ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★: :___ALL @bouT TVXQ___: :★

    ลำดับตอนที่ #619 : [Info] 091028 ข้อตกลงทางสัญญาที่ใช้ในปัจจุบัน ของ SM-TVXQ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 357
      1
      12 พ.ย. 52

    ทางเราจะเปิดเผยสัญญาผูกมัดที่ SM Entertainment มีกับศิลปินภายในค่าย แม้ว่าสัญญานี้จะเป็นเพียงระหว่าง TVXQ และ SM แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า นี่น่าจะเป็นสัญญาขั้นพื้นฐานที่มีกับศิลปินอื่นๆภายในค่ายเช่นกัน และจากที่ SM ได้กล่าวว่า ส่วนแบ่งรายได้สำหรับ TVXQ นั้นดีที่สุดที่พวกเขาเสนอมา และสามารถสันนิษฐานได้อีกว่า เนื้อความของสัญญากับศิลปินกลุ่มอื่นๆอย่าง Girls' Generation, Super Junior เป็นต้น จะแย่ไปกว่าเดิม

    ภายในสัญญา ได้ระบุไว้ว่า ทงบังชินกิจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมของพวกเขา และนี่ยังบ่งบอกถึงค่าจ้างสำหรับผู้จัดการของเขากับ road manager (ผู้ติดตาม) ได้ ทงบังชินกิจะต้องจ่ายค่าเดินทางของพวกเขาและค่าเช่าที่พัก เช่นเดียวกันกับค่าอาหาร, ค่าแต่งหน้าและค่าจ้างของผู้ประสานงาน นักเต้น และผู้ร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับการแสดง และพวกเขายังต้องจ่ายค่าจ้างให้กับผู้จัดการเป็นรายเดือนให้อีกด้วย
    (ค่าจ้างสำหรับผู้จัดการคือ 800,000 วอนต่อเดือน และค่าจ้างสำหรับ road manager คือ 600,000 วอนต่อเดือน และค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ทุกปี)


    ระยะเวลาสัญญาผูกมัด - 13 ปี สำหรับ 'TVXQ' และ 15 ปี สำหรับ 'BoA'

    ยองอุงแจจุงเซ็นสัญญากับ SM เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2003, คิมจุนซู เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2000 และปาร์คยูชอน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2003 โดยหลังจากการเซ็นสัญญาก็มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาถึง 5 ครั้งด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาของสัญญาได้ยืดออกไปจาก 10 ปี เป็น 13 ปีและส่วนแบ่งรายได้ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เนื้อความในเรื่องของการยืดอายุของสัญญาหรือการชดเชยซึ่งศาลได้ตัดสินว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงสัญญาทั้ง 5 ครั้งเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2003, เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007, เดือนมีนาคม ปี 2007, เดือนตุลาคม ปี 2008 และเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009

    ถ้าคุณได้อ่านสัญญา ก็จะพบว่า SM แทบจะไม่มีข้อผูกมัดสำหรับทางต้นสังกัดเองเลย โดยสิ่งที่ทางต้นสังกัดจะต้องทำ คือ คอยรักษาความนิยมในตัวศิลปิน และบอกพวกเขาถึงงานหรือกิจกรรมของพวกเขา ในทางกลับกัน ทงบังชินกิจะต้องทำตามคำสั่งของผู้จัดการที่ SM ได้ให้ไว้ และไม่สามารถให้คำสัญญาหรือข้อตกลงใดๆที่เกี่ยวกับงานต่างๆได้ด้วยตัวเอง พวกเขาไม่สามารถพูดถึงธุรกิจภายในของ SM ถ้าโชว์หรือการแสดงมีความล้มเหลวโดยไม่มีเหตุผลพิเศษใดๆ ทงบังชินกิก็จะต้องจ่ายค่าชดเชย ทุกๆปีพวกเขาจะต้องทำอัลบั้มเต็มถึง 2 อัลบั้ม และจะต้องออกอัลบั้ม 1 อัลบั้มภายใน 6 เดือนก่อนที่จะสัญญาจะสิ้นสุด และยังต้องทำงานอย่างขะมักเขม้นอีกด้วย ทงบังชินกิจะต้องได้รับอนุญาตจาก SM ก่อนที่จะให้เพลงที่พวกเขาแต่งหรือปรับให้กับผู้อื่น แต่ SM จะได้รับอนุญาตในการนำเพลงที่ทงบังชินกิแต่งให้กับศิลปินภายใน SM โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจาก TVXQ

    แม้ว่าในแง่ของส่วนแบ่งรายได้จะได้รับการปรับปรุง แต่ทงบังชินกิก็ยังไม่ได้รับเงินใดๆจนกว่าจะขายอัลบั้มได้อย่างน้อยขั้นต่ำ 50,000 ก๊อปปี้ ถ้าพวกเขาขายได้ 50,000-100,000 ก๊อปปี้ ทางวงจะได้รับเงินจากการขาย 2% ถ้าขายได้ 100,000-200,000 ก๊อปปี้ จะได้รับ 3% และถ้าขายได้มากกว่า 200,000 แผ่น พวกเขาจะได้รับ 5% จากยอดขายทั้งหมด และทงบังชินกิจะต้องแบ่งรายได้เป็นรายบุคคลกันเอง ถ้าขึ้นแสดงในรายการที่ไม่ใช่รายการทั่วไป SM ก็จะได้รับเงินทั้งหมดสำหรับการโฆษณา ถ้าหากสัญญานี้สิ้นสุดลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทงบังชินกิจะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นสามเท่าของเงินลงทุนทั้งหมดรวมกับเงินสองเท่าของจำนวนรายได้ที่คาดการณ์ไว้ และนี่ยังรวมถึงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะยุติสัญญา และที่ SM เป็นสาเหตุของการสิ้นสุดสัญญา


    เนื้อหาที่ระบุในสัญญา

    Clause 1 (จุดประสงค์)
    เพื่อการทำกิจกรรมอย่างประสบผลของ 'B' (TVXQ) การกระทำทางกฎหมายทุกประการที่เกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมด การปรากฎตัวและอื่นๆ จะทำการตกลงโดย 'A' (SM Entertainment) หรือผู้จัดการที่เลือกสรรโดยฝ่าย 'A' ฝ่าย 'B' ไม่สามารถทำสัญญาส่วนตัวเกี่ยวกับกิจกรรมของตน และต้องมุ่งไปแต่ในกิจกรรมที่ได้รับเท่านั้น c

    Clause 2 (ระยะเวลาของสัญญา)
    1. สัญญาจะเริ่มตั้งแต่วันสิ้นสุดสัญญาฉบับก่อน และจะกินระยะเวลา 13 ปีหลังจากวันเดบิวต์ของ 'B' ในวงการ (วางแผงอัลบั้ม ปรากฎตัวในฐานะตัวประกอบมากกว่า 20 ฉากในหนัง หรือมากกว่า 12 ฉากในละครต่อตอน)
    2. ในกรณีที่ 'B' ไม่สามารถทำกิจกรรมได้ด้วยเหตุผลส่วนตัว สัญญาจะขยายเพิ่มไปตามจำนวนระยะเวลา

    Clause 3 (การมอบหมายสิทธิ)
    1. 'A' มีสิทธิเต็มที่ที่จะรักษาการปรากฎตัวใน TV หรือกิจกรรมต่างๆที่แสดงโดย 'B'
    2. ในระหว่างระยะเวลาของสัญญา 'B' จะต้องตั้งใจทำงานในกิจกรรมทุกอย่างที่ 'A' กำหนด โดย 'B' ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก 'A' หากมีการฝ่าฝึน จะต้องมีการดำเนินการตามข้ำกำหนดในสัญญาข้อที่ 11 ย่อย 1 - 3
    3. การปรากฎตัวทาง TV และอำนาจการตัดสินใจในกิจกรรมของ 'B' อยู่ที่ 'A' ทั้งหมด
    4. 'A' มีสิทธิเต็มที่ในอัลบั้มทั้งหมด และเพลงที่ทำการบันทึก (แม้ยังไม่วางแผง) ที่กระทำในช่วงเวลาของสัญญา การแบ่งรายได้ทั้งหมดที่ได้หลังจากสัญญา มีกำหนดไว้แล้วในสัญญานี้
    5. 'B' ต้องให้สิทธิ 'A' ทั้งหมด เช่นการผลิตเพิ่ม ลิขสิทธิ์ สิทธิในการวางแผงอัลบั้ม การจำหน่าย ลิขสิทธิ์ในการออกอากาศ คาราโอเกะ สิทธิในการทำใหม่ ในเพลงที่แต่งโดย 'B'
    6. 'A' ได้รับอนุญาตให้ใช้เพลงที่ทำการบันทึกในช่วงระยะเวลาสัญญาได้โดยไม่จำกัดรูปแบบ ('A' สามารถตัดต่อเพลง หรือเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ ทั้ง L.P, M.C, CD, CD-FMV, DC-FMV, CD-I, CD-V, CD-G, L.D, VIEDO, limited edition albums, best albums, commercials, movies, picture, VIEDO filming, MP3, และไฟล์เพลง)
    7. หาก 'B' จะให้สิ่งที่นอกเหนือจากเนื้อร้อง ทำนอง หรือการแต่งเพลง แก่บุคคลที่ 3 จำต้องขออนุญาต 'A' ก่อน
    8. ผู้จัดการของ 'B' ต้องถูกเลือกโดย 'A' และต้องทำงานอย่างตั้งใจเพื่อทำตามตารางของ 'B'
    9. 'A' ได้รับอนุญาตให้ใช้เนื้อเพลง เพลงที่แต่ง โดย 'B' ในอัลบั้มใดๆที่ 'A' จะทำ นอกเหนือจากอัลบั้มของ 'B'
    10. 'A' ได้รับอนุญาตให้ถ่ายโอน และใช้ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของสัญญาในธุรกิจอื่นๆ แต่หาก 'B' กล่าวล่วงหน้าว่าไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่ สัญญาส่วนนั้นก็จะไม่มีผล

    Clause 4 (ข้อบังคับ)
    สิ่งที่อยุ่ในอำนาจของ 'A' จะมีผลทั้งต่อกิจกรรมภายในและภายนอกประเทศ 'A' มีสิทธิที่จะถ่ายโอนและใช้สัญญาทั้งหมดในส่วนนี้ และสามารถให้อำนาจส่วนนี้แก่บริษัทอื่นๆได้

    1. สัญญาสำหรับการปรากฏตัวในโทรทัศน์และกำหนดตารางงาน (รวมทั้งบนอินเตอร์เน็ต)
    2. สัญญาสำหรับการแสดงและการร่วมงานทั้งภายในและต่างประเทศ
    3. สัญญาสำหรับภาพยนตร์และโฆษณา
    4. ควบคุมการใช้รูปภาพของฝ่าย 'B' อย่างไม่ถูกกฏหมาย
    5. สัญญาเกี่ยวกับการใช้เนื้อเพลง ทำนองและการเรียบเรียงเพลงต่างๆ
    6. การดูแลปัญหาทางกฎหมาย

    'A' จะถือความเป็นเจ้าของ และลิขสิทธิ์ ของสินค้าใดๆก็ตามที่ผลิตโดย 'A' ภายใต้ระยะเวลาของสัญญา

    Clause 5 (หน้าที่ของ 'A')
    1. ดูแลความโด่งดังของ 'B'
    2. รายงานตารางงานของ 'B' โดยเร็ว

    Clause 6 (หน้าที่ของ 'B')
    1. 'B' ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยสัญญาต่อสาธารณะ หรือเรื่องภายในของ 'A'
    2. 'B' มีหน้าที่ที่จะต้องทำตามตารางงานการปรากฎตัวทางโทรทัศน์ หรือการแสดง 'A' หรือผจก
    3. หากเกิดความล่าช้าขึ้นระกว่างกิจกรรมหรือการแสดงด้วยเหจุผลส่วนตัว 'B' ต้องบอก 'A' หรือผจก.ล่วงหน้า และหากไม่มีเหตุผลสำคัญพอ ก็จำต้องทำงานตามตารางนั้น
    4. ผจก.ของ 'B' ต้องถูกเลือกโดย 'A' และเขาต้องทำงานเพื่อรักษาตารางงานของ 'B' อย่างตั้งใจ
    5. ในระหว่างช่วงเวลาของสัญญา และ 6 เดือนก่อนสัญญาสิ้นสุด 'B' จะต้องออกอัลบั้มใหม่ 1 อัลบั้ม (หรือบันทึกเสียง) ตามที่ 'A' ขอ และโปรโมตอัลบั้มนั้น (ในช่วง 6 เดือน)
    6. 'B' ต้องทำอัลบั้ม 2 อัลบั้มทุกๆปี ตามที่ 'A' ต้องการ และแสดงรวมทั้งทำกิจกรรมอย่างตั้งใจ อีกทั้งทำงานอย่างแข็งขันในทุกๆสถานที่ ('A' เลือกช่วงเวลาในการทำอัลบั้ม และ 'B' จะต้องปฏิบัติตาม)

    Clause 7 (สิทธิของ 'B')
    ถ้า 'A' เรียกร้องใดๆให้ 'B' ทำในสิ่งีท่ไม่ใช่หน้าที่ 'B' มีสิทธิที่จะปฏิเสธ

    Clause 8 (การโปรโมตและค่าธรรมเนียม)
    1. การโปรโมตจะทำร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
    2. ในระหว่างการโปรโมต ถ้า 'A' รุ้สึกว่าจำต้องหยุดการโปรโมต 'A' ก็มีสิทธิที่จะทำ แต่หาก 'B' ต้องการหยุดกิจกรรม 'A' จะเป็นผุ้ตัดสินใจ
    3. สำหรับการโปรโมตอัลบั้มที่ทำโดย 'A' และ 'B' ความรับผิดชอบทั้งหมดรวมทั้งค่าธรรมเนียมในการโปรโมตจะเป็นของ 'A' รวมทั้งกำไรหรือค่าเสียหาย


    Clause 9 (การแบ่งรายได้ - อัลบั้ม) 


    Clause 10 (การแบ่งรายได้ - การปรากฎตัวทางโทรทัศน์ งานอีเวนท์ โฆษณา ลิขสิทธิ์) 



    Clause 11 (ค่าชดเชยหากละเมิดสัญญา)
    1. ในกรณีที่ 'B' ละเมิดสัญญาข้อใดๆก็ตาม 'B' จะต้องจ่ายค่าชดเชยในค่าเสียหาย และการกระทำใดๆที่มีผลกระทบต่อกิจกรรมของ 'B' จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หาก 'A' รู้สึกว่าเป็นการยากสำหรับ 'B' ที่จะเป็นศิลปินต่อไป 'A' ก็มีอำนาจที่จะหยุดกิจกรรมของ 'B' และ 'B' จะต้องจ่ายค่าเสียให้ 'A' (แต่ไม่ได้ยกเลิกสัญญา)
    2. 'B' ต้องจ่ายค่าเสียหาย 3 เท่าของค่าการลงทุนทั้งหมด (ทุกอย่างที่ลงทุนไปเพื่อ 'B') และ 2 เท่าของรายได้จากการทำนาย ในช่วงที่สัญญายังไม่ได้สิ้นสุด
    3. แม้ว่าการสิ้นสุดของสัญญาจะตกลงจากทั้ง 'A' และ 'B', 'B' ยังคงต้องปฏิบัติตามข้อย่อยที่ 2

    Clause 12 (ความขัดแย้ง และหน้าที่อื่นๆ)
    หากมีความเข้าใจผิดใดๆเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดในสัญญา ปัญหาจะได้รับการแก้ไขในความยินยอมของทั้งสองฝ่าย โดยมีพื้นฐานจากความเชื่อใจ


    คำอธิบายเพิ่มเติม

    1. ในเรื่องของสัญญาข้อที่ 2 ข้อย่อยที่ 1
    -ระยะเวลาสัญญาเดิมได้กำหนดไว้ 10 ปี แต่ถูกเปลี่ยนเป็น 13 ปี ซึ่งเป็นการแก้ไขสัญญาครั้งแรก

    2. ในเรื่องของสัญญาข้อที่ 3 ข้อย่อยที่ 10
    -ในส่วนครึ่งหลังของข้อย่อย ( "แต่ฝ่าย 'B' กล่าวไว้ก่อนนี้ว่าไม่เห็นด้วยกับข้อดี เพราะมันไม่สามารถนำไปใช้ได้ในระยะยาว") ได้เพิ่มขึ้นมาในการแก้ไขสัญญาครั้งที่สี่

    3. ในเรื่องของสัญญาข้อที่ 9
    -ข้อนี้ในสัญญาฉบับเดิม (การเปลี่ยนได้ทำการบันทึกการแก้ไขแล้ว) เป็นดังนี้ แต่ถูกเปลี่ยนในการแก้ไขสัญญาครั้งสองและครั้งที่ห้า และการจำแนกประเภทรายได้ วิธีการ และอัตราส่วนที่ใช้ในการแบ่งถูกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และวิธีในการแบ่งรายได้ปัจจุบันเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008

    สัญญาข้อที่ 9 ฉบับเดิม (กำไรที่แบ่งจากยอดขายอัลบัม)
    1. เมื่อ 'B' ออกอัลบัมเป็นนักร้อง หากยอดขายมากกว่า 500,000 ชุด ไม่รวมกับจำนวนเงินที่คืน 'B' จะได้รับเงินรวม50 ล้านวอน (ประมาณ 43,000 $) เมื่ออัลบั้มถัดไปออกมาและหากยอดขายเกิน 1 ล้านชุด 'B 'จะได้รับเงินรวม 1 พันล้านวอน (ประมาณ $ 86,000). (อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ขายเป็นซิงเกิ้ล 'B' จะได้รับครึ่งหนึ่งของที่กำหนดให้สำหรับอัลบั้ม) ถ้าศิลปินเป็นสมาชิกในวง 'B' ต้องแบ่งเงินให้พวกเขาตามจำนวนสมาชิกในกลุ่ม
    2. ดังที่กล่าวไว้ในข้อย่อยที่ 1 จะใช้กับการขายของอัลบั้มของ 'B' และรายได้จากสินค้าที่มีการแก้ไขโดย 'A' (อัลบัมบันทึกการแสดงสด, อัลบั้มขายดี, รวมอัลบั้ม ฯลฯ) ทั้งหมดเป็นของ 'A'. - ในกรณีที่ 'A' ออกเพลงที่แต่งให้กับ 'B' ที่ยังไม่ได้เปิดตัวในอัลบั้มรวม (อัลบั้มที่มีการแก้ไข), 'A' จะได้รับรายได้ทั้งหมด แต่ถ้า 'A' ออกเพลงที่แต่งโดย 'B' ซึ่งยังไม่ได้เปิดตัวในอัลบั้มรวม 'B' จะได้รับจำนวนเงินตามที่ 'B' จะได้รับจากอัลบั้มในข้อย่อยที่ 1 และคูณด้วยจำนวนอัตราส่วนจำนวนเพลงในอัลบั้มรวมที่ยังไม่ได้ออก (รายได้ของ 'B' = รายได้ที่ได้รับตามที่ข้อย่อยที่ 1 (100%) X จำนวนเพลงใหม่ / เพลงทั้งหมดในอัลบั้ม)
    3. 'B' จะได้รับ 10% ของกำไรสุทธิจากการขายเพลงออนไลน์ (MP3 และไฟล์เสียงอื่นๆ) และอัลบั้มที่ทะลุเป้าในตลาดต่างประเทศ (ในกรณีที่ศิลปินเป็นกลุ่มจะใช้กฎเดียวกันในข้อที่ 9 ข้อย่อยที่ 1)
    4. ถ้า 'A' ขอร้องให้ 'B' จะออกรายการทางอินเตอร์เน็ตที่ SM กำลังจะผลิต 'B' ต้องจะทำและเป็นรายการทางอินเตอร์เน็ตที่ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้สำหรับ 'B' จะไม่มีการจ่ายเงินให้ในการออกรายการนี้ (ในการแก้ไขครั้งที่สี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อย่อยนี้ "นอกจาก 'B' มีเหตุผลที่ไม่สามารถไปออกรายการทางอินเตอร์เน็ตที่ SM จะผลิต 'B' ต้องออกรายการเมื่อ 'A' ขอ แต่ 'A' ต้องจ่ายเงินให้กับ 'B' สำหรับการออกรายการครั้งนี้ แต่ถ้าการออกรายกายเป็นการประชาสัมพันธ์อัลบั้มของ 'B' ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินในส่วนนี้")
    5. 'B' ต้องจัดลำดับความสำคัญทั้งหมดในการออกอากาศที่สร้างโดย SM 'B' จะจ่ายเงิน 50% ของการชำระเงินให้กับแขกรับเชิญทางโทรทัศน์หรือเคเบิลสำหรับออกรายการของ SM

    4. ในเรื่องของสัญญาข้อที่ 10
    -ข้อนี้ในสัญญาฉบับเดิม (การเปลี่ยนได้ทำการบันทึกการแก้ไขแล้ว) เป็นดังนี้ แต่ถูกเปลี่ยนในการแก้ไขสัญญาครั้งที่สองและครั้งที่ห้า โดยเปลี่ยนอัตราส่วนของการแบ่งรายได้และเริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2008

    สัญญาข้อที่ 10 ฉบับเดิม (กำไรจากการออก TV ,อีเว้นท์, โฆษณา, ลิขสิทธิ์)
    1. 40% ที่ต้องจ่ายสำหรับการออกรายประจำทางทีวีเป็นของ 'A'.
    2. ในกรณีที่ไปเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ และ 'A' จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด
    3. จากรายได้ทั้งหมดที่ได้รับจากจัดกิจกรรม (ไม่รวมมาตรา 9 และ 10.1 และ 10.2) 'A' จะได้รับ 50% ของกำไรจริง (หักค่าใช้จ่ายในการดำเิินินงานทั้งหมด)แต่ในกรณีของกลุ่มศิลปิน 'A' จะได้รับ 40% ของรายได้จริง ขณะที่ 'B' ได้รับดังนี้ (สองคน 30% สามคน 20% สี่คน 15% ห้าคน 12% หกคน 10% เป็นต้น) ตัวอย่างของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้โดยผู้จัดการของ 'B' และสต๊าฟเฉพาะทาง ซึ่งได้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับกิจกรรม ค่าเดินทางและค่าเช่ารวมถึงค่าอาหาร ค่าแต่งหน้า ค่าจ้างคนประสานงาน ค่าจ้างแดนซ์เซอร์และค่าใช้จ่ายของลูกทีมคนอื่นๆ 'B' จะต้องจ่ายค่าจ้างรายเดือนให้ผู้จัดการ (ค่าจ้างของผู้จัดการคือ 800,000 ต่อเดือนและค่าจ้างของผู้ติดตามเป็น 600,000 ต่อเดือนและเพิ่มขึ้น10% ทุกปี) "ค่าใช้จ่ายขณะที่อยู่บ้าน (ไม่รวมน้ำและค่าไฟค่าอาหารและค่าแม่บ้าน) และค่าฝึกอบรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน
    4. การคำนวณการแบ่งรายได้ของ 'A' และ 'B' จะเกิดขึ้นภายในหกเดือนเมื่อรับรู้รายได้

    5. ในเรื่องของสัญญาข้อที่ 11 ข้อย่อยที่ 3
    สัญญาเดิมกล่าวว่า " 'B' ต้องจ่ายค่าชดเชยสามเท่าตามจำนวนเงินลงทุน สามเท่าตามกำไรที่คาดว่าจะได้รับในปีที่สัญญายังไม่ถูกยกเลิก รวมแล้ว 1 พันล้านวอน (ประมาณ $ 860,000) แต่มีการแก้ไขในสัญญาครั้งที่สาม


    Source : [ejung.blog.seoul.co.kr/118+DNBN]
    Eng Trans : jeeelim5 @tohosomnia.net
    Thai Trans :
    CHOCONAN,,* +I'mRainy.S~* +First11824+ XeNn_ZiNe @tvxq-thailand

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×