ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนื้อเพลง Anime

    ลำดับตอนที่ #176 : Katekyo Hitman Reborn: Setsuna no Kioku (ความทรงจำชั่วเสี้ยวเวลา)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 53


     Katekyo Hitman Reborn: Setsuna no Kioku <The Instant Memory>

     

    Description: Chrome Dokuro image song
    Sung by Akesaka Satomi as Chrome Dokuro




    瞳を閉じて 問いかけてみた いつまでも消えない 夢のイキサツ

    鏡に映る 幻はただ 静かに奏でる メロディー

    胸刺す 寂しさの中 憧れはつのる日

    セツナノキヲク 飛び越えて行きたい 今は

    ひとときの風が 流れてく星が
    運んでくれるの キラメキながら
    かすかに聴こえる あのやさしい声
    街の灯も微笑んでる

    ひとときの風も 闇に咲く花も
    光隠してる トキメキながら
    かすかに聴こえた なつかしい声
    窓を開け見上げてみる もう一度

    心の声に 気づいて欲しい いつまでも覚めない 夢を見ていた
    瞳に残る 面影をまだ 密かに彩る メロディー

    胸刺す 苦しさの中 たしかな誓いを手に
    セツナノキヲク 飛び越えて行きたい ひとり

    ひとときの風が 流れてく星が
    運んでくれるの キラメキながら
    かすかに聴こえる あのやさしい声
    街の灯も微笑んでる

    すぎてゆく季節 戻らない時間
    立ち止まることが かなわないなら

    あの日の思い出 色褪せぬ様に
    希望の光 この手で 照らそう

    ひとときの風が 流れてく星が
    運んでくれるの キラメキながら
    かすかに聴こえる あのやさしい声
    街の灯も微笑んでる

    ひとときの風も 闇に咲く花も

    光隠してる トキメキながら
    かすかに聴こえた なつかしい声
    窓を開け見上げてみる もう一度

    ************************************************

    Hitomi wo tojite toikaketemita itsumademo kienai yume no IKISATSU

    Kagami ni utsuru maboroshi wa tada shizuka ni kanaderu MERODII

    Munesasu sabishisa no naka akogare wa tsunoru hibi

    SETSUNA NO KIOKU tobikoeteyukitai ima wa

    Hitotoki no kaze ga nagareteku hoshi ga

    Hakondekureru no KIRAMEKI nagara

    Kasuka ni kikoeru ano yasashii koe

    Machi no hi mo hohoenderu

    Hitotoki no kaze mo yami ni saku hana mo

    Hikari kakushi teru TOKIMEKI nagara

    Kasuka ni kikoeta natsukashii koe

    Mado wo ake miagetemiru mou ichido

    Kokoro no koe ni kizuite hoshii itsumademo samenai yume wo miteita
    Hitomi ni nokoru omokage wo mada hisoga ni irodoru MERODII

     

    Munesasu kurushisa no naka tashikana chikai wo te ni

    SETSUNA NO KIOKU tobikoeteyukitai hitori

     

    Hitotoki no kaze ga nagareteku hoshi ga

    Hakondekureru no KIRAMEKI nagara

    Kasuka ni kikoeru ano yasashii koe

    Machi no hi mo hohoenderu

    Sugi te yuku kisetsu modoranai jikan

    Tachidomaru koto ga kanawanainara
    Ano hi no omoide iroasenu you ni
    Kibou no hikari kono te de terasou

     

    Hitotoki no kaze ga nagareteku hoshi ga

    Hakondekureru no KIRAMEKI nagara

    Kasuka ni kikoeru ano yasashii koe

    Machi no hi mo hohoenderu

     

    Hitotoki no kaze mo yami ni saku hana mo
    Hikari kakushi teru TOKIMEKI nagara
    Kasuka ni kikoeta natsukashii koe
    Mado wo ake miagetemiru mou ichido

     

    ************************************************

     

    ฉันได้หลับตาลง แล้วลองถามตัวเอง ถึงสาเหตุของความฝัน ที่มิเคยจะลบเลือนหายไป

    ภาพมายาที่สะท้อนในผืนกระจก เป็นแค่เพียงท่วงทำนองซึ่งบรรเลงไปอย่างเงียบงัน

     

    ความปรารถนาที่มีอยู่ ภายในความอ้างว้าง ที่คอยเสียดแทงหัวใจ นับวันมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น

    ฉันอยากที่จะก้าวข้าม ความทรงจำชั่วเสี้ยวเวลาที่มีไปเสียให้พ้นเลยในตอนนี้

     

    สายลมชั่ววูบและดวงดาวที่ร่วงลาลับ

    ได้เปล่งประกายระยับระยิบ พลางนำพาเสียงอันอ่อนโยนนั้น

    มาให้ได้ยินแผ่วแว่วหวาน

    แม้เพียงดวงไฟในเมืองก็กำลังแย้มยิ้มอยู่เช่นกัน

     

    ไม่ว่าสายลมชั่ววูบที่พายพัดมา หรือดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางความมืดมิด

    ต่างก็มีชีวิตอยู่ โดยคอยหลบซ่อนแสงสว่างที่มีเอาไว้

    ฉันได้ยินเสียงที่ชวนโหยหา ลอยมาให้ได้ยินแผ่วเบา

    จึงได้ลองเปิดหน้าต่างออกแล้วแหงนมองหา อีกครั้งหนึ่ง

     

    อยากให้เธอได้รู้สึก ถึงเสียงจากหัวใจนั้น ฉันได้ฝันถึง ความฝันที่ไม่ว่าเมื่อใดก็มิอาจลืมตื่นได้เลย

    บทเพลงยังคงแต่งแต้ม ภาพเงาที่ยังคงหลงเหลือ อยู่ในดวงตา โดยมิมีใครเลยจะล่วงรู้

     

    ภายในความทุกข์ทรมาน ที่คอยเสียดแทงดวงใจ ฉันได้รับคำสาบานที่จริงแท้ มาไว้ในมือ

    ฉันอยากที่จะก้าวข้าม ความทรงจำชั่วเสี้ยวเวลาที่มีไปเสียให้พ้น แม้เพียงลำพัง

     

    สายลมชั่ววูบและดวงดาวที่ร่วงลาลับ

    ได้เปล่งประกายระยับระยิบ พลางนำพาเสียงอันอ่อนโยนนั้น

    มาให้ได้ยินแผ่วแว่วหวาน

    แม้เพียงดวงไฟในเมืองก็กำลังแย้มยิ้มอยู่เช่นกัน

     

    หากไม่อาจหยุดเวลาไว้

    ในช่วงเวลาที่ไม่อาจจะหวนคืนย้อนไป เช่นดั่งฤดูกาลที่เลยผ่าน

    ฉันก็จะทำให้แสงสว่างแห่งความหวังได้สุกสกาวด้วยมือนี้เอง

    เช่นเดียวกับความทรงจำในวันนั้น ที่เหมือนว่าจะไม่มีวันซีดจางลบเลือนหายไป

     

    สายลมชั่ววูบและดวงดาวที่ร่วงลาลับ

    ได้เปล่งประกายระยับระยิบ พลางนำพาเสียงอันอ่อนโยนนั้น

    มาให้ได้ยินแผ่วแว่วหวาน

    แม้เพียงดวงไฟในเมืองก็กำลังแย้มยิ้มอยู่เช่นกัน

     

    ไม่ว่าสายลมชั่ววูบที่พายพัดมา หรือดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางความมืดมิด

    ต่างก็มีชีวิตอยู่ โดยคอยหลบซ่อนแสงสว่างที่มีเอาไว้

    ฉันได้ยินเสียงที่ชวนโหยหา ลอยมาให้ได้ยินแผ่วเบา

    จึงได้ลองเปิดหน้าต่างออกแล้วแหงนมองหา อีกครั้งหนึ่ง

     

    ************************************************

    Download:

    http://www.mediafire.com/?26vh9k317whacxt

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×