ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bloody Kiss จูบร้าย คุณชายเลือดผสม (GyuWoo)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 318
      1
      14 มี.ค. 59


    *ยังไม่แก้คำผิด*




         หลังจากที่อูฮยอนหมดสติ ซองกยูก็รีบนำตัวร่างบางกลับมายังบ้านของเขาทันทีพร้อมกับซองยอล ร่างหนาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาวางไว้บนเตียงในห้องของตนก่อนจะปลีกตัวออกมาหาซองยอลที่กำลังยืนรอเขาอยู่หน้าห้อง ด้วยภาระหน้าที่ที่เขาต้องจัดการทำให้ซองกยูไม่สามารถอยู่ดูแลอูฮยอนจนกว่าจะฟื้นได้ เพราะฉะนั้นคนที่ต้องรับหน้าทีต่อจากเขาคงจะหนีไม่พ้นเด็กตรงหน้าเขาในตอนนี้

    อีกไม่นานคงตื่น ฝากดูแลทางนี้ด้วย  ซองยอลรีบพยักหน้ารับคำสั่งของซองกยูในทันทีก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายสบายใจว่าไม่ต้องห่วง รอยยิ้มของผู้เป็นนายที่นานครั้งจะได้เห็นผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมจนซองยอลอดดีใจไม่ได้ เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องเฝ้ารออูฮยอนนานขนาดไหนกว่าจะถึงวันนี้ มันไม่ง่ายเลยกับการต้องรอใครสักคนอย่างถวิลหา แต่รอยยิ้มบางๆตรงหน้าก็แสดงออกได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ชายหนุ่มผู้มีหัวใจหม่นหมองมาตลอดหลายสิบปีถูกกำลังถูกใครอีกคนเข้ามาแต่งแต้มสีสันให้หัวใจกลับมาสดใสอีกครั้ง

    มีเรื่องด่วนหรอครับ  และมันก็น่าแปลกที่วันนี้จริงๆแล้วซองกยูก็น่าจะว่าง แต่ทำไมถึงต้องออกไปทั้งที่อูฮยอนยังสลบอยู่แบบนี้ มันจะไม่น่าสงสัยเลยถ้ามยองซูไม่โทรมาบอกเขาว่ามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการเหมือนกัน

    เราจับความเคลื่อนไหวของ เขา ได้แล้ว  ซองกยูมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเวลาแห่งความสุขมันมักจะสั้น อูฮยอนและเขาพึ่งจะปรับความเข้าใจได้ไม่นานแต่แล้วกลับมีมารผจญลงมาขัดขวางเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ใครคนนั้นคงไม่ปล่อยเรื่องให้มันค้างคาอีกต่อไปแน่

    ผมไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้  ซองยอลหน้าสลดลงในทันทีที่รู้ข่าว

    จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องเกิด  ซองกยูมองหน้าซองยอลด้วยแววตาหนักแน่น แขนแกร่งทั้งสองจับเข้าที่หัวไหล่ของคนตัวบาง  นายมีหน้าที่แค่ดูแลอูฮยอนไป ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น มันจะไม่เกิดเรื่องซ้ำสองอีก เชื่อฉัน  เป็นอีกครั้งที่ซองยอลพยักหน้ารับคำของร่างสูง ซองกยูรู้ดีว่าซองยอลเป็นห่วงอูฮยอนมากไม่ต่างจากเขา และนี่คงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ร่างบางเบาใจลงได้บ้าง

    ครับคุณซองกยู  ซองยอลยิ้มให้บางๆก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงเดินจากไปจนแผ่นหลังนั่นลับสายตา มือบางหมุนลูกบิดประตูอกกช้าๆก่อนจะก้าวเข้าไปหาร่างบางที่กำลังนอนหมดสติอยู่บนเตียง ซองยอลไม่รู้ต้องทำอะไรก่อนดีเพราะถ้าจะให้เขานั่งเฝ้าคนตรงหน้ามันก็ดูจะน่าเบื่อเกินไป สายตากลมโตกวาดมองไปรอบห้องก่อนจะสบเข้ากับห้องน้ำที่ประตูถูกแง้มออกเล็กน้อยจนเขาสามารถมองเห็นโถแก้วที่ถูกวางอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ขาเรียวเดินไปหยิบมันขึ้นมาก่อนจะนำน้ำใส่ลงไปพร้อมกับหยิบผ้าสะอาดที่ถูกพับเก็บไว้ในชั้นวางของออกมา เมื่อของครบมือแล้วซองยอลก็จัดการนำมาเช็ดตัวให้กับคนตัวเล็ก เมื่อความเย็นของน้ำกระทบเข้ากับผิวกายของอูฮยอนทำให้ประสาทของเขากลับมาทำงานดังเดิม อูฮยอนลืมตาออกช้าๆก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างไม่เขาใจว่ากำลังทำอะไรเขาอยู่

    ซองยอล  คำพูดบางเบานั่นทำให้ซองยอลต้องหันกลับไปมองคนเป็นนายอย่างดีใจ

    นายน้อย  นั่นคงเป็นคำพูดที่ซองยอลเคยใช้จนชินไปแล้วแต่กับอูฮยอนมันช่างขัดหูจนร่างบางต้องขมวดคิ้มใส่ อูฮยอนพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งโดยมีซองยอลช่วยประคอง สายตายังคงจับจ้องไปยังแวมไพร์หนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของเขาอย่างบอกอารมณ์ไม่ถูก จะดีใจที่ได้เจอกันอีกก็ใช่ จะโกรธที่ปิดบังเรื่องจริงก็ไม่เชิง

    นาย เป็นเพื่อนฉันจริงๆใช่มั้ย  อูฮยอนถามซองยอลอย่างจริงจัง ซองยอลเองก็คงไม่จำเป็นต้องปกปิดความจริงอะไรอีกแล้วในเมื่อเรื่องทุกอย่างถูกคลี่คลาย

    ขอรับนายน้อย  ซองยอลตอบพลางยิ้มให้อีกคนอย่างบริสุทธิ์ใจ ยิ้มที่ทำให้อูฮยอนสัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าคือเพื่อนของเขาจริงๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้คนตรงหน้าจะไม่ใส่สิ่งมีชีวิตแบบเดียวกับเขาก็ตาม แต่อย่างน้อยการที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนานก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งในชีวิต ยิ่งกับคนตรงหน้าด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เขาอดมีความสุขไม่ได้

    งื๊ออ ฉันคิดถึงนายจัง  อูฮยอนพุ่งเข้ากอดเพื่อนรักของตนอย่างแรงจนซองยอลนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บที่ท้อง แต่ชายหนุ่มกลับเก็บอาการนั้นไว้และระบายยิ้มออกมา อูฮยอนเอาแต่ซุกหน้าลงกับคอขาวของซองยอลอย่างที่เขาเคยทำเมื่อก่อนจนซองยอลหลุดขำออกมา

    ฮ่าฮ่า นายน้อยผมจักจี้  และอะไรบางอย่างก็ดลใจให้อูฮยอนรู้สึกหัวเสียขึ้นมาดื้อๆ ชายหนุ่มรีบผลักซองยอลออกจากตัวก่อนจะกลับมานั่งกอดอกมองอีกคนโดยไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไร ซองยอลเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของอูฮยอนได้แต่นั่งมองด้วยสายตางงงวย

    นายไม่ใช่เพื่อนฉัน  ซองยอลเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบเข้ามาหาอูฮยอนแต่อีกคนกลับถอยหนี

    น นายน้อยขอรับ ผมไงอีซองยอล  เด็กหน้าหวานประจำโบสถ์ไงครับ  ซองยอลพูดเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคือเพื่อนของชายตรงหน้าจริงๆ  คนที่วิ่งเล่นกับนายน้อยเมื่อตอนเด็ก คนที่คอยมานอนเป็นเพื่อนเวลาซิสเตอร์ไม่อยู่ คนที่อาบน้ำด้วยกันบ่อย และเป็นคนเดียวที่รู้ว่าปานของนายน้อยอยู่ที่ อื๊ออออ...  ยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้พูดอะไรต่ออูฮยอนก็รีบกระโจนเข้ามาปิดปากคนพูดมากตรงหน้าทันทีก่อนจะปล่อยมือออกไปพร้อมกับสายตาตำหนิของคนเป็นนาย

    ย่า จะไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้ก็คราวนี้แหละ  อูฮยอนอาละวาดชายตรงหน้า ต่อว่าที่กำลังจะเอาความลับของเขามาพูดในที่แบบนี้ ซองยอลเมื่อเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่ทั้งสองจะต้องตากันอีกครั้งและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข นานเท่าไหร่แล้วที่เขาทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้

    สรุปว่านายน้อยเชื่อผมแล้วใช่มั้ยขอรับ 

    ไอจะว่าเชื่อก็เชื่ออยู่หรอก  อูฮยอนพูดลากเสียงยาวจนซองยอลต้องตั้งใจฟัง  แต่จะให้บอกว่าเป็นเพื่อนทั้งที่ยังเรียกฉันว่านายน้อยคงไม่ได้มั้ง  อูฮยอนหรี่ตามองซองยอลที่ดูจะเฟลไปเล็กน้อยเพราะคำพูดนั่น เอาจริงๆแล้วเขาก็อยากจะเรียกให้เหมือนเมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ดูสถานะเขาตอนนี้สิ มันไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้คำแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ แค่คิดยังรู้สึกว่ามันผิดเลย

    แต่ว่าเรามันคนละระดับกันนะครับ  ซองยอลก้มลงมองเตียงแทนที่จะมองใบหน้าของร่างบาง แต่แล้วสัมผัสอุ่นๆก็ถูกวางลงบนไหล่ข้างซ้ายของเขาก่อนที่ซองยอลจะเงยหน้าขึ้นไปมองอูฮยอนอีกครั้ง

    ไม่มีคำว่าอยู่ระดับไหนทั้งนั้นแหละซองยอล  อูฮยอนลูบไหล่อย่างแผ่วเบา  เราต่างก็มีชีวิตจิตใจ มันแสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าเราเท่าเทียมกัน การกระทำต่างหากที่จะบอกว่าใครอยู่สูงกว่าหรือต่ำกว่า  รอยยิ้มแต่งแต้มลงบนใบหน้าของคนทั้งสองอีกครั้งก่อนที่อูฮยอนจะเข้าไปกอดซองยอลอย่างอ่อนโยน  ทำเหมือนกับที่เคยทำเถอะ ฉันอยากเราเป็นเหมือนเดิม

    คุณซองกยู..  ยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้พูดอะไรแต่ชายหนุ่มที่กำลังกอดเขานั้นกลับเข้าใจอะไรผิดไปนิดนึง

    เอะอะอะไรคุณก็ซองกยู เค้าเป็นเจ้าชีวิตนายรึไง จะมาห้ามกับแบบนี้ไม่ได้นะ  อูฮยอนอาละวาดใส่ซองยอลจนซองยอลไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น

    ห้ามอะไร  ถ้ามันเป็นน้ำเสียงของคนที่อูฮยอนกำลังกอดอยู่ก็คงจะดีกว่า ร่างบางรีบถอนกอดออกจากเพื่อนของเขาด้วยความตกใจเพราะเขารู้ดีว่าเสียงนั่นเป็นเสียงของเจ้าของชื่อในบทสนทนาเมื่อสักครู่ อูฮยอนหันกลับไปมองชายหนุ่มสองคนที่พึงเข้ามาใหม่ราวกับว่าตนกำลังเป็นสุนัขที่กำลังจะถูกเจ้านายทำโทษ

    ให้ความรู้สึกเหมือนสุนัขหางลีบเลยอะฮยอง  หนึ่งในชายหนุ่มพูดติดตลกใส่ชายอีกคนที่กำลังจ้องอูฮยอนอยู่อย่าคาดโทษ ซองยอลเมื่อเห็นว่าอูฮยอนกำลังรู้สึกกลัวจึงรีบเข้าคลี่คลายสถานการณ์

    เอ่อ คุณซองกยูครับคืออูฮยอนไม่ได้มีเจตนาว่าคุณนะครับ เขาก็แค่.. เข้าใจผิดนิดหน่อยหน่ะครับ  ซองยอลเอาแต่พูดแก้ต่างให้คนตัวเล็กจนซองกยูต้องบอกให้ร่างบางหยุดพูดให้คนตัวเล็กได้แล้ว ซองกยูเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าคนตัวเล็ก ซองยอลที่เห็นดังนั้นจึงลุกออกจากเตียงไปยืนอยู่ข้างๆมยองซู

    ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอ  ซองกยูเชยคางร่างบางขึ้นมาเพื่อให้สายตาของเขาสบเข้ากับอีกคน การที่เราคุยกับใครก็ต้องมองหน้ากันสิไม่ใช่ต่างคนต่างหันไปทางแบบนี้

    ผมขอโทษ  นี่คงเป็นคำพูดเดียวที่ผุดออกมาจากสมองของร่างบาง สายตาที่คมกริบของร่างสูงมันทำให้เขาแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะถูกต้องมนต์เหมือนในละครแฟนตาซีเรื่องอื่น แต่มันเป็นเพราะเขากลัว กลัวล้วนๆ

    ก็แค่นั้น  ทุกคนหันมามองซองกยูเป็นตาเดียวเพราะไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะมีอาการที่เรียกว่า เฉยๆ กับสิ่งที่ร่างบางพูด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใครก็ห้ามด่าซองกยูเป็นอันขาด ถ้าหากวันใดมันลอยมาเข้าหูของร่างสูง แน่นอนว่าคนที่พูดจะได้ลองของดีไปซะทุกราย แต่ซองกยูก็ไม่ได้ดูแปลกใจกับสายตาที่กำลังมองเขา มิหนำซ้ำเขากลับยิ้มออกมาจนคนที่อยู่ในห้องต่างแปลกใจไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งร่างบางที่คิดว่าตนเองจะโดนคนตรงหน้าดุเอาเสียแล้ว

    คุณ.. ไม่โกรธผมหรอ  อูฮยอนมองซองกยูอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก จากที่ร่างสูงดูจะโกรธแต่กลับมายิ้มให้เขาซะงั้น

    โกรธแล้วได้อะไรกันหล่ะ.. แต่ว่านะ จะพูดอะไรก็สังเกตดีๆหน่อยแล้วกัน  ร่างสูงนั่งลงข้างๆอูฮยอนก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งไปมือบางของคนตัวเล็กส่วนอีกข้างก็อ้อมเข้าไปโอบแขนของอีกคนจนซองยอลกับมยองซูยังต้องเบ้ปากมองบนโดยเฉพาะกับมยองซูที่ไม่เคยเห็นซองกยูทำท่าทางแบบนี้มาก่อนในชีวิตของเขา อูฮยอนเมื่อเห็นสายตาของทั้งสองที่กำลังยืนอยู่มองมาที่ตนก็แทบจะเก็บอาการเขินไม่ไหว ร่างบางพยายามสะบัดให้ร่างหนาเอามือที่โอบเขาอยู่ออกแต่กลับไม่เป็นผล ตรงกันข้ามซองกยูยิ่งรั้งให้ร่างบางเข้าใกล้กับเขามากกว่าเดิม

    ความอวดเมียนี้  ปากแบบนี้คงมีแค่มยองซูเท่านั้นที่กล้าพูด ชายหนุ่มหันมามองซองยอลก่อนจะรั้งเอวเข้ามาให้ชิดกับตัวเขาเช่นกันเพื่อไม่ให้น้อยหน้าคนเป็นพี่  ฮยองอย่าคิดว่าจะอวดได้คนเดียวนะครับ ผมก็มีของผม  ซองยอลเมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอาข้อศอกกระทุ้งเข้ากับท้องของคนที่กำลังทำตัวเป็นปลาหมึกมีหนวดกับเขาอยู่ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยังงงกับคนทั้งสองตรงหน้า อูฮยอนหันไปมองหน้าของซองกยูที่กำลังยิ้มให้กับมยองซูก่อนจะเรียกชื่อของชายหนุ่มให้หันมาสนใจเขาบ้าง

    นี่คุณ สองคนนั้นเค้าเป็นแฟนกันหรอครับ  ถึงจะเป็นแค่เสียงกระซิบ แต่ระดับมยองซูแล้ว คำนินทาที่มีเขาอยู่ในบทสนทนาด้วยนั้นไม่เคยรอดไปจากหูของเขาได้ ซองกยูหันมายิ้มให้อีกคนเป็นคำตอบแต่มีหรอที่มยองซูจะปล่อยผ่าน แค่แฟนมันน้อยไปสำหรับเขา

    เมียครับเมีย มอ สระเอีย เมีย  ฮ่าฮ่า  ชายหนุ่มขำออกมายกใหญ่เพราะซองยอลตีเขารัวๆเพราะความเขินที่มากจนล้นออกมา แต่อูฮยอนกลับอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งเพื่อให้สมองประมวลผล

    นี่ไปรักกันตอนไหนครับ  คงเป็นคำถามที่ดูไร้เดียงสามากสำหรับมยองซู ชายหนุ่มรวบมือของคนเป็นภรรยาก่อนจะหันกลับมาหาอูฮยอน สายตากรุ้มกริ่มดูมีเสน่ห์ ใบหน้าก็หล่อเหลาจนเขาอดชมไม่ได้เลย หรือบางทีเขาก็ต้องยอมรับแหละว่าเหนือความหล่อของคุณซองกยูแล้ว ยังมีคุณมยองซู

    รักกันนานแล้วครับ ก่อนคุณจะเกิดอีก แต่ว่านะ คนข้างๆคุณนี่สิยัดเยียดให้ซองยอลไปอยู่กับคุณ กว่าเราจะได้แต่งกันก็รอแทบตาย  อูฮยอนได้แต่พยักหน้ากับคำตอบที่ได้รับ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขาพอจะเรียบเรียงได้บ้างแล้วแต่ข้อสงสับของเขาก็ยังมีอยู่ แต่แล้วอูฮยอนก็ต้องหยุดความคิดของตนก่อนเพราะสายตาของเขาเห็นซองยอลฟุบลงกับพื้นไปต่อหน้าต่อตาทั้งๆที่ตอนแรกก็ยังดีๆอยู่เลย

    โอ๊ะ โอ๊ยยย..  ซองยอลกุมท้องไว้อย่างทรมาน ซองกยูและอูฮยอนรีบวิ่งเข้ามาหาอีกคนอย่างกังวลใจไม่ต่างจากมยองซูที่เอาแต่ถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า  ผ ผม.. เจ็บ ท้องงง อื๊อออ  เสียงครวญอย่างเจ็บปวดของซองยอลทำให้มยองซูแทบจะทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดอะไรบางอย่างก็ลอดเข้ามาในโสตประสาทของเขา เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังร้องเรียกหาเขาในชื่อว่า พ่อ..

    ลูก..  มยองซูเมื่อได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทุกอย่างดี ชายหนุ่มรีบอุ้มร่างบางขึ้นจากพื้นก่อนจะบอกลาทุกคนและหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว  ซองยอลกำลังจะคลอดครับ ผมขอตัว  ทิ้งไว้แต่ความอึ้งของตัวเล็กอีกครั้ง ซองกยูหันกลับมามองอูฮยอนก่อนจะถามร่างบางอย่างเป็นห่วง

    ฮูฮยอนอ่า นายเป็นอะไรรึเปล่า  ร่างสูงลูบหัวทุยๆนั้นอย่างอ่อนโยนก่อนจะได้รับคำตอบจากร่างบางโดยการส่ายหัวไปมา นั่นยิ่งเพิ่มความน่าเอ็นดูของอูฮยอนขึ้นไปอีก มือหนายีหัวจนร่างบางต้องจับมือนั้นออกแล้วจัดทรงผมของตนใหม่แต่เขาก็ยังคงส่งสายตาคาดโทษให้ร่างสูงได้อยู่โดยไม่นึกกลัวเกรง

    พอแค่นี้ก่อนมั้ย  เมื่อร่างบางจัดผมของตนเสร็จซองกยูจึงเรียกความสนใจอีกครั้ง อูฮยอนหยุดคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะปฏิเสธร่างสูงออกไป

    ไม่ครับ  ถึงอูฮยอนจะเป็นเด็กหัวดื้อหัวรั้นจนบางครั้งวองกยูก้อยากจะห้ามปราม แต่ครั้งนี้เขาคงทำอย่างนั้นไม่ได้ อาจจะใช่ส่วนหนึ่งที่ว่ามันเป็นความต้องการของร่างบาง แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือ มันเหลือเวลาน้อยลงทุกที ก่อนที่มันจะสายเกินไป มือแกร่งจับมือของอูฮยอนก่อนจะจูงให้เดินออกจากห้องนอน มุ่งตรงไปยังห้องที่อูฮยอนเคยสร้างปัญหาให้กับร่างสูง ห้องที่กุมความลับของเขา ห้องที่อูฮยอนรับรู้ถึงความเป็นจริงที่ถูกปิดบัง ห้องที่เขาเอาไว้เก็บสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด

    คุณซองกยูครับ  อูฮยอนหยุดฝีเท้าลงด้านหน้าประตูของห้องสมุดก่อนจะกระชับมือร่างหนาจนแน่น นั่นแสดงให้เห็นว่าอูฮยอนรู้สึกประหม่าและกลัวห้องนี้มากแค่ไหน ซองกยูบีบมือบางตอบก่อนจะใช้มืออีกข้างสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของอูฮยอน ลูบไล้พวงแก้มอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่าย

    ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ตราบใดที่นายยังมีฉันอยู่ข้างๆ  ริมฝีปากประทับลงบนหน้าฝากมนเพื่อเป็นการยืนยังว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงและอยากให้อีกคนเชื่อใจในตัวของเขา อูฮยอนที่หลับตาน้อมรับจูบอันอ่อนโยนในตอนแรกลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะยิ้มให้ร่างสูงท่าทางของชายหนุ่มดูมั่นใจขึ้นกว่าเก่า เมื่อซองกยูแน่ใจแล้วว่าตนได้ทำให้ความกลัวของคนตัวเล็กทุเลาเบาบางลงไปบ้างแล้วจึงหันกลับไปเปิดประตู เปิดเข้าไปสู่โลกที่อูฮยอนไม่เคยคิดอยากจะเข้าไปอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

    สร้อยนี่..  หลังจากที่ทั้งสองคนผ่านเข้ามาถึงห้องโถงด้านในที่อูฮยอนเคยเข้ามาเมื่อครั้งก่อน ซองกยูก็จูงมือให้ร่างบางเดินตามเขาไปจนชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลงหน้าตู้กระจกตู้เดิมที่เข้าเคยเห็นเมื่อครั้งก่อน ร่างสูงไขกุญแจก่อนจะเปิดบานกระจกนั้นออกช้าๆ มือหนาหยิบสร้อยที่ถูกสวมอยู่กับตัวหุ่นออกมายื่นให้อูฮยอนดู และนั่นก็ทำให้ร่างบางเกิดคำถามขึ้นมากมาย ซองกยูแค่มองคนตัวเล็กก็เข้าใจแล้วว่าต้อการจะถามเรื่องอะไร ซองกยูยิ้มบางๆส่งให้ร่างเล็กก่อนจะเริ่มอธิบาย

    นี่คือสร้อยคริสตัล  ซองกยูพูดขึ้นก่อนจะยื่นมือเพื่อให้อีกคนส่งสร้อยมาไว้ที่เขาอูฮยอนเองก็ทำตามคำสั่งวางสร้อยไว้บนมือของชายหนุ่มเช่นเดิม  มันเป็นของนาย  นั่นคงเป็นคำที่อูฮยอนแทบจะไม่อยากเชื่อเพราะสร้อยที่เป็นของเขายังคงสวมอยู่ในตอนนี้ แต่ไหนคนตรงหน้ากลับบอกว่าเป็นอันที่ซองกยูถืออยู่

    แต่ของผมก็อยู่นี่นิครับ  อูฮยอนรีบจับสร้อยของตนออกมาให้ซองกยูดู สร้อยนี้ร่างบางได้มาจากซิสเตอร์โบรัมเมื่อตั้งแต่เขาจำความได้ และเขารักษามันไว้อย่างดีตามที่ซิสเตอร์บอกทุกประการ

    อันที่นายจับอยู่ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง เอาไว้คอยปกป้องนายจากอันตราย  ซองกยูบอกอูฮยอนก่อนจะกลับมาจ้องสร้อยคริสตัลอีกอันที่อยู่ในมือของเขาเอง อูฮยอนได้แต่จ้องร่างสูงอย่างไม่เข้าใจนักแต่ก็ยังคงปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบริเวณโดยรอบต่อไป

    นายรู้มั้ย ว่าสร้อยเส้นนี้มีอำนาจมากขนาดไหน  อยู่ดีๆซองกยูก็หันกลับมาถามคนตัวเล็กหลังจากที่จ้องสร้อยในมืออยู่นาน อูฮยอนได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ ซองกยูจึงว่าต่อ  สร้อยเส้นนี้สามารถทำให้คนที่กำลังครอบครองมีอำนาจมากที่สุด ใครหน้าไหนก็ฆ่าไม่ได้ ทุกคนต่างแย่งชิงมันมาแม้ต้องเข่นฆ่ากันให้ตายก็ตาม  อูฮยอนหันมามองซองกยูก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง

    งั้นในตอนนี้คุณก็มีอำนาจมากที่สุดแล้วสิครับ

    ไม่หรอก ฉันไม่ได้กำลังครอบครองมัน  ซองกยูอธิบายสิ่งตรงหน้าอย่างจริงจัง  ฉันกำลังรักษามันไว้ เพื่อนาย

    เพื่อผม หมายความว่ายังไงครับ  อูฮยอนถามร่างสูงอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ในวันนี้อูฮยอนนับแทบไม่ถูกว่าตนเองนั้นต้องคอยแปลกใจ อึ้ง สับสนไปไม่รู้กี่ครั้ง  ถ้าผมครอบครอง ผมก็จะมีอำนาจงั้นหรอครับ  ร่างบางยังคงถามต่อไปเรื่อยๆเพราะความไม่รู้จนซองกยูต้องบอกให้หยุดถามก่อนเพราะเขาตอบไม่ทัน

    ไม่มีหรอก นายเป็นเจ้าของไม่มีอำนาจใดๆทั้งสิ้น  ซองกยูกล่าวก่อนจะหันมาสบตาร่างบางอีกครั้ง สาตาที่ดูหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนนั่นทำให้อูฮยอนเริ่มใจไม่ดี ซองกยูเองก็ไม่อยากจะพูดอีกต่อไปเพราะแน่นอนว่าอูฮยอนต้องไม่ไว้ใจเขาเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องบอก อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจถึงแม้เขาจะกลัวอีกคนจะเปลี่ยนไปก็ตามที  แต่คนที่จะครอบครองอำนาจนั้นได้.. ต้องมีทั้งสร้อย  ซองกยูสูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนจะพูดออกไปจนทำให้อูฮยอนต้องชะงัก  และนาย

    แล้วตอนนี้.. ผมควรไว้ใจคุณรึเปล่า คุณซองกยู”   





        และแล้ว สิ่งที่ซองกยูกลัวที่สุดก็เป็นจริง

     

    หน้า ต่อว่าที่กำลังจะเอาความลับของเขามาพูดในที่แบบนี้ ซองยอลเมื่อ

     



     .............................................

    วันนี้มาแบบจริงจังนิดนึงเนอะ เรามุ้งมิ้งกันไปแล้ว

    เอาเป็นว่ามาลุ้นดีกว่าคะว่าสองคนนี้เค้าจะอะไรยังไงต่อ น่าสงสารคุรซองกยู

    อูฮยอนเริ่มลังเลแล้ว เอาใจช่วยทั้งคนแต่งแล้วก็พระเอกของเราด้วยนะคะ

    papanins

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×