คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [A] JUNHOE : YOUNG AGAIN [1/2]
22/11/2015
JUNHOE : YOUNG AGAIN [1/2]
---------------------------------------------
Fanart By. Pakkin Luv U Na ><
...นี่ไม่ใช่ครั้งที่ กูจุนฮเว ตื่นมาแล้วเจออะไรแปลกๆ...
คราวที่แล้วดื่มจนเมาตื่นมาเจอตัวเองนอนพิงกระจกบนอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ
แต่นั่นคงเป็นเรื่องตลกมากกว่าแปลก หยิกแก้มตัวเองหนึ่งทีเพราะเขาคิดว่าคงฝันไป แต่ความเจ็บจนต้องลูบแก้มตัวเองป้อยๆทำให้เขารู้ว่าเขาตื่นแล้ว
ภายในห้องพักบนคอนโดราคาย่อมเยาว์ใจกลางเมืองขนาดหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ
มีห้องนั่งเล่นพร้อมห้องครัวครบชุด ผู้อาศัยสองคนคือตัวเขาวัยยี่สิบห้าปีกับชายอีกคนหนึ่งพึ่งอายุยี่สิบเจ็ดปีเมื่อเดือนกุมภา
...ต้องไม่ใช่ เด็กอายุประมาณห้าขวบ ซึ่งนอนอยู่ข้างเขาตอนนี้แน่นอน…
เขารู้ว่า ซงยุนฮยอง
แฟนของเขาเป็นคนขี้แกล้งแค่ไหน นี่อาจจะเป็นแผนการแกล้งให้เขาตกใจยามเช้าก็ได้
แต่หลังจากที่เดินดูทั่วห้องพักไม่พบใคร โทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินของเจ้าตัววางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเคย มิหน่ำซ้ำเสื้อยืดสีดำกับกางเกงวอร์มขายาวที่อีกฝ่ายใส่นอนเมื่อคืนอยู่กับตัวเด็กบนเตียงทำให้จุนฮเวถึงกับกุมขมับ
'นี่มันเกิดอะไรขึ้น?'
จมอยู่ในความคิด พยายามคิดถึงความเป็นไปได้ว่าเด็กข้างตัวเขามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
เสียงเล็กเรียกให้เขากลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง
“จุนเน่! หวัดดีตอนเช้า!”
น้ำเสียงร่าเริงทักขึ้นก่อนพุ่งตัวเข้ามากอดเขา
เสื้อยืดสีดำตัวใหญ่กว่าเจ้าตัวตกลงมาจนเห็นไหล่ขวา
ส่วนกางเกงขายาวนี่หลุดออกไปตั้งแต่พุ่งตัวมากอดเขาแล้ว
“นายเป็นใคร?”
จุนฮเวจับตัวเด็กที่กำลังกอดเขาขึ้นมามองหน้า
ยิ่งมองยิ่งคุ้นเคย ดวงตาคู่โต ริมฝีปากอวบอิ่มเหมือนยุนฮยองมาก
‘หรือว่าพี่ยุนฮยองมีญาติด้วย?’
“อะไรของจุนเน่ นี่ยุนยงไง”
รอยยิ้มกว้างจากเด็กน้อยตรงหน้ายิ่งทำให้จุนฮเวปวดหัวจี๊ด
....นี่มันซงยุนฮยองชัดๆ....
.
.
.
เสียงหัวเราะดังมาจากห้องนั่งเล่น
เด็กน้อยยุนยงดูการ์ตูนในทีวีหัวเราะอย่างสนุกสนานต่างจากอารมณ์อันแสนขุ่นมัวของจุนฮเวซึ่งกำลังนั่งเท้าคางมองเด็กน้อยอยู่บนเก้าอี้ในห้องครัวอย่างสิ้นเชิง
คิดจนสมองแทบแตกแต่ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามมากมายในหัวเขา
ขยี้หัวอย่างแรงจนผมแทบร่วง
กดโทรศัพท์ต่อสายถึงทางเลือกแรกและทางเลือกสุดท้ายของเขา
รอสักครู่ก่อนอีกฝ่ายรับสาย
“ดงฮยอกกูมีปัญหา”
คิมดงฮยอก เพื่อนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งแฟนของ คิมจินฮวาน พี่ชายตัวเล็กของเขา
คนที่จุนฮเวนึกถึงคนแรกเมื่อมีปัญหาร้อยแปดพันเก้า เพียงแต่เสียงตอบกลับของอีกฝ่ายเองก็ไม่สู้ดีนักทั้งที่เป็นคนร่าเริงอยู่เสมอ
//เออ ทางกูก็มีปัญหาเหมือนกันว่ะ//
“ปัญหากูก่อน พี่ยุนฮยองกลายเป็นเด็กห้าขวบ”
พูดถึงปัญหาของตัวเองอย่างร้อนร้น แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากปลายสายจนเขาต้องยกโทรศัทพ์มาดูว่าสัญญาณหลุดไปยังก่อนอีกฝ่ายจะพูดขึ้นมาเสียงเรียบ
ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำให้เขาเขาปวดหัวมากกว่าเดิม
//เดี๋ยวกูไปหามึงที่ห้อง...//
//...และก็พี่จินก็กลายเป็นเด็กห้าขวบเหมือนกันว่ะ//
.
.
.
เสียงเคาะประตูห้องเขาดังขึ้นหลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง
จุนฮเวเดินไปเปิดประตูด้วยใจไม่สู้ดีนักดวงตาคมเหลือบมองเด็กน้อยที่ยังคงนั่งดูทีวีบนอยู่โซฟาเหมือนเดิมสักครู่
“เข้ามาเร็ว ดง....”
ปลายเสียงของจุนฮเวจมหายไปเมื่อสายตาหยุดตรงเด็กน้อยในอ้อมแขนดงฮยอก
ใบหน้าหวาน ดวงตาคู่เล็กและไฝรูปหัวใจใต้ตาขวา
จินฮวานพี่ชายตัวเล็กของเขาตัวเล็กลงจากปกติอีกสองเท่าจนเขาทำได้แค่อ้าปากค้างก่อนมือเล็กตบลงมาตรงต้นแขนของเขาพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วย
“ไง! จุนเน่!”
“มึงอย่ามายืนอึ้ง รับของจากกูไป”
มือของดงฮยอกส่งถุงพลาสติกสองสามใบให้เขา
อุ้มจินฮวานเข้ามาในห้องก่อนปิดประตู เสียงของเด็กน้อยตะโกนมาจากห้องนั่งเล่น รีบกระโดดลงมาจากโซฟาวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่
“จินานนนนนน”
“ยุนยุนนนนน”
จินฮวานพยายามขืนตัวลงจากอ้อมแขนของดงฮยอก หนุ่มหน้าหวานปล่อยให้แฟนตัวเล็กของตัวเองลงวิ่งเข้าไปกอดยุนฮยอง
ทั้งคู่มองเด็กสองคนกอดกันแล้วถอนหายใจ
“พี่จินไปเล่นกับพี่ยุนในห้องนั่งเล่นก่อนนะครับ”
“ได้เลยดงงี่ ป่ะ ยุนยุน”
ดงฮยองส่งยิ้มให้เด็กทั้งสองคน ลูบหัวจินฮวานเบาๆก่อนเด็กน้อยตัวเล็กกว่าจะจูงมือเพื่อนของตัวเองเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างกับเป็นห้องของตัวเอง
“มึงดูใจเย็นนะ”
จุนฮเวทักเพื่อนสนิทของตัวเองซึ่งดูสงบกว่าที่เขาคิดไว้
ขณะมองตามเด็กสองคนเดินไปในห้องนั่งเล่น
“ใจเย็นบ้าอะไร เมื่อเช้าสติแทบหลุดตอนพี่จินมาปลุกกู”
...โอเค เขาเข้าใจ...เขาก็เป็น...
“มึงคิดว่าอะไรทำให้สองคนเป็นแบบนี้วะ เมื่อวานมึงกับพี่จินฮวานกินข้าวที่ห้องกูยังตัวปกติอยู่เลย”
“กูพยายามคิดอยู่ว่าเมื่อวานกินอะไรแปลกไปหรือเปล่า”
เมื่อวานเป็นวันศุกร์ หลังจากที่ไม่ได้เวลาว่างพร้อมหน้ากันมานาน
ดงฮยอกกับจินฮวานเลยมาทานข้าวด้วยกันที่ห้องเขา อาหารที่จินฮวานกับยุนฮยองทำมีสลัดเนื้อย่าง
ไก่ทอดราดซอส พิซซ่าแบบง่ายๆ มันบด มีของหวานเป็นบลูเบอรี่ชีสเค้กที่เขาแย่งยุนฮยองกินจนหมดและไวน์หนึ่งขวด
“ไม่น่ามั้ง
ตอนพี่จินฮวานกับพี่ยุนฮยองทำอาหารมึงก็ไปช่วยทำอยู่ไม่ใช่หรอ?”
นั่นสิ ไม่น่าใช่อาหารที่กินกัน ตอนจินฮวานกับยุนฮยองทำอาหารดงฮยองไปช่วยทำอยู่ อีกอย่างเขาโดนจินฮวานเอ็ดแถมโดนเขกหัวไปหลายทีเพราะแอบกินโน่นกินนี่ในครัวด้วยซ้ำ นั่งนิ่งก่อน
“มึงได้ดื่มยาบำรุงขวดนั้นป่ะ?”
“ยาบำรุง? ยาบำรุงอะไร?”
“ยาบำรุงของพี่ฮงซอก ได้ยินว่าสรรพคุณเพิ่มพลังอย่างกับกลายเป็นเด็ก
ตอนแรกกูขอพี่จินกินด้วย แต่พี่จินกับพี่ยุนกินหมดไปแล้ว”
หน้าของดงฮยอกเริ่มซืดเมื่อพอเดาถึงที่มาของเหตุการณ์ประหลาดนี้ได้
“กลายเป็นเด็กสมชื่อเลย กูล่ะเกลียดพี่ฮงซอกจริงๆ คราวก่อนเอาเหล้าอะไรให้พี่ยุนฮยองกินไม่รู้เมาเป๋กลับห้อง”
แค่คิดถึง ยางฮงซอก ตาของจุนฮเวกลอกขึ้นบนเพดานทันที
ผู้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการนิยายสารที่จินฮวานและยุนฮยองทำงานอยู่ คนที่ทำให้ยุนฮยองผู้คอแข็งอย่างกับเหล็กเมาได้
“แสดงว่าเป็นไปได้สินะ กูโทรหาพี่ฮงซอกก่อน”
ดงฮยอกหยิบโทรศัพท์ของจินฮวานขึ้นมาต่อสายถึงผู้ที่อาจจะเป็นต้นเหตุของเรื่อง
แสดงสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้ว่าฮงซอกปิดเครื่อง จุนฮเวถอนหายใจเฮือกใหญ่
นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเซ็ง
“แล้วจะทำไงทีนี้”
“คงต้องอยู่แบบนี้ไปจนกว่าจะติดต่อพี่ฮงซอกได้”
หนุ่มหน้าหวานถอนหายใจนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขา
มองไปยังเด็กสองคนในห้องนั่งเล่นที่กำลังหัวเราะคิกคักเล่นตบแปะกันอยู่
“แล้วมึงจะอยู่ดูแลพี่จินที่นี่?”
“กูมีงานเต้นเย็นนี้ ขาดไม่ได้”
“แล้วมึงจะฝากพี่จินไว้กับกู?”
แค่คิดก็กังวลทันทีแค่ยุนฮยองเขาเองยังไม่รู้ว่าจะดูแลรอดไหม
ถ้ามีจินฮวานอีกคงบอกได้แค่ว่าเละ
“กูกลัวว่าฝากพี่จินไว้กับมึง
พี่จินจะกลับไปกับกูไม่ครบสามสิบสอง
ดูแค่ชุดที่พี่ยุนใส่อยู่ตอนนี้กูก็ไม่ไว้ใจมึงแล้ว”
เสื้อยืดตัวเล็กที่สุดของยุนฮยองแต่ยังใหญ่เกินไปสำหรับเด็กห้าขวบถูกหนังยางมัดไว้ตรงคอเสื้อและชายเสื้อให้พอดีตัวและใส่บ๊อกเซอร์แทนกางเกงขาสั้น
ในเมื่อค้นทั้งตู้มีแค่นี้จะให้แก้ผ้าอยู่ในห้องก็กระไรอยู่
“จุนเน่ ยุนยงหิว”
มือเล็กเกาะตรงขาจุนฮเว ดวงตาคู่โตทำตาแบ๋วใส่จนเขาเผลอกลืนน้ำลาย
ส่วนจินฮวานเดินเข้าไปกอดดงฮยอก เขาทำได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่อีกคนในห้องทันที
“พี่ยุนเดี๋ยวดงฮยอกทำอะไรให้กินนะครับ
ในถุงมีเสื้อผ้าเด็กอยู่ มึงไปเปลี่ยนชุดให้พี่ยุนเลยไป”
ดงฮยอกลุกเดินเข้าไปในครัวโดยมีจินฮวานเดินเกาะชายเสื้อตามไปด้วย
...กูจุนฮเวรู้สึกขอบคุณจินฮวานกับยุนฮยองที่ดื่มไอ้ยาบำรุงนั้นหมดโดยไม่ถึงมือดงฮยอกจริงๆ....
.
.
.
สองขาก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าชั้นวางของ
มองดูห่อกระดาษชำระทางขวาแบบหนานุ่ม ทางซ้ายแบบยาวสองเท่า ตรงกลางแบบซึมซับดี ได้แค่คิดในใจว่าจะทำออกมาให้หลายแบบทำไมวะในเมื่อมันใช้เช็ดได้เหมือนกัน
หยิบแบบส่งๆใส่ตระกร้า มองรายการของที่ต้องซื้อในกระดาษอีกรอบ
ของสดเกือบสิบชนิดนี่ตัดไปได้เลย ในเมื่อเลือกไม่เป็นและทำอาหารไม่เป็นด้วย
แชมพูกับครีมอาบน้ำเห็นอยู่ทุกวันหยิบได้โดยไม่คิดอะไรมาก แล้วก็มีพวกน้ำผลไม้...
"จุนเน่! ยุนยงอยากได้ช็อกโกแลตอ่ะ"
เสียงใสเรียกขึ้นพร้อมชายเสื้อของเขาถูกกระตุกด้วยมือเล็ก
หันไปมองเด็กน้อยข้างตัวที่กำลังเลียไอติมช็อกโกแลตจนปากเลอะไปหมด เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกระดาษทิชชูที่ใช้เช็ดปากของตัวเองไปหลังจากเขากินไอติมหมดเมื่อครู่ส่งให้เด็กน้อยก่อนเอ็ดไปหนึ่งที
"พี่ยุนฮยองเช็ดปากหน่อยเลอะหมดแล้ว"
"ไม่เอาอ่ะ จุนเน่เช็ดให้หน่อย"
ไม่สนใจแถมเลียไอติมต่อ
จุนฮเวได้แต่กลอกตา หายใจเข้าออกอย่างใจเย็น พยายามคุมอารมณ์ของตัวเองเต็มที่
'โอเค
ข้างหน้ามันก็แค่เด็กห้าขวบ เป็นพี่ยุนฮยองเวอร์ชั่นเอาแต่ใจ ใจเย็นนะ'
คุกเข่าลงระดับเดียวกับเด็กน้อย
ใช้ทิชชูเช็ดปากเลอะๆแต่รู้สึกจะแรงไปนิดเมื่อเด็กตรงหน้าทำหน้าตาเหยเก
"จุนเน่ใจร้ายอ่ะ" เบ้ปากให้เขาแทนคำขอบคุณ ถามว่าเขาแคร์ไหม การยักไหล่ให้คงบอกได้ชัดเจน
"ไปซื้อขนมกัน"
จับมือเด็กน้อยพากันเดินไปยังช่องขายขนมและได้รับรอยยิ้มกว้างจากเด็กข้างกายส่งมาให้อย่างอารมณ์ดี
...จะหลอกเด็กก็ต้องหลอกด้วยขนมเนี่ยล่ะ...
หลังจากที่ดงฮยอกทำอาหารให้ยุนฮยองและตัวเขา
เพื่อนสนิทตัวดีเก็บของ อุ้มจินฮวานเตรียมไปทำงานทันทีเพราะต้องไปแสตน์บายตั้งแต่เที่ยงและบอกเขาว่าถ้าติดต่อพี่ฮงซอกได้จะรีบโทรมา
แถมทิ้งคำแนะนำไว้
'ถ้าดูแลพี่ยุนไม่ไหวมึงก็ลองโทรหาคนมาช่วยดู'
เมื่อดงฮยอกกับจินฮวานออกไปแล้ว
จุนฮเวนั่งไล่รายชื่อในโทรศัพท์มือถือไปพลางปากคาบช้อนไปพลาง ดูไปก็มีแต่เบอร์ลูกศิษย์ที่เขาสอนร้องเพลงกับพวกพี่โปรดิวส์เซอร์
พอโทรหาชานอูรุ่นน้องที่บริษัทวันนี้ไปต่างจังหวัดกับจินฮยอง ฮันบินเองก็ไปดูงานที่ต่างประเทศ
ยิ่งเห็นเบอร์บ๊อบบี้นี่เบ้ปากออกมาเลย ถึงรู้ว่าไอ้พี่คนนี้รักเด็กแต่ต้องมาเปิดสงครามน้ำลายทุกครั้งยามที่พบกัน
งั้นขอดูแลยุนฮยองเองดีกว่า
ปัญหาแรกตามมาเมื่อยุนฮยองมางอแงใส่เขาว่าอยากกินไอติม
ปกติพวกเขาชอบกินไอติมอยู่แล้ว จึงซื้อมาเก็บไว้กินเป็นประจำ แต่พอเปิดช่องฟรีสไปไม่เหลือสักแท่งและสักถ้วย
เขาจึงตัดสินใจว่าจะเดินไปซื้อที่มาร์ทใกล้ๆกับคอนโด
ปัญหาที่สองเขาพบว่ากระดาษชำระในห้องน้ำหมดตอนเข้าไปทำธุระก่อนจะออกไปมาร์ทและไม่มีเหลือแม้แต่ม้วนเดียวในห้อง
ดูตรงหน้าตู้เย็นมีกระดาษรายการของที่ต้องซื้อเข้าห้องยาวเหยียดแปะไว้ เขาถึงตัดสินใจใหม่เปลี่ยนจากไปมาร์ทเป็นห้างสรรพสินค้าแทน
ปัญหาถัดมาคือเขาไม่ได้ขับรถนานแล้ว
หลังจากคดีดื่มหนักแล้วขับชนกระถางต้นไม้หน้าคอนโดตอนตีสาม ยุนฮยองละลายพฤติกรรมเขาห้ามดื่มห้ามขับรถเป็นเวลาครึ่งปี
มันก็ใช่อยู่ว่าการขับรถครั้งหนึ่งเมื่อเราขับเป็นแล้วเราก็ขับมันได้ตลอดชีวิต แต่รอบนี้มีเด็กตัวเล็กนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ข้างเขา
ส่งเสียงเจื่อยแจ้วถามโน่นถามนี้เขาไปตลอดทาง สติและสมาธิทั้งหมดในตัวถูกขุดออกมามาใช้อย่างหนักหน่วง
กว่าจะมาถึงห้างอย่างปลอดภัยถึงกับปาดเหงื่อกันไปข้าง
ปัญหาสุดท้ายดงฮยองไม่ได้ซื้อรองเท้าเด็กมาให้เขา
ระหว่างเดินหาซื้อรองเท้าแตะในห้างสรรพสินค้า
เขาต้องอุ้มยุนฮยองไปตลอดทางแถมเขาอุ้มเด็กไม่เป็นด้วย พากันไปแบบงกๆเงนๆ
จะหล่นแหล่มิหล่นแหล่ แล้วรายนั้นก็สนุกเหลือเกิน หัวเราะร่าทั้งที่ตัวเองเกือบจะร่วงด้วยซ้ำ
...กว่าจะซื้อของเสร็จเล่นปวดหัวกันไปข้างนึง
เหมือนตัดสินใจผิดที่มาที่นี่จริงๆ...
พากันเดินกลับไปที่รถของตัวเองเมื่อทำธุระทั้งหมดเสร็จแล้ว
สองมือหิวถุงส่วนยุนฮยองใช้มือน้อยๆจับชายเสื้อเขาเดินตามมาเรื่อยๆ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือตัวเองดังขึ้นตอนเกือบจะใกล้ถึงรถ
วางถุงของลงกับพื้น ล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง กรอกเสียงลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าใครโทรมา
“ติดต่อพี่ฮงซอกได้แล้ว?”
//เปล่า
โทรมาเช็กเฉยๆว่าพี่ยุนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?//
“กูเนี่ยล่ะที่จะตายก่อน”
//พยายามเข้ามึง
ถือว่าดูแลพี่ยุนคืนบ้าง เขาดูแลมึงตั้งเยอะ กูไปหาพี่จินก่อน พี่สาวช่างแต่งหน้าพาอุ้มไปไหนก็ไม่รู้เนี่ย
ให้ตายสิ พวกผู้หญิงมีเด็กมาให้เล่นแล้วสนุกกันเชียว//
อีกฝ่ายวางสายไปทันทีที่พูดจบ
จุนฮเวได้แต่เก็บโทรศัพท์กลับที่เดิมพร้อมกับบ่นอุบอิบ
หยิบถุงจากบนพื้นขึ้นมาก่อนล้วงกุญแจรถจากกระเป๋าอีกข้างเตรียมจะกดปลดล็อกรถซึ่งอยู่ห่างไปอีกสามช่วงรถ
...แต่กลับรู้สึกมีบางอย่างหายไป...
"พี่ยุนฮยอง?"
มองไปข้างตัวเจอแต่ความว่างเปล่าตรงชายเสื้อ
หันมองรอบตัวก็ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของเด็กห้าขวบที่มากับเขา
"พี่ยุนฮยอง พี่ยุนฮยอง!"
ตะโกนเรียกและเดินไปรอบบริเวณตรงที่หยุดเมื่อครู่
แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ในใจของจุนฮเวกำลังเต้นแรง เหงื่อเริ่มซึมจากฝ่ามือ ดวงตาคมกวาดสายตาไปทั่วอย่างหัวเสียและเป็นกังวล
"ทำไงดีวะ....ทำไงดี..."
มองเห็นยามยืนโบกรถอยู่ตรงทางลงลานจอดรถห่างไปหลายเมตร
เวลานี้คงต้องขอความช่วยเหลือก่อน
ระหว่างกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านหน้ารถของตัวเอง
...แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักซะก่อน...
"แฮ่! ตกใจไหม? ฮ่าๆๆ หน้าจุนเน่ตลกชะมัด"
เด็กน้อยยุนยงโผล่ออกมาจากช่องว่างระหว่างรถเขากับรถอีกคันหนึ่ง
ตบมือหัวเราะร่าอย่างถูกใจที่หลอกเขาได้
"ใครให้เล่นแบบนี้! จะบ้าหรือไง! ถ้าโดนใครพาตัวไปจะทำไง"
ตะหวาดเสียงดังและหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธถึงในใจจะโล่งว่ายุนฮยองไม่ได้หายไปแต่ความไม่สบายใจเมื่อสักครู่ทำให้เขาโกรธ
โกรธมากๆด้วยล่ะในเมื่อเล่นอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้ เด็กน้อยกระโดดตัวโยนด้วยความตกใจทำสีหน้าบอกไม่ถูกก่อนที่จะ...
"ก็...ก็...ฮึกกกกกกกกกก"
...ซงยุนฮยองวัยห้าขวบปล่อยโฮกยกใหญ่ออกมากลางลานจอดรถ...
.
.
.
ครั้งสุดท้ายที่กูจุนฮเวทำให้เด็กร้องไห้น่าจะเมื่อปีที่แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน คิมฮันบยอล น้องสาวของ คิมฮันบิน เจ้าของโรงเรียนสอนเต้นและร้องเพลงที่เขาทำงานอยู่ แต่ฮันบยอลอายุเก้าขวบคุยง่ายและพูดรู้เรื่องหลังจากเขาบอกจะพาไปเลี้ยงไอติมฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียน เธอจึงหยุดร้องไห้และยอมให้เขาจูงมือกันไปที่ร้าน (ซึ่งต้องทำสัญญากับน้องห้ามฟ้องพี่ เลยรอดจากการโดนฮันบินฆ่ามาได้)
แต่เด็กน้อยยุนฮยองดื้อกว่าที่เขาคิด
บรรยากาศในรถเงียบยิ่งกว่าป่าช้ามีแค่เสียงแอร์กับเสียงสะอื้นเบาๆของเด็กข้างตัว
แผนว่าจะเอาขนมหลอกให้อารมณ์ดีก็เป็นหมันเพราะยุนฮยองไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดหรือช็อกโกแลตที่เขาส่งให้แม้แต่นิดและเอาแต่หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถ
...ได้แต่คิดในใจใครเป็นคนผิดกันแน่วะ...
ความอึมครืมยังคงปกคลุมในห้องของพวกเขา
ยุนฮยองนั่งเกยคางกอดเข่าอยู่บนโซฟาสายตาจ้องการ์ตูนในหน้าจอโทรทัศน์แต่ไม่หัวเราะไม่ยิ้มแย้มเช่นตอนเช้า
โดยมีจุนฮเวนั่งติดชิดพนักโซฟาอีกข้าง สไลต์หน้าจอมือถือไปเรื่อยๆแต่ความสนใจยังคงอยู่กับเด็กข้างตัว
ไม่มีข้อความตอบกลับจากดงฮยอกว่าเขาควรจะง้อเด็กห้าขวบร้องไห้ยังไง
เจ้านั่นคงติดงานอยู่เพราะฉะนั้นตอนนี้กูจุนฮเวเป็นที่พึ่งของกูจุนฮเวเท่านั้น สุดท้ายก็ถอนหายใจออกอย่างแรงก่อนเลือกใช้วิธีที่ตัวเองเจอกับตัวมามากที่สุด
...วิธีที่ซงยุนฮยองวัยยี่สิบเจ็ดใช้ง้อเขา...
เคลื่อนตัวเข้าใกล้เด็กน้อยแต่อีกฝ่ายรู้ตัวเสียก่อนจึงถอยห่าง
ยิ่งเข้าใกล้จนแทบเบียดกับพนักโซฟาเด็กน้อยยุนยงเตรียมจะกระโดดลงจากโซฟาแต่ไม่ทันสองแขนเขาคว้าตัวเด็กไว้ซะก่อน
"ปล่อยนะจุนเน่!"
"ไม่ต้องไปไหนเลย เราต้องคุยกันก่อน"
เด็กในอ้อมกอดเขาฮึดฮัดดิ้นไปมาด้วยแรงที่มีทั้งหมด
เอาสิ มีแรงก็ดิ้นไป คิดว่าแรงเยอะสู้เขาได้ก็ทำ
จนกระทั่งเหนื่อยถึงนั่งหอบอยู่บนตักเขาและสองแขนเขาโอบรอบเอวไว้
"รู้ไหมว่าพี่ทำความผิด"
เอาล่ะ เบ้ปาก
นิ่งเงียบ โคตรเหมือนเวอร์ชั่นโต แต่อย่างน้อยตอนโตไม่รอให้เขามานั่งง้อหรอก
แปปๆก็หาย ส่วนตอนเด็กเหมือนเอาเขากับอีกฝ่ายผสมกันล่ะมั้ง
"ว่าไง?"
"ก็...แค่อยากแกล้ง..."
"ไอ้แกล้งมันก็ต้องรู้เวลาด้วยดิ เนี่ยถ้าพี่โดนลักพาตัวไปนะจะโดนพาไปไหนก็ไม่รู้
ข้าวอร่อยๆก็คงไม่ได้กิน อีกอย่างพี่คงจะไม่ได้เจอผมอีกตลอดชีวิต..."
เด็กน้อยสะดุดกึก
หูพึงล่ะ เขาหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะปล่อยทั้งสองแขนออกจากเอวอีกฝ่าย
ถอนหายใจหนึ่งที ทำสีหน้านิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
"ก็ดีนะ...ชีวิตผมคงจะไม่วุ่นวายดี งั้นผมกลับไปปล่อยพี่ไ--"
"ไม่เอา! จะอยู่กับจุนเน่! ขอโทษจะไม่เล่นแบบนี้อีกแล้ว"
โถมตัวเข้ากอดเขาทั้งตัว
สองแขนไม่ยอมปล่อยออกจากคอแถมส่ายหน้าไปมาราวกับว่ากลัวเขาจะหายไป จุนฮเวยกมือขึ้นลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ
ยกยิ้มอย่างคนได้รับชัยชนะซึ่งไม่ได้รับมานาน
...อ่า สนุกชะมัด เป็นเด็กแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ...
...หลอกเด็กน้อยซงยุนฮยองได้ดีกว่าขนมก็กูจุนฮเวเนี่ยล่ะครับ...
.
.
.
ตอนเย็นผ่านไปได้ด้วยดีหลังจากยุนฮยองกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม
สั่งไก่ทอดกับพิซซ่ามากินกันจนพุงกางทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ นอนอืดดูการ์ตูนกันบนโซฟาถึงหัวค่ำไม่ยอมไปอาบน้ำกันสักที
จนดงฮยอกโทรมาเท่านั้นล่ะ
//เออ
กูโทรหาพี่ฮงซอกติดแล้วนะ
พี่แกบอกว่าผ่านไปวันนึงหลับอีกสักหนึ่งคืนก็กลับเป็นปกติแล้ว//
นั่นล่ะ
ลากเด็กน้อยไปอาบน้ำในทันที เรียกได้ว่าอุ้มไปเลยเพราะเริ่มดื้ออีกแล้ว (ยุนฮยอง : จุนเน่ อาบด้วยกัน ไม่งั้นไม่อาบ!) สองทุ่มครึ่งตัวหอมออกมาจากห้องน้ำทั้งคู่
เป็นวันที่เขาเตรียมเข้านอนได้เร็วที่สุดหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่
แต่ยังเร็วเกินไปที่เขาจะหลับได้ลง จึงส่งเด็กน้อยยุนยงเข้านอนหลังจากยอมให้นั่งดูการ์ตูนต่ออีกครึ่งชั่วโมงและอีกฝ่ายพิงตัวมาทางเขาด้วยดวงตาปรือ
“รีบนอน พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาเล่นกัน”
นอนลงข้างเด็กน้อยพลางลูบหัวไปด้วย
หวังว่าจะทำให้เข้าสู่โลกแห่งความฝันไปได้อย่างรวดเร็ว
พอสังเกตุว่าเด็กข้างตัวหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ จึงลุกขึ้นออกไปนอกห้องโทรหาพี่มินโฮซึ่งส่งข้อความมาก่อนจะพายุนฮยองเข้านอนบอกว่ามีงานไกด์เสียงให้ช่วย
“...โอเค ไว้เจอกันวันพุธพี่
ห้ามลืมว่าจะเลี้ยงเกี๊ยวนึ่งร้านป้าผมด้วย จะเตรียมล้างท้องไปหาเลย บายครับ”
คุยงานสิบนาที คุยเรื่องสัพเพเหระอีกหนึ่งชั่วโมงถึงวางสาย
มองนาฬิกาเกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว คิดว่าถึงเวลานอนของตัวเองแล้วเหมือนกัน
เหนื่อยมาทั้งวัน รีบๆหลับไปจะได้ตื่นมาเจอยุนฮยองคนเดิม
กำลังจะเดินไปยังห้องนอนแต่ประตูห้องถูกเปิดออกมาเสียก่อน
“เป็นอะไร ฝันร้ายหรอ?”
“จุนเน่...หาย...ไม่เจอ...จุนเน่...”
สองแขนกอดเขาแน่น ใบหน้าจมไปกับต้นขาเขา เสียงพูดสะลึมสะลือไม่เป็นประโยค
แต่พอจับใจความได้อยู่บ้าง เขาถอนหายใจก่อนอุ้มตัวเด็กน้อยขึ้นมา
มือลูบหัวเบาๆระหว่างเดินไปปิดไฟห้องนั่งเล่นและพากันเข้าเข้านอนอีกรอบ
“นอนเถอะ...ไม่ไปไหนแล้ว”
เด็กน้อยยุนยงขยับตัวเข้าซุกในอ้อมกอดของจุนฮเวขณะเขาเอื้อมมือปิดโคมไฟบนโต๊ะฝั่งตรงข้าม
แขนของตัวเองพาดลงไปตรงเอวของอีกฝ่ายหลับตาลง
คิดถึงเรื่องในวันนี้มันก็ทั้งเหนื่อยและก็สนุกดี
การได้ดูแลเด็กน้อยข้างตัวทำให้เขารู้ว่าเวลายุนฮยองดูแลเขาคงเหนื่อยเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้ดูแลแบบเด็กที่ต้องช่วยทำโน่นทำนี่ให้เกือบตลอดเวลา
แต่การต้องมาเจออารมณ์ขึ้นลงกับเอาแต่ใจของเขามันก็น่าจะทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยใช่น้อย
เพียงแต่พอได้รับรอยยิ้มจากเขาคงเป็นเหตุผลที่ยุนฮยองไม่เคยบ่นและยิ้มให้เขากลับ
..ในเมื่อเขาเองก็ยิ้มได้ทุกครั้งที่ได้รับรอยยิ้มกว้างของเด็กข้างตัว...
.
.
.
//พี่จินกลับมาตัวเท่าเดิมแล้วนะ ดีใจชะมัด
แล้วพี่ยุนเป็นไงบ้าง?//
น้ำเสียงดีใจของคิมดงฮยอก
ร่าเริงจนคนที่พึ่งตื่นอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งไปซะและหนีไปนอนต่อ
เพียงแต่เนื้อหาของประโยคทำให้ต้องตั้งสติ ขยี้ตาพลางหันมองเด็กข้างตัวว่ากลับมาเป็นปกติหรือยัง
..เพียงแต่ว่าข้างตัวเขาว่างเปล่าเนี่ยสิ...
ได้ยินเสียงของโทรทัศน์ดังลอดผ่านช่องประตูซึ่งเปิดค้างไว้
ลากร่างยังไม่ตื่นดีของตัวเองลุกขึ้นจากเตียงอย่างรีบร้อนเกือบสะดุดผ้าห่มหน้าคว่ำ
เปิดประตูห้องออกไปยังห้องนั่งเล่นด้วยใจตุ่มๆต่อมๆ
ขอให้คนที่นั่งหรือนอนอยู่บนโซฟา
ไม่ก็กำลังทำอาหารเช้าอยู่
เป็นชายวัยยี่สิบเจ็ดปีสูงร้อยเจ็ดสิบห้าชื่อว่าซงยุนฮยอง ไม่ได้ขออะไรเกินตัวเลยนะ
หวังว่าจะ…
“จุนเน่ หวัดดีตอนเช้า!”
กูจุนฮเวหลับตาและยกมือขึ้นหยิกแก้มตัวเองก่อนลูบแก้มตัวเองป้อยๆ
เพื่อให้รู้ว่าเขาตื่นแล้ว
ก้มมองคนที่อาศัยอยู่ร่วมกับเขาในห้องพักบนคอนโดราคาย่อมเยาว์ใจกลางเมืองขนาดหนึ่งห้องนอน
หนึ่งห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่นพร้อมห้องครัวครบชุดซึ่งวิ่งเขามากอดตัวเขาพร้อมกับยกยิ้มกว้าง
ถอนหายใจยาวก่อนกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงหน่ายและสิ้นหวัง
“มึงรีบพาตัวเองกับพี่จินมาที่นี่เลยนะ...”
“...และโทรหาพี่ฮงซอกให้กูเดี๋ยวนี้เลยว่าจะต้องทำไงพี่ยุนฮยองถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
TBC
Talk: วันนี้วันดีค่ะ เลยอัพฟิคเรื่องนี้เป็นของขวัญวันเกิดตัวเอง เป็นฟิคที่เขียนไว้นานมากกกกกกกกกก อยากอ่านฟิคเวอร์ชั่นพี่ยุนเป็นเด็กมานานแล้วค่ะ ไม่ค่อยมีเลยเน้อเลยต่อให้จบเพียงแต่มันจะจบง่ายๆเพราะเราสนุกกับการแกล้งจุนเน่แบบสุดๆเลยค่ะ -..- เราจะดูกันต่อไปว่าพ่อหนุ่มของเราจะรับมือเด็กน้อยยุนยงยังไง ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
#ฟิคเปื่อย
ความคิดเห็น