คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #105 : เมาท์ : วิธีเรียนวิชา ภาษาอังกฤษ ตอนที่ 1
ภาษาอังกฤษ สำคัญ กับทุกวงการ
ผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษมาก มีทักษะคล่องแคล่วทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ย่อมได้เปรียบ
คนเราจะก้าวหน้า ก็เพราะว่า รู้ และใช้ภาษาอังกฤษเป็น
และที่สำคัญ ถ้าได้คะแนนมาก โอกาสติดหมอ ก็สูง ครับ :D
ภาษาอังกฤษ
ครูที่โรงเรียนพี่ สอนพี่เสมอว่า
ภาษาอังกฤษเรียนไปเพื่อนำไปใช้
ส่วนการทำข้อสอบ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น
บางคนตัดตัวเลือกเก่ง ทำข้อสอบเก่ง แต่ใช้ไม่เป็น ก็ไม่มีประโยชน์
ฝึกฝนกันได้ครับ J
ภาษาอังกฤษในห้องเรียน
สำหรับน้องที่เรียนโรงเรียนคริสต์ เช่นเดียวกับพี่
ก็อาจจะได้เปรียบ เพราะมีอาจารย์ชาวต่างประเทศมากมาย
ที่เป็น Native Speaker
ทำให้เราได้ฝึกมากขึ้น
แต่น้องๆที่เรียนโรงเรียนรัฐบาลก็สามารถเก่งได้นะครับ
ขึ้นกับตัวเราเองมากที่สุดล่ะครับ
อย่างแรกที่พี่อยากจะบอกน้อง คือ
น้องต้องมีทัศนคติที่ดีต้อ ภาษาอังกฤษ มองภาษาอังกฤษในแง่ดี
มองว่า ภาษาอังกฤษนั้นมีประโยชน์สำหรับตัวเรา
เพื่อทำให้เรามีแรงบันดาลใจ มีกำลังใจเรียนภาษาอังกฤษ เช่น
ภาษาอังกฤษ
ทำให้ผมคุยกับฝรั่งรู้เรื่อง
ทำให้สอบเข้าหมอได้
ทำให้สามารถอ่านตำราต่างประเทศได้ เราจะได้เก่งขึ้น
ประมาณเนี้ยนะครับ
สำหรับตัวพี่ ที่พี่รู้สึกชอบภาษาอังกฤษมากๆ ตั้งแต่สมัย ม. ต้น แล้ว เพราะ พี่ เรียนโรงเรียนฝรั่ง ได้คุยกับอาจารย์ฝรั่งมากมาย แล้วพี่รู้สึกว่า แนวคิด ความคิดความอ่านของชาวต่างประเทศ กับชาวไทย มันต่างกันมาก พี่มองว่า ทำไมชาวต่างชาติ บ้านเมืองเค้าถึงเจริญ เค้ามีแนวคิดอย่างไร ทำให้พี่อยากที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อ ไว้คุย ไว้อ่านตำราต่างประเทศ หรือหาช่องทางเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีก
อย่างที่ 2 คือ พยายามทำชีวิตประจำวันของเราให้รายล้อมไปด้วยภาษาอังกฤษ
จริงๆ ภาษาอังกฤษ เราต้องพัฒนาทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ใช่มั้ยครับ
เอาวิธีง่ายๆ ไปก่อนนะ
เช่น อย่างที่พี่ทำ คือ
1. การอ่านบทความภาษาอังกฤษ
คือ พี่ชอบเข้าไปใน http://www.billboard.com/#/ อ่ะครับน้องๆ
ข่าวของพวกนักร้องต่างประเทศ ซึ่งต้องอ่านภาษาอังกฤษทั้งหมด
ศัพท์บางคำก็ไม่รู้นะ แต่พออ่านประโยคไปเรื่อยๆ
มันจะเข้าใจเองว่าเป็นเรื่องอะไร
สำหรับน้องๆ ที่ยังอ่านไม่คล่อง
ก็ใช้ Dictionary ช่วยไปก่อนละกันนะครับ
2. การฟังภาษาอังกฤษ
อย่างที่พี่กล่าวไปแล้วว่า พี่ชอบฟังเพลงสากล
แล้วก็ชอบดู series ต่างประเทศ เช่น GLEE อะไรพวกเนี้ยอ่า
เราก็จะได้ฝึกฟังคำต่างๆ ได้รู้ว่าคำนั้นออกเสียงอย่างไร
ได้รู้ว่าประโยคที่ใช้สื่อสาร มักใช้ประโยคใด ใช้เมื่อไหร่
แล้วก็ได้ฟังสำเนียงแบบ Native Speaker อีกด้วย
ซึ่งเราก็ควรพูดภาษาอังกฤษ ให้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา
จะได้ดูเป็นธรรมชาติน่ะครับ
นอกจากนี้ ก็ เปิด youtube ดูพวก interview
คือพี่ชอบดูการสัมภาษณ์พวกนักร้องต่างประเทศ
สุดท้ายเราก็จะฟังภาษาอังกฤษคล่องเองแหละครับ
ใจเย็นๆ น้าเด็กๆ ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ครับ
3. การพูดภาษาอังกฤษ
บอกง่ายๆ เลยว่า ต้อง “กล้า” คำเดียวเลยครับ
ถ้ายังไม่กล้าพูดกับฝรั่ง
ก็พูดกับเพื่อนน่ะแหละครับ
แต่ระวังเพื่อนหาว่าเรากระแดะนะครับ
จะบอกว่า อย่าได้แคร์
บอกไปเลยว่า เราฝึกพูดอังกฤษอยู่
ที่บอกว่าให้กล้า เนี่ย
เช่น พี่เจอคนไข้ชาวอังกฤษ
พี่ก็เข้าไปซักประวัติเลยครับ
ได้เรียนทั้งวิชาแพทย์ ได้เรียนทั้งภาษาอังกฤษ
ยิงปืนนัดเดียวได้ 2 วิชาเลยล่ะครับ
สำหรับน้อง ก็ เวลาฝรั่งมาถามทาง ก็ เข้าไปช่วยทันทีเลยนะครับ
หรือไม่ก็ พูดกับ พ่อแม่ เพื่อน น่ะแหละครับ
แต่ถ้ายังไม่มีใครพูดอังกฤษกับเรา ก็
ฝึก อ่านประโยค จากหนังสือ คนเดียวเลยครับ
เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ :D
แม้ว่าพี่จะสอบติด หมอวชิระ แล้ว
แต่ก็ต้อง พัฒนาตัวเอง เรื่อยๆ
พี่ก็จะฝึกพูดภาษาอังกฤษ ไปด้วย
เผื่อได้ไปเรียนต่างประเทศ
อีกไม่นานพี่ก็จะเรียน สูติกรรม แล้วครับ
ก็เลยฝึกภาษาอังกฤษ จากหนังสือเล่มนี้แหละ
4. การเขียนภาษาอังกฤษ
จะเก่ง ก็ต่อเมื่อ เขียนบ่อยๆ
ผิดบ่อยๆ น่ะแหละ ยิ่งดีครับ
เวลาเขียนงาน แล้วครูตรวจ เราต้องดูจุดผิด ว่าผิดอย่างไร
เราจะจำได้ไปจนวันตายเลยล่ะครับ
ว่า การเขียนที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร
อยากเขียนเก่ง ต้อง อ่านศัพท์ และ ไวยากรณ์ (Grammar) แม่นๆ
ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ เขียนไปเรื่อยๆ
ที่สำคัญคือ ให้อาจารย์ตรวจให้ด้วยนะครับ J
สำหรับ เมื่อสมัยตอนที่พี่สอบ Ent เข้าหมอ (ไม่นานมานี้ ... คิคิ :D)
ศัพท์ กับ Grammar พี่จะอ่านเก็บไปเรื่อยๆ เช่น
เวลาอยู่บนรถไฟฟ้า บนรถเมล์ หรือตอนเช้าก่อนเข้าแถว ก็นั่งท่อง
แล้วก็ ใช้บ่อยๆ
อาจารย์ที่โรงเรียนพี่ จะให้เขียนงานบ่อยมาก มีสอบพูด
สอบ Present เป็นภาษาอังกฤษ หน้าชั้น
พอมีเวลาว่าง
ก็ลุยโจทย์ Ent บ่อยๆ
ทำโจทย์ตั้งแต่ ปี 41 ขึ้นมา เรื่อยๆ เลยครับ
ที่อยากให้เน้น ก็ คำศัพท์ กับ Grammar เนี่ยล่ะครับ
คำศัพท์ พี่แนะนำ อ่านคำศัพท์ของคุณครูสมศรี
พี่เรียนครูสมศรีน่ะครับ
แต่ถ้าน้องคนไหนไม่ได้เรียนพิเศษ ก็อ่านศัพท์ที่ขายตามร้านหนังสือได้
หรือถ้าเพื่อนคนไหนเรียนกับครูสมศรี น้องก็ไปขอถ่ายเอกสารก็ได้ครับ
คุณครูสมศรีท่านใจดีครับ
ส่วน Grammar เนี่ย ก็ พี่ก็เรียนที่โรงเรียนด้วย
เรียนพิเศษด้วย
อ่านจากคู่มือ ม. ปลายเองด้วย
ที่สำคัญคือ ต้องทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ครับ
ฝึกทำแบบฝึกหัดแบบที่มีการฝึกเขียนเยอะๆ นะครับ
จะทำให้เก่ง Grammar มากกว่าการ check choice
สุดท้าย พี่ก็ อยากฝากว่า ขอให้น้อง
ที่กำลังจะก้าวเข้ามาเป็น นักศึกษาแพทย์
และน้องๆ ทุกคน
รักภาษาอังกฤษให้มากๆ
และฝึกฝนไปตลอดชีวิตนะครับ
ชีวิตน้องก็จะก้าวหน้าแน่นอนครับ :D
พี่แตม
หมอวชิระ รุ่น 16
ความคิดเห็น