ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Ina]Judge Killer นักฆ่าผู้พิพากษา

    ลำดับตอนที่ #21 : >>Postscript : The end of white snow, The start of black snow

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 55


    บทส่งท้าย
     
         นดินแดนแห่งหนึ่ง... ที่ซึ่งมีท้องฟ้าสีดำครึ้มของหมุ่เมฆ ที่ซึ่งมีปุยสีขาวร่วงโรยลงมาอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ทับทมพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสีดำกลายเป็นสีขาวของหิมะ

    ในสถานที่แห่งนั้นมีป้ายเหล็กบางผมพื้นมากมายเต็มไปหมด บางที่ก็มีช่อดอกไม้ บางที่ก็มีรูปหน้าของแต่ละคนประดับอยู่

    ในที่แห่งหนึ่งมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมในชุดสีดำอันแสนน่าหดหู่ บางคนมองอย่างเศร้าสร้อย บางคนยืนร้องสะอื้นอย่างหยุดไม่ได้ ทุก ๆ คนได้แต่มองร่างที่ไร้วิญญาณของคน ๆ หนึ่ง

    ร่างนั้นเป็นร่างผู้ชายผมสีชมพูซอยตั้งฟูในชุดสูทสีขาวและมีดอกลิลลี่ประดับรองรับอยู่ที่พื้นดูแล้วชั่งน่าหลงใหล แต่ไม่ใช่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

    ร่างผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูทรสีดำเจ้าของผมสีน้ำตาลเหมือนสีดวงตากลมโตนั้นได้แต่มองร่างคนตรงหน้าอย่างเจ็บใจ... และทรมาน


    มันเป็นความผิดของเขา เขาคิด


    ถ้าเขาจัดการเสร็จเร็วกว่านี้... เขาคง...


    เขาได้แต่คิดโทษตัวเองอย่างเจ็บใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาและแก้ไขไม่ได้แต่แล้วก็หยุดคิดลงเพราะเสียงสะอื้นของคนข้างเคียงทำให้เขาหันไปมองอย่างสงสัย

    ร่างผู้ชายผมสีส้มมัดปกติในชุดสีดำเหมือนเขาแต่ใส่หมวกสีชมพูสลีบฟ้ากำลังยืนเอามือมาปิดหน้าตัวเองแล้วร้องไห้อย่างไม่หยุดหย่อนจนเขาสงสัย

    “แมกส์... นาย... ร้องไห้!?”เขาถามเพื่อนรักของเขาอย่างสงสัยแกมประหลาดใจ

    “ชิ!! ก็เพื่อนฉัน... ตายทั้งคนนะ!”เขาพูดอย่างโกรธเคืองเล็น้อยก่อนจะเริ่มปล่อยโฮหนักกว่าเก่าก่อนจะไปโผ่กอดเขาอย่างรวดเร็วจนเขาผงักไปชั่วขณะก่อนจะค่อย ๆ กอดกลับอย่างปลอบใจ... เขาค่อย ๆ นึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น...
     


    ...


    ..


    .


     

    ปัง!

    จู่ ๆ ภายในอาคารตึกกระจกที่สภาพเยินเพราะทั้งแรงระเบิดและกระสุนที่ยิงกันถ้วนหน้าก็เกิดเสียงปืนขึ้นจนคนตรงหน้าอึ้งมองร่างที่ถูกปืนยิงค่อย ๆ ล้มลงกับพื้นและของเหลวสีแดงไหลออกมา

    “อาสึยะ!!!”เขาเรียกคนตรงหน้าอย่างตกใจก่อนจะรีบพยุงร่างคนตรงหน้าอย่างใจหาย

    “อาสึยะ ! อาสึยะ อาสึยะ อาสึยะ!!!”เขาเรียกคนตรงหน้าพร้อมกับตบหน้าของคนตรงหน้าให้มีสติอยู่

    “พะ...พะ...พี่...คะ...ครับ...”อาสึยะเรียกเขาอย่างยากลำบากและพยายามที่จะมองหาเขาและเอามือกวักไกวขว้านหาตัวเขาเขาจึงเอามือจับมือของอาสึยะไว้และมองอาสึยะผู้เป็นน้อิงอย่างเจ็บปวดพร้อมกับของเหลวใส ๆ ค่อย ๆ ไหลอาบแก้มของเขา

    “หึๆๆๆ”เสียงของคนบางคนที่เขาฟังแล้วอยากจะฆ่าให้ได้ดังขึ้นก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเขา
    นั่นเป็นร่างผู้ชายผมสีแดงซอยสั้นเจ้าของดวงตาสีเขียวจ้องมองมาทางเขาอย่างสะใจ

    “แก...”เกรย์พูดอย่างโกรธแค้นและมองมาทางคนตรงหน้าด้วยจิตสังขารที่น่ากลัว

    “หึๆๆๆ ถึงอาสึยะจะปราณีให้ฉันแต่ยังไงฉันก็ไม่ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว”ฮิโรโตะพูดก่อนจะแสยะยิ้มอย่างได้ใจ

    “หึๆๆๆๆๆ”เกรย์ค่อย ๆ หัวเราะอย่างประชดประชันจนฮิโรโตะหงุดหงิด

    “ขำไรของแก!”

    “แกคิดว่าฉันเป็นใครงั้นหรอ”พูดเสร็จเขาก็ค่อย ๆ วางตัวอาสึยะลงแล้วลุกขึ้นมองฮิโรโตะอย่างเลือดเย็น




    พลั่ก!


    “อรั่ก!!”จู่ ๆ เสียงเพื่อนของเขาทั้งสองก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างทั้งสองก็กระเด็นไปชนกับกำแพงจนสลบไปก่อนจะมีร่างผู้หญิงผมสีน้ำเงินยาวเดินมาทางเกรย์อย่างเลือดเย็นซึ่งในมือของเธอถือปืนอยู่ข้างหนึ่งด้วย

    “หึ”เขาหัวเราะหึอย่างเฉื่อยชาแล้วมองมาทางผู้มาใหม่

    “เอาหล่ะ... เรนะ... ฉันฝากด้วย”


    ปัง!!!





    จู่ ๆ เรนะก็เดินมาทางฮิโรโตะแล้วยิงใส่หัวของฮิโรโตะอย่างจังจนฮิโรโตะช็อคพูดอะไรไม่ออกก่อนจะค่อย ๆ ล้มลงกับพื้นพร้อมกับของเหลวสีแดงไหลออกมาส่วนเกรย์ก็มองอย่างสงสัยอย่างประหลาดใจ

    “เธอ...”

    “ขอโทษด้วยที่เขาก่อเรื่องไว้มากมาย”สิ้นเสียงเธอเพื่อนทั้งสองคนของเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินมาทางเกรย์

    “เรนะ...”ฮันดะค่อย ๆ เรียกชื่อเธออย่างประหม่า

    “ไม่เจ็บใช่มะ... ”เธอถามก่อนจะยิ้มให้

    “อะ... อืม”

    “ฉันชักงงแล้วนะ!!! อธิบายมาดิ = =;;”แมกส์โวยวายอย่างโกรธเคือง

    “โอเค... ฉันจะเล่าให้ตั้งแต่วันนั้นแล้วกัน”ทุกคนเงียบและตั้งใจฟัง

    “วันนั้นเป็นวันที่ทอรัส... เพื่อนของพวกนายจะมาเก็บคิยามะ ฮิโรโตะ คนที่พึ่งตายไปเมื่อกี้ ตามความจริงที่ว่ากันนั้นไม่ใช่ทอรัสทำพลาดหรอก... เป็นเพราะมันเป็นแผนของคิยามะ ฮิโรโตะต่างหาก”

    “แผนหรอ”>>>ฮันดะ

    “ใช่... ความจริงแล้วทอรัสฆ่าคนอื่นแทน... แล้วคนนั้นก็คือ คิระ ฮิโรโตะ... เขาเป็น... แฟนฉัน”

    “อะไรนะ!?”>>>แมกส์

    “คิระ ฮิโรโตะเป็นลูกชายของตระกูลคิระ แต่คิยามะ ฮิโรโตะ นั้นเป็นบุตรบุญธรรมที่คนในตระกูลคิระรับมาเลี้ยง... ฉันก็ด้วย มันเป็นความบังเอิญที่ทั้งคิระและคิยามะหน้าตาคล้ายกัน วันนั้นคิยามะรู้ว่าทอรัสจะมาฆ่าเขาเขาจึงไว้วานให้คิระมาทำงานบริษัทแทน เขาเลยต้อง...”พูดเสร็จเรนะก็ค่อย ๆ ร้องไห้ออกมาก่อนจะระงับมันอย่างขมขื่น

    “ฉัน... เสียใจด้วย”ฮันดะพูดอย่างปลอบใจ

    “หลังจากนั้นฉันจึงทำตามสิ่งที่คิยามะสั่งในฐานะเพื่อนและพี่สะใภ้ ถึงแม้มันจะผิด... แต่ฉันก็พยายามที่จะหยุดให้เขาทำแต่ก็ไม่สำเร็จ... จึงคิดหาช่วงเวลาที่เหาะสมจัดการเขา... และก็สำเร็จ ที่ผ่านมาฉันขอโทษด้วยนะ”ทุกคนได้แต่เงียบ... ไม่พูดอะไรสักพัก

    “แล้วเธอจะทำยังไงต่อ”ฮันดะถาม

    “คงต้อง... ไปหาคิระแล้ว...”เรนะพูดก่อนจะเอาปืนขึ้นมาแล้วจ่อหัวตัวเอง

    “ทำงั้นไม่ได้นะ!!! มันบาปนะเรนะ”ฮันดะเตือนเธอ

    “งั้น... พวกนายฆ่าฉันให้หน่อยสิ”คำพูดของเรนะทำเอาฮันดะและแมกส์พูดไม่ออก

    “จะให้... ฆ่าเธอเนี่ยนะ!!? ฉัน”

    ปัง!!



    จู่ ๆ เกรย์ที่เงียบไปนานมากก็เอาปืนยิงใส่หน้าอกของเรนะจนเธออึ้งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มให้แล้วหลับตาลงพร้อมกับทรุดลงกับพื้นจมกับของเหลวสีแดงของตัวเอง

    “ทำอะไรของนายน่ะ เกรย์!!?”ฮันดะหันมาถามอย่างตกตะลึงและไม่อยากเชื่อ

    “ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่เธอคนนั้นขอร้อง...”

    “…”

    “ถ้าฉันฆ่าเธอสักเอง... เธอก็ไม่มีบาป ฉันก็แค่รับบาปของเธอมาเอง... และชดใช้มันก็พอ”พูดเสร็จเกรย์ก็เดินไปที่หน้าต่างแล้วตั้งท่าจะกระโดดลงไป

    “ฟุบุคิ... นายคงไม่คิดจะ... โดดลงไปใช่ไหม”แมกส์ถามอย่างฝืนยิ้ม

    “หึ... ไม่ต้องห่วง... สักวันเราต้อง...”ก่อนที่จะพูดจบเกรย์ก็ค่อย ๆ กระโดดลงไปแล้ว...

    J'ai rencontré à nouveau.(เจอกันอีกครั้งหนึ่งนะ)”พูดภาษาฝรั่งเศสออกมาก่อนที่ฮันดะและแมกส์วิ่งไปหาก็พบว่าเกรย์นั้นได้หายไปจาก...
     
     



    ตรงนั้นแล้ว
     
     


    .


    ..


    ...


     
    ตอนนี้พิธีฝั่งศพเพื่อนของเขาก็จะเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่กำลังจะยกฝาโรงมาปิดและฝั่งลงไปในหลุมแต่ว่า...

    “เดี๋ยวก่อนคะ!!”ตอนนั้นเองก็มีผู้หญิงผมสีเขียวมัดกล้าวเจ้าของดวงตาสีดำเรียวผิวสีแทนในชุดโลลิต้าสีดำวิ่งมาพร้อมกับช่อดอกไม้เยอบีร่าสีขาวมาอย่างร้อนรนจนคนอื่น ๆ หันมามองอย่างประหลาดใจ

    “มิโดริคาว่าจัง?”ฮันดะถามอย่างสงสัยก่อนจะมองออกไปก็พบว่ามิโดริคาว่านั้นมากับผู้ชายผมสีดำยาวมัดกล้าวเจ้าของดวงตาสีแดงส้มในชุดสูทสีดำเหมือนกัน

    “รุ่นพี่ซากิ...”ฮันดะเอ่ยเบา ๆ

    “มาทันใช่ไหม?”เขาถาม

    “ครับ”หลังจากนั้นก็มองมิโดริคาว่ากำลังเอาดอกเยอบีร่าออกจากช่อดอกหนึ่งแล้วเอามาวางไว้มันมือของอาสึยะเพื่อนของเขาก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ปิดฝาโรงแล้วฝั่งเขาทันที

    “เอ่อ... น้ารันน่ะคะ?”มอโดริคาว่าถามอย่างสงสัย

    “คุณป้าหรอ... เขาบอกว่าทำใจไม่ได้ขอกลับบ้านไปก่อนน่ะ”แมกส์อธิบายให้มิโดริคาว่าฟัง

    ตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ได้ฝั่งเรียบร้อยแล้ว มิโดริคาว่าจึงเอาช่อดอกเยอบีร่ามาวางบนหลุมศพอย่างอ่อนโยน

    “ฉันสงสัยตั้งแต่ตอนมาเยี่ยมอาสึยะตอนนั้นแล้วหล่ะนะ มิโดริคาว่าจัง... ทำไมให้ดอกเยอบีร่ากับอาสึยะหล่ะ?”ฮันดะหันมาถามเจ้าตัวอย่างสงสัย

    “(หัวเราะ)ก็ดอกเยอบีร่า... มันมีความหมายเหมือนกับอาสึยะคุงเขาน่ะ”

    “เหมือนหรอ?”

    “ใช่... ดอกเยอบีร่าแปลว่าไร้เดียงสา... เขาน่ะ... ไร้เดียงสาเหมือนตัวฉันไง... มักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ... ฉันยังแอบคิดเหมือนกันนะ... คนดี ๆ แบบอาสึยะคุงทำไมฉันถึงไม่ชอบเขา”คำพูดของมิโดริคาว่าทำให้ฮันดะเงียบอย่างขมขื่นก่อนหันมามองหลุมศพอย่างเศร้าใจ





    ตอนนั้นเองก็มีรกสปอร์ตสีเงินขับมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะจอดข้างทางแล้วคนก็ลงมาจากรถสองคน

    คนแรกเป็นผู้ชายผมสีน้ำตาลยกศกมัดกล้าวในชุดลำลองสีดำและใส่แว่นตาประหลาดสีฟ้าในมือถือถุงสีดำ

    ส่วนคนที่สองเป็นผู้ชายผมสีเงินยาวปรกบ่ามีที่คาดปิดตาแบบโจรสลัดมาปิดที่ตาข้างขวาในชุดลำลองสีดำเหมือนกันและในมือถือช่อดอกลิลลี่มา

    ทั้งสองก็เดินมาทางพวกฮันดะ พาฮันดะเงยหน้าหันมามองก็ตะลึงเล็กน้อยกับคนที่ปรากฏตัวมา

    “คุณทอรัส?”ฮันดะเอ่ยเบา ๆ ก่อนที่คนอื่น ๆจะหันมามองคนตรงหน้า

    “หวัดดีฮันดะ นี่ซาคุมะ จิโร่... เพื่อนของฉันเป็นนักข่าว”เขาแนะนำเพื่อนของเขาก่อนที่ซาคุมะจะอึ้งเล็กน้อยแล้วโค้งตัวตามธรรมเนียม

    “คุณเป็นใครคะ?”มิโดริคาว่าถามอย่างสงสัย

    “ผมเป็นเพื่อนของพี่ชายของเขาครับ”ทอรัสบอกก่อนยิ้มเจือน ๆ ให้ก่อนจะเอาของในถุงออกมาเป็นผ้าพันคอสีขาวทำจากไหมพรมแล้วเดินมาวางบนหลุมศพของอาสึยะ... มันคือผ้าพันคอของเกรย์ที่สู้ที่รัสเซียนั่นเอง

    ตามด้วยคนข้างๆ เดินมาวางช่อดอกลิลลี่ต่อจากเขาแล้วลุกขึ้นพร้อมกันแล้วหันมามองพวกเขา

    “คุณเป็นเพื่อนของอาสึยะหรอ?”ทอรัสถาม

    “ค่ะ... มิโดริคาว่า ริวจิค่ะ คุณทอรัส”พูดเสร็จเธอก็ยื่นมือมาให้ทอรัสจับมือเป็นการทักทาย

    “ไม่ต้องเรียกผมว่าทอรัสหรอก”ทอรัสพูดก่อนจะยื่นมือมาใกล้ ๆ มือของมิโดริคาว่า

    “คิโด ยูโตะ... นี่คือชื่อของผม”สิ้นประโยคเขามิโดริคาว่าก็แอบอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจับมือกับทอรัส

    “ค่ะ... คิโดคุง”หลังจากนั้นทั้งสองก็ปล่อยมืออกจากกัน

    “แล้วเกรย์หล่ะ”เขาหันไปถามฮันดะและแมกส์ซึ่งทั้งสองก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าหดหู่ลง

    “เขากระโดดหายไปแล้ว”สิ้นเสียงแมกส์ทอรัสก็ค่อย ๆ หันหลังกลับตั้งท่าจะเดินออกไป

    “เดี๋ยวครับคุณทอรัส!”สิ้นเสียงแมกส์เขาก็หยุดเดินแล้วรอฟังจากแมกส์

    “พวกเราจะได้เจอเกรย์อีกไหมครับ”เขาถามพร้อมกับค่อย ๆ ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างช้า ๆ ส่วนฮันดะก็ได้แต่มองอย่างเศร้าสร้อย มิโดริคาว่ากับโอซามุที่ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกันก็พบเดาได้ว่ากำลังหมายถึงใคร
     
     


    Un jour nous nous rencontrerons. Une fois de plus.(สักวันเราจะได้เจอกันอีกครั้ง)”จู่ ๆ ทอรัสพูดออกเป็นภาษาฝรั่งเศส สร้างความประหลาดใจให้กับคนอื่น ๆ

    “ถ้าเกรย์พูดแบบนั้น สักวันก็ต้องเจอแน่ จะช้าหรือเร็วยังไงก็เจอ”
     
     



    “เพราะเกรย์มันเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตัวเอง”สิ้นเสียงทอรัสก็เดินออกไปก่อนที่ซาคุมะจะมองอึ้ง ๆ แล้วเดินตามทอรัสไป

    พวกฮันดะก็ได้แต่มองทอรัสที่กำลังจะเดินจากไปอย่างอึ้ง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยิ้มออกมาแล้วมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีดำของเมฆ แต่สำหรับฮันดะแล้วเขาเหมือนเจอแสงอาทิตย์ส่องแสงความหวังมาให้เขา ใช่... อย่างที่ทอรัสบอก... สักวันต้องได้เจอกัน เพราะนั่นคือ

     
     
    เกรย์ ไอรอล เพื่อนผู้ไร้เดียงสาของพวกเขา

     
     

    หลังจากนั้นทอรัสและซาคุมะก็เดินออกมาจากหลุมศพของอาสึยะแล้วตั้งท่าจะขึ้นรถสปอร์ตที่ตัวเองขับมา

    “นี่ ทอรัส”ซาคุมะเอ่ยขึ้นทำให้ทอรัสหยุดเดิน

    “นายดูไม่ค่อยเสียใจเท่าไรเลยนะ... น้องเพื่อนนายทั้งคนน่ะ”ซาคุมะถามอย่างสงสัยก่อนมองทอรัสอย่างจับผิด

    “เสียใจหรอ?... ความรู้นั้น... มันตายจากฉันไปแล้วหล่ะ”ทอรัสพูดก่อนจะหัวเราะหึ ๆ แล้วเดินต่อปล่อยให้ซาคุมะยืนอยู่ตรงนั้น

    ไม่ใช่เชื่อหรอก เขาคิด



    เพราะเขารู้ดี... ว่าคนอย่างทอรัสน่ะ... มักไม่แสดงสีหน้าจากการทำสีหน้าแต่เป็นที่...
     
     





    แววตาของเขาต่างหาก
     
     



    ในบ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งมีร่างผู้หญิงผมสีแดงซอนสั้นซึ่งมีผมขาวแซม ๆ ตามกาลเวลากำลังนั่งบนเก้าอี้กินข้าวกำลังร้องไห้อย่างเดศร้าโศกเสียใจและกำลังกอดรูปภาพเด็กผู้ชายผมสีชมพูไว้อย่างแน่น เหมือนกลัวภาพนี้จะหายไป น้ำตาค่อย ๆ ร่วงลงกับพื้นจนเริ่มเป็นแอ่งน้ำตาเล็ก ๆ ของเธอ

    จู่ ๆ ก็ค่อย ๆ หัวเราะหึ ๆ ออกมาอย่างน่าประหลาดแล้วเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น และ
     
     

    เพล้ง!!!


    เธอฟาดกรอบรูปนั้นกับพื้นจนเศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งจนเหมือนคนไร้สติ

    “(หัวเราะ)เด็กคนนั้น...”เธอค้างไว้ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวโดยไม่สนใจว่ามีเศษแก้วจากกระจกได้บาดเท้าของเธอจนเลือดเริ่มไหลเป็นทาง แล้วหยิบส้อมและมีดทั้งหมดมาแล้วเอาถือปีดไว้ข้างหนึ่ง

    “...เด็กคนนั้น... เป็นน้องชายของ Killer!!!”

    ปึก!

    สิ้นประโยคเธอเอามีดปักที่รูปเด็กผู้ชายผมสีชมพูอย่างไม่ยั้งมือก่อนจะหยิบเล่มต่อไปมาทันที

    “หึๆๆๆ เด็กคนนั้นตายแล้ว...”

    ปึก!

    “ตายไปแล้ว”

    ปึก!

    “ฮะๆๆๆๆๆๆๆ ดีแล้ว ดีแล้ว!! ฮะๆๆๆๆ”

    ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก!

    เธอเอามีดแทงทีละเล่ม ๆ ๆ ๆ ๆ จนบนภาพมีแต่มีดปักเต็มไปหมดก่อนจะหัวเราพย่างบ้าคลั่งแล้วฉีกหน้าตัวเองออกมา
     




    ไม่สิ...
     


    นั่นไม่ใช่หน้าของเธอตั้งแต่แรกแล้ว

    พอเธอฉีกออกมาเผยให้เห็นเส้นผมสีดำยาวสลวยไร้ความแก่แบบหญิงสาวเมื่อกี้พร้อมกับค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินมาที่หน้าประตูพร้อมกับหยิบกระเป๋าเดินทางข้าง ๆ อย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูใส่รองเท้าให้เรียบร้อยแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีฟ้ากลมโตสวยนั่น

    “เอาหล่ะ... ต่อไปฉันจะแก้แค้นพวก Killerให้เจ็บแสบแบบที่...”
     
     




    “พวกแกทำกับน้องชายสุดรักทั้งสองคนของฉัน!”


    +❥ Free theme mouse. naru 

    จากผู้แต่ง :

    สวัสดีค่ะ!!! ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วนะค่ะ       อ๊ะๆๆๆๆ อย่าพึ่งถอดใจนะ เรายังมีตอนพิเศษมาเสริมอยู่ โดยคาดการณ์สัปดาห์หน้าได้เห็นแน่นอนค่ะ // สปอยสักนิดว่าตอนนี้จะโชว์ภาพวาดในเรื่องนี้ของผู้แต่งเอง คนที่เคยเห็นการวาดของผู้แต่งคงอยากดูและอยากอ่านเป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก ๆ ใช่ไหมค่ะ >< ก็อย่าลืมติดตามชมนะค่ะ เม้นเยอะ ๆ เชียร์เยอะ ๆ เพราะตอนนี้กำลังแต่งพล็อตเรื่องของคาเซะมารูได้หนึ่งตอนแล้ว และตอนนี้กำลังแต่งตอนที่สอง เอาใจช่วยเยอะ ๆ นะแฟน ๆ


    P.s. ลืมบอกไป เรื่อง Innocent Killer จำนวนหน้าทั้งหมด 220 หน้าค่ะ

    <<< กลับ Home page
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×