ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #396 : (แลการ์ตูนไทย) 10 สิ่งที่น่าจดจำในเว็บตรุกี (ฉบับขาจร)

ปกติแล้วผมไม่ค่อยพูดถึงเกี่ยวกับเว็บการ์ตูนสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยไม่ค่อยมีข้อมูลแน่น และผมก็ไม่ได้เป็นสมาชิกแบบแฟนพันธุ์แท้ แต่เนื่องด้วยมีคนมาขอให้พูดถึง http://elise.tirkx.com หรือ “เว็บตรุกี” เว็บโหลดอนิเมะในตำนานที่หลายคนรู้จักมาอย่างยาวนาน หากแต่วันนี้ด้วยปัญหามากมายทำให้เว็บปิดตัวลง (ยังไม่ทราบว่าปิดถวารหรือชั่วคราว)และแน่นอนเมื่อเป็นเว็บเก่าแก่ก็ต้องมีเรื่องราวต่างๆ มากมายให้พูดถึง

เนื่องด้วยเว็บตรุกีไม่มีความหมายในวิกิพีเดีย (ไร้สาระนุกรม) ดังนั้นผมจึงไม่รู้ข้อมูลมากนัก ไม่รู้ว่าเว็บตรุกีนี้ก่อตั้งเมื่อใด ถูกนิยามว่าอะไร ดังนั้นสิ่งที่ผมเขียนมาจากการค้นหลายเว็บ หากผิดพลาดตรงไหน จอ อภัย มา ณ ที่นี้ด้วย

 

ระหว่างที่เขียนบทความ เว็บตรุกีก็ยังไม่มา

จากเพจเว็บตรุกีคร่าวๆ เขียนว่าเว็บตรุกีเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2004 เป็นเว็บไม่แสวงกำไร โดย เว็บ http://www.tirkx.com เว็บไม่แสวงหาผลกำไร  โหลด unlicensed anime แฟนซับ จาก servers ของเว็บโดยกัน โดยเว็บไม่เก็บเงินจากแฟนซับ และคนโหลดอนิเมะแต่อย่างใด

ก่อนที่จะพูดต่อ เราต้องเข้าใจเรื่องแฟนซับก่อน เนื่องด้วยว่าบ้านเรานั้นไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น การที่จะดูอนิเมะญี่ปุ่นนั้น สมัยก่อนไม่ค่อยมีทางเลือกมากนั้น โดยมีทางเลือกไม่กี่ทางคือ 1.รอลิขสิทธ์ฟรีทีวีมาฉายซึ่งก็อย่างที่รู้ว่าแต่ละช่องของไทยนั้นไม่ค่อยสนับสนุนอนิเมะจากญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ เพราะลิขสิทธิ์มีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นอนิเมะเก่าๆ ที่ทางญี่ปุ่นฉายจบนานแล้ว และบางช่องเอามาฉายซ้ำซาก อย่าง อิคคิวซังนี้ฉายซ้ำไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

และ 2 คือการเช่า-ซื้อวีดีโอมาดู ซึ่งสมัยก่อนวีดีโอก็มีราคาแพง และลิขสิทธิ์ก็ไม่ได้ทันอนิเมะญี่ปุ่นอยู่ดี เป็นเหตุให้สมัยก่อนนั้นเป็นไปได้ยากที่บ้านเราจะดูอนิเมะทันญี่ปุ่น เวลาจะดูอนิเมะที่เราอยากดูจริงๆ แต่ไม่มีลิขสิทธิ์บ้านเรานั้นเป็นเรื่องยาก อาจจะรอสิบปีหรือร้อยปีกว่าจะมีลิขสิทธิ์ หรือไม่มีเลย หรือจะซื้ออนิเมะแท้ๆ ญี่ปุ่นก็แพง และฟังไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก เพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่น

จนกระทั่งการเข้ามาของยุคอินเทอร์เน็ต เราก็ได้ดูอนิเมะทันญี่ปุ่นมากขึ้น เมื่อมีเว็บเอาอนิเมะญี่ปุ่นมาให้เราดูแบบสดๆ ร้อนๆ หลังจากญี่ปุ่นฉายจบไม่กี่นาที และนั้นก็เกิด “แฟนซับ”  (Fansub) ขึ้น คือกลุ่มที่ชื่นชอบ "อนิเมะ" รวมกลุ่มกัน (หรือคนเดียว หากเป็นกลุ่มเรียกว่า “ค่าย”) ทำซับไตเติ้ลขึ้นมา เพื่อที่จะเผยแพร่สู่สาธารณชน  ปัจจุบีนแฟนซับก็ได้ขยายไปใช้กับวงการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวีซีรีย์ หรือภาพยนตร์ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ไทย

อย่างไรก็ตาม มันก็มีปัญหาที่แฟนซับจะเอาผลงานแปลที่เขาทำไปลงที่ไหน เพราะการลง servers ต้องเสียเงิน (อันนี้ผมไม่ค่อยรู้นะ เพราะไม่เคยทำ มันต้องเสียเงินหรือเปล่าหว่า) และมันยุ่งยาก ดังนั้นเว็บตรุกีจึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของแฟนคลับอนิเมะดังกล่าว

  http://www.tirkx.com อยู่คู่ในวงการเว็บไทยอย่างยาวนาน มากกว่าสิบปี นอกเหนือจะเป็นเว็บโหลดนิเมะ ยังเป็นที่พบปะเหล่าผู้ชื่นชอบการ์ตูน (บางคนนี้ระดับแฟนพันธุ์แท้ คุยออกทะเล คุยเรื่องเกมจีบสาวที่ไม่มีในไทยได้อย่างสบาย) เป็นศูนย์กลาง และข่าวสารการ์ตูนใหม่ๆ ให้ได้ติดตามเสมอ

แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดที่ผ่านมา เว็บก็มีปัญหายาวนาน หลักๆ  คือเงินค่าดูแล servers ที่เป็นจำนวนค่อนข้างสูง ทำให้คนดูแลเว็บต้องเรียกเก็บเงินจากคนภายนอกหลายครั้ง และครั้งล่าสุดตอนที่เขียนบทความนี้ เว็บตรุกีได้ปิดตัวลงชั่วคราว (หรือถวารก็ไม่ทราบ) ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่เปิดแต่อย่างใด

ในระหว่างที่รอตรุกีออกมายืนยันว่าจะเปิดหรือปิดอยู่นั้น ผมก็ขอรวบรวมสิ่งที่น่าจดจำ 10 อย่างของเว็บตรุกีละกันว่ามีอะไรบ้าง

10.แฟนซับ

แน่นอนหากพูดถึงเว็บตรุกี เราก็นึกถึงเว็บดาวน์โหลดอนิเมะแฟนซับไทยที่มีหลายเรื่องมาก เรียกว่ารวมอนิเมะไม่ว่าจะเป็นเก่า หรือใหม่ล่าสุด ถ้าจำไม่ผิดถือว่าเป็นเว็บต้นๆ ที่ทำแบบนี้ และใหญ่ที่สุด (โหลดไฟล์ก็ไม่ค่อยเสีย) ไม่แปลกเลยที่หลายคนรู้จักตรุกี

ส่วนตัวผมเอง ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ได้รู้จักตรุกี และเป็นพวกที่ไม่ค่อยรู้อนิเมะสักเท่าไหร่ เพราะสมัยก่อนที่ผมเรียนชั้นมัธยม อินเทอร์เน็ตยังเป็นของใหม่  และยังใช้แบบจำกัดอยู่ จนกระทั่งเน็ตเข้ามาก็เริ่มได้ยินคำว่าเว็บตรุกีก็ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวอะไรกับการ์ตูน จนกระทั่งมีคนมาแนะนำ และได้ดาวน์โหลด Shigofumi และเริ่มเขียนบทความบ่นการ์ตูนจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากยิ่งใหญ่ในวงการมานาน จู่ๆ เว็บตรุกีได้ปิดส่วนโหลดอนิเมะออกไป อาจเป็นเพราะอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์ และค่าดูแล Servers เท่ากับว่าอาจถึงยุคที่เว็บมีอันต้องปิดตัวไม่ช้าไม่เร็วนี้แน่นอน

9.การสมัครตรุกี

สมัยก่อนนั้นการสมัครเข้าเว็บตรุกีนั้นยากมาก ผมจำวิธีสมัครไม่ได้ จำได้ว่าต้องใช้มือถือส่งข้อความ ซึ่งสมัยที่ผมสมัครนั้นมือถือส่งข้อความยังไม่เป็นที่นิยม ถ้ามีมันก็ขนาดอันเท่าอุ้งตีนหมี แถมการสมัครแล้วยังไม่เข้าทันที ต้องรอการตอบรับอีกต่างหาก ทำให้สมาชิกเว็บจำนวนค่อนข้างน้อย และถือว่าเป็นเว็บปิดที่คนภายนอกเข้าไม่ได้ และนั้นเองทำให้ผู้สมัครหลายรายถือว่าเป็นเว็บที่อบอุ่น มีความเป็นกันเอง ก็ให้เกิดบุคคลดังในเว็บ อย่าง “ลุงแมว” (เอาไว้ค้นที่หลัง)

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยสมาชิกน้อย ทำให้เว็บต้องการหาสมาชิกเพิ่ม (เพื่อหาเงินบริจาคจ่ายค่าดูแล) ทำให้มีการเปิดสมัครเข้าเว็บตรุกีง่ายขึ้น และนั้นเองทำให้มีเกรียนหลุดเข้ามาไปเยอะ ซึ่งเป็นผู้สมัครใหม่ไปก่อกวน ทำให้ก่อดราม่ามากมาย (ซึ่งจะมาพูดถึงอันดับต่อไป) และเริ่มเสื่อมความนิยมในเวลาต่อมา

(ส่วนตัวแล้วบอร์ดตรุกีค่อนข้างคุยด้วยกันยากครับ ผมไม่กล้าสิงเพราะเห็นคนเก่าคนแก่ไม่กี่คนรับลูกกันจนกลายเป็นกระทู้ส่วนตัว  เรื่องที่คุยก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ฮิตกัน บางอย่างผมยัง งง เลย ว่ารู้กันได้ยังไง ส่วนหน้าใหม่ก็แค่ถามชื่อชอบอนิเมะอะไร อนิเมะนี้ชื่ออะไรเท่านั้น ทำให้ขาดการหมุนเวียนสมาชิกพอสมควร)

8.ลุงแมว

หนึ่งในบุคคลที่กล่าวถึงในบอร์ด http://www.tirkx.com มากที่สุดคือ “ลุงแมว” ซึ่งเชื่อว่าคนทั่วไป (รวมถึงผม) ก็ งง ว่าเขาคือใคร ทำไมมีอิทธิพลในเว็บตรุกี (ถือว่าเป็นคำถามที่ผมยังไม่ได้คำตอบถึงแก่นแท้ถึงปัจจุบัน)

เนื่องด้วยไม่ได้เข้วเว็บตรุกีมากนัก ดังนั้น ผมไม่ทราบรายละเอียดมากนัก (เพราะไม่มีที่ไหนเขียนรายละเอียด) จะมีการไร้สาระนุกรมที่ระบุว่า  ลุงมือคือ MNL (Member อาวุโสที่มีคุณค่าของเว็บตรุกี) ที่วีรกรรมของลุงแมวคือ หากใครลบหลู่ ลุงแมวจะพิมพ์ประโยคว่า “อยากคอมพังสินะ”  และอาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิทุกชนิดพังได้อย่างน่าอัศจรรย์  จนกลายเป็นวลีติดปากว่า “ลุงแมวผิด” เวลาคอมพัง

ส่วนรสนิยมของลุงแมวนั้นผมไม่รู้ (รอคนอื่นมาเสริมอีกทีละกัน)

7. บอร์ดเลเวลการ์ตูนสูง

ปกติบอร์ดการ์ตูนบ้านเรา แค่คุยการ์ตูนจัมป์ถือว่าเก่งแล้ว สำหรับคนชอบการ์ตูน แต่บอร์ดตรุกีนั้นแค่คุณชอบการ์ตูนเฉยๆ มีความรู้แค่จัมป์ไม่สามารถอยู่รอดนี้แน่นอน แม้ว่าเว็บตรุกีจะเป็นเว็บดาวน์โหลดแฟนซับ แต่ในเรื่องบอร์ดการ์ตูนแล้วก็ถือว่าเป็นจุดเด่นมากเว็บหนึ่ง ในแง่คนในบอร์ดมีระดับการคุยการ์ตูนระดับโหดมาก

ส่วนใหญ่คนในบอร์ดเว็บตรุกีนั้นค่อนข้างสนิทกันค่อนข้างสูงเพราะอยู่ด้วยกันมานาน แต่ในขณะเดียวกันทำให้สมาชิกใหม่จากภายนอกเข้ามาสอดแทรกยาก (เพราะสมาชิกใหม่ไม่เก็ทรับมุกคนในบอร์ด) เรื่องที่บอร์ดส่วนใหญ่จะตั้ง ส่วนมากเป็นสปอยอนิเม-มังงะ-ไลท์โนเวล, แนะนำอนิเมะ-มังงะใหม่, เกมจีบสาว (สปอยเนื้อเรื่อง), สงครามอวย,  ส่วนสมาชิกใหม่ส่วนมากจะตั้งกระทู้ถามชื่อการ์ตูน, ถามอะไรต่าง ๆ

ที่เด็ดคือเวลาสปอย-แนะนำการ์ตูน ส่วนมากไม่ใช่แค่การ์ตูนจัมป์ แต่เป็นการ์ตูนใหม่ที่หลายคนแทบไม่รู้จัก และเป็นการ์ตูนที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่เนื้อหากลับมีความน่าสนใจ และทำให้ผมรู้จักการ์ตูนมากมายที่น่าติดในเว็บตรุกี พร้อมกับข้อสงสัยว่าคนในบอร์ดนี้หาการ์ตูนพวกนี้มาจากไหน

สมัยก่อนผมก็ งง เหมือนกันว่าสมาชิกในบอร์ด แนะนำการ์ตูน ไลท์โนเวลพวกนี้ได้ยังไง เพราะบ้านเราไม่ได้ลิขสิทธิ์เลย และนั้นเองทำให้รู้จักคำศัพท์แปลก อย่าง เว็บกาแฟ, เว็บจีนแดง ซึ่งกว่าจะเก็ตก็นานพอสมควร เรียกได้ว่า เว็บตรุกีทำให้ผมรู้สึกการ์ตูนต่างๆ มากขึ้น ก็ไม่ผิดนัก (แม้จะแค่เห็นแต่ภาพก็เถอะ)

6. ดราม่าเว็บตรุกี-แฟนซับ

มีสิ่งหนึ่งที่ตรุกีเป็นที่รู้จัก นั้นคือเป็นบอร์ดการ์ตูนที่ดราม่าเข้มข้นมากอีกแห่งหนึ่ง แม้ว่าบอร์ดแห่งนี้จะเป็นบอร์ดปิดมากก่อน แต่ในเมื่อเป็นศูนย์รวมของแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนระดับฮาร์ดคอร์ ความคิดเห็นต่างกัน รสนิยมต่างกัน มันก็เกิดการทะเลาะกันอย่างช่วยไม่ได้

แน่นอนว่า หากจะหาประเภทดราม่าของเว็บตรุกี หลักๆ ก็มี สงครามอวย, ลิขสิทธิ  และดราม่าแฟนซับ  โดยเฉพาะดราม่าแฟนซับนั้นถือว่าเป็นดราม่าที่พบเห็นบ่อยๆ ในเว็บตรุกี

แม้ว่าคำจำกัดแฟนซับคือการที่ทำการซับไทยในอนิเมะ (ทีวีซีรีย์, ภาพยนตร์) เอามาแจกจ่ายกันโดยไม่หวังผลกำลัง เพื่อให้แสดงให้เห็นว่าคนทำนั้นชื่นชอบอนิเมะเรื่องนี้ และหาคนดูด้วยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆ แฟนซับเริ่มกลายพันธุ์ เริ่มวัตถุประสงค์แฟนซับเริ่มเปลี่ยนไป เช่นมีการหาเงิน (โดยอ้างว่าเป็นการบริจาค) ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมีดราม่าเข้ามา

หนึ่งในดราม่านั้น ก็เช่น มีคนหนึ่งออกมาวิจารณ์ค่ายซับแห่งหนึ่งว่าแปลอนิเมะกาก เลือกคำที่มาซับไม่ถูกต้อง ใช้คำที่หลายคนไม่ทราบความหมาย (แต่เท่าที่ดูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรสักเท่าไหร่) แต่เพราะคนที่ออกมาวิจารณ์ค่อนข้างที่จะแรง และคนทำซับอีโก้จัด ผลคือกลายเป็นดราม่าจนเป็นตำนานจนบัดนี้ (เรื่องแฟนซับนี้ ก็ทั้งสองฝ่ายแหละครับ คนดูก็ต้องเข้าใจว่าเป็นการทำฟรี พยายามเลือกใช้คำดีๆ แก่ผู้ทำซับ ส่วนคนทำซับเองก็ต้องฟังคำวิจารณ์ปรับปรุงแก้ไข )

ที่เลวร้ายคือ ดราม่าปลิง ปกติแล้วอนิเมะที่ทำแฟนซับนั้นทุกอย่างมีลิขสิทธิ์ เพียงแต่เจ้าของลิขสิทธิ์ (ของญี่ปุ่น) ไม่อยากดำเนินคดีเท่านั้นเอง แม้จะไม่มีกฎชัดเจน แต่แฟนซับชาวไทยมีการวางกฎว่าหากอนิเมะเรื่องนี้ติดลิขสิทธิ์ไทย จะต้องลบออกไปทันที ห้ามเผยแพร่ยกตัวอย่าง เช่น หมูบิน (ชื่ออังกฤษว่าอะไรลืมไปละ พอดีไม่สนใจ สงสารเพื่อนสมัยเด็ก) ซึ่งตอนหลังมีลิขสิทธิ์ไทย ทำให้ต้องลบแฟนซับเรื่องนี้ออก ทำให้คนที่ติดตามอนิเมะเรื่องนี้แบบซับไทยไม่พอใจ เพราะต้องเสียเงินซื้อแผ่น ภายหลังคนเหล่านั้นถูกเรียกว่า “ปลิง” ที่แปลว่าคนดูอนิเมะที่ที่เห็นแก่ตัว ที่ชอบดูฟรี ไม่คิดเสียเงิน

และนั้นเองทำให้คนทั่วไปมีความรู้สึกด้านลบแฟนซับค่อนข้างมาก แม้ว่าดูแฟนซับ แต่ก็ไม่คิดที่จะชม ซึ่งดราม่าเหล่านี้สามารถพบเห็นในเว็บตรุกี

ดราม่าแฟนซับอ่านที่เว็บดราม่าของจ่าครับ

http://drama-addict.com/tag/tirkx/

5. สงครามอวย

มีหนึ่งเรื่องที่ผมไม่ชอบบอร์ดในตรุกีสักเท่าไหร่ คือ บอร์ดประเภทอวยตัวละคร หากเราชอบตัวละครปกติธรรมดา อวย โพสรูป เล่าเรื่องรูท ฉากอวยตัวละครนั้นๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ที่ไม่ชอบคือสงครามอวย ที่ด่าตัวละคร จนทำให้บอร์ดตรุกีเป็นที่รู้จักว่า เป็นบอร์ดที่อวยโหด และหากอยากรู้ว่ากระแสอนิเมะ-มังงะแนวคอเมดี้-ฮาเร็มเรื่องไหนดัง หรือน่าสนใจ ก็ให้มาดูที่บอร์ดตรุกี ซึ่งหากไม่ผิดต้นกำเนิด “สงครามผมทอง-ผมดำนางเอก” ก็มาจากบอร์ดนี้และ

ปกติเวลาเราดูการ์ตูนเรื่องไหน โดยเฉพาะแนวฮาเร็ม ผมก็ชอบตัวละครทุกตัวละคร แต่ก็เกลียดตัวละครบางตัวบ้าง อย่าง เช่น พวกตัวโกง พระเอกนิสัยเลวๆ บ้าง แต่บอร์ดตรุกีนั้น การอวยตัวละครเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเป็นแนวฮาเร็มก็เชียร์คนนี้นางเอก  แต่ปัญหาคือ นอกจากอวยตัวละครแล้ว ยังด่าตัวละครที่ไม่ได้อวยด้วย อย่างชมรมเพื่อนน้อย ทันทีที่สปอยออกมา หลายคนมักด่าโยโซระ ซึ่งเป็นที่เจ็บปวดสำหรับผมมาก เพราะผมชอบโยโซระ (และไม่กล้าไปตอบโต้นะ กลัวดราม่า) จึงอยู่ที่โยโซระจะนิสัยไม่ดีอยู่บ้าง แต่หากมาคิดดูดีๆ การที่นิสัยแบบนี้กลับกลายเป็นสีสันของเรื่อง หากไม่มีตัวละครเหล่านั้น เนื้อเรื่องก็จืด ไม่มีความหมาย ไม่น่าอวยในที่สุด

แม้สงครามอวย ตอนแรกๆ จะดุเดือด โจมตีกันและกัน หากแต่เมื่อการดำเนินเรื่องจนถึงระยะหนึ่ง ไปจนถึงตอนจบ หากเนื้อหาเข้าสู่บทว่าจะจบวินเมื่อไหร่ เราจะเห็นสามความรู้สึก คือ ผู้ชนะ ผู้แพ้ ไปจนถึงทางสายกลางที่ลงความเห็นว่าเรื่องนี้ควรจบฮาเร็มพระเอกไม่น่าจบวินเลย ยกตัวอย่าง พี่เทพ ที่ตอนแรกก็มีสงครามอวยดุเดือดว่าพระเอกจะเลือกใคร พอมาถึงตอนจบพบว่าพระเอกไปแหกโค้งเลือกตัวละครหญิงที่ไม่มีใครอวย ผลคือ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

จนบางครั้ง ผมก็แอบรู้สึกว่า จะก่อสงครามอวยไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายก็กอดปลอบใจกันอยู่ดี

4.สปอยนรก

สปอยนรกเป็นสิ่งที่ก่ำกึ่งระหว่างดราม่า หากสปอยผิดที่ผิดเวลา จะทำให้เกิดดราม่า รวมไปถึงทำให้คนเข้ามาอ่านหมดความสนใจและเลิกติดตามการ์ตูนเรื่องนั้นด้วย หากเป็นกรณีสปอยแล้วน่าเบื่อ

ในเว็บตรุกี มีกระทู้มากมายที่เกี่ยวกับสปอย ส่วนมากมี 2 ประเภท ประเภทแรกคือสปอยมังงะ ซึ่งส่วนใหญ่มังงะสปอยจะเป็นการ์ตูนเฉพาะกลุ่มมากกว่าการ์ตูนจัมป์ ส่วนมากคนสปอยติดตามการ์ตูนเรื่องนั้นๆ การสปอย ก็เพื่อให้คนมาอ่านได้เห็นว่าการ์ตูนเรื่องนี้น่าสนใจขนาดไหน เป็นต้นว่า Akame ga Kill! ผมเองก็ไม่ได้ติดตามดู แต่ก็ได้อ่านสปอยตัวละครตัวหนึ่งตาย ผมก็เกิดอารมณ์ (ส่วนมาก เซ็งเป็ด) เป็นต้น

และสปอยที่สองคือสปอยไลท์โนเวล ซึ่งส่วนมากจะสปอยไลท์โนเวลที่มีลิขสิทธิ์ไทย และหลายคนตามมากกว่า ซึ่งส่วนมากจะสปอยว่าเล่มนี้มันมีฉากเด็ดๆ อะไรบ้าง (เช่น มีฉาก เพศสัมพันธ์ ตัวละครโดนปักธง อะไรแบบนี้) และสปอยเล่มจบ แม้หลายคนไม่ชอบสปอยตอนจบ เพราะอ่านเองมันลุ้นกว่า แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเปิดอ่าน ว่า มันจะจบยังไง และคุ้มค่าที่เราติดตามนิยายเรื่องนี้หรือเปล่า

หากสปอยดีก็ดีไป หากแต่ถ้าเกิดอ่านสปอยไม่ดี (ส่วนมากเป็นพวกจบวินนี้แหละ) หลายคนแทบเซ็งปฺด เลิกอ่านนิยายเรื่องนั้นกลางคันก็มี ซึ่งเว็บตรุกีได้ก่อวีรกรรมสปอยสองเรื่อง คือ สปอยตอนจบน้องสาวฉันไม่น่ารัก และสปอยชมรมไร้เพื่อน ซึ่งทั้งสองสปอยนี้ทำเอาหลายคนเกิดหลายอารมณ์ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้อ่านเล่มจบเลย

อย่างไรก็ตาม สปอยไม่เท่าได้ดูเต็มเรื่อง บางครั้งการสปอยก็ไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นต้นว่า สปอยพระเอกตาย เราก็ งง อยู่ดี ว่าพระเอกตายได้ยังไง ทำยังไงถึงตาย ตายแล้วไปไหน แต่กระนั้นมันกลับเพียงพอให้หลายคนหมดอารมณ์ที่จะตามแล้ว

โดยส่วนตัว จริงๆ เราต้องเข้าใจตอนจบนิยาย ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ทำไมถึงชอบแบบนี้ ตอนจบนิยายแนวรักๆ จะมีสามอย่าง คือ จบวิน จบฮาเร็ม และค้างคา ซึ่งสองตอนจบหลังนั้น เป็นตอนจบที่จบแล้วจบเลย ส่วนจบที่สามค้างคานั้นเป็นตอนจบที่สามารถไปต่อไป ให้คนดูตีความว่าตอนจบตามแบบฉบับของคุณเอง ซึ่งโดยมุมมองของผมตอนจบ ชมรมไร้เพื่อน ที่หลายคนบอกว่ารับไม่ได้ และไประบายให้คนอื่นที่ติดตามชมรมไร้เพื่อนให้รู้สึกไม่ดีด้วยนั้นถือว่าผิด เพราะเราไม่ได้ดูเนื้อเรื่องจริงๆ ของมัน ซึ่งสปอยต่างประเทศล้วนชมว่าเป็นตอนจบที่รับได้ ในขณะที่คนรู้จักผมบอกว่ามันเป็นตอนจบค้างคาที่เหมาะสมแล้วสำหรับเรื่องที่มีหลายคนอวยหลายตัวละคร

สรุป อย่าเชื่อสปอยมาก การได้เห็นด้วยตาตนเองนั้นดีที่สุด

3.นิยายเน็ต

แม้ว่าเว็บตรุกีจะตัดการโหลดอนิเมะออกไป แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคนเข้าเว็บตรุกีอยู่ ส่วนหนึ่งนอกจากตามข่าวสารแล้ว ช่วงหลังๆ เว็บตรุกีกลายเป็นแหล่งแปลนิยายเน็ต

ถ้าจำไม่ผิด มันน่าจะเริ่มมาจากนิยายชื่อ “มาสร้างดันเจี้ยนคู่ขนานกันเถอะ” กับ “เกิดใหม่เป็นก็อบลิน” ซึ่งเนื้อหาจะเป็นแนวหลงไปต่างโลกกับเกิดใหม่ต่างโลก แม้เนื้อหาจะอ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็น่าสนใจ คนติดตามกันเยอะ พูดคุยกันในบอร์ดกันไปมา และเริ่มพูดถึงนิยายเน็ตเรื่องอื่นๆ จากนั้นก็เริ่มมีคนแปลนิยายเน็ตหลายเจ้า ซึ่งก็มีลงต่อเนื่อง ดร็อปบ้าง แต่ก็มีให้ได้อ่านตลอด

ปกตินิยายเน็ตนั้นมาจากเว็บของญี่ปุ่น ซึ่งก็มีบางเรื่องเหมือนกันที่มีแปลเป็นเป็นภาษาอังกฤษให้ได้อ่าน ซึ่งคนแปลก็ต้องมีทักษะการแปลพอสมควร หรือใจรักจริงๆ ในการแปลนิยายเน็ตแต่ละเรื่องมันยากพอสมควร แปลจบหนึ่งตอนได้ก็น่าชม แม้จะมีจุดผิดพลาดก็ได้

แม้ส่วนมากนิยายเน็ต จะพล็อตเดิมๆ เข้าขั้นสูตรสำเร็จ แต่ก็มีหลายเรื่องที่น่าสนใจอยู่บ้าง จนมีสำนักพิมพ์ไทยบางเจ้าสนใจซื้อลิขสิทธ์มาให้เราอ่านอีกด้วย (เช่น ผู้กล้าโล่, โอเวอร์โหลด, ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง)

เรียกได้ว่า เว็บตรุกีเป็นจุดเริ่มต้นของการแปลนิยายเน็ตจากญี่ปุ่นก็ไม่ผิดนัก

อย่างไรก็ตาม นิยายเน็ตเว็บตรุกีก็ไม่วายจะมีดราม่าจนได้ เป็นต้นว่า เว็บซุบซิบเว็บหนึ่งนินทานิยายเน็ตตรุกีว่า คนแปลห่วยแตก ชอบดอง ใช้ภาษาผิดๆ ถูกๆ  (ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไปแจ้งจุดผิด เขาก็บอกอยู่ว่าเขาไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือไปบอกเขาดีๆ หรือแต่ง-แปลเอาเลยหว่า ซึ่งส่วนตัวผมมองความพยายามในการแปล และการทำความเข้าใจแก่นหลักของเรื่อง มากกว่าการใช้ภาษาแต่ง)และที่เลวร้ายคือมีบางคนจากเว็บเด็กดีเอานิยายเน็ตในนั้นเป็นก็อปเปลี่ยนแค่ชื่อเรื่อง, ตัวละคร ก็หากินแบบง่ายๆ ได้แล้ว

ดังนั้นสิ่งที่ผมใจหาย เพราะไม่ได้ติตตามนิยายเน็ตในเว็บตุรกีอีก แม้ว่าตอนนี้จะมีนิยายแปลให้อ่านในเว็บแมวดุ้น, เว็บเด็กดี ไปจนถึงเฟสบุ๊คก็ตาม

ถือว่ามันเป็นสิ่งที่เสียดายที่สุดในเว็บตรุกีเลยก็ว่าได้

2.สาวดุ้น

แม้ว่าบอร์ดตรุกีจะเป็นจุดกำเนิดดราม่า ที่มีหลายคนแอบนินทาว่าเป็นบอร์ดที่หลายคนชอบโชว์พาว ชอบเอาสายมืดมาอวดโชว์ภูมิบ่อยครั้ง แต่กระนั้นหากเรามาย้อนดูอีกที จะพบว่ารสนิยมของบอร์ดแห่งนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์

เป็นต้นว่า บางคนสายโลลิ และเท่าที่ผมทราบ ชาวบอร์ดตรุกีอวยสาวดุ้นมาก อวยชนิด หัวทิ่มประตูก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสาวดุ้นแท้ๆ (หน้าตา เสียง เป็นผู้หญิง แต่ความจริงแล้วเป็นผู้ชาย) และสาวดุ้นสลับเพศ (ตอนแรกเป็นชายแต่กลายเป็นหญิง) ซึ่งหากมีการ์ตูนแนวสาวดุ้นเรื่องใดออกมาใหม่ หรือมีเนื้อเรื่องเข้มข้น (?) ก็จะเอามาแนะนำ อวย และสปอยให้รู้จักกันอย่างเมามัน เรียกได้ว่า บอร์ดตรุกีทำให้ผมรู้จักสาวดุ้น ได้รู้จักการ์ตูนแนวสาวดุ้นเรื่องอื่นๆ  ก็ว่าได้

1.ขาดทุน

มันเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน สำหรับเว็บตรุกี ที่บอกว่าไม่มีเงินค่าดูแล ซึ่งเป็นปัญหาสะสมยาวนาย เพราะค่าใช้สูง เดือนหนึ่งเป็นหมื่นๆ จนในท่สุดทางเว็บต้องขอยอดบริจาคจากเมมเบอร์บ่อยครั้ง รวมไปถึงการยกเลิกการสมัครโครตยาว กลายมาเป็นสมัครโครตง่ายแทน เพื่อให้มีคนเข้าเว็บมากขึ้น

แต่อนิจจาแม้ว่ามีเมมเบอร์ถึง 80,000 เมมเบอร์ แต่ยอดบริจาคนั้นไม่ตรงเป้าเลยแม้แต่น้อย แถมยังติดลบอีก เพราะส่วนใหญ่คนที่เข้ามาในเว็บก็ เป็น ชอบของฟรี (ปลิงชอบสูบ) เข้ามาแบบผ่านๆ เท่านั้น จะหาคนที่เข้ามาแล้วผูกพันกับเว็บมันเป็นเรื่องยาก

แม้ว่าทางเว็บจะพยายามอธิบายค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังถูกเอามาซุบซิบในเว็บข้างนอกว่าเป็นเว็บขอทานอีกต่างหาก และน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ เว็บตรุกีปิดตัวลง (ชั่วคราว?) กลายเป็นตำนานที่เหลือแต่ชื่อ ซึ่งน่านับถือมากกว่าว่าบ่นมาเป็นสิบๆ ปี สามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้นับว่าเก่งมาก

ส่วนผมนั้น ผมไม่มีเงินจริงๆ ครับ (เชื่อผมสิ) 

สำหรับความทรงจำของผมที่มีต่อเว็บตรุกีก็มีเพียงเท่านี้ แม้ว่าเว็บตรุกีจะปิดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนหลายคนมากนัก อย่างเช่น หากดูอนิเมะใหม่ๆ ค่ายแฟนซับหรือจะโหลดบิตเองก็มีอยู่กระจัดกระจายตามที่ต่างๆ หากเราจะติดตามข่าวสารอัพเกรดวงการการ์ตูนอะไรก็มีให้ดูในเว็บทั้งไทยและอังกฤษ เช่น เว็บ Akibatan  จะติดตามมังงะให้ก็มีเพจ-เว็บอัพเกรดมังงะใหม่หรือมังงะแปลกๆ ให้ดูตลอด ไปจนถึงหากจะดูนิยายแปลเน็ตก็มีการรวมตัวกันในเว็บ-เพจแปลนิยายยั่วลิขสิทธิ์ต่อไป  ส่วนจะเป็นเว็บอะไรนั้นก็ให้ทุกคนต้องหาเอาเอง

สุดท้าย เว็บตรุกีก็เป็นตัวอย่างที่ดีของความไม่จีรัง แม้จะเคยยิ่งใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะยืนยงตลอดไป แม้จะหายไป แต่ก็มีอะไรมาทดแทนเสมอ ซึ่งเป็นวัฏจักรเว็บที่เราพบเห็นอยู่เสมอ