서울

ลำดับตอนที่ #45 : -บันทึกพิเศษ EXO Press Conference [140912]-

-บันทึกพิเศษ EXO Press Conference [140912]-

สวัสดีค่ะ นักอ่านที่น่ารักทุกคน อย่างที่ EXO-L ทุกกคนทราบกันดีว่าเมื่อวานนี้ (20140912) เป็นวันที่ EXO เดินทางมายังประเทศไทยและได้มางานแถลง ณ ลานพาร์คพารากอน เราเป็นคนหนึ่งที่ได้มีประสบการณ์ร่วมด้วยในจุดนั้น เลยอยากมาเขียนบันทึกพิเศษ เล่าประสบการณ์ที่เป็น “ความทรงจำดีๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต” ให้กับทุกคน ทั้งคนที่ได้ไปรอรับหนุ่มๆ และคนที่ไม่ได้ไปรับ หวังว่าเนื้อหาที่นำมาลงจะทำให้แฟนคลับทุกคนมีความสุขไม่มากก็น้อยนะคะ…

 

            11 กันยายน 57 เวลาประมาณสามทุ่มได้...

            จำได้ว่าทั้งคืนตื่นเต้นมาก เตรียของแล้วเตรียมของอีก ย้ายของที่เตรียมไว้จากกระเป๋าใบเล็ก เป็นกระเป๋าใบใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม คิดไว้สารพันร้อยแปดว่าควรจะเอาอะไรไปบ้าง เห็นภาพจากอินเทอร์เน็ตว่ามีคนไปรอตั้งแต่คืนนี้และเอาเก้าอี้แบบพับไปด้วย แต่บ้านเรามีแต่เก้าอี้ซักผ้าพลาสติกพับไม่ได้ ขืนเอาใส่เป้ไปคงกลายเป็นกระดองเต่าแน่ๆ เลยตัดสินใจไม่เอาไปดีกว่า ตัดสินใจลองเสี่ยงวันพรุ่งนี้ไปหาซื้อเก้าอี้พับละกัน (แต่สุดท้ายก็ไม่มีขาย)

ของที่ใส่ลงกระเป๋าไปก็มีของใช้ส่วนตัวจำพวกโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ หูฟังและไอพอด (กะจะเอาไว้ฟังแก้เบื่อ) หนังสือวิชาพระพุทธศาสนาที่กำลังจะสอบในวันจันทร์เล่มบางที่สุดในบรรดาวิชาที่จะสอบ (สุดท้ายก็ไม่มีกะจิตกะใจจะอ่าน) สายชาร์จแบต (ที่สุดท้ายก็ไม่ได้ชาร์ต) ขนมบางส่วน (อีกส่วนอยู่ในถุงเซเว่น) และที่สำคัญ... “หมอน” ใช่แล้วค่ะฟังไม่ผิดแน่ๆ ไม่ได้ตั้งใจเอาไปนอนพักค้างแรมที่ไหนนะคะ แต่เอาไปกันกระแทกนั่นเอง ㅋㅋㅋㅋㅋ สารภาพตามตรงเลยค่ะว่าไม่เคยไปต้อนรับศิลปินเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ เลยคิดไปสารพัดว่าจะโดนเบียดรุนแรงขนาดไหน แล้วเราก็มีปัญหาปวดหลังกับปวดขาเล็กน้อยด้วย (แอบคล้ายคนแก่เลย ทั้งๆ ที่ยังไม่แตะเลขสอง 하하하)

พอจัดของเป็นอันเสร็จเรียบร้อยก็ขอให้ขุ่นแม่ตุนเสบียงไว้ให้ในตอนเช้าด้วย ขุ่นแม่ก็จัดมาเลยค่ะ อิอิ แล้วก็เข้านอน ก่อนนอนขอพรคุณพระคุณเจ้าที่เคารพ “ขอให้ลูกช้างได้เห็น EXO ใกล้ๆ ด้วยนะคะ” ตอนนั้นไม่อยากคาดหวังอะไรมากมาย เพราะคิดว่าคงเป็นไปได้ยาก เพราะมีคนไปรอกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สุดท้ายก็คิดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น “คนที่เขาไปนอนไม่โดนยามไล่หรือ” “แต่ไปถึงเขาคงจะยังกั้นไม่ให้ไปนั่งมั้ง เพราะมันขวางทางเดินคนอื่น” นานาบลาๆ ก่อนจะหลับไปค่ะ...
 

12 กันยายน 57

“คุณพระ! สมาคมม็อบลูกจ้างจากหนังเรื่อง CART รึเปล่า”

เวลา 07.00 น.

คุณแม่ที่รักหอบขนมและเสบียงประหนึ่งลูกจะไปออกรบในดินแดนทุรกันดาร มีข้าวกล่องสองกล่องและขนมอีกประมาณ 6-7 อย่าง และน้ำขวดขนาดราคา 9 บาท อีกสองขวด จะบอกว่าบ้านนี้มีเรื่องตลกอยู่อย่างหนึ่งคือ เราเป็นคนที่ดื่มน้ำวันหนึ่งเยอะมาก ครึ่งเช้าหมดไปขวดหนึ่ง ครึ่งบ่ายหมดไปอีกขวดหนึ่งแต่กลับเข้าห้องน้ำน้อยมาก ส่วนน้องสาวเรานี่ตรงข้ามเลย เพราะนางดื่มน้ำน้อยมากแทบนับครั้งได้ น้ำสองขวดจึงเพียงพอสำหรับเราสองคน ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ก่อนอื่นก็จัดแจงเสบียงให้เข้าที่ บางอย่างที่กินจนเบื่อก็ไม่เอาไป ก็ช่วยผ่อนความหนักไปได้บ้าง มีการเปลี่ยนขนาดหมอนให้เล็กลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้ดูใหญ่เกินหน้าเกินตา และก็พกยาดมจากขุ่นแม่ที่รักและพัดลมกำลังมือไปด้วย จัดของเสร็จเรียบร้อย ก็เหลือเพียงแต่รอเวลาน้องสาวเลิกเรียนเท่านั้น

            เวลา 11.30 น. หลายชั่วโมงผ่านไป

            หลังจากดูโชว์ของ EXO เอาฤกษ์เอาชัยระหว่างรอนาง พอถึงเวลาเราก็ไปรอรับน้องสาวที่โรงเรียน (น้องสาวแท้ๆ ของเราเอง ก็คือคนที่เราเคยบอกว่าจะไปเที่ยวแบกเป้ด้วยกันนี่แหละค่ะ) เอาตามตรงเราคิดว่าไปกันสองคนนี่เวิร์คสุดๆ เลย ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังด้วย ก่อนหน้านี้มีการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่มาก คิดแล้วก็ตลกตัวเองเหมือนกัน แต่มันรู้สึกอุ่นใจดีนะคะ

วันนี้น้องสาวเราเรียนเพียงครึ่งเช้าเท่านั้น ส่วนวิชาภาคบ่ายเป็นวิชาที่ไม่มีอะไรมากมาย คาดว่าน่าจะสอนครบปิดหลักสูตรเรียบร้อย ส่วนเรานั้นว่างทั้งวันเลยค่ะ ฝั่งเราก็รอน้องด้วยความใจร้อนเป็นอย่างมาก เพราะทราบข่าวจากหลายแหล่งว่า “มีคนไปรอที่ลานพารากอนตั้งแต่เมื่อวาน” คุณพระ! แล้วฉันไปถึงจะได้ที่ดีๆ หรือเนี่ย คงได้แต่ดูจอมอนิเตอร์ ถ้าไปสักประมาณแปดโมงเช้าก็อาจจะพอได้ที่หน้าๆ บ้าง ตอนนั้นยอมรับเลยว่าน้อยใจเล็กน้อย (แต่อยากให้อ่านกันให้จบนะคะ มีหักมุมแน่นอน เดี๊ยนจิไม่สปอย!) พอนางเลิกเรียนปุ๊บก็รีบขึ้นบีทีเอสมุ่งหน้าไปสยามทันที คุณแม่มีการกำชับด้วยว่า “อยากไปรบรากับใครนะ” สงสัยเห็นเราเป็นคนใจร้อนกระมัง (เอาเข้าจริงวันนั้นก็แอบมีหงุดหงิดเล็กน้อยนะคะ เล็กน้อยจริงๆ) 
 

เวลาประมาณ 12.00 น. (จนจบ)

พอถึงสถานีสยาม ก็รีบวิ่งเข้าลานพารากอนทันที เกือบออกประตูผิดเพราะความเคยชินที่มักจะออกทางไปเซ็นทรัลเวิรล์ โชคดีที่พกน้องสาวมาด้วย พอไปถึงลานพารากอนนี่แทบอยากจะร้องไห้ คนนั่งรอกันเต็มเลยค่ะบรรยากาศก็เหมือนกับภาพที่ทุกคนเห็นจากอินเทอร์เน็ตเป๊ะๆ เลย ร่มหลากสีกับกองทัพแฟนคลับ ทำให้เรารู้ว่าแฟนคลับ EXO นี่เยอะมาก อย่างที่คิดไว้จริงๆ เรากับน้องสาวก็ไปนั่งต่อหลังตรงที่ว่างๆ เห็นเวทีนิดเดียว แต่จากตรงนี้เห็นจอใหญ่ชัดเจน เราก็นั่งลงหลักปักฐาน สักพักก็กางร่มและกินขนมเล็กน้อย จุดเปลี่ยนจุดแรกก็เริ่มขึ้น! เมื่อเงยหน้าไปเห็นบางสิ่งบางอย่าง

เราหันไปพูดกับน้องสาวเบาๆ เพราะกลัวคนข้างๆ ได้ยิน เล่าให้น้องสาวฟังประมาณว่า เออเนี่ย เคยเห็นจากในคลิป ครั้งก่อนที่ EXO มาไทย ปี 2012 มีแฟนคลับไปนั่งรอกันตรงลานจอดรถตึกนู้น! น้องสาวเราก็มองไป บอกตามตรงเลยว่าจากตรงนี้มองไป ถ้าไม่ใช่แฟนคลับหรือติ่งเกาหลีจริง ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “จะบ้าหรอ ลานจอดรถเนี่ยนะ เขาไม่ให้ขึ้นกันหรอก” ไอ้เราก็เสริมต่อว่า แต่เห็นอย่างนี้ เชื่อไหมว่ามีคนหลบอยู่หลังกำแพง น้องสาวเราก็คิดประเมิณความคุ้มความเสี่ยง เราก็บอกต่อว่า “ถ้าออกจากตรงนี้ไป กลับมาไม่ได้ที่เดิมแน่ จะลองเสี่ยงดูไหม” คิดไปคิดมา ประเมิณสถานการณ์ มองจากมุมสูงเห็นจะเข้าท่ากว่า เลยค่อยๆ ลุกออกไปอย่างเนียนๆ ทำทีท่อปัสสาวะแตกกลั้นไม่อยู่พร้อมกัน (บังเอิ้ญบังเอิญ!) แล้วเดินไปทางสยามเซ็นเตอร์ทะลุสยามดิส

มีการหลงเล็กน้อย คิดว่าลานจอดรถอยู่ในสยามดิส แต่ความจริงมันมีทางขึ้นเนียนๆ อยู่อีกตึกหนึ่ง (ออกตัวก่อนเลยว่า คิดอยู่นานว่าจะบอกดีไหม แต่มาถึงตรงนี้ก็คงต้องบอก ขอย้ำเล็กน้อยว่า รู้แหล่งยืนแล้วก็ไม่ต้องแพร่หลายกันมากนะคะ เพราะถ้าวันหลังมาหมกตัวสุมหัวกันที่นี่ เดี๋ยวคราวหลังยามเขาจะไม่ให้ใช้สถานที่ไว้ติ่ง จะอดกันไปถึงโลกหน้า) ไอ้เราก็ขึ้นไปทีละชั้นทีละชั้น ตามคาดเป๊ะ! มีคนหลบอยู่หลังกำแพงจริงๆ ด้วยค่ะท่าน เทคนิคที่ได้เรียนรู้ คือ “ต้องก้มหัว” เนียนๆ มานั่งอย่าชะโงกหัวออกไปรับลมชมวิว โชว์ความเสล็ดเป็ดเรียกเหยื่อขึ้นมาเพิ่ม เข้าจั้ย! เราก็อยู่ตรงนั้นสักพัก และน้องสาวเราก็ขึ้นไปสำรวจชั้นบนๆ (แบ่งหน้าที่กันเป็นอย่างดี บอกแล้วสองคนเอาอยู่!) สักพักเราก็คุยกับเพื่อนใหม่ คือปริ่มมาก! ไม่คิดว่าจะเจอเมนดีโอถึงสองคน (คือสรุปแล้วเจอเมนดีโอเยอะมาก ดีใจกับน้องเป็นอย่างยิ่ง) สักพักก็มียามมาไล่ เขาบอกว่าห้ามยืนชิดกำแพง ห้ามยืน เขาไม่ให้ยืน มีเชือกสีแดงๆ กั้นไว้ แฟนคลับก็เฟลกันอย่างถ้วนหน้า ต่อมาน้องสาวก็ไลน์มาบอกว่า “ชั้น 7A คนน้อยมาก ขึ้นมาเงียบๆ อย่าให้ใครรู้” ขุ่นพระ! อย่างกับหนังไล่ล่าฆาตรกรโรคจิต ไอ้เราก็เนียนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ (ขอโทษพี่ๆ ที่อาจจะจำเราได้ด้วยนะคะ สถานการณ์มันพาไปจริงๆ) “สงสัยคงต้องไปรอที่เดิมแล้วอ่ะค่ะ (ลานพารากอน) แต่ถ้าพอเขามาถึง (EXO) ก็น่าจะเข้าไปดูใกล้ๆ ได้นะคะ” อวยพรให้กลุ่มคณะนั้นไปเป็นการไถ่บาปที่ไม่ยอมบอกความจริงไปว่า “ตูเจอที่ใหม่ คิคิ”

เราก็ขึ้นมาด้วยเสล่อมาก น้องสาวเราก็พูด “ก้มหัว ก้มหัว!” ไอ้เราก็ฟังไม่รู้เรื่อง เกือบโดนแฟนคลับคนอื่นที่นั่งรอตบไม่รู้ตัว ㅋㅋㅋㅋㅋสักพักก็ “อ๋อ” ให้ก้มหัวนั่นเอง แอบโดนน้องสาวดุไปเล็กน้อย จากตรงนี้ รู้สึกจะเป็นที่ที่เรามานั่งรอ EXO นานที่สุดแล้วมั้ง มียามอยู่คนหนึ่งก็ให้เรานั่งได้แต่ห้ามข้ามเส้นเชือกแดง (อีกล่ะ) ส่วนตรงที่เรานั่งไม่มีเชือกแดงกั้น แต่ตรงชั้นอื่นดันมี ฝั่งแฟนคลับก็นั่งรอเวลาไป บางคนก็สั่งพิซซ่ามากินด้วย คนส่งก็เก่งกาจยิ่งนักขึ้นมาส่งถูกเสียด้วย บางคนรวมถึงเราก็หยิบหนังสือมาอ่านสอบ แต่มันไม่มีกะจิตกะใจเลย รอจนประมาณถึงบ่ายสองได้กระมัง ก็มีพิธีกรมาพูดมีการเปิดเพลงของ EXO คิดว่าน่าจะเปิด MV ด้วยเพราะมีเสียงคนกรี๊ดตลอด บางคน (รวมทั้งเรา) ก็อดที่จะชะโงกหน้าไปดูไม่ได้ จำได้ว่าเสียงกรี๊ด เสียง Fanchant ดังมากจริงๆ ข้างบนก็ร้องตามกันไป ยังเฮฮาปาจิงโก๊ะอยู่ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็มีคนขึ้นมามากขึ้น แต่จุดแตกหักมันอยู่ตรงที่มียาม (อารมณ์ประมาณหัวหน้ายาม) ขี่รถคู่ใจมาไล่ที่ค่ะ ยามคนนี้ขึ้นมาไล่ที่ด้วยอารณ์โมโหอย่างกับคนหมดวัยประจำเดือนที่เพิ่งไปกินรังแตนมาสดๆ ร้อนๆ “นั่งไม่ได้ ยังไงก็นั่งไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่เอาเชือกมากั้นไว้หรอก” หน้าตาเคร่งเครียดประหนึ่ง พวกอิชั้นมาก่อม็อบ เราก็เข้าใจนะว่ากลัวเด็กพลัดตกลงไป แต่ก็นะ... เถียงไม่ออก! ยอมแพ้!

สักพักก็มีคนเอาเชือกแดงมากั้นเพิ่ม นั่นคือที่ที่อิชั้นนั่งอยู่นั่นเอง! มียามหรือใครสักคนถ่ายรูปพวกเราเก็บไว้ด้วย (โด่! แอบชอบเค้าอ่ะดิ) เรากับน้องสาวก็เดินออกมา แต่ยังไม่ถอดใจจากที่ตรงนี้ มีบางคนที่ถอดใจแล้วหายไปเลยก็มี สักพักยามก็เอาเก้าอี้เข้าไปนั่งในวงเชือกที่กั้น ไม่ให้ใครเข้าไป เราก็เลยตัดสินใจขอเดินลงไปดูชั้นอื่นๆ ละกัน เพราะถ้าเกิดพอถึงเวลาจริงแล้วยังไม่ให้เข้าไปดูข้างในเชือก ฉันกับน้องสาวก็เท่ากับว่ามาเสียเที่ยวน่ะสิ จะไม่ยอมเด็ดขาด! (แววตามุ่งมั่น ของคนที่ไม่ได้ไปคอนและอยากเจอ EXO)

เราเดินลงบันไดและแวะดูทุกชั้น ก็พบสภาพเดียวกันคือห้ามข้ามเชือกเข้ามา จนมาจ๊ะเอ๊กับชั้นหนึ่งเข้า นั่นคือ ‘3A’ บรรยากาศตอนนั้นมีเพียงแผงเหล็กสีดำกั้นไว้ อ้างว้างไร้ผู้คน อ้ะ! มีคนอยู่ด้วยหนิ มีอยู่สองคน (มองไม่เห็นจริงๆ หรือ) เป็นพี่นักศึกษาสาว เราก็คุยไปคุยมา เขาก็บอกว่า “เห็นยามบอกว่า ตรงนี้จะเป็นทางที่ EXO เดินออกมาจากรถ” ขุ่นพระ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เราก็ถามย้ำเขาอีก และพอมองออกไปก็เห็นว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูง เพราะเป็นชั้นที่เชื่อมระหว่างลานพารากอนกับลานจอดรถพอดี และเป็นบริเวณหลังเวทีด้วย ตอนนั้นคือรีบไลน์บอกน้องสาวทันที ถ่ายรูปให้ดูด้วยเป็นหลักฐานคอนเฟิร์ม จากรูปเรายืนหลังรั้วกั้นนะคะ (มือนี่สั้นหงิกๆ) คนโล่งเวอร์! ขณะพิมพ์มือก็เกาะรั้วไป ด้านหน้าสุดเลย น้องสาวเราลงมาช้าหน่อย คนเริ่มจะได้กลิ่นตุๆ จากชั้น 3A เลยมีคนมาเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังถือว่าน้อยอยู่ พอได้ที่เราก็ให้น้องสาวผู้มีส่วนสูงเพียงนิดเดียวอยู่หน้าเรา เพราะนางตัวเล็กอย่างกับเด็กประถม ไอ้ฉันมองตรงๆ หัวนางยังไม่บังหน้าเลยค่ะคุณขา หลังจากนั้นก็เกาะนางตลอดกลัวที่หายว่างั้นเถอะ รอไปราวสามชั่วโมง

จะบอกว่าระหว่างนั้นได้นั่งน้อยมาก นั่งก็นั่งไม่สะดวก คนก็แห่กันมาไม่รู้มาจากไหนกัน บางคนก็แอบเขยิบราวกั้นไปอย่างเนียนๆ ตอนยามเผลอ ฝั่งเราก็นิ่งๆ เงียบๆ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ จำได้ว่ามีพี่ยามอยู่สองคนคนหนึ่งอ้วนๆ ใส่ชุดสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นยามของห้างนั่นแหละค่ะ คือจะบอกว่าคุณยามคนนี้กวนมากและฮามาก คอยส่งข่าวให้เหล่าแฟนๆ ที่ยืนเบียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง อาวุธคู่ใจคือวิทยุสื่อสารสีแดงที่คอยส่งข่าวรถของหนุ่มๆ ว่าจะมากันเมื่อไร ระหว่างนั้นก็ชวนยามคุยกันตามประสาน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า มีแอบเต้นขำๆ ตอนเพลงของ EXO เปิดด้วย ส่วนพี่ยามอีกคนอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวเลยกระมัง แต่ไม่ใช่สูทนะคะอย่าเข้าใจผิด แม้แต่หมวกที่สวมก็สีดำ คนนี้ก็พูดว่า “โอ้ย เห็น (ดาราเกาหลี) จนเบื่อแล้ว” “ยอมรับนะว่า (ศิลปิน) หล่อจริง หน้าใส (ประมาณนี้)” แอบได้ยินแว่วๆ มาจากด้านหลังว่าคุ้นหน้าคุ้นตายามเสื้อดำ และบางคนก็บอกว่าจำหน้าคุณยามคนนี้ได้ว่าเคยเจอตอนไปรับ GOT 7 ไอ้เราก็ผนวกเรื่องราวเอาเอง คิดว่าสงสัยยามคนนี้อาจจะไม่ได้เป็นแค่ยามก็ได้ แต่คงจะอารมณ์ประมาณคนดูแลรักษาความปลอดภัย (สูงขึ้นมาอีกนิด) เวลาศิลปินเดินทางมาประเทศไทย พี่ยามเสื้อดำก็บอกว่าถ้าหนุ่มๆ มานะจะกะพริบไฟฉายในมือเป็นสัญญาณ (ไอเทมของพี่ยามเสื้อดำ = ไฟฉาย) อ๋อ! และพี่ยามคนนี้ก็ชอบเดินมาบอกด้วยค่ะว่า “เนี่ยพวกเราโชคดีมากเลยนะ เพราะตรงนี้ทางออกศิลปินเลย” คือพูดหลายรอบมากจริงๆ จนเป็นประโยคยอดฮิตไปแล้วมั้ง แต่ก็จริงค่ะ เพราะจากตรงนี้เห็นชัดมากจริงๆ (ไม่โม้) ระหว่างนั้นประมาณสองชั่วโมงก่อนงานเริ่มได้มั้ง ก็เห็นล่ามที่เชื่อว่าทุกคนคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีขึ้นไป พิธีกรเอย สตาฟฟ์เอย คนที่ได้บัตรนั่งเอย (อิจฉาสุดๆ เลย)

พอถึงเวลาที่ EXO ใกล้มา บอดี้การ์ดเสื้อน้ำเงินที่หน้าเหมือนคนเกาหลียังไม่ได้ศัลยกรรม (หน้าแบบคนเอเชีย ไม่ได้แย่นะ) ตอนแรกนึกว่าคนเกาหลีเกือบนินทาแล้วปรากฏพูดไทยชัดแจ๋วเลย ㅋㅋㅋㅋㅋก็เริ่มมาคุม แต่มาแค่คนเดียวนะ พี่สตาฟฟ์คนไทยสองคนก็เดินมาทางเราแล้วย้ำว่า “หนูอย่าพลุ่งเข้ามานะ อย่าเขยิบที่กั้น” อารมณ์ประมาณให้ทำตัวแต่พอประมาณอ่ะค่ะ พี่สตาฟฟ์น่ารักมากบอกปิดท้ายว่า ถ้าทำตัวน่ารักจะไม่ให้การ์ดมายืนคุม ขอเอ่ยปากชมเลยว่าวันนั้นทุกคนทำตัวได้น่ารักดีมาก ไม่เขยิบที่กั้นเลย (สงสัยเขยิบมาใกล้จนพอใจแล้ว ล้อเล่น) อยากจะฝากอะไรไว้เล็กน้อยสำหรับแฟนคลับทุกวง เวลาเขาบอกว่าอย่าเขยิบคืออย่าเขยิบจริงๆ นะคะ! อย่างที่รู้ๆ กันว่าการ์ดของเกาหลี (ที่กำลังเดินทางมา) โหดแค่ไหน คงไม่อยากจะเจอกันใช่ไหมคะ อย่าให้ความฟินเพียงหยดเดียวทำลายความสุขที่อาจจะไม่เกิดขึ้นของคนอื่นนะคะ

ก่อน EXO จะมาถึงยามก็มาบอกประมาณว่ามีการ “เปลี่ยนแผน” เล็กน้อย จากที่จะออกมาจากรถยนตร์ เปลี่ยนมาเป็นออกจากลิฟท์แทน ก็ไม่ได้อะไร เพราะฉันได้ที่หน้าสุดแล้ว ณ จุดนี้ คนจากข้างหลังก็เริ่มเบียดเข้ามาค่ะ บางคนก็ขอเกาะไหล่ หนักหน่อยก็ขอยืมหัวของอิชั้นเป็นขาตั้งกล้อง เอ้า! เชิญเลยจะ ตามสบายเลยนะ ตอนแรกนึกว่าจะเบียดกันรุนแรงแบบเจอศอกอะไรอย่างนั้น แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้รับการกระแทกอะไรมากมายนะคะ

จะบอกว่าหมอนที่เอามาโดนน้องสาวยึดไปเลยค่ะ (นิสัยไม่น่ารักเลย) รู้สึกว่ารอเก้อหลายรอบมาก เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นเป็นระยะๆ ฝั่งแฟนคลับทางนี้ที่มองไม่เห็นแม้กระทั่งเวทีก็กรี๊ดตามสิคะ นึกว่า EXO มา จำได้ว่ารอเก้ออย่างนี้จนเบื่อ แต่ไม่มีใครยอมนั่งเลยเพราะมันใกล้เวลาแล้วจริงๆ คนข้างๆ เราก็เช็คกล้องไป ลองกล้องว่างั้นเถอะ เราก็สะกิดแล้วลองถามเขาว่า “จะเอา (รูป) ลงเด็กดีหรือว่าสยามโซนหรือเปล่าคะ” เขาก็ตอบเหมือนกับว่าไม่ได้เอาลง เราก็ไม่ได้อะไรมากมายๆ คือเราใช้โทรศัพท์ถ่าย น้องสาวเราถ่ายให้ (แต่ความจริงเราก็ย้ำน้องนะว่าอยากให้เห็นด้วยตาเปล่ามากกว่า) สักพักพี่ที่ถามเมื่อครู่นี้ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วให้เราเขียน ID Line ให้เขา มารู้ทีหลังว่าเขาชื่อ “พี่กระแต” มีโอกาสได้คุยเล็กน้อยทางไลน์ (ขอบคุณมากนะคะพี่กระแต) รู้สึกดีจริงๆ แต่ก่อนเคยเจอแต่แฟนคลับนิสัยไม่น่าเอ่ยถึง มาเจออย่างนี้ค่อยรู้สึกดีหน่อย ^^
 

สักพักหนึ่งการ์ดของเกาหลีเสื้อขาวกางเกงน้ำตาล (น่าจะเป็นการ์ดที่มาด้วยกันจากสนามบิน) ก็เดินออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่ม (จะบอกว่าหนุ่มๆ มาตรงเวลามาก) ไฟฉายอันเป็นสัญญาณก็ฉายขึ้น! ยามมีแอบหันมาเล็กน้อย หลังจากนั้นก็... “กรี๊ด!" ลูกเดียวเลยค่ะ EXO เดินออกมาเรื่อยๆ (ก่อนหน้านี้เหมือนจะเป็นเลย์ขึ้นไปแล้วขึ้นไปคนเดียว ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) การ์ดเสื้อน้ำเงินที่มีคนเดียวตรงนั้นก็เข้ามาดันแผงกั้นไว้ด้วยมือเปล่า แลดูเป็นคนเหล็กคนถึกไปได้ จะบอกว่าตาอิชั้นฟ้าฟางมาตั้งแต่ตอนไปนั่งรอที่ชั้น 7A แล้วค่ะ เลยบรรยายไม่ถูกจริงๆ ว่าแต่ละคนเป็นยังไง ขอโทษจริงๆ ไอ้เราก็เห็นชัดๆ แค่เซฮุน ชานยอล และก็ดีโอ (เมนน้อยกลอยใจ) จำได้ว่าชานยอลนี่สูงมากๆ ดูเก้งก้างจริงๆ (เหมือนที่แฟนๆ ชอบแซวกัน) ส่วนเซฮุนดูเด็กมากอย่างบอกไม่ถูก ดีโอฉันก็ตัวเล็กอย่างที่คาดไว้ อาจจะเพราะมีแต่คนสูงๆ (เสียใจที่ตามองไม่ค่อยชัด T^T) 
 

(อันนี้รูปจากพี่กระแต พี่สาวใจดีที่ยืนข้างๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ)

ซักพักคนข้างบนที่อยู่ลานพารากอนก็กรี๊ดกัน บางคนก็ฝากโทรศัพท์กับพี่ยามเสื้อขาวให้ขึ้นไปถ่ายรูปให้หน่อย ฝั่งเราบางส่วนก็เริ่มเดินกลับไปบ้าง เราก็เลยได้ไปอยู่ที่ด้านหน้าติดรั้วเลย ทีนี้จุดพีคมันอยู่ที่ว่าสักพักมีหนุ่มน้อยคนหนึ่งเดินลงมาพร้อมกับการ์ดเกาหลีค่ะ เดินไปทางลิฟท์ที่ออกมา รู้ตัวอีกทีเสียงกรี๊ดดังสนั่นเลยค่ะ ‘ดีโอ’ นั่นเอง พอน้องออกมากำลังจะเดินขึ้นไปหลังเวที ทุกคนก็กรี๊ด คิดว่าน่าจะตะโกนว่าดีโอด้วยมั้ง นางก็หันมามองเล็กน้อย ณ จุดนั้นฟินมาก ทำให้ทราบว่าไอ้ที่ยืนรอบๆ ฉันนี่ก็เมนคนเดียวกับตูเยอะเหมือนกัน เหมือนดีโอจะใส่แว่นตาด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
 

หลังจากจบงานแถลงข่าว

อยากจะบอกว่าคนที่ไม่ได้อยู่รอจนจบพลาดมาก เพราะ EXO เดินลงมาทางเดิมและโบกไม้โบกมือทักทายแฟนคลับ น้องสาวเราบอกว่าชานยอลทำมือ I Love You แล้วก็โบกมือด้วย น่ารักสุดๆ ก็ฟินกันไป หลังจากนั้นตรงลานจอดรถเหมือนเกิด ‘ตึกถล่ม’ ก็ไม่ปาน ทุกคนพร้อมใจรีบวิ่งแห่กันลงไปลานจอดรถข้างล่างกันอย่างรวดเร็ว! ไอ้เราเห็นเขาวิ่งก็วิ่งสิจ้ะ (รู้ตัวอีกทีอันตรายเหมือนกัน โชคดีตอนนั้นไม่มีรถ) มือข้างหนึ่งก็จับมือน้อง น้องก็จับมือฉัน ไม่ได้จะแสดงความรักความอบอุ่นในครอบครัวนะ ประเด็นคือโทรศัพท์เอย กระเป๋าสตางค์เอย ของสำคัญทุกอย่างของฉันอยู่ในความครอบครองของนางอยู่ ถ้านางหาย ชีวิตฉันก็หายเช่นกัน ระหว่างวิ่งมีคนที่ทำหมวก EXO หล่นด้วย แต่ไม่รู้ใครเป็นเจ้าของเสียดายแทน เราเผลอทำเสื้อกันหนาวหล่น น้องเก็บให้แอบดุด้วย บอกวิ่งไม่ดูแลกระเป๋า สักพักก็วิ่งไปรอตรงทางที่รถ EXO ออก คุณพระ! คนเยอะมากไม่แพ้กันเลย เข้าใจความหมายของคำว่า “ซาแซงแฟน” ก็วันนี้แหละ (นี่เรากำลังเป็นอยู่หรอ ไม่หรอก อย่าคิดมาก 5555) ยามก็บอกว่าเขาไปแล้วๆ! แต่ก็เห็นรถตู้สีดำคันหนึ่งขับผ่านอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วแม่ยกฝั่งนั้นก็กรี๊ดกัน (คือเกือบโดนยามหลอก ตอนนั้นมีบางคนเดินกลับไปด้วย) เรากับน้องสาวเลยได้เสียบมาอยู่ข้างหน้าแทน (อีกล่ะ) แล้วก็โบกมือ ถึงอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่เห็นว่าในรถมีคนโบกมือกลับด้วยแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน ถามเด็กที่ยืนข้างๆ ก็ไม่รู้เช่นกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความฟินสุดๆ...

จะบอกว่ามีความสุขจากงานนี้มากจริงๆ เรื่องที่หงุดหงิดก็คงจะมีแค่ตอนโดนยามไล่สองรอบนี่แหละค่ะ แต่โดยรวมพอใจเป็นอย่างยิ่ง ฟินสุดๆ เรากับน้องพยายามไม่คาดหวังมาตั้งแต่ต้นแล้ว ขอแค่ได้ยินเสียงสดๆ ชัดก็พอแล้ว พอมาเจออย่างนี้คือดีใจมากอ่ะ ตอนที่ยืนรอตรงทางขึ้นเวทีของ EXO ได้ยินคนพูดขึ้นด้วยว่า ตอนที่ Super Juniors มาก็ขึ้นทางนี้เหมือนกัน แต่ก็อยากฝากไว้เช่นเดิมว่า “รู้แหล่งยืนแล้วก็ไม่ต้องแพร่หลายกันมากนะคะ เพราะถ้าวันหลังมาหมกตัวสุมหัวกันที่นี่ เดี๋ยวคราวหลังยามเขาจะไม่ให้ใช้สถานที่ไว้ติ่ง จะอดกันไปถึงโลกหน้า” แล้วก็วันนี้อยากชมตัวเองว่า “เซฟแบตโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดีมาก” ไม่แตะเลยถ้าไม่จำเป็น ผลคือเหลือแบตกลับมา 50% ค่ะ (ปรบมือ) สาเหตุคือไม่มีแบตสำรองนั่นเอง และต่อจากนี้จะเริ่มเก็บตังค์อย่างจริงจังแล้วค่ะ ส่วนหนึ่งไว้ไปเที่ยวตามฝันอีกส่วนไว้ตามเอ็กโซนั่นเอง ขอให้มีคอนจัดที่ไทยอีกนะคะ สาธุๆๆๆ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ขอปิดท้ายด้วย EXO แอคแทคเพศชายนะคะ ㅋㅋㅋㅋㅋ

จบบันทึกพิเศษ…
PLOYaa
(140912)

วันนี้จขกท.ไปถึงพารากอนประมาณ 6 โมงเย็น จขกทก็ไปยืนอยู่ตามรูปข้างบน เพราะได้ยินเสียงกรี๊ด และก็ได้ยินเสียงเค้าเปิดเพลง EXO พร้อมกับมีแฟนคลับร้องตาม แฟนชานท์กันดังมาก จขกท.ยืนอยู่กับเพื่อนอีก2คน สักพักก็มีผู้ชายกลุ่มนึงวัยรุ่นๆหน่อย ใส่ชุดมหาลัยชื่อดัง เดินมายืนอยู่ข้างๆ เค้าคุยกันว่า "เชี่ยแม่ งเสียงดัง** ใครมาวะ" แล้วเค้าก็หันมาถามจขกท.ว่าใคร เพื่อนจขกท.เลยตอบว่า "นักร้องเกาหลี EXO อ่ะค่ะ" เค้าก็เลยพูดต่อว่า อ้อ....เคยได้ยินอยู่เหมือนกัน เห็นเพื่อนที่มอพูด แล้วน้องกลุ่มนี้ก็เดินจากไป โดยที่จขกท.ได้ยินแว่วๆว่า "กุละเบื่อติ่งเกาหลี วุ่นวายสั.ส กรี๊ดอะไรนักหนา แม่ งก็ศัลยกรรมกันทั้งนั้น" จขกท.ก็เฉยๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร

แต่มันมีเหตุการณ์ต่อจากนั้นค่ะ คือจขกท.เดินเข้าไปตรงหน้าพารากอนเพื่อหามุมดีๆ จขกท.ก็เจอเด็กกลุ่มนี้อีก จขกท.กับเพื่อนก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ มุ่งหน้าไปยังที่ที่จะเห็นตัวจริงเด็กๆได้ ระหว่างนั้นจขกท.ก็ไปช่วยน้องที่เป็นลมอยู่คนนึง เสร็จแล้วพอจะกลับเข้ามาคนมันเยอะมาก จขกท.ก็เลยยืนตรงหน้าทางเข้าพารากอน มองจอมอนิเตอร์เอา แต่แล้วก็มีเหตุให้จขกท.ต้องยืนใกล้ผช.กลุ่มนี้อีกครั้ง เพราะโดนเบียด และได้ยินพวกเค้าคุยกันว่า

นาย ก. "มึ งอยากดูทำไมวะ กลับเหอะ"

นาย ข "ก็เห็นกรี๊ดกันจัง มึ งกลับตอนนี้ คนก็เยอะเมื่อกี้มึ งไม่เห็นคนต่อคิวซื้อตั๋วbts หรอ"

นาย ค "ตรงชานชาลาก็ยืนกันเต็ม กุเห็นแล้วเพลีย"

นาย ข "งั้นก็รอดูหน่อยก็ได้มึ ง กุอยากเห็นหน้าว่ ะ"

หลังจากนั้นซักพัก exo ก็ออกมา จขกท.ก็กรี๊ดเสียงดังมาก ยืนบิดไปบิดมา เพราะตื่นเต้น5555 แล้วจขกท.ก็ได้ยินอีกว่า

นาย ก "เห้ย หน้าตาดีจริงว่ ะ"

นาย ข "หน้าตาอย่างกับผู้หญิงทั้งวงเลย"

นาย ค "ทำไมผช.เกาหลีชอบไว้ผมยาวจังวะ"

 

พอถึงตอนแบคพูด

นาย ก "มึ งดูคนนี้ดิ ผู้หญิงสั สอ่ะ" 

ตอนซูมเข้าไปที่พี่หมิน

นาย ก "เชี่ย ทำไมเหมือนคนที่ร้อง nobody เลยว่ ะ"

นาย ค "มึ งกุขนลุก เหมือนผู้หญิง เหี้ ยๆ"

จขกท.ก็แอบขำ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก สักพักจขกท.ก็เดินไปหาเพื่อน ตรงทางเข้ารถไฟฟ้า

ก็เจอผู้ชายอีกกลุ่มนึง วัยทำงาน 5 คนยืนอยู่ ซึ่งเป็นตอนที่น้องโด้พูดพอดี แล้วตอนนั้นผู้หญิงข้างๆก็กรี๊ดดังมาก หนุ่มๆกลุ่มนี้เลยหันไปมองที่จอมอนิเตอร์ คำพูดแรกที่จขกท.ได้ยินคือ "เห้ย ม รึงดูคนนั้นดิ หน้าตาแม่ งยังกะผู้หญิงเลย แอบน่ารักดีว่ ะ วงนี้วงไรวะ เดี๋ยวกลับบ้านไปกุจะไปเสริช"

สรุปแล้ว วันนี้จขกท.เจอผู้ชาย 2 กลุ่มที่ไม่รู้จัก exo มาก่อน และก็ได้ยินคำว่า "เหมือนผู้หญิงเลยว่ะ" ทั้ง 2 กลุ่ม

#นาง 12 ของแม่ แอ๊ทแทคเพศชายอีกแล้วซินะ

ที่มา: [ EXO ] ความฮาของวันนี้

“เพิ่มเติม”

บทสัมภาษณ์งานแถลงข่าวหนุ่ม EXO 140912

MC: อยากให้ EXO ทักทายแฟนๆ หน่อยครับ

EXO: สวัสดีครับ (พูดไทย) we are one we are exo

MC: อยากให้ทุกคนแนะนำตัวเป็นภาษาไทยทีละคนเลยครับ

แบคฮยอน: สวัสดีครับ ผมชื่อแบคฮยอนครับ

ซูโฮ: สวัสดีครับ ผมชื่อ EXO Leader ซูโฮครับ

เลย์: สวัสดีครับ ผมเลย์ครับ

ดีโอ: สวัสดีครับ ผมชื่อดีโอครับ

เทา: สวัสดีครับ เทาครับ

เซฮุน: สวัสดีครับ ผมเป็นน้องเล็กขี้อายเซฮุนครับ

ซิ่วหมิน: สวัสดีครับ ผมซิ่วหมินครับ คิดถึงจังเลย

ไค: สวัสดีครับ ผมชื่อไคครับ

เฉิน: สวัสดีครับ ผมเฉินครับ

ชานยอล: สวัสดีครับ ผมชานยอลครับ

MC: รู้สึกยังไงที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย

ซูโฮ: ก่อนอื่นผมอยากบอกว่าผมจำที่นี่ได้ จำได้ว่าเคยมีเวทีแถวๆนี้ จำหน้าพี่ MC ทั้ง 2 คนได้ด้วย แล้วก็จำ Exo-L Tthai ได้ทุกคนเลยครับ รู้สึกมีความสุขมากที่ได้มีคอนเสิร์ตในประเทศไทย พวกผมรอวันนี้มานานมากเลยครับ ทุกคนก็รออยู่เหมือนกันใช่ไหมครับ

MC: นี่คือการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรก พวกคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

ไค: มีความสุขมากที่ได้มีคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย อยากบอก Exo-L ไทยทุกคนว่า เพราะมีทุกคน พวกผมถึงได้มีคอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งนี้ ตอนนี้ผมมีความสุขมากเพราะได้เจอทุกคน คอนเสิร์ตพรุ่งนี้ผมจะเต็มที่เพื่อทุกคนเลยครับ

MC: คอนเสิร์ตในครั้งนี้ พวกคุณเตรียมเซอร์ไพรส์อะไรมาฝากแฟนๆ บ้างครับ

ซิ่วหมิน: ในทุกๆ ประเทศรูปแบบคอนเสิร์ตโดยรวมจะเหมือนกันครับ แต่ครั้งนี้พิเศษสำหรับประเทศไทย ที่พวกเราทุกคนจะเข้าไปใกล้ชิดกับแฟนๆ มาขึ้นครับ 'เจอกันที่คอนเสิร์ตนะครับ (พูดไทย)'

MC: มาเมืองไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้ว อยากรู้ว่าแต่ละคนประทับใจอะไรในเมืองไทยบ้าง

ชานยอล: ทุกครั้งที่มาประเทศไทยผมรู้สึกได้ถึงความรักของทุกคน บางทีก็อบอุ่น บางทีก็ร้อนแรง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อน ความรักของแฟนไทยจึงอบอุ่นที่สุดเลยครับ

เลย์: 'ผมอยากกินส้มตำ ซื้อส้มตำให้กินหน่อย เมื่อวานผมกินแกงเขียวหวานอร่อยมากๆ (พูดไทย)'

ซูโฮ: เวลามาประเทศไทยชอบมีคนเอาพวงมาลัยมาให้ อยากลองให้ทุกคนเอามาให้ผมบ้างครับ

MC: เห็นพูดภาษาไทยเก่งขนาดนี้ มาไทยครั้งนี้เรียนภาษาไทยอะไรเพิ่มเติมบ้างครับ

เซฮุน: รักนะจุ๊บๆ

แบคฮยอน: กินอะไรถึงน่ารัก

เลย์: ผมดีใจที่ได้มา

ชายยอล: ขอเสียงหน่อยยยยยย

แบคฮยอน: ผมน่ารักไหมครับ

ดีโอ: ผมรักคุณคร้าบบบบ

MC: ช่วยอัพเดทผลงาน ว่าตอนนี้ใครมีผลงานอะไรพิเศษๆ ให้ Exo-L ได้ติดตามบ้างครับ

ดีโอ: ช่วงนี้ผมมีงานแสดงอยู่ เพิ่งถ่ายทำจบไปครับ สนุกมากๆ เลย แล้วก็มีเมมเบอร์บางคนเป็น MC บางคนมีวาไรตี้โชว์ด้วย อยากให้ทุกคนติดตามนะครับ เพราะว่าพวกผมจะพยายามทำอะไรใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ชมกันนะครับ

เลย์: ผมมีเรื่องสำคัญมากจะบอกครับ ผมอยากเจอแฟนๆ ทุกคน และอยากให้ทุกคนมีความสุขมากๆ

เทา: รายการวาไรตี้โชว์ รายการ The Laws of Jungle ที่ผมไปถ่ายทำมาจะออกอากาศคืนนี้ อยากให้ทุกคนติดตามชมกันด้วยนะครับ

ชานยอล: ช่วงนี้ผมก็มีงานแสดงเหมือนกันครับ เพิ่งถ่ายทำตอนแรกไป อยากให้ทุกคนติดตามกันนะครับ

เลย์: วันนี้ตอนสี่ทุ่มอย่าลืมติดตามดูรายการพิเศษที่มีผมเป็นตัวหลักนะครับ

MC: โปรเจคปีหน้าของ EXO มีอะไรบ้างครับ

เฉิน: ปีนี้เราได้เตรียมเพลงดีๆ เพอร์ฟอร์แมนซ์ดีๆ มาให้ทุกคนชมกันใช่มั๊ยครับ ปีหน้าก็เหมือนกันครับ ทุกคนจะทำงานกันเต็มที่เพื่อให้ Exo-L ทุกคนได้รับชมนะครับ แล้วก็ปีหน้าถ้าเป็นไปได้ อยากมาเมืองไทยอีกครับ

MC: สุดท้าย ก่อนจะเจอกับหนุ่มๆ ในคอนเสิร์ตวันพรุ่งนี้ และมะรืนนี้ อยากให้ EXO ฝากคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้กับแฟนๆ หน่อยครับ

ชานยอล: ขอบคุณมากๆ สำหรับความรักของทุกคน ที่ถึงแม้ไม่ได้มาเมืองไทยนานมาก แต่ทุกคนก็ยังให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น วันเสาร์-อาทิตย์นี้ ผมจะเตรียมคอนเสิร์ตที่สุดยอดไว้ให้กับทุกคน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขในคอนเสิร์ตนะครับ

เฉิน: ไม่ได้เมืองไทยนานมากเลย แต่ความรักของทุกคนก็ยังอบอุ่นมากเหมือนเดิม ผมตั้งตารอที่จะเจอทุกคนในคอนเสิร์ตนะครับ อยากให้ทุกคนสัญญาว่า พรุ่งนี้ในคอนเสิร์ตเสียงกรี๊ดจะต้องดังกว่าวันนี้นะครับ

ไค: ผมทราบนะครับว่าในประเทศไทยมี Exo-L เยอะ ผมอยากขอโทษที่ไม่ได้มาเมืองไทยบ่อยๆ ผมสัญญาว่าพรุ่งนี้ กับมะรืนนี้ผมจะเต็มที่แน่นอนเพื่อจะตอบแทนทุกคนครับ ปีหน้าผมสัญญาว่าผมจะมาหาทุกคนก่อนที่ผมจะคิดถึงทุกคนจนเป็นบ้าแน่นอนครับ

ซิ่วหมิน: ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันเยอะขนาดนี้ พรุ่งนี้ไปสนุกกันให้เต็มที่นะครับ 'รักนะจุ๊บๆ (พูดไทย)'

เซฮุน: ตอนนี้ผมซาบซึ้งมากที่เห็นแฟนคลับมาเยอะขนาดนี้ ผมเองก็สัญญาว่าพรุ่งนี้ และมะรืนนี้จะตอบแทนด้วยการเต็มที่กับคอนเสิร์ต ขอบคุณมากๆ แล้วก็วันนี้กลับบ้านดีๆ นะครับ

เทา: ผมตื่นเต้น แล้วก็ดีใจมากๆ ที่ได้เจอกับแฟนๆ ทุกคนที่นี่ หวังว่าในครั้งต่อๆ ไปแฟนๆ ก็จะเยอะขึ้นอีก เยอะขึ้น เยอะขึ้นเรื่อยๆ นะครับ

ดีโอ: ไม่ได้มาเมืองไทยนานมากเลยนะครับ ขอบคุณสำหรับความรักนะครับ Exo-L ของผม ในคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยผมจะโชว์ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเตรียมมาเลยครับ 'ขอบคุณครับ (พูดไทย)'

เลย์: ตอนนี้อยากให้ทุกคนที่นี่ดูแลตัวเองดีๆ และเดินทางปลอดภัย ในปีนี้ ปีหน้า และปีต่อๆ ไป ก็อยากให้ทุกคนก็มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยตลอดไปเลยครับ

ซูโฮ: รู้สึกมีความสุขมากครับที่ได้มาเมืองไทยอีกครั้งนึง พรุ่งนี้คอนเสิร์ตของพวกเราสนุกแน่นอนครับ แล้วก็ต้องเสียใจด้วยที่ลู่หานมาไม่ได้เพราะเขาป่วยหนัก ลู่หานฝากบอกว่า เสียดายมากที่ไม่ได้มาด้วย พรุ่งนี้พวกผมทุกคนจะเต็มที่เพื่อเติมเต็มส่วนของลู่หานครับ

แบคฮยอน: ขอบคุณสำหรับความรัก ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน และรักพวกผมตลอดมา ผมจะตอบแทนด้วยเพลงดีๆ และเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ 'ผมรักคุณ ม๊วฟฟฟ (พูดไทย)'

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก : THAI K-POP

(http://www.dek-d.com/board/view/3376536/)

วันนี้ (140913) เซฮุนอัพเดตอินสตาแกรมว่า춥다 แปลว่า “เย็น” สงสัยอากาศเมืองไทยจะร้อนแฮะ

“เก็บตกรูปภาพวันที่ 12 กันยายน 57”
แบคฮยอน Fan Service สุดๆ

ส่งท้ายด้วย... 

Owen Theme