คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : chapter 15 R U there for me..? (Special chapter thx for 200 comments) (สมบูรณ์)
Are you there for me..? JACK ❄
△ Presented by Papermail. △
ในตอนนี้เมลล์ไม่ได้ตัดข้ามมาแต่อย่างนะคะ แต่เป็นการแทรกเนื้อเรื่องตอนนี้มาอีกที ให้ถือว่าเป็นตอนที่ 15 เลยก็ได้นะคะ
ตอนนี้แทรกมาเพื่อขอบคุณรีดเดอร์ทุกๆคน & เพื่อฉลองครบ 200 คอมเม้นต์เย้ๆๆ #และมีความยาวถึง 2 ตอน
ตอนนี้เนื่องจากเป็นเนื้อเรื่องหลัก NO.NC นะจ๊ะ #แต่รับรองว่าฟินเท่าตอนปกติ แต่คราวนี้จะฟินกันทั้งตอน ไม่บู้ ไม่ดราม่า
ใครที่รอ #S.Chapter ของจริง #NC. #จักหนัก #จัดเต็ม #ไม่เบบี้ #โยนลงเตียง #แจ๊คโหด #ง้อน่ารัก #มุ่งมิ้ง เมลล์จะเอาไว้ฉลองคอมเม้นต์ครบ 289 เยอะไปไหม?? ไม่หรอก เผื่อเวลาไว้หายใจหายคอบ้าง...
ดวงจันทร์ส่องแสงเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท อุณหภูมิที่ลดต่ำลงเรื่อยๆส่งผลให้เกล็ดหิมะสีขาวนวลร่วงโรยไปทั่วอาณาจักรราวกับเป็นสัญญาณตอนรับการกลับมาของทั้งคู่ สายลมแห่งฤดูหนาวได้พัดพาเด็กหนุ่มเทพผู้พิทักษ์กลับมายังที่นี้อีกครั้ง...
อาณาจักรแอเรนเดลล์
ดวงตาสีฟ้าทอดมองร่างเล็กในอ้อมแขนที่ไม่รู้ว่าร้องไห้จนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร เด็กหนุ่มยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใบหน้าของตนตอนนี้ใกล้กับอีกร่างจนแทบจะมอบรสจูบของตนลงบนริมฝีปากบางของอีกฝ่ายอยู่แล้ว..
แจ็คหยุดลงที่ระเบียงด้านนอกก่อนจะค่อยๆเปิดบานประตูออก เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาด้านในด้วยเท้าเปลือยเปล่าก่อนจะค่อยๆวางร่างในอ้อมแขนลงบนเตียง
แต่ดูเหมือนว่า...
มือที่เคยกอดเขาเอาไว้จนถึงตอนนี้ จะไม่ยอมปล่อยเขาไปซะแล้ว
“เอลซ่า..” แจ๊คก้มลงเรียกร่างเล็กเบาๆ แต่ไม่เพียงแค่เธอจะไม่ตื่นเท่านั้นหญิงสาวพลิกตัวหันมาก่อนจะกระชับกอดเด็กหนุ่มให้แน่นขึ้นพร้อมกับซุกใบหน้าของตนลงกับเอวของอีกฝ่าย
แจ๊คค่อยๆดันตัวเองขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างๆร่างของเอลซ่าที่นอนหลับพริ้มอยู่ มือหนาเอื่อมมาเช็ดคราบน้ำตาอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวพิงกับหัวเตียง
เด็กหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะทอดสายตามองออกไปทางด้านนอกหน้าต่าง
“แล้วคืนนี้จะได้นอนไหมเนี้ย” แจ็คว่าจบก็พิงตัวลงตนลงที่หัวเตียงอีกครั้งก่อนจะพยายามข่มตานอน
.
.
.
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านบางเข้ามากระทบร่างของทั้งคู่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง ชุดกระโปรงของหญิงสาวเลิกขึ้นมาเกือบถึงขาอ่อน เอลซ่าซบใบหน้าของตนลงกับแผงอกกว้างพร้อมกับขาเรียวยาวที่ยกขึ้นพาดอีกฝ่ายอย่างเผลอตัว ส่วนทางฝ่ายแจ็คก็ไม่แพ้กันเด็กหนุ่มหนุนมือของตนต่างหมอน ส่วนมืออีกข้างนั้นโอบไหล่ของหญิงสาวไว้หลวมๆแต่ที่สำคัญมือของเขากลับอยู่ใต้สายชุดของหญิงสาวซะนี้...
ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย ก่อนจะสังเกตเห็นถึงบางอย่างที่ผิดปกติต่างไปจากทุกเช้า
เด็กหนุ่มมีผิวขาวราวกับหิมะ เรือนผมสีขาวสะอาดตาที่ตอนนี้มันยุ่งจนแทบไม่เป็นทรงนอนหลับเป็นตายอยู่ข้างเธอ แต่ที่สำคัญใบหน้าของเธอตอนนี้ซุกอยู่บนแผงอกกว้างจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย
เอลซ่าพยายามรีบลุกขึ้นนั่งแต่ทว่ามือหนาที่โอบไหล่ของเธออยู่นั้นหนักเสียจนทำให้เธอลุกไม่ขึ้น ร่างบางพยายามยกแขนของแจ็คออกก่อนจะสังเกตได้ว่ามือของแจ็คนั้นอยู่ใต้ชุดของเธอ
“นี่นายกับฉัน...อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน...นาย..ตาบ้า!!” ร่างบางตะโกนในลำคอ พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาถีบร่างของแจ็คที่นอนหลับอยู่อย่างจังโดยที่ไม่ได้สนใจด้วยว่าร่างที่ตนถีบลงไปนั้นจะเป็นคนที่เคยช่วยชีวิตเธอมาหลายครั้งแล้วก็ตาม
ตุ๊บ!!
ร่างของแจ็คร่วงลงมากองกับพื้น เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ ก่อนจะพยามลุกขึ้นนั่งแต่ดูเหมือนว่าเขาจะจุกเกินกว่าที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นได้ “นี้มันอะไรกันเนี้ย..ถีบมาได้คะ..เฮ้-ย!!”
แจ๊คเบิกตาโตเมื่อเห็นร่างของเอลซ่าก้าวลงมาจากเตียงก่อนจะลงนั่งบนตัวเขา แถมเจ้าตัวยังนั่งทับแผลเก่าที่เพิ่งถีบลงมาสดๆร้อนๆซะด้วย หนามน้ำแข็งพุ่งขึ้นมาจากพื้นห้องชนิดที่หากขยับไม่ดีได้มีรูพรุนประดับอยู่ตามตัวแน่
“นายกล้าดียังไง มาล่วงเกินฉันแจ๊ค นายมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ นายมันนิสัยไม่ดี อย่าคิดว่าจะรอดไปได้นะ” เอลซ่าว่าพล่างเขย่าคอเสื้อของแจ็ครัว
“อะ..อะ..ปะ..ปล่อยก่อน นั่งทับแบบนี้..หายใจไม่ออก” แจ๊คพยามโบกไม้โบกมือไปทั่วราวกับปลาขาดน้ำ เอลซ่าที่นึกขึ้นได้ว่าตนนั่งทับท้องอีกฝ่ายอยู่ก็ลุกขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นคร่อมร่างของอีกฝ่ายแทน พร้อมกับ...
ฟาดมือเรียวบางของตนลงพื้นเฉียดหูของแจ๊คไปเพียงไม่กี่เซน ไอเย็นแผ่ออกมาจากฝ่ามือของเอลซ่าจนสำผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่เย็นจนแทบจะกัดกินหัวใจของเขาให้หยุดเต้นซะตอนนี้ แจ็คเหลือบตามองมือของหญิงสาวด้วยสายตาหวาดเสียว
บางทีตอนนี้ความหนาวก็เริ่มทำให้เราเดือดร้อนซะแล้วสิ... แจ๊คว่าพลางขมวนคิ้วจนแทบชนกัน
แล้วจะเริ่มอธิบายจากตรงไหนก่อนดีแหละ..
สถานการณ์เริ่มมาคุ เอลซ่าหรี่ตาลงพร้อมจ้องมาที่แจ๊คอย่างเอาเรื่อง เหงือค่อยๆผลุดขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่มราวกับดอกเห็ด
เอาไงเอากันฟระแจ๊ค ยังไงก็ไม่ตายอีกรอบหรอก... แจ๊คคิด
“โอ๊ย..แผลเก่ามัน” แจ็คตะโกนก่อนจะงอตัวราวกับกุ้ง มือหนาทั้งสองข้างกุมท้องตัวเองแน่น เอลซ่าที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกออกจากตัวแจ๊คด้วยความเข้าใจผิดนึกว่าตนถีบโดยแผลเก่าของแจ๊คเข้าให้
แต่เพียงแค่จังหวะที่เอลว่ายกมือของตนขึ้นแจ็คก็รีบรวบมือของทั้งของข้างของเอลซ่าก่อนก็พลิกตัวของตนมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้
“นายมันเจ้าเล่ห์..ค่อยดูนะถ้า..ฉะ” เอลซ่าพูดพลางดิ้นอย่างไม่ยอมแพ้ แต่เพียงแค่คำพูดๆเดียวของแจ็ค ฟรอสต์กลับทำให้เธอนิ่งราวกับเป็นหุ่นขี้ผึ่ง
“ถ้าไม่เลิกดิ้นคราวนี้จะปล้ำจริงๆด้วย” แจ๊คพูดด้วยสายตาเอาจริง พล่างปลดปลดเข็มขัดของตนออกเผยให้เห็นซิกแพคช่วงท้องน้อยจนเกือบจะเห็น...
“คะ..คราวนี้?? หมายความว่านายก็ไม่ได้...” เอลซ่าว่า ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองเข้าใจผิดอย่างจัง ใบหน้าที่ขาวราวกับหิมะตอนนี้ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัดด้วยความเขินอายในขณะเดียวกันก็พยายามเบนสายตาไปทางอื่นให้อย่างน้อยตอนนี้ได้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นสักนิดก็ยังดี
“ก็ใช่นะสิ..ทำไม หรือว่าเสียดาย..งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีไหมล่ะ..??” แจ็คว่าพลางก้มลงซุกไซร้อยู่ที่ต้นคอขาวก่อนจะวางคางของตนลงบนไหล่ของเอลซ่าที่อยู่ด้านล่าง เด็กหนุ่มหันใบหน้าของตนเข้าหาใบหน้าของอีกฝ่าย ส่งผลให้ตอนนี้ริมฝีปากของเจ้าตัวแนบกับใบหูของหญิงสาวอย่างช่วยไม่ได้
”ไหนๆก็บอกน้องเจ้าไปแล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้ามัดจำไว้ก่อนก็ไม่เลวนะ” แจ็คกระซิบข้างใบหูของอีกฝ่ายอย่างช้าๆลมใจที่สำผัสใบหูอย่างแผวเบายิ่งชวนให้ร่างของเอลซ่าใจเต้นรัวจนแทบจะหายใจไม่ทัน
แจ๊คยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะยกขาเรียวบางของอีกฝ่ายขึ้นแนบเอวพร้อมกับดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างของเอลซ่ายิ่งขึ้น
“มะ.....” เอลซ่าหน้าแดงแจ๊ก่อนจะพยายามดึงขาของตัวเองลงพื้น แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่ายังไงเธอก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้
แจ๊คฝืนยิ้มอย่างจงใจก่อนจะปล่อยร่างบางให้หลุดจากพันธนาการ “ทีหลังถามก่อนแล้วค่อยถีบนะขอรับ องค์ราชินี”
แอ๊ด...
แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่จบลงง่ายๆที่คนสองคนซะแล้วสิ เพราะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญพ่วงเข้ามาตัวอีกตัว(?)
“เอลซ่ากลับมายัง..?? อยู่ไหม..?? อันนาให้มาเรียนไปกินข้าวเช้าแหนะ” โอลาฟเปิดประตูเข้ามาก่อนจะเดินข้ามมาอีกฟากหนึ่งของเตียงซึ่งภาพในตอนที่ปรากฏในสายตาของเจ้ามนุษย์หิมะเดินได้ตัวนี้ก็คือ
ภาพของหญิงสาวเจ้านายของตนนอนอยู่กับพื้นสภาพของกระโปรงก็เลิกขึ้นสูงจนเกือบเลยขาอ่อนขึ้นมา พร้อมกับรอยแดงเป็นจ้ำที่ข้อมือ มิหน่ำซ้ำทางด้านเด็กหนุ่มที่เจ้ามนุษย์หิมะไม่คุ้นหน้าที่กำลังคร่อมร่างของหญิงสาวอยู่ทางด้านบนสภาพก็ไม่ต่างกันสักเท่าไรผมเผ้าก็ยุ่งจนแทบไม่เป็นทรง มือหนาจับขาอ่อนของอีกฝ่ายพร้อมกับยกขึ้นสูงจนถึงเอวของตน แถมซอกคอขาวของเจ้าตัวก็แดงเป็นปื้นยิ่งเป็นหลักฐานชิ้นดีว่าก่อนหน้านี้มันเกินควรจะอะไรขึ้น
“เอ่อ...โอลาฟ” เอลซ่ารีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะรีบจัดการกับสภาพของตนให้เรียบร้อย พร้อมกับหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นไปนั่งชิวอยู่บนเตียงอย่างไม่เดือดร้อนอะไร
นี้นายจะเคยเดือดร้อนอะไรกับเรื่องพวกนี้บางไหมเนี้ย!!... เอลซ่าคิด
เมื่อรู้ว่าการขอความช่วยเหลือไม่เป็นผลร่างบางจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นข่มขู่แทน
“เจ้าไม่เห็นอะไรใช่ไหม...??” เอลซ่าเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตามองโอลาฟด้วยสายตาที่เย็นเฉียบ
“โอลาฟไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เอลซ่ารีบไปเถอะ อันนารอกินข้าวด้วยอยู่นะ” โอลาฟว่าพล่างกระโดดโลดเต้นไปทั่วบริเวณ เอลซ่าลุกขึ้นก่อนจะเดินตามโอลาฟไปด้านนอกโดยมีแจ๊คที่เดินตามมาติดๆ
ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยเถิด...
เอลซ่าภวนาเพราะเริ่มเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ว่าตั้งแต่แจ็ค ฟรอสต์เข้ามาในชีวิตเธอเรื่องแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เคยจบลงด้วยวิธีที่ง่ายๆเลย
ครึ่งแรกมาแล้วมาลุ้นกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกไหม...? ใครที่แอบภวนาขอให้ฟินกว่านี้อีก จิกหมอนกว่านี้อีกติดตามๆ อาจจะไม่ฟินเท่า NC. แต่เมลล์ก็พยายามๆแต่งออกมาให้คงความเป็นแจ็คกับเอลซ่าเอาไว้.. สู้ๆๆ (นี้บอกใคร??)
ปล. ส่วนเรื่องตอนพิเศษที่บอกว่าตอนที่แล้วมันจบเร็วไปขอยิ่งๆ เรทๆ หนักๆ กว่านี้อีก เมลล์จะลองพยายามแต่งดูนะคะ เพราะเท่าที่แต่งมาตอนที่แล้วหัวใจก็จะวายอยู่แล้วความจริงเก๊าเป็นสายแบ๊วนะ (เอานิ้วไขว้กันด้านหลัง 55) เพราะคนแต่งต้องคิดภาพตามแล้วบรรยายเป็นตัวอักษรไง โอ๊วๆๆ ภาพๆๆ แจ็คๆ นมๆ 555+ แต่ยังไงก็จะพยายามนะ ไม่ใช่ตัดทิ้งนะแค่ไม่รู้ว่าจะแต่งออกมาได้รึเปล่า 55
ส่วนเรื่องคอมเม้นต์ 289 ไม่เยอะๆ เมลล์ขอพักหายใจสักนิด เมลล์กลัวว่าถ้าเลือกคอมเม้นต์ 234 ตอนพิเศษมันจะติดกันเกินไปเดี๊ยวเขาจะหาว่า อ้าวนี้มีแต่ตอนพิเศษหรอ.. เนื้อเรื่องหลักหายแล้วชิมิ อันนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่น่าจะเกินอาทิตย์หน้าก็ได้อ่านแล้วคะ ถ้าการคอมเม้นต์คงระดับนี้อยู่...
ทั้งสามเดินมาจนมาถึงห้องโถงกว้างที่ประดับด้วยบรรดาเครื่องเรือนราคาแพง บริเวณทางด้านริมบานหน้าต่างถูกจัดเป็นมุมทานอาหารที่ถูกตกแต่งอย่างดีไม่แพ้ส่วนใดของปราสาท หญิงสาวผมสีส้มแซมบลอนด์แพทตินัมนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารพร้อมกับแฟนหนุ่มของเธอที่มักจะมาร่วมโต๊ะด้วยเป็นบางโอกาส ดวงตาสีมรกตจ้องบรรดาอาหารหลากหลายเมนูที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีเพื่อบุคคลที่สำคัญที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้...
ผู้ปกครองของอาณาจักรอาเรนเดลล์ องค์ราชินีเอลซ่า และเธอ..หญิงสาวที่เปรียบดั่งทุกสิ่งในชีวิตขององค์ราชินี องค์หญิงอันนา
ทันทีที่อันนาเห็นเอลซ่าเดินพ้นประตูเข้ามา ร่างบางก็รีบลุกขึ้นยื่นก่อนจะโบกไม้โบกมือกลางอากาศรัวพล่างกวักมือเรียกพี่สาวของตนมาที่โต๊ะอย่างลืมตัว “พี่เอลซ่าทางนี้ๆๆ”
แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะโบกมือตอบ ก็มีบางเสียงดังแทรกขึ้นมา...
“อันนาไปซื้อของด้านนอกวังกันเถอะ...” โอลาฟรีบวิ่งตัดหน้าเอลซ่าไปทางด้านอันนาพร้อมกับกอดร่างของหญิงสาวแน่น
“ทำไมหล่ะโอลาฟ..?? ข้างนอกมันร้อนหน่ะเดี่ยวก็ละลายหรอก แค่เมฆนี้ไม่ไหวหรอก...” อันนาว่าพล่างชี้ไปที่เมฆหิมะส่วนตัวของโอลาฟที่เอลซ่าสร้างขึ้นมา..
“โอลาฟจะไปซื้อเปลเด็ก..ก็..ก็..ก็..ตอนเช้าโอลาฟเห็นว่า...เอลซ่ากับผู้ชายคนนั้นกำลังนอนด้วยกันอยู่เลย..แถมกางเกงก็หลุดลงมาจนเกือบจะเห็น..เอ่อ..เห็น...เห็นอยู่แล้ว..” โอลาฟพูดพร้อมทำตาสดใสเป็นประกาย สไตล์มนุษย์หิมะไร้เดียงสาต่างจากเอลซ่าในตอนนี้ที่..
ยื่นตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก หัวใจของเธอตอนนี้หล่นฮวบลงไปจูบดินเรียบร้อยแล้ว
ไหนบอกไม่เห็นอะไรไงเล่า...เจ้าโอลาฟ...คอยดูนะจะจับโยนเตาพิงให้เกรียมเลยคอยดู... เอลซ่าคิด
ใจเย็นๆๆไว้เอลซ่า ปกปิดไว้ อย่ารู้สึกอย่าให้ใครรู้ อย่าให้ใครเห็น ปิดไว้เอลซ่าปิดไว้....
ร่างบางพยายามฝืนทำหน้านิ่ง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพอให้อยู่ในระดับที่สมควร
“เอ่อ..พอดีแจ๊คจะล้มนะข้าก็เลยเข้าไปช่วย...มันก็เลยเป็นอย่างนั้น...มีอะไรสงสัยอีกไหม” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบแต่กลับดูมีอำนาจอย่างน่าประหลาดจนอันนาที่เตรียมอ้าปากจะถามต่อ ต้องรีบเก็บคำถามของตนไว้ทันที
“แต่..แต่ว่าที่โอลาฟเห็นเอลซ่านอนอยู่ข้างล่างนี้..? ” โอลาฟเอียงคอถามด้วยความสงสัยแบบเด็กๆ แต่ขณะเดียวกันก็พูดปักธง(รอโดนจับโยนลงเตาพิง)ไว้เรียบร้อย
*เวลาคนล้มแล้วเราเอื้อมมือไปช่วยเราจะล้มไปตามแรงนั้นด้วย โอลาฟหมายถึงถ้าเป็นจริงอย่างเอลซ่าบอกเอลซ่าควรจะอยู่ด้านบนไม่ใช้ด้านล่าง
“ข้าว่าเจ้าตาฝาดไปนะโอลาฟ เจ้าคิดว่าไง...?” เอลซ่ายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะไขว้มือเรียวบางของตนไว้ด้านหลัง พร้อมกับสะบัดมือของตนลงด้านล่างส่งผลให้...
เมฆที่คอยสร้างหิมะให้โอลาฟหายไปในพริบตา กิ้งไม้สองด้านที่มีไว้ต่างแขนของเจ้ามนุษย์หิมะรีบยกขึ้นมาพยุงแก้มของตนที่กำลังละลายลงไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เจ้าตัวรู้ได้ในทันทีว่าได้พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดเสียแล้ว
แจ๊คที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวยาวนั่งอมยิ้มกับการแก้ตัวของเอลซ่าที่ไม่เนียนเอาเสียเลย โดยไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นแหละที่เป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดในครั้งนี้
ทั้งสี่คนคนกับอีกหนึ่งตัวนั่งทานอาหารร่วมกันจนกระทั้งคริสตอฟฟ์ของตัวกลับไปก่อนทำให้ตอนนี้เหลือแค่อันนา เอลซ่า แจ๊ค แล้วก็โอลาฟ
“จะมีลูกซักกี่คนดีพี่เอลซ่า” อันนาอยู่ดีๆก็โผล่งคำถามออกมาชนิดที่ไม่ได้ให้คนตอบได้ตั้งตัวสักนิดทำให้เอลซ่าที่กำลังจิบชากุหลาบชั้นเลิศถึงกับสำลัก
อะไรถึงทำให้เรื่องเข้าใจผิดนี้ไปได้ไกลขนาดนี้นะ แม้ว่าเธอจะพยายามอธิบายเท่าไรก็ตามแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เดี่ยวสิเหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง...ลูก..ครอบครัว..น้อง...ตายจริง!!
“ลืมเรื่องที่สัญญาไว้กับอลิซไปเลย” เอลซ่าที่เพิ่งนึกขึ้นได้เผลอพูดออกมาอย่างลืมตัว
แจ๊คหลุดขำออกมาก่อนจะพาดไม้เท้าลงบนไหลของตนแล้วหันมาทางเอลซ่า “เรื่องที่เจ้าจะพาอลิซมาอยู่ที่นี้นะหรอ..ข้าฝากบันนี้จัดการแล้ว”
“เจ้ารู้ได้ไง” เอลซ่าหันไปมองทางแจ๊คอย่างสงสัย เธอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่อลิซเองก็ตาม แล้วทำไมแจ๊คถึงรู้ได้...
“ก็เจ้าละเมอ ตอนที่ข้าพาเจ้ากลับอาเรนเดลล์”
“ละเมอ...?”
“เจ้าพูดว่า ….
ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนเด็กหนุ่มเทพแห่งฤดูหนาวได้ล่องลอยไปตามสายลมโดยมีเด็กสาวผมสีบลอนด์นอนหลับอยู่ในอ้อมแขน
“แจ๊ค...” ร่างบางพูดพึมพำจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง แถมเจ้าตัวยังเอาหน้าซุกอกของเด็กหนุ่มที่อุ้มเธอไว้อีกต่างหากยิ่งทำให้จับใจความยากเข้าไปอีก
แจ๊คก้มมองร่างในอ้อมแขนก็พบว่าเอลซ่าตอนนี้กำลังหลับสนิท เจ้าตัวค่อยๆโน้มใบหน้าของตนลงพร้อมกับเอียงหูพยามจับใจความเรื่องที่หญิงสาวกำลังพูด
“เรา...ไปรับอลิซกันเถอะ.....นะ...ครอบครัว แจ๊ค..อบอุ่น...”
“แล้วข้าจะขัดใจเจ้าได้ไง ก็เจ้าเป็นคนที่ข้าจะยื่นเคียงข้างไปตลอดชีวิตนี้..” แจ๊คว่าจบก็ประกบริมฝีของตนกับร่างบางที่หลับไหลอยู่ในอ้อมแขน ลิ้นหนาสำผัสได้ถึงความร้อนที่คละคลุ้งอยู่ตอนนี้ เจ้าตัวล่วงล้ำเข้าไปในภายในของอีกฝ่ายอย่างเนินนานจนร่างของเอลซ่าที่หลับอยู่เริ่มพลิกหน้าหนีเพราะขาดอากาศทำให้เขาต้องฝืนตัวเองไม่ให้ถลำลึงลงไปมากกว่านี้ แจ๊คค่อยๆถอดริมฝีปากที่กำลังลิ้มรสความหวานของอีกฝ่ายออกอย่างช้าๆราวกับว่าเขาไม่อยากให้เวลาในตอนนี้หมุนเลยไปแม้แต่วินาทีเดียว
“สายลมข้าฝากด้วยนะ” แจ๊คว่าพร้อมฝากข้อความไปกับสายลมเพื่อถึงไปหาเพื่อนรักของเขา
บันนี้ มันด์..
.....” แจ๊คเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นให้เอลซ่าฟังโดยตัดตอนที่ตนแอบลิ้นรสหวานของอีกฝ่ายทิ้งอย่างจงใจ
เอลซ่านั่งหน้าแดงระเรือ...ตลอดมาเธอไม่เคยไว้ใจใคร
แต่ทำไมกลับคนๆนี้เธอถึงกล้าหลับต่อหน้าเขาได้อย่างสบายใจหลายต่อหลายครั้งกันนะ ร่างบางพยายามคิดหาคำตอบให้ตัวเองแต่ไม่ว่าคิดเท่าไรเธอก็คิดไม่ออก
แม้ว่าสมองของเธอจะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่หัวใจของเธอตอนนี้กลับเต้นถี่ระรัวอย่างไม่มีสาเหตุ..
เลิกคิด เลิกคิด เอลซ่า ไร้สาระน่ะ... เอลซ่าพยายามเบียงเรื่องของเด็กหนุ่มที่ชื่อแจ๊คออกไปจากความคิดของคนเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ภาพในหัวของเธอจะมีแต่ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้ลอยเต็มไปหมด
“เดี่ยวกินเสร็จแล้วไปหาพี่ที่ห้องหน่อยนะ พี่มีเรื่องอยากให้อันนาช่วย” เอลซ่าวางช้อนของตนลงบนจานก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดที่มุมปากของตนพร้อมกับมองอันนาที่ยังวุ่นอยู่กับอาหารตรงหน้าโดยที่ไม่แม้จะเงยหน้าขึ้นมามองเธอเลย
“คะ..คะ..เดี่ยวหนูไป” อันนาพูดตอบก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ มันก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะหิวขนาดนี้เพราะช่วงที่เธอออกไปตามหาเอลซ่าเธอไม่ได้พกเงินไปเลยแม้แต่เหรียญเดียว
“งั้นเดี่ยวพี่ไปรอที่ห้องนะ” เอลซ่าพูดจบก็ลุกขึ้นยื่นก่อนจะเดินออกไป
“ค้--าพี่เอลซ่า”
“ห้ามลืมนะ เจ้าต้องมาให้ได้นะ เรื่องนี้สำคัญจริงๆ” เอลซ่าว่าย้ำก่อนจะเดินกลับห้องไปเพียงคนเดียว
แจ๊คนั่งโยกเก้าอี้มองอันนาที่กำลังจัดการกับอาหารจำนวนมากโดยไม่มีท่าทีว่าจะอิ่มเลยสักนิดเดียว จนกระทั้งสาวน้อยร่างบางตรงหน้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจนไม่เหลือแม้แต่อาหารชนิดเดียว
อันนาเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าแจ๊คนั่งมองเธออยู่ “พี่แจ๊ค..” อันนาว่าพลางหรี่ตามองร่างตรงข้ามตน “พี่เอลซ่าน่ะรักพี่นะ” ร่างบางว่าจบก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปอีกทาง ทิ้งให้เด็กหนุ่มนิ่งอึ่งกับสิ่งที่ตนเพิ่งจะได้ยิน
“เฮ๊ย!! เดียวก่อนเจ้าน่ะ..เจ้าเอ่อ...อันนาเดียวก่อนรู้ได้ไง” ด้วยความที่ตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะได้ยิน...
ทำให้แจ๊คยกเท้าที่ตนกำลังโยกเก้าอี้อยู่อย่างลืมตัว ส่งผลให้ตนต้องหงายหลังไปพร้อมกับเก้าอี้ตัวหนา...
“พี่เอลซ่าเป็นพี่สาวของฉันน่ะสิ..ฉันถึงรู้....”
“...” แจ๊คค่อยลุกขึ้นยื่นพร้อมกับใช้ไม้เท้าของตนงัดเอาเก้าอี้ให้ขึ้นมาตั้งไว้เหมือนเดิม
“งั้น!! ไปก่อนนะพี่แจ๊คฝากงานที่พี่เอลซ่าให้ช่วยทำทีนะ..ช่วยทีนะ” แจ๊คที่ได้ยินอยากงั้นก็รีบกระโดดไปดักหน้าเด็กสาวเอาไว้
“เอลซ่าฝากให้เจ้าทำเจ้าก็ต้องไปทำสิ ข้าทำไม่ได้หรอกข้าไม่ถนัดเรื่องพวกนี้ ” แจ๊คว่าพลางยีหัวอันนาอย่างลืมตัวว่าอย่างน้อยคนตรงหน้าเขาก็เป็นถึงองค์หญิงของอาณาจักรแห่งนี้
“แต่หนูต้องไปหาคริสตอฟฟ์ พี่แจ๊คช่วยหน่อยนะถ้าหนูไม่ไป...ต้องโดนดุแน่ๆ” อันนาทำหน้าอ้อน
“แต่ข้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง”
“งานง่ายๆ แค่อ่านหนังสือร้องเรียนให้ท่านพี่ฟังตอนที่ท่านพี่จัดการเอกสารราชการ ...แค่นี้เอง เพราะพี่เอลซ่าต้องจัดการกับเอกสารพวกนี้คนเดียวบางทีก็เลยทำไม่ทัน... ฝากด้วยนะคะหนูไปแหละ” อันนาว่าตัดบทจบก็รีบวิ่งออกไปก่อนที่แจ๊คจะมีโอกาสแย้งขึ้นมาอีกครั้ง
“จะรอดไหมเนี้ย...” แจ๊คว่าพล่างยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยของตนอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินไปที่ห้องของเอลซ่า
เดียวสิแล้วทำไมต้องเป็นที่ห้องเอลซ่า ทำไมไม่เป็นห้องทำงานหล่ะ....
แจ๊คเดินมาจนถึงห้องของเอลซ่าก่อนจะเปิดตูเข้าไปด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป เท้าเปลือยเปล่าก้าวเข้าไปด้านในแต่ทว่ากลับไม่มีแม้แต่เงาของเอลซ่า
หัวใจของแจ๊คตอนนี้หล่นฮวบลงไปทางด้านล่าง ในใจพยายามขอร้องว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบครั้งที่อันนาหายไปอีกเลย แจ๊ครีบเดินไปเปิดบานหน้าต่างออกเพื่อถามสายลมว่ามีอะไรเกินขึ้นไหม แต่คำตอบที่ได้...
กลับเป็นความว่างเปล่า
เมื่อไม่ได้คำตอบเด็กหนุ่มก็รีบหันกลับมาแต่ทว่าสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับไฟทางด้านในห้องหนึ่งที่ลอดผ่านบานประตูที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้เล็กน้อย
แจ๊คค่อยๆดันบานประตูออก กลิ่นหอมของบรรดาดอกไม้นานาชนิดลอยออกมายั่วยวนให้ก้าวเข้าไปด้านในอย่างเผลอตัว แจ๊คหันมองไปอีกด้านก็พบเอลซ่าที่หันหลังให้ตนกำลังนั่งชันเข่าพร้อมกับเอนหัวพิงพนังมือเรียวบางที่พันผ้าพันแผลเอาไว้ทั้งสองข้างวางไว้บนเข่าของตนเพื่อไม่ให้เปียกน้ำจนแผลต้องอักเสบ
เหมือนรู้ตัวว่ามีคนกำลังมองตนอยู่เอลซ่าค่อยๆตื้นขึ้นมาพร้อมกับเหยียดแขนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่สะลึมสะลือกับแขก(ที่ไม่ได้รับเชิญ)ที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“อะอื่อ...มาแล้วหรอ ถอดชุดออกด้วยจะได้อาบไปพร้อมกันเลย พี่เตรียมผ้าขนหนูไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” ร่างบางว่าพล่างชี้มาทางปากประตูที่มีผ้าขนหนูวางอยู่สองผืน ก่อนจะพิงหัวของตนเข้ากับผนังอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้า
แจ๊คจะค่อยๆถอดหลังออกห่างก่อนจะเอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตู
แต่ว่าก็ถูกขัดไว้ด้วยเสียงๆหนึ่ง
“ถ้าขัดใจ..เจอดีแน่” เอลซ่าพูดปนหัวเราะ เพราะตนคิดว่าจะหยอกอันนาเล่นๆให้ตกใจ แต่หารู้ไม่ว่าเธอได้พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดซะแล้ว
แจ๊คค่อยๆถอดเสื้อของตนออกเผยให้เห็นผิวขาวนวลราวกับหิมะที่ชวนให้น่าลิ้มลอง..น่าสำผัส ซิกแพคที่มีอยู่บริเวณท้องไล้ลงมาถึงจุดสำคัญ...ยั่วยวนให้ตราตรึงจนแทบไม่อยากละสายตา บ่งบอกว่าเจ้าตัวก็ดูแลตัวเองดีจนน่าแปลกใจเพราะขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยใส่ใจอะไรเลย
เท้าเปลือยเปล่าก้าวเข้าไปหาร่างบางที่นั่งหันหลังให้ตนอยู่ ก่อนจะก้าวเข้าไปแช่น้ำร่วมกันกับหญิงสาวตรงหน้าสายตาก้มมองน้ำใสที่โรยบางๆด้วยกลีบดอกไม้หลากหลายชนิดแต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยบดบังอะไรเลย
มือหนาเอื้อมไปหยิบผ้าสีขาวที่พาดอยู่ข้างๆก่อนจะเทเครื่องหอมลงบนนั้น กลิ่นเครื่องหอมที่ลอยมาแตะจมูกแทบทำเอาเด็กหนุ่มแทบคลั้งเพราะเขารู้ดีว่านี้คือ...
กลิ่นหอมที่เขามักได้กลิ่นยามที่อยู่ใกล้เธอ...ที่เคยลองสำผัสจนตราตรึงอยู่ในโสตประสาทเสมอไม่ว่าทั้ง..ซอกคอ ใบหน้า แผ่นหลัง หรือแม้แต่ริมฝีปากบางนั้นก็ตาม
ยิ่งชวนให้อยากสำผัสมากกว่านี้อีก...
มือหนาวางผ้าผืนเดิมไว้บนไหล่ของเอลซ่าก่อนจะค่อยๆไล้ไปทั่วไหล่ที่เล็กจนแทบไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกันกับไหล่ของตน ฟองฟูสีขาวนวลค่อยๆไหลลงจากไหล่ของร่างบางลงไปเรื่อยๆจนถึงเอวที่คอดเว้าได้สัดส่วน ร่างบางเอนอ่อนไหวไปมาตามแรงมือของแจ๊ค
“สงสัยเราจะไม่ได้อาบน้ำด้วยกันมานาน..มือหนักขึ้นนะอันนา” เอลซ่าว่าจะก็เอนหลังพิงกับร่างของแจ๊ค
แต่ทว่าสำผัสในครั้งนี้กลับต่างออกไปเอลซ่ารู้ว่าบางอย่างตอนนี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้ ร่างบางสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะค่อยๆหันหลังมา
“ตาบะ..” แจ๊ครีบเอื้อมมือมาปิดปากเอลซ่าที่ตกใจ เพราะรู้ดีว่าถ้าเสียงดังออกไปข้างนอกเมื่อไรทหารได้แห่มาเข้ายกวังแน่ แต่ยิ่งโดนปิดปากเอลซ่าก็ยิ่งดิ่นทำให้แจ๊คต้องเอื้อมมือข้างที่เหลือมาโอบเอวเพื่อล๊อคตัวเอลซ่าไว้
“อย่าดิ้นสิ...” แจ๊คพูดเพื่อเตือนสติบางอย่างของเอลซ่าแต่เหมือนว่าจะไม่เป็นผลกลับทำให้หญิงสาวในอ้อมแขนดิ้นหนักกว่าเก่าอีก
“เจ้านั่งอยู่บนตักข้านะ อย่าดิ้นได้ไหมมันโดน...” แจ๊คว่าพลางดันให้ร่างบางลงมาซบกับอกของตน จนตอนนี้กลายเป็นว่าแจ๊คกำลังโอบเอลซ่าจากทางด้านหลัง
“อะไรของเจ้า” เอลซ่าว่าพล่างพยายามขยับถอยห่างจากร่างของแจ๊คแต่มือที่พันธนาการเธอเอาไว้กลับไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุมมือไปง่ายๆ
“แน่ใจว่าไม่รู้...” แจ็คว่าพล่างเกยคางของตนลงบนไหล่เรียวเล็กนั้น ขณะเดียวกันมือที่เคยโอบเอวไว้ก็ค่อยๆเลื่อนลงมาจนถึงขาอ่อนเจ้าตัวเริ่มซุกไซร้ร่างบางอย่างกระหาย มือหนาที่เริ่มไล้ไปทั่วร่างยิ่งชวนให้เขาอยากจะอยากสำผัสจนแทบจะละลาย
“หยุดนะ..” เอลซ่าร้องขอด้วยเสียงที่สั่นเครือยิ่งชวนให้สติค่อยๆเลือนลางลง..จนแทบจะคุมไม่ไหว
“ขอร้องสิ แล้วจะปล่อย” แจ๊คว่าพร้อมดันเอลซ่าให้หันหน้ามาหาตนก่อนจะซุกไซร้เนินอกขาวที่ชวนลิ้มลองอย่างเนินนาน ราวกับว่าต้องการยืดช่วงเวลานี้ออกไปให้ได้นานที่สุด ริมฝีปากที่ซุกซนประทับรสจูบของตนลงบนเนินอกขาวนวลนั้นเพื่อตีตราจอง
“แจ๊ค..ยะ..หยุด.......ข้าขะ..(ขอ)” มือหนาเอื้อมไปปิดปากร่างบางที่กำลังจะพูดจบ ก่อนจะเลือนมือกดหัวเอลซ่าลงด้านล่าง…
ร่างกายตอนนี้เริ่มร้อนจนแทบทนไม่ไหว แจ๊ครู้ดีว่าถ้ามากเกินไปกว่านี้มันจะถล่ำลึงลงไปจนเขาถอนตัวไม่ขึ้น
ยาวสมการรอคอยไหมคะ ไรต์เชื่อว่ามันยาวเพราะไม่รู้จะตัดลงตรงไหนดี ตัดตรงนี้แหละกันรู้ว่ารีดเดอร์ขี้เกรียจอ่าน
อนึ่งเมลล์อยากจะมาเตือนว่าถ้าไม่ช่วยกันเม้นต์เมลล์จะหยุดอัพนะคะ ปกติเมลล์เข็ดกับการแต่งออนไลน์ ดูจากฟิคริคุโอะได้เพราะไม่รู้ว่าจะอัพไปทำไม เมลล์นั่งแต่งหลายชัวโมงหลายหน้ากระดาษถ้าจะช่วยคอมเม้นต์กันสักแค่ไม่กี่บรรทัดเมลล์ก็มีกำลังใจแล้วคะ
ใช่เมลล์รู้ดีกว่าโลกออนไลน์ไม่มีใครรู้จักตัวจริงของเรายิ่งในเด็กดีที่ไม่มีใครเอารูปตัวเอาขึ้นอย่างนี้แล้วด้วย
รีดเดอร์บางคนก็แสนดีมากเม้นต์ ทั้งในนี้ ในไอดี ในข้อความลับ บอกเลยว่าที่ยอมมาอัพต่อก็เพราะเมลล์เห็นใจรีดเดอร์ที่ให้กำลังใจเมลล์เสมอมา แต่ก็มีรีดเดอร์ที่แตกต่างออกไปมากมาย
เมลล์ไม่ได้แต่งขาย แต่งให้อ่านกันฟรีๆ อย่าให้เมลล์ท้อจนคิดว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ช่วยคอมเม้นต์ในช่วงที่เมลล์สนใจฟิคนี้อยู่ เพราะถ้าเมลล์หมดความสนใจเมื่อไรต่อให้คอมเม้นต์มากมายเมลล์ก็ไม่สามารถอัพได้เพราะหมดไฟแล้ว 55+
การเตือนของเมลล์ครั้งเดียวก็พอนะคะ #ขอโทษรีดเดอร์นะคะถ้าการพูดจาดูไม่เหมาะสม หรืออาจดูจองหองถือดี แต่เมลล์พยายามมองโลกในแง่ดีมามากมายแล้วคะ ง่ายๆว่าบางครั้งที่เราถ้อเราก็ต้องการกำลังใจนะคะถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันก็ตาม
ความคิดเห็น