[SF 'Prince of Tennis'] Fuji & Nanako เพราะชอบถึงบอกรัก
ชอบ Prince of Tennis มากกก เลยเเอบแต่งฟิคนี้มาให้อ่านกันเล่นๆ อย่าว่ากันถ้าไม่ถูกใจ รีเควสคู่ก็ได้นะคะ เราจะรับไว้พิจารณา...
ผู้เข้าชมรวม
1,373
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ครืด....
เมอิโนะ นานาโกะ เปิดประตูบ้านออกมาแล้วก็ผงะไปเล็กน้อยเนื่องจากมีกลุ่มคนที่ยืนอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
...พวกนักเทนนิส ของเซงาคุ...
“เอ่อ....พวกคุณมาทำอะไรกันคะเนี่ย” นานาโกะตัดสินใจถามออกไป กลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าเธอก็ได้แก่ โมโมชิโร่ ทาเคชิ ฟูจิ ไคโด คิคุมารุ โออิชิ อินูอิ และเท็ตสึกะ นี่พวกเขามาทำอะไรที่บ้านของเรียวมะในวันหยุดแบบนี้เนี่ย -_-^
“อ้าว เจ้าเปี๊ยกไม่ได้บอกว่าพวกเราจะมาที่นี่หรอฮะ O_O” คุคิมารุ ในสภาพที่ผมสีแดงยุ่งกล่าวอย่างงงๆ นานาโกะส่ายหน้าอย่างไม่รู้เรื่อง ก่อนจะยิ้มอย่างน่ารัก แล้วพูดขึ้นว่า
“งั้นเชิญทุกคนเข้ามาก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปปลุกเรียวมะคุงมาให้ ^_^” ส่วนพวกหนุ่มๆที่เห็นรอยยิ้มนั่นก็ถึงกับเขินกันไปเป็นแถบๆแล้วเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไป
“ว้าว OoO มีสวนสวยจังนะครับ” โออิชิร้องอย่างตะลึง เมื่อนานาโกะเดนพามาที่สวนหลังบ้าน ซึ่งมีพรรณไม้นานาชนิดเต็มไปหมด
“งั้นพวกคุณรอกันอยู่ที่นี่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเอาน้ำมาให้ ^^” นานาโกะเอ่ย แล้วหันหลังเตรียมจะเดินไปเอาน้ำมาให้แต่เสียงหนึ่งก็ขัดไว้ก่อน
“เดี๋ยวครับ!” ฟูจิเป็นคนที่เรียกเธอไว้ ก่อนที่เข้าจะเดินตามมา
เอ๋ ?...
“ผมไปช่วยยกมาให้ดีกว่า ^_^” คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่สาวๆต่างหลงใหล ทำให้นานาโกะยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไร แล้วเดินนำไปยังห้องครัว
ตึก ตึก ตึก....
เสียงฝีเท้าของคนทั้งสองที่ดังมาทำให้คนที่นอนหลับอยู่นั้นลุกขึ้นมานั่งจุมปุ๊กอย่างงัวเงีย
ครืน....
ประตูเปิดออก ภาพตรงหน้าของนานาโกะเป็น เด็กหนุ่มผมสีดำอมเขียวที่นั่งอยู่ตรงที่นอน พร้อมกับแมวคู่ใจอย่าง คาลปิ้น ที่เดินเซไปเซมาจนกลับมานอนบนตักของเรียวมะดังเดิม เจ้าเปี๊ยกในสายตาของฟูจิ หาวอย่างงัวเงีย แล้วหันมามองคนที่ยืนอยู่ตรงประตู
นานาโกะ เป็นพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง เธอเป็นเสมือนแม่อีกคนเลยก็ว่าได้ ค่อยดูแลบ้านทุกอย่างทั้งๆที่ยังเรียนมหา’ลัยอยู่ แถมเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยมากๆด้วย ทีแรกเรียวมะสังเกตเห็นเพียงลูกพี่ลุกน้องของตัวเอง แต่พอมองข้ามไปข้างหลังหญิงสาวก็พบว่า....
“รุ่นพี่ฟูจิ!!!!!” เสียงอันตกอกตกใจของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของหนุ่มสาวทั้งสองได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เจ้าเปี๊ยกจะกระพริบตาปริบๆแล้วถามต่อว่า
“ทำไมถึงมาอยู่ที่ไหนได้ล่ะฮะ”
“อ้าว ก็เมื่อวานที่โมโมะจัง (โมโมชิโร่) ขอว่าจะมาเที่ยวบ้านนายวันหยุดนี้ไง เห็นเอจิเซ็นคุงไม่ว่าอะไร พวกเราก็เลยมาที่นี่ยังไงล่ะ ^_^” พอฟูจิพูดจบ เรียวมะก็ล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งแล้วก็เด้งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้คาลปิ้นกระโจนออกมาจากตักของคนที่มันนอนอยู่อย่างรวดเร็วเช่นกัน แล้วก็พุ่งตัวไปที่ฟูจิทันที คนที่รับแมวสีขาวไว้อย่างไม่ทันตั้งตัวเลยเสียหลักล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้นเช่นเดียวกัน
“คิก คิก ๆๆ” เสียงหัวเราะคิกคักของนานาโกะที่ตอนนี้ยืนอยู่พร้อมกับถาดน้ำในมือ หญิงสาวมองเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่จับตัวคาลปิ้นกลางอากาศไว้
...ท่าทางตลกขนาดนั้นเลยหรอ...
ฟูจิคิดอยู่ในใจ ก่อนจะวางเจ้าแมวสีขาวลงกับพื้น แล้วยัยตัวเองขึ้น ส่วนคาลปิ้นก็เข้าไปคลอเคลียอยู่ที่ขาของนานาโกะ เธอยิ้มออกมา โดยที่ไม่รู้ว่าฟูจิมองท่าทางเหล่านั้นอยู่
“ข้าวอยู่ในครัวนะคาลปิ้น รีบๆไปกินเร็ว” พูดจบเจ้าแมวก็เลิกคลอเคลียขาแล้วเดินเหยาะๆไปยังห้องครัวทันที แล้วนานาโกะก่อนหันมาพูดกับคนในห้องที่พยายามตั้งสติตัวเองอยู่
“คุณเรียวมะรีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวเพื่อนจะรอนาน...ส่วนอาหารเช้าฉันวางไว้อยู่บนโต๊ะอาหารแล้วนะคะ” เรียวมะพยักหน้าอย่างเข้าใจ นานาโกะเลยยิ้มออกมาแล้วเตรียมจะออกเดินไปที่สวน แต่มีมือของฟูจิยืนมาอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาก็พบแต่รอยยิ้มดังเดิม
“ผมช่วยถือครับ แค่พวกผมมารบกวนแต่เช้าก็เกรงใจจะแย่แล้ว ^_^” แล้วถาดน้ำก็ไปอยู่ในมือของชายหนุ่ม จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกัน
“ก็ไม่เช้าหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยถือ ^_^”
“พี่สาว เจ้าเรียวมะเนี่ย ขี้เซาได้ขนาดนี้เชียวหรอ” คิคุมารุถามนานโกะที่กำลังแจกน้ำให้กับทุกคน ซึ่งถือเป็นคำถามที่เรียกรอยยิ้มจากหญิงสาวได้ดีทีเดียว ก่อนจะค่อยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ
เรียวมะเวลาที่อยู่บ้านให้หนุ่มรุ่นน้องฟัง
“คุณเรียวมะน่ะ เป็นอย่างนี้ประจำแหละค่ะ ตื่นนอนสายทั้งๆที่ไม่ได้นอนดึกแต่อย่างใด แถมเป็นคนที่เจ้าคาลปิ้นติดเอามากๆเลยล่ะค่ะ .....”
“เจ้าคาลปิ้นนี้มันตัวอะไรหรอครับ?” อินูอิที่กำลังจดข้อมูลที่หญิงสาวเล่ามาลงในสมุดพกพาประจำตัวเงยหน้าขึ้นมาถามถึงชื่อที่เขาสงสัย นานาโกะยิ้มให้แล้วก็เล่าต่อว่า
“คาลปิ้นเป็นแมวตัวโปรดที่คุณเรียวมะเลี้ยงไว้นะค่ะ เวลานอนก็ต้องนอนด้วยกัน ชอบเดินตามคุณเรียวมะตลอดด้วย.....”
“นานาโกะนี่ไม่ไหวจริงๆเลย -_-^” เสียงของคนที่ทุกคนรออยู่ดังมา ทำให้คนที่ฟังเรื่องเล่าอยู่นั้นอย่างคิคุมารุกล่าวว่าเจ้าเปี๊ยกที่มาขัดจังหวะ
“ตื่นสายยังจะมีหน้ามาว่าคนอื่นเค้าอีกหรอ เจ้าเปี๊ยก!!”
“แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะว่าจะมาบ้านผมกันวันนี้น่ะ -_-!///” ใบหน้าที่แสดงถึงความไม่ต้อนรับแขกของเจ้าเปี๊ยก ที่ขยี้หัวตัวเองอย่างเซ็งๆ โมโมชิโร่ที่ยืนเงียบมานานเลยบอกว่า
“อ้าว ก็นายตอบตกลงแล้วนี่...แล้วทำไมนายว่าพี่สาวนายอย่างนั้น่ะ!” คนถูกถามยักไหล่แบบไม่สนใจ แล้วพูดประโยคที่ทำให้คิคุมารุและโมโมะจังอยากจะเข้าไปเตะคนพูด
“ก็ไม่ได้ห้ามเรียกนี่นา พวกรุ่นพี่นั่นแหละมายุ่งทำไม -_-*”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณเรียวมะก็เรียกแบบนี้มานานแล้ว...ว่าแต่คุณเรียวมะทานอาหารเช้ารึยังค่ะ”
“ผมวางจานไว้ที่ล้างจานแล้ว ที่เหลือฝากด้วยล่ะกัน” นานโกะยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยกถาดที่ว่างเปล่าขึ้นมาถือไว้ แล้วหันมาพูดกับรุ่นน้องหนุ่มๆทั้งหลายว่า
“ถ้าอยากทานขนมอะไรก็บอกแล้วกันนะคะ ดิฉันขอตัวไปทำงานอื่นก่อน” พูดจบเธอก็ก้มโค้งให้ทุกคนเล็กน้อย ส่วนรุ่นน้องทั้งหลายก็รีบก้มหัวกันอย่างรวดเร็ว นานาโกะเดินเตรียมจะเข้าไปในบ้าน แต่เสียงของเรียวมะก็ขัดไว้ก่อน
“แล้วพ่อล่ะ” นานาโกะยืนหยุดก่อนจะตอบไปว่า
“เห็นคุณลุงออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ เห็นว่าจะไปซื้อหนังสืออ่าน” พูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านทันที โดยทั้งหมดอยู่ในสายตาของหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ไม่ว่าที่ไหนก็มีแต่รอยยิ้ม
ฟูจิมองร่างบางที่เดินไปแล้วอย่างสงสัยว่า ทำไมเธอถึงต้องเรียก เอจิเซ็นคุงว่า ‘คุณเรียวมะ’ พอหันกลับมาเห็นรุ่นน้องที่อายุน้อยสุดมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขาเลยต้องแกล้งยิ้มไปอย่างไม่สนใจ
“เอจิเซ็นคุง!!! ทำไมนายมีพี่สาวที่น่ารักแบบนี้แล้วไม่บอกล่ะ ^O^” คิคุมารุกระโดดเข้าไปกอดคอเรียวมะ ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ามีความสุขสุดๆ
“เอจิเนี่ย เห็นสาวไปไม่ได้นะ ชอบไปหมดทุกคน ^_^” ฟูจิพูดอย่างยิ้มๆ และนั่นทำให้ถูกเจ้าเปี๊ยกตอบกลับมาว่า
“รุ่นพี่ฟูจิก็เป็นเหมือนกันด้วยไม่ใช่หรอครับ ผมเห็นนะว่า รุ่นพี่น่ะ...มองนานาโกะอยู่ ^_-” คำพูดของเรียวมะเรียกความสนใจของทุกคนให้กลับไปมองฟูจิที่ตอนนี้ยืนยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนแต่อย่างใด
“อ้าว ก็พี่สาวของเอจิเซ็นคุงน่ะ น่าสนใจนี่นา แล้วอีกอย่าง...เขาก็ไม่ได้เขียนป้ายว่า ห้ามมอง ไว้สักหน่อย จริงมั้ย ^^” ประโยคที่เล่นเอาคนฟังอึ้งไปเป็นแถบๆพร้อมทั้งตัวคนถามเองด้วย
...ใครจะไปคิดว่า ฟูจิ ชูสึเกะ คนนี้จะมีมุมแบบนี้ด้วย...
“ฟูจิ....” เสียงเรียกจากคนข้างๆ เท็ตสึกะพูดชื่อเพื่อนของตัวเองออกมา ทำให้ฟูจิหัวเราะแก้สถานการณ์ได้อย่างแนบเนียน
“555 พวกนายนี่เชื่อคนง่ายจังเลยนะ ฉันก็แค่พูดเล่นๆไปอย่างนั้นแหละ ^O^”
“แหะๆๆ อย่าให้พวกฉันแล้วกันว่านายคิดยังไงกับพี่สาวคนนั้นน่ะ >_<” ฟูจิมองเพื่อนร่วมชมรมก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่คุย โดยในใจกลับไม่เป็นอย่างใบหน้าเลย เพราะตอนนี้...เขาก็ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่า...ตัวเขาจะเก็บความรู้สึกนี้ได้นานเท่าไหร่
เช้าวันอาทิตย์ที่แสนจะสุขสบาย นานาโกะที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสบายๆนั่นก็คือ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น เธอหยิบกระเป๋าเงินที่คุณลุงนันจิโร่ (คุณพ่อของเรียวมะคุง)วางไว้เพื่อให้ไปซื้อข้าวของต่างๆ จากนั้นหญิงสาวก็เดินออกไปจากบ้าน เธอล็อกรั้วไว้ เพื่อความปลอดภัย เพราะแม้จะมีเรียวมะคุงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องอยู่บ้าน แต่ก็หลับอยู่ เธอเลยต้องป้องกันเอาไว้ก่อนที่อันตรายจะเกิด
ที่ตลาด
เธอเดินเลือกซื้อของไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินตามอยู่ห่างๆ ฟูจิที่เดินตามข้างหลังของหญิงสาวรุ่นพี่ยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นเธอเดินเลือกซื้อของในวันหยุดแบบนี้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี ร่างสูงยืนมองอยู่ห่างๆแต่ก็ไม่ไกลจากตัวหญิงสาวมากนัก เธอกำลังยืนเลือกซื้อผักสดอยู่
“อ้าวพ่อหนุ่ม...ยืนอยู่ตรงนั้นไม่คิดจะมาช่วยแฟนถือของเลยหรอ!”
“O_O! / ^_^!” ใบหน้าอันตกใจของนานาโกะกับใบหน้าของเขาเอง พอถูกจับได้ชายหนุ่มเลยต้องเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ถือผักค้างไว้อยู่
“โทษทีนะครับที่แอบอยู่น่ะ มาครับ ผมช่วยถือ ^_^//” ฟูจิแอบหน้าแดงนิดๆ ทำให้นานาโกะยิ้มให้อย่างเขินๆ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ผู้ชายคนนี้ถึงทำให้เธอยิ้มได้อยู่เรื่อย ร่างบางยืนของที่ถือไว้ไปให้ชายหนุ่มซึ่งรอรับอยู่ สัมผัสอันแผ่วเบาที่มือของคนทั้งคู่ พลันก็เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าของคนทั้งสองในทันที
“แหม หนุ่มสาวสมัยนี้เนี่ยหวานกันจริงๆนะ มาซื้อของที่ตลาดด้วยกันอย่างนี่เนี่ย ^O^” คุณป้าที่เป็นแม่ค้าขายผักเอ่ยแซวทั้งคู่เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากบรรดาแม่ค้าร้านอื่นได้เป็นอย่างดี ฟูจิยิ้มให้กับบรรดาแม่ค้าที่มองทั้งคู่อยู่ ส่วนนานาโกะก็รีบจ่ายเงินค่าผักแล้วก็เดินนำลิ่วไปโดยไม่รอชายหนุ่ม
“เดี๋ยวสิ! นาโกะจัง รอผมด้วยสิ” ฟูจิที่เดินเร็วตามมานั่นเรียกหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าไว้ เขาเดินลัดเลาะมาจนเจอกับคนพวกหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้า แทนที่จะเดินหันกลับไปทางอื่น แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้เพราะตอนนี้นานาโกะกำลังถูกคนพวกนั้นล้อมไว้อยู่ ร่างสูงวางของไว้ที่โต๊ะใกล้ๆก่อนจะเดินฝ่าวงเข้าไปคว้าตัวหญิงสาวมาใกล้ตัว
“เฮ้ย!! แกเข้ามาทำเวรอะไรว่ะ!!!” หนึ่งในพวกมันถามด้วยคำหยาบคาย นานาโกะที่ตอนนี้ถูกร่างสูงบังไว้ พร้อมกับกุมมือเธอไว้ข้างหนึ่ง ฟูจิในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวมองหน้ากลุ่มพวกผู้ชาย 3 คนที่เข้ามาหายุ่งกับผู้หญิงของเขา (เป็นตั้งแต่เมื่อไร? คนเขียนไม่เห็นรู้เรื่องเลย T^T) และท่าทางมันดูจะอยากมีเรื่องกับเขาเต็มที่แล้วด้วยสิ สงสัยจะไม่รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร...
“หลบไป !!!” นัยน์ตาสีฟ้ามองพวกมันแต่ละคนด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเหมือนกับคนละคน ชายคนที่เข้ามาหาเรื่องถึงกับผงะไปด้วยความกลัวเล็กน้อย
“ฉันเตือนแล้วนะ นาโกะจัง เธอช่วยหลบไปที่อื่นแป๊บนึงนะ^_^” ฟูจิบอกกับกลุ่มชายตรงหน้าแล้วหันไปบอกกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง นานาโกะมองใบหน้าของหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะเอ่ยบอกออกมา
“ฟูจิคุงก็ระวังด้วยนะ”
“อื้ม ^_^ มันแหงอยู่แล้ว ไปหลบก่อนเถอะ” ว่าจบเธอก็เดินหลบไปมุมอื่น พวกมันคนหนึ่งกำลังจะเดินตามไปแต่ก็ถูกฟูจิเตะสกัดไว้ก่อน
ปึก!!
“โอ๊ะ!!” แล้วหนึ่งในนั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้นเหลือแค่อีกสองคนที่กำลังเดินเข้ามาเขา มันปล่อยหมัดใส่ใบหน้าหล่อๆ แต่ฟูจิก็หลบหมัดได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะปล่อยหมัดตรงไปที่ท้องของผู้ชายคนนั้นในขณะที่เสียการทรงตัว ก่อนที่จะล้มลงไปกุมท้องอยู่ที่พื้น เหลืออีกแค่เพียงคนเดียว และมันก็เดินเข้ามาปล่อยหมัดแบบไม่เกรงใจ
ปึก!
มีหมัดนึงโดนเข้าที่คิ้วของฟูจิ และนั้นทำให้อารมณ์ของผู้ชายที่ชอบยิ้มคนนี้ขาดผึง ร่างสูงปล่อยหมัดกลับไปแบบไม่มีหยุด พร้อมกับใช้ขาเตะสลับไปบ้างในบางครั้งจนกระทั่งคู่ต่อสู้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไร้สภาพ
นานาโกะที่หลบอยู่มุมเสาไฟฟ้าโผล่หน้าออกมาเมื่อไม่ได้ยินเสียงของการต่อสู้แล้ว เธอเห็นผู้ชายคนที่ชอบยิ้มคนเดิมาเดินมาทางนี้ ใบหน้าบริเวณคิ้วมีเลือดออกเล็กน้อย ทำให้หญิงสาวรีบเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองอกมาเช็ดให้กับชายหนุ่มรุ่นน้องอยู่เมือที่สุด
ส่วนคนที่ยืนให้หญิงชายเช็ดคราบเลือดอย่างฟูจิก็สนใจใบหน้าของผู้หญิงที่เขาชอบตั้งแต่แรกเห็นในนิสัยและกิริยาอันมีมารยาทของเธอ มือนิ่มที่จับหน้าเข้าไว้ทำให้ฟูจิอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากุมซ้อนไว้ นานาโกะตกใจเล็กน้อยที่เห็นการกระทำของชายหนุ่ม แต่แล้วนัยน์ตาสีดำของเธอก็ดันไปสบกับนัยน์ตาสีฟ้าของเขาพอดี ก่อนที่ฟูจิจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยจนหน้าในหาย แล้วค่อยๆประทับริมฝีปากกับหญิงสาวอย่างแผ่วเบาแล้วละออกมาทันที
ใบหน้าของหญิงสาวที่แดงระเรื่อนั้นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำได้ดีว่าเขาทำอะไรลงไป ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา นานาโกะก็ชิ่งพูดขึ้นก่อนว่า
“ไปทำแผลที่บ้านก่อนเถอะค่ะ ถ้าปล่อยไว้จะไม่ดี” แต่ถึงกระนั้นฟูจิก็ยังไม่ปล่อยเธอไปกลับบังคับให้เธอหันมาสบตาด้วย แล้วพูดออกไปว่า
“รู้ครับว่าเป็นห่วง แต่ไม่คิดจะตอบอะไรผมหน่อยหรือไงกัน ^^”
“ตอบเรื่องอะไรละค่ะ ก็ในเมื่อฟูจิคุงยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ อยู่ดีๆก็...” นานาโกะหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ทำให้ฟูจิยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วพูดประโยคที่สะท้อนความในใจออกมาว่า
“ก็เพราะชอบนาโกะจังไง ผมถึงได้ทำแบบนั้น...แล้วนาโกะจังล่ะ คิดยังไงกับผม ^_^”
“ก็...เหมือนกับฟูจิคุงนั่นแหละ //^_^//” คำตอบที่ได้รับทำเอาชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างดีใจจนอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มคนน่ารักไปหนึ่งที เป็นผลให้ถูกหญิงสาวที่ชอบพอกันตีที่ไหล่ไปหนึ่งที่แก้เขิน จากนั้นทั้คู่ก็เดินกลับบ้าน (ของนานาโกะ) โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครกลุ่มนึงยืนแอบนินทาอยู่ห่างๆ
“ว่าแล้ว...ว่าต้องเป็นแบบนี้”
“รุ่นพี่ฟูจิเนี่ย เร็วจริงๆเลย พลาดท่าเลยเรา T^T”
“อันที่จริงแล้ว ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆเลย >_<” คิคุมารุ โมโมะจัง และอินูอิ ที่ลอบสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ แอบนินทาคนที่เอาแต่ยิ้มตลอดเวลาที่ตอนนี้เดินคู่ไปกับหญิงสาวอย่างมีความสุข สรุปแล้วก็คือ...พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่า อันที่จริง ฟูจิและนานาโกะ นั้นรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะทั้งเขาและเธอนั้นพบกันบ่อยๆที่ตลาดแห่งนี้ เลยกลายเป็นว่า เกิดชอบกันซะงั้น ^^
เอาล่ะ หนุ่มที่ชอบยิ้มอย่างฟูจิตอนนี้ก็มีแฟนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนนานาโกะน่ะ อายุห่างกับเขาประมาณ 3 ปี แต่ก็นั่นแหละน้า...ความรักไม่จำกัดอายุ ^^
Please...Ment กันด้วยจ้า....เม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนเขียน
ผลงานอื่นๆ ของ / Espresso // ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ / Espresso //
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น