คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 - โครงสร้างเผ่าพันธุ์ในโลกเดวิลโทเปีย
เดวิลโทเปีย คือดินแดนแห่งพลังมืดที่ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์มากมาย อันมีกำเนิดมาจากวิกฤตการณ์พลังมืดของพระเจ้าแห่งความมืดลูซิอัส
เนื่องจากเดวิลโทเปียเป็นดินแดนแห่งความมืด สิ่งมีชีวิตในดินแดนนี้ทุกชนิดจึงมีพื้นฐานธาตุความมืดในตัวสูง ทำให้แขนงเวทรักษาของดินแดนนี้ใช้ธาตุความมืดเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกัน ธาตุความมืดในระดับต่ำก็ไม่สามารถแสดงพลังทำลายล้างอันเป็นลักษณะเด่นได้อย่างเต็มที่ในดินแดนนี้ มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่มีพลังความมืดเข้มข้นเทียบเท่าครึ่งสายเลือดเทพดำ (ซึ่งเป็นปีศาจระดับสูงสุด) ขึ้นไปเท่านั้นที่ใช้มนตราแห่งความมืดในระดับทำลายล้างได้ (ไม่อนุญาตให้ลงตัวละครที่มีพลังความมืดถึงระดับนี้นะคะ)
และเนื่องจากดินแดนเดวิลโทเปียถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งความมืดเป็นเวลานาน จนแสงสว่างที่เดิมทีเป็นพลังหลักของจักรวาลไม่อาจเข้าถึง สิ่งมีชีวิตในดินแดนนี้จึงไม่สามารถใช้พลังแห่งแสงสว่างได้ เว้นก็แต่เผ่าพันธุ์ภูติแสงจันทร์ (แปลว่า เรืองรองในแสงจันทร์) ที่ได้รับพลังแห่งแสงสว่างจากพระเจ้าแห่งแสงสว่างลูมินัสโดยตรง (ไม่อนุญาตให้ลงตัวละครเผ่าภูติแสงจันทร์นะคะ)
มนุษย์
ความเป็นมา – เนิ่นนานมาแล้ว มนุษย์ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นรูปแบบ "พื้นฐาน" ของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาในจักรวาล โดยมีฉายาตามพระเจ้า แต่ถูกปิดผนึกสติปัญญา และความสามารถส่วนใหญ่เอาไว้ บนดวงดาวทดลองนามว่า เทียแมท ซึ่งในปัจจุบันคือเดวิลโทเปียนั่นเอง
ทว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งใหญ่อันเป็นจุดกำเนิดของตำนานเดวิลโทเปีย มนุษย์ก็ได้อพยพไปยังดาวอาณานิคมของตนที่มีนามว่า โลก ในขณะที่มนุษย์บางส่วนที่อพยพไม่ทัน และรอดชีวิตจากเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งนั้นมาได้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตบางชนิด ก็ถูกพลังมืดจากการทำลายล้างเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะประหลาดต่างๆ ซึ่งจะกล่าวถึงในลำดับถัดไป
หลายพันปีต่อมา มนุษย์กลุ่มหนึ่งเดินทางกลับมายังมาตุภูมิของตนอีกครั้งเพื่อวิจัยสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป และเมื่อมีการโยกย้ายดวงดาวทดลองเข้าสู่มิติพิเศษหรือที่เรียกกันว่าเดวิลโทเปีย พวกเขาก็ติดอยู่ในมิตินั้นด้วย และค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดได้อย่างน่าอัศจรรย์
อย่างไรก็ตาม มนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาส่วนใหญ่ในจักรวาล ก็ยังคงเป็นชนกลุ่มน้อยของเดวิลโทเปียอยู่ดี
เมืองเกิด - เบอร์ฮาร์ลันด์ / เบเลฟ / การ์ดเนอร์
จุดเด่น - มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมได้ง่าย
จุดด้อย - ไม่มีด้านใดด้านหนึ่งที่เด่นเป็นพิเศษ, ค่อนข้างอ่อนด้อยต่อธาตุความมืดเมื่อเปรียบเทียบกับเผ่าอื่น
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – ไม่จำกัด
รูปร่าง - ปกติ
เหล่าภูตธาตุ
ไม่เพียงแต่พระเจ้าแห่งความมืดลูซิอัสจะเดินทางมายังเทียแมทเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์โลกร้อน พระเจ้าแห่งชีวิตลีส์ก็ได้ส่งเมล็ดพันธุ์ของเทพแห่งธาตุทั้งแปดมาจุติยังแว่นแคว้นต่างๆ บนดินแดนเทียแมท โดยหวังว่าจะให้เหล่าเมล็ดพันธุ์ค่อยๆ ใช้พลังของตนช่วยฟื้นฟูธรรมชาติในเทียแมทให้กลับสู่ความสมดุลดังเดิม
ทว่า กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพระเจ้าแห่งความมืดลูซิอัสสูญเสียหญิงคนรักที่เป็นมนุษย์ต่อหน้าต่อตา ทำให้ขาดสติ ปลดปล่อยพลังมืดออกมาทำลายล้างชีวิตส่วนใหญ่ในเทียแมท เหล่าเมล็ดพันธุ์จำต้องใช้พลังของตนเพื่อต้านทานการทำลายล้าง และปกป้องสมาชิกในชุมชนที่ตนอาศัย
แต่พลังเพียงน้อยนิดย่อมไม่อาจต้านทานพลานุภาพมหาศาลของความมืดได้ ซ้ำยังโดนผลกระทบจากพลังแห่งความมืดตีกลับ ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ตามลักษณะของพลังธาตุ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ภูตธาตุ
ดวอร์ฟ (ภูตดิน)
ความเป็นมา - เดิมเหล่าดวอฟก็คือเด็กมนุษย์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าห่างไกลแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งเทวีจิอานน่า เทพประจำธาตุดินได้ส่งเมล็ดพันธุ์ของตนเข้าไปอยู่ร่วมสังคม พลังของเมล็ดพันธุ์ธาตุดินช่วยปกป้องให้พวกเด็กๆ รอดชีวิตจากเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งใหญ่ แต่พลังธาตุดินก็ยังไม่อาจต้านทานพลังมืดจากการทำลายล้างได้ทั้งหมด พวกเขาถูกเปลี่ยนแปลงให้มีรูปร่างที่คงสภาพความเป็นเด็กอยู่ตลอดกาล
พวกเขามีความคุ้นเคยกับผืนดินเฉกเช่นเด็กเล็กๆ และสามารถเรียนรู้พลังของดินได้เสมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผืนดิน พลังแห่งดินอันสูงส่งที่พวกเขามีทำให้พวกเขากลายเป็นเผ่าที่สำคัญและทรงอำนาจมากในเดวิลโทเปีย ชุมชนของพวกเขามีลักษณะเป็นอุโมงค์สลับซับซ้อนภายใต้หมู่เนินเขาที่ปกคลุมด้วยหญ้า เพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับดินมากที่สุด
เมืองเกิด – คาปักเจีย
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุดิน สามารถผสานการโจมตีธาตุดินลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุดินระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุดินในระดับสูง
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุดิน ได้แก่ธาตุลม ธาตุสายฟ้า และธาตุน้ำแข็ง โดยจะอ่อนต่อธาตุลมมากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม – โทนสีน้ำตาล
สีตา – โทนสีน้ำตาล
รูปร่าง - เล็ก เหมือนเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี
ทรีเอล์ฟ (ภูตไม้)
ความเป็นมา - โอดีเนียร์ เมล็ดพันธุ์ของเทวีพรีเมริสเป็นหญิงสาวผู้ใฝ่รู้ เธอเดินทางรวบรวมความรู้ต่างๆ ทั่วโลกเทียแมทตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์พลังมืด จนมาพำนักอยู่ในหมู่บ้านอาสาสมัคร บริเวณชายป่าเชิงเขาโรซาบลังคา ต่อมาพลังมืดจากการทำลายล้างผสานกับพลังต้านทานของเมล็ดพันธุ์ธาตุไม้ได้เปลี่ยนแปลงพื้นที่ส่วนนั้นให้กลายเป็นป่าทึบ และเปลี่ยนแปลงประชากรในดินแดนนั้นให้มีสภาพเหมาะสมกับการใช้ชีวิตในป่า
หลังเหตุการณ์สงบลง โอดีเนียร์รู้สึกเสียใจที่ความรู้ทั้งหลายจะต้องสูญหายไปกับการทำลายล้าง จึงออกเดินทางอีกครั้งเพื่อรวบรวมศาสตร์ความรู้ต่างๆ มาเก็บรักษา พระเจ้าแห่งแสงลูมินัสรู้สึกชื่นชมในความพยายามของหล่อนจึงสร้างหอคอยสำหรับเก็บรวบรวมศาสตร์ความรู้ไว้ เรียกว่าหอคอยปราชญ์แสงจันทร์ และให้พลังแห่งแสงจันทร์แก่ประชากรของโอดิเนียร์กลุ่มหนึ่งเพื่อเป็นผู้พิทักษ์หอคอย เรียกประชากรกลุ่มนั้นว่า ภูติแสงจันทร์ (แปลว่า เรืองรองในแสงจันทร์)
ทรีเอล์ฟมีผิวขาวจัดเนื่องจากในป่ามีแสงน้อย มีใบหูที่เรียวยาวเพื่อสดับเสียงแห่งพงไพรให้ได้ชัดเจน มีรูปร่างโปร่งบางและปราดเปรียวเพื่อการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วภายในป่า พวกเขาคือจ้าวแห่งพงไพร และผู้รู้ซึ้งถึงพลังของแมกไม้มากที่สุด ความรอบรู้ในเรื่องของป่าทำให้พวกเขาได้รับการจัดให้เป็นเผ่าที่สำคัญเผ่าหนึ่งในเดวิลโทเปีย นครของพวกเขาตั้งอยู่บนคาคบและยอดไม้สูงเพื่อจะได้สอดส่องความเป็นไปของป่าได้อย่างชัดเจน
เมืองเกิด – จุงกาบลังคา
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุไม้ สามารถผสานการโจมตีธาตุไม้ลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุไม้ระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุไม้ในระดับสูง / มีความคล่องแคล่วสูง สามารถวิ่ง กระโดด และปีนป่ายได้ไกลและรวดเร็วกว่าเผ่าอื่น
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุไม้ ได้แก่ธาตุสายฟ้า ธาตุลม และธาตุไฟ โดยจะอ่อนต่อธาตุสายฟ้ามากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อซีดๆ
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – โทนสีเขียว
รูปร่าง - โปร่งบาง ดูปราดเปรียว
อควอเรีย (ภูตน้ำ)
ความเป็นมา - เวส เมล็ดพันธุ์ของเทวีโอเชนเนียแห่งสายน้ำได้ถือกำเนิดในนครท่าริมทะเลแห่งหนึ่ง โอเชนเนียรักเวสประหนึ่งลูกสาว เมื่อเกิดวิกฤตการณ์พลังมืด เธอจึงยื่นมือเข้าช่วยเวสในการปกป้องเมือง ทำให้นครท่าแห่งนั้นไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
แต่หลังจากนั้น เวสกลับไปรักชอบกับชายชาวไกอาที่บังเอิญหลงมิติมาถึงเมืองของตน ทำให้เจ้าเมืองและประชาชนภายในเมืองโกรธแค้น คิดว่าเวสจะทอดทิ้งเมือง จึงกลุ้มรุมกันจับตัวเวสไปทำร้าย เมื่อโอเชนเนียทราบเรื่องก็โกรธมากและตัดสินใจทำลายเมือง แต่เวสใช้พลังของตนต้านไว้ เมืองจึงไม่ได้รับความเสียหายอื่นใดนอกจากจมหายไปใต้น้ำ พร้อมกับประชากรจำนวนมากในนคร
ทว่า แทนที่พวกเขาจะจมน้ำตาย ร่างกายของพวกเขากลับเกิดการเปลี่ยนแปลงจนมีลักษณะบางส่วนคล้ายกับปลา เช่น มีครีบที่หู และแขนขาทั้งสองข้าง ทำให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกใต้น้ำได้ และยังได้รับพลังแห่งธาตุน้ำมาด้วย
สำหรับชาวเดวิลโทเปียแล้ว ยากจะหาใครที่มีอำนาจเหนือห้วงน้ำและมหาสมุทรได้ยิ่งกว่าพวกเขา นั่นทำให้พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – วอเทอเรีย
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุน้ำ สามารถผสานการโจมตีธาตุน้ำลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุน้ำระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุน้ำในระดับสูง / สามารถอยู่ในน้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์หรือเวทช่วยเหลือ และเคลื่อนไหวในน้ำได้รวดเร็วมาก
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุน้ำ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุสายฟ้า และธาตุโลหะ โดยจะอ่อนต่อธาตุไฟมากที่สุด
สีผิว - โทนสีขาวถึงคราม/ส่วนที่เป็นครีบมีได้หลายสี
สีผม – โทนสีเย็น
สีตา – โทนสีฟ้าถึงน้ำเงิน
รูปร่าง - จัดว่าค่อนข้างบอบบางทั้งชายและหญิง
กลาเซล (ภูตน้ำแข็ง)
ความเป็นมา - เมล็ดพันธุ์ของเทวีฟรอยดีอาร์ถือกำเนิดในชุมชนของชาวเขาเผ่าหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวและลี้ลับ ตัดขาดจากโลกภายนอกบนเทือกเขาโรซาบลังคา เช่นเดียวกับเผ่าอื่น เมล็ดพันธุ์แห่งน้ำแข็งได้ใช้พลังของตนต้านทานผลกระทบจากพลังมืด และก่อให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นภูตน้ำแข็ง เจ้าแห่งความหนาวเย็น สามารถทานทนกับความหนาวเหน็บของดินแดนน้ำแข็งได้ แต่ก็พบกับปัญหาเมื่ออาศัยในพื้นที่ที่ร้อนกว่าเช่นกัน
พวกเขาอพยพสูงขึ้นไปสู่ด้านบนของเทือกเขาอันหนาวเหน็บเกือบตลอดกาล และตัดสินใจตั้งถิ่นฐานใหม่บนยอดเขาสูงอันดับสามของเทียแมทนามว่า เพิร์ลสโนว์
ครั้นเมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับภูมิอากาศอันแสนทารุณแล้ว การจะดึงพลังแห่งธาตุน้ำแข็งมาใช้ก็มิใช่เรื่องยากเลย และพลังอำนาจในการควบคุมหิมะ น้ำแข็ง และความหนาวเหน็บทั้งมวลนั้นก็ทำให้พวกเขาเป็นที่ยอมรับและยำเกรงจนได้เป็นอีกหนึ่งเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – เพิร์ลสโนว์
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุน้ำแข็ง สามารถผสานการโจมตีธาตุน้ำแข็งลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุน้ำแข็งระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุน้ำแข็งในระดับสูง
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุน้ำแข็ง ได้แก่ธาตุโลหะ ธาตุไฟ และธาตุดิน โดยจะอ่อนต่อธาตุโลหะมากที่สุด
สีผิว – โทนสีขาวถึงขาวอมฟ้า
สีผม – โทนสีขาวถึงฟ้า
สีตา – โทนสีขาวถึงฟ้า
รูปร่าง – สะโอดสะอง
แฟรี่ (ภูตลม)
ความเป็นมา - เมล็ดพันธุ์ที่เทพเซซาโรนน์ส่งลงมามิได้มีเพียงหนึ่งเดียวเช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์ของเทพเทวีองค์อื่น แต่มีถึงสอง ร่างชายมีนามว่าเอลราเวน ร่างหญิงมีนามว่าวินด์เทียร์ ทั้งสองเป็นคนรักกัน และร่วมมือร่วมใจใช้พลังแห่งสายลมต้านทานพลังมืดจากการทำลายล้างไว้ แต่ก็ยังหลงเหลือผลกระทบที่ทำให้พวกเขาทั้งสอง รวมถึงประชากรในชุมชนมีรูปร่างที่เล็กลง มีปีกคล้ายปีกผีเสื้องอกจากกลางหลัง และมีพลังที่เชื่อมต่อกับอำนาจแห่งสายลม
จากนั้น พวกเขาก็ออกเดินทางเพื่อแสวงหาดินแดนที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิต กระทั่งพบดินแดนในหุบเขาแห่งหนึ่งที่รอดพ้นจากการทำลายล้างมาได้ ณ ที่นั่น แมกไม้ยังคงอุดม ผืนหญ้ายังคงเขียวขจี และดอกไม้ยังคงบานสะพรั่ง อาจเรียกได้ด้วยซ้ำว่าสมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม
แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยงามไปตลอด แฟรี่บางตนเริ่มเกิดความโลภ ต้องการครอบครองดินแดนอันผาสุกเอาไว้เอง เพื่อหยุดยั้งความวุ่นวาย เอลราเวนและวินด์เทียร์ตัดสินใจใช้พลังจากผลึกจอมมารที่อยู่ในครอบครองกำจัดเหล่าแฟรี่กบฏ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการกลายเป็นสายลมตะวันตกและตะวันออก ไม่สามารถเข้าใกล้กันได้ มิฉะนั้นจะเกิดการทำลายล้างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม แม้เอลราเวนและวินด์เทียร์จะกลายเป็นสายลมและถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวแฟรี่ แต่พลังแห่งสายลมที่ทั้งสองทิ้งไว้กับการเปลี่ยนแปลง ก็ยังช่วยสนับสนุนให้เหล่าแฟรี่กลายเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – ฟลอนาเรีย
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุลม สามารถผสานการโจมตีธาตุลมลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุลมระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุลมในระดับสูง / สามารถบินได้
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุลม ได้แก่ธาตุดิน ธาตุโลหะ และธาตุไม้ โดยจะอ่อนต่อธาตุดินมากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม – โทนสีสันสดใส
สีตา – โทนสีสันสดใส
สีปีก – โทนสีสันสดใส
รูปร่าง – เล็กบอบบาง สูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร
คารูดด์ (ภูตสายฟ้า)
ความเป็นมา - ครั้งเมื่อพลังมืดทำลายล้างเทียแมทเสียจนเกิดความปั่นป่วนไปทั่วทั้งพิภพ เมล็ดพันธุ์ของเทพแชฟทาลัส เทพแห่งสายฟ้าได้นำพามนุษย์กลุ่มหนึ่งดั้นด้นขึ้นไปหลบภยันตรายบนหน้าผาสูงสลับซับซ้อนของเทือกเขาโรซาบลังคา เพื่อจะหยิบยืมพลังพายุฟ้าคะนองธรรมชาติมาต้านทานการทำลายล้างของพลังมืด
แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็หนีไม่พ้นจากผลกระทบของพลังมืดอยู่ดี ร่างกายของพวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจนมีลักษณะบางส่วนใกล้เคียงกับนกที่ทำรังอยู่ในบริเวณนั้น กล่าวคือ แขนทั้งสองข้างมีขนนกงอกออกมาจนมีลักษณะคล้ายกับปีก เส้นผมก็กลายเป็นขนนกปกคลุมศีรษะ
พวกเขายังรู้จักนำพลังอำนาจของสายฟ้ามาใช้ และกลายเป็นภูตแห่งสายฟ้า พลังของสายฟ้าที่พวกเขาเรียนรู้นั้นทรงอำนาจพอจะผลักดันให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – อีเล็กโทรโมฮา
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุสายฟ้า สามารถผสานการโจมตีธาตุสายฟ้าลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุสายฟ้าระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุสายฟ้าในระดับสูง / สามารถบินได้
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุสายฟ้า ได้แก่ธาตุไม้ ธาตุดิน และธาตุน้ำ โดยจะอ่อนต่อธาตุไม้มากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม – โทนสีสันสดใส
สีตา – โทนสีสันสดใส
สีปีก – โทนสีสันสดใส
รูปร่าง – เพรียวลม
ดรากูนน์ (ภูตไฟ)
ความเป็นมา - แรงผันผวนของพลังมืดส่งผลกระทบลงไปถึงใต้พิภพ หินละลายใต้ผิวดาวถูกผลักดันขึ้นมา ก่อให้เกิดการปะทุหนักหน่วงของภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเดวิลโทเปีย มีเพียงพลังของเมล็ดพันธุ์แห่งเทพอสูรบัลร็อก เจ้าแห่งไฟเท่านั้นที่สามารถต้านทานความร้อนแรงของเปลวเพลิงและอุณหภูมิที่สูงลิบลิ่วได้
และพลังนั้นก็ทำให้มนุษย์กลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเกิดการเปลี่ยนแปลงจนสามารถพำนักในเขตภูเขาไฟได้โดยได้รับผลกระทบน้อยลง พวกเขาเหล่าภูตแห่งไฟมีเขาแบบมังกรจีนงอกออกมาจากศีรษะ และสามารถนำพลังของไฟมาใช้อย่างอิสระ
ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับธาตุอันร้อนแรงที่สุดนี่เองที่ทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – ฮูยันจูเรน
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุไฟ สามารถผสานการโจมตีธาตุไฟลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุไฟระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุไฟในระดับสูง
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุไฟ ได้แก่ธาตุน้ำ ธาตุน้ำแข็ง และธาตุไม้ โดยจะอ่อนต่อธาตุน้ำมากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อถึงทองแดง
สีผม – โทนสีทองถึงแดง
สีตา – โทนสีทองถึงแดง
สีเขา – โทนสีน้ำตาล
รูปร่าง - สูงโปร่ง สง่างาม
แอนดรอยด์ (ภูตโลหะ)
ความเป็นมา - ในขณะที่พลังมืดได้สำแดงพลานุภาพทำลายล้างทั่วทั้งแผ่นดิน มนุษย์ทั้งหลายต่างหนีเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณ แต่ยังมีนักวิทยาศาสตร์ประจำสตาลินไฮด์ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดเพื่อปกป้องผลงานของตนเอง
ความเข้มแข็งและความรักในผลงานของพวกเขาทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งเทพอัลโทมิส เด็กชายอัจฉริยะที่ทำงานอยู่ด้วยกันในสถาบันเกิดความซาบซึ้งถึงขั้นยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องวิญญาณของเหล่านักวิทยาศาสตร์ แม้พลังมืดจะป่นร่างกายของพวกเขาให้กลายเป็นผุยผงไปแล้วก็ตาม แต่วิญญาณพวกเขาก็ยังคงมีพลังมากพอจะเข้าไปหลอมรวมอยู่ในหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา ทำให้หุ่นยนต์เหล่านั้นมีชีวิตในฐานะสิ่งมีชีวิตจริงๆ
ด้วยร่างกายใหม่ที่เป็นโลหะ ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับธาตุโลหะได้ลึกซึ้งกว่าที่เคย และเรียนรู้จะนำพลังของธาตุโลหะมาใช้ ความรู้ในเชิงโลหะ รวมถึงความรู้ในเชิงประดิษฐ์ ทำให้เหล่าภูตโลหะได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – สตาลินไฮด์
จุดเด่น - เป็นเลิศในสาขาเวทธาตุโลหะ สามารถผสานการโจมตีธาตุโลหะลงในอาวุธ และใช้เวทธาตุโลหะระดับสูงได้ รวมถึงมีความต้านทานต่อธาตุโลหะในระดับสูง
จุดด้อย - อ่อนต่อธาตุที่ตรงข้ามกับธาตุโลหะ ได้แก่ธาตุน้ำแข็ง ธาตุน้ำ และธาตุลม โดยจะอ่อนต่อธาตุน้ำแข็งมากที่สุด
สีผิว – โทนสีเนื้อด้าน
สีผม – โทนสีเมทัลลิก
สีตา – โทนสีเมทัลลิก
รูปร่าง – มีตั้งแต่เล็กจนถึงสูงใหญ่
ฮาล์ฟบีสต์
ความเป็นมา - ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากพลังมืด สรรพสัตว์ต่างๆ ก็เช่นกัน พลังมืดทำให้พวกมันวิวัฒนาการไปในแนวทางต่างๆ กัน บ้างก็ดุร้ายขึ้น บ้างก็มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็ยังมีบางพวกที่วิวัฒนาการไปในทางบวกจนมีรูปร่างหน้าตาคล้ายมนุษย์ และมีสติปัญญาในระดับเดียวกับมนุษย์ พวกเขารวมตัวกันเป็นชนเผ่า เรียกตนเองว่าฮาล์ฟบีสต์
ในบรรดาฮาล์ฟบีสต์นั้น เหล่าเฟลิกซ์ (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลแมว) คานีน (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลสุนัข) เออร์ซ่า (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลหมี) แอนติโลป (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลกวาง) และสคิวริดส์ (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลกระรอก) 5 ตระกูลนี้มีจำนวนประชากร และความสามารถโดดเด่นที่สุด แต่ละตระกูลจึงถือเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – เฮไมมัล
คานีน (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลสุนัข)
จุดเด่น - สามารถแปลงร่างเป็นเวอร์วูฟ เพื่อเพิ่มพลังโจมตี ความเร็วในการโจมตี และอัตราหลบหลีกของตนอย่างมหาศาล แต่ต้องแลกด้วยพลังป้องกันที่ลดลง
จุดด้อย - หากร่างแปลงมีความสามารถไม่ตรงกับอาชีพที่เลือกเล่น จะเท่ากับไม่ได้รับความสามารถใดๆ เพิ่มขึ้นเลย
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
สีตา - โทนสีเหลือง-น้ำตาล-ดำ
สีหูหาง - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
รูปร่าง - สันทัด ดูคล่องแคล่ว
เออร์ซ่า (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลหมี)
จุดเด่น - สามารถแปลงร่างเป็นเวอร์แบร์ เพื่อเพิ่มพลังโจมตี และพลังป้องกันของตนอย่างมหาศาล แต่ต้องแลกด้วยความเร็วในการโจมตีและอัตราหลบหลีกที่ลดลง
จุดด้อย - หากร่างแปลงมีความสามารถไม่ตรงกับอาชีพที่เลือกเล่น จะเท่ากับไม่ได้รับความสามารถใดๆ เพิ่มขึ้นเลย
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
สีตา - โทนสีเหลือง-น้ำตาล-ดำ
สีหูหาง - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
รูปร่าง - สูงใหญ่ บึกบึน
แอนติโลป (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลกวาง)
จุดเด่น - สามารถแปลงร่างเป็นเวอร์เดียร์ เพื่อเพิ่มพลังป้องกัน และอัตราหลบหลีกของตนอย่างมหาศาล แต่ต้องแลกด้วยพลังโจมตีที่ลดลง
จุดด้อย - หากร่างแปลงมีความสามารถไม่ตรงกับอาชีพที่เลือกเล่น จะเท่ากับไม่ได้รับความสามารถใดๆ เพิ่มขึ้นเลย
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
สีตา - โทนสีเหลือง-น้ำตาล-ดำ
สีหูหาง - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
รูปร่าง - โปร่งบาง ดูปราดเปรียว
สคิวริดส์ (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลกระรอก)
จุดเด่น - สามารถแปลงร่างเป็นเวอร์สเควอเรลล์ เพื่อเพิ่มพลังเวทของตนอย่างมหาศาล แต่ต้องแลกด้วยพลังโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วในการโจมตี และอัตราหลบหลีกที่ลดลง
จุดด้อย - หากร่างแปลงมีความสามารถไม่ตรงกับอาชีพที่เลือกเล่น จะเท่ากับไม่ได้รับความสามารถใดๆ เพิ่มขึ้นเลย
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
สีตา - โทนสีเหลือง-น้ำตาล-ดำ
สีหูหาง - โทนสีขาว-น้ำตาล-ดำ
รูปร่าง -เล็ก ดูบอบบาง
เฟลิกซ์ (ฮาล์ฟบีสต์ตระกูลแมว)
จุดเด่น - สามารถแปลงร่างเป็นเวอร์แพนเธอร์ เพื่อเพิ่มพลังโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วในการโจมตี อัตราการหลบหลีก และพลังเวทของตนอย่างมหาศาล
จุดด้อย - เวลาการอยู่ในร่างแปลงน้อยกว่าเผ่าอื่นครึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถอยู่ในร่างแปลงได้อย่างต่อเนื่อง
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม - โทนสีขาว-เหลือง-น้ำตาล
สีตา - โทนสีเหลือง-น้ำตาล หรือโทนสีฟ้า
สีหูหาง - โทนสีขาว-เหลือง-น้ำตาล
รูปร่าง - สูงโปร่ง สง่างาม
ชาแมน
ความเป็นมา - เดิมทีชาแมนมิใช่สิ่งมีชีวิตบนเทียแมท และไม่ได้เกิดการกลายพันธุ์จากผลกระทบของพลังมืดด้วย แท้จริงแล้ว ชาแมนคือผู้เก็บเกี่ยวและส่งทอดวิญญาณของเอเลไซออน ดินแดนแห่งความตาย ภายใต้อำนาจของดิโอ พระเจ้าแห่งความตาย
เมื่อเกิดวิกฤตการณ์พลังมืดที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตบนเทียแมทอย่างมหาศาล และยังผลให้วิญญาณบางส่วนไม่สามารถเดินทางไปยังเอเลไซออนได้ตามปกติ ชาแมนจำนวนมากจึงถูกส่งมาเพื่อเก็บกวาด และส่งเหล่าดวงวิญญาณที่ติดค้างสู่สัมปรายภพ ชาแมนส่วนมากทำงานเสร็จสิ้นก่อนการโยกย้ายมิติ แต่ก็ยังมีชาแมนบางส่วนที่ติดค้างอยู่ในเดวิลโทเปียยามโยกย้ายมิติแล้ว
ชาแมนกลุ่มนี้ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเอเลไซออนได้ จำต้องใช้ชีวิตอยู่ในเดวิลโทเปีย เพื่อรับมือกับอันตราย พวกเขาเปลี่ยนแปลงตนเองจากผู้ส่งวิญญาณปกติ เป็นนักสู้ที่เรียกใช้วิญญาณมาช่วยในการต่อสู้ ก่อนจะส่งวิญญาณไปสู่เอเลไซออนตามเดิมเมื่อวิญญาณดวงนั้นหมดพลังแล้ว พลังแห่งวิญญาณที่พวกเขาควบคุมและเรียกใช้ได้ตามปรารถนาช่วยส่งเสริมให้พวกเขาได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด - เนโคราเคต (ชั้นบน)
จุดเด่น - สามารถเลือกเล่นอาชีพผู้ใช้วิญญาณเพิ่มจากอาชีพพื้นฐานได้
จุดด้อย - พลังจะลดลงเมื่อถึงเวลากลางวัน (กินเวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวัน)
สีผิว – โทนสีเนื้อโปร่งแสง
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – ไม่จำกัด
รูปร่าง – ค่อนข้างเล็กถึงปกติ
แวมไพร์
ความเป็นมา - ลูซิเฟล เดวิรอธ เจ้าชายแห่งแดนยมเอเลไซออน และมหาเวทเฟรยาร์ เดล ดิมิทรอฟ เจ้าของสร้อยไบรซิงการ์เมนในตำนานผู้เป็นภรรยา ได้ให้กำเนิดบุตรีนามว่า ลิลลิธ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่เกิดในราชวงศ์เดวิรอธในรอบหลายพันปี นางจึงได้รับพรให้มีโลหิตอันวิเศษ สามารถใช้ในการต่อสู้ หรือรักษาเยียวยาก็ได้
ลิลลิธแต่งงานกับเจ้าชายชาวมนุษย์นามว่า ฟาห์นาส โบลดเวย์น และได้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ที่สืบทอดทั้งลักษณะรูปร่าง ปีกที่มีพังผืดหนังแบบค้างคาว และความสามารถในการควบคุมโลหิตเพื่อต่อสู้และรักษาเยียวยา และยังสามารถใช้โลหิตของตนเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์อื่นให้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับตนได้ทั้งชั่วคราวและถาวร แต่ด้วยความที่มีสายเลือดอันอ่อนแอของมนุษย์ เผ่าพันธุ์เหล่านี้จึงไม่สามารถสร้างเลือดมาทดแทนเลือดส่วนที่สูญเสียไปได้ จำต้องดื่มเลือดของสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อทดแทน
ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ และความสามารถในการควบคุมโลหิตที่พวกเขาได้รับสืบทอดจากลิลลิธ ทำให้พวกเขาจัดเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – เวนาคาว่า
จุดเด่น - สามารถเลือกเล่นอาชีพผู้ใช้โลหิตเพิ่มจากอาชีพพื้นฐานได้ / สามารถบินได้
จุดด้อย - พลังจะลดลงเมื่อถึงเวลากลางวัน (กินเวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวัน)
สีผิว – โทนสีขาวซีด
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – โทนสีแดง
รูปร่าง - สูงโปร่ง สง่างาม
หมายเหตุ – แวมไพร์มีสองประเภทคือ แวมไพร์ตามสายเลือด และแวมไพร์ตามพิธีกรรม ซึ่งประเภทหลังคือสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นที่ผ่านพิธีดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์ของผู้เป็นแวมไพร์อยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม แวมไพร์ทั้งสองประเภทมีความสามารถเท่าเทียมกัน
ตาม Timeline ของนิยาย ขณะที่เกิดเรื่องขึ้น (26 ปี หลังก่อตั้งอาณาจักรแวมไพร์) แวมไพร์ตามสายเลือดมีเพียงตระกูลเดียวคือบลัดเวน ซึ่งเป็นลูกๆ ของฟาห์นาสและลิลลิธเท่านั้น แวมไพร์ตระกูลอื่นล้วนแต่เป็นแวมไพร์ตามพิธีกรรม
โบนสครีมเมอร์
ความเป็นมา - ครั้งเมื่อพลังมืดทำลายล้างดินแดนเทียแมท รอบข้างเต็มไปด้วยความตายและหายนะ มนุษย์กลุ่มหนึ่งทำใจไว้แล้วว่าพวกเขาย่อมไม่อาจรอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ ความมืดอันร้ายกาจค่อยๆ กัดกร่อนแขนและขาของพวกเขาจนเหลือเพียงกระดูก
หากผิดคาด พลังมืดไม่ได้ทำลายสิ่งใดมากกว่านั้น พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ได้แม้แขนและขาจะเหลือเพียงแค่กระดูก มิหนำซ้ำ พวกเขายังมีปีกที่เป็นกระดูกงอกขึ้นมาจากกลางหลัง และยังสามารถควบคุมกระดูกของซากศพรอบข้างได้ด้วย
เมื่อพวกเขารู้ว่าตนเองได้กลายเป็นอะไร เหล่าโบนสครีมเมอร์ก็ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปพำนักในสถานที่ที่เอื้ออำนวยต่อความสามารถของตนมากที่สุด นั่นคือมหาสุสานแห่งราชวงศ์โรเซ่ พวกเขาใช้พลังแห่งกระดูกประกาศศักดา จนกระทั่งได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปียในที่สุด
เมืองเกิด - เนโคราเคต (ชั้นล่าง)
จุดเด่น - สามารถเลือกเล่นอาชีพผู้ใช้กระดูกเพิ่มจากอาชีพพื้นฐานได้ / สามารถบินได้
จุดด้อย - พลังจะลดลงเมื่อถึงเวลากลางวัน (กินเวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวัน)
สีผิว - โทนสีเนื้อ
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – ไม่จำกัด
รูปร่าง – ปกติ
พอยชั่นเอล์ฟ
ความเป็นมา - ครั้งหนึ่งเหล่าพอยชั่นเอล์ฟเคยเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเหล่าทรีเอล์ฟมาก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะสนใจฝึกฝนการดึงพลังงานบริสุทธิ์จากแมกไม้มาใช้เช่นเดียวกับทรีเอล์ฟโดยทั่วไป พวกเขากลับสนใจในการใช้สรรพคุณต่างๆ จากพืชเพื่อปรุงยาพิษมากกว่า และพวกเขาก็สามารถปรุงยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรงมาก จนกระทั่งเริ่มส่งผลกระทบต่อป่าไม้ที่พวกเขาอาศัยร่วมกับทรีเอล์ฟตนอื่นๆ ดังนั้น เพื่อรักษาป่าไม้ และชีวิตของเหล่าทรีเอล์ฟตนอื่น พวกเขาจึงตัดสินใจแยกตนออกมา แสวงหาป่าห่างไกลและตั้งรกรากที่นั่น
ในไม่ช้า ป่าไม้ของพวกเขาก็คละคลุ้งไปด้วยไอหมอกพิษ ต้นไม้หากไม่เหี่ยวเฉาล้มตายก็กลายพันธุ์เป็นต้นไม้แปลกประหลาดไป เหล่าพอยชั่นเอล์ฟเองก็แปลกประหลาดไปเช่นกัน ถึงพวกเขาจะยังมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับทรีเอล์ฟอยู่ แต่การปรับตัวให้ต้านทานพิษร้ายที่กำซาบเข้าสู่สายเลือดก็บั่นทอนความมีชีวิตชีวาของพวกเขาไปบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ยาพิษที่พวกเขาปรุงขึ้นก็ทรงอานุภาพพอจะทำให้พวกเขาสามารถครองตำแหน่งหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปียได้
เมืองเกิด – ไวปรัส
จุดเด่น - สามารถเลือกเล่นอาชีพผู้ใช้พิษเพิ่มจากอาชีพพื้นฐานได้ / มีความคล่องแคล่วสูง สามารถวิ่ง กระโดด และปีนป่ายได้ไกลและรวดเร็วกว่าเผ่าอื่น
จุดด้อย - พลังจะลดลงเมื่อถึงเวลากลางวัน (กินเวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวัน)
สีผิว - โทนสีเนื้อซีดๆ ถึงเขียว
สีผม – ไม่จำกัด
สีตา – โทนสีเขียว
รูปร่าง - โปร่งบาง ดูปราดเปรียว
คิวบัส
ความเป็นมา - ก่อนจะเกิดวิกฤตการณ์พลังมืด พระเจ้าแห่งความมืดลูซิอัสได้เคยมาที่เทียแมท เพื่อสืบหาสาเหตุความเสียหายของสภาพแวดล้อม และแก้ไขความผิดพลาดของมนุษย์ โดยปลอมตัวเป็นศาสดาลัทธินอกรีต ขนานนามตนเองว่าจอมมาร
จอมมารลูซิอัสรวบรวมมนุษย์กลุ่มหนึ่งมาเป็นข้ารับใช้ โดยเสนอจะมอบความปรารถนา แลกกับการขายวิญญาณให้ความมืด คนเหล่านี้จะมีชีวิตเป็นอมตะ เว้นแต่จะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต มีร่างกายที่แข็งแรง พละกำลังมากและไม่เหน็ดเหนื่อยง่ายๆ ทั้งยังไม่ต้องการอาหารและการนอนหลับ ลักษณะทางกายภาพก็จะเปลี่ยนแปลงไปโดยมีเขาม้วนงอกขึ้นมาบนศีรษะ และสีผมสีตาก็จะเปลี่ยนเป็นโทนขาวดำ รวมทั้งมีปีกขนนกสีดำที่มีกรงเล็บติดอยู่งอกออกมาจากกลางหลัง พวกเขาคือเผ่าพันธุ์คิวบัสนั่นเอง
แม้จะเกิดวิกฤตการณ์ทำลายล้างของพลังมืดขึ้นแล้ว และจอมมารลูซิอัสก็ถูกผนึกไว้ในศิลาที่แตกร้าวเป็นสิบสามส่วน แต่เหล่าคิวบัสผู้จงรักภักดี นำโดยคิวบัสสาวนามว่า ลัสต์ ก็ยังคงเฝ้าสมบัติของจอมมารอยู่ที่ปราสาทเดิม สมบัติอันล้ำค่าที่สุดนั้นคือกระจกมายาสามบาน ซึ่งสามารถส่องให้เห็นห้วงมิติ อดีตกาล และความลับภายในจิตใจได้ แต่มีเฉพาะคิวบัสสตรีเท่านั้นที่สามารถมองเห็นภาพสะท้อนในกระจก เนื่องจากพลังของกระจกไม่ตอบสนองกับพลังของบุรุษอื่นนอกจากจอมมาร และถึงอย่างนั้น คิวบัสสตรีโดยทั่วไปก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนยอดหอคอยที่เก็บรักษากระจก มีเพียงลัสต์ซึ่งเป็นผู้รักษาอำนาจแห่งจอมมาร และริอง สาวใช้คนสนิทเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปบนยอดหอคอยได้
ลัสต์และริองได้ใช้กระจกทั้งสามบานเป็นต้นแบบในการฝึกฝนพลังให้แก่เหล่าคิวบัสตนอื่น จนพวกเขาสามารถควบคุมมายาได้ดังใจปรารถนา และทำให้คิวบัสกลายเป็นหนึ่งในชนเผ่าสำคัญของเดวิลโทเปีย
เมืองเกิด – สเปคคูลัม
จุดเด่น - สามารถเลือกเล่นอาชีพผู้ใช้มายาเพิ่มจากอาชีพพื้นฐานได้ / สามารถบินได้
จุดด้อย - พลังจะลดลงเมื่อถึงเวลากลางวัน (กินเวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวัน
สีผิว – โทนสีเนื้อ
สีผม – โมโนโครม (โทนสีขาว-เทา-ดำ)
สีตา – โมโนโครม (โทนสีขาว-เทา-ดำ)
รูปร่าง – หุ่นนายแบบนางแบบ ดูมีสัดส่วน
ความคิดเห็น