คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ลำดับตอนที่ 16
ผมนั่งอยู่ในห้องผู้อำนวยการ บรรยากาศรอบข้างกดดันจนผมไม่กล้าขยับปาก มันหนักกว่าครั้งที่ผ่านๆมา ผมนั่งเงียบอยู่เก้าอี้ตรงข้ามเบาะของผู้อำนวยการโดยมีโต๊ะทำงานขวางระหว่างผมกับผู้อำนวยการ ผมไม่กล้าสบตาผู้อำนวยการเลยแม้แต่น้อย ได้แค่มองโต๊ะไม้สักที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ปัง!
“นี่เธอจะทำยังไง!” ผมสะดุ้งเฮือก ผู้อำนวยการลุกพรวดพร้อมกับตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห นั่นคือเสียงแรกที่ผมได้ยินหลังจากเงียบมานาน “เรื่องเก่ายังไม่สะสาง ยังจะสร้างเรื่องใหม่ที่มันหนักกว่าเก่ามาอีกหรอ นี่อยู่แค่มอปลาย ทำตัวเป็นอาชญากรแล้วอย่างนั้นหรอ” เขาพูดเสียงดัง
“ผมขอโทษครับ” นั่นคือสิ่งเดียวที่ผมพูดได้ “ผมจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเองครับ”
“เธอจะรับผิดชอบอะไรไหว เธอเป็นแค่นักเรียนมอปลาย” เขาพูดโมโห ผมไม่ตอบโต้ เขาถอนหายใจแล้วค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ช้าๆ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกท้อใจกับลูกศิษย์อย่างผมมาก
“พวกเขาดักทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัว…” ผมอธิบาย
“ป้องกันตัว? เอามีดแทงเขาจนเข้าห้องไอซียูนี่นะป้องกันตัว?” คำถามของผู้อำนวยการทำผมเถียงไม่ออก “คิดเหรอว่ามันจะฟังในชั้นศาลขึ้น เธอรู้ไหมว่าเขาเป็นลูกชายรัฐมนตรีน่ะ ต่อให้พ่อของเธอมีทนายเก่งขนาดไหนก็สู้เขาไม่ได้หรอก”
ผมไม่เถียง มือทั้งสองข้างผมบีบแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ แต่ผมกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมรู้สึกเจ็บที่สุดก็คือใจของผม มันเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมอยากให้มันหยุดเต้นตรงนี้เลยด้วยซ้ำ จะได้จบๆกันไปซะที
“คอยเลอร์ สำหรับโรงเรียนของครู ครูคงรับเธอไว้ไม่ได้แล้วล่ะ” ผู้อำนวยการวางซองจดหมายสีขาวลงบนโต๊ะ แล้วเลื่อนมาตรงหน้าผม “ครูเห็นแก่โจเซฟ พ่อของเธอ ครูจะไม่ไล่เธอออก แต่เธอต้องมายื่นใบลาออกเอง เราเข้าใจตรงกันนะ”
“ครับ” ผมรับมา เมื่อหมดธุระแล้วผมออกมาจากห้องผู้อำนวยการ บรรดาครูและบุคลากรในห้องฝ่ายปกครอง ต่างพร้อมใจกันมองมาที่ผม รวมทั้งนักเรียนคนอื่นๆที่เข้ามาทำธุระด้วย ผมกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาพวกเขา เว้นแต่ไมล์เท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม มันรอผมอยู่หน้าห้องตั้งแต่ผมเข้าไป
“เป็นไงบ้างวะ คอยล์” มันรีบถาม
“ฟาวล์หวะ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามเลย” ผมพยายามพูดติดตลก โบกซองขาวให้ไมล์ดู สีหน้าไมล์ไม่สู้ดีนักเมื่อได้ยินคำตัดสิน
“ข้า…” ไมล์พูดเสียงค่อย “ถ้าเกิดวันนั้นข้าอยู่กับเอ็ง ข้าก็คงจะพอช่วยเอ็งได้ เอ็งก็ไม่ต้องทำแบบนั้น” เสียงไมล์เริ่มสั่น ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก “ข้าทำอะไรไม่ได้เลย ข้าขอโทษว่ะ”
“เฮ้ย ไอ้ไมล์ เอ็งคิดมากว่ะ ดีแล้วที่วันนั้นเอ็งไม่อยู่ด้วยน่ะ ไม่งั้นเอ็งก็โดนลูกหลงไปด้วย ข้านี่ก็เกือบตายเหมือนกัน” ผมรีบบอก “ส่วนเรื่องที่ข้าไปแทงมันน่ะ ข้าคิดว่าเดี๋ยวค่อยขึ้นศาล ยื่นอุทรแล้วชดใช้ค่าเสียหายก็น่าจะได้ เพราะข้าก็ทำไปเพื่อป้องกันตัว แถมข้ายังถูกรุมทำร้ายอีก” ผมโกหกไมล์ ผมรู้ดีว่าคำแก้ตัวคงไม่มีทางฟังขึ้น อย่างที่ผู้อำนวยการบอก “ส่วนเรื่องโรงเรียนน่ะ ข้าก็คงไปเรียนที่อื่นแหละ ถึงข้าไม่โดนเรื่องนี้ อาจารย์ใหญ่ก็เอาเรื่องอื่นมาให้ข้าออกอยู่ดีนั่นแหละ”
“ข้าขอโทษนะเว้ย” ไอ้ไมล์กอดผม มันทำผมแทบน้ำตาคลอ แต่โชคดีที่ผมกลั้นไว้ได้ ไมล์เป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมเหลืออยู่ และผมก็เชื่อใจไมล์มากที่สุด ผมกอดไมล์กลับด้วยความรู้สึกแห่งมิตรภาพ
“เฮ้ย ข้าว่าเอ็งพอเถอะ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหาว่าข้าเป็นคู่เกย์กับเอ็งหรอก” ผมปล่อยไมล์ออกพร้อมกับพูดติดตลกเพื่อไม่ให้ไมล์เครียด “และข้าแค่ย้ายโรงเรียน เศร้าอย่างกับข้ากำลังจะไปตายงั้นแหละ”
“เปล่า ข้าแค่ไว้อาลัยให้กับโรงเรียนที่เอ็งจะไปเรียนนี่แหละ ไม่รู้เคราะห์กรรมจะไปตกกับโรงเรียนไหน” ไมล์หัวเราะ
“ปากดีจริงนะไอ้ไมล์ คอยดูเถอะ ข้าจะมาป่วนที่นี่ทุกวันเลย”
“ขอให้จริงเหอะ ไอ้คอยล์” ไมล์หัวเราะ ผมยิ้มขำๆ และเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ขัดจังหวะผมกับไมล์ มันเป็นสายของผมเอง ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มันคือเบอร์โทรศัพท์บ้านผมเอง ผมถอนหายใจยาว งานนี้ผมได้เคลียร์กับพ่อแม่ยาวแน่ๆ
“ว่าไงครับ” ผมพูดกับคนในสาย
‘หนูคอยล์คะ’ เสียงของป้าชา แม่บ้านที่บ้านพูดสายด้วยน้ำเสียงร้อนรน ‘รีบกลับบ้านด่วนเลยนะคะ’
“มีอะไรหรอครับ ป้าชา” ผมถาม
“คือ... ลูกชายของท่านรัฐมนตรีเสียชีวิตแล้วค่ะ”
“อะไรนะ!!” ผมตระโกนเสียงลั่น โทรศัพท์มือถือในมือผมหล่นลงพื้น หน้าจอแตกกระจาย หัวใจผมแทบหยุดเต้นกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ไมล์พยายามถามผม แต่คำพูดของไมล์ไม่ได้เข้าถึงโสตประสาทของผมอีกต่อไป
ความคิดเห็น