ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Ina]Judge Killer นักฆ่าผู้พิพากษา

    ลำดับตอนที่ #6 : >>Chapter 2 : Innocent Killer

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 55


    กลับมาแล้วครับ ^^
     
    ‘เสร็จแล้วหรอ... รู้สึกว่ารอบนี้นายกลับมาเร็วนะ’
     
    เอาน่า ๆ ผมกลับมาก็ดีแล้วนะครับ


     
     
    ตอนนี้กลุ่มเราก็เหลือกันแค่ 4 คนแล้วก็น่าเบื่อนะครับ U__U
     
    ‘ไม่หรอก... เดี๋ยวเหลือ 3 คน’
     
    ทำไมหล่ะ
     
    ‘อีกสองวันนายต้องไปทำภารกิจ...   ที่รัสเซีย’

     
     
    Chapter 2 : Innocent Killer
     
         วันต่อมา...

    ณ ประเทศรัสเซียที่นครเซนปีเตอร์สเบิร์ก

    ตอนนี้ผมกำลังเดินตามทางในนครเซนปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียโดยมีแผนที่กับข้อมูลในภารกิจนี้อยู่ในมือของผม...

    เป้าหมายที่ผู้กำกับคาดการณ์ไว้มี


    หนึ่ง... อดีตผู้จัดการมหาวิทยาลัยมอสโคว์... พรีโซเกอร์ ไอริส ผู้มีอิทธิพลต่อการเมืองในระดับต้น ๆ ของรัสเซียเลยก็ว่าได้


    สอง... เจ้าชายมาโกล โคลโกรุก ทายาทรุ่นที่ 6 ของ เจ้าชาบยูริ โคลโกรุกประทับอยู่ที่พระราชวังเครมลิน(หลังที่ 2  - -^)ผู้เป็นเจ้าขององค์มืดในรัสเซีย


    และสาม... ลีโอน่า ยูกิน นักฆ่ารับจ้างที่ได้เงินมาแล้วจะฆ่าผู้ว่าจ้างหลังทำภารกิจเสร็จ...

    ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย... ว่าจะทำยังไงดี...


    “โห!!!! แพนเค้กแบบรัสเซีย!!! ซื้อไปกินดีกว่านะ ฮันดะ อาสึยะ ><”ก็ลูกน้องของผมเอาแต่พูดแต่เรื่องกินจนผมไม่มีสมาธิเลย - -^

    “กีต้าร์ 7 สายนิ!! *0*ซื้อดีกว่าเนอะแมกส์”

    “จัดไป!... ฮันดะ!!! กระป๋องไข่ปลาคาเวียร์ลดราคา!!!”

    “จริงด้วย!! ซื้อไปตุนกัน ><”ทำไมเรื่องพวกนี้เจ้าพวกนี้ประสานงานได้ดีจริง ๆ - -^

    “อาสึยะ!!! เอาอะไรป่าว”

    “ไม่เอา...”

    “เอาน่า >< นั่นมันของลดราคาไปซื้อเถอะนะ ^^”

    “นี่พวกแกมาซื้อของหรือทำภารกิจฟร่ะเนี่ย!!!!”

    “ไจย!!!!! =[    ]=;;;”และแล้วไอ้ลูกน้องสองตัวก็นั่งกลัวตัวหดกอดกันกับการตะหวาดของผม... ผมหล่พหน่ายจริง ๆ - -^

    “ไม่เอาน่าอาสึนะ... รัสเซียเชียวนะ... สุดยอดแดนหมีขาว *0*”แมกส์เริ่มบรรยาย(แก้ตัว)

    “แต่เรามาทำภารกิจ - -^”ผมค้าน

    “งั้นอาสึยะก็ไปสิเดี๋ยวพวกเรานอที่นี่นะ ^^”ฮันดะเสนอ

    “อืม... นั่นสินะ ^__^”

    “ใช่ไหมหล่ะ *0*”

    “^___^”

    “*0*”

    “^___^”

    “*__*”

    “^___^”

    “=___=;;”

     

    ป้าบบบบบ บ บ!!!!


    “จ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

    “พวกแกเป็นลูกน้องฉันนะเฟ้ย!!!! มีสิทธิ์สั่งฉันหรือไง”ผมตะโตนใส่เจ้าพวกลูกน้องเฮงซวยหลังจากที่ถีบและกระทืบอย่างสะใจก่อนจะปล่อยพวกมันแล้วตีจากไปอย่างไม่สนใจ


    เซ็งโว้ย!!!! ถ้าไม่เห็นแกฝีมือฉันไม่พาพวกมันมาหรอกเฟ้ย!!!!! ไอ้ลูกน้องเฮงซวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เฮงซวย!! = =^


    “อาสึยะ!!!!! รอด้วย ><”นั่นไง - -^ พวกมันตามมาง้อผมจนได้ - -^
     


    เวลาต่อมา...


    “ใครมีไอเดียจัดการเรื่องนี้บ้าง”ผมหันไปถามแมกส์และฮันดะพร้อมกับชูกระดาษข้อมูลที่ได้จากผู้กำกับ

    “อืม... ตั้งสามที่เชียว... ไปไงดี”ฮันดะคุยกับผมเบา ๆ

    “อืม... งั้นให้ไปประจำแต่ละที่ก็สิ้นเรื่อง ^^”แมกส์เสนอ

    “แมกส์...”

    “?”

    “ในที่สุดฉันก็เห็นนายมีประโยชน์ก็วันนี้แหล่ะ TwT”

    “เอ่อ... ที่ผ่านมาฉันไม่มีประโยชน์เลยหรือไงอาสึยะ!!?”แมกส์ร้องอย่างโวยวายก่อนที่ผมจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ อิอิ

    “งั้นโอน้อยออกกัน...”

    “1”

    “2”

    “ซัม!!!”




    ..

    .

     

    บทสรุปคือ... ฮันดะ... ไปคุมผู้จัดการ แมกส์...นักฆ่ารับจ้าง... และผม... องค์ชายนั่นหล่ะนะ - -^


    “มีอะไรก็โทรมานะ”

    “อืม”


    หลังจากนั้นพวกผมสามคนก็แยกทางกัน
     


    ผมเดินตามทางในเมืองเซนปีเตอร์สเบิร์กจนมาถึงสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงกับตัวปราสาทขององค์ชายที่สุด... ขอยอมรับว่าเป็นปราสาทที่สวยงามไม่แพ้ของจริงทั้งสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง...

    หลังจากที่ไม่มีอะไรทำผมจึงล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบช็อกโกแลตขึ้นมากินแก้เบื่อ

    ไวท์ช็อคโกแลตเป็นอะไรที่อร่อยสุด ๆ ไปเลย *0* รสชาติหวาน ๆ... จืด ๆ... ละมุนลิ้นแถมยังเป็นไส้โอริโอ้อีก... ของชอบสุด ๆ ไปเลย ><! จะว่าไปนะ... มันทำให้นึกถึงตอนนั้น...

    ตอนเด็ก ๆ ที่พี่ชายชอบมาแย่งกินครีมแล้วเหลือแป้งดำ ๆ ไว้ให้ผมกิน


    ...

    ..

    .

     

    ‘อับ... พี่ชิโร่!!! เหลือแป้งให้ผมอีกแล้วนะ’

    ‘ก็พี่ไม่ชอบนิ...’

    ‘แต่ก็เหลือให้หน่อยสิ =m=;’

    ‘(หัวเราะ)งั้นที่เหลือของน้องแล้วกัน ^^’

    ‘เย้! ขอบคุณครับ’

     

    ภาพตอนเด็ก ๆ เข้ามาในหัวผมเลื่อย ๆ... ภาพผู้ชายผมสีไวโอเล็ตที่กำลังยิ้มอ่อน ๆ ให้ผม... การกระทำที่ดีต่อผม... อยากเจออีกจัง... พี่ชิโร่...

    พรึ่บ!

    ไอ้หยา!! กระเป๋าตก = =; ให้ตายสิ... ทำไมต้องมาทำตกด้วยนะ


    ผมจึงลุกขึ้นก้มลงมาหยิบของที่กระจัดกระจายไปรอบ ๆ เก้าอี้ที่ผมนั่ง... เฮ้อ... เซ็งจริง ๆ

    “Ябудудержать.(ฉันช่วยเก็บนะ)”จู่ ๆ ก็มีเสียงใครบางคนพูดภาษารัสเซีย(นับว่าโชคดีที่ผมเรียนภาษานี้มาแล้ว)แล้วช่วยผมเก็บของอย่างรวดเร็ว

    “Спасибо.(ขอบคุณ)”ผมบอกกลับไปเป็นภาษารัสเซียก่อนจะมองเจ้าตัวก่อนนะเงียบไป...

    คนตรงหน้าผมเป็นผู้ชายใส่หมวกไหมพรมสีขาวปิดหน้าปิดตาสุด ๆ แถมตอนนั้นแสงสะท้อนพอดีจึงไม่เห็นหน้าเจ้านั่นชัดเจนเท่าไรแต่ใส่ผ้าพันคอสีขาวไหมพรมและมีกลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศสอ่อน ๆ ใส่เสื้อแขนยาวแจ็กเก็ตสีขาวมีขนเฟอร์สีเทาเล็กน้อยและใส่ถุงมือสีดำและกำลังยิ้มให้ผม


    ทำไมกันนะ... รอยยิ้มนั้น... ถึงอบอุ่นจัง... แถมคุ้นเคยอีกต่างหาก

    ตอนนี้ผมเหมือนลืมทุก ๆ สิ่งที่อยู่รอบตัวผม ขนาดความเหน็บหนาวของหิมะยังไม่ทำให้ผมรู้สึกหนาวเลยสักนิดทำไมกันนะ...

    “Этойзимой? Ядалеймойшарфнехолодно.(หนาวไหม? ฉันให้ผ้าพันคอกับนายแล้วกัน...จะได้ไม่หนาว)”หลังจากนั้นเขาก็แกะผ้าพันคอสีขาวของตัวเองออกมาแล้วพันให้ผมอย่างอ่อนโยน

    “Онвыглядиточеньзнакомо ... дляменя.(หน้าตานายคุ้น ๆ จังเลย... ไปก่อนหล่ะ)”หลังจากนั้นเขาก็ลุกและตีจากผมออกไปแล้วตอนที่หมุนตัวนั้นเองทำให้ผมเห็นผมสีเทาไวโอเล็ตเล็ก ๆ ก่อนที่จะไม่เห็นอีก... ทำไมกันนะ... คุ้น ๆ จังเลย...


    ผมจึงก้มมองผ้าพันคอตัวเองแล้วแตะมันเบา ๆ...

    ผ้าพันคอนี้... เนื้อผ้าแบบนี้...

    เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ...

    ผมได้แต่มองและเงยหน้ามองท้องฝ้าที่ตอนนี้เป็นสีเทาและมีหิมะปุยขาว ๆ ลอยลงมาจนผมไม่รู้ว่าตอนนี้เวลามันผ่านล่วงเลยไปเท่าไรแล้ว

    กริ้ง!!

    จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นผมจึงล้วงกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับทันที


    “ฮัลโหล?”ผมกลับมาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง

    (อาสึยะ!! ตอนนี้ฉันเจอคนน่าสงสัยกำลังตามไปอยู่ ช่วยมาที่มหาลับมอสโคว์ได้มะ)เสียงฮันดะดังขึ้นทำให้ผมมีสติอย่างรวดเร็ว

    “เดี๋ยวฉันตามไปถ้าได้ที่หมายที่แน่นอนโทรมาบอกฉันแล้วฉันจะตามไป”หลังจากนั้นผมก็วางสายแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว...

    มาแล้วสินะ...

    ...

    ..

    .

     

    ณ มหาวิทยาลับมอสโคว์

    ผมวิ่งผ่านหมู่คนมากมายจนเข้ามาในตัวมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ... ตอนนี้ก็รอฮันดะโทรกลับมาเท่านั้น

    กริ้ง...

    พูดปุ้บมาปั้บเลยแหะ = =; ผมคิด


    หลังจากนั้นผมก็รับสายอย่างรวดเร็ว

    “ที่ไหน”

    (อาคารที่ 59 อยู่ทางซ้ายจากประตูทางเข้าออกไป 2 อาคาร)

    “โอเค”หลังจากนั้นผมก็วางสายและวิ่งไปตามที่ฮันดะบอกอย่างรวดเร็วจนมาถึงอาคารที่ 59 เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ผมคิดก่อนจะยืนหยุดพักก่อนจะมองหาฮันดะ...

    เจอแล้ว ผมคิด

    ผมจึงค่อย ๆ วิ่งไปอยู่ข้าง ๆ ฮันดะทันที


    “ไง...”

    “ชู่!!”

    “โทษที...”ผมรีบลดเสียงลงอย่างรวดเร็วแล้วมองภาพตรงหน้า... ก็ผมผู้ชายร่างเล็กใส่หมวกไหมพรมสีขาวที่มีขนเฟอร์สีเทาเล็กน้อยกับกางเกงสีเทายีน... นั่นมันคนเมื่อกี้นิ!? ทำไมถึงสัมผัสรังสีนักฆ่าไม่ได้นะ...

    และแล้วเจ้านั่นก็ล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบของบางอย่างออกมาแล้ว...


    ปัง!!

    ปะ... ปืน!? เพียงแวบเดียวกรอนประตูก็หักออกมาเพียงการยิงเพียงครั้งเดียว!? ตามที่ผู้กำกับบอกจริง ๆ... การยิงปืนของเกรย์แม่นยิ่งกว่ามือปืนในกลุ่มทหารอังกฤษ ผมคิด

    แล้วเจ้านั่นก็ผลักประตูออกไปแล้ววิ่งเข้าไปทำให้เผยเห็นผมสีเทาไวโอเล็ตอย่างชัดเจน... มิน่าหล่ะทำไมคุ้น ๆ... เจ้านั่นคือ


    เกรย์ ไอรอล!!!


    “นายดักที่ห้องไอริสจากบันไดฉุกเฉินส่วนฉันจะไล่ตามไปเอง”ผมสั่งฮันดะก่อนจะวิ่งออกไปทันที

    “ไม่ต้องบอกฉันก็ทำตามอยู่แล้ว”



    ผมวิ่งตามเกรย์ไปอย่างรวดเร็ว... อะไรกัน... ผมว่าผมเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุดในกลุ่มตำรวจที่เก่ง ๆ แล้วนะ... ทำไมยังไล่ตามเจ้านี่ไม่ได้... ดูท่าจะเก่งจริง ๆ นั้นแหล่ะนะ...

    เพื่อความมั่นใจของผมผมจึงหยิบเครื่องมือตามกลิ่นคนร้ายเพื่อความแน่ใจว่าเหมือนกับผ้าพันคอที่ผมมีอยู่... จริง ๆ ด้วย

    และแล้วเกรย์ก็หยุดวิ่งแล้วยิงใส่กรอนประตูทันทีซึ่งเป็นตอนที่ผมวิ่งตามมาทันพอดี

    “Stop right now!(หยุดเดี๋ยวนี้!!)”ผมสั่งเกรย์เป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับจ่อปืนคู่ของผมไปทางเกรย์พร้อมกับเกรย์หันมามองผมพร้อมกับยิ้มอ่อนโยนให้ผมก่อนจะขยับปากพูดว่า

    “No.(ไม่)”

    ปัง!!

    เพียงแวบเดียวเจ้านั่นก็ควักปืนมายิงใส่ผมทำให้ผมต้องหมอบลงกับพื้นอย่างรวดเร็วทำให้เจ้านยั่นใช้เวลาตอนที่ผมจะลุกขึ้นมามองเข้าห้องไป

    ปัง!

    ปัง!

    ผมจึงรีบวิ่งเข้าดูก็พบว่าฮันดะคว้าตัวผู้จัดการไว้และหลบตรงโต๊ะโดยมีเกรย์หลบอยู่ตรงโซฟา

    “Являетсястатическим.(อยู่นิ่ง ๆ นะครับ)”ฮันดะบอกผู้จัดการก่อนจะยิงใส่เกรย์และเกรย์ยิ่งใส่ฮันดะอย่างรวดเร็วส่วนผมก็เริ่มวิ่งเข้าไปแล้วยิงใส่เกรย์ทันที

    ปัง!

    “Arr !? (อรั่ก!?)”สิ้นเสียงปืนเกรย์ก็เอามือจับบาดแผลที่โดนที่หัวเข่าของตัวเองก่อนจะมองมาทางผมแล้วจ่อปืนมา

    “ระวังอาสึยะ!?”

    ปัง!

    หลังจากนั้นผมก็หมอบลงกับพื้นก่อนจะเผลอเอาตัวไปกระแทกกับโต๊ะอย่างจัง ชิ! เจ็บแขน...

    ตอนนั้นเองที่เกรย์ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปทางฮันดะก่อนจะยิงไปทางขาโต๊ะก่อนที่โต๊ะจะเซลงมาทับฮันดะทำให้ฮันดะขยับตัวไม่ได้ทำให้เกรย์เข้าหาตัวผู้จัดการได้ง่ายขึ้น

    “Не ... Непоймитеменя.(อย่า... อย่าเข้ามานะ)”เธอขู่ก่อนจะคว้าเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ ขว้างใส่เกรย์แต่เกรย์ก็รับไว้ก่อนจะเขวี้ยงเก้าอี้ออกไปแล้วจ่อปืนมาที่ผู้จัดการ

    “Au revoir(ลาก่อน)”

    ปัง!!!!

    “กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!”สิ้นเสียงภาษาฝรั่งเศสของเกรย์ร่างผู้จัดการก็ล้มลงพร้อมกับเลือดที่ไหลอาบร่างของเธอ... ถึงโต๊ะจะบังร่างของเธออยู่ที่จากสายตาผมผมเดาได้เลยว่า... เจ้านั่นยิงศีรษะเธอแน่นอน

    พอยิงเสร็จเจ้านั่นก็ยิงปืนใส่กรอนหน้าต่างแล้วปีนขึ้นไปแล้วกระโดดออกไปทันที

    ผมจึงรีบยันตัวขึ้นแล้ววิ่งไปมองหน้าต่างทันทีก็พบว่าเจ้านั่นกระโดดร่มลงไปก่อนจะวิ่งออกไปทันที... ชิ! เก่งอะไรอย่างนี้

    หลังจากนั้นผมจึงหันมายกเก้าอี้ที่ทับฮันดะขึ้นอย่างรวดเร็วและพยุงฮันดะขึ้นมา

    “เป็นอะไรมะ?”ผมถาม

    “เจ้านั่นเก่งจริง ๆ...”ฮันดะบ่นก่อนจะมองภาพที่เจ้านั่นเป็นคนทำทั้งหมด...

    ห้องเละไม่เป็นท่าและสภาพศพอันสยองที่เห็นได้เลยว่าสมองของเธอไหลออกมาจากหัว
     


    เวลาต่อมา...

    หลังจากนั้นผมก็ใช้เครื่องตามจับกลิ่นน้ำหอมของเกรย์โดยมีฮันดะตามหลังมาติด ๆ

    “ไหวป่าว ฮันดะ”ผมถามออกไปเพราะตอนโดนทับเมื่อกี้มันทับขาฮันดะพอดี

    “ไม่หรอก... สบายดี ^^ ว่าแต่ซื้อผ้าพันคอจากไหนน่ะ... สวยจัง ^^”ฮันดะเปลี่ยนเรื่องมาถามผมอย่างรวดเร็ว

    “เหอะ ๆ... คือ... มีคนให้มาน่ะ”หลังจากนั้นผมก็หยุดการสนทนาแล้ววิ่งไปจนมาถึงที่ที่หมายที่ผมตามมา... สวนสาธารณะ ฟรอดลิ่ง

    ปัง!!!

    และแล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นทำให้ผมรีบวิ่งตามต้นเสียงจนพบแมกส์นั่งหลบอยู่กับพื้นตรงต้นไม้อย่างเหนื่อยหน่ายโดยมีผู้หญิงผมสีขาวเจ้าของดวงตาสีส้มกำลังยิงใส่ใครบางคนที่หลบอยู่ตรงต้นไม้ฝั่งตรงกันข้าม

    “แมกส์!?”>>>ฮันดะ

    “พะ... พวกนาย!?”แมกส์ร้องเสียงหลงอย่างตกใจก่อนจะเริ่มยิงกลับไปแล้วกลับมามองพวกผมต่อทันที

    “มาได้ไง !?”

    “เมื่อกี้ปะทะกับเกรย์มา... ช่วยผู้จัดการไม่ได้... มันเก่ง”ผมอธิบายออกไปก่อนเริ่มยิงกลับไปอย่างรวดเร็ว

    ปังๆๆๆ!

    หลังจากนั้นผมก็เข้ามาหลบอย่างรวดเร็ว

    “เจ้านั่นมันยิงเก่งสุด ๆ = =;”แมกส์บ่น

    “you have just shooted because you talk together!.(เอาแต่คุยเดี๋ยวโดนยิงหรอก)”ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเย็นชาเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะยิงกลับไปอย่างดุดัน

    “ใครน่ะแมกส์?”ฮันดะถาม

    “ยูกินไง... เธอพูดภาษาอังกฤษได้เลยพอเข้าใจกันหน่อย”แมกส์พูดก่อนจะยิงกลับไปบ้าง... ลืมไป... เจ้านี่มันพูดภาษารัสเซียไม่เป็น - -^(ความจริงคืออ่อนภาษามากๆๆๆๆๆๆๆๆ)

    ปัง!

    “Ar!!!”จู่ ๆ ยูกินก็โดนยิงที่ขาจนเลือดไหลออกมาไม่หยุด

    “Yukin!? (ยูกิน!?)”แมกส์ทักก่อนจะวิ่งไปพยุงยูกินขึ้นมา...

    “โธ่เว้ย!!”ผมโวยวายลุกขึ้นมายิงก็พบว่าเจ้านั่นก็ทำแบบผมเหมือนกัน

    ปัง!!

    ปัง!!

    ผมและเกรย์ยิงพร้อมกันพร้อมกับหมอบพร้อมกันแต่ความเจ็บปวดจากแขนของผมกำเริบทำให้ผมทรุดลงกับพื้นไปทำให้เกรย์เริ่มวิ่งเข้ามาตรงช่องโหว่ของผม

    “อาสึยะ!?”ฮันดะตะโกนออกมาก่อนจะยิงใส่เกรย์แต่...

    ปัง!

    “อร๊ากกกกกก!”

    “ฮันดะ!?”ผมร้องออกมาอย่างตกใจก่อนจะมองภาพที่เกิดขึ้น

    ร่างของฮันดะค่อน ๆ เซล้มลงมาพร้อมกับทรุดลงกับพื้นพร้อมงอตัวเอามือทั้งสองข้างจับท้องของตัวเองที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

    “ฮันดะ!!!!!”มาสึโนะร้องอย่างตกใจก่อนนะมองภาพตรงหน้าก็พบกับร่างของเกรย์ยืนประจันหน้าตัวเองอยู่

    “Si triste ... Mais c'est bye-bye.(น่าเศร้าจัง... แต่ก็ลาก่อน)”เจ้านั่นพูดออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศสก่อนจะจ่อปืนตั้งท่ายิงใส่แมกส์และยูกิน

    ตอนนั้นเองที่แมกส์ผลักยูกินให้กระเด็นออกไปแล้ว...

    ปัง!

    กระสุนก็โดนไหล่ซ้ายของแมกส์อย่างจังจนทะลุไหลของแมกส์ไป

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!”

    “Max!?(แมกส์!?)”ยูกินร้องอย่างตกใจก่อนนะเงยหน้าเจอปืนกำลังจ่อหน้าผากของตัวเอง...

    “Huh…”

    ปัง!

    สิ้นเสียงปืนยูกินก็ค่อย ๆ หงายลงไปกับพื้นพร้อมกับของเหลวสีแดงที่ไหลทะลักออกมาไม่มีหยุด... ชิ... เราทำอะไร... ไม่ได้เลย

    หลังจากนั้นเกรย์ก็เดินออกไปทันที...


    “ชิ!”ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วรีบพยุงฮันดะขึ้น

    “ฮันดะ! ฮันดะ! ไม่เป็นไรนะ!?”ผมถามอย่างร้อนรน

    “แค่ก ๆ... มะ... ไม่เป็นอะไร”ฮันดะพูดอย่างเหนื่อยอ่อน...

    “ฉันก็... ไม่เป็นอะไร...”

    “แมกส์”สิ้นเสียงผมก็หันไปมองแมกส์ที่ตอนนี้เอามือปิดบาดแผลที่ไหล่อย่างเจ็บปวด...

    “พวกแกกลับไปที่โรงพยาบาลเถอะ... ฉันไปคนเดียวดีกว่า”

    “อาสึยะ!! แต่พวกเราสามคนไม่สิ... สี่คนยังเอาเจ้านั่นไม่อยู่เลยนะ!?”แมกส์ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น

    “เชื่อใจฉันเถอะนะ!”

    “อาสึยะ...”

    “ฟุบุคิ อาสึยะท่านนี้... ไม่ตายง่าย ๆ หรอก อิอิ”ผมพูดก่อนจะยิ้มอย่างเริงร่าทำเอาแมกส์หน้าเหวอไปชั่วขณะ... ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

    “ฝากด้วยนะ”

    “อยู่แล้ว”



    ...

    ..

    .

     
    หลังจากนั้นผมก็ตามหาเกรย์ต่อไปจนมาถึงที่หมายของมัน... ปราสาทของเจ้าชายที่ผมไปคุมตอนนั้น... เจ้านั่นคิดจะฆ่าให้หมดหรือไง = =; ผมคิด

    ปังๆๆๆๆ!

    “Arrrrrrrrrr!!!!”และแล้วผมก็ได้ยินเสียงปืนพร้อมกับเสียงร้องอย่างเต็บปวดผมจึงรีบวิ่งเข้ามาในตัวปราสาทก็พบร่างผู้ชายใส่ชุดสูทเกือบ 20 คน นอนจมกองเลือดจนกลายเป็นทะเลสีเลือดโดยมีร่างผู้ชายผมสีไวโอเล็ตเทายืนท่ามกลางสิ่งหล่าวนั้น

    “Hmm? Les gens que j'ai rencontrés dans un parc autour d'ici.(หืม? นายคนที่ฉันเจอที่สวนสาธารณะแถว ๆ นี้นิ)”เกรย์ถามผมเป็นภาษาฝรั่งเศส... ขอยกย่องความไร้เดียงสาให้เขาที่หนึ่งตลอดกาล - -^ ผมคิด

    “Ouais ... Alors je renonce! Gray.(ใช่... เพราะงั้นนายยอมแพ้สัก! เกรย์)”ผมบอกกลับไปเป็นภาษาฝรั่งเศสก่อนจะเห็นรอยยิ้มของเกรย์ก่อนจะขยับพูดว่า

    “Ne pas(ไม่)”

    ปัง!!!

    หลังจากนั้นเกรย์ก็ยิงใส่ผมพร้อมกับผมหมอบหลบไปอีกทางแล้วยิงปืนใส่เกรย์ทันที

    ปัง!!

    แต่ก็พลาดเพราะการหลบหลีกของเกรย์แล้วเกรย์ก็วิ่งเข้าไปในตัวปราสาทอีกครั้ง

    “ชิ!”ผมสบถก่อนจะใช้เครื่องตามกลิ่นแล้วตามเกรย์ไป

    ผมวิ่งตามไปเลื่อย ๆ พร้อมกับความเจ็บปวดที่ผ่านซ่านตามแขนของผมอย่างทรมานจนมาถึงห้องจุดหมายปลายทางพร้อมกับ...

    ปัง!!

    “Arrrrrrrrrrr!!!!”เสียงปืนและเสียงกรีดร้องของคนที่ถูกยิง

    ผมจึงวิ่งเข้าไปพร้อมกับภาพเกรย์จ่อปืนกับร่างที่ถูกยิงและมีของเหลวสีแดงไหลรินออกมาก่อนที่เกรย์จะใช้สายตาของตัวเองมองมาทางผมอย่างรู้ทัน

    “Maintenant ... c'est juste moi et me dit.(ทีนี้... ก็เหลือฉันและนาย)”เกรย์พูดก่อนจะจ่อปืนมาทางผมและปมก็จ่อปืนมาทางเกรย์เช่นกัน

    “Qui sont les ... J'ai fait un bon.(นายเป็นใครกัน... ทำไมฝีมือถึงดีอย่างนี้)”เกรย์ถาม

    “Je viens de ... n'était pas le seul! Alors il n'est pas sûr! Gray.(ฉันก็แค่... ตำรวจธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น! แล้วนายเป็นใครกันแน่! เกรย์)”ทีนี้ผมถามกลับไปบ้าง

    ตอนนั้นเองเกรย์หัวเราะออกมาจากลำคอก่อนจะเอ่ยปากออกมาว่า

    “Je sais déjà ... C'est tueur.(นายรู้อยู่แล้ว... ก็นักฆ่า)”



     

    ปัง!!

    ปัง!!!!

    +❥ Free theme mouse. naru 



    จากผู้แต่ง :

    แฮ่ก ๆ   ๆ   ๆ เหนื่อย = =;;; รีบพิมพ์จนมือหงิกไปแล้วอร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก เยอะจริง ๆ แถมต้องมาเสียเวลาแปลภาษาด้วย สุดยอดของความเหนื่อยเลย - -^... ตอนนี้จะโดนแบนไหมหว่า(แอบคิดเพราะยิงกันเยอะมาก)ก็ถือว่าเป็นการขอร้องนะคะ... เรื่องนี้เราจงใจเอาไว้ให้ข้อคิดของชีวิตคนไว้ตอนท้ายค่ะ... ก็อย่าแบนเลยนะคะ สงสัยคนแต่งหน่อย กว่าคนแต่งจะคิดแต่ละฉากกินเวลาไป 2 -3 เดือนนะค่ะ กว่าจะเขียนและไหนนะเรียบเรียงคำอีก... ก็ขอความกรุณาด้วยคะ

    <<< กลับ Home page
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×