ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Ina]Judge Killer นักฆ่าผู้พิพากษา

    ลำดับตอนที่ #19 : >>Chapter 15 : Understand

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 55


    ここだよ...私のは本当にファック!(นายนี่มัน... น้องชายเฮงซวยจริงๆ!)’


    เสียงทอรัสนิ... หมายความว่าไงน่ะ

     
    あなた... (นาย...)’


    うん...それはちょうどジョンブルー·ブラッドだ...いや、中尉ブッシュフォン金武明私のここで。(ใช่... ลูดอฟ เซจอร์น บลัดไม่สิ... ร้อยตำรวจโทฟุบุคิ อาสึยะ)’



    อึก!!!
     
     
     
     
    ไม่จริง...

    เรื่องที่บลัดเป็นอาสึยะฉันเฉย ๆ แต่อาสึยะน่ะหรอเป็นตำรวจ!!!?


    ไม่จริง...


    ไม่จริง...

    ไม่จริง!!!

     

    แกร็ก!

    ‘ใครน่ะ’

    ‘เกรย์!?’

    鬼相 鬼相(พี่ครับ พี่ครับ!!!)’

     
    ไม่จริง
    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



    Chapter 15:Understand

         อนนี้ผมกำลังวิ่งตามพี่ที่ตอนนี้วิ่งหนีผมอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองแล้วปิดประตูดังปัง! แล้วล็อกกลอนไว้ทำให้ผมเปิดประตูห้องพี่ไม่ได้

    แล้วอย่างนี้ผมจะทำยังไงเนี่ย =[      ]=;;; ถัดจากการยอมรับความจริงก็มาอธิบายความจริงหรอเนี่ย!!!? ว้ากกกกกกก ผมอยากตาย T__T;

    ปังๆๆๆๆๆ!

    ผมเคาะประตูรัว ๆ อย่างรวดเร็วอย่างไม่กลัวความเจ็บปวดที่มือและไม่นึกเสียดายว่าประตูมันจะพัง(?)พร้อมกับผลัดบิดประตูไปมา ๆ เพื่อให้ปลดกลอนประตู

    “พี่ครับ!!!!”ผมเรียกพี่เป็นภาษาญี่ปุ่นแทนภาษาอังกฤษพร้อมกับเคาะประตูรัวไม่หยุดอย่างรวดเร็ว

    “พี่ครับ!!! เปิดประตูหน่อยสิครับ!!! พี่คะ...”

    “ฉันไม่เชื่อ...”ตอนนั้นเองเสียงพี่ก็ดังออกมาจากในห้องด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวและตกใจเป็นภาษาญี่ปุ่น... พี่...

    “ฉันไม่เชื่อ!!!!!!!!! อาสึยะตายไปแล้วฉันก็เห็นกับตา!!! แถมยัง... เป็นตำรวจอีกต่างหาก!”พี่ตะโกนออกมาด้วยความโทสะก่อนจะได้ยินเสียงพี่มาทุบที่ประตูจนประตูสั่นไปมาจนผมรู้สึกได้ถึงการกระทำที่รุนแรง... ที่เต็มไปด้วยความโทสะ

    “แล้วคิดว่าตอนแรกผมจะเชื่อหรือไง!”ผมสวนกลับไปซึ่งพี่ก็เงียบแทนคำตอบ

    “ในตอนแรกที่ผมได้รู้เรื่อง... ผมรู้จากฮันดะ และแมกส์... ที่ปลอบไปเป็นตำรวจที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นผมเสียความรู้สึกยิ่งกว่าพี่อีกนะ! เพราะทั้งเพื่อนที่ผมไว้ในเป็นนักฆ่าและมาหลอกลวงผม และมารู้ว่านักฆ่าที่ผมกำลังหมายตาจับเข้าคุกเป็นพี่อีกน่ะ! พี่คิดบ้างไหมหล่ะว่าผมรู้สึกยังไง!”ผมเริ่อธิบายซึ่งพี่ก็ยังคงเงียบโดยไม่มีท่าทีจะเปิดประตูและจะตอบกลับ

    “ผมเข้าใจที่พี่อยู่ที่ฝรั่งเศสแล้วเจอเรื่องมากมาย... แต่พี่เคยคิดบ้างป่าวว่าความรู้สึกของคนที่มีชีวิตอยู่แต่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่ตายจากโลกนี้แล้วรู้สึกยังไง!!!”ผมถามพี่ไปพร้อมกับมองประตูห้องพี่พร้อมกับดวงตาของผมเริ่มร้อนผ่าวและเริ่มมีของเหลวไหลออกมาอาบแก้มผม


    ผมรู้... ไม่ใช่พี่ไม่ตอบพร้อมไม่อยากตอบ... แต่กำลัง... ตัดสินใจอยู่ต่างหาก


    “พี่ครับ”

    “...”ไม่มีเสียงตอบกลับ

    “พี่เปิดประตูให้ผมได้ไหม”

    “...”

    “ถ้าพี่ไม่เปิด...”ผมพูดค้างไว้ก่อนจะหันหลังแล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง
     
     
     



    “...ผมก็ไม่รบกวนพี่แล้วกัน”
     
     
     

    เวลาต่อมา

    ตอนนี้ผมก็เดินเรื่อยเปื่อยตามเมืองโดยที่ผมเดินฟังเพลงในไอพอตไป... ไม่ได้เดินแบบนี้นานเท่าไรแล้วนะ ผมคิด จะว่าไป... ตอนนี้พี่ทำอะไรอยู่นะ ผมคิด

    “สวัสดี อาสึยะ”ตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงคนคุ้นเคยทักผมเป็นภาษาญี่ปุ่นดังขึ้นจากหลังผม พอหันไปก็พบร่างผู้ชายผมสีน้ำตาลหยักศกมัดกล้าวใส่แว่นตาประหลาด... ทอรัสนั่นเอง

    “สวัสดี”ผมทักกลับไป

    “ไปทานข้าวกันมะ”ทอรัสชวน

    “อืม... ก็ไม่เลว”
     
     

    หลังจากนั้นผมก็มาอยู่ในร้านโอริกาเน่ คาเฟ่ เลิฟ (ซึ่งคือร้านเดิมที่ผมและทอรัสไปฆ่านักเลงบ้า ๆ นั่นมา - - ;) กับทอรัสซึ่งผมสั่งข้าวผัดอเมริกันไปส่วนทอรัสก็สั่งวองโกเล่สปาเก็ตตี้ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มกินกันหลังจากที่พนักงานเสิร์ฟมาได้สักพัก

    “เกรย์เป็นไงบ้าง”ทอรัสถาม

    “พี่ขังตัวอยู่ในห้องแล้วไม่ยอมออกมา”

    “อืม”ทอรัสเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะตักสปาเก็ตตี้ไปคำหนึ่งเข้าปาก

    “พี่ผมไม่เป็นไร... แน่หรอ?”ผมถามทอรัสไป

    พอสิ้นเสียงของผมสักพักเขาก็เอาน้ำมะนาวปั่นที่สั่งดื่มเข้าไปเล็กน้อยก่อนจัเริ่มมองหน้าผม

    “ไม่ต้องห่วงหรอก... เห็นไร้เดียงสาและดูเด็ก ๆ อย่างนี้ แต่ความคิดเจ้านั่นน่ะ... มีเหตุผลมากกว่าฉันอีก... ปล่อยให้อยู่คนเดียวสักพักเถอะ... ไม่ต้องห่วง”ทอรัสบอกก่อนจะยิ้มให้ผม

    “แต่อยู่ในนั้น...”

    “ก็บอกว่าไม่ต้องห่วงไง”ทอรัสเริ่มลากเสียงอย่างรำคาญผมก่อนจะกินอาหารตรงหน้าตัวเองต่ออย่างไม่สนใจผมอีก ผมจึงจัดการตามทอรัสบ้าง... อืม... งั้นเอางี้แล้วกัน
     

     
    หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จผมก็เดินออกมาพร้อมถุงที่ใส่กล่องข้าวที่ผมสั่งเมื่อครู่เดินมาพร้อมกับทอรัส

    “ซื้อทำไมอีกกล่อง - -^”เขาถามอย่างสงสัย

    “เผื่อให้พี่น่ะ”ผมตอบกลับไปก่อนจะมองกล่องข้าวที่ตัวเองซื้อมา... หวังว่าฟิท แอน ชิพ ที่ผมซื้อจะถูกใจพี่เขานะ ผมคิด

    “หึ”ทอรัสหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะเริ่มเดินออกจากหน้าร้านพร้อมผม

    “ถามหน่อยนะ”

    “ว่ามา”

    “พี่ผมสนิทกับทอรัสคนเดียวหรอ?”ผมถามอย่างสงสัย

    “ก็... สนิทกับวินเซนต์ด้วยหล่ะนะ”หา!? ไอ้หัวฟ้าหน้าหล่อบาดใจนั่นน่ะหรอ = =;;; พึ่งรู้นะเนี่ย ผมคิด

    “ยังไงน่ะ ผมดูไม่ออกเลย”ผมถามอีกครั้ง

    “ก็ทุกอาทิตย์จะโทรมาหาเกรย์บ่อย ๆ น่ะ อ๋อ! รู้สึกจะโทรหาอเล็กว์ด้วย”ทอรัสอธิบายพร้อมกับทำหน้านึกไป

    “หรอ”สมควรอยู่... ดูสนิทกันดี ผมคิด

    “แล้วนี่นายจะไปไหนน่ะ”ทอรัสถามผมบ้าง

    “ก็หาพี่น่ะ”

    “หรอ... งั้นโชคดี”ทอรัสบอกก่อนจะตีจากผมไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดอะไรบ้างอย่างแล้วเอาโทรศัพท์ทาบที่หูเหมือนรอสายใครบางคนก่อนที่ตัวเขาจะหายไปกับผู้คนที่เดินไปมาเหลือผมคนเดียว

    เอาหล่ะ... ตาเราต้องไปบ้าง ผมคิด
     
     

    ตอนนี้ผมก็มาอยู่หน้าห้องพี่ที่ตึก Killer โดยผมยืนรออยู่หน้าประตูก่อนจะยื่นมือออกไปเคาะประตูสองสามทีแต่เงียบ... ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด

    ผมจึงลองบิดประตูดู... ก็ล็อกตามเคย... อยู่ในนั้นตั้งสามชั่วโมงกว่าแล้วนะ - -^ ผมคิด

    ผมจึงหันหลังแล้วพิงกับประตูห้องก่อนจะค่อย ๆ ไถลตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วเอาถุงใส่ข้าวมาไว้บนตักแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ไอฟอนขึ้นมาแล้วเล่นเกมส์ Angry Bird รอฆ่าเวลาไป


    ...



    ..



    .


     
    ตอนนี้ผมก็ยังคงเล่นเกมส์ Angry Bird ต่อไปโดยที่พี่ไม่เปิดประตูออกมาจากห้องแม้แต่นิดเดียว... ชักจะหิวแล้วนะ - -^ ผมคิด

    แกร็ก...

    แอ็ด...

    ตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงประตูปลดล็อดและเปิดออกจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่อยู่หลังผมอย่างสงสัย
    เป็นผู้ชายผมสีเทาไวโอเล็ตซอบเหมือนสีดวงตาตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อทีเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับกางเกงทีเทายาวพร้อมกับที่ไหล่นั้นมีผ้าขนหนูพาดอยู่เหมือนคนพึ่งอาบน้ำเสร็จซึ่งใบหน้าของเขาตอนนี้แสดงสีหน้าอย่างสงสัย

    “ไหนบอกว่าจะไม่รอไง”พี่ถามอย่างสงสัย
    ผมจึงลุกขึ้นก่อนจะปัดฝุ่นที่ก้นแล้วยื่นถุงข้าวที่ผมซื้อมาซึ่งตอนนี้ผมขอสันนิษฐานว่าเย็นหมดแล้ว - -^

    “ซื้อให้... ฉันหรอ”

    “(-__-)(_ _)(-__-)(_ _)”ผมพยักหน้าแทนคำตอบซึ่งพี่ก็รับโดยดี

    “นี่รอจนดึกเลยหรอ?”

    “ดึก?”ผมทวนก่อนจะมองนาฬิกาในโทรศัพท์ไอฟอนของผม ตายหฃ่ะหวา!!!? =___=; จำได้ว่าเล่นตอน 14.00 ตอนนี้ 19.30 น. แล้วมิน่า... ทำไมรู้สึกหิว ๆ กับเครื่องมันร้อน ๆ ผมคิด

    คร่อกคร่าก...

    “O___O?”

    “=////=;”ไม่ต้องสงสัยว่าเสียงไร... เสียงท้องผมร้องเอง

    “(หัวเราะ)”หลังจากนั้นพี่ก็หัวเราะก่อนจะส่งยิ้มให้ผม

    “ไม่ได้กินข้าวมาหรอ?”พี่ถามโดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พี่เริ่มแกล้งผมแล้วใช่ไหมเนี่ย!? - -^ ผมคิด

    “คงกินแล้วมั้งท้องร้องอย่างนี้”ผมตอบกวน ๆ ไป

    “(หัวเราะ)... งั้นเข้ามาสิ”สิ้นเสียงผมก็เดินเข้าไปในห้องของพี่อย่างเหนื่อยหน่าย(ได้เข้าสักที =[    ]=;)
    พอเข้ามาอยู่ในห้องปุ๊บผมแทบอึ้งกับภาพตรงหน้าและมองจนผมไม่กระพริบตา... เพราะห้องสุดยอดมาก!!!!!!!!!!!!!!! จะระเบียบสุด ๆ เหมือนตอนจักห้องพักตอนนั้นไม่มีผิด... ผิดกับผมเลยแหะ - -; ผมคิด
    ผมจึงเดินตามพี่ซึ่งพี่ก็ผายมือให้ผมนั่งตรงโต๊ะญี่ปุ่นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหายเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง ส่วนผมก็รีบนั่งแล้วฟุบลงกับโต๊ะอย่างเหนื่อยหน่ายสักที... โอย... สบาย -w- ผมคิด

    ตอนนั้นเองที่จมูกผมก็ได้กลิ่นหอม ๆ ของอาหารโชยเข้ามา ผมจึงลุกจากการนอนลงกับโต๊ะดูภาพตรงหน้าก็พบพี่เดินออกมาพร้อมกับมาม่าถ้วยที่ใส่น้ำร้อนเรียบร้อยแล้วมาวางไว้บนโต๊ะ มิน่า... มีเสบียงครบคันจึงอยู่นาน - -^ แล้วผมจะซื้อมาเปลืองทำไมฟร่ะ!? = =;ผมคิด

    “กินสิ”พูดเสร็จพี่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องเดิมอีกรอบแต่คราวนี้ออกมาพร้อมกับฟิต แอน ชิพ ที่ผมซื้อมาให้

    “พี่จะกินหรอ... มันตั้งนานแล้ว”ผมถามอย่างหงุดหงิด

    “ก็น้องซื้อมาให้จะไม่กินได้ไง ^^”สิ้นประโยคนั้นผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองก่อนจะมองพี่อย่างตกตะลึงแต่ก็พบว่าพี่เริ่มกินไปแล้ว - -; เมื่อเห็นงั้นผมจึงกินตามไปบ้าง... คงหูฝาด ผมคิด
     

    เวลาต่อมา...

    อา... อร่อย -w- ผมคิดในใจหลังจากที่ผมกินมาม่าถ้วยเมื่อกี้เสร็จอย่างรวดเร็วภายในเวลาโดยประมาณ 5 นาทีซึ่งพี่ยังกินไม่หมดเพราะได้แต่มองผมแบบตาไม่กระพริบ

    “(หัวเราะ)”หลังจากนั้นพี่ก็เอามือปิดปากตัวเองก่อนจะหัวเราะอย่างอดกลั้นไว้ ผมตลกหรือไง = =;;;//

    สักพักพี่ก็กินเสร็จก่อนจะเก็บจากของผมและของพี่แล้วเอาเข้าห้องเดิมแล้วออกมาพร้อมกับมานั่งที่เตียงที่อยู่ถัดจากโต๊ะญี่ปุ่นก่อนจะคลานบนเตียงไปตรงตู้ที่อยู่ติดกับหัวเตียงแล้วเอากระเป๋าลานสก็อตสีแดงเล้ก ๆ ออกมาวางบนเตียงแล้วหันมามองผม

    “มานั่งตรงนี้”

    “ห๊ะ!?”ผมร้องออกมาอย่างเสียงหลง

    “ไม่มาก็ออกจากห้อง -__-”

    “ครับ - -;”สิ้นเสียงผมก็เดินไปที่เตียงแล้วนั่งตรงที่พี่บอกอย่างว่าง่าย(แบบทำใจ)

    “ถอดคอนแทกเลนต์ออกมา”สิ้นคำสั่งของพี่ผมก็ถอดออกมาใส่ในที่เก็บที่พี่เตรียมไว้อย่างว่าง่าย พี่มีของพวกนี้ด้วยหรอ - -; ผมคิด

    แล้วจู่ ๆ พี่ก็เอาอะไรบางอย่างมาทาที่หัวของผม อ๊าก!!!! เย็นมากเลยเว้ยเฮ้ย = =;;

    “พี่!! มันเย็น เอาอะไรทาหัวผมน่ะ!?”ผมถามอย่างตกใจ

    “ไม่เงียบก็ออกไป -__-”

    “ครับ Y__Y;”ผมทำใจให้พี่ยุ่งกับหัวผมต่อไป ทำไมวันนี้พี่สั่งผมจัง ผมคิด

    หลังจากที่ผมหยุดพูดพี่ก็ทาอะไรบางอย่างบนหัวของผมต่อไปแล้วก็เอามาอย่างมาเช็ดหัวผมไปเลื่อย ๆ แล้วก็หยุดเช็ดแล้วก็เดินไปรื้อของบางอย่างในกระเป๋าผมจึงชำเลืองมองรอยตัวเล้กน้อยก็พบว่ารอบ ๆ ตัวผมมีกระดาษทิชชู่ที่เลอะคราวสีแดง ๆ และมีขวดน้ำยาบางอย่างอยู่ข้าง ๆ ผมจึงหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นภาษาฝรั่งเศสผมจึงอ่านในใจซึ่งแปลว่า

    Dissolvant deteinture pour les cheveux. (น้ำยาล้างสีย้อมผม)’

    โอ้... งั้นอย่างนี้หัวผมก็สีชมพูเหมือนเดิมแล้วสิ... หง่า... อุตส่าห์ยอมลงทุนจ่ายเงินทำผม เซ็ง - -; ผมคิด

    หลังจากนั้นพี่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบพัดลมมาสองตัวแล้วก็เสียบปลั๊กแล้วค่อยเอาไดท์เป่าผมมาเสียบอีกทีแล้วค่อยเดินไปเลื่อยพัดลมให้มันหันมาทางหน้าผมก่อนจะเปิดเบอร์สามจ่อหัวผมและก็ค่อยรีบเดินมาใช่ไดท์เป่าผมมาเป่าหัวผมต่อ

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก หน้าตรู = =;;; ชาด้วยแรงปะทะลมไปหมดแล้ว อ๊ากกกกกกกกกก พี่คิดจะทำอะไรเนี่ย!!!?
     
     

    หลังจากนั้น


    “-_____-...”>>>สภาพหน้าผมในตอนนี้


    หลังจากนั้นจู่ ๆ หน้าผมก็สัมผัสกับอะไรบางอย่างที่เย็น ผมจึงค่อย ๆ ลืมตาที่ชา(จากแรงลมอันมหาศาลจากพัดลมสองตัว(แถมไดท์เป่าผมอีกหนึ่งตัว))จนพบว่าพี่เอาผ้าขนหนูที่ตอนนี้ชุ่มด้วยน้ำมาเช็ดหน้าผมแล้วค่อยมาเช็ดคอผมต่อ

    “(หัวเราะ)อย่างนี้ค่อยเหมือนอาสึยะขึ้นหน่อย”สิ้นเสียงผมก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนจะมองพี่อย่างตกตะลึง... พี่...

    “พี่...”ตอนนี้หน้าผมค่อย ๆ มีของเหลวใส ๆ ไหลอาบแก้มทั้งที่ผมกำลังยิ้มอยู่ ซึ่งพี่ก็ยิ้มตอบกลับผมทำเอามาแทบพูดออกมาเป็นคำพูดไม่ออก... ดีจัง... แต่ว่า...

    “แต่ผม...”ผมพูดออกมาอย่างละอายใจ

    “เอาเถอะ... ผ่านมาแล้ว... บางทีอาสึยะเป็นตำรวจก็น่าจะเป็นตำรวจที่ดีใช่ไหมหล่ะ”พูดเสร็จพี่ก็ค่อย ๆ เอามือมาปาดที่ตาผมเบา ๆ ก่อนจะลูบหัวผมเบา ๆ รู้สึก... ดีจัง

    “พี่ครับ!”ผมเรียกพี่พร้อมกับกอดพี่อย่างคิดถึงซึ่งพี่ก็ตอบผมกลับเช่นกัน... ดีจัง... หลังจากนั้นผมและพี่ก็ค่อย ๆ คลายจากการกอดแล้วพี่ก็ยิ้มให้ผมส่วนผมก็มองพี่พร้อมกับแอบอมยิ้มไว้เล็กน้อย รู้สึกดีจัง... พี่ชาย... ของผม... อยู่ตรงหน้าผมแล้ว... ถึงแม้ที่ผ่านมานั้นผมและพี่ทำอะไรไปบ้าง... แต่มันเป็นอดีตแล้ว... ผมไม่สนใจหรอก... สิ่งที่สนใจในตอนนี้คือปัจจุบัน... โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ตรงหน้าผม

    “ว่าแต่... ของพวกนี้พี่ไปเอามาจากไหน”ผมถามอย่างสงสัย

    “อ๋อ... อาเอามาให้ใช้ตอนปลอมตัวในเวลาทำงานน่ะ ^^; แต่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร”พี่อธิบายก่อนจะหัวเราะแหะ ๆ ออกมา อย่างนี้นี่เอง

    “อาสึยะ”สิ้นเสียงพี่ผมก็หันไปมองพี่อย่างสงสัยก่อนจะพบว่าพี่ได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วประทับริมฝีปากที่หน้าผากผม เดี๋ยวนะ!!!?

    เมื่อกี้...

    จะ... จะ...

     




    จูบหน้าผากหรอ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! =[]=;;;;;;;;; >>>อาการสาวกวายเริ่มกำเริบ(หลังจากที่หายไปหลายตอน - -;)

    “พี่ทำอะไรน่ะ!!!= =;;/////”ผมโวยวายอย่างตกใจก่อนจะผงักออกห่างจากพี่อย่างร้อนรน ว้ากกกกกกกกกกกกก อะไรว่ะเนี่ย ทำไมมันรู้สึกถึงว่าหัวใจผมมันเต้นดังอย่างกะเสียงกล่องในเทศกาลของญี่ปุ่น ไม่ใช่ๆๆๆๆ มันดังแบบเสียงกลองในเทศกาลตรุษจีนดังแบบ ตะลุ้งตุ้งแช่! แถมหน้าผมอย่างร้อนแบบว่าไม่เคยรู้สึกมาก่อน อะ... อะไรว่ะเนี่ย!!!!! ผมโวยวายในใจ(ยาวจริง ๆ - -;)

    “อ้าว?... ก็จูบหน้าผากไง ^^”ว้ากกกกกกกกกกกกกก พี่ยังมีหน้ามาทำหน้าตายิ้มแย้มแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกหรอ = =;; อย่าบอกนะว่า...

    “พี่... ปะ... เป็นเกย์ = =;;”ผมพึมพำเบา ๆ อย่างหวาดกลัว

    “หืม?... เกย์ อะไรของอาสึยะน่ะ - -; ก็พี่เห็นทอรัสกับอเล็กซ์ยังทำกันเลย”ว้ากกกกกกกกกก อย่าบอกนะว่าอเล็กว์กับทอรัสมีเวอร์จิ้นสัมพันธ์กันอยู่นะ =.,= ว้ากกกกก ไม่ยักจะรู้!!!!!!!!!! >>>สติล่องลอยแล้ว - -;

    “รู้สึกจะทำกับน้องสาวน่ะ”ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก อะ อ้าว - -; อย่างนั้นหรอกหรอ? แต่...

    “อย่างนั้นมันทำเฉพาะพี่ชายทำกับน้องสาว พี่ชายกับน้องชายมีที่ไหน = =;;;//”ผมโวยวายกับไปอย่างเหลืออด

    “ก็นึกว่ามันทำเหมือน ๆ กันนิ”พี่พึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิดก่อนจะเอาของที่รื้อมาไปเก็บแล้วค่อยเดินไปหยิบอะไรบางอย่างมาแล้วเดินมาหาผม

    “คือ... อาสึยะ”

    “? อะไรหรอ?”ผมถามก่อนจะหันมามองอย่างสงสัย

    “ตอนไปทะเลน่ะ... นี่ใช่ของอาสึยะป่าว (_-;//)”พี่ถามผมก่อนจะหันไปมองทางอื่นอย่างหวาดกลัวเล็กน้อยแล้วแก้มก็แดงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะชูหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาในมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างก็จับกางเกงตัวเองอย่างแน่นอย่างกับระงับอะไรบางอย่างไว้

    พอผมสังเกตหนังสือดี ๆ เท่านั้นแหล่ะ ผมแทบพูดออกมาไม่ออกก่อนจะร้อง ‘ไอ้หยา’ อย่างตกตะลึงก่อนจะรีบถลาคว้าหนังสือจากมือของพี่แล้วเก็บไว้กับตัวอย่างรวดเร็ว
     


    นั่นมันหนังสือวายเรื่อง Sugar Stawberry Love R18+ ที่ผมหาพลิกห้องพักตัวเองตั้งนานว่ามันหายไปไหน = =;;///// ตายหล่ะ! อยู่กับพี่หรอเนี่ย = =;;;

    พี่อ่านไปยังเนี่ย T__T/// ผมคิด

    “พี่ครับ... อ่านไปยัง T__T”ผทหันไปถามอย่างหวาดกลัว

    “อ่านแล้ว”จ้ากกกกกกกกกกกก หมดกัน T0T ผมคร่ำครวญในใจ

    “แล้ว... พี่รู้สึกยังไงบ้าง = =;;”

    “ก็... สงสัยมากเลยว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้นน่ะและก็... รู้สึกแปลก ๆ ตอนอ่านช่วงกลาง ๆ น่ะ”เอาแล้วไงพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอา(แถมทวดหลานเหลนเอาไหม - -; :ผู้แต่ง)

    “ยะ... ยังไง”

    “มันวูบ ๆ แปลก ๆ และเสียวสันหลัง”นั่นไง...

    “พอพี่อ่านตรงนั้นพี่ทำไงน่ะครับ”

    “ก็อ่านไปเรื่อย ๆ จนจบ”โอ้... มีรางว่าพี่มีโอกาสเป็นแบบผม 50% - -; ทำไงดี!!!!

    “แต่พี่สงสัยว่าชายกับชายทำแบบนั้นได้ด้วยหรอ?”อ๊ากกกกกกกกกก ดูพี่ถามสิ ผมพูดไม่ออก Y///////Y

    “มันเป็นความบันเทิงแหกกฎครับพี่ อย่าใส่ใจ ^^;”ผมรีบแก้ตัวทันทีเพื่อไม่ให้พี่สนใจเรื่องพวกนี้เยอะ

    “หรอ? แอบสงสัยนะ”อีกแล้ว Y_Y////

    “ในเรื่องมันชายกับชายเพราะรักใช่มะ”

    “ครับ”

    “แล้วพี่กับอาสึยะจะทำกันได้ป่าว”

    ฉึก!





    หูฝาด = =;;;/// ผมคิด

    “เมื่อกี้ถามว่าไรนะครับ?”

    “พี่ถามว่าแล้วแบบนี้อาสึยะกับพี่ทำแบบนั้นได้ป่าว”ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก พะ... พี่ถามอะไรออกมาเนี่ย!!!!!!!!!! โอ้โน่!!! =////[      ]/////=

    “=[    ]=;///”ผมอ้าปากค้างจนพูดไม่ออก

    “ทำไมถามงั้นน่ะครับพี่ = =;;”ผมถามพี่อย่างหวาดกลัว(เล็กน้อย)

    “ก็พี่...”
     
     
     


    “... รักอาสึยะนะ”หะหา!!!!? อะไรนะ

    “พี่รักอาสึยะมาก ๆ เลยนะ... พี่คิดถึงอาสึยะทุกวันตั้งแต่วันที่อาสึยะจากพี่ไป พี่ก็เขียนไดอารี่ถึงอาสึยะและพ่อแม่ทุก ๆ วันเลย... ยิ่งตอนนี้อาสึยะก็อยู่ตรงนี้แล้วด้วยพี่ยิ่ง... มีความสุขมากเลย ที่คนที่พี่รักที่สุดนั่งอยู่ตรงนี้... อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้”พี่พูดออกมาก่อนจะมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง ส่วนผมก็ได้แต่มองพี่อย่างตกใจแถมด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวอย่างหาสาเหตุไม่ได้… ตอนนี้ผมเห็นด้วยกับคำพูดของทอรัสขึ้นมาหน่อยแล้วว่า... พี่มีเหตุผลมากกว่าทอรัสจริง ๆ

    “พี่ไม่รู้นะว่าความรักที่พี่เห็นทุกวันนี้มันคืออะไรแต่พี่รักอาสึยะแบบ... คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพี่... ไม่ใช่แบบชายหญิงอย่างนั้นแต่เป็นแบบคนพิเศษในครอบครัวแล้วพี่ก็ไม่รู้ว่าแบบไหนแสดงความรักเพราะที่ฝรั่งเศสกับเพื่อนยังหอมแก้มกันเลย พี่เลยไม่รู้ทำแบบไหนถึงจะถูก”พี่พูดก่อนจะค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ผมเล็กน้อย

    “เป็นอันว่า... ที่พี่ทำเพราะรักอาสึยะในแบบของพี่หล่ะกันนะ”สิ้นเสียงพ็ค่อย ๆ ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ แล้วประทับริมฝีปากกับริมฝีปากผมเบา ๆ จนผมเริ่มเคลิ้มกับการกระทำของพี่แล้วค่อย ๆ หลับตาลงเพื่อสัมผัสมันต่อไป
    ผมว่าในหนังสือวายทุกเรื่องที่ผมอ่านมา สิ่งที่ผมเจออยู่ ณ ตอนนี้ถือว่าโรแมนติกแบบหวานและรุนแรงน้อยที่สุดในบรรดาทั้งหมดแล้วนะ


    แต่ทำไมกันนะ...


    มันถึงทำให้หัวใจของผม...
     


    เต้นรัวยิ่งกว่าอ่านหนัวสือวายที่รุนแรงที่สุดถึงที่สุดทั้งที่แค่แตะริมฝีปากเบา ๆ หรือเป็นเพราะผม... เริ่มหลงรักพี่ตัวเองแล้วหรอ?
     

    หึ แอบขำในใจนะ... ที่ผ่านมาคำว่ารักของผมคิกคนที่เห็นแล้วรู้สึกคำว่าใช่ ไม่เคยคิดว่าเป็นความรักแบบครอบครัวอย่างที่พี่เล่าไปเมื่อกี้บางทีนะ... การแสดงความรักแบบนี้ไม่จำเป็นต้องกับคนรักก็ได้...
     
     


    ว่ามะ : )
     

    ในเมืองโตเกียวที่มีแสงอรุณยามเย็นสาดส่องไปทั่วเมืองทำให้เมืองในตอนนี้เป็นสีส้มงดงามและก็ค่อย ๆ กลายเป็นสีดำแห่งความมืดในยามกลางคืน

    ในซอยเล้ก ๆ ตรงซอกตึกแห่งหนึ่งนั้นมีร่างผู้หญิงผมสีเขียวมัดหางม้าในชุดเสื้อโค้ชสีน้ำตาลที่ซ่อนชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของของดวงตาสีดำเรียวที่ทอประกายอย่างหวาดกลัวกำลังวิ่งหนีใครบางคนมาอย่างร้อนรน

    ปัง!

    “กรี๊ด!”เธอร้องอย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งหนีไปมาอย่างสุดแรงก่อนจะมาหลบอยู่ข้าง ๆ ถังขยะใบหนึ่งที่ซึ่งแสนสกปรกและกลิ่นเหม็นสาบ

    ถึงจะเป็นอย่างนั้นสำหรับเธอในตอนนี้ขอแค่รอดพ้นจากคนที่ไล่ล่าเธอมาก้พอ เธอคิด

    พอหาที่หลบได้เธอก็พยายามหยิบโทรศัพท์บีบีสีดำก่อนจะกดเบอร์แล้วโทรออกหาคน ๆ หนึ่ง

    (เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งหนึ่งค่ะ)   พอได้ยินอย่างนั้นในใจของเธอยิ่งหวาดกลัวขึ้นอีกครั้ง คนที่เธอไว้ใจที่สุดดันมาปิดเครื่อง

    แต่เธอก็พยายามโทรหาเบอร์อีกเบอร์หนึ่งอย่างรวดเร็วแต่กับพบว่าเบอร์อีกเบอรืที่ไว้ใจไม่แพ้เบอร์แรกดันไม่มีการใช้งานแล้ว

    เธอได้แต่ทำหน้าเคร่งเครียด... เธอจะทำยังไง

     
    ตอนนั้นเองที่ฉุดนึกถึงคน ๆ หนึ่งได้จึงโทรไปหาเบอร์นั้นแต่ว่า

    (ฝากข้อความกรุณากดดอกจันแล้วกดหนึ่งค่ะ)

    กลายเป็นว่าต้องฝากข้อความแทน... เอาเถอะ... ดีกว่าหาทางติดต่อไม่ได้เลย เธอจึงกดตามที่โทรศัพท์บอกก่อนจะเริ่มพูดในการฝากข้อความ

    “อาสึยะคุง... ช่วยฉันด้วย! ฉันถูกคนตามล่า!! ตอนนี้อยู่ซอยเล็ก ๆ แถว ๆ ตึกมิอุระกิ ชะ... กริ๊ด!!!”เธอกริ๊ดร้องอย่างตกใจก่อนที่จะถูกคนที่พบเห็นเธอกระชากโทรศัพย์เธอไปก่อนจะกดโทรออกแล้วคว้าโทรศัพท์ของเธอทิ้งอย่างไม่ใยดีพร้อมกับต่อยที่ท้องของเธออย่างรวดเร็วจนเธอสลบไป

    หลังจากนั้นคนที่ต่อยเธอคนนั้นก็ค่อย ๆ ทรุดคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับมองคนที่ตัวเองพึ่งทำร้ายไปอย่างเศร้าสร้อย

    “ขอโทษครับคุณมิโดริคาว่า... ผมจำเป็นต้องทำเพราะคำสั่งของหัวหน้า”สิ้นเสียงเขาก็แบกร่างเธอไว้บนบ่าของเขาแล้วเดินออกไปพร้อมกับความมืดในซอยและความมืดของท้องฟ้าที่กลายเป็นสีดำของเวลาค่ำคืน

    +❥ Free theme mouse.naru 

    จากผู้แต่ง :
    สวัสดีค่ะ!!! (โผล่มาสักที - -;;)ก็ขอโทษที่มาลงนานนะค่ะ(มาก!!!!!!!! ตั้งสัปดาห์หนึ่ง) ตอนนี้อ่านแล้วก็เม้นกันเยอะ ๆนะ(ตั้งเป้าไว้ว่าตอนนี้นี่แหล่ะที่ทุกคนคงรอมานาน อิอิ : ))ส่วนที่ทุกคนเดาตัวร้ายของเรื่อง ทำไมถึงเดาฮิโรโตะกันหล่ะ - -;; (เศร้าสร้อย)เอาเป็นว่ามารู้ตอนต่อไปแล้วกันมาว่าเป็นยังไง ทุกคนคงรู้แล้วนะถ้าอยากอ่านของคาเซะมารูต้องทำยังไง : ) ผู้แต่งท่านนี้จะทวนให้
    1.คอมเม้นท์ 200 คอมเม้นทืนะจ้ะ
    2.คนอ่าน 600 ผู้เข้าชมนะจ้ะ
    3.แฟนคลับ 15 คนนะ
    4. (มีอีกหรือ - -;;) 5555 ล้อเล่น
    ก็ถ้าช่วงเรียนหนังสือแล้วครบตามเป้าหมายก็คงลงหน้าแรกล่อตาล่อใจแฟน ๆ ของวินเซนต์ ชานล์กันก่อน (คาเซะมารูนั่นแหล่ะ - -;)ก็อย่าลืมคอมเม้นท์เยอะ ๆ และถ้าเรื่องนี้สนุกมาก ๆ ก็อย่าลืมให้ไปแจกจ่าย(!?)ให้คนอื่น ๆ มาอ่านด้วยนะ >< บ้าบบาย เดี๋ยวมาเจอกันตอน(ใกล้)สุดท้ายกันนะ : )

    <<< กลับ Home page
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×