ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Possessor of Infinite : ความต้องการ ไม่มีที่สิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #2 : #2 Possessor Origin : ความช่วยเหลือจากชายในชุดเกราะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 55


    นิวยอร์ค
    ณ โกดังร้างแห่งเดิมจากตอนที่แล้ว


    หมอหนุ่มพยายามก้าวขาอย่างสุดชีวิต ตรงดิ่งไปที่รถเฟอรารี่สีขาว มันอยู่แค่เอื้อมแล้วตอนนี้

    เขาพยายามเปิดประตูรถ แต่มันดันล็อคอยู่  ‘’กุญแจมันอยู่ในโกดังนี่ ชิบหายแล้ว’’

     

    ทันใดนั้นร่างสีดำทมิฬ ผิวหนังหยาบกร้านคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน มีท่อสายเคมีระโยงระยางเต็มตัวเขา

    ก็พังประตูสังกะสีบางๆ ออกมาอย่างง่ายดายด้วยหางอันแหลมคมลักษณะคล้ายหางไดโนเสาร์

    ‘’ชั้นหยิบมาให้แล้วพ่อหนุ่ม’’ ชายครึ่งคนครึ่งเอเลี่ยนกล่าว

     

    แซมไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากตัดสินใจวิ่งต่อ เพราะเขารู้ว่า ที-แบ็ค ไม่มีวันไว้ชีวิตเขาแน่

    ทันใดนั้น ที-แบ็ค ก็วิ่งเข้ามาขวาง ด้วยเชื้อเอเลี่ยนในตัวเขาทำให้เขามีความเร็วและประสาทสัมผัส

    เหนือมนุษย์ ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาเทียบเคียงกับพลังซุปเปอร์โซลเดอร์ เลยทีเดียว

     

    ที-แบ็คโชว์พาวขู่ หางเอเลี่ยนที่ยืดได้สูงถึงสองเมตรครึ่ง ปักเข้าอย่างจังที่ถังน้ำมันของรถเฟอรารี่สุดหรู

    ตูม!!! ตอนนี้รถหรูราคา30ล้านของแซมแหลกเละเป็นเศษเหล็กไปในพริบตา

    ส่วนร่างของหมอหนุ่มกระเด็นลงไปนอนกลิ้งเกลือกอยู่กับพื้น

    โชคดีที่มีพลัง healing factor จากสารที่เขาได้รับ ช่วยสมานบาดแผลที่เกิดจากแรงระเบิดไว้ได้

     
     

    ‘’อาวุธของพรีเดเตอร์อยู่ทีแกใช่ไม๊’’ ที-แบ็คบันดาลโทสะ เขาไม่อยากใจเย็นอีกต่อไป

    ‘’อาวุธอะไร ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ปล่อยชั้นไปเถอะ‘’ แซมอ้อนวอน ร้องขอชีวิตจากสัตว์ประหลาด

    นัยตาสีน้ำตาลของเขาสั่นคลอน ดวงตากลมโตทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า

     

    ‘’แกไม่บอกชั้นดีๆว่ามันอยู่ที่แขนข้างไหน งั้นชั้นคงต้องตัดแขนแกมันทั้งสองข้างนี่แหละ’’

    ชั้นควรจะเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นแบบนี้ แกทำให้ชั้นเป็นแบบนี้ แล้วแกยังเอาของของชั้นไปอีก’’

    ที-แบ็คโกรธแค้นเด็กหนุ่มซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เขาง้างหางเต็มเหนี่ยวหวังที่จะตัดแขนของแซม

     

    ทันใดนั้นแผ่นเหล็กสีเงินบลอนด์ก็ค่อยแทรกซึมขึ้นมาตามผิวหนังของข้อมือและมือซ้ายแซม

    มันประกอบกันเป็นอาวุธติดกับข้อมือ อัดแรงดันมวลขนาดมหาศาลเข้าใส่ ที-แบ็ค อย่างจัง

    ชายครึ่งสัตว์ประหลาดกระเด็นไปอัดกับซากรถเฟอรารี่ หนาซ้ำยังถไลไปกับพื้นถนนอีก2เมตร

    ขณะที่แซมกำลังงงกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ช่วยชีวิตเขาไว้

     
     

    ทันใดนั้นชายในชุดเกราะสีแดงขลิบเหลือง ก็บินลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับเสียงปรบมือเบาะๆ

    ‘’สุดยอดเลยว่ะไอ้หนู ไอ้ที่ข้อมือนายนั่นน่ะ’’  ชายในชุดเกราะเลื่อนหน้ากากขึ้นข้างบน

    ใบหน้าที่ปรากฎต่อหน้าแซมนั่นก็คือ โทนี่ สตาร์ก เจ้าชุดเกราะไอรอนแมนนั่นเอง

     

    ไอรอนแมนกางแขนขึ้นพร้อมอ้าฝ่ามือออก แล้วแสงสีขาวก็ปรากฎขึ้นบนกลางฝ่ามือของเขา

    แสงสีขาวนั้นพุ่งเข้าไปหา ที-แบ็ค ทำให้สัตว์ประหลาดครึ่งเอเลี่ยนยิ่งเละเข้าไปอีก

    ตอนนี้จากซากรถเฟอรารี่เน่าๆติดไฟ มันกลายเป็นเศษขี้เถ้าไปเสียแล้ว

    ‘’พังอีกนิดคงไม่เป็นไรมั้งเนอะ เดี๋ยวชั้นซื้อใหม่ให้’’ โทนี่พูดได้อย่างเต็มอก เพราะเขารวยมากๆ

     
     

    เสียงลมแรงดังพับๆที่ท้องฟ้าในตอนกลางคืนอันเงียบสงัด เป็นอะไรอื่นไม่ได้นอกจากเฮลิคอปเตอร์

    หน่วยชิลด์มาถึงแล้ว พวกเขามาตามหาพลังงานมหาศาลเช่นกัน

    ชายผู้ผิวหมึกผู้มีตาขวาข้างเดียวได้กระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เป็นคนแรก

    ‘’จับไอ้เอเลี่ยนบ้านี่ไว้ซะ’’ นิคสั่งลูกน้องให้รีบล็อคตัว ที-แบ็ค ไว้ก่อนที่เขาจะหนีไป

    ‘’เอ่อ พวกคุณคือใคร เป็นคนจากรัฐบาลเหรอ FBI CIA NSA ? ’’

    แซมถามด้วยความสงสัยในยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเวอร์เกินกว่าจะเป็นกลุ่มคนระดับล่าง

     

    ‘’ผมคือ นิค ฟิวรี่ พวกเราคือหน่วย S.H.I.E.L.D เราจำเป็นต้องนำตัวคุณไป’’

    ‘’ได้โปรดล่ะ ผมจะไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้น วันนี้ผมเจอเรื่องบ้าๆมามากพอแล้ว’’ แซมหงุดหงิดใส่

    ‘’ตอนนี้คุณมีอาวุธยุทโธปกรณ์ขั้นสูงเกินกว่าพลเรือนจะมีไว้ซึ่งครอบครอง ทางเราจำเป็นต้อง

     อาวุธของคุณเพราะมันมีความเสี่ยงต่อความมันคงของชาติ และจำเป็นต้องนำตัวคุณไปสอบสวน’’

     

    ‘’เดี๋ยวสินิค เด็กคนนี้เป็นของชั้นต่างหากโว้ย ชั้นสัญญากับเขาไว้แล้วโว้ย’’  โทนีคุยเกทับนิค

    ‘’พอที ทั้งผมทั้งไอ้อุปกรณ์ในแขนผม ไม่ใช่ของใครทั้งนั้นแหละ ผมจะกลับบ้านแล้ว’’ 

    แซมโมโหหนักขึ้นอีก แล้วรีบเดินออกไปให้เร็วที่สุด

    ‘’งั้นให้ผมไปส่งดีกว่านะ’’ โทนี่พยายามตื้อ เพื่อซื้อใจแซม

     

    ทันใดนั้นก็มีรถเฟอรารี่สีขาวคันใหม่เอี่ยมวิ่งมาตัดหน้าแซม

    ชายในชุดสูทลักษณะคล้ายพ่อบ้าน เดินลงมาจากรถพร้อมเปิดประตูรถให้

    ‘’สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆจาก สตาร์กอินดัสทรีครับ’’

    แล้วโทนี่ก็พูดแทรกขึ้น  ‘’เอางี้ ให้ชั้นขับไปส่งเธอเองละกัน ดีไหม’’

    ‘’เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่รถนี่ก็มากพอแล้วละครับ’’ แซมเกรงใจ และเขาเริ่มสงบสติอารมณ์เบาลงมา

    ‘’เอาเถอะน่า ชั้นเองก็มีส่วนที่ทำให้นายต้องเสียรถไปเหมือนกัน’’ โทนี่พยายามตื้อสุดชีวิต

    ‘’ก็ ก็ได้ครับ... ขอบคุณนะครับ’’ แซมเกรงใจในความพยายามของโทนี่

    เมื่อแซมตอบตกลง กระโดดขึ้นไปที่ที่นั่งคนขับ พร้อมแสยะยิ้มขยับตาทำท่ากวนใส่นิค  

    ตอนนี้การมาดีของสตาร์กอินดัสทรี ทำแต้มนำชิลด์ไปแล้ว...

     

    ‘’เราจะทำยังไงต่อดีค่ะ ท่านนายพล ท่าทางเขาจะไม่อยากมากับเรา’’  นาตาชาถามถึงคำสั่งต่อไป

    ‘’ปล่อยเขาไปก่อน ตอนนี้ผมต้องการรีดข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธนั่น จาก ที-แบ็ค ให้ได้มากที่สุด’’ นิคตอบ

     
     

    อีกฟากหนึ่ง โทนี่ขับมาส่งแซมถึงบ้านเรียบร้อย

    ‘’ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะครับ’’

    ‘’ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เล็กน้อย แล้วนี่นามบัตรชั้น ถ้านายพร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้ทุกเมื่อนะ’’  

    โทนี่ยิ้มใส่ แล้วเขาก็ใส่หน้ากาก เหาะกลับไป

     

    ทันทีที่แซมกลับบ้านมาถึง เขาเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็มาเจอกับ

    สาวคอเคเชี่ยน ผมบลอนด์ยาวสลวย ดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยน้ำตา กำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่

     

    ‘’ทำไมกัน นี่มันกี่ครั้งแล้วที่คุณไม่เคยมาตามนัด วันนี้ตารางงานคุณอุตส่าไม่มีกะกลางคืนแล้ว

    แทนที่เราจะได้มีความสุขด้วยกัน แต่คุณกลับไม่มา พอกันที ทั้งเงินทั้งความมั่งคั่งที่คุณมีให้ชั้น

    มันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี ถ้าเราไม่มีเวลาให้กัน‘’  แล้วเธอก็หอบข้าวของเดินสวนทางออกประตูไป

    ‘’เดี๋ยวๆ ครั้งนี้มันไม่ใช่อย่างงั้น ทิฟฟานี่ ฟังผมก่อน’’ แซมพยายามง้อ แต่ก็ไม่สำเร็จ


    ความสูญเสียความหมดหวังทำให้แซมตัดสินใจหยิบนามบัตรของโทนี่ขึ้นมา

    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด...

    ‘’ว่าไงไอ้น้อง เป็นไงมั่ง’’

    ‘’คุณสตาร์ก คุณเป็นเจ้าพ่อเพลย์บอยที่มีผู้หญิงมากมายเลยใช่ไหม’’

    ‘’อืม ใช่แล้ว ชั้นเป็นทั้ง สุดยอดอัจฉริยะ เศรษฐีพันล้านเจ้าสำราญ บลาๆๆ’’

    ‘’ถามหน่อย แล้วถ้าจะหาความสุขจากการอกหักนี่ทำยังไง’’

    ‘’ไอ้ชั้นก็ไม่เคยอกหักหรอกนะ แต่รู้ว่าคำตอบมันง่ายมากจริงๆ รอแปปนะ’’

     
     

    ประมาณซักห้านาทีก็มีรถมารับแซมถึงบ้านไปส่งยังสตาร์กทาวเวอร์สาขานิวยอร์คถึงที่

    ‘’ชั้นว่าแล้วว่านายต้องมา ว่าแต่ คงไม่ได้มาเรื่องงานใช่ไม๊’’

    พอพูดจบโทนี่กดลิฟต์พาแซมลงไปชั้นดาดฟ้า  

     

    ภาพที่แซมเห็นนั้นคือปาร์ตี้ริมสระ(พร้อมเค้ก) พร้อมนางแบบ สาวงามในเสื้อผ้าน้อยชิ้นนับร้อยชีวิต

    ‘’ลืมความทุกข์ในวันนี้แล้วมาสนุกให้เต็มที่กันเถอะ’’ พูดจบโทนี่ก็กระโดดลงสระไปสนุกกับสาวๆ

    แซมก็ตัดสินใจโดตามไปทันที  ... สตาร์กอินดัสทรี ทำแต้มซื้อใจแซมนำห่างชิลด์ไปเป็นอีกแล้ว

     
     

    อีกฟากหนึ่งทางฝั่งของหน่วยชิลด์...

    ยานขนย้ายนักโทษของหน่วยชิลด์กำลังพาตัว ที-แบ็ค ไปสอบสวนที่ฐานใหญ่

    ‘’เฮ้ยนั่นมันยานอะไรกัน’’ นักบินเห็นพาหนะแปลกปลอมบินมาขนาบข้างยานของเขา

    นักล่าร่างยักษ์ทรงผมเดรดร็อคภายใต้หน้ากากเหล็ก กระโดดเข้ามาเกาะที่ด้านข้างยานของชิลด์

    กรงเล็บเล็กยาว9นิ้วสุดแข็งแกร่ง ทำให้มันสามารถเจาะทะลวงเหล็กเข้ามาข้างในได้อย่างง่ายดาย

    เจ้าหน้าที่พยายามยิงปืนใส่มัน เพื่อป้องกันนักโทษไว้ให้ได้ แต่กระสุนแทบไม่มีผลอะไรต่อร่างกายมันเลย

    มันจัดการฆ่าเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเลือดเย็นไม่เว้นแม้แต่นักบิน ตอนนี้ยานของชิลด์กำลังจะดิ่งลงสู่พื้นดินแล้ว

    ‘’แกคือพรีเดเตอร์เหรอ ไม่จริงใช่ไหม’’  ที-แบ็ค ถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน

    ‘’ใช่ ชั้นก็คือสัตว์ประหลาดเหมือนแกเนี่ยแหละ แต่แค่คนละสายพันธุ์ ชั้นคือ ผู้ล่า... ’’  พรีเดเตอร์ตอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×