ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] รักวุ่นๆ ชุลมุนยกแก๊ง[KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #18 : Chapter 17 : เจ้าชายกับซินเดอเรลล่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.34K
      10
      22 มิ.ย. 52


    Chapter 17 : เจ้าชายกับซินเดอเรลล่า
     
                “หนีผมทำไม”    ซีวอนจับมือฮีชอลแน่นมองคนสวยที่เอาแต่ก้มหน้า      
                “ไม่ได้หนี”    ฮีชอลตอบทั้งที่หน้ายังก้มอยู่
                “ก็เห็นๆอยู่ว่าหนี เด็กอนุบาลยังดูออกเลย”
                “ก็บอกว่าไม่ได้หนีไง!”    ฮีชอลเงยหน้าขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรือเป็นอะไรกันแน่
                “โอเค ไม่ได้หนีก็ไม่ได้หนี งั้นให้ผมไปส่งที่บ้านมั้ย”    ซีวอนก้มลงมองหน้าฮีชอลที่แดงระเรื่อแล้วส่งยิ้มไปให้เอาคนถูกมองรีบก้มหน้า
                “นายรู้จักบ้านฉันหรือไง”    ฮีชอลทำท่าเหมือนใช้ความคิดก่อนจะพูดออกมา
                “ถ้าบอกทางก็ไปถูกอยู่แล้ว”
                “แล้วนายเอารถมาหรือป่าว”
                “ปกติผมก็ไม่ได้เอารถมาโรงเรียนอยู่แล้วนะ เพราะจะเดินกลับกับเพื่อนๆ ทำไม อยากนั่งรถหรอ”
                “บ้านนายก็ออกจะรวยนะ ขับรถมาเองสบายกว่าตั้งเยอะ”    ฮีชอลกอดอกพูด ท่าทางน่ารักซะ
                “ครับๆผมรวย ยอมรับ แต่ผมอยากเดินกลับมากกว่า บ้านผมมันก็ไม่ได้ไกลเว่อซักหน่อย...แล้วตกลงยังไง จะให้ผมไปส่งมั้ย”    ซีวอนหัวเราะน้อยๆ นี่เค้ามาชวนกลับบ้านไม่ได้ให้มาเถียงกันเรื่องรถหรือความรวยจนซักหน่อย  
                “อืม”    ฮีชอลตอบรับเบาๆ
                “งั้นขอจับมือนะ”
                “เรื่องอะไรเล่า!”    ฮีชอลหันมาว่า เตรียมชักมือหลบแต่ช้ากว่าซีวอนที่ดึงมือฮีชอลไปกุมไว้เรียบร้อย ยิ้มอย่างสบายใจ ก่อนจะออกเดิน
                ภาพของซีวอนที่เดินจูงมือฮีชอลเดินออกจากโรงเรียนไปถูกจับจ้องจากสายตานักเรียนเป็นร้อยๆพันๆคู่ มองดูก็น่ารักดี ในที่สุด 2 แก๊งนี้ก็เข้าหากันซักที และในที่สุดเจ้าชายก็พบกันซินเดอเรลล่า ต่อไปนี้โรงเรียนคงจะมีสีสันขึ้นเยอะเลย...ว่ามั้ย
                         
                        
                หลังเลิกเรียนซองมินเองก็ไปรอฮันคยองที่ชมรมบาส เพื่อหวังที่จะคุยให้รู้เรื่อง สำหรับไอ้พฤติกรรมแปลกๆของฮันคยอง ไม่อยากให้มันคาใจ
                “พี่ฮัน!”    เมื่อเห็นฮันคยองเดินออกมา ซองมินก็รีบเข้าไปหาทันที
                “เอ่อ...วันนี้พี่ยุ่งน่ะ มินกลับไปก่อนนะ”    ฮันคยองพูดแค่นั้นก็เดินหายเข้าไปในชมรม เรียบเฉย เย็นชา น้ำเสียงแบบนี้หรอที่คนเป็นแฟนเค้าพูดกันน่ะ
                “พี่ฮัน”    อยู่ๆน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมา ทั้งที่คิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วแท้ๆ ถ้าไม่รักกันแล้วทำไมไม่บอกกันมาตรงๆเลยล่ะ อย่ามาทำแบบนี้ บอกมาแค่คำเดียวก็ยอมไปอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องทำร้ายจิตใจกันเลย
                “พี่ขอโทษ”    พูดไปก็รู้สึกสมเพศตัวเอง เห็นแก่ตัวจริงๆ ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องต้องมาเจ็บ ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรไห้มันดีขึ้นมาเลย ทำไมนายมันเห็นแก่ตัวแบบนี้ล่ะ...ฮันคยอง
                “โธ่เว้ย!”    คยูฮยอนที่ตามซองมินมาเมื่อเห็นคนตัวเล็กร้องไห้ก็ได้แต่โวยวายอยู่คนเดียว ทำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย จะเข้าไปต่อยหน้าหล่อๆของหมอนั่นก็พานจะโดนเกลียดเอาซะป่าวๆ
                ซองมินเดินออกมาจากชมรมบาสเหมือนคนหมดแรง ก้มหน้าก้มตาเดิน คยูฮยอนที่กลัวคนตัวเล็กจะเกิดอุบัติเหตุก็รีบเดินเข้าไปหา
                “คยู”    ซองมินพูดเบาๆ เมื่อคนตรงหน้ายิ้มให้
                “ร้องไห้อีกแล้วนะ”    คยูฮยอนยกมือขึ้นปาดมือตาที่ดูเหมือนจะไม่หยุดไหลง่ายๆ ไม่อยากจะถามให้ต้องเสียใจมากไปกว่านี้ แค่ปลอบเท่านั้นคงจะดีแล้ว
                “คยู...ฮึก”    ซองมินโผเข้ามากอดคยูฮยอนเอาไว้แน่น หน้าซบลงกับแผ่นอกกว้าง
                “หยุดร้องได้แล้ว เดี๋ยวตาก็บวมกันพอดี”    คยูฮยอนกอดซองมินตอบแล้วลูบผมนุ่มของคนตัวเล็กเบาๆเป็นการปลอบใจ
                “ฮึก…”    เสียงสะอื้นฟังดูจะลดลง แต่มือยังคงกอดคนตัวสูงไว้แน่น
                “คืนนี้ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนมั้ย”    ถามไปงั้นก็รู้ว่าคงไม่ได้คำตอบ แต่ที่ถามก็เผื่อจะทำให้คนที่ร้องไห้อยู่สบายใจขึ้นมาบ้าง         
                “...”    ไร้คำตอบอย่างที่คิดไว้
                “เอาเป็นว่า เรียกคนที่บ้านมารับก็แล้วกันนะ”    คยูฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงส่วนอีกมือก็ยังคงกอดซองมินไว้อยู่  โทรเรียกคนขับรถให้มารับ ไม่นานรถคันงานก็มาจอดอยู่ในโรงเรียน
                “ไหวมั้ย”    คยูฮยอนก้มถามซองมินที่นั่งพิงตัวเองอยู่ระหว่างรอ ถึงจะหยุดร้องไห้แล้ว แต่สีหน้าก็ยังดูไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
                “ไหว”    ซองมินลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังรถที่คนขับเปิดประตูรออยู่นานแล้ว ท่าทางที่เดินเซไปเซมาทำเอาคยูฮยอนรีบวิ่งมาพยุงแทบไม่ทัน
                “ไหนบอกไหวไง แค่เดินยังเซเลย”    พูดจบก้มอุ้มซองมินขึ้นทันที ส่วนคนตัวเล็กก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรกลับซบหน้าลงที่อกกว้างมือก็คล้องคออีกคนไว้ คงจะรู้สังขารตัวเองดีว่าไม่ไหวจริงๆ
                คยูฮยอนอุ้มซองมินไปที่รถแล้ววางลงที่เบาะหลังอย่างเบามือ ส่วนตังเองก็เดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งที่คนขับรถเปิดประตูไว้ให้ หลังจากที่คุณหนูทั้ง 2 ขึ้นรถเรียบร้อยแล้วคนขับก็ออกรถทันที
                “คุณหนูซองมินเป็นอะไรหรือป่าวครับ ปกติไม่ชอบให้คนมารับที่โรงเรียน”    คนขับรถมองที่กระจกแล้วถามคยูฮยอนเพราะซองมินดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้ว
                “คงจะเหนื่อยน่ะครับ สงสัยวันนี้เรียนหนัก”    คยูฮยอนตอบยิ้มๆแล้วลูบผมซองมินที่นอนอยู่บนตักเขา บอกไม่ได้หรอกว่าจริงๆเป็นอะไร ขืนบอกไปไอ้หน้าหล่อนั้นมันไม่รอดแน่ๆ รู้ทั้งรู้ว่าบ้านนี้เค้าหวงและห่วงคนๆ นี้มากแค่ไหน    
                “อ่ะ ครับ”     คนขับรถพยักหน้าให้คยูฮยอนเบาๆก่อนจะตั้งใจขับรถต่อไป ไม่นานรถก็มาจอดอยู่ในบ้านหลังงามของกระกูลลี
                “ซองมินๆ ถึงบ้านแล้วนะ”     คยูฮยอนเขย่าตัวซองมินเบา หวังจะให้คนที่กำลังนอนหลับได้สติ
                “อืมม...”    ซองมินโบกไม้โบกมือไปมาดูท่าจะไม่ยอมตื่นง่ายๆ ทำเอาคนที่มองอยู่ยิ้มออกมา
                “ไม่ตื่นก็ไม่ต้องตื่น”    พูดจบก็อุ้มคนตัวเล็กแล้วพาไปที่ห้องนอน วางลงบนเตียงอย่างเบามือ ก่อนที่ตัวเองเดินลงข้างหน้า เข้าไปในห้องครัว เผื่อจะมีงานอะไรให้ทำบ้าง
     
                “มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”    คยูฮยอนเดินเข้ามาในครัว แม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่หันมามองยิ้มๆ
                “คุณหนูคยูมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วคุณหนูซองมินของป้าล่ะ”    ป้าแม่บ้านถามอย่างอารมณ์ดี
                “เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เองครับ ดูท่าซองมินคงจะเหนื่อยตัวก็ลุมๆเหมือนจะไม่สบายเห็นหลับยาวตั้งแต่บนรถ คืนนี้ผมกะว่าจะค้างที่นี่ซักหน่อย ว่าแต่ป้ามีอะไรให้ผมทำมั้ยครับ อยู่ว่างๆมันเบื่อ”    คยูฮยอนเดินมองนั่นมองนี่อยู่ในครัว
                “งั้นคุณหนูก็ทำข้าวต้มให้คุณหนูซองมินสิคะ...งั้นป้าขอตัวขึ้นไปดูคุณหนูหน่อยนะคะ”
                “ไม่ต้องหรอกครับ ซองมินยังหลับอยู่ ผมห่มผ้าแล้วเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ถ้าทำอาหารเสร็จเดี๋ยวผมยกขึ้นไปให้เอง”
                “งั้น...นี่ค่ะผ้ากันเปื้อนของคุณหนูซองมินเลยนะคะเนี่ย แล้วคุณหนูพอจะทำอะไรได้บ้างคะ ป้าจะทำข้าวต้มให้คุณหนูซองมิน”    ป้าแม่บ้านส่งผ้ากันเปื้อนสีขมพูหวานแว๋วให้คยูฮยอน ก่อนจะเดินไปหยิบของในตู้เย็น
                “จริงๆแล้ว ผมก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นหรอกครับ แต่ถ้าบอกมาผมก็ทำได้อยู่แล้วล่ะครับ”    คยูฮยอนค่อยๆสวมผ้ากันเปื้อน
                “งั้นคุณหนูช่วย..........................................................”
                แล้วป้าแม่บ้านก็สั่งนู้นสั่งนี่ ส่วนคยูฮยอนก็ทำตามที่ป้าแม่บ้านสั่งอย่างขะมักเขม้น ทำไปก็หัวเราะไปกับความเปิ่นของตัวเอง ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยทำอาหาร แต่มื้อนี่ขอแล้วกัน...ฉันจะทำให้สุดฝีมือเลยซองมิน
                
                ซองมินตื่นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ก็เกิดอาการมึนงงเล็กน้อย ค่อยๆพยุงร่างเดินไปยังห้องน้ำ รู้สึกมึนหัว โลกมันหมุนแปลกๆ หวังว่าอาบน้ำแล้วอาการมันคงจะดีขึ้นกว่านี้นะ
                “คยู หายไปไหนนะ”    หลังจากที่อาบน้ำเสร็จซองมินก็มานั่งดูทีวีไปพลางๆ ไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น ส่วนไอ้คนที่พามาก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ถ้าเจอล่ะก็...น่าดู ทิ้งคนป่วยแบบนี้ได้ยังไง
                “อาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมยกไปให้ซองมินบนห้องเลยนะครับ”    คยูฮยอนทำท่าจะยกถ้วยข้าวต้มที่ทำเองกับมือไปให้ซองมินแต่โดนป้าแม่บ้านห้ามไว้ซะก่อน      
                “ป้าว่าลองไปเรียกคุณหนูดูก่อนดีกว่านะคะ ถ้าอาการไม่หนักมากก็ให้ลงมาทานข้าวด้วยกัน เพราะคุณท่านกับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”
                “อ่ะ...ครับ”    คยูฮยอนพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของซองมิน               
                แอ๊ดดด~
                “อ้าว! ตื่นแล้วหรอ อาบน้ำแล้วด้วย”    คยูฮยอนเดินเข้าไปหาซองมินที่กำลังนอนดูทีวีอย่างสบายอารมณ์
                “555+ ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”     ซองมินลุกนั่งมองสภาพพ่อครัวคยูฮยอนก็หลุดหัวเราะออกมาดังลั่น ก่อนจะกลับมาตีหน้านิ่ง เนื้อตัวมอมแมมไปหมด แถมผมยังยุ่งอีกต่างหาก
                “ก็ทำอาหารให้คุณหนูซองมินทานไงครับ”    คยูฮยอนเองก็ยิ้มออกที่เห็นคนตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้น
                “ไม่ต้องมาพูดแบบนี้เลย แล้วนายทำอาหารเป็นด้วยหรอ”    ซองมินตีที่แขนคยูฮยอนเบาๆ ก่อนจะจ้องมองคนตัวสูงตาแป๋ว
                “ถ้าอยากรู้ก็ต้องลงไปทานข้างล่าง ป้าแม่บ้านให้มาเรียกลงไปทานข้าว เพราะพ่อแม่นายใกล้จะกลับแล้ว”
                “หรอ...ไม่ไปอ่ะ”    พูดจบก็ล้มตัวลงนอนต่อ ไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่แม้แต่น้อย
                “ต้องไป นายต้องไปทานข้าว”
                “ไม่อ่ะ ฉันยังไม่หิว”
                “ไม่หิวก็ต้องกิน”
                “เฮ้ย! ทำอะไรของนาย”    ในเมื่อพูดกันดีๆไม่ยอมฟัง คยูฮยอนเลยเข้าไปอุ้มซองมิน ส่วนคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดก็ได้แต่ดิ้นไปมา ทั้งตกใจ ทั้งยังไม่ได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
                “ก็พูดดีๆไม่ยอมฟังเอง ช่วยไม่ได้”
                คยูฮยอนอุ้มซองมินที่เอาแต่ดิ้นพล่านๆ ออกมาจากห้อง ก่อนจะลงบันได คนตัวเล็กก็หยุดดิ้นแล้วกอดคอ คยูฮยอนไว้แน่น เหตุผลก็ไม่ใช่อะไร ถ้าดิ้นแล้วตกไป มีหวัง ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
                คยูฮยอนอุ้มซองมินลงมาถึงโต๊ะอาหารก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวซองมินลง จนเห็นคุณลีกับคุณนายลีเดินเข้าถึงได้ปล่อยลูกชายสุดที่รักของเค้าลง
                “สวัสดีครับ”    พอวางซองมินลงก็รีบกล่าวทักทายทันที
                “สวัสดีจ๊ะ”    คุณนายลีทักคยูฮยอนกลับก่อนจะหันไปยิ้มให้สามี
                ภาพที่เห็นเมื่อครู่นี้ก็ทำเอาสามีภรรยาคู่นี้ยิ้มออกมาได้ไม่น้อย ไม่ได้รังเกียจถ้าลูกจะมีแฟนเป็นชาย ก็ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนดันโตมาหน้าตาเหมือนผู้หญิงซะขนาดนั้น แค่มีคนดีๆมาดูแลพ่อแม่ก็หายห่วงแล้ว
                “คยู มาทานข้าวด้วยกันสิแล้วก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกซะก่อนล่ะ”    คุณลีพูดยิ้มๆก่อนจะนั่งลงประจำที่
                “อ่ะ ครับ”    คยูฮยอนรับคำก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนคืนให้ป้าแม่บ้านที่ห้องครัวแล้วเดินมาที่โต๊ะอาหาร
     
                เมื่อจัดโต๊ะเสร็จการรับประทานอาหารมื้อเย็นก็เริ่มขึ้นคยูฮยอนยกชามข้าวต้มที่ทำเองกับมือไปให้
    ซองมินก่อนที่จะเริ่มทานอาหารของตัวเอง
                “ว่าแต่ทำไมวันนี้คยูถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”   คุณลีถามเพื่อทำลายความเงียบบนโต๊ะอาหาร
                “ผมมาส่งซองมินน่ะครับ วันนี้เค้าอาการไม่ค่อยดี”    คำตอบของคยูฮยอนทำเอาซองมินหันไปค้อนใส่  ก็ไหนบอกจะมาค้างเป็นเพื่อนไง...ชิ
                “อาการไม่ดีหรอ เป็นอะไรหรอลูก”    คุณนายลีถามลูกด้วยความเป็นห่วง
                “ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะครับ”    ซองมินตอบก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
                “ว่าแต่อาหารมื้อนี้คยูช่วยแม่บ้านทำด้วยใช่มั้ย เมื่อกี้เห็นใส่ผ้ากันเปื้อน”    คุณลีถาม
                “อ่ะครับ พอดีอยู่ว่างๆ”
                “แม่มือดีใช่ย่อยเลยนะเนี่ย บ้านนี้มีหวังแม่บ้านตกงานแน่เลยถ้าได้พ่อครัวคนนี้มาอยู่ด้วยก็คงดีนะ”  
    คุณลีหัวเราะออกมาน้อยๆ
                “ครับ”    คยูฮยอนยิ้มรับออกมาน้อยๆ
                “ก็วันนี้คยูบอกจะมาค้างที่นี่”    ซองมินพูดขึ้นเมื่อฟังบทสนทนาระหว่างคุณลีกับคยูฮยอนจบ
                “งั้นก็ดีน่ะสิ มาค้างบ่อยๆก็ได้นะ มินจะได้มีเพื่อน เป็นลูกคนเดียวอาจจะเหงา”    คุณลีพูด
                “จะดีหรอครับ”
                “ไม่ต้องเกรงใจหรอกจะ อีกอย่างคยูก็อยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่หรอ คุณพ่อก็กลับอเมริกาไปแล้ว อยู่กับคุณพ่อบ้านคงจะเหงาน่าดู อีกอย่างจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนมินด้วย”    คุณนายลีพูด ส่อแววอยากมีลูกเขยหื่นอย่างเห็นได้ชัด
                “โธ่! คุณแม่ครับผมอยู่คนเดียวมาเป็นสิบๆปีแล้วนะครับ ผมยังอยู่ได้เลย”    ซองมินรีบพูดค้าน ก็ดูคุณนายลีพูดเข้าสิ ทำอย่างกับว่าลูกตัวเองอยู่คนเดียวไม่ได้อย่างนั้นแหละ
                “ถ้างั้นก็ได้ครับ ผมว่าย้ายมาอยู่ที่นี่เลยแล้วกัน  เพราะผมก็คิดไว้อยู่แล้ว”    คยูฮยอนว่าแล้วยิ้มออกมา
                “จริงหรอจ๊ะ ดีเลย”    คุณนายออกอาการดีใจจนออกนอกหน้า
                “ไม่เอานะครับ! ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องมีเพื่อนหรอก”    พอได้ยินว่าคยูฮยอนจะมาอยู่ที่นี่ ซองมินคัดค้านทันที คิดดูสิ ขนาดไม่อยู่ด้วยกันยังโดนลวนลามไปแล้วขนาดไหน ถ้าเกิดมาอยู่ละก็ ไม่อยากจะคิด
                “อะไรกันล่ะลูก อย่าพูดแบบนี้สิ”    คุณนายลีปรามลูกเบาๆ
                “งั้นเอาเป็นว่าพุ่งนี้อาจะให้คนจัดห้องแล้วก็ไปเก็บข้าวของๆคยูมาไว้ที่นี่แล้วกันนะ คืนนี้ก็นอนห้องซองมินไปก่อน”    คุณลีพูด
                “ครับ”
                “คุณพ่ออ่า~”    ซองมินได้แต่ทำปากยื่นปากยาว ขัดใจพ่อไม่ได้อีกแล้ว
     
     
     
    -------------------------------------------
                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×