ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปราสาทกลางแห่งดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #7 : ห้องประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.53K
      0
      16 ก.ค. 59

    ห้องประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์
           



    ประวัติศาสตร์ของดาร์คแลนด์
    ถูกเก็บไว้ที่นี่...เชิญอ่าน




     








    25000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช การสถาปนาดาร์คแลนด์
    มหาจักรวาลเต็มไปด้วยอาณาจักรน้อยใหญ่มากมาย
    ยมทูตทั้งห้าแห่งนรกได้ร่วมสร้างดินแดนเร้นรับในม่านหมอกขึ้น
    ตั้งนามว่า อาณาจักรดาร์คแลนด์
    เพื่อรวมศาสตร์มืด ควมเร้นลับ เป็นที่อยู่อาศัยของ
    เทพ ภูติ ผี ปีศาจ วิญญาณ สัตว์หลากชนิด ซึ่งเป็นขบถต่อเเสงสว่าง
    อาณาจักรดาร์คแลนด์ คือดินแดนอันมืดมิด ไกลห่าง
    ตั้งอยู่ในสถานที่เร้นลับ บนฟ้าก็มิใช่ บนดินก็มิเชิง
    บางคราก็เหมือนคล้ายอยู่กลางมหาสมุทร
    เเต่บางคราก็เหมือนแอบว่อนใต้ผืนพิภพ
    หาคำตอบที่เเน่นอนมิได้
    หากท่านมิใช่ชาวดาร์คโดยสายเลือดเเล้วไซร้
    จะมิอาจมองเห็นอาณาจักรแห่งนี้ได้เลย
    ยมทูตทั้งห้า ได้นำชิ้นส่วนวิญญาณของตน
    หล่อหลอมออกมาเป็นชายชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนเเรก ชื่อ อัทรา
    เเละเป็นหญิงชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนแรกชื่อ เอรินเทรีย
    จากนั้นยมทูตทั้งห้าก็ทิ้งวิญญาณหลับใหลอย่างสงบสุข
    ไม่มีใครรู้ว่าวิญญาณของทั้งห้า...อยู่ที่ใด
    อัทรา เเละ เอรินเทรีย สถาปนาตนเป็นแกรนด์ดยุค เเละแกรนด์ดัชเชส รับหน้าที่เป็นผู้นำ
    แห่งดาร์คแลนด์ ภายใต้ธงตระกูลอันทรา ศูนย์กลางอยู่ที่เเคว้นเนพีอา ปกครองโดยสงบสุข
    ถึง 197 ยุคสมัย ประชาชนทั้งหมด เรียกตัวเองว่า...ชนเผ่าดาร์ค
    ทั้งหมด ล้วนมีจุดร่วมเดียวกันคือ... ชิงชังแสงสว่าง เเละมองเห็นความงดงามในความมืด.







    5000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช กาลวินาศแห่งอันทรา
    ชนเผ่าดาร์คได้สั่งสมอารยธรรมดาร์ค จนเลื่องลือ
    มีภาษาเป็นของตัวเอง มีสถาปัตยากรรม ศิลปวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง
    กระกูลอันทรา เเตกสาขาย่อยออกไปหลายสิบตระกูล รุ่งเรืองยาวนาน
    ตระกูลอันทรารุ่นที่ 97 ปกครองเมือง
    เเต่เเล้วกาลวินาศเเห่งอันทราก็มาถึง
    เมื่อในคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ได้มีชนเผ่าอานารยชนเข้ามารุกราน
    เผาเมืองดาร์ค เเละสังหารผู้นำตระกูลอันทรา พร้อมครอบครัวจนสิ้นซาก
    ชาวดาร์คตระกูลอื่นพากันกระจัดกระจายหายไปเพื่อเอาตัวรอด
    นักประวัติศาสตร์เรียกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ดาร์คแลนด์อย่างเหี้ยมโหดในวันนั้นว่า
    กาลวินาศแห่งอันทรา
    ดาร์คแลนด์กลายเป็นดินเเดนเวิ้งว้างรกร้างว่างเปล่ามานานกว่า 1000 ปี
    เต็มไปด้วยทุกเภทภัย โรคภัยไข้เจ็บระบาด
    ชาวเมืองอยู่อย่างเร้นเเค้น เเละประชาชนอดอยาก ไร้ผู้นำ






    4000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ยุคมืดแห่งดาร์คแลนด์
    ยุคมืดแห่งดาร์คแลนดกินเวลายาวนาน
    ชนเผ่าอานารยชนมากมายได้เข้ามาที่นี่ เพื่อกอบโกย เเย่งชิง เเละทำร้ายชาวดาร์ค
    ชาวดาร์คมากมายถูกกวาดต้อนกลายเป็นทาส
    สถาปัตยกรรมถูกทำลายเสียหายยับเยิน ไม่มีเหลือความรุ่งเรือง
    สามพี่น้องแห่งอันทรา...บุตรีของผู้นำอันทรารุ่นที่ 97 ซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึก
    ได้จับมือกับ ผู้นำตระกูลไดซิเนส พยายามปลุกระดม
    เเละรวมกำลังชาวดาร์คเพื่อขับไล่พวกอานารยชน
    จนสำเร็จ ทว่า เมื่อเหตุการณ์สงบ ผู้นำตระกูลไดซิเนสกลับทรยศสามพี่น้อง
    ป้ายสีว่าพวกนางเป็นผู้นำความวิบัติมาสู่ดาร์คแลนด์
    จึงกักขังพวกนางไว้ใต้พิภพในเนพีอา...
    จากนั้น ผู้นำตระกูลไดซิเนส ก็สถาปนาตัวเองเป็นผู้นำดาร์คแลนด์
    ภายใต้ธงตระกูลไดซิเนส ศูนย์กลางอยู่ที่แคว้นไดซิเนส
    ปกครองอย่างอำมหิต เหี้ยมโหด ไม่ให้เสรีภาพ
    จนเราขนานนามยุคนั้นว่า ยุคมืดของดาร์คแลนด์ กว่า 3,000 ปี
    ยุคมืดจบลง..เมื่ออานารยชนอีกเผ่าเข้ารุกรานจนผู้นำตระกูลไดซิเนสพ่ายเเพ้ เเละหนีหายไป
    ทั้งยังมภัยพิบัตรจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้อาณาจักรตกอยู่ภายใต้บาดาล
    ทำให้ดาร์คแลนด์รกร้างอีกครั้งกว่า 3000 ปีฟ










    คริสต์ศักราชที่ 2010 แสงสว่างแห่งดาร์คแลนด์
    ในขณะเดียวกัน ได้มีอีกตำนานเกิดขึ้นที่โพเทสต้า
    ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ ได้อ้างว่าตนให้กำเนิดชาวดาร์ค 1 คนซึ่งเป็นบุตรแห่งดาร์คลอร์ค
    ซึ่งจะมานำพาชาวดาร์คให้หลุดพ้นจากยุคแห่งความลำบาก
    คือ นัวร์แห่งดาร์คแลนด์
    นัวร์แห่งดารคแลนด์ เมือ่เติบโต ได้เข้าสู่การเป็นนักบวชและนักแสวงบุญเพื่อรับใช้ดารคแลนด์
    ออกเดินทางไปไกลสุดโพ้นขอบฟ้า และได้กลับเข้ามาในดาร์คแลนด์
    อีกครั้ง เเละพบเห็นความทุกข์ยากของชาวดาร์ค
    นัวร์ ได้ผ่อนเบาความทุกข์ของชาวเมือง
    สร้างขวัญกำลังใจ เเละรวบรวมชาวดาร์คที่หายไปกลับคืนมา
    ในครั้งนั้น ได้มีสตรี เเละ บุรุษเข้าร่วมกับนัวร์แห่งดาร์คแลนด์ด้วย
    ได้และเเล้ว ในเดือน พฤษภาคม 2010
    ชนเผ่าดาร์คที่รอดชีวิต ได้รวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ปีศาจ
    นำโดย  นัวร์แห่งดาร์คแลนด์
    ก่อตั้งอาณาจักรดาร์คแลนด์ขึ้น
    ในครั้งนั้น สมาพันธ์ปีศาจมี 3 ท่านประกอบด้วย
    1. Vinsare of Darkland
    2. Dark Lady of Darkland
    3.Bluerose of Darkland
    อาณาจักรดาร์คแลนด์ก่อตั้งขึ้นอีกครั้งโดยมีนัวร์แห่งดาร์คแลนด์
    เป็นผู้นำอาวุโสสูงสุด ดาร์คแลนด์รุ่งเรืองอย่างมาก
    ชนเผ่าดารคที่กระจัดกระจาย ได้กลับคืนมาอีกครั้ง
    โดยบลูโรส เเละนัวร์ ได้จับมือทำพันธสัญญาเป็นพี่น้องกัน
    เเละทำพิธีกรรมรับ วิคเตอร์แห่งรัสเซียเป็นบิดา เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    เมื่อเวลาผ่านไป ท่าน Vinsare of Darkland และท่าน Dark Lady of Darkland
    ได้ อำลาอาณาจักรดาร์คเเลนด์เพือออกเดินทางไปแสวงหาสัจธรรมในยดินแดนไกลโพ้น อย่างไรก็ตาม
    กิตติคุณของท่านทั้งสอง จะยังคงอยู่กับเราตลอดไป
     ชาวดาร์คที่กลับมานั้นก็หาให้ชาวดาร์คสายเลือดแท้ไม่ เพราะการกระจัดกระจายไปนาน
    ทำให้สายเลือดดาร์คเเท้ได้ปะปนกับสายเลือดอื่นจนสิ้น
    จนยากจะตามหาผู้มีสายเลือดดาร์คในตำนานพบ
    นอกจากนี้ การตื่นขึ้นของดาร์คแลนด์ในครั้งนี้
    ยังก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ในป่าต้องห้ามคือ "ลูกแก้วมนต์ขลังแห่งดาร์คแลนด์"
    ซึ่งมีอำนาจวิเศษ ส่งเสียงกระซิบไปยัง "ผู้ถูกเลือก"
    เมื่อ ผู้ถูกเลือก สัมผัสได้ถึงเสียงกระซิบ เเละพลังเร้นลับของลูกแก้วมนต์ขลังเเห่งดาร์คแลนด์
    จิตวิญญาณดาร์คก็จะเติบโตในจิตใจของพวกเขา
    เกิดเป็นชาวดาร์คอีกประเภท คือ "ชาวดาร์คผู้ถูกเลือก"
    ชาวดาร์คประเภทนี้จะไม่มีสายเลือดดาร์ค เเละพ่อหรือเเม่ของเขาอาจจะไม่ใช่ชาวดาร์ค
    รวมถึงตัวเขาเอง อาจจะมีสัญชาติอื่น
    เเต่ว่าจิตวิญญาณของเขา ถูกความดาร์คเข้าครอบงำ
    เมื่อได้ยินเสียงลูกแก้วมนต์ขลังเเล้ว ชาวดารคผู้ถูกเลือกก็จะออกเดินทาง
    ต่อให้ไกลเพียงใด
    ก็จะข้ามผ่านมาให้ได้ เพื่อมายังอาณาจักรดาร์คแลนด์แห่งนี้..
    ทำให้อาณาจักรดารคแลนด์เต็มไปด้วยชาวดาร์คจำนวนมาก
    ทั้งเลือกบริสุทธิ์ เลือดผสม เเละ ชาวดาร์คผู้ถูกเลือก








    คริสต์ศักราชที่ 2011 ยุคทองแห่งดาร์คแลนด์
     ในวันที่ 10 มีนาคม 2011
    บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ได้ปฏิรูปการปกครองดาร์คแลนด์
    โดยมี นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ เป็นผู้นำสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
    ครองตำแหน่ง แกรนด์ดัชเชส แห่ง ดาร์คแลนด์
    และ แบ่งการปกครองออกเป็น 6 แคว้น โดยคัดเลือดผู้นำแคว้น
    จากการประลองเวทย์เเละอาวุธในระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคม 2011 ได้ผู้นำเเคว้นดังนี้
    "เทียร์ดรอล่า แคว้นแห่งน้ำตา"
    ให้ปกครองโดย ดอลลา แดน ทไวไลท์ เทียร์ดรอล่า
    "ไดซิเนส แคว้นแห่งรัตติกาล"
    ให้ปกครองโดย บลูโรส แห่ง ดาร์คแลนด์
    "ไฟร์ไอนิส แคว้นแห่งเพลิงไฟและความแค้น"
    ให้ปกครองโดย ลูซิเฟอร์ ดาร์ค ไฟร์ไอนิส
    "เบลเลียมมอร์ธ แคว้นแห่งสงครามเเละความตาย"
    ให้ปกครองโดย พีริอุส ครีด เบลเลียมมอร์ธ
    "ไอร์กราเซียส แคว้นแห่งความหนาวเหน็บ"
    ให้ปกครองโดย ลิลิธ เซลีน  ไอร์กราเซียส
    "โพเทสทา แคว้นแห่งพลังอำนาจ"
    ให้ปกครองโดย ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรล
    สำหรับการปกครองระดับมณฑล มอบให้แก่ ขุนนางยศ มาควิส
    การปกครองระดับนคร มอบใมห้แก่ ขุนนางยศ เอิร์ล
    การปกครองระดับเมืองท่า มอบให้แก่ ขุนนางยศ เคาน์
    เเละการปกครองระดับเมือง มอบให้แก่ขุนนางยศ บารอน
    ท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ได้ปรับปรุงการปกครองในดาร์คแลนด์ให้ประกอบไปด้วย
    1 อำนาจฝ่ายบริหารมอบให้แก่
    สภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
    โดยท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์เป็นผู้นำสูงสุดในสภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
    สภาขุนนางแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยขุนนางระดับดยุค มาควิส เเละ เอิร์ล
    สภาปราชญ์บัณฑิตแห่งดาร์คแลนด์
    ประกอบไปด้วยสมาชิกผู้ทรงภูมิด้านศาสตร์เเละศิลป์ วิชาการดาร์คแลนด์ต่างๆ
    สภาพิทักษ์สันติราชแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยหน่วยพิทักษ์สันติราชต่างๆ
    สภาข้าหลวงแห่งดารคแลนด์ ประกอบไปด้วยข้าหลวงตำแหน่งต่างๆ
    2 อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มอบให้แก่
    สภาฐานันดรแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบด้วยวุฒิสมาชิก 6 คน
    สภาสามัญชนและชนชั้นกรรมาชีพ ประกอบด้วย สมาชิกผู้แทนสามัญชน 6 คน
    3 อำนาจฝ่ายตุลาการ มอบให้แก่
    สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ อันได้แก่ศาลปกครอง เเละศาลยุติธรรม
    4 อำนาจฝ่ายความมั่นคง มอบให้แก่
    สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์
    โดยตำแหน่งสมาชิกสภาต่างๆ
    ให้มีการสรรหาเเละเเต่งตั้งโดยดุลยพินิจของผู้นำสูงสุดเเละผู้นำฝ่ายบริหารจะเห็นชอบ
    ตำแหน่งไม่สามารถสืบทอดได้โดยสายเลือด
    บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ดัชเชสแห่งไดเซนนิส
    ซึ่งเป้นประธานสูงสุดฝ่ายบริหาร ได้จัดการก่อสร้างดาร์คแลนด์ครั้งยิ่งใหญ่
    และเพื่อให้ดาร์คแลนด์ ได้เป็นอาณาจักรแห่งสันติสุขของชาวดาร์คตราบชั่วนิรันดร์





    คริสต์ศักราชที่ 2012การกลับคืนของอันทรา
     เเละเเล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์,
    ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรรล์, เเตน ดอลลา เดอลาเทียร์
    สามดัชเชสซึ่งมีอำนาจในยุคสมัยนี้ ได้รับบาดเจ็บจากการตกเครื่องบิน
    เป็นเจ้าหญิงนิทราที่โรงพยาบาล พร้อมกับการค้นพบเนพีอา...
    เเละการคืนชีพของสามพี่น้องแห่งอันทรา
    เเละดาร์คแลนด์ ก็เข้าสู่การปกครองโดยตระกูลอันทราอีกครั้ง
    โดยศูนยืกลางการปกครอง...อยู่ที่ เนพีอา







    คริสต์ศักราชที่ 2013 ยุคทองแห่งไดซิเนส
    หลังจากมายาโรสพ่ายแพ้แก่ภัยของตัวเอง
    และด้วยความเรียกร้องของประชาชน ตระกูลไดซิเนสได้กลับมาอีกครั้ง
    บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ รับอำนาจการปกครองสูงสุดทั้งหมด
    และตัดขาดจากพันธมิตรทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
    เหล่าขุนนางได้ปฎิรูปการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นสองครั้ง
    โดยนายกรัฐมนตรีไบร์ท ลูมินอส แห่งพรรคสังคมนิยม
    ได้รับตำแหน่งถึงสองหนเอาชนะคู่เเข่งอย่างพรรคจิตวิญญาณหัวก้าวหน้า
    และพรรคบาทรอเลนเซียผู้มั่งคั่งเเละสูงส่ง
    การสื่อสารเเละเทคโนโลยีในดาร์คได้เริ่มต้นพัฒนายิ่งขึ้น
    มีการส่งหนังสือพิมพ์แบบใหม่ที่สะดวกเเละดึงดูด
    นอกจากนี้ ยังปรับปรงโครงสร้างผังเมือง
    เพื่อให้ชาวดาร์คที่มีจำนวนมาก มีทีอยู่โดยเท่าเทียมกัน
    พร้อมกันนั้น ยังปฏิรูปการปกครองใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น สามสภา ดังนี้
    1. สภาปกครองสูงสุด กุมอำนาจบริหาร
    ประกอบด้วย สภาขุนนางอัศวิน และสภาสามัญชน ซึ่งมีหลากหลายกระทรวง
    2. สภาความั่นคง กุมอำนาจทหาร คอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายนอก
    และกุมอำนาจตำรวจคอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายใน
    3. สภาตุลาการ กุมอำนาจศาลและการออกกฏหมาย

    ทั้งนี้เกิดความเศร้าเเละการสูญเสียครั้งใหญ่
    ของชาวดาร์คนั่นคือการเสียชีวิตของซีเคร็ท นกฮูกประจำดาร์คแลนด์
    ผู้มีอายุ 600 กว่าปี




    คริสต์ศักราชที่ 2014 ยุคมืดแห่งดาร์คแลนด์
    เลดี้บลูโรสได้หายสาบสูญไป และ วันที่ 31 ตุลาคม 2014
    เกิดข่าวลือว่าวิญญาณของเลดี้บลูโรสได้ดับสลายไปชั่วนิรันดร์ การตายของเลดี้เรียบง่าย
    ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีผู้คนรุมล้อม นับระยะเวลาการปกครองดาร์คแลนด์มากกว่า 1000 ปี
    นามของนางเหลือเพียงประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้กล่าวถึง
    โดยนางได้เขียนพินัยกรรมฉบบสุดท้าย กล่าวคือ
    ขอมอบอำนาจการปกครองแคว้นไดซิเนสให้แก่ พีนัท
    ลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ดูใจเคียงข้างนางในวันสุดท้าย
    และได้ฝากฝังแคว้นไฟร์ไอนิชและโพเทสต้าไว้แก่ เมนิเอล่า 
    พร้อมทั้งฝากฝังให้ชาวดาร์คในกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ
    จงปฏิบัติหน้าที่อย่างมีเกียรติต่อไป
    ผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ดาร์คแลนด์เข้าสู่ยุคมืด นายกรัฐมนตรีหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย
    ร้านรวงปิดสนิท  ชาวดาร์คต่างอพยพหนีออกจากเมือง
    ปราสาทและสิ่งก่อสร้างเก่าโทรม






    คริสต์ศักราชที่ 2016 การฟื้นคืน
    เลดี้บลูโรสได้กลับมาสู่ดาร์คแลนด์ ทำรัฐประหารยึดอำนาจทั้งหมดในดาร์คแลนด์ไว้ที่ตัวเอง
    พร้อมทั้งเปิดโปงผู้ที่ลอบฆ่านาง
    มีการจัดกิจกรรมแข่งขันมังกรครั้งยิ่งใหญ่ในวันชาติแห่งดาร์คแลนด์
    ในยุคนี้ ดาร์คแลนด์ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
    สิ่งก่อสร้างต่างๆ ในเมืองเริ่มถูกฟื้นฟูให้กลับมางดงามดังเดิม
    หลังจากนั้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 เลดี้บลูโรสได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีดาร์คแลนด์ขึ้น
    เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 5 ซึ่งมีพรรคต่างๆ ทั้ง 6 พรรค เป็นตัวแทนจากแคว้นทั้ง 6 เข้าร่วมสมัคร




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×