ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักเรียนหมอขอเมาท์

    ลำดับตอนที่ #34 : เมาท์ : ถึงเธอผู้เสียสละ ... อาจารย์ใหญ่ของฉัน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.62K
      5
      4 ก.ค. 53

    ถึงเธอผู้เสียสละ ... อาจารย์ใหญ่ของฉัน


    ควันไฟสีเทาขุ่นพวยพุ่งขึ้นสู่ผืนฟ้าเบื้องบน  ผ่านม่านเมฆสีขาวสูงขึ้นไปจนไกลลับ  ยากเกินการคาดเดาว่าจุดหมายของมันจะสิ้นสุดลงที่ใด  แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันทราบดีก็คือ  จุดหมายครั้งสุดท้ายภายในหัวใจของบุคคลที่ฉันรักได้สิ้นสุดลงแล้ว  หากเป็นจุดสิ้นสุดที่จุดประกายจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของจุดหมายเดียวกันนั้นขึ้นภายในใจของใครอีกหลายคน  คล้ายการเกิดใหม่ของนกฟีนิกซ์  นกเฒ่าอาบร่างอันแก่ชราของตนด้วยเปลวเพลิง  ก่อนจะกลับกลายเป็นลูกนกตัวน้อยที่อาศัยกองขี้เถ้าเป็นผืนผ้าอ้อมห่อตัวไว้  เป็นเรื่องมหัศจรรย์  เป็นเรื่องที่ใครหลายคนปรารถนาจะให้เกิดขึ้นกับตนเอง  ทั้งที่รู้ดีว่า...สิ่งที่คิดหวังไว้ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง

      ฉันถอนสายตากลับไปยังเมรุเผาศพที่เดินจากมาเมื่อครู่  ภาพเตาเผาขนาดใหญ่ที่เปิดออกกว้างจนมองเห็นโลงศพสีขาวดุลขอบทองภายในยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ  ดอกไม้จันสีขาวบริสุทธิ์ถูกวางไว้บนขอบปูนหน้าเตาเผาดุจจะย้ำเตือนคำสัญญาที่ฉันได้ให้ไว้กับใครบางคน  ฉันก้มหน้าซ่อนรอยอาลัยในดวงตา  รู้ดีว่าอีกไม่นานเปลวไฟก็คงลามเลียดอกไม้จันไปพร้อมกับร่างของใครคนนั้นจนเหลือแต่เพียงเถ้าถ่าน  และเขาผู้นั้นก็คงไม่สามารถถือกำเนิดเกิดใหม่บนกองขี้เถ้าได้อีกครั้งเหมือนอย่างเช่นนกฟีนิกซ์  คงเหลือไว้แต่เพียงคำสัญญาที่ไม่อาจมอดดับลงด้วยความร้อนแรงแห่งเปลวเพลิง.....คำสัญญาระหว่างเราสองคน

    ฉันยังจำได้ดีถึงวันที่เราพบกันครั้งแรก  คล้ายกับว่าเรื่องราวทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้  วันนั้นฉันตื่นเต้นเป็นการใหญ่ที่จะได้พบเธอ  ใครบางคนบอกฉันว่าเธอเป็นคนพิเศษ  เป็นคนดีที่รักจะเสียสละเพื่อสังคม  ในตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยเข้าใจนัก  การเสียสละจะสามารถสร้างความพิเศษให้กับใครได้จริงหรือ  ถ้าอย่างนั้น  บนโลกเล็กๆ ใบนี้ก็คงเต็มไปด้วยคนพิเศษมากมาย  เพราะฉันเชื่อว่าต่อให้โลกจะปะทุไปด้วยความร้อนแรงแห่งการแก่งแย่งชิงดีขนาดไหน  ในแต่ละวันก็ย่อมต้องมีใครบางคนที่ยินยอมเสียสละให้คนอื่นมากกว่าหนึ่งคน  แล้วถ้ามีคนที่เสียสละเยอะมากขนาดนั้น  การเสียสละของเธอจะเรียกว่าพิเศษได้อย่างไร

    ฉันเดินตามเพื่อนๆ ร่วมคณะไปพบเธอ  ระหว่างการเดินทางก็อดรู้สึกประหม่าปะปนไปกับตื่นกลัวไม่ได้  การพบเจอและทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า  มักจะก่อความกังวลเล็กๆ ขึ้นภายในใจฉันอยู่เสมอ  และในครั้งนี้ก็เช่นกัน  ทันทีที่เราพบกัน  ใครคนหนึ่งเปิดผ้าคลุมหน้าเธอออก  ใบหน้าของเธอดูนิ่งเฉยและสงบเสียจนฉันอดรู้สึกหวั่นเกรงไม่ได้  ดูเธอจะไม่อนาทรร้อนใจเลยสักนิดกับการมาเยือนของพวกเรา   ไม่แม้แต่จะยิ้มทักทายพวกเราเลยแม้แต่น้อย  ไม่มีใครพูดอะไร  นาทีนั้นมีแต่ความเงียบ  แล้วในที่สุดฉันกับเพื่อนก็เดินกลับออกมา  ทิ้งเธอไว้กับเพื่อนๆ ของเธอในห้องนั้นตามลำพัง 

    เช้าวันถัดมา  ฉันตื่นแต่เช้า  เดินทางมายังตึกเดิมที่เราเจอกันเมื่อวาน  ฉันทักทายเธอด้วยรอยยิ้มน้อยๆ  ในขณะที่เธอก็ยังคงเฉยเมยกับฉันเหมือนเดิม  อาจารย์หลายคนเริ่มทยอยกันเข้ามาภายในห้อง  ฉันนั่งเรียนข้างๆ เธอ  และอดแอบมองเธอเป็นระยะๆ ไม่ได้  เนื้อหาที่สอนวันนี้ค่อนข้างยากจนฉันเริ่มรู้สึกท้อใจ  นี่แค่เริ่มเรียนวันแรก  ก็ทำเอาฉันหมดกำลังใจเสียแล้ว  ไม่รู้ว่าเธอจะแอบคิดเหมือนกันบ้างหรือเปล่า
     

    แล้วช่วงเวลาแห่งการปฏิบัติก็มาถึง  พวกเราทุกคนต่างยืนรายล้อมรอบๆ ตัวเธอ  ใครบางคนในกลุ่มแกะกระดาษที่ห่อใบมีดออก  ก่อนจะจัดการใส่มันลงไปติดกับด้าม  ความคมของมีดสะท้อนกับแสงจากโคมไฟเหนือตัวเธอเป็นเงาวับ  ในขณะที่ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้าสู่หัวใจของฉันอีกครั้ง  แต่ถึงจะกลัวแค่ไหนฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากปลายมีดที่กำลังกรีดลงบนร่างของเธอได้เลย  ความคมของมันทำให้ผิวหนังสีน้ำตาลของเธอแยกออกจากกัน  เผยให้เห็นชั้นไขมันสีเหลืองที่อยู่ลึกลงไป  ฉันรับมีดอีกเล่มมาจากคนในกลุ่ม  ก่อนจะใช้มันเลาะชั้นไขมันออกจากร่างของเธอ  ทันทีที่ไร้ชั้นไขมันปกคลุม  เนื้อแท้ของเธอก็ปรากฏ  มันทอดตัวเป็นลายยาวขนานกันไป  แตกต่างกันเพียงตำแหน่งและทิศทาง  ฉันหันไปมองใบหน้าเธออีกครั้ง  แต่ผ้าคลุมหน้าที่คลุมไว้ทำให้ไม่อาจมองเห็นดวงตาของเธอได้  กล่าวกันว่า  าคลุมหน้าออก  ใบหน้าของเธอดูนิ่งเฉยและสงบเสียจนฉันอดรู้สึกหวั่นเกรงไม่ได้  ดูเธอจะไม่อนาหากปรารถนาจะรู้ซึ้งถึงจิตใจใครสักคนแล้ว  ให้เพ่งมองลึกลงไปในดวงตา  ใต้พื้นทะเลหมอกสีขาวจุดดำนั้นมีหีบความจริงซุกซ่อนอยู่เสมอ  แต่ในเมื่อฉันไม่อาจทำเช่นนั้นกับเธอได้  แล้วจะรู้ได้อย่างไรถึงความรู้สึกนึกคิดภายในใจของเธอ  เธอจะเจ็บมากไหม  แล้วจิตใจของเธอกำลังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหมือนกันกับฉันหรือเปล่า  ฉันได้แต่กล่าวขอโทษเธอในใจเบาๆ  หวังว่าเธอคงเข้มแข็งและไม่ถือโทษโกรธเคืองในสิ่งที่พวกเราทำกับเธอ

                    ผ่านไปสักพัก  ใครคนหนึ่งในกลุ่มก็หาเส้นเลือดของเธอพบ  ในขณะที่ใครอีกคนใช้ด้ายจากปลายผ้าคลุมหน้าของเธอมามัดเส้นเลือดเอาไว้  เส้นเลือดของเธอดูเล็กและเปราะบางเหลือเกิน  ต่างจากหัวใจของเธอลิบลับ  เธอช่างเข้มแข็งเกินกว่าที่ฉันคิดไว้นัก  ตลอดเวลาที่ปลายมีดสัมผัสต้องลงบนตัวเธอ  เธอกลับไม่ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว  คล้ายกับว่าเธอเต็มใจและยินดีต่อการกระทำของพวกเรา  ฉันใช้ท่อนแขนปาดเหงื่อที่ซึมออกมาตรงข้างขมับ  ในที่สุดภารกิจวันนี้ก็จบลงเสียที  หวังว่าเธอคงได้พักผ่อนและหลับสบายก่อนที่เราจะพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้

                    ฉันกลับมาพบกับเธออีกครั้งในเช้าวันนี้เหมือนเช่นในทุกๆ เช้าที่ผ่านมา  เวลาผ่านไปเร็วอย่างเหลือเชื่อ  เรารู้จักกันมาเกือบปีแล้วสินะ  ตอนนี้ฉันเริ่มสนิทและคุ้นเคยกับเธอพอสมควรแล้ว  เธอยังคงนิ่งเงียบเหมือนเคย  ในขณะที่ฉันก็ยังคงกังวลใจกับการเรียนไม่ต่างไปจากวันแรก  แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป  คือความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ  ฉันเคยบอกเธอหรือยัง  ฉันเป็นคนติดแม่มากๆ  ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกทุกข์ท้อหรือไม่สบายใจก็มักจะคิดถึงแม่เป็นคนแรกเสมอ  แม่จะปลอบใจฉันด้วยคำพูดและแววตาอ่อนโยน  สัมผัสเบาๆ จากฝ่ามือของแม่ที่ลูบลงบนแผ่นหลังดุจจะพาเอาความไม่สบายใจของฉันลอยหายไปได้เสมอ  แต่ฉันไม่สามารถอยู่ติดกับแม่ได้ตลอดเวลา  เราต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตน  ในระหว่างนี้  ฉันจึงทำได้เพียงเก็บความกังวลนั้นไว้ภายในใจ  เพียงเพื่อจะได้กลับไปเล่าให้แม่ฟังในยามที่เราอยู่ด้วยกัน  แต่เดี๋ยวนี้ฉันไม่ต้องรอนานถึงขนาดนั้นแล้ว  เพราะฉันมีเธออยู่ใกล้ๆ  เธอเปรียบเสมือนแม่คนที่สองที่ฉันจะสามารถปรับทุกข์ด้วยได้  เปล่าหรอก  เธอไม่ได้พูดจาปลอบโยนฉันแม้แต่คำเดียว  เธอยังคงเป็นเธอที่รักษาความเงียบไว้กับตัวได้เสมอ  แต่เชื่อไหม  เธอไม่ต้องทำอะไรเลย  ไม่ต้องลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจฉัน  ฉันก็หายกังวลใจได้  เพราะอะไรนั้น  ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

                    ทุกครั้งเวลาฉันกลุ้มใจกับการเรียนมากๆ  ฉันจะแอบบีบมือเธอเบาๆ  มือของเธอถูกเลาะผิวหนังและไขมันออกไปจนหมดแล้ว  คงเหลือไว้แต่เพียงกระดูกและเส้นเอ็นที่ยึดโยงกันไว้  มันจึงไม่นิ่มและอุ่นเหมือนมือของแม่  แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจได้อย่างประหลาด  ปลายนิ้วเย็นชืดที่ฉันสัมผัสผ่านถุงมือคล้ายจะทำให้ความเหน็บหนาวที่เกาะกินใจฉันสลายหายไป  แม้แต่ตอนที่ฉันต้องสอบหรือตอบคำถามจากอาจารย์  เธอก็ยังคงอยู่เคียงข้างฉัน  แม้ว่าเธอจะไม่ได้บอกคำตอบที่ถูกต้องกับฉัน  และแม้ว่าเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของคำถาม  แต่เธอกลับสร้างพลังใจให้ฉันทำข้อสอบได้อย่างปลอดโปร่งทุกครั้ง  แม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจในคำตอบ  แต่ฉันมั่นใจในตัวเธอ  เธอไม่มีทางปล่อยให้ฉันเผชิญชะตากรรมที่น่าวิตกอยู่เพียงลำพังแน่นอน  ในขณะที่ฉันถูกข้อสอบฟาดฟันจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว  ท้ายที่สุดก็จะยังมีเธอที่เฝ้าคอยเยียวยารักษาฉันจนหายดี  และนี่กระมังที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ

    บ่อยครั้งที่ฉันอดรู้สึกผิดต่อเธอไม่ได้  หลายต่อหลายหนที่ฉันทุกข์ท้อต่อการเรียนจนเลือกที่จะนั่งดูอยู่เฉยๆ  โดยไม่แม้แต่จะเฉียดเข้าไปใกล้ด้ามมีดที่นำทางคมของมันบาดลึกลงไปในร่างของเธอเลยแม้แต่น้อย  เธออาจกำลังรู้สึกผิดหวังและตำหนิฉันอยู่ในใจ  ฉันเองก็ผิดหวังไม่ต่างอะไรไปจากเธอ  ผิดหวังที่ทำให้ความเสียสละของเธอไม่เกิดผลสมบรูณ์เท่าที่ควร  แต่ฉันก็อดปลอบใจตัวเองด้วยเหตุผลที่ไร้น้ำหนักไม่ได้ว่า  ถึงไม่มีฉัน  เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็สามารถทำให้การเสียสละของเธอมีค่าได้  และมีค่ามากเสียด้วย  แต่ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้คิดอย่างนั้น  เราเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันแล้ว  เธอเองคงห่วงใยฉันเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง  และปรารถนาจะให้ฉันได้รับความรู้เท่าเทียมกันกับทุกๆ คน  ฉันเองรู้สึกซาบซึ้งใจในความจริงข้อนี้ดี  และยังรู้สึกเสียใจจนถึงทุกวันนี้กับการกระทำของตัวเอง    ไม่รู้ว่าฉันเคยเอ่ยปากขอโทษเธอไปแล้วหรือยัง  และถึงแม้ตอนนี้จะสายไปแล้ว  ฉันก็ยังอยากจะพูดคำๆ นี้กับเธออยู่ดี ขอโทษนะคะ หวังว่าเธอคงให้อภัยและไม่โกรธฉันนะ และขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความปรารถนาดีของเธอ

    ตลอดเวลาที่เรามีโอกาสได้พบและรู้จักกัน  ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย  เธอค่อยๆ เผยความพิเศษให้ฉันเห็นทีละนิด  เธอสอนให้ฉันเรียนรู้และมองความ พิเศษด้วยนิยามที่ต่างไปจากเดิม  ความพิเศษไม่จำเป็นต้องหมายถึงความโดดเด่น  ความแตกต่างในทางรูปธรรม  แต่มันอาจเป็นความพิเศษที่ส่งตรงมาจากส่วนลึกของจิตใจก็ได้  ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพิเศษชามนี้อาจไม่ได้พิเศษตรงปริมาณเนื้อเป็ดที่เพิ่มขึ้น  เหมือนก๋วยเตี๋ยวเป็ดพิเศษชามอื่นๆ  แต่ความพิเศษของมันอยู่ตรงรอยยิ้มที่ป้าคนขายมอบให้  และความละเมียดละไมพิถีพิถันในการทำอย่างมีความสุข  เพราะถ้าเน้นเพียงแค่ปริมาณ  ก๋วยเตี๋ยวเป็ดชามนี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากก๋วยเตี๋ยวเป็ดพิเศษชามอื่นเลย  แต่ความตั้งใจของป้าที่จะทำก๋วยเตี๋ยวเป็ดชามนี้ให้เราทานต่างหากที่พิเศษกว่าใคร  ป้าทำให้เราไม่ใช่ให้คนอื่น  เพียงแค่นี้ก็พิเศษแล้ว  และการซื้อในวันนี้หรือในวันพรุ่งนี้ก็ถือเป็นความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง  วันนี้ป้ายังไม่สนิทกับเราความพิเศษก็อาจน้อยหน่อย  แต่พรุ่งนี้ความสนิทสนมจะช่วยเพิ่มความพิเศษลงไปอีก  จนก๋วยเตี๋ยวเป็ดชามนี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน  เช่นเดียวกันกับเธอ...บุคคลพิเศษในใจฉัน

    นอกเหนือไปจากนิยามของความพิเศษในมุมมองที่ต่างออกไป  เธอยังทำให้คนธรรมดาอย่างฉันมองเห็นความพิเศษในตัวเอง  เส้นเลือดที่โยงใยหล่อเลี้ยงร่างกายฉันย่อมไม่มีใครเหมือน  เส้นประสาทที่สอดประสานทำงานกันอย่างรู้หน้าที่ของฉันย่อมไม่เหมือนใคร  ฉันเป็นประติมากรรมชิ้นพิเศษเหมือนกับที่คนอื่นๆ ในโลกนี้เป็น  เราทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่พิเศษด้วยกันทั้งนั้น  ความแตกต่างทางความคิด  ความรู้สึก  วิถีชีวิต  หรือแม้กระทั่งความเป็นอยู่  ทำให้ความพิเศษกระจายอยู่ทั่วทุกตารางนิ้วบนผืนโลก  และโดยเฉพาะความพิเศษที่วิเศษของเธอซึ่งเป็นจุดชักนำให้เรามาพบกัน

    นกฟีนิกซ์ต้องจุดไฟเผาตัวเองก่อนเท่านั้นมันจึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้  ต่างกับจุดหมายสุดท้ายในหัวใจของเธอ  ที่สามารถจุดประกายจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของจุดหมายเดียวกันนั้นขึ้นภายในใจของฉันได้  โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเปลวเพลิง  ไม่จำเป็นต้องถูกทำลายก่อนการเริ่มต้น  แต่มันสามารถแตกหน่อต่อยอดออกไปได้ทันที  และในวินาทีนี้  คำสัญญาระหว่างเรา  จะเปรียบเสมือนปุ๋ยชั้นดีที่ทำให้หน่อและยอดที่แตกใหม่ในครั้งนี้เติบโตสวยงามสมเจตนารมณ์ของเธอ  คำสัญญาแห่งการดำรงตนเป็นแพทย์ที่ดี...คำสัญญาที่ฉันมอบไว้แด่...เธอ...อาจารย์ใหญ่ที่รักของฉัน

     

    You are my special one

    สำหรับฉันเธอพิเศษกว่าคนไหน

    และมันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

    แม้เราไม่อาจพบเจอเหมือนวันวาน

     

     

                                    โดย...ธารธารา     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×