ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bloody Kiss จูบร้าย คุณชายเลือดผสม (GyuWoo)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 382
      3
      7 มี.ค. 59


    *ยังไม่แก้คำผิด*



         วันและเวลายังคงดำเนินต่อไป ชีวิตคนเราต่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย นัมอูฮยอนก็เป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อและแม่ สูญเสียหญิงชราผู้เป็นที่พึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตของเขาแทบไม่เหลือใครให้เป็นที่พักพิงใจ แต่แล้วเขาก็ถูกรับอุปการะและได้ขึ้นเป็นทายาทบริษัทอัญมณีขนาดใหญ่ มิหนำซ้ำยังต้องมาล่วงรู้ความลับอันน่าสะพรึงกลัวของผู้มีพระคุณอีก ถึงมันจะดูเป็นความโชคร้ายที่ไม่สมควรเจอไม่ต่างจากกลุ่มเมฆมรสุมที่กำลังก่อตัวและสาดสายน้ำอันหนาวเหน็บมาให้ แต่เชื่อเถอะว่า ฟ้าหลังฝนมันงดงามเสมอ

    คุณซองกยู  ในค่ำคืนอันเงียบสงบภายในห้องของคนเป็นเจ้าของบ้าน อูฮยอนที่ถูกซองกยูสั่งให้มานอนห้องเดียวกันกับเขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเส้นผมที่ยังไม่แห้งดี ซองกยูที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ละสายตาออกจากตัวหนังสือยั้วเยี้ยบนฝ่ามือแล้วหันไปสนใจร่างบางตรงหน้า

    มีอะไรหรอ  ร่างสูงถามอย่างสงสัย สายตาเรียวคมหันไปจ้องเส้นผมที่ชื้นด้วยหยาดน้ำก็อดจะดึงคนตัวเล็กให้นั่งลงบนเตียงไม่ได้ อูฮยอนยิ้มเป็นเชิงถามก่อนจะเข้าใจการกระทำของคนตรงหน้า ซองกยูหยิบผ้าที่พาดอยู่ตรงบ่าของร่างบางขึ้นมาวางไว้บนหัวคนตัวเล็ก ย้ายตัวเองให้นั่งข้างหลังของอูฮยอนพร้อมส่งฝ่ามือทั้งสองขึ้นไปยีหัวคนตัวเล็กเบาๆ เพื่อให้ความชื้นให้ซึมลงผ้าฝืนนั้นโดยที่อูฮยอนเอาแต่นั่งนิ่งๆให้คนที่โตกว่าจัดการหัวของเขาไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาได้สักพักอูฮยอนก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขามีเรื่องจะคุยกับคนข้างหลัง

    คุณซองกยู  อูฮยอนเรียกชื่อร่างสูงอีกครั้ง

    ฉันรอนายพูดอยู่  ร่างสูงยังคงเช็ดผมให้ร่างบางไปเรื่อยๆอย่างตั้งใจ

    ผมอยากรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด..  มือบางจับมือของอีกคนเพื่อหยุดการกระทำ พลันร่างบางก็หมุนตัวกลับมาหาซองกยูที่กำลังจ้องเขาอยู่อย่างไม่วางตา อูฮยอนจ้องมองชายตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ สายตาของซองกยูดูว่างเปล่า เขาไม่สามารถเดาอะไรได้เลยว่าร่างสูงกำลังคิดอะไรอยู่

    นายจะเชื่อฉันมั้ย  ซองกยูเอ่ยถามอูฮยอนให้แน่ใจว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าของเขาจะเชื่อในสิ่งที่เขาเล่า เราเจอกันได้ไม่นานและมันคงยากที่จะทำให้ใครคนหนึ่งเชื่อใจเขาได้อย่างสนิทใจ

    แล้วที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้ผมยังเชื่อใจคุณไม่พอหรอครับ  อูฮยอนนั่งขัดสมาธิก่อนจะจ้องดวงตาเรียวคมนั่นอย่างจริงจัง ผมยอมอยู่กับคุณทั้งๆที่คุณอันตรายเกินกว่าที่ผมจะไว้ใจในความปลอดภัยของตัวเองได้ ผมยอมมานอนที่นี่เพียงเพราะคุณขอทั้งๆที่มันเสี่ยงสำหรับตัวผมมากอูฮยอนส่งมือทั้งสองข้างไปกุมมือหนาก่อนจะกระชับให้แน่นขึ้น  คุณเปลี่ยนไปมากนะคุณซองกยู ผมเคยเชื่อว่าคุณเป็นคนที่จิตใจมั่นคง เชื่อในตัวเองและเย่อหยิ่ง แต่ทำไมวันนี้คุณถึงกลายเป็นอีกคนไปได้ มันไม่เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลยครับ  รอยยิ้มบางถูกส่งผ่านไปหาแวมไพร์หนุ่มอย่างอ่อนโยน สายตาที่ว่างเปล่าในตอนแรกมีประกายขึ้นมาในทันที ร่างสูงดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง หัวทุยๆนั้นแนบเข้ากับอกแกร่งจนใบหูของร่างบางได้ยินถึงเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่กำลังเต้นแรงอยู่ในตอนนี้

    นายเชื่อใจใครต่อใครง่ายขนาดนี้เลยหรออูฮยอน  ซองกยูถามอย่างแผ่วเบา

    ผมไม่ได้เชื่อคุณสักหน่อย  อูฮยอนเงยหน้ามามองอีกคนก่อนจะเบ๊ะปากใส่  ผมเชื่อคุณชินต่างหาก  ร่างสูงเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบจับอูฮยอนให้ออกจากอ้อมกอดของเขาทันที

    งื๊ออออ ผมหนาว  อูอยอนรีบต้านแรงของอีกคนเข้าไปสวมกอดเอวของร่างสูงจนแน่น อาการงอแงของตัวเล็กทำให้ร่างสูงส่ายหัวไปมา รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาเพราะความเอ็นดู ก่อนที่เขาจะกลับมาหัวเสียเหมือนซึ่งเกิดจากเด็กตรงหน้า แต่ซองกยูไม่ได้ขัดขืนใดๆปล่อยให้อีกคนทำตามใจตัวเองไปเรื่อยๆ

    ตัวฉันเย็น ยิ่งกอดยิ่งหนาว  เสียงพูดห้วนๆนั่นทำให้อูฮยอนยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ คำพูดนี้ที่ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กที่กำลังงอนเพราะพ่อแม่ไม่ยอมซื้อของให้ ไม่จำเป็นต้องมองหน้าเขาก็เข้าใจ

    อุณหภูมิไม่สำคัญหรอก  ร่างบางกระชับอ้อมกอดอย่างเอาแต่ใจ  ความรู้สึกต่างหากที่บอกว่ามันอุ่น

    ฮ่าฮ่า ไปเอาคำพูดแบบนี้มากจากไหนกัน  ร่างสูงหลุดขำออกมาอย่างหนักเพราะไม่เคยเห็นอูฮยอนในแบบนี้มาก่อน เด็กที่ถูกผู้ใหญ่ขำใส่จึงรีบปล่อยอ้อมกอดนั้นออกก่อนจะทำหน้าบึ้งตึงใส่อีกคน

    ตลกมากหรอครับคุณซองกยู  อูฮยอนสงสายตาเขียวปี๋ไปหาอีกคนหากแต่ร่างสูงกลับไม่สะทกสะท้าน ก็แน่หล่ะเขาเป็นแวมไพร์จะให้กลัวอะไรเล็กน้อยแบบนี้ก็ใช่ที่อยู่

    แล้วนายรู้มั้ยว่าพูดแบบนี้..  ชายหนุ่มลากเสียงยาว ใบหน้าโน้มเข้าหาร่างบางมากขึ้นเรื่อยๆ  ในที่แบบนี้..  ซองกยูส่งสายแต่พิศวาสใส่เด็กร่างเล็กตรงหน้าเพื่อหวังจะแกล้งเล่น และมันก็ได้ผล อูฮยอนแสดงสีหน้าตื่นตระหนกก่อนจะลุกขึ้นหนีแต่ถูกอีกคนรั้งแขนไว้

    กลัวหรอ  ซองกยูถามขึ้น ยกยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งอีกคนเล่น

    นี่คุณ  เมื่ออูฮยอนเห็นใบหน้าทะเล้นของซองกยู ความกลัวที่มีก็หายไป ร่างบางตีเข้าที่ไหล่ของร่างสูงจนซองกยูร้องลั่นแต่อีกคนก็ไม่แม้แต่จะหยุดมือ

    ไม่เอาหน่า  อูฮยอนหยุดการกระทำของตัวเองลงในทันทีเมื่อร่างหนารั้งมือของเขาก่อนจะนำมาจับไว้ ซึ่งอูฮยอนก็ยังคงไม่เข้าใจท่าทางแบบนั้นอยู่ดี มือหนาลูบมือของอูฮยอนอย่างทะนุถนอม สายตาคมกริบจ้ององร่างบางอย่างมีความหมาย

    ป ปล่อยมือผม  อูฮยอนรั้งมือกลับแต่ก็สู้แรงที่กำลังรั้งมือของเขาอยู่ไม่ได้ หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

    อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะอูฮยอน  ชายหนุ่มลูบไล้รอยแดงที่เกิดขึ้นบนฝ่ามือของอีกคนเบาๆ

    ผมมือหนักใช่มั้ยหล่ะครับ  อูฮยอนเอาแต่พูดอวยตัวเองจนไม่ได้สนใจการกระทำของร่างสูงมากนัก

    ฉันกลัวนายเจ็บ  สายตาคมละจากฝ่ามือนั้นก่อนจะสบเข้ากับดวงตากลมของอูฮยอน ร่างบางรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของอีกคนที่ส่งผ่านมาทางสายตานั้นได้ มันให้ความรู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก และตอนนี้เขาก็ยังมีสติพอที่จะรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกจูบโดยแวมไพร์ที่กำลังนั่งกุมมือเขาอยู่ อูฮยอนรีบส่งมืออีกข้างขึ้นมากั้นริมฝีปากของอีกคนไว้อย่างรวดเร็ว

    เอะอะก็จูบนะครับ  อูฮยอนส่ายหัวไปมาเป็นเชิงห้ามไม่ให้ชายตรงหน้าทำแบบนี้อีก ซองกยูเองก็ยอมถอยทัพไปตั้งหลักก่อนถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้จูบหวานๆในคืนนี้ แต่รับรองว่าวันหลังเขาต้องไม่พลาดทั้งจูบ.. และตัว

    พรุ่งนี้ฉันให้นายหยุดเรียนดีมั้ย  ซองกยูสลัดความคิดร้ายๆของตัวเองออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นพูดเรื่องที่ค้างคากันอยู่ในตอนแรก  มีที่ๆหนึ่งอยากให้นายไป

    จริงนะครับ  ดวงตาของอูฮยอนลุกวาว แขนบางเขย่าแขนของร่างสูงอย่างดีใจ ซองกยูได้แต่พยักหน้ารับว่าที่เขาพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง เขารู้ว่าอูฮยอนเหนื่อยแค่ไหนตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เด็กคนนี้เอาแต่เรียนจนแทบไม่ได้พัก ผิวกายในตอนแรกของอูฮยอนไม่ได้ขาวอะไรมากมาย แต่ดูตอนนี้สิ การไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่าบ้าน ไม่ได้ถูกแสงยูวีจากแดด ผิวกายของคนตรงหน้าก็ยิ่งเปล่งประกายน่าเย้ายวน.. ร่างหนาคิดอกุศลกับเด็กตรงหน้าอยู่นานจนอูฮยอนต้องเขย่าตัวเพื่อเรียกสติ

    นี่ๆ คุณซองกยู”  อูฮยอนปัดมือไปมาเพื่อดึงสติอีกคนที่เอาแต่จ้องเขา  คิดอกุศลกับผมป่ะเนี่ย  ร่างบางเอาแขนแนบชิดกับตัวเพื่อปกปิดร่างกายของตน

    ป่าวสักหน่อย  ซองกยูเมื่อได้สติก็บอกปัดไปว่าไม่ ทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย  แต่อูฮยอน นายต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับวันหยุดของนาย

    ข้อแลกเปลี่ยนอะไรครับ  ชายหนุ่มหรี่ตาถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจคนตรงหน้านัก ซองกยูยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อนจะพองแก้มข้างขวาใส่ ร่างบางเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รีบส่ายหัวปฏิเสธ  ไม่เอาครับ

    งั้นอด  ซองกยูหันกลับไปทิ้งศีรษะบนหมอนของตนก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคุมโปงสร้างความวุ่นวายใจให้คนตัวเล็กเอามากๆ ในเมื่ออูฮยอนไม่มีทางเลือกเขาจึงต้องคลานเข้าไปหาร่างหนาอย่างจำใจ มือบางเปิดผ้าห่มที่คลุมใบหน้าของซองกยูออกช้าๆก่อนจะชั่งใจพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการ

    ก็ได้ครับ หอมก็หอม  ซองกยูที่ตอนแรกเอาแต่หลับตาก็เปิดตาออกมามองใบหน้าหวานตรงหน้าอย่างผู้ชนะ  แต่ครั้งเดียวนะครับ

    แน่นอน  ซองกยูตอบรับก่อนจะหันแก้มให้ร่างบาง อูฮยอนจำใจโน้มใบหน้าลงเพื่อประทับรอยจูบบนแก้มขาวซีดนั้นแต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้เมื่อซองกยูพลิกเกมให้เป้าหมายที่เคยเป็นแก้มกลายเป็นริมฝีปากของเขาซะอย่างนั้น และมันก็ช้าเกินไปที่อูฮยอนจะรู้ตัวเมื่อริมฝีปากของเขาประทับเข้ากับริมฝีปากของชายอีกคนเป็นที่เรียบร้อย ร่างบางละปากออกอย่างรวดเร็วเมื่ออีกคนทำผิดกติกาว่าให้หอมแก้มไม่ใช่จูบกัน แต่มือหรอที่ซองกยูจะปล่อยปากหวานๆของคนตัวเล็กไป ในเมื่อเหยื่อมันเข้าถ้ำ เสืออย่างเขาคงไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆ

    อื๊อออ  เสียงครางของคนตัวเล็กดังลั่น เขาพยายามจะละปากของตัวเองออกจากแวมไพร์เจ้าเล่ห์แต่ซองกยูกลับรั้งใบหน้าของเขาให้อยู่กับที่ ริมฝีปากคาวเลือดของร่างสูงดูดซับรสชาติอันแสนหวานจากอูฮยอนอย่างช้าๆจนพอใจ ก่อนจะปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระ

    อร่อย  ซองกยูแสยะยิ้มให้ร่างบางอย่างชอบใจก่อนจะถูกมือบางฝาดเข้าที่ปากอย่างจัง

    นี่คุณ มันผิดกติกานี่”  อูฮยอนโวยวายอย่างหัวเสียแต่ซองกยูกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ ร่างสูงยังคงนอนยิ้มให้กับร่างบางถึงแม้ว่าปากจะรู้สึกชาไปหน่อยเพราะแรงฟาดเมื่อสักครู่

    แล้วผมบอกคุณว่าอะไรครับคุณอูฮยอน

    ถ้าหอมแก้มแล้วจะให้หยุด  อูฮยอนตอบออกไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก

    ใช่หรอ ผมพูดแบบนั้นหรอ  อูฮยอนกำลังจะเถียงแต่ถูกซองกยูขัดขึ้นซะก่อน  ผมแค่พองแก้มครับ ไม่ได้บอกให้หอมเลยด้วยซ้ำ คุณคิดไปเองครับคุณอูฮยอน ฮ่าฮ่า  ซองกยูยิ้มยียวนให้ร่างบางก่อนจะคลุมโปงหนีอีกคน อูฮยอนได้แต่เบ้ปากเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี

    ย่าคิมซองกยู  ร่างบางอาละวาดอีกครั้งก่อนจะฟาดเข้ากับร่างใต้ผ้าห่มตรงหน้า

    ถ้าคุณไม่หยุดผมจะทำมากกว่านี้แน่  คำขู่ผ่านผ้าห่มทำให้อูฮยอนรีบหยุดมือของตัวเอง ซองกยูเมื่อรู้สึกว่าอีกคนสงบลงแล้วจึงเปิดผ้าห่มออกมา ร่างบางได้แต่มองชายหนุ่มอย่างขัดใจจนทำให้ซองกยูอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้

    นอนเถอะ ดึกแล้ว  ซองกยูส่งมือขึ้นมาลูบหัวอีกคนเป็นการปลอบใจ อูฮยอนเองก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้มันมากความจึงได้แต่ทำตามที่ซองกยูบอก เมื่อหัวถึงหมอนร่างบางก็หลับไปในทันทีโดยไม่ได้ระแวงคนข้างๆเลยสักนิด ซองกยูจ้องร่างบางได้สักพักจึงตัดสินใจปิดไฟข้างๆเตียงให้ดับลง ทิ้งไว้แต่ความเงียบของห้องนอนที่เคยมีเขาเพียงคนเดียวแต่ตอนนี้กลับมีใครอีกคนที่เขาเฝ้ารอมาหลายสิบปี

    ฝันดีนะ อูฮยอนของข้า

     

    แม้เวลาจะผ่านไปกี่ปี เขาก็ยังคงรักอูฮยอนเสมอ และเขาจะไม่ปล่อยให้อูฮยอนต้องจากเขาไปเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด

     






     

     

     

    นี่มันทางไปโบสถ์นี่ครับ  วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทั้งสองรับประทานอาหารเช้าเสร็จ อูฮยอนก็รีบลากซองกยูขึ้นไปบนรถในทันที ร่างบางในวันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะเขาจะได้ออกไปดูโลกภายนอกบ้างหลังจากขลุกอยู่ในนั้นเป็นเดือนๆ ซองกยูขับรถไปอย่างเงียบๆ ผ่านตัวเมืองที่มีคนพลุกพล่าน ผ่านแม่น้ำสายหลักของโซล ผ่านท้องนาท้องไร่ของชาวบ้านในชนบท จนมาถึงทางขึ้นเนินเขาเล็กๆที่ร่างบางรู้จักดี อูฮยอนเอ่ยถามอีกคนแต่ซองกยูกลับไม่ได้พูดอะไรมากเพียงแค่ยิ้มบางๆให้ อูฮยอนหันกลับไปมองวิวข้างทางที่เขาคุ้นเคย พลันอดีตก็ย้อนกลับมาในหัวของเขา นานเท่าไหร่แล้วที่เขาเฝ้าแต่คิดถึงคุณแม่โบรัม นานแค่ไหนแล้วที่เขาจากซองยอลมา.. ซองยอล.. ชายหนุ่มรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหาเบอร์ของเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็ว ท่าทางลุกลี้ลุกลนทำให้คนขับต้องหันกลับมามอง

    เป็นอะไรรึเปล่า

    เปล่าครับ ผมแค่ลืมโทรหาเพื่อนสนิทหน่ะ  อูฮยอนมองโทรศัพท์ที่กำลังบอกเขาว่าไม่มีสัญญาณตอบรับ มือบางกดวางสายก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า

    ซองยอลหรอ

    คุณรู้  อูฮยอนหันไปมองคนขับอย่างแปลกใจ เพราะเขาไม่เคยพูดถึงเพื่อนมาก่อนสักครั้ง โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่างซองยอล แต่คำถามนั้นก็ดูจะไม่มีผลอะไรกับซองกยู ชายหนุ่มยังคงจับจ้องไปข้างหน้า ปล่อยให้ความเงียบกลายเป็นคำตอบของคนตัวเล็กต่อไป

    อะไรของนายนะ  ถึงจะเป็นคำบ่นแต่ซองกยูก็ได้ยินมันชัดเจน ร่างสูงเหยียบเบรกก่อนที่รถจะหยุดลงตรงเนินเขาเตี้ยๆลูกหนึ่ง เบื้องหน้าคือโบสถ์ที่อูฮยอนเคยอาศัยอยู่ ซึ่งในตอนแรกที่อูฮยอนออกจากที่นี่ไปแล้วแอลก็ได้ถอนมนต์ที่สะกดภาพลวงตาเอาไว้ เหลือเพียงทุ่งหญ้าสีเขียวโล่งๆ แต่เหตุที่วันนี้มันกลับมาตั้งอยู่ตรงหน้าเพราะเขาจะเปิดเผยเรื่องราวให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆได้ฟัง และเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

    ลงมาสิ  หลังจากที่ร่างสูงลงจากรถก็รีบเดินไปเปิดประตูให้ร่างบางทันที อูฮยอนโค้งเป็นเชิงขอบคุณก่อนที่ทั้งสองจะเดินลงเนินเขาลูกนั้นไปยังโบสถ์หรือสถานที่แห่งความหลังของอูฮยอน แต่ยังก้าวได้ไม่ถึงไหนสายตาของร่างบางก็สบเข้ากับหญิงชราที่เขาคุ้นเคยกำลังยืนยิ้มให้กับเขาอยู่ ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าก่อนจะขยี้ตาเพื่อบอกกับตัวเองว่าเขาไม่ได้ฝันไป ในเวลาสายๆแบบนี้เขายังสามารถมองเห็นวิญญาณได้อยู่อีกหรอ

    คุณแม่..  อูฮยอนเอาแต่จ้องหญิงชราผู้ล่วงลับกำลังเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ ถ้าเป็นผีตนอื่นแน่นอนว่าชายหนุ่มต้องวิ่งหนี แต่กับซิสเตอร์โบรัมแล้ว เขาอยากจะเข้าไปกอดแทบใจจะขาด อยากเข้าไปหอม ไปสัมผัสคนตรงหน้าให้ได้แต่มันยากเกินไปที่จะทำ ในเมื่อเราอยู่กันคนละภพ แค่สัมผัสกันยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

    อูฮยอนอ่า  แต่สิ่งที่อุฮยอนคิดมันผิดถนัด คุณซิสเตอร์ยื่นมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาของอูฮยอนที่กำลังคลอเบ้าอยู่ให้หายไป ซึ่งนั่นหมายความว่าร่างกายของหญิงชราตรงหน้าสามารถสัมผัสได้ อูฮยอนมองรอยยิ้มที่คุ้นเคยนั้นก่อนจะปล่อยโฮออกมาเสียชุดใหญ่ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาต้องจากหญิงผู้เป็นที่พึ่งพิงใจคนนี้ไป

    ฮืออออ คุณแม่ คุณแม่กลับมา อึก หาผมแล้วใช่มั้ย  อูฮยอนสั่นไปหมดทั้งตัวก่อนที่ร่างทั้งร่างจะทรุดลงกับพื้นแต่ยังดีที่ซองกยูรับไว้ทัน

    อูฮยอน ลูกต้องรู้ความจริงได้แล้วนะ  คุณซิสเตอร์โบรับกล่าวยิ้มๆก่อนจะหันไปสบตากับซองกยู  อูฮยอนเริ่มไม่เข้าใจกับสิ่งที่หญิงตรงหน้าพูดมากนัก พลันมือปริศนาก็แตะเข้ากับแขนของอูฮยอนจนเจ้าตัวตกใจจนเซแทบล้ม ก่อนที่จะตั้งสติได้ว่าคนที่มาใหม่คือใคร

    ซองยอล

    ขอรับ นายน้อย  ซองยอลยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้าจนอูฮยอนสับสนกับสถานการณ์ในตอนนี้ ความจริงอะไร แล้วใครคือนายน้อย เขาหรอ อูฮยอนที่ไม่รู้อะไรสักอย่างหันไปหาซองกยูเพื่อขอคำตอบ

    ที่นี่ คือภาพลวงตา  ซองกยูพูดขึ้นก่อนจะกวาดมือออกไปเพื่อปล่อยมนต์ที่ตนได้ทำไว้ อูฮยอนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อทุกสิ่งที่เคยมี สถานที่ที่เขาเคยอยู่กลับกลายเป็นเพียงทุ่งหญ้าธรรมดาแห่งหนึ่งเท่านั้น ร่างบางแข้งเป็นหิน ปากไม่สามารถขยับได้เพราะกำลังตะลึงกับสิ่งที่พบเจอในตอนนี้

    เพื่อนของนาย อีซองยอล เขาคือคนของฉัน  ซองกยูมองร่างบางอีกครั้งก่อนจะบอกความจริงเรื่องต่อไปให้อูฮยอนฟัง ร่างบางค่อยๆหันกลับไปมองเพื่อนรักของตัวเองอีกครั้งก่อนจะประมวลผลคำที่ร่างสูงพูด

    ส แสดงว่า.. เป็น แวมไพร์  ซองยอลได้แต่พยักหน้าเพื่อรับรองว่าเขาเป็นแวมไพร์จริงๆ อูฮยอนไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้อีก ปากของเขาแข็งจนขยับแทบไม่ได้ ร่างทั้งร่างชาไปหมด ซองกยูที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็อดห่วงไม่ได้ แต่มันคือสิ่งที่เขาสมควรทำ

    และคุณแม่ของนาย  ซองกยูจับไหล่อูฮยอนไว้แน่นจนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นของร่างบาง ร่างสูงหมุนร่างที่กำลังยืนแข็งอยู่ตรงหน้าให้หันไปมองคุณซิสเตอร์โบรัม อูฮยอนแทบไม่มีแรงจะยืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ต้องทน ในเมื่อมันเป็นทางที่เขาเลือก ความจริงคือสิ่งที่เขาต้องการ สายตาของอูฮยอนจ้องมองผู้เปรียบเสมอแม่ของตนที่ตอนนี้กำลังยิ้มให้เขาอยู่

    แม่รักลูกนะ  กล่าวจบร่างของหญิงชราก็กลับกลายเป็นหญิงสาวที่สวยมากๆคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญ..

    คุณโบรา

    อูฮยอนก็รู้จักดี

    ร่างบางทรุดลงไปกับพื้นในทันที สติที่เคยมีดับวูบลงจนซองกยูอดห่วงไม่ได้ แขนแกร่งอุ้มร่างบางขึ้นมาก่อนจะสั่งซองยอลให้ตามเขากลับไปที่บ้านด้วย

    ฝากรถฉันด้วยนะโบรา  พูดแค่นั้นซองกยูกับซองยอลก็หายวับไปในทันที ทิ้งภาระไว้กับหญิงสาวที่กำลังเบ้ปากให้กับชายหนุ่มอยู่

    ชิ นี่เพื่อนนะไม่ใช่ทาส  หญิงสาวบ่นอย่างไม่สบอารมณ์นักก่อนจะขับรถออกไปจากสถานที่แห่งความทรงจำของพวกเขา  อูฮยอนจะเป็นยังไงบ้างนะ  เธอไม่รู้หรอกว่าความห่วงใยสามารถส่งผ่านถึงกันได้รึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เชื่อว่าคนบนฟ้าคงไม่ใจร้ายทำให้อูฮยอนเป็นอะไรไปอีกหรอก

     





     .............................................

    มาแบ๊ววววว คิดถึงเค้ามั้ย

    ดูคุณซองกยูสิ เขาหวานเนอะ เจ้าเล่ห์แถมจูบเก่งอีก -//-

    นี่แต่งเองก็อยากได้เองนะ ขอได้มั้ยผช.แบบคุณซองกยู

    papanins

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×