
ดวงตาของคนพูดมีร่องรอยความรู้สึกดีๆ ประปรายเต็มไปหมด เนตรสีเพลิงคู่นั้นมีแววประกายพริบพราวราวกับดวงดาริกายามค่ำคืนอันฟ้าปลอดโปร่ง..
“พร่ำเพ้อ”
===> (- [ ] -)!!!
ฉึก! ธนูอีกดอกปักกลางใจ แทบกระอักเลือดออกมาเป็นแกลลอน...จีตัวสั่นระริกด้วยอาการถูกกระทบกระเทือนจากถ้อยคำอันโหดร้ายเกินรับไหว โอ้ว... ทั้งร่างแทบทรุด
“หึ...แต่เขาคงเป็นคนที่เก่งเอาเรื่องเลยนะ ทำให้นายดูอารมณ์ดีตลอดอย่างนี้น่ะ” โกคุเดระกล่าวยิ้มๆ มือข้างขวายังตั้งอกตั้งใจคนส่วนผสมแป้งเค้กกับไข่อย่างไม่ลดละ ก่อนที่มือซ้ายจะเติมน้ำสะอาดตามลงไปอีกนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เนื้อแป้งติดกันเกินไป
“เหรอ ฉันไม่เห็นจะรู้สึกอย่างนั้นเลย - -^” ถึงจะปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่ริมฝีปากก็ยังมีรอยแย้มบางๆ ให้เห็น
..
.
.
.
กาลเวลาเจ้าเอ๋ย...รู้ตัวหรือไม่ว่าใจร้ายยิ่งนัก
เจ้านั้นผ่านล่วงไปอย่างรวดเร็วราวกับต้องการจะกลั่นแกล้งกัน...
.................................
Time 07:30
เค้กสีน้ำตาลก้อนประหลาดก้อนที่สามเผยสู่สายตาคนทั้งคู่ กลิ่นที่ไม่น่าไว้วางใจนักทำเอาผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกส่ายหัวแรงๆ เพื่อเน้นย้ำว่า...
แกน่ะทำเค้กเนยสดอยู่นะเฟ้ยยยยย ไม่ใช่เค้กบราวนี่ = [ ] =!!!!!!!!!!!!!!!!
เจ้าของเส้นผมสีแดงดุจเพลิงอยากจะหายตัวกลับเข้าแหวนด้วยความอับอายแทนยิ่งนัก แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ประเดี๋ยวถ้าผู้สืบทอดเจ้าอารมณ์คนนี้โมโหขึ้นมาอาจจะทำโทษผนึกเขาไว้ในแหวนไม่ให้เจอใครตลอดหนึ่งอาทิตย์เลยก็เป็นได้
“ก้อนที่สาม พังตามเคย...เฮ้อ..”
“ฉันว่านายไปโรงเรียนก่อนดีกว่านะ เพราะเดี๋ยวจะถึงเวลาต้องไปรับเดชิโม่อยู่หน้าบ้านแล้วไม่ใช่รึไง”
“แต่ว่า...” ท่าทีที่เสียดายนิดๆ ไม่ได้ทำให้คนแนะใจอ่อนแต่อย่างใด ตรงข้ามยิ่งพูดจี้จุดอ่อนเข้าไปใหญ่
“นายไม่เคยบอกไว้เหรอ ว่าจะไม่ทำให้เดชิโม่ผิดหวัง”
“ง่า...”
“ยังมามัวทำหน้าเสียดายต่ออีก ฉันบอกให้ไปก็ไป! เร็ว!!” พอไล่ให้ร่างบางผมเงินไปอาบน้ำได้แล้ว ตัวเองก็บิดตัวยืดเส้นยืดสายคลายเส้นที่เกือบยึดเพราะมัวแต่เอี้ยวตัวมองแม่ครัว(?)มือใหม่หัดทำเค้กตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
ก่อนร่างจะสลายวูบกลับเข้าไปในแหวนวายุที่เจ้าของคนปัจจุบันถอดวางทิ้งไว้บนเตียงในห้องนอน...
“วันนี้คงน่าสนุกพิลึก...ฉันจะไปด้วยก็แล้วกัน”
.....................................
Time 08:30
ร่างบางผมเงินกำลังตาขวางอย่างแรง......
“ยามาโมโตะคุง สุขสันต์วันเกิดน้า”
“ยามาโมโตะคุง ของฉันด้วย”
“รับของขวัญของฉันไปด้วยนะ”
“ทางนี้ด้วย”
ฯลฯ
เขาเหล่ไปทางหน้าประตูจนคิดว่าตัวเองแทบจะเดินตาเหล่กลับบ้านในวันนี้ ถึงเบ้าตาจะสั่งการว่า ‘ตูเริ่มเจ็บปวดแล้วนะเฟ้ย’ แต่ลูกตาเจ้ากรรมก็ยังไม่เชื่อฟังเสียนี่
ป้าบ!!
มือขาวๆ ตบที่แก้มตัวเองเพื่อคืนสภาพสายตาสู่ภาวะปกติ แต่คงจะแรงไปนิดจนหัวโกคุเดระแทบจะโขกขอบโต๊ะ...
ปึ้ก!
“อ่อก!!” เอ่อ โขกไปแล้ว!
บอสรุ่นที่สิบที่เดินเข้ามาเพื่อจะถามไถ่อาการถึงกับสะดุ้งโหยง เหงื่อตกซิกเหมือนที่เห็นกันในอนิเมบ่อยๆ
“โกคุเดระคุง..”
“อ๊ะ รุ่นที่สิบ! มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ!!” ร่างบางที่ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ ด้วยความเจ็บ พอสังเกตเห็นทูน่าผมสีน้ำตาลชี้ฟูเดินมาหาถึงที่โต๊ะก็รีบลุกแล้วตะเบ๊ะแบบเป๊ะทุกองศาทุกกระเบียดนิ้ว
“ปะ เปล่า- -; ฉันแค่เห็นนายดูเขม่นคนมากกว่าปกติ ฉันเลยเป็นห่วงน่ะ” ใช่ว่าวองโกเล่รุ่นที่สิบจะซื่อบื้อนักหนาจนมองไม่ออกว่าอีกฝ่ายหึงผู้พิทักษ์พิรุณเข้าขั้นโคม่า ทว่าการปล่อยให้มันค้างคาเช่นนี้ ห้องเรียนอาจกลายเป็นสถานที่ซ้อมขว้างไดนาไมต์สำหรับมือขวาผู้นี้ในท้ายที่สุด...
น่าสลด _ _”
“ม...ไม่มีอะไรหรอกครับรุ่นที่สิบ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก” น้ำเสียงที่ปกติจะฟังร่าเริง พอสึนะโยชิได้ยินบ้างถึงกับขนลุกซู่เหมือนโดนราดด้วยน้ำเย็นที่เย็นสุดขีดตั้งแต่หัวจรดเท้า...
เวรละ.. บรรยากาศมาคุ = =; เห็นทีอยู่ต่อไปมือขวาอาจจะเครียดหนักกว่าเดิมจนเผลอระเบิดโรงเรียนคลายเครียดก็ได้ อืม... เรื่องใหญ่ล่ะสิทีนี้
แต่ถึงอยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
“อ่า..เอ่อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ =w=” แล้วก็ถอยกรูดกลับไปตั้งหลักที่โต๊ะของตัวเองซึ่งห่างออกไปไม่กี่เมตร
“นายกำลังทำให้เดชิโม่เป็นห่วงนะ” เสียงแข็งๆ ที่คุ้นหูดังขึ้นในหัว
“...” โกคุเดระเงียบไปอึดใจ จากนั้นพรูลมหายใจยาวๆ และก้าวฉับๆ ไปที่ประตูห้อง
ครืดดด!!!
“โกคุเดระ จะออกไปไหนน่ะ” ก่อนที่ขาจะก้าวออกไปจากห้องเรียนที่อึกทึกวุ่นวายเพราะบรรยากาศชื่นมื่น (?) เสียงเจ้าของวันเกิดที่ถูกรุมล้อมแย่งกันให้ของขวัญก็เล็ดลอดมาถึงหูร่างบางจอมดื้อ (สาวๆ ต่างห้องก็มีมาไม่ขาดสาย เปิดประตูเข้ามาทุกห้านาที)
“ฉันโดดคาบต่อไป” ร่างบางมองอีกฝ่ายเพียงหางตา มิหนำซ้ำยังส่งจิตสังหารเข้มข้นแผ่กระจาย
ปัง!!!!
ประตูอาจจะอยากร้องโอดครวญก็ได้ถ้ามันมีชีวิต
วันนี้โดนสาวๆ ใช้งานหนักยังไม่พอ ยังมีหนุ่มน้อยใจร้ายใจดำปิดแรงๆ เสียไม่ห่วงสวัสดิภาพมันเล้ย...
เอี๊ยดดด... ปัง!!!
ประมาณห้านาทีต่อมาประตูทางขึ้นดาดฟ้าก็เป็นที่ระบายอารมณ์อย่างถัดมาของโกคุเดระ ฮายาโตะ ดวงตาสีเขียวใสดื้อดึงอัพเลเวลกลายเป็นดวงตาสีเขียวสยองขวัญ ออร่ามืดมนมาจากไหนไม่รู้แผ่อาณาเขตรอบๆ ตัวของร่างบางเต็มไปหมด
“...”
“...ฮิบาริ” แต่ว่ายังมีใครคนหนึ่งตั้งรกราก (?) อยู่บนดาดฟ้าก่อนหน้าแล้ว ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใครที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าของดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริแห่งนี้
“ขึ้นมาทำไม”
“ทำไมฉันต้องตอบแก” คนหน้าหวานยิ่งอารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิม พอมาเจอคนหน้าตายแบบนี้ยิ่งชวนให้อารมณ์ขุ่นมัวลงกว่าเดิมอีก มือเรียวล้วงเข้าไปที่ข้างเอวแตะที่อาวุธคู่กายพร้อมจะเปิดศึกได้ทุกเมื่อ
ก็ดี...จะได้มีอะไรทำคลายเครียด
“จะสู้งั้นเหรอ..?” ท่อนเหล็กคู่แวววาวประจำที่ของมันเรียบร้อย ดวงตาราวกับเพชฌฆาตนั้นไม่ได้ทำให้จิตใจของเขาสั่นคลอนแต่อย่างใด
“คิดอย่างนั้นก็ตามใจ”
แต่ก่อนจะได้เปิดศึก อะไรบางอย่างกลับทำให้ระเบิดไดนาไมต์ที่ซ่อนอยู่ทุกกระเป๋ารวมแล้วเยอะประมาณ ‘บอมบ์สี่เท่า’ หลุดออกมากลิ้งหลุนๆ บนพื้นพร้อมทั้งจุดไฟเองอัตโนมัติ
“!!!!” เจ้าของอาวุธมีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดไปแล้วเรียบร้อย แต่ยังพอมีสติเตือนอีกคนที่กำลังจะพุ่งเข้ามาหา “ฮิบาริ! ถอยไป!!”
“หา? พูดอะไรน่ะ” น้ำเสียงนั้นแฝงแววดูแคลน
“บอมบ์สี่เท่าน่ะพังดาดฟ้าหายไปกว่าครึ่งได้เลยนะ!!!”
“...!!”
บึ้มมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตูม!!!!
ตูมมมม!!!
โกคุเดระไม่รู้ว่าร่างของกรรมการคุมกฎหายไปไหน แต่ว่าร่างของตัวเองลอยกระเด็นท่ามกลางสะเก็ดการระเบิดมายังดาดฟ้าของตึกข้างๆ อย่างมหัศจรรย์พันลึกที่สุด!
...........................................
Time 12:00
ตึกที่เพิ่งถูกทำลายไปนั้นต้องทำการซ่อมแซมอย่างด่วน และไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นฝีมือโกคุเดระ ฮายาโตะนอกจากผู้พิทักษ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในโรงเรียนและดอกเตอร์หน้าม่อแห่งห้องพยาบาล ซวยจริงๆ ที่นอกจากตึกนั้นจะเป็นที่ทานข้าวประจำของเขากับบอสที่สุดแสนจะเทิดทูนแล้ว (ไม่นับผู้พิทักษ์พิรุณซึ่งกลายเป็นส่วนเกิน) พวกเขายังต้องเปลี่ยนห้องเรียนคาบบ่ายไปใช้ห้องเรียนตึกอื่นซึ่งมันทำให้เขาอารมณ์เสียกว่าเดิม
เพราะอะไรน่ะเหรอ?
“อ๊ะ ยามาโมโตะคุงนี่นา สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ!!!!!” พอทั้งสามเดินผ่านกลุ่มนักเรียนหญิงก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวปนกรี๊ดกร๊าด ยัยผู้หญิงที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มทำใจกล้าตะโกนเสียงดังก่อนจะหันไปหน้าแดงกับคนอื่นๆ ทันทีที่โกคุเดระ สึนะ และยามาโมโตะหันไปมอง
ทำอย่างกับสารภาพรัก.. ร่างบางแสร้งไม่สนใจเพราะมันไม่เกี่ยวกับตัวเขาอยู่แล้ว
พรืดดด!!
จู่ๆ เขาก็ถูกดึงตัวออกจากกลุ่มโดยนักเรียนหญิงอีกก๊กหนึ่ง
“พวกเธอทำอะไรน่ะ?”
“โกคุเดระคุง ฝากของขวัญวันเกิดไปให้ยามาโมโตะคุงได้มั้ยจ๊ะ” สองสามคนยื่นกล่องของขวัญขนาดต่างๆ กันให้เขาที่ต้องทนรับแบบเสียไม่ได้
“แล้วทำไมฉันต้อง...”
จู่ๆ คำพูดสั้นๆ แต่เหมือนกับประกาศิตก็ดังก้องกังวานซึมซาบไปทั่วอณูสมอง
“หัดทำตัวดีๆ กับคนอื่นเขาบ้างก็ได้นา ^^”
“ก็ได้ๆ!” น่ารำคาญจริงๆ.. คิดๆ แล้วก็โมโห ทำไมต้องเอาตัวเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย ทั้งที่พยายามทำตัวไม่ให้ใครสนใจแท้ๆ
“อ๊ะ..” สาวน้อยอีกคนแทรกขึ้น “แต่โกคุเดระคุงไม่ต้องกังวลนะ ยังไงฉันก็ยังชอบโกคุเดระคุงเหมือนเดิมนะ >////<”
“ชิ!” พวกแฟนคลับงั้นเหรอ แค่ได้ยินก็ผดขึ้นแบบที่ยาขนานไหนก็แก้ไม่ได้...
ขาเรียวก้าวยาวๆ หนีไป กระทั่งทันสึนะโยชิและยามาโมโตะที่หันรีหันขวางมองหาเขาพอดี
“เอ้านี่ ของแก” เขาทำหน้ามุ่ยแล้วยื่นของขวัญสองสามกล่องให้ร่างสูงที่ทำหน้างงๆ
“ข้าวเที่ยงฉันไม่ทาน ไปล่ะ ...ขอโทษด้วยนะครับรุ่นที่สิบ” แม้บอกปัดไม่ใยดีข้าวเที่ยงทั้งที่กระเพาะเริ่มจะร่ำร้องประท้วง ก็ยังเคารพในบอสของตนเองด้วยการบอกกล่าวและขออภัย
“เดี๋ยว..!” แม้พ่อหนุ่มผมดำตัดสั้นจะห้ามไว้ก็สายไปแล้ว ร่างที่เดินห่างออกไปก็คงจะไม่ได้ยินแล้ว
“พวกนายมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า” สึนะก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเกี่ยวกับสองคนนี้ ... แหม ความสัมพันธ์ช่างซับซ้อน (ซือคะ มันไม่ได้ซับซ้อนหรอกค่ะ แค่อีกคนซึนอีกคนเซ่อค่ะ / ไรเตอร์)
“สำหรับฉันน่ะไม่มีหรอก ถ้าเป็นโกคุเดระก็ไม่แน่” น้ำเสียงนั้นไม่สบายใจสักนิด สีหน้าก็ดูไม่ดีเลยทั้งที่เป็นวันเกิดของตัวเอง ได้รับของขวัญและคำอวยพรมากมายแท้ๆ
“ไปกินข้าวกันเถอะ” สุดท้ายนภารุ่นที่สิบก็ตัดบทเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูตึงเครียดเสียก่อน
- - - - - - - - - - -
“เดินหนีเดชิโม่แบบนั้นมันจะดีเหรอ เดี๋ยวตำแหน่งมือขวาหลุดหรอก” ผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกหยอกพอขำๆ เมื่อทั้งคู่นั่งรับลมอยู่บนต้นไม้ใหญ่หน้าอาคารนั้น ด้วยพุ่มที่หนาเขียวขจีจึงทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าบนนี้จะมีคนหนึ่งคนและอีกหนึ่งร่างที่ดูเหมือนจะเป็นคน (?) พักผ่อนหย่อนใจกันอยู่
“...” แต่ร่างบางกลับไม่มีอารมณ์ร่วม ซ้ำยังหันหน้าหนี ทำสีหน้าเหมือนคนทุกข์ใจมาแต่ชาติปางไหน
“อะไรกัน? ปกตินายจะกัดฉันกลับไม่ใช่เหรอ ตอบโต้สักหน่อยเถอะน่า” คิ้วโก่งสวยเหมือนคันธนูเลิกขึ้นสูง
“เลิกพูดเถอะน่า”
“เท่าที่ฉันดูสถานการณ์มา นายคงหึงผู้พิทักษ์พิรุณล่ะสินะ”
“ไม่ใช่!!!!!” โกคุเดระเผลอตัวแว้ดกลับทั้งที่สองแก้มก็แดงเหมือนมะเขือเทศสุกเต็มที่ พอเหลือบมองหน้าจี ก็รีบหันหน้ากลับหลบเลี่ยงสายตารู้ทัน
“ฉันแค่..โมโหตัวเอง”
“อ้อ...โมโหตัวเองที่ทำเค้กมาให้เขาไม่ได้สินะ เลยน้อยเนื้อต่ำใจที่พวกผู้หญิงมีของขวัญมาให้เขาเต็มไปหมด แต่นาย...คนที่เป็นถึงแฟนกลับไม่มีอะไรให้สักอย่าง อยากจะเหวี่ยงพวกผู้หญิงที่เอาของขวัญมาให้เขาแต่ก็กลัวจะดดนหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง ที่ยอมเอาของขวัญจากผู้หญิงพวกนั้นไปให้เพราะดันนึกถึงว่าเขาน่ะอยากให้ทำตัวดีๆ กับคนอื่นๆ” พูดไม่กี่ประโยคขยายความไปได้ครึ่งเรื่อง... ไรเตอร์ไม่ต้องแต่งต่อละทีนี้ -*-
“อย่าคิดมากเลยน่า นายทำดีที่สุดแล้ว ถึงเค้กมันจะกินไม่ได้ แต่แค่ทำแล้วแอบเอาไปให้เขาก็น่าจะมีความสุขแล้ว”
“...”
“เฮ้อ...เงียบอีก ฉันล่ะเหนื่อยกับวัยรุ่นจริงๆ”
“เออสิ คนแก่จะมาเข้าใจอะไร”
“เฮ้ย!! =[]=!” หลอกด่างั้นเหรอ...หลอกด่ากันอยู่ใช่มั้ย!?!?!?
“หึๆ” หลอกด่าจริงๆ ด้วย!!! ดูรอยยิ้มเยาะหยันนั่นสิ ดูสายตาอดสูกับอายุอันมหาศาล!
“โกคุเดระ ฮายาโตะ!!!”
เปรี้ยง!!!!!
ร่างบางกระโดดลงจากต้นไม้ลงมาหัวเราะชอบใจได้ทันเวลาก่อนที่มันจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ด้วยฝีมือธนูแบบทำลายล้างของจี...
ไว้อาลัยให้ทั้งต้นไม้และดาดฟ้าก่อนหน้านี้เป็นเวลาสิบวินาที ปฏิบัติ! _ _;;
............................
Time 22:00
“สี่ทุ่มแล้ว สี่ทุ่มแล้ว สี่ทุ่มแล้ว”
“เออ ฉันรู้แล้วน่า ไม่ต้องพูดมากจะได้มะ มันเสียสมาธิ” พอกลับมาจากโรงเรียนและทานข้าวเย็นที่บ้านของบอสตอนประมาณหนึ่งทุ่มก็เริ่มต้นทำเค้กก้อนที่สี่ต่อทันทีแบบไม่รอช้า...
ก็คว้าน้ำเหลวเช่นเดิม...
ต่อมาก็ก้อนที่ห้า... พังกว่าเก่า
ก้อนที่หก...ดีกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะความไหม้หายไปแต่ขาดความอร่อยอย่างรุนแรงเพราะโกคุเดระ ฮายาโตะดันเผลอใส่น้ำส้มสายชูแทนน้ำเปล่าตอนผสมแป้ง
ถัดมาคือก้อนที่เจ็ด ซึ่งกำลังตีแป้งอย่างเอาเป็นเอาตายสุดๆ จนกระทั่งมันเข้าเนื้อกันดีภายในเวลาไม่ถึงนาทีจากการที่ใส่แรงตีไม่ยั้งและสปีดของการตี เป็นอันว่าทั้งสปีดและความแข็งแกร่งของโกคุเดระเพิ่มขึ้นอีกห้าเปอร์เซ็นต์ได้เพราะการทำเค้กนี่เอง...
“ใส่พิมพ์...แล้วก็อบ!” ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วแบบที่ทีวีแชมเปี้ยนต้องสยบแทบเท้าขอร้องให้ไปแข่งเจ้าแห่งการทำเค้กเลยทีเดียว
“โอ้...ครั้งนี้ขั้นตอนเตรียมใช้เวลาเจ็ดนาทีเองนะ ดีขึ้นกว่าครั้งก่อนสามนาที” จีกดปิดนาฬิกาจับเวลาแล้วโยนมันวางไว้ที่โซฟาข้างๆ ตัว
ผู้พิทักษ์วายุรุ่นที่สิบเดินมานั่งข้างๆ โดยไม่ลืมจะหยิบนาฬิกาจับเวลาออกก่อนที่ตัวเองจะนั่งทับมันไป
“เพราะฉันไม่มีเวลาแล้วนี่...ที่ฉันยังมีความหวังเพราะมันยังไม่ถึงเที่ยงคืนวันนี้ ยังพอมีโอกาสให้ของขวัญวันเกิดทันเวลา แต่ว่า... ถ้าผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ฉันยังไม่มีของขวัญอะไรให้เขา ฉันคงจะรู้สึกเสียใจไปทั้งปีเลย”
สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นกว่าเมื่อตอนทำเค้กก้อนแรกมาก...
“ขอโทษนะ ที่ฉันเองก็ช่วยอะไรไม่ได้” ..ทำเค้กไม่เป็น เศร้า.. T^T
“ฉันไม่อยากให้ใครช่วยอยู่แล้ว” อีกอย่าง... แค่มีคนคอยให้กำลังใจและสนับสนุน แม้จะไม่ใช่คนที่พูดชื่นชมกันบ่อยนักก็ถือว่าให้คำปรึกษาได้ดีในระดับหนึ่งเลย
“กว่าจะอบก็ใช้เวลาสักชั่วโมง เตรียมของใหม่ไว้ดีกว่ามั้ยเผื่อพลาดอีก” จีเริ่มหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน
“ไม่ต้องหรอก ของหมดแล้วล่ะ” ...ร่างบางคิดในใจ ถ้าหากรอบนี้ยังไม่ได้อีกก็คงจะต้องตัดใจ และเวลาเองก็แทบไม่เหลือแล้วด้วย
ตัวเขาเองอยากจะทำให้อีกฝ่ายดีใจสักครั้งในรอบปี เพราะปกติมีเพียงยามาโมโตะเท่านั้นที่ทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเขาตลอดมา เขาคงจะเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุดหากไม่ทำอะไรดีๆ กลับคืนไปบ้าง...
คิดแล้วก็น้อยใจตัวเอง... อยากเกิดมามีพี่สาวที่ทำเค้กเก่งๆ อร่อยๆ บ้าง ไม่ใช่คุณพี่สาวมหาภัยที่ทำอาหารอะไรๆ ออกมาเป็นของมีพิษหมดแบบนี้
ถ้าอย่างนั้นคงจะขอให้ช่วยไปนานแล้ว
แต่ไม่ว่ายังไง...ก็ต้องทำให้ได้!!!!
...............................
Time 23:15
ร่างบางลุ้นสุดๆ พอเสียงเตาอบดังติ๊งบ่งบอกว่าของที่เข้าไปอบนั้น อบตามเวลาที่ตั้งไว้เรียบร้อย
แต่เมื่อเปิดฝาอบออกมา ควันสีดำก็พวยพุ่งอบอวลทั่วห้องครัว กลิ่นควันเหม็นไหม้โชยกรุ่นแสบโพรงจมูก
“เฮ้ย! เป็นยังไงบ้าง” ด้วยความเป็นห่วง จีหุบนิตยสารวางไว้บนโต๊ะวิ่งตามกลิ่นเหม็นไหม้จนไปเห็นร่างบางพอๆ กับตนยืนล้างหน้าที่ซิงค์ล้างจานอยู่เงียบๆ พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงสะอื้น
“ไม่เป็นไรนะ” ผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกหน้าเศร้าพอๆ กันเมื่อเห็นว่าแม้จะพยายามอย่างไรก็ยังคงล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนเดิม
“แบบนี้ตลอดเลย ฉันพยายามตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่พลาดอย่างใดก็อย่างหนึ่ง ฉันนี่มันแย่จริงๆ ที่ทำอะไรให้เขาไม่ได้” น้ำตาใสๆ รินอาบแก้มขาวนวล ไหล่บอบบางสั่นไหวเมื่อจีตบบ่าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
“โธ่...ไม่เป็นไรหรอก เมื่อก่อนฉันก็ทำตัวแบบนาย ของขวัญวันเกิดแทบไม่มีให้ด้วยซ้ำ แต่เขาคนนั้นก็ไม่ได้บ่นว่าอะไรนี่นา”
“ก็นั่นมันคนของนายนี่!” บรรพบุรุษวายุเริ่มของขึ้นแม้จะแอบดีใจที่อีกฝ่ายไม่ได้เศร้าตรมถึงขนาดต้องแอบไปเข้าห้องน้ำแล้วนั่งใต้ฝักบัวเปิดน้ำให้ตัวเปียกเหมือนในเอ็มวีก็ตาม...
“เหนื่อยจะเถียงแล้วเฟ้ย -*-!”
โกคุเดระหยิบผ้ามาเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำผสมปื้นควันดำออก
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยเนี่ย!!!!!!!!”
......................................
Time 23:45
ร่างบางผมเงินยังคงนั่งหน้าซึมเศร้าต่อไป ไม่ว่าผู้อาศัยอีกคนจะชี้ชวนให้ดูรายการตลกยอดฮิตหรือเล่าเรื่องราวสมัยเริ่มก่อตั้งวองโกเล่แฟมิลี่ที่โกคุเดระ ฮายาโตะให้ความสนใจนักหนา อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบรับอะไรมาสักอย่าง มีแต่นั่งทำหน้าซึมกะทือเหมือนความรู้สึกและสติสัมปชัญญะตายไปเรียบร้อย
“นี่...ตอบอะไรสักหน่อยไม่ได้เลยรึไง”
“จะเที่ยงคืนแล้ว...”
“ถ้าจะตอบรับแบบนี้ ไม่ต้องตอบก็ได้นะ” จีถอนหายใจรอบที่ล้านกว่า อาการน่าเป็นห่วงจริงๆ...
“เออก็ได้! ชิ!!”
“...” ดวงตาสีแดงเพลิงปรายตามองไปที่นอกหน้าต่าง เห็นพุ่มบนต้นไม้ใหญ่ขยับไหวดูผิดธรรมชาติเหมือนกับมีคนอาศัยบนนั้น แต่เขาก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร “ฉันขอตัวสักพักนะ” ทันใด บริเวณนั้นเหลือไว้เพียงควันสีแดงกับร่างบางที่นั่งหน้าตายอยู่หน้าทีวีคนเดียว...
เหรอ??
ก๊อกๆๆ...
“ใครมาวะ..?” เขาบ่นอุบอิบแต่ก็ลุกไปเปิดโดยดี หวังไว้ในใจว่าคงไม่ใช่พี่สาวคนสวยเพราะตัวเขาตอนนี้ไม่มีอะไรช่วยป้องกันการสบตาตรงๆ กับเบียงกี้สักอย่าง
...
ประตูนั้นเปิดออก ร่างของผู้มาเยือนยามค่ำคืนปรากฏต่อสายตา
“ยามาโมโตะ..”
“ใช่ ฉันเอง...” ร่างสูงในชุดลำลองมองมาที่เจ้าของห้องอย่างเหนื่อยใจนิดๆ “ขอเข้าไปได้มั้ย?”
“แล้วแต่”
ยามาโมโตะ ทาเคชิก้าวเข้ามาในห้อง ถอดรองเท้าวางไว้อย่างเป็นระเบียบแล้วตามเจ้าของห้องไปที่โซนรับแขก
“วันนี้เป็นอะไรเหรอโกคุเดระ”
“ฉันเป็นอะไรล่ะ” ด้วยความรู้สึกผิดเรื่องของขวัญวันเกิด โกคุเดระจึงไม่กล้าสบดวงตาสีดำคู่นั้นโดยตรง แต่กลับแสร้งหันหลังให้และมองออกไปเรื่อยเปื่อยที่นอกหน้าต่าง
“ก็ดูแปลกๆ...ดูอารมณ์เสีย แถมยังไม่ไปกินข้าวกับฉันและสึนะอีก นายโกรธอะไรฉันหรือเปล่า?”
“ฉันไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
“หันหน้ามาคุยกันดีๆ สิ
...อ๊ะ” ร่างสูงที่เริ่มจะทนไม่ได้กับการหลบหน้าดึงแขนอีกฝ่ายให้หันกลับมาหากัน แต่ก็ต้องอุทานเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังน้ำตาไหลไม่หยุดหย่อน ขอบตาก็ช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาหลายครั้ง “ร้องไห้ทำไม...”
“ไม่ได้...ร้องไห้”
“เห็นชัดๆ ยังจะปากแข็งอีก บอกมาเถอะ... เราเป็นแฟนกัน มีอะไรต้องพูดกันระบายให้กันฟังนะ” แต่โกคุเดระก็เอาแต่ส่ายหน้าแรงๆ เม้มริมฝีปากสนิท
ยามาโมโตะยิ้มบางๆ ก่อนจะใช้วิธีเด็ดขาดที่มักจะได้ผลเสมอด้วยการรวบตัวคนตรงหน้าเข้ามากอดแน่นๆ
“นะ...บอกฉันนะ”
น้ำเสียงอบอุ่นกระซิบข้างหูทำให้หัวใจที่ว้าเหว่ตลอดเวลาต้องสั่นไหวได้ทุกครั้ง...คนผมเงินส่งเสียงสะอื้นสองสามครั้งและรวบรวมสมาธิพูด
“ฉันไม่ชอบ...ผู้หญิงพวกนั้นที่เข้ามาเกาะแกะ”
“...”
“ฉันไม่ชอบที่ผู้หญิงพวกนั้นเอาแต่ไล่ตามนาย”
“หึงล่ะสิ”
“ไม่ใช่นะ!” ใบหน้าซุกกับไหล่ของร่างสูงซ่อนแก้มแดงๆ ของตัวเองไว้
“แล้วฉันก็...ไม่ชอบตัวเองเลย”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ฉันที่เป็นแบบนี้น่ะแย่มากๆ...แม้แต่ของขวัญวันเกิดให้นายสักครั้งก็ยังไม่มี ทั้งที่นายทำแต่เรื่องดีๆ เพื่อฉันมาตลอดทั้งปีแต่ฉันกลับทำอะไรเพื่อนายไม่ได้สักอย่าง ฉันไม่ชอบตัวเองเลย”
“แสดงว่า...ที่หนีไปก็เพราะเศร้าสินะ คงน้อยใจสิที่ไม่มีอะไรให้ฉัน” หากแต่อีกฝ่ายในอ้อมกอดไม่ตอบอะไร
“ไม่เป็นไรหรอก นายคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับฉัน ของขวัญอะไรนั่นก็แค่สิ่งของ เทียบกับนายที่มีตัวตนเป็นคนแบบนี้ไม่ได้หรอก เชื่อฉันสิ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันซึ้งใจในวันเกิดเท่ากับคำบอกรักจากนายนะ ...ฉันอยากได้ยินที่สุดเลย”
“...นี่จะหลอกให้บอกรักใช่มะ” โกคุเดระเริ่มเสียงแข็งขึ้นมานิดๆ
“ฮะๆ ก็แล้วแต่จะคิดนะ ไม่ต้องซีเรียสหรอก”
เอาวะ... เอาล่ะทีนี้
มือเรียวบางกำชายเสื้อของยามาโมโตะไว้แน่นก่อนที่จะกลั้นหายใจจนลมหายใจแทบหมดถึงพูดออกมาได้
....
..
.
“ฉัน...รัก..นาย ยามาโมโตะ”
คนผมดำยิ้มแล้วกอดร่างนั้นแน่นกว่าเดิมจนน่ากลัวว่าจะหายใจไม่ออก
“ขอบใจสำหรับของขวัญวันเกิดนะ”
น้ำเสียงที่ดีใจเกินจะกล่าวทำเอาโกคุเดระตาโตด้วยความแปลกใจนิดๆ แต่ก็ยิ้มออกมาอีกคนทั้งน้ำตา...
“แล้วกะว่าจะทำอะไรให้ฉันเหรอ?”
“...เค้กน่ะ”
“หืม..? มิน่าล่ะ หอมเชียว”
หอม? เอารูจมูกข้างไหนดม? โกคุเดระอยากจะถามกลับแบบนี้มากๆ
“เอ๋...?” แต่ดมดีๆ ก็หอมจริงๆ นั่นล่ะ...
ร่างบางดิ้นขลุกขลักนิดๆ ให้อีกฝ่ายปล่อยออกไปดูที่เตาอบ...
“โอ๊ะ..!!!” เค้กกลิ่นหอมสีเหลืองทองน่าทานเป็นที่สุดเสนอหน้าอยู่ในเตาอบซึ่งควันดำจางหายไปแล้ว...
ทีแรก...พอควันดำออกมา ก็หมดหวังนึกว่าจะพังอีกรอบซะแล้ว
ที่แท้ก็เตาอบมันถูกใช้งานหนักเกินจนกระทั่งปล่อยควันแปลกๆ ออกมาเท่านั้นเอง แต่เค้กยังอยู่ดีและดูน่าทานกว่ารอบที่ผ่านๆ มาเสียด้วย
“โห น่าอร่อยจัง...มากินกันเถอะ” ยามาโมโตะที่เดินตามมาดูถึงกับร้องอย่างดีใจและประหลาดใจ
“อื้อ” รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าโดยที่เจ้าของรอยยิ้มนั้นมิได้รู้ตัว...
...ถ้ารู้อย่างนี้ ไม่ร้องไห้ให้เสียเกลือแร่หรอก...
- - - - - - - - - - - - - - - -
“ไง... มาที่นี่ได้ยังไงล่ะ”
“กระผมก็แค่ตามผู้สืบทอดมาเท่านั้นขอรับ” ภาษาสมัยโบราณเป็นเอกลักษณ์ทำให้รู้ทันทีว่าเป็นผู้พิทักษ์พิรุณรุ่นแรก อุเก็ตสึนั่นเอง
“อืม...” ดวงจิตของจีพยักหน้ารับรู้ ทั้งสองร่างบนต้นไม้ต่างพากันมองตรงไปที่ท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยประกายดวงดาวระยิบระยับงามจับตา ก่อนที่ผู้พิทักษ์พิรุณจะหันกลับมามองเสี้ยวหน้าที่ดูเย่อหยิ่งแต่งดงามไม่แพ้ดวงจันทร์ยามคืนเพ็ญ
“แต่นอกเหนือจากสิ่งอื่นใด...กระผมก็อยากมาพบคุณด้วย”
“พบฉัน...พบทำไม หรือพรีโม่มีคำสั่งอะไร”
“... อุ๊บ”
“?”
“ฮ่าๆๆ” ชายในชุดขุนนางญี่ปุ่นเงียบไปและหัวเราะสดใส มองหน้าผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกที่ดูจริงจังเกินเหตุเสมอ
“กระผมก็แค่คิดถึง...ต้องมีเหตุผลอื่นๆ ด้วยหรือขอรับ หรือว่า...ต้องบอกเวลากับคุณเสียก่อน” ยิ้มที่เหมือนน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงจิตใจพร้อมทั้งเหตุผลหวานเลี่ยน...จีแทบจะอยากอ้วกถ้าไม่ติดอารมณ์ซาบซึ้งซะก่อน
“เฮอะ จะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้” ชายร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็กแสร้งเบ้หน้า ฝืนไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา นัยน์ตาสีแดงเพลิงราวกับไฟบรรลัยกัลป์เบนไปพบกับดวงตาคู่คมที่ดูใจดีและอ่อนโยนอยู่เสมอแม้จะเวลาจะผ่านมานานแสนนาน ”ถึงจะไม่มีเหตุผลฉันก็จะพยายามเข้าใจละกัน” ลมวูบหนึ่งที่พัดมา แม้ผิวกายจะสัมผัสมันไม่ได้อีกแล้วแต่หัวใจก็ยังสั่นๆ และหลงใหลไปกับบทเพลงของเครื่องดนตรีโบราณซึ่งอีกฝ่ายเริ่มบรรเลงอย่างไพเราะจับใจ...
อาการใจสั่น...อาจจะไม่ใช่เพราะลมหนาวก็ได้...ก็ตอนนี้ทั้งสองแก้มออกจะร้อนๆ นี่นา ลมมันพัดไม่โดนผิวหน้าเลยหรือยังไงกัน...
.....
แสงหลอดฟลูออเรสเซนส์ที่ส่องสว่างกลางดึกจากห้องของโกคุเดระ ฮายาโตะนั้นไม่มีท่าทีจะดับลงง่ายๆ
...นี่น่ะหรือที่นายเคยบอกว่าไม่มีเวลาอีกแล้ว...เจ้าผู้สืบทอดงี่เง่า
เวลาน่ะมีให้อยู่เสมอแหละ แล้วแต่ว่าในช่วงเวลานั้นนายจะสามารถทำอะไรได้บ้างแค่นั้นเอง...
พอพูดถึงเวลา ตัวเขาเองจะอยู่ไปได้อีกนานเท่าไหร่กันนะ... อยากจะรู้แต่ก็ไม่เคยกล้าพิสูจน์และถามใคร
เพราะมันคือปริศนาน่าปวดหัวเช่นเดียวกับการมีอยู่ของ “นิรันดร”...
“อุเก็ตสึ..”
“...อะไรหรือขอรับ” เสียงเพลงหยุดลงทันที แต่ยังมีทำนองจิ้งหรีดเรไรพอได้กำกับบรรยากาศร่วมกับสายลมที่หวีดหวิว
“...รักฉันมั้ย?”
“รักสิขอรับ..”
“จะรักต่อไปใช่มั้ย...?”
“ชั่วนิรันดร์...” สองดวงจิตนั่งเคียงกันใต้ผืนดาว คำว่าชั่วนิรันดร์นั้นช่างน่าขำเหลือเกินสำหรับมือขวาของวองโกเล่พรีโม่
“แล้ว...ชั่วนิรันดร์มันนานเท่าไหร่เหรอ..?”
ผู้พิทักษ์พิรุณรุ่นแรกไม่มีคำตอบให้... ทว่ารอยยิ้มที่ถูกส่งไปให้อุ่นใจและมือที่ลูบหัวคนรักนั้น เขาเชื่อเหลือเกินว่าจะสามารถแทนคำสัญญานี้ได้
แล้วใครล่ะจะรู้...
Who knows?
Maybe fate, destiny..?
Actually, nobody knows except them. : )
THE END
มาฝอยกันเถอะ!
- ว้ายยยย กรี๊ดดดดดด เสร็จแล้วค่าเสร็จแล้ว ฟิคเบิร์ธเดย์ยามะปีที่ 2 XD หวังว่าจะชอบกันนะคะ เรื่องนี้แบบเนื้อหาส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับชื่อเรื่องเลยอ่ะ...
- ตอนจบก็ไม่รู้จะจบยังไงจริงๆ เลยตัดอีแบบนี้แหละ ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเท่าไหร่ขอโทษนะก๊ะ -w- กลัวเรื่องมันยาวไม่พออีกต่างหากเลยเพิ่มคู่ปู่ๆ เข้ามาด้วยนิสนึง
- แลดูปู่จีนี่บทเยอะเนอะ เยอะกว่าซืออย่างเห็นได้ชัดเลย = = แล้วตอนจบมันอะไรล่ะนั่น แต่งยามะโกคุแล้วอยู่ดีๆ จบที่อุเก็ตสึจีได้ยังไงเนี่ย 55555
- แต่งไปได้ครึ่งเรื่องเครียดมาก เหลือไม่กี่วันต้องลงแล้วเลยสปีดไฟลุก ความขยันโหมกระหน่ำ หนังสือสอบรามฯ แทบไม่มีสมาธิแตะ แต่ก็ไม่ทุกข์ร้อนอยู่ดีล่ะค่ะ TwT #ยิ้มสู้ น้ำตาไหล
**สุดท้ายนี้ ขอให้พ่อเนียนขั้นเทพมีความสุขกับหนูก๊กนานๆ นะจ๊ะ อุฮิ >//< **
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ><
แต่ตอนนี้ บ๊ายยยยยยยยบี ล่ะค่ะ (ไม่ลืมคอนเซปต์บอกลาแบบเบล) ^_____^//
ป.ล. ตายละหว่า...วันเกิดฮิจังอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ =_= ปั่นฟิคทันป่ะเนี่ย??
ผลงานอื่นๆ ของ Farzhies ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Farzhies
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น