คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #174 : 10 มังงะฮาเร็มที่แนะนำ by Cammy (1)
สวัสดีครับ ถ้าคุณอ่านบทความดูการ์ตูนฯ จนถึงตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้คงอธิบายได้คร่าวๆ แล้วว่าผมชอบการ์ตูนแนวอะไร และไม่ชอบแนวอะไร และการ์ตูนอะไรที่ผมมักแนะนำมากที่สุด แน่นอนครับส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มแหละ เพราะจุดประสงค์ของผมตอนแรกคือการทำให้สังคม(แม้จะเล็กๆ) ให้รู้จักฮาเร็มมากขึ้น และการ์ตูนเรต +18 มากขึ้น ซึ่งหลายคนก็คงรู้แล้วว่าผมเชี่ยวเรื่องฮาเร็มพอสมควร จนมีบางคนส่งข้อความลับมาถามให้ผมแนะนำการ์ตูนมังงะฮาเร็มที่มีแปลเป็นไทยให้หน่อย เอาแบบที่ผมชอบ และวันนี้ผมก็ตอบสนองด้วยการแนะนำมังงะบนเตียงนอน ที่ผมอ่านก่อนนอนทุกคืนน่ะครับ
เออ...... ผมก็เชื่อน่ะครับ ในที่นี้หลายคนอาจไม่ชอบฮาเร็ม ตั้งแง่ไม่ดีกับฮาเร็ม อันนี้ผมก็ยอมรับครับว่าฮาเร็มส่วนมากไม่ค่อยดี เพราะการ์ตูน H ส่วนใหญ่มักทำฮาเร็มประเภทผิดลูกผิดเมียชาวบ้าน ข่มขืน เจ้าชู้ แต่กระนั้นผมก็อยากมองฮาเร็มในแง่ดีบ้าง เพราะฮาเร็มคือความโรมานซ์ของผู้ชาย ความฝันของผู้ชาย ฮาเร็มที่ดีพระเอกเขา ไม่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้หรอกครับ อวยเท่าๆ กัน ไม่ทำให้ผู้หญิงเสียใจอยู่แล้ว ดูอย่างโทโมกิและริโตะสิมันมหาเมพจริงๆ และใครที่ทำพระเอกแบบนี้ถือว่าสอบตกการเป็นฮาเร็มเรียบร้อย
หลายคนที่เป็นแฟนการ์ตูนฮาเร็มส่วนมากดูเอาสนุกหรือดูเอาหื่นๆ เช่นเอามังงะ To Love Ru ไปให้เพื่อนในโรงเรียนดูให้ตลกโป๊กฮ่าคุยตามภาษาเพื่อน แต่สำหรับผมแล้วการ์ตูนแนวฮาเร็มมีความจำเป็นมากในชีวิตประจำวัน (ยิ่งกว่ากินข้าวสามมืออีก) สำหรับชายโสดอายุ 30 ปี ที่แทบไม่คุยกับผู้หญิงในชีวิต (ยกเว้นในบ้าน) มันขาดไม่ได้เลย ทุกเช้าต้องดูสักเรื่องไม่ว่าจะเป็นมังงะหรืออนิเมะแนวฮาเร็มสักหน่อย ก่อนที่จะเขียนเรื่อง ซึ่งดูแล้วเกิดอารมณ์ซาบซ่า โรมานซ์ จิ้น แต่งนิยาย หรืออะไรก็เถอะ แต่เอาเป็นว่ามีกำลังใจทำงานก็แล้ว
ผมขอทวนอีกครั้งน่ะครับฮาเร็มที่ผมชอบคือฮาเร็มแบบคอมมาดี้ตลก อวยสาวๆ เท่าๆ กัน ตอนจบเข้าวินหมดทุกคน (หรือตอนจบรับได้) พระเอกก็มหาเทพเมพ แคะๆ อ่อนแอ ไม่เก่ง ไม่เป็นนักเลง (แต่ไม่กาก) มีฉากเซอร์วิสเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความโมเอะของเหล่าสาวๆ ให้ได้ร้องโอ้เยส!! แค่นี้ก็พอใจแล้วละ ซึ่งที่น่าดีใจคือสำนักพิมพ์รักพิมพ์ก็มีลิขสิทธิ์การ์ตูนแนวฮาเร็มได้ลิ้มลองมากมายหล่ายเรื่อง
สมัยก่อนนี้การ์ตูนที่มีเซอร์วิสแรงๆ นี้จะโดนเซ็นเซอร์โหดเยอะมากครับ แต่ตอนนี้สำนักพิมพ์อย่างรักพิมพ์และสยามนี้ดูเหมือนจะลดการเซ็นเซอร์ค่อนข้างเยอะไม่น่าเกียจเหมือน ซึ่งเป็นคอการ์ตูนฮาเร็ม
และบทความนี้จะแนะนำแค่มังงะฮาเร็มที่พบเห็นในตามแผงหนังสือบ้านเรา(และแปลไทยในเน็ต) สัก 5 เรื่องก่อนน่ะครับ ซึ่งผมจะเน้นที่ไม่ดังและไม่ได้พูดในบทความเท่าไหร่มาออก (ไม่พูดถึง To Love Ru และSora no Otoshimono ที่ผมขึ้นหิ้วบูชาเป็นที่เรียบร้อย และไม่พูดถึง H ด้วย)
Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project
Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project เป็นการ์ตูนคอมมาดี้ฮาเร็มซึ่งเป็นภาคที่ดัดแปลงมาจากเกม ในชื่อเดียวกัน ของ Gainax ซึ่งเนื้อหาประมาณว่าเป็นอีกโลกคู่ขนานที่พระเอกชินจิใช้ชีวิตอยู่ ซึ่งหลายคนก็รู้นะครับว่าเอวานเกเลียนมันมีหลายภาค แต่ภาคนี้ถือว่าธรรมดาที่สุด ไม่ได้แนวหุ่นยนต์ ไม่มีฉากต่อสู้ ไม่มีโศกนาฏกรรมปวดตับ มีแต่ฮาเร็มคอมมาดี้ล้วนๆ วาดโดย Osamu Takahashi ตั้งแต่ปี 2005 ในนิตยสาร Shonen Ace ส่วนใครที่กลัวว่ามันจะจบเร็วๆ ก็สบายใจได้เพราะตอนที่ผมเขียนการ์ตูนมังงะยังไม่จบ ตอนนี้ปาไป 12 เล่มแล้ว (แต่ดูเหมือนยัยแว่นภาค 2.0 จะไม่ออก) และมีลิขสิทธิ์โดยสยามอินเตอร์คอมมิค ในชื่อ “เอวานเกเลียน โครงการพัฒนาอิคาริ ชินจิ”
Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project เกิดขึ้นในโลกคู่ขนานแห่งหนึ่งของอีวานเกเลี่ยน (ที่ปรากฏออกมาในช่วงอินเมะตอนที่ 26) ซึ่งคราวนี้ลืมโศกนาฏกรรมจากภาคก่อนๆ ไปได้เลย เพราะคราวนี้มีแต่คอมมาดี้ฮาเร็มล้วนๆ ณ นครโตเดียวใหม่ลำดับที่ 3 ที่พระเอกชินจิอาศัยอยู่กับพ่อแม่อย่างมีความสุข ทุกๆ วันเขาก็ไปโรงเรียนพร้อมกับอาสึกะเพื่อนสมัยเด็กจอมซึนทุกวัน จนกระทั้งวันหนึ่งชินจิก็ได้รู้จักสาวสวยลึกลับคนหนึ่งชื่อ เรย์ ที่เป็นญาติห่างๆ ของฝ่ายแม่ของเขาที่ย้ายโรงเรียนเก่ามาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน อีกทั้งยังอยู่เรียนที่ห้องเดียวกับเขาและอาสึกะอีก
เมื่ออาสึกะได้เห็นเรย์ก็รู้ทันทีเลยว่าเธอจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่จะมัดใจชินจิ ทำให้เรย์เริ่มรุกใส่ชินจิให้มากกว่าเดิมกว่าที่เป็น ในขณะเดียวกันชินจิก็เริ่มกลายเป็นราชาฮาเร็มที่เป็นที่รักของคนรอบข้าง พร้อมกับจุดศูนย์กลาง “แผนการพัฒนาชินจิ” ซึ่งเป็นโครงการลับของสถาบันวิจัยวิวัฒนาการมนุษย์ที่เต็มไปด้วยปริศนาที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่?? และนี่คือจุดเริ่มต้นอีวานเกเลียนภาคโครงการพัฒนาชินจิ อิคาริ ที่มีแค่ความสดในและซาบซ่า ฮาเร็มของชินจิกำลังเริ่มต้นขึ้น…..
Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project เป็นการ์ตูนแนวโลกคู่ขนานของอีวานเกเลี่ยน ซึ่งคำถามต่อมาคือใครที่ไม่ได้อ่านหรือดูการ์ตูนเรื่องอีวานเกเลียน หรือไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์ แท้จะดูการ์ตูนเรื่องนี้ได้หรือเปล่า เพราะเอวานเกเลียนขึ้นชื่อว่าเป็นการ์ตูนที่ดูไม่รู้เรื่อง เต็มไปดราม่าและสัญลักษณ์ทางศาสนาศริสต์ มีแต่จุดไม่เข้าใจเต็มไปหมด ซึ่งก็ขอบอกว่าเอวานเอเลียนภาคนี้ดูได้อย่างสบายใจปราศจากปัญหาเหล่านี้ทั้งปวงครับ ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องอีวานเกเลียนภาคหลักมากมายก็สนุกได้ครับ ขนาดผมรู้แค่ผิวเผิน อ่านมังงะแค่ 3 เล่ม ไม่เคยดูอนิเมะยังสนุกอิ่มฮาเร็มเลย ขอเพียงแค่รู้นิสัยตัวละคร เนื้อหาปวดตับในเรื่องภาคเก่าๆ ก็เข้าใจมุกฮ่าๆ การ์ตูนเรื่องนี้ได้แล้ว
อย่างที่บอก Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project อีวานเกเลี่ยนภาคนี้ จงลืมโศกนาฏกรรมภาคหลักได้เลยครับ เพราะภาคนี้มีแต่ความสุขล้วนๆ เริ่มจากแม่ของชินจิที่ภาคหลักไม่มีเธอ (ซึ่งเป็นเหตุทำให้พ่อของชินจิเปลี่ยนไปและไม่ถูกกัน) หากแต่ภาคนี้แม่ของชินจิอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ส่วนพ่อของชินจิภาคหลักจอมดราม่ามาภาคนี้กลายเป็นรั่ว กลัวเมีย เห่อลูกชาย เก๊กฮวย กลายเป็นตัวสร้างสีสันของเรื่องซะงั้น ส่วนแม่ของ อาสึกะถ้าจำไม่ผิดเกลียดลูกตนเองมาภาคนี้แม้เธอจะไม่มีเวลาให้กับลูกสาวแต่กระนั้นก็รักลูกสาวมาก อีกตัวละครอื่นๆ อย่าง อาจารย์มิซาโตะก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากเพราะบุคลิกเธอภาคหลักก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว รวมไปถึงตัวประกอบคนอื่นๆ อย่างเพื่อนพระเอก หัวหน้าห้อง ก็ไม่ต้องพูดถึงเหมือนเดิมทุกประการ
ส่วนตัวละครหลักมีเปลี่ยนเล็กน้อย ชินจิยังคงเหมือนเดิมและคราวนี้ไม่มีดราม่าให้เศร้าซึมเพราะคราวนี้พระเอกกลายเป็นบุคคลที่แสนน่าอิจฉาเป็นเรียบร้อย เพราะรอบตัวมีแต่คนรักใคร่ (ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย) ไม่ว่าจะเป็นอาสึกะซึ่งความสัมพันธ์ทั้งคู่เป็นเพื่อนสมัยแด็ก แต่ในมังงะในเล่มที่ 4 (หรืออนิเมะ) ชินจิและอาสึกะพึ่งพบกันครั้งแรก อย่างไรก็ตามความซึนของอาสึกะยังเหมือนเดิม หลังการมาของเรย์ เธอก็พยายามรุกชินจิให้หันมามองตนมากขึ้น แต่กระนั้นแหละตามสูตรการ์ตูนฮาเร็มพระเอกต้องบื้อ ดูไม่ออกหรอกว่าอาสึกะคิดไงกับตน
และตัวละครที่เปลี่ยนไปมากที่สุด น่าจะเป็นเรย์ ซึ่งภาคนี้ไม่ใช่สาวเงียบที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลและมี อดีตที่แสนไม่น่าจดจำอีกแล้ว เพราะภาคนี้เรย์มีความสุขจริงๆ แม้ว่าเรย์ตอนเด็กจะไม่มีเพื่อนแต่เมื่อย้ายมาอยู่กับชินจิ เรย์ก็ร่าเริง ยิ้มบ่อยขึ้น จนกลายเป็นเพียงสาวน้อยธรรมดาที่ พูดตรงๆ เลยว่า “เรย์น่ารักมากๆๆๆ” มียิ้มพิมพ์ใจน่ารัก มีขี้อาย มีซึน มีซุ่มซ่าม เรียบว่าครบสูตรสาวนางเอกน่ารัก และดูเหมือนว่าอีเว้นท์ของเรย์จะมากที่สุด เรียกได้ว่าสาวกที่อวยเรย์ไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับสาวเงียบน่ารักคนนี้
Neon Genesis Evangelion: Shinji Ikari Raising Project ดำเนินเรื่องราวตามหลักฮาเร็มชีวิตในโรงเรียนจริงๆ ครับ โดยเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับตลกโรแมนติกความสัมพันธุ์ระหว่างชินจิและอาสึกะกับเรย์ รักสามเศร้าที่แสนจะน่าอิจฉา มีบทอวยสาวแต่ละคนที่เด็ดดวง โดยเฉพาะเรย์นี้มีเยอะและน่ารักสุดๆ ส่วนอาสึกะมีเล็กน้อยปละปลาย แต่ก็ไม่ทำให้คนอวยอาสึกะบ่นแต่อย่างใดเลย ส่วนเว้นท์และมุกฮาเร็มมีครบถ้วน ใครที่เป็นแฟนแนวเลิฟคอมมาดี้ล่ะก็ได้อิ่มแน่นอนกับการ์ตูนเรื่องนี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นฉากสระว่ายน้ำ, ทะเล, สวนสนุก, งานโรงเรียน, เหตุการณ์พระเอกป่วยแล้วเรย์เข้าเฝ้า, ลิฟท์ค้างซึ่งชินจิอยู่กับเรย์กับอาสึกะกันสามคน ไปจนถึงฉากเซอร์วิส, พระเอกซุ่มซ่ามเทพ นอกจากนี้สอดแทรกเนื้อหาและเหตุการณ์ในเอวานเอเลี่ยนภาคหลักเข้าไปจนกลายเป็นมุกยิ้มมุมปากทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ชินจิต้องซิงโครที่ชินจิกับอาสึกะต้องเต้นแอโรบิคพร้อมกันก็เอามาใส่ให้ฮ่าด้วย แน่นอนว่าอีกไม่นานคงมีมุกของเหลวแยมสีขาวลึกลับคงจะมาแน่แท้ ได้ฮ่ากันล่ะที่นี้
แม้ว่าจะเป็นแนวคอมมาดี้ฮาเร็มพล็อตตลาดแต่ผมเชื่อว่าผู้ที่ชื่นชอบฮาเร็มแล้วถือว่าเป็นการ์ตูนที่สนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ความสนุกก็คือการได้เห็นตัวละครต่างๆ ในเอวานเกเลียนในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากภาคหลักโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของชินจิกับพ่อแม้ว่าทั้งคู่ยังไม่ถูกกันเหมือนเดิมแต่ว่าภาคนี้ก็ยังมีส่วนน่ารักตามประสาพ่อลูกให้ได้ตลกอมยิ้มมุมปาก อาสึกะนักบินที่นิสัยใจร้อนไม่ยอมแพ้เด็กอัจฉริยะยังคงเหมือนเดิมแต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อชินจิมีมากขึ้น ส่วนจอมเก๊กคาโอรุก็กลายเป็นยาโอยที่รุกชินจิโดยสมบูรณ์แบบ
ในส่วนด้านลายเส้นอาจมีจุดตำหนิบ้าง เช่น บางช่องสัดส่วนตัวละครอาจเพี้ยนๆ โดยเฉพาอาสึกะนี้อาจไม่น่ารักสักเท่าไหร่ในตอนแรก แต่กระนั้นช่วงหลังๆ ผมรู้สึกว่าสัดส่วนตัวละครเริ่มดีขึ้น น่ารักขึ้น และใครที่หวังจะเห็นฉากต่อสู้แอ็คชั่นหุ่นยนต์สู้กันขอให้ลืมไปได้เลยเพราะมันไม่มี
เอาเป็นว่าใครที่ชอบการ์ตูนแนวฮาเร็มล่ะก็ เรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ
Okasu Bekarazu! Junketsu Tokku!
แม้การ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์เป็นไทยครั้งแรกเมื่อปี 2010 แต่ผมพึ่งได้อ่านเมื่อปลายปี 2011 นี้เอง เนื่องจากเข้าใจผิดว่าการ์ตูนฮาเร็มเรื่องนี้พระเอกนิสัยนักเลงชอบต่อยตี และมีเนื้อหาประมาณว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้จำกัดเขตห้ามชายหญิงมีความรักต่อกันและพระเอกแหกกฎอะไรแบบนี้ (ซึ่งผมคิดไปเอง) กว่าที่ผมรู้ตัวและสั่งซื้อการ์ตูนมาดูก็ตะโกนร้องทันทีว่า “โอ้ เยส!!”
Okasu Bekarazu! Junketsu Tokku! เป็นการ์ตูนฮาเร็ม ผลงานของ Honda Arima ในปี 2010 ลงประจำในนิตยสาร Comic High! (Futabasha) ได้รับลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อไทย “พันธุ์พิเศษเขตห้ามรัก”
เรื่องราวเริ่มต้นเรื่อง ในปีคริสต์ศักราชปี 2020 โลกได้เกิดไวรัสมรณะร้ายแรงระบาดทำให้ประชากรโลกเสียชีวิตจำนวนมาก และที่น่าแปลกคือโรคดังกล่าวติดเฉพาะมนุษย์ได้เท่านั้น ซึ่งหนทางเดียวที่รับมือกับไวรัสนี้ก็คือการ “แปลงเป็นสัตว์” ซึ่งหมายถึงการนำยีนของสัตว์มาฉีดเข้าร่างกายเพื่อให้มนุษย์นั้นไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ซึ่งหมายถึงการเป็นมนุษย์สัตว์ ด้วยเหตุนี้ทำให้ประชากรเลือกเอาว่าพวกเขาจะยอมตายหรือจะแปลงเป็นสัตว์ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้มนุษย์สายพันธุ์แท้ดังเดิมสูญพันธ์จากโลกใบนี้ไป
เวลาปัจจุบันปีคริสต์ศักราชปี 2035 โลกเต็มไปด้วยมนุษย์สัตว์ (หูแมวและหูหมา) เพ่นพ่านอยู่เต็มในเมือง และ ณ สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ยังมีเด็กชายหูหมาธรรมดาคนหนึ่งนาม “โคคุเรียว คาสุโตะ” อายุ 14 ปี ที่ได้รับฉายาจากเหล่าๆ เพื่อนๆ ในโรงเรียนว่า “ราชาปวกเปียก” เนื่องจากอ่อนแอสุดๆ แต่ถึงกระนั้นรอบตัวเขากลับเหล่านักเรียนหญิงรายล้อมทั้งหน้าและหลัง จนกลายเป็น “ราชาฮาเร็ม” โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรผู้หญิงถึงหลงใหลเขานัก ทั้งๆ ที่เขาหน้าตาไม่หล่อเลย
และเย็นวันนั้นเองคาสุโตะกำลังกลับบ้านพร้อมกับชิบาซากิสาวแว่น (หูแมว) เพื่อนสมัยเด็กอยู่นั้น ระหว่างทางเขากลับโดนผู้หญิง (หูหมา) ลึกลับคนหนึ่งใช้ปืนไล่ยิงเขา และหลังจากที่เขาวิ่งหนีกับผู้หญิงหูหมาลึกลับคนนั้นพักใหญ่ เขาก็พบผู้หญิงพวกเดียวกับสาวผู้หมาลึกลับอีกสองคน (หูแมวและหูจิ้งจอก) ที่แนะนำตัวว่าพวกตนคือทหารจากกองทัพที่มาปกป้องคุ้มครองคาสุโตะตามภารกิจ “เขตพิเศษสายพันธุ์แท้”
และแล้วสามสาวก็แนะนำตัวเอง สาวหูหมาผู้ลึกลับคือ “คาเรน” จ่าสิบเอกทหารบกที่อ่อนแอไม่แพ้คาสุกะแต่เก่งเรื่องอาวุธปืน, สาวหูแมวจ่าสิบเอกทหารอากาศ “เนเนโกะ” (ที่ถอดแบบจากสาวหูแมวจากมงกุฎบาปอย่างกับแกะ) ที่เตี้ยแบนซึน, พันโทผู้หญิงสาวหูจิ้งจอก “ชิซูกะ” ที่ตนมีหน้าที่ปกป้องคาสุโตะตลอด 24 ชั่วโมงและชั่วชีวิตตามกฎ “เขตพิเศษสายพันธุ์แท้” ที่ต้องปกป้องมนุษย์จากอันตรายทั้งปวง (แต่ดูเหมือนว่าหลังจากสามสาวเข้ามา ชีวิตคาสุโตะอันตรายขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ)
“โคคุเรียว คาสุโตะคุง คุณ......คือมนุษย์ค่ะ”
หลังจากนั้นคาสุโตะคุงรู้ตัวว่าเขาคือมนุษย์ไม่กี่คนที่มีชีวิตรอดจากไวรัสระบาดล้างโลก (ซึ่งแม่เขาปกปิดความจริงด้วยการใส่หูและหางหมาปลอม) สำหรับโลกนี้แล้วมนุษย์ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายาก จำเป็นที่ต้องปกป้องเนื่องจากร่างกายพละกำลังอ่อนแอหากเทียบกับมนุษย์สัตว์ อีกทั้งยังที่หมายปองจากกลุ่มคนที่ต้องการน้ำเชื้อของมนุษย์ไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ
ในหัวของคาสุโตะยังมีเต็มไปด้วยคำถามที่อธิบายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแม่ของเขาที่เป็นนักวิจัยที่เป็นเจ้าของโครงการ “แปลงเป็นสัตว์” ที่ได้หลบหนีไปตั้งแต่ความลับเขาเป็นมนุษย์ถูกเปิดเผย และนอกจากนี้เขายังเขาทราบคำตอบก็คือสาเหตุที่เขากลายเป็นราชาฮาเร็มที่เหล่าสาวๆ ต่างชอบเขาทั้งที่หน้าตาไม่หล่อ ก็คือสัญชาตญาณดิบที่อยู่ในยีนมนุษย์สัตว์นั้นยังคงมีรู้สึกปรารถนาที่อยากอยู่ร่วมกับมนุษย์ อยากจะออดอ้อนกับมนุษย์ อยู่ใกล้กับมนุษย์ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ยังคงมีอยู่ในร่างมนุษย์สัตว์ทุกคน (โดยเฉพาะหูหมา หูแมว) และเมื่อมนุษย์สัตว์ผู้หญิงได้พบคาสุโตะ ก็มีความรู้สึกอยากอ้อนเขาจนพวกเธอเข้าใจผิดว่ามันคือความรัก ซึ่งนี้คือภารกิจหลักของสามสาวที่ต้องปกป้องคาสุโตะจากการถูกจับกดของสาวๆ ทั้งปวง (และนี่คือเหตุผลที่รัฐบาลต้องส่งผู้หญิงเข้ามาคุ้มครอง)
หลังจากนั้นสามสาวผู้พิทักษ์ก็ได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับเขาชนิดว่าเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน นอนด้วยกัน ไปโรงเรียนก็แนะนำตัวกับเพื่อนร่วมชั้นเป็นคู่หมั่นและลูกพี่ลูกรน้อง ฟังดูเหมือนฮาเร็ม แต่ความจริงแล้วนรกของคาสุโตะได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาถูกสั่งห้ามดูหนังสือโป๊, ห้ามช่วยตนเอง (ชักว่าว), ห้ามรักกับมนุษย์สัตว์ สำหรับผู้ชายแล้วถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก และแล้วชีวิตพ่อหนุ่มเนื้อหอมอย่างคาสุโตะจะเป็นอย่างไรนั้นก็ติดตามต่อไป
การ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นหิ้วไว้หนุนเตียงนอนผมเป็นเรียบร้อยครับ ดูก่อนนอนทุกคืน เพราะเนื้อหาเต็มไปด้วยความฝันของฮาเร็ม หนุ่มน้อยที่เป็นที่รักของสาวๆ ที่เกือบโดนจับกดหลายรอบ (ดูแล้วน่าจับกดจริงๆ แหละ) นอกจากพระเอกและจุดเด่นคือเหล่าสาวๆ ในเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้มีสาวตัวเอกเด่นๆ หลักๆ มี 3 คน คือ คาเรนสาวหูหมาขี้อายที่แสดงท่าทางได้น่ารักสุดๆ เวลาทำท่าอ้อนพระเอก กระดิกหางนี้ โอ้พระเจ้า รักหมาขึ้นทันใด (แถมฉากเซอร์วิสเยอะที่สุดด้วย) ส่วนเนเนโกะสาวหูแมว เตี้ย แบน แต่ไม่ซึนนี้ ก็น่ารักดีนะเวลาอ้อนพระเอก ส่วนสุดท้ายสาวแว่นเพื่อนสมัยเด็กนี้แม้บทน้อยแต่เชื่อว่าเล่มต่อไป (หากไม่ตัดจบ) บทเธออาจมากขึ้น ส่วนสาวหูจิ้งจอกตอนนี้บทไม่มาเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าเล่ม 3 คงมาแน่ เอาเป็นว่าตอนนี้ผมชอบคาเรนและเนเนโกะมากๆ ก็แล้วกัน
ก็อยากจะขอบคุณรักพิมพ์มา ณ ที่นี่ครับ ที่ไม่มีการเซ็นเซอร์อักษรศิลธรรมอะไรมากมาย เพราะเห็นฉากเซอร์วิสนี้ดูแล้วช่างหวาดเสียวมากๆ แต่เรื่องเซ็นเซอร์นี้ขอบอกว่าไม่มีอักษรโตๆ ปิดบังมิดแต่อย่างใด ทำให้เราได้เห็นทรวดทรงอย่างน้ำลายไหล รูปร่างผู้หญิงแต่ละคนนี้เย้ายวนจริงๆ อีกทั้งเกือบทุกหน้าได้เห็นกางเกงใน ชุดว่ายน้ำ ไปจนถึงฉากเปลือย แต่กระนั้นฉากที่ผมชอบที่สุดกลับเป็นฉากที่คาเรนกับเนเนโกะทำท่าออดอ้อนพระเอก ให้พระเอกลูบหัวเหมือนลูบหัวหมาและแมวนี้แหละน่ารักจริงๆ
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแนวฮาเร็ม แต่เนื้อหาก็น่าติดตามใช้ย่อย เล่ม 1 มีฉากแอ็คชั่นต่อสู้แย่งพระเอก พลังแฝงพระเอก และเนื้อหาสอดแทรกปริศนาต่างๆ ไว้มากมาย (ที่จะคลายปมไปเรื่อย) ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลที่แม่พระเอกโดนตามล่าจากรัฐบาล ปมอดีตของคาเรนและเนเนโกะเอาไว้ และที่สำคัญที่สุดคือมิชชั่น 2 ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของภารกิจเขตพิเศษ ที่รัฐบาลหวังตัวพระเอกอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนนี้เหล่าพระเอกไม่ทราบ แต่อาจจะมีเหตุการณ์ที่สองสาว (คาเรนและเนเนโกะ) ต้องเลือกข้างระหว่างพระเอกกับองค์กรรัฐบาล และตามสูตรฮาเร็มสองสาวต้องเลือกรูทพระเอกแน่นอน!! เรียกว่าปมต่างๆ สามารถต่อยอดได้หลายเล่ม หากไม่โดนตัดจบเสียก่อน
ข้อเสียการ์ตูนเรื่องนี้อาจสอดแทรกเรื่องเพศศึกษาค่อนข้างเยอะน่ะครับ แต่กระนั้นการ์ตูนก็สอนอะไรหลายๆ อย่างๆ โดยเฉพาะเรื่องพระเอกโดนสามสาวสั่งห้ามไม่ให้ชักว่าวระบายอารมณ์ (เนื่องจากถูกสามสาวสั่งห้าม) จนทำให้เกิดความเครียด อันนี้เข้าใจความรู้สึกของพระเอกอย่างบอกไม่ถูก
เอาเป็นว่า Okasu Bekarazu! Junketsu Tokku! เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่คอฮาเร็มไม่ผิดหวังแน่นอน
Otoko o Misete yo Kurata-kun!
Otoko o Misete yo Kurata-kun! เป็นไลน์โนเวล ผลงานของ Shinya Saito และมังงะวาดโดย Namamo nanase ได้ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อรักวุ่นวายของนายคุราตะ!
เป็นเรื่องราวของคุราตะ ยูกิ เด็กหนุ่ม ม.5 ธรรมดา ที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนอกจากรสนิยมวิลัยที่สนใจผู้หญิงอายุมากกว่า และนอกจากนี้ยังมีผู้หญิงสองคนที่แอบชอบเขา คนแรกคือ “เม” เพื่อนสมัยเด็กทวินเทลสุดซึน (อายุน้อยกว่า) ที่ชอบจุ้นกับชีวิตของเขาซะเหลือเกิน กับคนที่สอง “ซาโยะ” เพื่อนของเม (อายุน้อยกว่า) ที่มีหุ่นเกินเด็กรุ่นเดียวกันและยังเป็นสุดยอดแม่ศรีเรือน ซึ่งทุกเช้า ทั้งสามคนมักเดินไปโรงเรียนด้วยกันเสมอ จนเป็นที่อิจฉาแก่คนรอบข้าง แต่สำหรับคุราตะแล้วไม่ได้คิดอะไรสักนิดเพราะเขาชอบสาวอายุมากกว่า (ง่ะ)
อย่างไรก็ตามเรื่องราวอลวนก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อคุราตะดันไปรู้ความลับสุดของสองสาวเข้า เมื่อ ตัวจริงของเมคือสาวหูแมวแห่งตระกูลเนเนโกะมากอิทธิพล ส่วนซาโยะเป็นสาวหูหมาตระกูลอินุมากอิทธิพลเช่นเดียวกัน และทั้งสองตระกูลนี้ไม่ถูกกันอย่างแรง และเพื่อปิดความลับดังกล่าวคุรุดะต้องยอมเป็นคู่หมั้นคู่หมายของทั้งคู่ในเวลาเดียวกันเพื่อป้องกันการโดนปิดปาก และแล้วเรื่องราวรักสามเศร้าจึงอุบัติขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
ตอนที่ผมเขียนถึงการ์ตูนเรื่องนี้ ที่ญี่ปุ่นไลน์โนเวลปาไปหลายเล่มแล้ว ส่วนมังงะก็ไม่จบเนื้อหาไลน์โนเวลเล่ม 1 เลย ดังนั้นผมขอพูดถึงเฉพาะไลน์โนเวลเล่ม 1 ก่อนน่ะครับไม่ว่ากัน
Otoko o Misete yo Kurata-kun! การ์ตูนเรื่องนี้สนุกดีนะครับ สำหรับคนที่ชอบฮาเร็มแบบไม่คิดอะไรมาก และอยากอ่านฮาเร็มแบบสมบูรณ์แบบในฝันสำหรับคนโสดผู้หญิงไม่แล ไม่เก่งอะไรสักอยาก แนะนำเรื่องนี้เลย พล็อตเหมือนดูซ้ำๆ แต่กระนั้นก็มีเอกลักษณ์และความสนุกซ่อนอยู่ ตัวละครโดดเด่นออกแบบชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระเอกนายคุราตะที่แสนจะไม่เอาไหน กับสองสาวทวินเทลกับสาวเรียบร้อยแบบญี่ปุ่นที่ต่างแอบหลงรักพระเอกอย่างแสนน่าอิจฉา และชอบมุกมันที่เป็นฮาเร็มสาวซึนเดเระกับสาวยันเดระ ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวหลายคนคิดว่าจะเป็นจบแบบเรือลอยละล่องสวยงามเป็นแน่แท้ แต่การ์ตูนดังกล่าวไม่อยากให้มันมีดหมองมัวหม่น อ่านแล้วมันหดหู่แต่อย่างใด เพราะการจับปลาสองมือครั้งนี้มีแต่รอยยิ้มและความประทับใจครับ ผมอ่านหลายรอบมาก เวลาไปไหนก็ติดมือไปอ่านด้วย เพราะมีทั้งตลก เมพ ยิ่งในช่วงไปเดทสลับรางรถไฟในห้างสรรพสินค้านี้ทั้งตลกและน่าอิจฉาจริงๆ
อย่างแรกเลยตัวเอกของการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้น่าหมั่นไส้แต่อย่างใด แม้ว่าการ์ตูนจะนำเสนอเหมือนพระเอกชีกอหรือขี้ขลาดกลัวตายก็เถอะ หากแต่ได้อ่านไลน์โนเวลก็ได้รู้ว่าพระเอกนั้นเอาใจเขามาใส่ใจเรา แม้ว่าจะมีหลายช่วงจะบอกว่าที่หมั้นซ้อนเพื่อรักษาชีวิต แต่ความจริงแล้วจิตใจลึกๆ แล้วพระเอกไม่อยากให้ผู้หญิงทั้งสองคน (ที่หลงรักเขา) เสียใจ และไม่อยากให้เมกับซาโยะทะเลาะกันถึงแตกหักกันหากความจริงเปิดเผยออกมา ซึ่งพระเอกอยากจะรักษาความลับนี้เอาไว้นานๆ มากกว่า
ประเด็นต่อมาแม้ว่าพระเอกจะเป็นคนไม่ได้เรื่อง รูปไม่หล่อ อ่อนแอ แต่ทำไมไม่รู้ว่าทำไมสองสาวถึงแอบหลงรักเขานัก การ์ตูนเรื่องนี้ก็บอกเลย เพราะพระเอกนั้นเอาใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้าง ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวด ตอนเด็กเมมีอดีตเจ็บปวดไม่อยากจำพระเอกก็ปลอบใจเมอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมห่าง ซาโยะไม่มีเพื่อนเหรอเดี๋ยวพี่จะเป็นให้เอง และทั้งสามคนคบกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอิทธิพลทางการเมือง หรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แค่นี้สองสาวก็รักพระเอกหัวปักหัวปล้ำแล้ว
และเมื่อถึงคราวที่ความลับแตก จากเรื่องตลกโป๊กฮ่าก็กลายเป็นดราม่าทันใด เมื่อโชคู่หมั่นแท้จริงของเม ได้มาแย่งชิงเมต่อหน้าต่อตาพระเอก พร้อมกันนั้นเมก็จิตใจแตกสลายเพราะพระเอกหักหลังเธอ จนเป็นเหตุทำให้พระเอกกับซาโยะ (ที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว) ไปช่วยเมออกจากเงื้อมมือของโช และเมื่อพระเอกไปถึงก็เห็นเมนอนงอนอยู่บนเตียง (ในมังงะวาดซะอย่างกับโดนตับๆๆ) พระเอกก็งองอนเมโดยอธิบายว่าเขาขาดซาโยะไม่ได้ และก็ขาดเมไม่ได้เช่นกัน ก่อนที่จะจบประโยคโดยด่าโชไปว่า “มึงอย่าแย่งผู้หญิงของฉันน่ะเว้ย ทั้งเมทั้งซาโยะจังเป็นของของฉันเว้ย!!”ตรงประโยคนี้ช่างเมพจริงๆ
ต่อให้โชมีพละกำลังและมากอิทธิพลขนาดไหน แต่ชิงผู้หญิงแบบหวังผลประโยชน์ และปฏิบัติกับผู้หญิงด้วยกำลังแบบนี้ก็ไม่ได้ใจของเธอหรอกครับ ผลสุดท้ายเมก็ต่อยโชคว่ำสะใจคนอ่าน สาวเทลทวินสุดยอด!! สายสัมพันธ์มันตัดไม่ขาดหรอก
มีคำถามตามมาว่าใครเข้าวิน ใครมีความคิดแบบนี้ในฮาเร็ม ถือว่าสอบตกแล้วครับ ฮาเร็มไม่จำเป็นต้องมีคนรักหรือพระเอกเลือกใครเสมอไป อย่างการ์ตูนเรื่องนี้ ถ้าพระเอกจะเลือกใครเป็นคู่ชีวิตนั้น มันเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะทั้งเมและซาโยะนั้นเป็นไปได้มากกว่าเพื่อนและคนรัก น่าจะเรียกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่า ทั้งสามคนรู้จักกันตั้งแต่เด็ก อยู่ด้วยกัน ไปไหนมาด้วยกัน แม้จะไม่ได้แต่งงานกัน แต่ก็ใช้ชีวิตร่วมกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ก็ถือว่ามีความสุขยิ่งกว่าใช้ชีวิตคู่แล้วครับ (ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ก็สื่อเรื่องแบบนี้ชัดเจน)
Otoko o Misete yo Kurata-kun! อาจเป็นการ์ตูนตลกคอมมาดี้ทั่วๆ ไป แต่ผมเชื่อว่าเป็นการ์ตูนฮาเร็มที่ให้คำตอบว่าทำไมพระเอกอ่อนแอไม่ได้เรื่อง สาวถึงชอบมากนัก พระเอกดังกล่าวมันมีอะไรถึงเอาชนะพวกผู้ชายเก่งๆ เข้มแข็งกัน ซึ่งคำตอบเหล่านี้มีอยู่การ์ตูนเรื่องนี้แล้วครับ
Onihime VS
หลังจากที่รีเบิร์นโดนตัดจบได้เข้มาก เสียเครดิตที่ผมอุตส่าห์อวยตั้งแต่เล่มแรกๆ มาจนถึงขั้นขอร้องเป็นอนิเมะ แต่แล้วความหวังดังกล่าวก็พังทลายเมื่อโดนตัดจบในเล่ม 7 (และยังอุตสาห์เอาแนวรีเบิร์นมาทำต่อเป็นเรื่องใหม่อีกแนะ) อย่างไรก็ตามความหวังเล็กๆ ของผมก็เริ่มต้นขึ้นในการ์ตูนอีกเรื่อง นาม Onihime VS (ซึ่งหวังว่ามันจะไม่ตัดจบน่ะ)
Onihime VS เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น(แต่ผลงานเกาหลี) แนวแอ็คชั่น, ดราม่า, โรแมนติก, โชเน็น, เหนือธรรมชาติ เรตนิดหน่อย วาดโดย Soo-Hyon Lee และเรื่องโดย Dall-Young Lim ในปี 2009 ได้ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อ เจ้าหญิงอสูร VS
Onihime VS เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่แสนสิ้นหวังนาม “คาชิวาชิ เซ็นสึนะ” ที่ชีวิตของเขามีแต่เรื่องหดหู่ ที่โรงเรียนเขาโดนกลั่นแกล้งจากกลุ่มนักเรียนหญิงในห้อง นำโดยลูกคุณหนู “อาริมะ” (ที่แกล้งเพราะรักต่างหาก คุณเธอเป็นสาวสายซึนและซาดิสต์ รักพระเอกแบบขี้ข้า??) นอกจากนี้ครอบครัวของเขาก็จนกรอบ มีพี่สาวคนเดียวที่ต้องทำงานอย่างหนักและกู้เงินจากยากูซ่าเพื่อเอาเงินมาผ่าตัดหัวใจที่อ่อนแอของเขา ทำให้ยากูซ่าต้องมาทวงเงินหน้าบ้านของเขาอยู่บ่อยๆ จนเหตุให้เซ็นสึนะคิดสั้นอยากฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากโลกนี้ซะ หากแต่ในขณะที่เขากำลังจะฆ่าตัวตายในขณะโดดสะพานอยู่นั้นเอง ก็มีชายปริศนาปรากฏต่อหน้าเขา พร้อมกับเสนอซื้อชีวิตของเขาโดยแลกเงิน 10 ล้านเยน โดยมีเงื่อนไขคือเขาจะต้องมีชีวิตยืดยาวต่อไปอีก 1 ปี และเขาจะต้องกินยาวิเศษแทนคำมั่นสัญญา
เมื่อเท็ตสึนะได้ยินเขาก็ตอบตกลงทันที และเมื่อเขากินยาดังกล่าวเขาก็วูบสลบลง และเมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกที เขาก็พบว่าตนเองอยู่ในบ้านของเขา และข้างที่นอนเขาก็พบผู้หญิงสาวสวย (อายุมากกว่า) ซึ่งเป็นสองพี่น้องที่มีฐานะเป็นเจ้าหญิงของเผ่ายักษ์ชั้นสูงนาม “คันนะ” (สาวบ้าพลังหน้าอกโต) และ “เรนะ” (สาวเงียบหน้าอกโต) ที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขา และมาเพื่อปกป้องเท็ตสึนะให้พ้น 1 ปี เนื่องจากตอนนี้เท็ตสึนะได้กลายเป็นเป้าหมายของเหล่าปีศาจที่ต้องการกินหัวใจของเขา และเมื่อผ่านไป 2 ปีหลังจากนั้นหัวใจของเท็ตสึนะจะต้องถูกกินโดยเจ้าหญิงคนใดคนหนึ่งที่ปกป้องเขาบ่อยที่สุด ซึ่งเจ้าหญิงคนใดที่ได้กินหัวใจของเท็ตสึนะก็จะกลายเป็นผู้นำเผ่ายักษรต่อไป และแล้วการต่อสู้ (หรือมหาฮาเร็ม?) ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
Onihime VS ยังคงตามมาตรฐานการ์ตูนแอ็คชั่นบู๊ (และฮาเร็ม) ตามสไตล์ของคนเขียนการ์ตูนจากเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น รักสาวอายุมากกว่า, หน้าอกอวบอิ่ม, บู๊กระจาย (นางเอกเก่งเวอร์) และเซอร์วิสอย่างน้ำหลายไหล (ชนิดที่เรียกว่ามีเซ็นเซอร์บังมิดบางภาพ) ตอนที่เขียนถึงการ์ตูนเรื่องนี้ เนื้อหายังไม่มีอะไรมาก เน้นอวยตัวละครแต่ละตัวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอาริมะที่รักเท็ตสึมะแบบซาดิสต์, เรนะสาวเงียบที่น่ารักดีน่ะ หลังๆ ก็ปล่อยมุกตลกได้ฮ่าเป็นบางครั้ง และคันนะที่เธอดูเหมือนจะเป็นนางเอก (??) ของเรื่อง ที่มีบุคลิกแบบเจ้าแม่และสาวเถื่อน ส่วนตัวประกอบอื่นๆ อย่าง “” เพื่อนสมัยเด็กขององค์หญิงนี้ไม่ได้อยู่ในฮาเร็มของพระเอกแต่ดันเป็นคู่วายของอาริมะซะงั้น
อย่างไรก็ตามความสุขของฮาเร็มของเท็ตสึนะนั้นก็มีเรื่องต้องบีบหัวใจ เพราะว่าเมื่อถึง 1 ปี เขาจะต้องต้องด้วยเงื่อมมือของเจ้าหญิงคนใดคนหนึ่งที่เขารัก อย่างไรก็ตามในขณะที่เจ้าหญิงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับทัตสึมะทั้งสองก็เริ่มมีใจให้กับเขา และนี้คือบททดสอบที่ทั้งสองจะต้องผ่านว่าพวกเธอจะสามารถฆ่าคนที่เธอรักได้หรือเปล่า หรือจะเลือกอยู่กับคนรักต่อไป ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวน่าติดตามดูจนถึงบทสุดท้ายจริงๆ (หากมันไม่ตัดจบเสียก่อน)
Kami Sen
Kami Sen เป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มผลงานของ Takeaki Momose (ผู้วาดมาจิคาโนะ) เผยแพร่ในปี 2009 ลงประจำในนิตยสาร Dragon Age (Kadokawa Shoten) ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ในไทยนั้นไม่แน่ใจ แต่เห็นหลายเว็บการ์ตูนที่แปลซับไทยถูกถอดไปแล้ว แสดงว่ามีลิขสิทธิ์ไปแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นของสำนักพิมพ์ไหน ก็คงต้องติดตามตารางหนังสือเอาเอง
Kami Sen เป็นเรื่องราวของพระเอกคนธรรมดา (แต่โชคดี) นาม “อิซึมิ โคทาโร่” ครอบครัวของเขาทำกิจการบ่อน้ำพุร้อน อิซึมิ มาหลายยุคสมัยแล้ว แต่ที่แล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านน้ำในบ่อน้ำร้อนก็แห้งลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ครอบครัวของเขาเริ่มมีหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆ จนครอบครัวของพระเอกจำเป็นต้องแอบหลบหนีไปเมืองข้างๆ โดยพระเอกไม่ได้กล่าวลา “มาโคโตะ” เพื่อนสมัยเด็ก (และห้องหน้าห้อง) เลยแม้แต่น้อย และทันใดนั้นเองเทพอารักษ์แห่งบ้านอิซึมิก็ปรากฏตัวขึ้น ในภาพลักษณ์ของสาวน้อยสุดน่ารัก (นมแบน) นาม “ท่านโคโนฮะ” ที่แสนจะเอาแต่ใจและอ่อนโลก (โดยเฉพาะเรื่องกางเกงใน) และเธอก็ได้ช่วยครอบครัวของโคทาโร่รอดพ้นจากหนี้สิ้นและทำให้บ่อน้ำร้อนกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หากแต่ว่าโคทาโร่มารู้ที่หลังว่าเทพโคโนฮะไม่ใช่เทพแห่งโชคลาภ แต่เป็นเทพยาจกที่แสนน่ากลัว นอกจากนั้นเธอยังมีอีก 2 พี่น้องนาม “เคียวโกะ” เทพโรคระบาด และ “โคโตริ” เทพโลกพิภพ ซึ่ง 3 พี่น้องล้วนชอบเขาทั้งสิ้น และชีวิตของโคทาโร่จะเป็นอย่างไรต่อไปก็ติดตามเอาเอง
ผลงานเรื่องมาจิคาโนะที่ผมให้สอบตกยกเซ็ตไม่ว่าจะเป็นมังงะหรืออนิเมะ แต่มางวดนี้ เทพบ่อน้ำร้อน ผมชอบเป็นบ้า ดูแล้วคลายเครียด (หื่น) ดี
Kami Sen ยังคงเป็นการ์ตูนฮาเร็มง่ายๆ ตามสูตรของคนเขียนครับ เนื้อหาไม่ต้องซับซ้อนซ่อนเงือนดราม่าแต่อย่างใด เนื้อหาประมาณว่าพระเอกได้พบนางเอกที่ทั้งคู่เหมือนเคยพบกันมาแล้วในอดีตที่แสนไกล และปัจจุบันเขาก็ได้พบเธออีกครั้ง เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นคู่แข่งของนางเอกและยังพ่วงด้วยผู้หญิงคนอื่นๆ รอบตัวที่ชอบพระเอกเหมือนกัน
และเอกลักษณ์คนเขียนยังคงเหมือนเดิมคือเน้นกางเกงในและฉากเปลือยเหมือนเดิม (แต่ไม่เมานม) และที่เป็นเอกลักษณ์คือกางเกงในใต้ร่มผ้าเปิดออกมาให้เห็นง่ายมากทั้งๆ ที่ๆ ไม่มีลมลามก เรียกว่าเป็นเซอร์วิสที่ไม่สมเหตุสมผลที่กำลังกลายเป็นเทคนิคที่นิยมในการ์ตูนฮาเร็มสมัยนี้ไปแล้ว (ฮ่า) แต่คราวนี้ผมชอบยังไงก็ไม่รู้ครับ เพราะงวดนี้กางเกงหลายแบบขึ้น (ฮ่า) มีทั้งลายทาง, ออกศึก หรือแม้แต่ธรรมดา จนกลายเป็นมุกตลกสามัญของเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนเหล่าตัวละครสาวๆ ในเรื่องน่ารักดีน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นนางเอกเทพจายกนี้เซอร์วิสเยอะกว่าใครเพื่อน เทพโรคระบาดน่ารัก มุกตลกนี้ปล่อยกันตบมุกกันได้ฮ่าดี สรุปคือฮาเร็มเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรแบบไม่คิดมากครับ
ยังมีต่อภาค 2 ติดตามตอนต่อไป+
+
ความคิดเห็น