ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] Lazy Story : ฟิคเรื่อยเปื่อย [Yunhyeong & Junhoe ft. DongJin]

    ลำดับตอนที่ #9 : [B] JUNHOE : Love Me Harder [Re-write]

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 58


    03/11/2015

    JUNHOE : Love Me Harder


    ---------------------------------------------



      







    ...กูจุนฮเว กำลังเซ็ง...

     


    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาลืมโทรศัพท์มือถือ เวลารีบๆทีไรลืมนึกถึงมันทุกที บางครั้งเขาคิดว่าควรแปะโพสอิสไว้กับหน้าผากของตัวเองว่าออกไปไหนเช็กด้วยว่าหยิบไปด้วยหรือยัง โอเค เขาไม่ใช่คนติดมือถือ แค่ไว้ใช้รับสาย เล่นเกมบ้างตอนรอสอนออกจะรำคาญด้วยซ้ำเวลาต้องมาปิดเสียงทุกครั้งก่อนสอนหรืออัดเสียง

     

    แต่จำเป็นต้องพกไว้เพื่อให้ใครบางคนติดต่อเขาได้เสมอ

     

    ถือว่าโชคดีลืมไว้ที่โรงเรียนสอนร้องเพลงและการเต้นที่เขาทำงานอยู่ แต่มันทำให้เขาต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากอัดเสียงงานด่วนที่สตูดิโอเสร็จตอนเกือบจะเที่ยงคืน สองขาพาเดินเข้าไปในตึกอย่างคุ้นเคย ขึ้นบันไดตรงไปยังห้องสอนร้องเพลงที่เขาสอนเมื่อบ่าย แต่ได้ยินเสียงเรียกจากใครบางคนเสียก่อน
     

    "จุนเน่?" 

     

    เพื่อนสนิทของเขาคิมดงฮยอกคุณครูสอนเต้นประจำโรงเรียนแห่งนี้ในสภาพไม่ใส่เสื้อ เหงื่อซึมตามร่างกายบอกให้รู้ว่าพึ่งผ่านการใช้แรงกายมา เขาเลิกคิ้วถามคนที่เดินตรงมาหาเขาพร้อมขวดน้ำในมือ
     

    "ทำไมมึงยังไม่กลับอีกวะ"
     

    "กำลังคิดท่าเต้นใหม่ ว่าจะกลับแล้ว และก็.." ดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งก่อนพูดต่อ


    "...พี่ยุนมาหามึงเมื่อเย็น รอมึงจนเกือบสามทุ่ม"

     


    สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้เกิดขึ้นจริง จุนฮเวถอนหายใจอย่างหัวเสีย รู้อย่างนี้เมื่อกลางวันไม่น่าตอบตกลงให้ยุนฮยองมารับเลยเพราะคืนวันศุกร์มักมีงานด่วน เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องมาหาเขาที่นี่แน่นอนเมื่อติดต่อไม่ได้ แต่ป่านนี้น่าจะกลับห้องตัวเองไปแล้วมั้ง

    "แล้วนี่คุยกับพี่เขายัง"  

    "ยัง กำลังจะไปหยิบมือถือ" 

    "เออ งั้นไปหยิบแล้วเจอกูที่รถ เดี๋ยวกูไปส่งที่หอ"

     

    ตั้งใจว่าจะปฏิเสธแต่ดงฮยอกหันหลังเดินกลับห้องซ้อมเต้นเสียก่อน เขาจึงขึ้นไปอีกชั้น ใช้กุญแจเปิดล๊อกห้องสอนร้องเพลง ตรงเข้าไปเปิดลิ้นชักตรงโต๊ะหน้าห้องหยิบของที่เขาลืมไว้ สไลต์หน้าจอ แสงจากโทรศัพท์มือถือสว่างขึ้นปรากฎแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับเกือบยี่สิบสายจากคนคนเดียว ไม่น่าแปลกใจ กดโทรกลับอย่างไม่คิดอะไร รอจนอีกฝ่ายรับสาย
     

    'กูจุนฮเวนายอยู่ไหน?' น้ำเสียงอีกฝ่ายใจเย็นกว่าที่เขาคิดไว้

    "อีกห้านาทีผมจะถึงหอ" 

    'โอเค พี่จอดรถอยู่หน้าหอนาย เรามีเรื่องต้องคุยกัน'

    ถอนหายใจระหว่างเดินไปที่รถของดงฮยอก เขาเองก็คิดไว้ว่ายุนฮยองต้องไปรอเขาหน้าหอพักในเมื่อติดต่อไม่ได้ซะขนาดนี้ ยังไงฝ่ายนั้นต้องการเห็นตัวเขาด้วยตาของตัวเองว่าเขาไม่เป็นอะไร แต่เขาเองก็ไม่อยากเห็นความเป็นห่วงเกินไปของอีกฝ่าย
     

    "เมื่อไรจะย้ายไปอยู่กับพี่ยุนวะ"

                "อยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว"

    ตอบคำถามของดงฮยอกไปตามความจริงขณะอยู่บนรถของอีกฝ่าย การอยู่ที่หอนี้สะดวกต่อการไปทำงานของเขาแค่ห้านาทีก็เดินถึงโรงเรียนแล้วจะย้ายไปทำไม อีกอย่างยุนฮยองก็ไม่ว่าอะไร

     

    "ถ้ามึงไม่อยากให้พี่ยุนเป็นห่วงก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันเหอะ ลงไปได้แล้ว"

     

    รถสีดำจอดอยู่หน้าหอพักเขา ถอนหายใจหนึ่งทีก่อนเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับ ไม่มีหันหน้าดูคนข้างตัวแต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายหัวเสียแค่ไหน รอฟังเสียงบ่นแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที จนเขาเองที่ทนไม่ได้

     

    "ถ้าพี่ไม่คุย งั้นผมขอตัวกลับขึ้นไปนอนที่หอ" 

     

    รถถูกเคลื่อนทันทีหลังจากเขาพูดจบประโยค เสียงเรียบจากอีกฝ่ายตอบกลับมา

    "ไปคุยที่ห้องพี่"

                .

    .

                . 

    เสื้อตัวนอกของยุนฮยองถูกวางลงตรงพนักโซฟาก่อนที่อีกฝ่ายจะทิ้งตัวลงบนโซฟาถอนหายใจออกอย่างกับสิ่งที่กองอยู่บนอกถูกยกลงแต่น่าจะยังไม่หมดเพราะคิ้วนั้นยังขมวดติดกันอยู่ ยกมือขึ้นมาลูบหน้าและหลับตาลง เขาเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ถึงกับพูดไม่ออก นั่งลงบนโซฟาข้างๆ พอจะเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้
     

    "ทำไมไม่รับสายพี่?" 
     

    "ผมมีอัดเสียงเพิ่ม มีโปรเจคด่วนเข้ามาตอนเย็น"  

     

    "แล้วทำไมไม่โทรบอกพี่หรือส่งข้อความมาก็ได้"
     

    "ผมรีบออกไป ลืมมือถือไว้ที่ห้องสอนร้องเพลงของโรงเรียน พึ่งไปเอาตอนอัดเสร็จ"
     

    "แล้วไปอัดเสียงที่ไหนและใครมาส่ง"
     

    "พี่จะจ้องจับผิดผมหรือไง?"

     

    จุนฮเวนั่งกอดอกทำสีหน้านิ่งตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาเกลียดการถูกซักไซร้โดยเฉพาะกับยุนฮยอง คนข้างตัวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง 


                "พี่แค่เป็นห่วงรู้ไหมแถมนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้" 
     

    "งั้นพี่ควรชิน"

      

    วันหลังทำตัวให้ติดต่อได้ง่ายหน่อยเถอะ

     

    ผมไม่รับปาก

    "พี่กลัวว่าจะนายเป็นอะไร"  

    "ผมดูแลตัวเองได้"

    "แต่พี่อยากดูแลนาย ทำตัวให้พี่ดูแลหน่อยเหอะ"

     

    ยุนฮยองพูดแกมบังคับทำเสียงฮึดฮัดเหมือนเด็ก จนเขาหลุดยิ้มออกมา อะไรกันเมื่อกี้โกรธเขาแทบตายสรุปกลับมาทีเล่นทีจริงอีกแล้วสินะ

                "ก็ทำอยู่นี่ไง"

     

    ส่งยิ้มลอยหน้าลอยตาให้อีกฝ่ายหมั่นไส้เล่นจนถูกคนด้านข้างโอบเข้าตัว กดหัวเขาลงเข้ากับช่วงไหล่ก่อนมือของยุนฮยองเข็กลงไปที่หัวของเขาหนึ่งที ไม่ได้เจ็บอะไรเลย แค่แกล้งทำ

     

    "พี่ยังไม่หายโกรธนะ"

                "งั้นก็เรื่องของพี่" เขาหันหน้าไปหาอีกฝ่ายแล้วยกคิ้วขึ้นทำสีหน้ากวนประสาทส่งให้ 

    "ไอ้เด็กบ้า ยังดีที่ไม่เป็นอะไร"

     

    จุนฮเวรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นห่วงเขามาก ถึงเขาไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆน่าทะนุถนอม เขาเป็นผู้ชายหน้าโหดแถมสูงกว่ายุนฮยองด้วยซ้ำ แต่เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกฝ่ายดูแลเขาดีแค่ไหน ตั้งแต่ตอนจีบเขาจนถึงตอนนี้เป็นแฟนกันแล้ว ยุนฮยองตอนนั้นเป็นอย่างไรตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ตามใจเขา ยอมเขา ทำทุกอย่างให้เขามีความสุข ถึงเขาจะเหนื่อยแค่ไหนคนคนนี้ยังคอยส่งยิ้มให้เขาเสมอและเมื่อยุนฮยองเหนื่อยเขาเองพร้อมให้อีกฝ่ายกอดเขาอย่างเต็มใจ

     

    เขาไม่ใช่คนขี้อ้อน โอเค อ้อนให้ซื้อของกินนี่ปกติ แต่ไม่เคยเข้าไปกอดหรือสัมผัสยุนฮยองก่อน บางครั้งมีรู้สึกอ่อนแอจนอยากบอกขอกอดสักทีบ้าง แต่เขาเป็นคนปากแข็งและไม่ยอมคนอย่างกับอะไรซึ่งแม้เขาไม่เอ่ยปากยุนฮยองพร้อมเข้าหาเขาก่อน ถึงเขาทำให้อีกฝ่ายโกรธและหงุดหงิดแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจก่อนดึงเขาเข้ามากอดและบ่นสักทีสองที

     

    ยุนฮยองรักทุกอย่างที่เขาเป็นและเขาเองก็รักทุกอย่างที่ยุนฮยองมอบให้เช่นกัน

                                          

                ผมปัดเป๋สุดรักถูกปัดโดยคนข้างตัว ถูกจูบตรงหน้าผาก ถูกจูบตรงสองตาที่เขาหลับลงอย่างรู้งาน ไล่มายังตรงจมูกทำให้เขาหัวเราะเล็กน้อยด้วยความจั๊กจี้ สัมผัสอ่อนโยนตรงริมฝีปาก

     


    ...อบอุ่น เนินนานและแนบแน่น ก่อนร้อนขึ้นและร้อนขึ้นจนรู้สึกถึงเสียงหายใจหอบ...

     


    ผิวสีเหลืองออกแทนทั้งที่ไม่ได้ออกแดด กล้ามเนื้อตรงแขนและหน้าท้องสามารถเห็นได้ชัดจากปกติถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อผ้า ร่างกายถึงผอมแต่แข็งแรงรับรู้ได้ตอนกล้ามเนื้อเกรงตัว มือสากแบบชายหนุ่มสัมผัสไล่ไปตามร่างกายของเขาจนแทบรู้สึกละลาย แต่ไม่เท่ากับสัมผัสจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดง

     


    น้ำเสียงใจดีเวลาปกติแต่ตอนนี้เสียงโทนกลางทุ้มต่ำลง

    น้ำเสียงปนเสียงหอบหายใจเรียกชื่อเขา

    ยามเสียงของเราประสานกันเพราะกว่าเพลงบางเพลงเสียอีก

      


     

    ...เรียกเขาอีก...

     



                ...สัมผัสเขาอีก...

      



    ...มากกว่านี้อีก...

     

      

    ดวงตาคู่โตมองเขาอย่างหลงใหล มือของอีกฝ่ายลูบไล้เขาอย่างทวิญหา มอบสัมผัสให้อย่างไม่หยุดหย่อน

     


    ...เข้ามาอีก...

     


    ...ลึกเข้ามาได้อีก...

      


    ...เสพย์ติดสัมผัสเหล่านี้ เท่าไรก็ไม่เคยพอ...

     


    ...สำหรับกูจุนฮเว ทุกสัมผัสและความรักที่ซงยุนฮยองมอบให้ไม่เคยพอสำหรับเขาสักที...

                .

                .

                .

                พรุ่งนี้พี่จะไปทำเรื่องย้ายนายออกจากหอ ไม่มีข้อแม้

     

    มือของยุนฮยองปัดผมตรงหน้าผากเขาออก เขาฟังยุนฮยองพูดโดยไม่คิดลืมตาขึ้น

     

    ไม่ต้องมาบ่นเรื่องไปรับไปส่งด้วย พี่เต็มใจ เพราะฉะนั้นทำตัวให้ติดต่อได้ด้วยหรือจะซื้อมือถืออีกเครื่องไว้เฉพาะพี่โทรหา งั้นพรุ่งนี้ไปย้ายของกันแต่เช้า และก็--

     

    เงียบเถอะ ผมจะนอน

     

    ดันตัวเองขึ้นจูบลงไปตรงริมฝีปากของยุนฮยองแล้วหันหลังหนีไปอีกฝั่งจนรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มกดมาตรงลุ่มผมของตัวเองก่อนถูกกระชับตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคนข้างตัว จุนฮเวยกยิ้มรับความอบอุ่นจากอีกฝ่ายเตรียมเข้าสู่โลกแห่งความฝัน

      

    ฝันดีจุนฮเว

     

     

    ...ยอมให้แล้วนะครั้งนี้ เพราะฉะนั้นต้องดูแลเขาดีๆ รักเขาให้มาก...

     

    ...มากขึ้น และ มากขึ้นด้วย...

     



    Talk: ในที่สุดก็ย้ายจากฝั่งฟิคต่อเรือมาจนหมดค่ะ รีไรต์แบบก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเท่าไรอยู่ดี ฮ่าๆๆๆๆๆ หลังจากนี้ฟิคเปื่อยก็จะอืดๆเรื่อยๆกันต่อไปค่ะ ไว้เจอกันเรื่องหน้านะคะ

     

    #ฟิคเปื่อย

     

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×