เบื้องต้นของความเป็นมนุษย์ - เบื้องต้นของความเป็นมนุษย์ นิยาย เบื้องต้นของความเป็นมนุษย์ : Dek-D.com - Writer

    เบื้องต้นของความเป็นมนุษย์

    การเป็นมนุษย์นั้นไม่ได้เป็นแต่ตามโวหารเท่านั้นต้องทำตัวให้เป็นมนุษย์ตามความหมาย ของการเป็นมนุษย์ โดยอาศัยเบื้องต้นนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    529

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    529

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ต.ค. 48 / 19:17 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เบื้องตันของความเป็นมนุษย์
      การที่เราได้เกิดมาจากท้องของมารดานั้นเราก็มักจะเรียกสิ่งนั้นว่า คนบ้าง มนุษย์บ้าง ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เราเรียกกันว่าคน หรือ มนุษย์นี้เป็นคำที่สมมติกันขึ้นมาเท่านั้น แต่การที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่การเกิดมาจากท้องแม่อย่างเดียว  ต้องมีความรู้สึกละอายต่อการกระทำชั่วของตัวด้วยจึงจะเรียกว่า มนุษย์ เมื่อมีความละอายเป็นเบื้องต้นที่ดีแล้วก็จะเป็นมนุษย์ที่เกรงกลัวต่อการกระทำชั่ว เมื่อมีความละอายและเกรงกลัวแล้วก็จะไม่กล้าที่จะกระทำชั่ว
      นี้เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างมนุษย์กับสัตว์ดิรัจฉาน สัตว์ดิรัจฉานนั้นไม่มีความละอายไม่มีความเกรงกลัวต่อบาป มันจึงแสดงออกมาอย่างไม่มีความละอายไม่มีความเกรงกลัว นี้ถ้าพิจารณาดูดีๆก็จะเห็นได้เองโดยที่ไม่ต้องอธิบายกันมาก  
      มันไม่ใช่จะมีแต่สัตว์สี่เท้าเท่านั้นที่ไม่มีความละอายสัตว์สองเท้าที่มักจะเรียกตัวเองว่ามนุษย์นั้นบางคนก็ทำตัวได้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ดิรัจฉานสี่เท้าเลยก็มี เพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้มีความละอาย ไม่มีความเกรงกลัวบาป อกุศลหรือต่อสิงที่ชั่ว  ซึ่งเป็นสิ่งที่สัตว์ดิรัจฉานมันมีมันเป็นอยู่  จะเป็นสัตว์ดิรัจฉานหรือจะเป็นมนุษย์นั้นอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วไม่ได้อยู่ที่จะเกิดมาจากท้องของสิ่งใด แต่มันอยู่ที่ว่ามันเกิดมาแล้วมันทำตัวอย่างไร เมื่อทำตัวอย่างไรแล้วก็จะเป็นอย่างสิ่งนั้น
      ความไม่ละอายเป็นเบื้องต้นของความฉิบหาย
      ความไม่ละอายต่อบาปนั้นเป็นเหตุเป็นเบื้องต้นที่จะสร้างความฉิบหายให้เกิดขึ้นทั้งต่อตนเอง และต่อผู้อื่น เมื่อไม่มีความละอายเสียแล้วก็ไม่มีความเกรงกลัวต่อบาป ต่อสิ่งที่ชั่วร้าย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสิ่งต่างๆที่เป็นความชั่วนั้นก็กระทำได้ ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ นี้ก็เป็นเหตุมาจากความไม่รู้สึกถึงความละอายหรือเกรงกลัวต่อผลของการกระทำชั่ว เมื่อตนเองนั้นเป็นอย่างนี้แล้วความฉิบหายต่อตัวเองในด้านของการเรียน ในด้านของงาน ในเรื่องของอนาคตเหล่านี้เป็นต้นดังที่ได้เห็นอย่างชัดเจนในข่าวคราวแต่ละวัน ในเมื่อผู้คนเหล่านี้มีมากขึ้นก็สร้างความฉิบหายให้เกิดขึ้นทางสังคมต่อไป ก็เพราะมีคนเหล่านี้มารวมตัวกันมากขึ้นๆ มันก็กลายเป็นสังคม แล้วสังคมที่ฉิบหายจากพวกเหล่านี้ก็จะทำให้คนที่เพิ่งจะเข้ามาร่วมสังคมนั้นก็จะได้รับการถ่ายทอดจากสังคมที่ไม่มีความละอายไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งที่ชั่ว  อย่างเช่นเด็กที่เกิดมาใหม่นั้นเขาไม่รู้หลอกว่าสิ่งใดที่ดีสิ่งใดที่ชั่ว แต่เขาได้เห็นการกระทำที่ไม่ละอายไม่เกรงกลัวเขาก็ซึมซับสิ่งเหล่านั้นไปโดยไม่รู้สึกตัวก็จะกลายเป็นบุคคลที่ไม่ละอายกันต่อไปอีก แล้วก็จะรวมตัวกันมากจนกลายเป็นสังคมอีก กล่าวไปก็ไม่รู้จักจบจักสิ้นกัน มันก็สร้างความฉิบหายอย่างไม่มีวันจบสิ้นไปเหมือนกัน
      เมื่อบุคคลเหล่านั้นมีความไม่ละอายเป็นเบื้องต้นของความคิดแล้ว ก็มักจะเริ่มกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายไปทีละนิดจากสิ่งที่เล็กน้อย ไปจนถึงกระทั้งเรื่องที่ใหญ่โตได้  ก็ลองคิดดูเถิดว่าคนที่จะมาเป็นนักฆ่าได้นั้นก็เริ่มมาจากความไม่ละอายไม่เกรงกลัวต่อบาปเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นฆ่ามด ฆ่าแมลง แล้วก็เริ่มที่จะฆ่าสัตว์ที่ใหญ่ขึ้น แล้วก็ขยายไปสู่การฆ่ามนุษย์ ที่ตัวเองไม่รู้จัก แล้วต่อไปก็จะฆ่าใครก็ได้แม้แต่ผู้ที่มีพระคุณต่อตนเองแม้แต่บิดามารดา  นี้เหตุหรือรากเหง้านั้นก็มาจากการที่ไม่มีความละอายไม่มีความเกรงกลัวต่อบาปเป็นพื้นฐาน
      อย่าได้เห็นว่าเพียงแค่ความไม่ละอายเล็กน้อยจะทำให้ไม่เกิดโทษ  แต่ในความจริงแล้วถ้ามันสั่งสมจากสิ่งที่เล็กน้อยนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่ใหญ่โตจนไม่สามารถที่จะหยุดยั้งมันได้เลย
      คนที่ไม่มีความละอายเป็นเบื้องต้นนั้นมักจะไม่คิดที่จะทำดี  เพราะของสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงไม่สามารถที่จะเข้ากันได้เลย ถ้าไม่ปดเปลื้องความไม่ละอายออกเสียก่อนแล้วก็ไม่สามารถที่จะเป็นมนุษย์ได้เลย  ก็ยังจะเป็นอยู่อย่างสัตว์ดิรัจฉานวันยังค่ำ ไม่ว่าจะแต่งตัวดี ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงสักแค่ไหน ไม่ว่าจะทำงานอะไร  เหล่ามนุษย์นั้นก็ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นมนุษย์เลย
      ความรู้จักละอายเป็นเบื้องต้นของความเป็นมนุษย์
      สิ่งต่างๆที่ดีๆที่มนุษย์ได้กระทำกันนั้นมันมีเหตุมาจากความรู้จักละอายต่อบาป เมื่อมนุษย์เหล่านั้นมีความละอายต่อบาปอันเป็นของชั่วแล้ว มนุษย์เหล่านั้นก็มีความเกรงกลัวต่อบาป ต่อผลของบาปที่จะได้รับ เมื่อเขาเหล่านั้นมีความละอายมีความเกรงกลัวแล้วเขาก็รักษาศีล  เพื่อป้องกันการกระทำชั่วที่มันจะออกมาทางร่างกายและทางวาจา  
      ก็โดยการที่เขาเหล่านั้นมีความตั้งใจว่า
      จะไม่ฆ่าสัตว์ ทั้งฆ่าด้วยตนเองและก็จะไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า  เพราะเขาเหล่านั้นมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เขาจึงมีความตั้งใจที่จะละเว้น เมื่อเขาเหล่านั้นมีความตั้งใจอย่างดีแล้ว เมื่อเขาเหล่านั้นได้เห็นสัตว์ต่างๆ ก็มีเจตนาที่ไม่ฆ่าเองแล้วก็ไม่ใช้ให้ใครเขาฆ่า ไม่ว่ากรณีใดๆ  นี้จึงเป็นการรักษาศีลข้อ แรกที่สมบูรณ์  
      จะไม่ประทุษร้ายต่อทรัพย์สินที่ผู้อื่นนั้นหวงแหน ทั้งการกระทำของตนเองและใช้ให้ผู้อื่นกระทำ  นี้ก็มาจากความที่เขาเหล่านั้นมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เขาเหล่านั้นจึงได้มีความตั้งใจที่จะละเว้น  แล้วเขาก็ได้กระทำในสิ่งที่เขาได้ตั้งใจไว้ ไม่ว่าเขาจะเห็นทรัพย์สินของผู้อื่นที่มีค่ามากมายเพียงใดก็มีเจตนาที่จะไม่ประทุษร้าย ทั้งด้วยตนเองและใช้ให้ผู้อื่นประทุษร้าย  เมื่อเป็นเช่นนี้เขาเหล่านั้นก็มีความสมบูรณ์ด้วยศีล ข้อที่สอง
      จะไม่ประพฤติผิดในเรื่องของกาเมสุมิจฉาจาร  มีเจตนาที่จะงดเว้นจากการพรากหญิงหรือชายที่มีพ่อแม่พี่หรือญาติเหล่านี้เป็นต้นหวงแหน  นี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขามีความเป็นมนุษย์อยู่ในจิตใจอย่างเต็มเปรี่ยม  จึงไม่ได้กระทำสิ่งที่เหมือนดังที่สัตว์ดิรัจฉานมันกระทำกัน  มันมั่วกัน  นี้ก็ไปดูกันเอาเอง  แล้วก็ลองมองดูตัวเราว่าเป็นสิ่งใด
      จะไม่พูดปรด ไม่พูดสิ่งที่หยาบคาย ไม่พูดในส่อเสียด ไม่พูดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์  นี้ก็มาจากความรู้จักละอาย รู้จักเกรงกลัวต่อบาปเป็นเบื้องต้น
      จะไม่ประทุษร้ายต่อสติสัมปชัญญะ มีการดื่มสิ่งของที่มืนเมา มีการเสพสิ่งเสพติดที่จะทำให้เสียสติ นี้เขาเหล่านั้นก็ไม่กระทำกัน  ก็ลองนึกถึงว่าในขณะที่เมามายอยู่นั้นมันมีการกระทำอะไรลงไปบ้าง แล้วสิ่งเหล่านั้นน่าดูหรือน่าละอายสักแค่ไหน เป็นสิ่งที่มนุษย์ควรที่จะกระทำหรือ นี้พิจารณาด้วยปัญญาที่มีเถิด
      เมื่อเขาเหล่านั้นมีความละอายมีความเกรงกลัวต่อบาป มีศีลที่บริสุทธิ์ที่ป้องกันความชั่วที่จะเกิดขึ้นทางกายและวาจาแล้ว ก็มีการพัฒนาขึ้นไปถึงการป้องกันความชั่วที่จะเกิดขึ้นมาทางจิตใจ ก็มีการเจริญสมาธิเพื่อที่จะให้จิตใจนั้น  พร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การเจริญทางปัญญา  ที่สามารถจะใช้ในการดับทุกข์ได้
      นี้ก็จะได้เห็นด้วยปัญญาของท่านแล้วว่าการที่เรานั้นมีความละอายมีความเกรงกลัวต่อบาป ต่อสิ่งที่ชั่วนั้นเป็นเบื้องต้นของการกระทำดีให้มากขึ้นๆ จนสามารถที่จะทำให้เป็นผู้ที่หลุดพ้นจากอำนาจของกิเลสก็ได้  แล้วถ้ามองกลับกันการที่เป็นผู้ที่ไม่มีความละอายไม่มีความเกรงกลัวต่อบาปนั้นก็เป็นเบื้องต้นของการกระทำชั่วได้อย่างมากมาย ถึงกระทั่งเป็นอนันตริยกรรมก็ทำได้ มีการฆ่าบิดามารดาเป็นต้น
      เมื่อเราท่านนั้นต่างก็เห็นทั้งคุณและโทษแล้วก็ตัดสินใจด้วยปัญญาที่มีอยู่เองเถิดว่าจะเลือกคิดสิ่งใด จะเลือกทำสิ่งใด เพราะเรานั้นต่างก็มีอิสระในการเลือกทุกคน ก็สุดแต่ปัญญาของท่านเถิด


      ดินสอสีดำขาว
      ๒๔ กันยายน ๒๕๔๘

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×