ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Ina]Judge Killer นักฆ่าผู้พิพากษา

    ลำดับตอนที่ #17 : >>Chapter 13 : Beguiler Man

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 55


    สวัสดีครับ... คุณพ่อ... คุณแม่... และก็อาสึยะ

    ช่วงนี้จู่ ๆ ก็มีคนมาลอบทำร้าย...

    ผมเกือบได้แผลมากอีกแล้วนะเนี่ย - -;;;

    แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ...

    ผมจะดูแลสุขภาพดี ๆ ครับ



     
    ไม่ต้องกังวล


    Chapter 13:Beguiler Man

         วันต่อมาผมก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลที่อังกฤษเพื่อทำการรักษาต่อพร้อมมาร์คและฟุโดะ... โดยได้รับการดูแลเพิ่มเติมจากอเล็กซ์อีกที

    ผมแทบอยากเอาหัวโขกกับโต๊ะ!!! เมื่อรู้ว่าอเล็กซ์เรียนจบปริญญาเอกทางด้านแพทย์ที่เยอรมันเลย!!!!? โอ้แม่เจ้า!!!!! O[                     ]O!!!;

    อายุก็เท่า ๆ กันเก่งขนาดนี้กระผมยอมแพ้ - -;

    Well, the bullets would not penetrate the vital organs ... But you have to stay.(ดีที่กระสุนทะลุไม่โดนอวัยวะสำคัญ... แต่ก็ต้องพัก - -^)”ครับ ๆ ผมฟังมาเป็นรอบที่ 304 ของช่วงเวลา 4 วันแล้วครับท่านหัวหน้าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    ในตอนนั้นเองที่ประตูห้องคนไข้ผมเปิดออกพร้อมกับร่างผู้ชายผมสีเทาไวโอเล็ตในชุดทีเชิ้ตสีเหลืองแขนยาวและมีเขียนว่า ‘Honey’และกางเกงสีขาวครีมและรองเท้าผ้าใบลายเส้นน้ำเงินเดินเข้ามาพร้อมกับส่งยิ้มให้... เกรย์นั่นเอง

    Hi Alex.(สวัสดี อเล็กซ์)”เกรย์ทัก

    Take care of it.(ฝากดูแลด้วยนะ)”พูดเสร็จอเล็กซ์ก็เดินออกไปโดยไม่รอคำตอบของเกรย์... ขอบคุณ... คนดี(ไปหมด) - -^ ผมคิด

    หลังจากนั้นเกรย์ก็ยิ้มไม่พูดอะไรอย่างรู้ดีก่อนจะเดินลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ผม

    Just thirsty? (หิวน้ำป่าว?)”เกรย์ถาม

    “(- -)(_ _)(- -)(_ _)”ผมพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่เกรย์จะเอี้ยวตัวไปหยิบแก้วน้ำแล้วส่งให้ผมดื่มก่อนจะรับคืน

    “(^ ^)”หลังจากนั้นภายในห้องก็เงียบลง... ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรดี




    Is ...(คือ...)”>>>เกรย์

    “?”ผมหันไปมองเกรย์ที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมาอย่างสงสัย

    I just noticed ...You wear contacts,valence.(ฉันพึ่งสังเกตนะ... นายใส่คอนแท็กเลนต์)”เกรย์บอกก่อนจะชี้มาที่ตาตัวเองเพื่อสื่อถึงผม... แม่เจ้า...งานเข้าแล้วไงพี่น้อง = =;;;

    I... Ilike this color...It's the best.(ก็... ฉันชอบสีนี้... ใส่แล้วแนวดี)”ผมแก้ตัว

    I...How is it good to wear.(หรอ?... ใส่แล้วมันดียังไง)”ขอบพระคุณ... Innocent ได้ใจมากเลยท่านเกรย์ ผมประชดในใจ

    It up to their style that they like if like it wearit if don t like not wear it  it there.(ก็แล้วแต่คนชอบหล่ะนะ... ชอบก็ใส่มัน... ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่... ก็แค่นั่น)”ผมอธิบายให้ฟัง

    Ummmm...understand for me...(อืม... เข้าใจหล่ะ...)”ขอบคุณที่เข้าใจ U___U

    It's what people like me, you do not like to put right?(มันก็คือสิ่งที่คนชอบก็ใส่แล้วไม่ชอบก็ใส่ใช่มะ?)”ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ - -;

    Eaaepenwea is what most people wear to make themselves look good!(เอาเป็นว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใส่เพื่อให้ตัวเองดูดีน่ะ! - -;)”ผมบอกอธิบายอีกรอบอีกครั้ง

    Ummmm...flavor like?(อืม... รสนิยมหรอ?)”

    That's it!(นั่นแหล่ะ!)”ผมพูดก่อนจะลงไปนอนอย่างโล่งอก... เฮ้อ... ในที่สุดก็เข้าใจสักที... แต่บางทีก็ดีกว่ามาร์คแหล่ะนะ... พูดถึงมาร์คก็ได้ข่าวมาว่ามีเลขาด้วยนิ... รู้สึกจะชื่อเดวิทอะไรสักอย่างหล่ะนะ...อยากเห็นจริง ๆเลยว่าเป็นยังไง

    (Laughs).(หัวเราะ)” ขำไรว่ะ - -^

    Why laugh.(หัวเราะทำไม)”ผมถามอย่างสงสัยเมื่อจู่ ๆ เกรย์ก็ขำออกมาผิดปกติ

    Well, you look like my brother so it^^.(ก็นายดูคล้ายน้องชายฉันน่ะสิ ^^)”เกรย์บอกก่อนจะหันมามองผมพร้อมกับส่งยิ้มให้

    อบอุ่นจัง... สิ่งที่สัมผัสได้ตอนนี้คือความอบอุ่น... ทั้งร่างกายและหัวใจ...มันเป็นความอบอุ่นที่ต่างออกไป...


    ไม่ใช่กับแม่รัล...


    ไม่ใช่กับพวกฮันดะ...


    และไม่ใช่กับมิโดริจัง...


    แต่เป็นแบบ...
     



    พี่ชิโร่

    “Really?(หรอ?)”

    “Yes.(ใช่)”หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับมาเงียบอีกครั้ง...
     

    กริ๊ง ๆ...กริ๊ง ๆ...


    ตอนนั้นเองที่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น... คงเป็นของเกรย์ ผมคิด

    “Hmmm???(หืม???)”หลังจากนั้นเกรย์ก็หยิบโทรศัพท์ไอฟอนสีขาวขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะรับสาย

    “สวัสดีแมกส์”หลังจากนั้นเกรย์ก็ทักคนในสายเป็นภาษาญี่ปุ่น... อ้าวเฮ้ย!!!? พูดได้ด้วย = =;;; (อย่าลืมสิยะว่าคุณเกรย์ไปเรียนที่ญี่ปุ่นตอนประถม!!! :ผู้แต่ง)เอ้อ...ลืม - -; แต่ทำไมต้องพูดด้วยนะ

    Need to speak Japanese...With you?...(ต้องพูดญี่ปุ่น... ด้วยหรอ?...)”ผมถามอย่างสงสัย

    Ummmm...this is my only friend.(อืม... เฉพาะเพื่อนคนนี้นะ)”เกรย์บอกผมพร้อมกับปิดหูฟังไม่ให้คนในสายได้ยิน

    Listen do not think so.(ฟังไม่ออกว่างั้น)”ผมเปรยไป

    “Umm… Yes(อืม...ใช่)มีอะไรหรอถึงโทรมา”พูดเสร็จเกรย์ก็คุยกับคนในสายต่อ... แน่นอนว่าผมฟังรู้เรื่อง -___- แต่ว่าทำไมชื่อมันคุ้น ๆ เหมือนคนที่ผมคุ้นเคยยังไงไม่รู้... คิดมากมั้ง

    “หืม?... มาหาฉันที่อังกฤษ... มีอะไรหรอ...”

    (...)

    “ฮะ ๆ ไม่เอาน่า... อย่าทะเลาะสิ... แมกส์... ชินอิจิ”ชื่อคนสุดท้ายทำไมมันคุ้นหูแปลก ๆ ผมคิด

    “อยู่ไหนหรอ?... Blud…Here's whatthe hospital...I do not remember.(บลัด... นี่โรงพยาบาลอะไรหรอ... ฉันจำไม่ได้)”เกรย์หันมาถามผมอย่างสงสัยแต่คราวนี้ไม่ปิดหูฟัง

    RS. Red ShineHospital .(โรงพยาบาล RS. Red Shine)”ผมบอกไป

    “โรงพยาบาล RS. Red Shine ในลอนดอน”

    (...)

    “หืม?... คุยกับเพื่อนน Killer น่ะ”

    (...?)

    “เด็กใหม่... ชื่อบลัดน่ะ...อยากเจอมะ”

    (...)

    “งั้นหรอ... โอเค ๆ เดี๋ยวลงไปรอ... แค่นี้นะ”หลังจากนั้นเกรย์ก็วางสายไป

    About me...Friends come.(เดี๋ยวมานะ... เพื่อนมาหา)”เกรย์บอกก่อนจะให้ผมนอนลงไปแล้วตัวเองเดินออกจากห้องของผมไป

    แต่มันก็กังวลใจ... รู้สึกอยากรู้ให้ได้ว่าเพื่อนของเกรย์เป็นใคร... เพราะจากที่ฟังการสนทนาและชื่อเพื่อน... มันคุ้นเคยจนรู้สึกแปลก ๆ


    ผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง... ถึงแม้ผมจะบาดเจ็บอยู่แต่ก็ยังพอขยับตัวได้บ้าง... ผมจึงขยับช้า ๆเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง(และความเป็นอิสรภาพออกจากโรงพยาบาลสักที -w-)


    ตอนนี้ผมเดินใกล้ถึงลิฟต์แล้ว...อีกนิดเดียว... อีกนิดเดียว...



    “Where are you going?(คุณจะไปไหนคะ)”ซวยแล้วไง... คุณนาง(มาร)พยาบาลมาทักผม

    Below is ...to buy it.(คือ... จะไปซื้อของข้างล่างน่ะครับ)”

    You have no visitors.(ไม่มีคนมาเยี่ยมหรอคะ)”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

    I would like to buy...(งั้นเดี๋ยวจะไปซื้อให้...)”

    I do not need to own it.(ไม่ต้องครับ ไม่ต้องครับ ผมไปเองได้ =A=;;)”ผมรีบตัดบทสนทนาแล้วกดปิดลิฟต์เลือกชั้นทันที




    ติ้ง...

    หลังจากนั้นผมก็เดินมองหาเกรย์ในโรงพยาบาลชั้นล่าง... ถ้าจำไม่ผิด... จะรอเพื่อนที่หน้าประตู ผมจึงเดินถามพนักงานแล้วเดินตามที่เขาบอกจนเจอเกรย์กำลังนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับชะเง้อมองหาเพื่อนไปด้วย

    ผมจึงแอบอยู่ตรงผนังกำแพงที่สามารถมองเห็นเกรย์และด้านหน้าประตูได้เพื่อเหมาะแก่การสังเกต

    ตอนนั้นเองที่มีผู้ชายผมสีน้ำตาลเข้มใส่ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นกับกางเกงสียีนน้ำเงินยาวดูแล้วก็ปกติดีอยู่หรอก... ถ้าทรงผมของเข้านั่นไม่ทำให้ผมตกใจ... ทรงผมคุ้น ๆ แบบนี้... อีกทั้งใบหน้าที่ดูแล้วสุดแสนจะโมเอะคุ้น ๆ แบบนี้

    ในตอนนั้นร่างกายของผมก็เกร็งไปหมด... เมื่อคนที่ตามผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายเจ้าของดวงตาสีดำกลมโตผมสีน้ำตาลส้มยาวปรกบ่าถูกมัดด้วยหนังยางเส้นบางและใส่หมวกไหมพรมสีน้ำเงินสลับชมพูในชุดเสื้อกล้ามแบนักกีฬาบาสสีส้มกับกางเกงสามส่วนสีน้ำตาลซีด...

    มะ... ไม่จริง!!!!!? เป็นไปไม่ได้... นั่นมัน...


     
     
    ฮันดะ ชินอิจิกับมาสึโนะ คุสึเกะ
     

    “อ้าว!? ทางนี้... ชินอิจิ... แมกส์...”

    อึก!

    ผมช็อกไปชั่วขณะ... สองคนนั้นรู้จักเกรย์!!!? ทำไม... ไม่เห็นรู้สักนิด!!!?

    ตอนนี้เหงื่ออาบทั่วตัวร่ากายไปไปหมด... สภาพผมตอนนี้เหมือนมีใครมาตีผมจนตัวชาไปหมด...
    ชาทั้งแขน... ทั้งขา... ร่างกาย... และรู้สึกเจ็บแปล็บที่ใจจยผมไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไง

    “หวัดดีเกรย์”แมกส์เริ่มทักก่อนจะกอดเกรย์อย่างคิดถึง

    “สวัสดีทั้งสองคน”

    “ไม่ต้องพูดอังกฤษหรอ”ฮันดะถาม

    “ไม่ต้อง ^^… ก็แมกส์ฟังอังกฤษมี่ค่อยรู้เรื่องนิ...”เกรย์บอกก่อนจะหันมามองแมกส์

    “นั่นสินะ... ก็คนอย่างนายมันไม่ตั้งใจเรียนเองนินะ”

    “หุบปากเลยฮันดะ!!! พูดอย่างงี้ทำอย่างกัว่าตัวเองตั้งใจเรียนตายน่ะ!!!”แมกส์เริ่มโวยวาย

    “อย่างน้อยฉันก็คะแนนดีกว่านั่นแหล่ะน่า!”

    “อย่าทะเลาะกันนะ... เอาเป็นว่ามีธุระอะไรสำคัญจนต้องมาหาฉัน?”เกรยืถามเพื่อเข้าประเด็น... สองคนนี้ก็ทะเลาะกันได้ตลอด ขอบคุณจริง - -; ผมคิด

    “ก็...”หลังจากนั้นแมกส์และเกรย์ก็นั่งลงประจันหน้ากับเกรย์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง

    “...มันเป็นเรื่องที่แบบว่า... กระทันหันจนเราต้องรีบมาบอก”

    “เข้าใจ... พูดถึงหล่ะนะก็ขอโทษที่... จริงจังเกินไป ^^;”เกรย์ขอโทษก่อนจะพนมมืออย่างสำนึกผิด... อะไรกัน!!!? เล่นละครหรอเนี่ย!!!!!?

    “ว่าแต่คนนั้นตายมะ... คนที่ฉันยิงที่นั่นน่ะ”เกรย์ถามขึ้นมาจนผมสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ... โชคดีที่ข้าง ๆ ผมไม่มีอะไรนะ... ไม่งั้นโดนจับได้แน่ = =;;;

    “ก็... ไม่ตายน่ะ”แมกส์พูดอย่างอึดอัดเหมือนกำลังกังวลอะไรบางอย่าง

    “ชิ... สงสัยต้องตามเก็บ...”

    “ไม่ได้นะเกรย์!”จู่ ๆ ทั้งแมกส์และฮันดะก็ร้องห้ามพร้อมกันจนเกรย์หันมามองอย่างสงสัย
    ผมมีความรู้สึกว่าตอนนี้เกรย์เริ่มทำสีหน้าเหมือนกับตอนที่ผมสู้กับเจ้านั่นที่รัสเซีย... แววตาที่โกรธแค้นตำรวจนั้น... มันเริ่มฉายแววออกมา... เหมือนคิดจะฆ่าผม... และดูเหมือนทั้งสองคนกำลังปกป้องผมอยู่... ทำไมกัน?

    “ปิดบังอะไรอยู่หรือไง?”เกรย์ถามอย่างเยือกเย็น

    “ไม่มี... อะไร”ฮันดะพูดอย่างแผ่วเบา

    “เฮ้อ... ชั่งมันเถอะ... ไม่อยากใส่ใจ”เกรย์พูดก่อนจะหงายหลังไปพิงเบาะอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะเอี้ยวตัวหยิบกล่องน้ำผลไม้รสกีวี่สองสามอึกก่อนจะกันมามองฮันดะและแมกส์ต่อ

    “ธุระมีอะไรว่ามา”

    “ช่วงหลายวันก่อนมีใครมาทำร้ายคนใกล้ตัวไหม?”แมกส์ถามเพื่อเข้าประเด็น

    “มี... ประมาณสัปดาห์ที่แล้ว”

    “ใครโดนบ้าง!!!?”แมกส์ถามอย่างร้อนรน

    “ก็มีบลัด...ที่เป็นเด็กใหม่โดนที่หลังส่วนฟุโดะก็ข้อเท้าแพลงและมาร์คหัวไปฟาดกับหินเย็บหลายเข็มเหมือนกันแต่ก็ปลอดภัยทุกคน”เกรย์อธิบายไปทำให้แมกส์ถอนหายใจอย่างโล่งอก

    “ทำไมหรอ?”เกรย์ถาม

    “คืองี้นะ... เมื่อหลายวันก่อน... กำลังเดินเล่นอยู่ดันได้ยินเจ้าพวกนั้นคุยกันแล้วส่งรูปให้จัดการคนในรูปมีทั้งนาย... วินเซนต์ ฟุโดะ และอะ อุ๊บ!”จู่ ๆ แมกส์ก็รีบเอามือมาปิดปากอย่างรวดเร็วจนเกรย์สงสัย

    “ใคร?”

    “คือ... ไม่แน่ใจ... มองหน้าไม่ชัด”แมกส์โบกมืออย่างรีบร้อน

    “น่าสงสัย”เกรย์พูดก่อนจะมองแมกส์อย่างจับผิด

    “คือ... ตอนนั้นรีบหนีออกมาเพราะพวกนั้นรู้ตัว... ฉันหนีมาได้เนี่ยก็บุญวาสนาดีแล้ว - -; แต่ที่รู้คือเจ้าพวกนั้นรู้ตัวจริงของนายแล้วด้วย”แมกส์บอกอย่างหวาดกลัว ส่วนเกรย์ก็มองแมกส์อย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

    “ชั่งมันเถอะ... แต่ก็ขอบคุณที่มาบอก... เป็นอันว่าฉันจะระวังตัวให้มากขึ้นแล้วสินะ”เกรย์พูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อย

    “ขอโทษนะ...”ฮันดะบอกอย่างน้อยใจ

    “ชั่งมันเถอะ... มันผ่านไปแล้ว... แล้วพวกนายกลับเลยไหมเนี่ย?”เกรย์ถาม

    “คงต้องอยู่สามสี่วันน่ะ”ฮันดะบอก

    “หรอ...”
     


    กริ๊งงงงง....

    ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของเกรย์ดังขึ้นโดยเจ้าตัวมองก่อนจะกดปุ่มอะไรบางอย่างแล้วใช้สายตาอ่านมันอย่างรวดเร็วก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลง

    “ทอรัสส่งข้อความให้ไปหา... ไปหล่ะ... มีธุระ”

    “อืม... โชคดี”หลังจากนั้นเกรย์ก็เดินออกไปเหลือแค้แมกส์และฮันดะสองคนผมจึงเดินออกไปหาสองคนนั้นช้า ๆ

    “สวัสดี...”ผมพูดออกมาเป็ยภาษาญี่ปุ่นซึ่งทั้งสองสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะหันหลังมามองผมก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย

    “แกเป็นใคร”ฮันดะถาม

    “หึ... แค่ฉันยังไม่รู้จักหรอเนี่ย... ฮันดะ... แมกส์”ผมพูดออกไปก่อนจะแสยะยิ้มอย่างประชดประชัน

    “แก...รู้ชื่อพวกเรา!?”แมกส์พูดอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองอย่างหาเรื่อง

    “แกไปบอกมันใช่ไหมฮันดะ!!!!”นั่นไง... ทะเลาะอีกแล้ว - -;

    “อะไรของแก... ฉันไปบอกมันตอนไหน? ใช้สมองควายคิดหรือไง”ฮันดะเริ่มโวยบ้าง

    “หน๋อย!! งั้นแกคงใช้สมองกระบือนั่นแหล่ะ!”

    “ความกับกระบือตัวเดียวกันเฟ้ย!”

    “หยุดเลย! ถ้าแหกปากทะเลาะกันอีกเดี๋ยวปัดถีบกลับส่งญี่ปุ่นไปหาแม่นางยักษ์สักเลยนิ”ผมบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด

    “เดี๋ยวนะ...”ฮันดะพูดออกมาอย่างตกใจก่อนจะหันมามองผมอย่างพิขารณาก่อนจะทำหน้าตกใจและเหงื่อเริ่มไหลออกมาจากแก้มลงสู่พื้นอย่างหวาดกลัว

    “นาย... คะ... คือ...”

    “ฉันว่าไปคุยกันที่อื่นดีกว่า... คุยกันที่ห้อง 708 ห้องของฉันแล้วกัน”

    “นายแอบฟัง...”

    “หึ”สิ้นเสียงผมก็นำไปโดยมีแมกส์และฮันดะเดินตามหลังโดยไม่พูดไม่กล่าวใด ๆ



    ...


    ..


    .
     


    หลังจากที่เข้ามาในห้องและสิ้นเสียงปิดประตูและเสียงล็อกกลอนผมก็กลับหลังหันมามองคนที่อยู่หลังผมอย่างโกรธเคือง

    “ทำไมนายอยู่...”

    “แล้วทำไมนายถึงรู้จักเกรย์”ก่อนที่ฮันดะจะถามเสร็จผมก็ชิงถามฮันดะทันที

    “เออ...”ฮันดะทำท่าทางอย่างอึดอัดก่อนจะหลับตาผม

    “ว่าไงแมกส์... ฮันดะ?”ผมถามอย่างจริงจัง

    “คือ...”ตอนนี้ฮันดะเกร็งไปทั้งตัวเหมือนกลัวที่จะตอบคำถามผ

    “โธ่เว้ย!!!!!!!”

    ปัง!

    ผมกระชากฮันดะไปชนกับกำแพงแล้วดึงคอเสื้อฮันดะเพื่อให้เจ้านั่นมองผม... ตอนนี้ผมแทบจะเป็นบ้าเต็มทีแล้ว!!! ผมมองคนตรงหน้าอย่างโกรธเคืองและขอบตาของผมตอนนี้ร้อนเผ่า

    “อาสึยะ!!! ใจเย็น ๆ”แมกส์ร้องห้ามผมพร้อมกับจะดึงตัวผมแยกกับฮันดะเพื่อไม่ให้ทำร้ายฮันดะแต่ผมก็ยังดื้อดึงไม่ปล่อยจากฮันดะง่าย ๆ

    “ไม่ต้องพูดเลยแมกส์!!! ฮันดะ...แกปิดบังอะไรฉันอยู่!”ผมถามอย่างเหลืออดส่วนฮันดะก็ทำได้แต่ก้มหน้าไมมองผม เงียบ... ไม่พูดอะไร... ซึ่งแม้ก็ไม่ต่างกัน

    “งั้นฉันถามใหม่... แกเป็นใครกันแน่...”ผมเปลี่ยนคำถามใหม่ซึ่งคราวนี้ผมเห็นริมฝีปากของฮันดะเมมไว้อย่างเจ็บใจก่อนจะค่อย ๆ มองหน้าผมอย่างเจ็บปวด...

    “ฉันเป็น... นักฆ่า หน่วย Killer ระดับ 9 ฝ่ายสอดแนม... ”พูดเสร็จฮันดะก็แกะกระดุมเสื้อออกแล้วเผยให้เห็นตราระดับเป็นตัวเลขเก้าโรมันอยู่หน้าอกข้างซ้ายของฮันดะส่วนแมกส์ก็ถอดหมสกไหมพรมออกแล้วกลับด้านมันเผยให้เห็นตราเช่นเดียวกับฮันดะ

    “เราสองคนทำงานเป็นคู่หู... และเป็นเพื่อนกับเกรย์ ไอรอลตอนเข้ามาเป็นนักฆ่าใหม่ ๆอย่างที่นายแอบฟัง”ฮันดะพูดออกมาอย่างเย็นชาแกมเจ็บปวดก่อนจะติดกระดุมใหม่อีกครั้งพร้อมกับแมกส์เอาหมวกไหมพรมพลิกอีกด้านแล้วกลับมาใส่ที่หัวเหมือนเดิม

    “นายหลอกฉันมาตลอดสินะ”ผมพูดออกมาก่อนจะปล่อยจะการดึงเสื้อของฮันดะก่อนจะกำมือแน่นอย่างเจ็บปวด

    “ฉะ... ฉะ... ฉัน... ไม่ได้ตั้งใจ... จะหลอก”

    “แล้วทำไมไม่บอกฉัน!!!!!?”

    “...”ฮันดะเงียบก่อนจะทำสีหน้าเจ็บใจอีกครั้ง...

    “ขอโทษ”ฮันดะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

    “แล้วมันหายไหมเล่า!!! ฮะ... อึก...”จู่ ๆ ความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาที่หลังของผมพร้อมกับร่างกายผมชาอย่างฉับพลันแล้วร่างกายผมค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้น

    “อาสึยะ!!”สิ้นเสียงแมกส์ผมก็รู้สึกถึงใครบางคนพยุงผมขึ้นมาแล้วพาผมมานั่งบนเตียง... แมกส์นั่นเอง ชิ... แผลฉีกสักได้...

    “นายก็คือบลัดสินะ... อาสึยะ”ฮันดะถาม

    “เออ”ผมตอบห่วน ๆ ไปและทุกอย่างในห้องก็เงียบ

    “คือ...”จู่ ๆแมกส์ก็เอ่ยขึ้นมาจนเปนจุดสนใจของผมและฮันดะ

    “ทำไม”ผมถาม

    “นายอยู่ที่นี่ได้ไง”แมกส์พูดพร้อมกับมองผมอย่างสงสัย

    “ผู้กำกับสั่งให้ฉันมาเอาข้อมูลที่นี่”

    “นายอย่าไปฟังมันนะอาสึยะ!!!”แมกส์ตะโกนใส่ผมจนผมตกใจ

    “ทำไม”ผมถาม

    “เจ้านั่นหลอกนายอยู่นะ!!!!”

    “แล้วนายไม่หลอกฉันหรือไง!”ผมตะโกนถามไปอย่างเหลืออดจนแมกส์อึ้งไปชั่วขณะก่อนจะหลบตาผมอย่างเจ็บใจและโศกเศร้า

    “ขะ... ขอโทษ...”แมกส์เอ่ยขึ้นมาเบา ๆก่อนที่ภายในห้องจะเงียบลงอีกครั้ง...



    พอเป็นอย่างนั้นผมจึงพยายามลุกแล้วเดินไปหาฮันดะแล้วมองมาที่หน้าของฮันดะซึ่งเจ้านั่นก็หันมามองกลับเช่นกัน

    “งั้นนายบอกมา...”

    “?”

    “บอกมาว่า... เกรย์ ไอรอล... มันเป็นใคร...”ผมถามอย่างเจ็บปวดและทรมาน... ไม่ใช่ที่ร่างกาย... แต่เป็นที่จิตใจของผมเอง

    “มะ... ไม่ได้”ฮันดะพูดก่อนจะหลบตาผม

    “บอกมา!!!”

    ปึง!!

    สิ้นเสียงผมก็ชกฮันดะไปชนกับกำแพงห้องก่อนจะรีบเดินไปกระชากคอเสื้อของฮันดะอีกครั้งอย่างโกรธเคืองโดยไม่สนใจว่าแมกส์จะมารั้งผมไว้แค่ไหน

    “บอกมาว่าเกรย์มันเป็นใคร! หรือนายกลัว?”

    “ใช่... ฉันกลัว”ผมอึ้งเล็กน้อยกับคำพูดของฮันดะ... กลัว?... งั้นหรอ

    “กลัวนายรับไม่ได้... เพราะตัวฉันเองยังรับไม่ได้เลย”ฮันดะอธิบายก่อนจะเอามือมาปาดเลือดที่ซึมที่ริมฝีปากเล็กน้อย

    “นั่นมันนาย... ไม่ใช่ฉัน... บอกมา!”

    เงียบ... ฮันดะไม่ตอบ...


    “บอกมาสิฮันดะ!!!...”ผมพูดไปพร้อมกับเขย่าตัวฮันดะให้บอกคำตอบออกมา

    “พอเถอะน่า!อาสึยะ”

    “ไม่ต้องมาห้าม! แมกส์... ฮันดะ... บอกมา...”

    “เป็นพี่ชายของนาย!!!”






     
    อะ... อะ... อะไรนะ... ผมหูแว่วไปหรอ?



    “พะ... พูดอะไรน่ะ... ฉัน...”

    “ฟังไม่ผิดหรอก... เกรย์ ไอรอล... คือ ฟุบุคิ ชิโร่... พี่ชายของนายที่รอดจากอุบัติเหตุเมื่อ 15 ปีก่อน”สิ้นเสียงของฮันดะผมรู้สึกตัวชาไปทั้งตัว... หูอื้อจนไม่ได้ยินอะไรเลย... ผมค่อย ๆ ปล่อยมือจากคอเสื้อของฮันดะก่อนจะค่อย ๆ ทรุดนั่งลงกับพื้นก่อนจะเอามือมากุมหัวอย่างทรมาน...

    “ไม่จริง...”ผมพึมพำเบา ๆ ออกมา...

    “ฉันบอกไปแล้วนะ... แต่นายบังคับให้ฉันพูดออกมาเอง”ฮันดะพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังจะเดินออกจากห้องไป

    “จะดีหรอ”ตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงการสนทนาของทั้งสองคนที่กำลังจะออกจากห้องผม

    “ปล่อยมันไป... ฉันไม่อยากยุ่ง”สิ้นเสียงพวกเขาออกไปโดยมีผม... อยู่ในห้องเพียงคนเดียว
     
     


    “ว่าไง... ตามแผนสินะ”เสียงผู้ชายคนหนึ่งกำลังพูดคุยกับคน ๆ หนึ่งในโทรศัพท์ไอฟอนสีดำอย่างชอบใจในความมือของภายในห้อง ๆ หนึ่ง

    “หึๆๆๆ ช็อคเลยสินะ”เขาพูดออกมาก่อนจะหมุนเก้าอี้แล้วมองท้องฟ้าที่มือครึมทางหน้าต่างอย่างเพลิดเพลิน

    “ดี... ดีสุด ๆ ไม่ต้องห่วง... แม่นายจะปลอดภัย”
     
     

    “โทระคุง”
     
    +❥ Free theme mouse. naru 

    จากผู้แต่ง:
    สวัสดี!!!!!! กล่วจะมาเนี่ยอุปสรรคเยอะค่ะ -w-... ตอนนี้คนที่อ่านอาจจะตกใจอึ้งเป็นบางราย... เพราะกลายเป็นว่าเพื่ออาสึยะเป็น Killer สักงั้น = =; แต่แอบสักใจที่ได้ปั่นหัวคนอ่าน อิอิ///โดนคนอ่านตบ อ็อก!!  อิอิเอาเป็นว่าเอาใจเชียร์อาสึยะคุงด้วยนะว่าจะทำใจกับเรื่องที่เกรย์ผู้แสนดีของเรากลายเป็นพี่ชายของอาสึยะไปแล้ว... บ้ายบาย เจอตอนหน้า

    <<< กลับ Home page
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×