คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : [Step31] Kill to survive
ฆ่าคนอีกคนเพื่อไถ่ชีวิตของตัวเองคืนมา กาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปได้ตอบกลับมาว่า ‘ขณะนี้ถึงเวลาทวงสิ่งทั้งหมดคืนมา’ ร่างกาย อิสระ ลมหายใจ ไม่มีทางเสียไปอย่างสูญเปล่า.. ไม่ต้องรอเวลาแห่งการชดใช้จากใครอีกแล้วเพราะศพต่อไปคือคนที่ทำให้ผมตายทั้งเป็น
“ทำไมนายไม่พูดเลยล่ะ..”
“อย่าทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวสิ”เสียงหวานเรียกร่างที่จมอยู่ใต้น้ำอย่างแผ่วเบา เจ้าของเสียงยิ้มเมื่อเปรยตามองกลุ่มผมสีดำสนิทที่สยายอยู่ในน้ำอย่างไม่เป็นทรง เรียวเล็บยาวที่ไม่ได้ตัดมานานพอสมควรจิกกดลงบนคอของร่างสูงด้วยความนึกสะใจและบรรดาลโทสะอย่างไร้สติ
“อยากตายตามเธอไปนัก จะมารู้สึกตอนนี้มันก็สายไปแล้ว รอให้ถึงวูบนึงนายก็จะจากโลกนี้ไปแล้ว..ทรมานอีกไม่นานเท่าไหร่หรอก”เรี่ยวแรงจากความโกรธแค้นปะทุขึ้นเกิดแรงมหาศาล มือบางราวกับคีมเหล็กคีบกระดูกท้ายทอยไว้แน่นทั้งที่รู้ว่าอีกคนแทบไม่มีแรงจะยืนด้วยซ้ำ
“.......” ไร้เสียงตอบรับจากร่างสูงที่แน่นิ่งไป สายตาของฮยอกแจมองฟองอากาศในน้ำที่หมดลงด้วยความเหม่อลอย ก่อนจะคลายมือออกอย่างเชื่องช้า มือที่เปียกยกขึ้นลูบหน้าเพื่อเรียกสติของตนกลับมา.. เขาต้องตบหน้าตัวเองอีกหลายรอบเมื่อเห็นผลงานที่ตนทำลงไปเมื่อครู่
“.......” แรงโน้มถ่วงดึงร่างที่ไร้ความรู้สึกของร่างสูงล้มลงนอนกับพื้น รอยช้ำสีเข้มที่คอราวกับโดนของแข็งกระแทกถูกซ้ำด้วยการที่ระทบกับพื้นแข็งอีกครั้ง ไร้การต่อสู้ หางตาของร่างบางได้แค่มองร่างข้างกายด้วยความหวาดระแวง
“ฮึก....” ฝ่ามือบางเย็นเฉียบราวกับแช่แข็ง แผ่นหลังเริ่มสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น เสียงถอนหายใจเบาพอๆกับเสียงหอบที่โรยริน สายตาทอดมองร่างสูงที่เงียบเสียจนไม่น่าจะมีโอกาสรอด จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้นอย่างไร้สาเหตุ มือขาวเคลื่อนไปจับจุดชีพจรบริเวณข้อมือของอีกคน ‘ร้องไห้ออกมาทั้งที่ไม่รู้สึกอะไร ไร้เหตุผลสิ้นดี.. ดีใจหรือเสียใจ ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น’
“หึ...”
ควับ!!! มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือบางอย่างรวดเร็ว
“นาย!!”
“ยังไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่ะ ฮึ!”มือหนาพยายามออกแรงบีบที่ข้อมือของอีกคนให้มากที่สุด ร่างบางที่ตั้งสติได้แล้วรีบสะบัดมือของอีกคนให้ปล่อย มืออีกข้างเอือมไปด้านหลังแล้วย้ำทุบลงที่แผลเดิมของร่างสูงอย่างเต็มแรง
“ทำไมตายยากตายเย็นนักนะ!”ร่างบางตะหวาดด้วยความโมโหที่ร่างสูงยังรอดมาแวงกัดเขาได้ ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดอาจไร้ความหมาย มิหนำซ้ำผลของมันอาจทำให้เขากลายเป็นศพเฝ้าห้องพักแทน เรียวขาเล็กหาช่องทางก่อนจะถีบยันร่างของฮันกยองล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พลอยทำให้มือที่เกาะติดข้อมือของเขาหลุดออกไปด้วย ฮยอกแจรีบใช้โอกาสนั้นขึ้นไปคร่อมร่างสูงด้วยความทุลักทุเล
“ตายยากนักใช่ไหม!”มือบางกำแน่นแล้วต่อยลงไปที่อกแกร่งของร่างสูงอย่างหนัก ชนิดที่ว่าอยากคนที่โดนกระอักออกมาเป็นเลือด เท้าทั้งสองข้างของฮยอกแจเหยียบลงที่ฝ่ามือของร่างสูงเพื่อกันการต่อสู้ ส่วนอีกคนก็พยายามพลิกตัวเพื่อให้คนด้านบนเสียเปรียบอีกครั้ง
ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก!!! เสียงกำปั้นรัวขึ้นไม่ยั้งราวกับจะช่วยระบายความโกรธแค้นแสนสหัสทั้งหมดออกมา
“อึก!”
…………… the prisoner & police …………..
“ผมตามมาถึงแล้วครับ แต่ยังไม่เจอฮันกยอง”ร่างสูงโปร่งยืนสนทนากับปลายสายทางโทรศัพท์ เจ้าของน้ำเสียงนุ่ม บุคลิคสูงโปร่งส่วมใส่แว่นกันแดดสีชาเข้ากับสูทตัวนอกที่ดำสนิท โทรศัพท์เงาวับดูมีราคา ถูกเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไว้อย่างเดิม งานที่เขาถูกมอบหมายแปลกกว่าครั้งไหน ๆ แต่ก็แทบไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสรับงานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก ‘Drak Holic’ คดีเดียวที่พลาด คดีเดียวที่เขาปิดไม่ลง..และแน่นอน เขาอยากแก้มือ
ขายาวก้าวเข้าไปในตัวรีสอร์ทอย่างไม่รอช้า สายตาเฉียบคมมองหาเป้าหมายคือเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน อย่าง ‘ฮันกยอง’ และ อีกคน ฆาตกรที่เขาตาตัวมานานอย่าง ดาร์กโฮลิค ลีฮยอกแจ..
พลั่ก ! “ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า”แม้ว่าจะรีบร้อนขนาดนั้น ร่างสูงก็ไม่ลืมจะเอ่ยคำขอโทษก่อน มือหนาโอบประคองร่างของหญิงสาวไว้ไม่ให้เซล้มลงไปกองกับพื้น เธอดันตัวออกด้วยความรีบร้อนก่อนจะก้มลงไปเก็บกระเป๋ามากอดไว้แน่น สายตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ แล้วถอยตัวออกมา
“คุณ.. ภรรยาของฮันกยองใช่ไหมครับ”น้ำเสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบกับใบหน้าที่คุ้นตาเสียเหลือเกินและถ้าเขาจำไม่ผิดก็เป็นใบหน้าของเจ้าสาวในงานแต่งวันนั้นเสียด้วย
“ไม่! ฉันไม่รู้จักฮันกยอง ไม่เกี่ยวกัน อย่าฆ่าฉัน มัน มัน.. มันจะฆ่าฉัน ฮยอกแจมันเป็นปีศาจ!”
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับตั้งสติไว้ คุณปลอดภัยแล้ว ผมเป็นตำรวจเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ ค่อย ๆ เล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ฮันกยองอยู่ที่ไหน”นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเป็นแน่ หญิงสาวออกอาการคลุ้มคลั่งอย่างคุมสติไม่ได้ มือของเธอทึ้งหัวก่อนจะร้องไห้ออกมาไม่หยุดเมื่อพูดถึงคนที่ชื่อ..ฮยอกแจ
“ไม่เป็นไรแล้ว หายใจเข้าลึก ๆ นะครับ”สายตาคมมองผมกระเซอะกระเซิงนั้นอย่างช่างใจ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวคนนั้นมากขึ้น มือหนาจัดให้มันเลิกยุ่งเหยิงเสียก่อน แล้วลูบเรือนผมนั้นอย่างแผ่วเบาจนมันเข้าที่
“ฮันกยอง.. ฮันกยองอยู่ไหน”เสียงเล็กร้องเรียกชื่ออีกคนอย่างแผ่วเบาเพราะยังตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
“กรี๊ดดดด!!! ฉันไม่รู้!! ไปไหน ฮันกยองไปไหน!”เธอกรีดร้องด้วยน้ำเสียงโหยหวนแทบขาดใจ มือเรียวยาวจิกหัวของตัวเองอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เธอโมโหที่พยายามจะคิดแต่กลับคิดไม่ออกเสียที สายตาของผู้คนจับจ้องมองเป็นทางเดียวตามต้นเสียงเมื่อครู่ ร่างสูงจึงต้องใช้ร่างกายบังเธอไว้
“ค่อย ๆ นึกสิครับ..”
“ห้องสามสามแปด .. ชั้นเจ็ด สามสามแปด!”
…………… the prisoner & police …………..
“ผมว่าให้ผมโทรตามคนมารับคุณก่อนดีไหม.. ผมเองก็เกรงว่ามันอาจไม่ปลอดภัย”สำหรับสติของคุณ.. ร่างสูงนึกประโยคท้ายในใจแต่กลับไม่พูดออกไป เสียมรรยาทน่ะ!
เธอไม่ตอบกลับเพียงแต่ส่ายหัวไม่หยุดแล้วรีบเดินตามหลังร่างสูงเพียงอย่างเดียว เธอเหลียวซ้ายแลขวา มองดูรอบ ๆ โดยเฉพาะด้านหลังที่เธอระแวงเป็นพิเศษจนไม่ได้มองทางเกือบชนร่างสูงให้หัวขมำอยู่หลายครั้ง
“คุณครับ.. ห่างอีกหน่อย”เสียงุท้มเอ่ยปรามไว้บ้างก่อนที่เธอจะทำให้เขาจะล้มไม่เป็นท่า..
“ฉันกลัว... มันเป็นปีศาจร้าย ฮึก มันมองฉัน มองอยู่ตลอด”เสียงแผ่วเบาราวกับจะกระซิบให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ร่างสูงมองหาห้องหมายเลขที่ว่ามานานอยู่พอสมควร... ห้องนี้ล่ะ!
“ห้องนี้แหละ”เสียงทุ้มเอ่ยเป็นสัญญาณให้อีกคนหยุด แต่ หญิงสาวกลับมองป้ายหน้าห้องก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องออกมาเสียดังลั่น
“กรี๊ด! อย่าเข้าไป!! มันจะฆ่า ฆ่าทุกคนที่เข้าไปยุ่ง!! ไม่อยากตาย ไม่!”
“คุณ!”คิ้วสีเข้มขมวดกันแน่นแล้วมองเธอด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะรีบพังประตูเข้าไป ไหล่หนากระแทกประตูอยู่หลายครั้งกว่ามันจะถูกพังจนล้มไปกองเป็นแผ่นไม้บนพื้น เสียงฝีเท้ากระแทกกับพื้นอย่างไม่รีรอเพราะเพียงชั่วครู่ นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ฮยอกแจหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“.....” มือหนาชักปืนออกมาเพราะภายในห้องเงียบผิดปกติ พลางกวาดสายตาไปทั่วเพื่อหาเป้าหมาย.. ห้องโถงไม่อยู่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปอีกห้องก็ไม่พบ ห้องนอน.. ไม่มีใครเหลืออยู่เลย
“ไปไหนวะ!”เสียงทุ้มสบถด้วยความอารมณ์เสียก่อนจะเตะประตูไม้บานใหญ่อีกบานเพื่อระบาย.. ห้องน้ำ มือหนาคว้าลูกบิดแล้วรีบเปิดเข้าไปในห้องทันที ภาพตรงหน้าคือ ฮันกยองกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ เจ้าตัวยังพอมีสติและพยายามตะเกียดตะกายลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างทุลักทุเล
“สภาพอย่างกับหมาถูกฟัด แล้วไปไหน ดาร์กโฮลิคล่ะ!”เสียงผู้เข้ามาใหม่ถามด้วยความรีบร้อน หวังว่าคงจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด..
“โง่หรือไงวะ ก็เห็นอยู่ว่ามันหนีไปแล้ว แค่ก!”น้ำเสียงของร่าสูงส่งต่อถึงอีกคนด้วยริมฝีปากที่ซีดผาด ก่อนจะไอออกมาเป็นลิ่มเลือด มือหนาปาดของเหลวข้นนั้นออกก่อนจะบ้วนทิ้งอีกที
“อย่างน้อยฉันก็ทำให้นายไม่ตายคาห้องนี้ นั่งลงไปเถอะน่ะ! ยืนไม่ไหวแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้”
“อาชีพตำรวจไม่มีคำว่าอย่างน้อยหรืออย่างมาก ฮึ! อย่างน้อยนายก็ต้องไปจับดาร์กกับมาให้ได้ อย่างมากคือนายต้องจับมันมาให้ได้! ไปเอาตัวมันกลับมา”ไม่มีคำว่าพลาดน้อยหรือพลาดมาก เพราะนั่นหมายถึงว่าเราพลาดแล้ว เป็นถึงคนที่ผู้บัญชาการไว้ใจ มัวกดโทรศัพท์อยู่ได้ ยังไม่เข้าใจสาระของอาชีพนี้หรือไง..
“แล้วจะตายอยู่ในนี้หรือไง! ยังไงก็ต้องเอานายไปโรงพยาบาลก่อน เรื่องตามจับค่อยว่ากันใหม่”
“ไม่! ศักดิ์ศรีของฉันอยู่กับมัน! ไปตามล่ามัน จับมันกลับมาในที่ที่มันควรอยู่ เข้าใจหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่า!!”เป็นตำรวจหรือคนเก็บศพ! ก็บอกให้ตามมันกลับมาไงเล่า จะมาสนใจฉันอยู่ทำไมกันวะ
“ก็ได้! แต่รออีกเดี๋ยวแล้วกัน ฉันตามรถพยาบาลมาแล้ว ถึงจะไม่ถูกขี้หน้ากันแต่ก็ยังไม่อยากเห็นคนตายไปต่อหน้า”ร่างสูงรีบเดินออกมาจาห้องนั้นอย่างฉุนเฉียว เพราะไอ้คนที่มันออกคำสั่งปาว ๆ นั่นกำลังจะตายอยู่รอมร่อแล้วยังจะเสือกทำปากเก่ง มันน่ากระทืบซ้ำให้หายคันตีนจริง ๆ
“หยุด!”เสียงจากด้านหลังทำให้เขารู้ตัวว่าเจอกับดักอย่างจัง ปลายกระบอกปืนที่กำลังจ่อบนท้ายทอยของเขาขณะเอื้อมปิดประตู.. คิดจะสู้ทั้งที่มีโอกาสหนีแล้วเนี่ยนะ คิดอะไรอยู่
“อย่าสงสัย ฉันไม่อยากวิ่งไล่จับอีกแล้ว”
“อ่านใจเก่งดีหนิ คิดว่าจะรอดจริง ๆ ใช่ไหม ฉันไม่กระจอกหรอกนะ”คนตัวสูงพูดด้วยวาจายั่วโทสะ
“ฉันไม่ยอมพลาดกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอก แน่นอนว่าถ้าไม่มั่นใจ..ฉันไม่ทำแน่”ให้มันได้แบบนี้สิ ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกับฉันหน่อย เรื่องตื่นเต้นแบบนี้มันไม่ได้เกิดดกับฉันมานานแค่ไหนแล้วนะ.. ฝีมือดีแล้วยังฝีปากดีอย่างเหรอ
“วางปืนลง..”
“ไม่แฟร์เอาซะเลย แบบนี้”
“ใครสนกัน! ชีวิตฉันไม่เคยเจอกับความยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเรียกร้องมันกับฉัน”น้ำเสียงหวานตะหวาดลั่นก่อนจะกระแทกแรงลงไปอีก
“เธอก็ออกมาด้วย ไม่ต้องหลบแบบนั้นหรอก”หญิงสาวที่หลบอยู่หลังตู้ไม้ถึงกับสะดุ้ง ขาเรียวค่อย ๆ ก้าวออกมาจากที่ซ่อนด้วยความหวาดกลัว ตัวของเธอสั่นเล็กน้อยก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นห้อง
“มารวมกันตรงนี้!”น้ำเสียงกดต่ำเสียจนเยือกเย็นชวนเสียวสันหลัง พาดารีบกึ่งคลานกึ่งลากตัวเองเข้ามาหาฮยอกแจอย่างยากลำบาก เธอกลัวเหลือเกิน นึกแล้วก็คิดผิดที่ตามผู้ชายข้าง ๆ นี่มาด้วย
“ฉันบอกแล้วไง!! ว่าอย่าเข้ามา! เห็นหรือยัง คุณจะพาฉันมาตาย!”ไม่วายจะหันไปตะคอกใส่คนตรงหน้าอีกทั้งโยนความผิดให้ทำเอาสติของคนเป็นสุภาพบุรุษขาดพึงทันที
“นี่คุณ! สติยังมีอยู่หรือเปล่า จะเอาแต่ตายกับตาย ถ้ามีคนคิดแบบคุณทุกคน ก็คงไม่มีใครอยากเป็นตำรวจ อีกอย่างคุณไม่ใช่หรือไงที่อยากตามมา”เอาเข้าจริงไม่มีใครไม่กลัวตายทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะแสดงออกออกมามากแค่ไหน และ.. การที่จะจบชีวิตลงเพื่อแลกกับสิ่งใดสักสิ่ง ต้องเห็นสมควรแล้วว่าสิ่งนั้นคุ้มค่าที่จะแลก สำหรับเขา อุดมการคือสิ่งที่ตอบแทนชีวิตที่ผ่านมาได้อย่างคุ้มค่า
“ความคิดดีหนิ.. ถ้าฉันถูกนายจับ คงไม่ต้องลำบากมาทำอะไรแบบนี้หรอก”
“หมายความว่ายังไง..”เสียงทุ้มย้อนถามด้วยความสงสัยไม่ใช่อารมณ์อยากจะกวนฝ่าเท้าของคนตรงหน้าอย่างเคย
“ไม่รู้สินะ ว่าไอ้ตำรวจนั่นมันทำสถุนกับฉันไว้แค่ไหน ยังดีที่ไม่สารเลวกันทั้งกรม”ดูสภาพฉันตอนนี้ก็แทบไม่เหลือความเป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว.. ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าฮันกยองไม่ได้ดูแลฉันอย่างดีแน่ หึ! คนแบบนั้นจะสนใจใครได้นอกจากตัวเอง
“ที่คุณเป็นแบบนี้เพราะปากแข็งเองไม่ใช่อย่างนั้นหรอกเหรอ”
“ไม่ใช่เพราะฉันไม่สารภาพ.. แต่เพราะความเห็นแกตัวของมัน น่าขยะแขยงสิ้นดี”
“เหมือนผมจะพลาดอะไรสักอย่างก่อนหน้านี้ไป”
“จำเป็น.. ต้องเล่าด้วยงั้นหรอ”จะหลอกถามอะไรจากฉันงั้นสินะ.. ฉันไม่ได้โง่บริสุทธิ์เหมือนฮยอกแจคนเดิม ฉันไม่ใช่คนที่ใครจะหลอกง่าย ๆ อีกแล้ว ฮยอกแจคนนี้ถูกหล่อหลอมให้เป็นสีดำ อุปสรรคสร้างฉันให้เป็นเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งตามกาลเวลา
“ตำรวจอย่างพวกนาย มันตอแหล!”
“รู้ได้ยังไงว่าผมเป็นตำรวจ”ทั้งที่อยู่ในชุดราวกับจะไปงานเลี้ยงหรูหราแต่เจ้าของดวงตาโฉบเฉียวก็ยังรู้ว่าทำอาชีพอะไร.. เดาเก่งไปหน่อยไป
“ลักษณะนายคงไม่ใช่พ่อมันหรอก หึ!! สร้างภาพให้ตัวเองดูดีในเครื่องแบบ.. คิดว่าฉันจำไม่ได้หรือไง ว่านายเคยตามล่าตัวฉันมาก่อน เชว ซีวอน”กระสุนนายที่มันถากซี่โครงขวาของพี่ชายฉัน น่าแปลกที่เขายังไม่ได้เอาคืน น่าแปลกจริง ๆ
“ยินดีที่ยังจำผมได้ แต่เหมือนว่าที่เราเจอกันครั้งก่อน ๆ คุณจะใจเย็นกว่านี้นะ แค่คุณบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น ที่เหลือผมจัดการเอง”
“ชีวิตฉัน ฉันจัดการเองได้!!”อวดเก่งสมคำร่ำลือไม่มีผิด..
“ก่อนคุณจะทำอะไรลงไป ผมขอพูดอะไรอย่าง”
“...........”
“คดีนี้ไม่ได้มีผู้ต้องหาคนเดียว..”
“พูดเรื่องอะไร!”ตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทั้งที่เราสองคนแทบไม่มีอะไรต่างกัน ไม่มีแม้แต่การผิดพลาด.. อีกอย่างถ้ารู้ทำไมถึงไม่ตามหาตัวอีกคนนึงล่ะ หรือนายไม่ใช่แค่‘ตำรวจธรรมดา เชว ซีวอน’
…………… the prisoner & police …………..
สายลมพัดโหมกระหน่ำเอี่ยวปลายไม้ให้โอนเอนตามกระแส เคลื่อนมาพร้อมกับกลุ่มเมฆครึ้มปกคลุมทั่วท้องฟ้า วันนี้พายุเข้า ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิดที่ท้องฟ้าอัมหิตเริ่มส่งเสียงโครมครามเตือนให้สิ่งมีชีวิตบนพื้นดินหลบเข้าที่พัก หากไม่อยากเปียกปอน..
“นายออกไปจากบ้านฉันสักทีได้ไหม คยูฮยอน.. ไสหัวออกไปจากชีวิตฉันได้เลยยิ่งดี”เสียงของคนตัวเล็กยังทอถ้อยคำเสียดแทงใจนั้นไม่หยุด ราวกับคำสาปให้คยูฮยอนได้แต่ยืนนิ่งอย่างไร้เรี่ยวแรง อยากยืนอยู่ตรงนี้แต่กลับแทบทรุดลง อยากจะเดินออกไปให้พ้นแต่กลับไม่มีแม้แต่แรงจะก้าว
“.........”ร่างสูงยังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้นมองร่างเล็กด้วยสายตาว่างเปล่าแต่แฝงความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใน
“จะยืนให้ฟ้าผ่าตายเลยหรือยังไง! กลับที่ของนายไปได้แล้ว”
“ผมไม่กลัว”ร่างสูงสั่นศีรษะไปมาราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับบรรยากาศรอบข้าง ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามอีกครั้ง ละอองไอเย็นจากความชื้นของอากาศสะพัดมาตามลม อีกทั้งอาการงี่เง่าของอีกคน นั่นทำให้ซองมินยิ่งรู้สึกหงุดหงิด
“ขนาดตัวเองยังไม่รู้จักจะรักเลย ถ้าเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ก็ตายไปซะ แต่อย่ามาตายในบ้านฉัน”น้ำเสียงแข็งกระด้างและเย็นเฉียบแล่นตัดขั้วหัวใจยิ่งกว่าอากาศหนาวเหน็บรอบกาย ความด้านชาแผ่ซ่านออกมาจากความรู้สึกจนบัดนี้ร่างกายไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว
“ผมไม่เข้าใจ.. ผมทำอะไรผิด หรือว่า ผมมันหมดประโยชน์แล้ว”ริมฝีปากได้รูปพยายามเอ่ยถามอย่างยากลำบาก น้ำตาที่ไม่เคยจะหลั่งออกมาเท่าที่จำความได้เริ่มคลอเอ่อแทนคำพูดที่อัดอั้น ได้แต่ตะกุกตะกักเพราะความรู้สึกจุกไปหมด ภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาพลั่งพลูอยู่ในหัวสมอง ไม่อยากคิด ไม่อยากคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่ต่างจากความฝัน
“นายผิดทุกอย่าง คนที่ทำให้นายผิดคือตัวนายเอง”
“ผมรู้ดีว่าถ้าผมไม่รู้สึกแบบนั้นกับคุณ.. ผมจะไม่ต้องเสียใจ และคุณมีความสุขแล้วใช่ไหมที่ได้ทำแบบนี้กับผม คุณเสียเวลาอยู่กับผม ยอมนอนด้วย เพื่อที่จะทำแบบนี้เท่านั้นหรอ..”
“ฉันทำเพราะไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ตอนนี้ฉันพอใจแล้ว ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ ถ้าฉันเห็นนายกลับมาอีก อย่าคิดว่าฉันจะไม่ทำอะไร ลืมมันไปให้หมด ลืมว่านายเคยรู้จัก เคยทำอะไร”ฉันก็จะลืมเหมือนกันว่าฉันทำอะไรลงไปในวันนี้ ฉันรู้สึกแย่ คยูฮยอน.. ฉันไม่ได้อยากผลักไสแต่เพราะฉันเชื่อ เชื่อว่าทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ .. ลาก่อนคยูฮยอน
ซ่า!! เสียงลมหายใจถูกกลืนหายเข้าไปในเสียงของสายฝนที่เริ่มสาดเทลงมากระหน่ำซ้ำเติม.. เอาเลยสิ! ซ้ำเติมกันให้พอ ให้รู้ไปว่าโลกนี้มันลำเอียงแค่ไหน ผมมันไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว อยากจะลงโทษก็ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าผมผิดมากนักก็เอาชีวิตผมไปได้เลย ผมจะไม่ขอร้องสักคำ
“ยังจะรออะไรอีกล่ะ!”สิ้นสุดการสนทนาด้วยประโยคตัดเยื่อใย.. ซองมินรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะปิดประตูล็อกกอนอย่างแน่นหนา เสียงประตูที่สั่นสะเทือนนั่น เป็นเพราะแรงลมหรือถูกปิดอย่างรีบร้อน
“ลาก่อน..”มือหนาปาดน้ำหยดบนใบหน้าออก ไม่รู้ว่ามันเป็นน้ำฝน..หรือน้ำตากันแน่ มือหนาลูบผมที่ลู่น้ำของตัวเองไปไว้ด้านหลัง อยากจะตบหน้าตัวเองสักสิบทีเพื่อเรียกสติกลับคืนมา.. เจ้าของความรู้สึกของเขาได้หายเข้าไปในบ้านหลังนี้เสียแล้ว
“คนที่ผมรัก”
“ลาก่อน..ฮึ”หลังประตูเนื้อไม้มะฮอกกานี ร่างเล็กใช้เป็นที่พิงหลังและชันเข่า เสียงสะอื้นเบา ๆ ลอดออกจากริมฝีปากที่พยายามเม้มกันแน่น ใบหน้าหวานได้แต่ซุกลงกับเข่าเพื่อปิดบังความอ่อนแอทั้งหมดไว้ ไม่มีเสียงปริปากใดๆ อีก
“คุณชาย..”หญิงสาวที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆเดินออกมาดูอาการของคุณชายของเธอทันที เหมือนได้เห็นคุณชายซองมินตอนเป็นเด็กอีกครั้ง คุณชายที่มักจะงอแงร้องไห้ เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน..
“พี่ช่วยดูให้ผมที ฮึก.. เขาไปแล้วหรือยัง”สรรพนามครั้งยังเป็นเด็กถูกเรียกกลับมาใช้อีกครั้ง เธอมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ชายร่างสูงคนนั้นกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก แรงลมพัดเอาละอองฝนกระจายคล้ายกลุ่มหมอกสีขาวจาง ๆ
“ยังเลยค่ะ”โบราตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆ มือเรียวของเธอลูบหลังเล็กอย่างแผ่วเบาเป็นการปลอบโยนอีกทาง.. คุณชายซองมินซ่อนด้านแบบนี้มากี่ปีแล้วกันนะ
“ทำไมขาถึงได้รั้นนักนะ.. ทำไมไม่ฟังกันบ้าง ผมรั้งเขาไม่ได้ ผมทำไม่ได้ ฮึก!”
“ฉันรู้ว่าคุณชายไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ คุณคยูฮยอนก็คงรู้เหมือนกัน อย่าร้องไห้ไปเลยนะคะ ถ้าคุณท่านรู้ก็ต้องพลอยไม่สบายใจไปด้วย”
“ผมขอโทษ ฮึก..ทั้งที่ความจริงผมคิดว่าพี่เป็นพี่สาว.. เป็นเหมือนพี่สาวแท้ ๆ แต่ผมก็ยังทำแบบนั้นกับพี่ ผมปรับตัวไม่ได้ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ฮึก! ไม่อยากทรมานอีกแล้ว”ทำไมต้องสร้างฉันให้เกิดมาเป็นแบบนี้ เป็นคนที่แตกต่าง การล่วงรู้ถึงอนาคต.. มันมีประโยชน์อะไรหากจะต้องทรมานก่อนคนอื่น
“ทำไมคุณถึงไม่ทำตามใจตัวเองบ้างล่ะ”เสียงเล็ก ๆ ของเด็กตัวน้อยเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจทั้งที่เธอคิดว่าความจริงซองมินไม่ได้ชอบคยูฮยอนอะไรนั่นเสียอีก สุดท้ายก็มานั่งร้องไห้เสียใจเนี่ยน่ะหรอ
“เงียบ ซุนจี แม่บอกให้นั่งอยู่เงียบ ๆ แล้วเดินออกมาทำไม”
“หนูไม่เข้าใจ พี่คนนั้นกับคุณรู้สึกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่เปิดใจบ้าง คุณจะจมอยู่กับศักด์ศรีที่กินไม่ได้อย่างนั้นหรอ”
“ใครสอนให้พูดแบบนี้!! ลูกอยากถูกทำโทษใช่ไหม แม่บอกว่าสงบปากสงบคำไง”เสียงของคนเป็นแม่ตะหวาดเสียงเข้ม ทำเอาน้ำตาคลอเป็นริ้วเอ่ออยู่ที่ดวงตากลมเล็กอีกครั้ง.. แม่ว่าหนูอีกแล้วนะ
“ถูกแล้วล่ะ..ฮึ! ฉันรักศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้และคงจะตายไปพร้อมกับมัน”เสียงสตาร์ทรถของร่างสูงดังขึ้นแทบทำให้ความรู้สึกของอีกคนตกลงไปถึงขีดสุด.. ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรอีกแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไปดี
“ทุกอย่างมันจบแล้ว..”ร่างสูงขับรถออกไปด้วยสมองอันว่างเปล่า เขาแทบลืมไปเสียหมดว่าการขับรถนั้นขับอย่างไร น้ำตาที่พร่ามัวอยู่เต็มม่านอีกทั้งสายฝนที่กระหน่ำลงมาใส่กระจกอีกทำให้หนทางเลือนรางขึ้นทุกที.. สติที่เหลืออยู่ตอนนี้กำลังจะพาเขาไปที่ไหนกัน
“...........”เสียงเครื่องปรับอากาศดังสลับกับเสียถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ตาคมมองเส้นทางข้างหน้าอย่างเหม่อลอย เวลาฝนตกแบบนี้แทบจะไม่มีรถสัญจรยิ่งเป็นเวลาดึก มันยิ่งเสี่ยงต่ออันตรายและอุบัติเหตุ.. เขาขับรถต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ดูว่าความเร็วของมันพุ่งสูงแค่ไหน
“เฮ้ย!”รถอีกคันหนึ่งวิ่งสวนออกมาจากแยกถนนด้วยความเร็วที่ไม่ต่างกัน ปลายเท้าของคนขับพยายามเหยียบเบรกสุดแรง ด้วยความตกใจร่างสูงจึงหักพวงมาลัยหลบไปอีกทาง..
เอี๊ยด! โครม!!! โชคไม่ดีที่ถนนยามฝนตกลื่นเสียจนยางรถไม่สามารถเกาะไว้ได้ ตัวรถของคยูฮยอนพลิกคว่ำก่อนจะมีควันโพยพุ่งออกมาจากเครื่องยนต์ คู่กรณีพอเห็นสภาพรถที่ยับเยินจึงรีบขับรถหนีออกไปทันที.. รถยังเละขนาดนี้ คนในรถก็คงไม่รอด ชาวบ้านแถวนั้นรีบวิ่งออกมามุงดูต้นเหตุของเสียงโครมครามราวกับระเบิดนั่น
“ตาย ตายแน่ ๆ !”หญิงวัยชราคนนึงตะโกนออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มที่แน่นิ่งอยู่ในรถ
“คุณ!! คุณ! แย่แล้ว อึนมีรีบตามรถพยาบาลให้ที”เสียงของชาวบ้านคนนึงตะโกนบอกกับภรรยาก่อนที่จะเรียกร่างสูงในรถอีกครั้ง ใบหน้าของคยูฮยอนเอนออกมาทางหน้าต่างรถอย่างไร้ความรู้สึก ที่มองเห็นการบาดเจ็บตอนนี้คือ ศีรษะแตกจากแรงกระแทก หัวคิ้วแตก กระจกบาดบริเวณแก้มใกล้ดวงตาพอสมควร..อาการภายในและแขนขาไม่รู้จะเป็นอย่างไร
“ฉันจะเป็นลม!”เลือดสีเข้มไหลออกมาจากในตัวรถเจือจางกับน้ำฝนนองเป็นทาง หญิงสาวคนนึงต้องรีบวิ่งเข้าบ้านด้วยอากาศอยากอาเจียนเสียให้ได้.. การเดินทางมาช่วยเหลือคนเจ็บในขณะนี้คงเป็นอะไรที่ลำบากมาก คงได้แต่รอและภาวนาให้เขารอดเท่านั้น
“ลาก่อน..ซองมิน”
…………… the title & talk zone…………..
the title (ไตเติ้ล)
coming soon เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งของตอนหน้า..
“คยูฮยอนรถคว่ำ..”
“คุณผลักไสให้มันไปตาย! สาแก่ใจคุณแล้วใช่ไหม!!!”
“ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง คยูฮยอน..”
........................................................................................
ดราม่าสุด ๆ อ่ะ ตอนนี้ ตอนแรกไม่คิดจะทำให้เป็นแบบนี้เลยนะเนี้ย แต่ไป ๆ มา ๆ เฮ้ย แบบนี้สะเทือนใจดี -_______-; ประชดกันดีนัก เจอแบบนี้แล้วรู้สึกเลย เวลาในชีวิตของคนเรามันน้อยบ้างนานบ้าง แต่ช่วงเวลาที่เราทะเลาะกัน ถ้าอีกคนนึงหายไป ไม่มีแม้แต่โอกาสจะขอคืนดี.. ไรเตอร์เม่งพร่ำอะไรวะ เม้นกันบ้างเน้อ อัพเต็มพาสแล้วเนี้ย เม้นน้อยลงเรื่อย ๆ เค้าเริ่มน้อยใจแล้วนะเนี้ย!
t
em
ความคิดเห็น