คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [SF] เมื่อเทวดาเล่นตลก? ภาค 2
เมื่อเทวดาเล่นตลก 2
ณ สวรรค์ชั้นฟ้า…
“ท่านเรียวสุเกะ ทำไมเราว่างจังเลยล่ะ” เทวดาไดกิบ่นอย่างเบื่อหน่าย
เทวดาเรียวสุเกะที่นอนกลิ้งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ข้างๆเงยหน้าขึ้นมา
“ก็มันไม่มีอะไรทำ ถึงได้ว่างยังไงล่ะท่าน” เทวดาเรียวสุเกะตอบ มือป้อมดึงอมยิ้มในปากออกมาดู เมื่อพบว่าอมยิ้มละลายหายไปในปากของเขาจนหมดแล้ว เทวาดาเรียวสุเกะโยนไม้อมยิ้มทิ้งไปแถวๆนั้น แล้วก้มลงไปอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ
เทวดาไดกิเหลือบมองนิดๆ ‘ก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรให้ทำถึงได้ว่างยังไงล่ะ เลยได้ถามอยู่นี่ไงว่าทำไมถึงว่างจัง - -’ เทวดาคู่หูคิดแล้วถอนหายใจ
แต่เอ๊ะ?เทวดาไดกิไม่คิดจะบ่นเรื่องที่เทวดาเรียวสุเกะโยนไม่อมยิ้มทิ้งเรี่ยราดงั้นเหรอ!? ทั้งๆที่ปกติจะต้องโวยวายแท้ๆ ประมาณว่า ‘ทำไมทำตัวไม่เป็นระเบียบแบบนี้ ไม่สมกับเป็นเทวดาเลยนะ!’ ทำนองนี้แท้ๆ…?
“เฮ้อ..” เทวดาไดกิถอนหายใจทิ้งอีกครั้ง เอิ่ม ดูท่าทางจะเบื่อจัดจนบ่นไม่ออกเลยล่ะมั้งเนี่ย ตอนนี้คงอารมณ์ประมาณว่า จะทำอะไรก็ทำเห๊อะ (-_-) งั้นมั้ง
ตอนนี้ที่พำนักของเทวดาทั้งสองเงียบเชียบมีเพียงแค่เสียงถอนหายใจของเทวดาไดกิ กับเสียง…
แกร๊กๆ กร๊อบแกร๊บ?...เสียงเกาบั้นท้ายของเทวดาเรียวสุเกะกับเสียงแกะห่อขนมนั่นเอง -.-
.
.
จากนี้ผู้แต่งจะขออธิบายให้ฟังเอง…ที่เทวดาทั้งสองว่างขนาดนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า หลังจากที่เทวดาทั้งสองได้เลื่อนขั้นเป็นเทวดาเต็มตัวแล้ว หน้าที่ตามหาหัวใจแห่งรักก็ตกไปเป็นของเทวดาฝึกหัดรุ่นน้องแทน ทำให้ทั้งคู่ไม่มีอะไรทำ นั่งถอนหายใจทิ้งอยู่อย่างนี้ยังไงล่ะ
(เสียงในใจ)
‘เฮ้อ…พอได้เลื่อนขั้นแล้วทำไมว่างจัง พอไปถามท่านเทวดายูริ ท่านก็บอกว่า ‘เดี๋ยวก็มีอะไรให้ทำเองแหละ’ - -; แล้วจะรู้มั๊ยเนีย่ว่าเมื่อไหร่จะมีอะไรให้ทำ orz’
‘กินไรต่อดีอ่ะ~♪ แต่ว่างจัง~ การ์ตูนก็อ่านจบหมดแล้ว เราจะทำอะไรต่อดีอ่ะ -3-
…
ในระหว่างที่เทวดาทั้งสองกำลังนั่ง(นอน)หายใจทิ้งกันอยู่นั้น เรามาดูกันดีกว่า ว่าเหล่ามนุษย์เดินดินทั้งหลายกำลังทำอะไรกันอยู่~
“จูรี้~~~~~~~~~~!!” เสียงที่ดังมาก่อนตัว สร้างความตื่นตระหนกให้กับ แชมป์นักเต้นหน้าใหม่แห่งปีอย่างวง AKB49 ที่กำลังจับกลุ่มซ้อมเต้นออกงานกันอยู่ วงแตกราวกับน้ำท่วมรังมด
“นายอีกแล้วหรอไอ้ตาแบ๊ว!” จูริที่ว่าตวาด เมื่อตั้งตัวได้อย่างทั่วที
“โห่ยย~ ทำไมพูดแบบนั้นเล่า จูริคุง~ ฉันเป็นแฟนคลับนายนะ~” ริวทาโร่ทำท่าทางออดอ้อน? จูริทำท่าขนลุกเหมือนขี้กลากขึ้นทัวทันที
“อี๊~แหยะ! ขนลุกอ่ะ บรึ๊ย~! คันๆ!” จูริทำท่าคันซะโอเว่อร์ จนริวทาโร่หมั่นไส้ =*=
“ไอ้เพื่อนเวร! มีเพื่อนหล่อ น่ารัก ขนาดนี้มาทำท่าอ้อนให้ดูแท้ๆ แกมาพูดแบบนี้ได้ไงวะ!”
“หล่อน่ารัก แป๊ะแกดิ! จะอ้วกแตกตายอยู่แล้ว ทำฉันขนลุกจนเหมือนขี้กลากจะขึ้น ยึ้ย! หยะแหยง!”
“ห๊า! ขี้กลาก!? ยี้! สกปรก! นี่อย่าบอกนะว่าตั้งแต่ชนะวันนั้น แกก็กะจะเก็บน้ำเหงื่อแห่งความภูมิใจเอาไว้ เลยไม่ยอมอาบน้ำตั้งแต่วันนั้น โอ๊วววว ) ̄o ̄( !!”
ดู ดูมัน =_= จูริที่ยืนฟังอยู่ชักเริ่มอารมณ์ขึ้นพร้อมกับกุมหัวไปด้วย…ไอ้เพื่อนสุดทีรักชิบหายอย่างมันจะกวนประสาทไปถึงเมื่อไหร่วะเนี่ย!
“ละ ละ และแล้ว ขี้กลากก็ขึ้น โอ๊ว! เพื่อนตรู! \ ̄△ ̄/!” ริวทาโร่ยังคงทำท่าโอเว่อร์แอ๊กติ้งไม่หยุด ในขณะที่จูริตัดสินใจปล่อยให้มันเพ้อไว้ตรงนี้ แล้วตัวเองเดินกลับไปซ้อมต่อ…
“อ่าว เฮ้ย! ไปไหนวะ!” ริวทาโร่ชะงักเมื่อเห็นจูริทิ้งตนไว้คนเดียว
“อ้าว หยุดบ้าแล้วหรอแก = =;; ถามได้ก็กลับไปซ้อมดิ อยู่กับนายแล้วมีแต่ประสาทจะกินเข้าไปทุกที” จูริตอบเซ็งๆ ว่าแต่ เราควรจะบอกมันรึเปล่าวะ ว่าเราอาบน้ำแล้ว?
“เฮ้ย เป็นไรวะ?” ริวทาโร่ถามเหมือนเห็นจูริยืนทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง
จูริยืนคิดไม่ตก ว่าควรจะแก้ตัวให้ถูกต้องเรื่องการอาบน้ำดีมั๊ย? พอดีกับมีเพื่อนร่วมวงคนนึงเรียกขึ้นมาพอดี
“เฮ้ยจูริ! พักแล้วนะ!”
“หา!?” ตายห่า มัวแต่ยืนทะเลาะกับไอ้เกรียนนี่ “รู้แล้วๆ! จะไปเดี๋ยวนี้แหละ!” พูดจบ จูริก็คว้าคอเสื้อเพื่อนหน้าหนูที่กำลังทำท่าจะยืนบ่นอยู่ข้างๆให้ออกวิ่งตามกลับไปที่กลุ่ม
“…นายนี่มันนิสัยแย่มากนะจูริ นี่ถ้าฉันไม่…เย้ย!” …และริวทาโร่ก็หยุดบ่นจนได้
.
.
กลับมา ณ สวรรค์ชั้นฟ้าอีกครั้ง
“ท่านไดกิ เราว่า เรามาหาอะไรทำกันดีกว่า” จู่ๆ เทวดาเรียวสุเกะก็พูดแทรกเสียงถอนหายใจของเทวดาไดกิขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เราก็กำลังจะพูดอยู่เหมือนกัน =_= แล้วเราจะทำอะไรกันดีล่ะ?” เทวดาไดกิถาม…ถึงจะให้หาอะไรทำก็เหอะ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่
“ไปเที่ยวโลกมนุษย์กันเหอะท่าน =w=V” เทวดาเรียวสุเกะชูสองนิ้วยิ้มเห็นฟัน…ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำแล้ว จะนั่งเฝ้าสวรรค์วิมานไปทำไมกัน!
ทันทีที่ได้ฟังคำเสนอของเทวดาคู่หู ทำให้เทวดาไดกิตีมือฉาดใหญ่
“จริงสิท่าน! เราลืมไปเลย! งั้นป่ะ ไปกันเถอะท่าน อย่าได้รอช้า” พูดจบ เทวดาไดกิก็คว้ามือของเทวดาเรียวสุเกะไปถือ แล้วเดินดุ่มๆออกไปที่ประตูทางลงสู่โลกมนุษย์ทันที เอิ่ม ท่าทางจะเบื่อจนทนไม่ไหวแล้ว = =
แต่ทว่า เทวดาเรียวสุเกะกลับยื้อตัวเอาไว้เสียก่อน
“หยู้ด!!!” เทวดาเรียวสุเกะร้อง
“อะไรอีกล่ะท่าน!” เทวดาไดกิเผลอตัวหันมาตวาด เอ่อ...ใจเย็นพี่ = =
“ก็อะไรล่ะ - - ท่านไปใส่คอนแทคก่อนเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวไปเดินตาถั่วอยู่ในโลกมนุษย์เหมือนครั้งที่แล้วอีก มันจะลำบากเรานะท่าน =3=/!” เทวดาเรียวสุเกะยืนเท้าสะเอวหนาๆของตัวเอง แล้วท้วงทัก
เทวดาไดกิทำหน้านึกขึ้นได้
“อ่ะ! จริงด้วยสิท่าน ขอบคุณที่เตือนนะ งั้นเดี๋ยวเรามานะ” เทวดาไดกิ เกาหัวแล้วยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเหาะเข้าไปในห้องน้ำ ว่าแต่…เหมือนโดนหลอกด่าว่าตาถั่ว?
“อืมๆ (-_,-) ไปดีมาดีนะท่าน” เทวดาเรียวสุเกะพยักหน้าขึ้นลงส่งเทวดาไดกิเข้าประตูชัย ส่วนตัวเองนั้น…?
“ไปหยิบโค้กในตู้เย็นดีกว่า~♪”
.
.
“จูริ แกซ้อมเสร็จกี่โมงวะ?” ริวทาโร่ถามก่อนที่จูริจะได้กลับไปซ้อมหลังพักเบรก
“ห๋า? ก็…5 โมงครึ่งมั้ง” จูริพูดพลางหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ใกล้ลานซ้อม… แต่ตอนนี้พึ่งบ่ายโมงเอง =_,=
“โห่ย! ไอ้เต่าหน้าอึน! ทำไมวันนี้เลิกช้ากว่าปกติวะ!” ริวทาโร่ลุกขึ้นผลักจูริไปหนึ่งที ปกติแม่งเลิกบ่ายสองโมงไม่ใช่หรอวะ!
“อ้าวชิบหาย! ก็วงฉันวันนี้จะซ้อมกันนาน แล้วมันไปกระเด็นเข้าตาแบ๊วๆของแกรึไงวะ!”
“เออดิ! แม่ง! อุตส่าห์มารอ ว่าจะให้ช่วยไรหน่อยแท้ๆ…” อุบอิบๆ ริวทาโร่พูดเสียงอ่อนลงเรื่อย จนแทบจะไม่ได้ยินเสียง ทำให้จูริต้องขมวดคิ้ว
“ห๊ะ?! พูดให้มันเหมือนมนุษย์พูดหน่อยดิวะ แกจะอะไรน๊ะ!?” จูริยื่นหูเข้าไปใกล้ๆ
ริวทาโร่ก็ยังคงบ่นอุบอิบอยู่ในลำคอ จนจูริต้องหันหูเข้าไปใกล้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนหูแทบจะแนบติดไปกับปากเพื่อนหน้าหนูแล้ว
ริวทาโร่อาศัยจังหวะนั้นสูดลมเข้าปวดลึกๆ แล้วจะโกนใส่หูจูริสุดแรงเกิด
“ฉันจะบอกว่า ให้แกไปเที่ยวกับเคย์โตะเป็นเพื่อนฉันตอน 3 โมงเย็นหน่อยยังไงล่ะเว้ยยย!!!!! ได้ยินรึยังไอ้เต่าขึ้นรา!!!!!!”
“จ๊ากกกกกกก!!!! ไอ้ริววว!!! ป๊าบ! แหกปากหาเตี่ยไรวะ! หูฉันนน!!!!” จูริตบหูริวท่าโร่เต็มแรงส่วนมืออีกข้างยังคงพยายามป้องหูตัวเองเอาไว้
“เอ๊า! ก็แกบอกไม่ได้ยินไม่ใช่รึไง ทีนี้ได้ยินยั๊ง! ห๊ะๆๆ!?” ริวทาโร่กอดอกยักคิ้วให้ ด้วยท่าทางที่เกรียนที่สุดที่จูริเคยเห็นมา ตั้งแต่ได้มาเป็นเพื่อนกัน
“ก็แกพูดงุ้งงิ้งๆฟังไม่รู้เรื่องแต่แรกเองนี่หว่า! โห่ย หูน้อยของพ่อ T^T” จูริร้องไห้กระซิกพลางลูบหูของตัวเอง
“แค่นั้นไม่ตายหรอก แกอยากโง่ไม่หดคอหลบไปในกระดองเอง ช่วยไม่ได้ =3=~”
ไอท่าทางและคำพูดที่แสนเกินคำบรรยายนั่น แทบจะทำเอาจูริเกือบจะวิ่งไปถีบไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้าคนนี้เสียให้ได้ แต่ก็พึ่งนึกอะไรออกขึ้นมา…
“เอ๊ะ~ เมื่อกี้แกว่าไรนะ เที่ยว? กับเคย์โตะ~ งั้นเหรอ~~” จูริทำท่าทะเล้นกระแซะล้อริวทาโร่ ซะเด็กเกรียนทำท่าไม่ถูก แต่ก็ยังคงทำท่าปั้นหน้าเกรียนต่อไป =3=~
“อะ เออ…เขาโทรมาชวนเมื่อคืน”
“เห๊~~ มีเบอร์ด้วย~ เขาขอแกเป็นแฟนแล้วเร๊อะ~” จูริยักคิ้วแซวไม่เลิก แต่อีกมือก็ยังคงลูบหูตัวเองป้อยๆ
“ใช่ที่ไหนเล่า!” ริวทาโร่เผลอตะโกนอีกครั้งกลบเกลื่อนความเขิน แต่โชคดีจูริไหวตัวหลบคอเข้าไปในกระดอง เอ๊ย! กระเทิบออกห่างทัน
“อ่อ แล้วไง จะให้ฉันไปเป็นเพื่อนเนี่ยน๊ะ? ขอปฏิเสธ ถึงจะมีเวลา ฉันก็ไม่ไปด้วยหรอก~”
“อ่าว ไมวะ!” ริวทาโร่เข้าไปผลักเพื่อนหน้าเต่าอีกครั้ง หลังได้ฟังคำตอบ กรุจริงจังนะเว่ย!
“เจี้ย! ผลักทำไม! แฟนกุก็ไม่ใช่แล้วจะให้ไปนั่งปั้นหน้าเต่ากับมึงทำไมวะ!” เอ่อ รู้สึกสรรพนามเริ่มเปลี่ยน
“เออ!มึงก็ไปนั่งหน้าเต่านั่นแหละ! กุไม่ว่า แต่ไปกับกุหน่อยไม่ได้รึไงฟระ!”
“เป็ดเอ๊ย! แค่นี้ทำเป็นเขิน เขาไม่พามึงไปปล้ำหรอกน่า! อย่างน้อยกุคนนึงก็ไม่เด็ดขาด - - ” เกรียนขนาดนี้ใครจะไปเอามันลงวะ
“มะ ไม่ได้คิดแบบนั้นโว้ย! มึงนี่ลามกจริงๆ!” เด็กเกรียนตบหัวเพื่อนรักอีกครั้งกลบเกลื่อนความเขิน
“ห่า ตบมาได้ =*=\! แล้วมึงเป็นเจี้ยไร ถึงไปตัวเดียวไม่ได้ห๊ะ <_<” เอ่อ พอเจอคำถามนี้ ก็ตอบไม่ได้
“เอ่อ..ก็ไม่เคยไปเที่ยวกับใครสองต่อสองนี่หว่า มันประหม่าเว่ย! =3=” ริวทาโร่ทำเมินไปมองทางอื่น…เพื่อนหน้าเต่าแสยะยิ้ม
“แล้วที่มึงตะลอนๆไปไหนกับกุจนจะขี่กุเดินเที่ยวอยู่นี่ล่ะ? ไม่เห็นมึงจะตายห่าอะไรเลย”
…จิ๊ ไอ้เต่านี่ ย้อนนะมึง =_=
“เออ! กุไปคนเดียวก็ได้ พอใจยัง! กุไปและ ขอให้มึงอายุยืนยาวเหมือนเต่าล้านปี สาธุ!” ริวทาโร่ฮึดฮัด ทำท่ายกมือสาธุสูงจนโอเว่อร์ ก่อนจะเดินหนีไป ปล่อยให้จูริยืนขำจนปวดท้องอยู่คนเดียว…แต่ซักพักหลังจากริวทาโร่ไปแล้ว
“อ้าว แม่งด่ากุนี่หว่า =_=”
.
.
“ท่านเรียวสุเกะ…เราก็เข้าใจนะ ว่าเราทั้งสองอยากมาเดินซื้อเสื้อผ้าไว้ใส่กัน แต่นี่ก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เรายังไม่ได้เดินเข้าร้านเสื้อผ้าซักร้านเลยนะ =_=” เทวดาไดกิเอ่ยขึ้นจากที่ยอมเดินตามเทวดาเรียวสุเกะมานานสองนาน
สองชั่วโมงที่แล้ว หลังจากที่เทวดาไดกิออกมาจากห้องน้ำเสร็จ ระหว่างเดินทางลงมายังโลกมนุษย์ เทวดาทั้งสองก็ตัดสินใจจะลงมาช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้ายามอยู่โลกมนุษย์กัน จากนั้นจึงจะไปหาโรงแรมที่สามารถพักระยะยาวได้เพื่อเข้าพัก (ท่าทางจะอยู่นาน) เป้าหมายถึงกลายเป็นย่านชิบุย่าของกรุงโตเกียวไป แต่นี้ก็ผ่านมาสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เข้าร้านขายเสื้อผ้ากันซักที นั่นก็เพราะ…
“โหย! ร้านเครปร้านนั้นเราเห็นในการ์ตนเรื่อง X@#!A ล่ะ! ไปกินดีกว่า! อ๊ะ นั่นร้านแกงกระหรี่ที่พระเอกเรื่อง ABC เคยไปทำงานนี่นา! อ๊ะนั่น! ร้าน@*%^!”
=_____= วันนี้เราจะได้ซื้อเสื้อซักตัวมั๊ยเนี่ย!
“ห๊ะ!?” เทวดาเรียวสุเกะหันหลังกลับมาหาเทวดาไดกิ มือข้างนึงถือซอร์ฟครีม มืออีกข้างมีเครปสตรอเบอรรี่ ส่วนที่ข้อมือ มีกาแฟเพิ่มวิปครีบห้อยอยู่…เอ่อ นี่จะเหลือเวลามีชีวิตอีกไม่กี่ชั่วโมงรึไง ถึงต้องรีบซื้อกินขนาดนี้เนี่ย
สภาพที่หันกลับมาของเทวดาเรียวสุเกะทำเทวดาไดกิเกือบหัวใจวาย แต่เมื่อยิ่งมองไปที่ใบหน้าก็ยิ่งรู้สึกอยากจะตายไวขึ้นไปอีก ทั้งครีม ทั้งซอสเปื้อนหน้าไปหมด ทั้งจมูก แก้ม และมุมปาก =_= เทวดาไดกิเดินตามหลังมาตลอดเลยพึ่งเห็นสภาพสินะ orz
“ท่าน…สำนึกหน่อยสิ ว่าเราเป็นเทวดากันน่ะ =_=”
“แหมท่าน ไม่มีใครรู้หรอกน่า~ อ่ะนิ เราให้ซอร์ฟครีม แล้วใจร่มๆน๊า~ อ๊ะ ขอเลียก่อนนิดนึง” แผลบ~เทวดาเรียวสุเกะหันไปเลียซอร์ฟครีมในมือสองทีก่อนจะยื่นให้เทวดาไดกิ
เทวดาไดกิถอนหายใจปลงๆ แล้วรับซอร์ฟครีมที่เหลือ?มากินแต่โดยดี ไหนๆก็พูดไม่ฟัง งั้นกินมันด้วยก็แล้วกัน - -;
แผลบ~
“อ๊ะ อร่อย! 0.0”
“เห็นม้า~ มีเวลาเหลืออีกเยอะน่ะท่าน ไปหาอะไรกินให้อิ่มแล้วค่อยเดินก็ได้~ รีบซื้อรีบกิน เดี๋ยวก็ไม่มีอะไรทำกันอีกพอดี~ปะๆท่าน ไปกินแกงกระหรี่ร้านนั้นกัน~ ” เทวดาเรียวสุเกะพูดจบก็จับมือเทวดาคู่หูมุ่งหน้าสู่ร้านแกงกระหรี่ทันที
‘เออช่างมันเห๊อะ = =;’ เทวดาไดกิคิดในใจ และหันไปเลียซอร์ฟครีมในมือต่ออย่างสงบเสงี่ยม
กลับมาที่ริวทาโร่บ้าง
ณ ขาใหญ่ฮาจิโค แห่ง ชิบูย่า
ริวทาโร่ยืนมองเหม่อไปเรื่อยๆ รอคนที่นัดเขามารออยู่ตรงนี้
‘ให้ตายสิ รู้งี้ยืนเถียงกับไอ้เต่าตัวผู้ต่อก็ดี มาก่อนเวลานัดเลยจนได้ - -;’ ริวทาโร่ยืนคิดในใจ เห็นหน้าจูริทีไรเป็นต้องมีเรื่องกันทุกที ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน - - เขาไม่ได้เกรียนนะ! ไอ้หมอนั่นมันกวนตรีนเองต่างหาก =3=
เด็กเกรียนแต่ไม่ยอมรับ ยืนคิดไปเพลินๆ ก็ปรากฏร่างสูงๆของคนรู้จัก…เคย์โตะนั่นเอง
“หวัดดี~ทำไมมาเร็วจังล่ะ?” เคย์โตะเดินเข้ามาทัก
“หวัดดี พอดีเหม็นเต่าเลยมาเร็วน่ะ…” ริวทาโร่ตอบเซ็งๆ เคย์โตะขมวดคิ้ว เต่า เต่าไร? แล้วเหม็นเต่าเกี่ยวอะไรกับมาเร็ว แล้ว เต่าใคร?
เคย์โตะทำหน้างง ระหว่างนั้นเลยขอฉวยโอกาสแจ้งอะไรหน่อยละกัน เรื่องนี้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้จากเมื่อวันฟ้าลิขิตวันที่ผ่านมานั้น ทั้งสองคนก็ทำความรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนสนิทกันถึงขึ้นริวทาโร่เกรียนใส่ได้อย่างเต็มที่ (อ่าว) แน่นอนในใจมันก็ตึกตักๆกันทั้งคู่แหละ แต่ภายนอก กลับดูเหมือนเพื่อนชายสุดหล่อ กับเพื่อนตัวเล็กสุดเกรียนมากกว่า เพราะงั้น คงไม่เห็น “ริวจัง” สุดน่ารักโผล่ออกมาในเรื่องนี้หรอกนะ~ ถ้าถามว่าทำไมล่ะ? =_,= อย่านักเลงดิ =3= คือ คนแต่งพอใจอ่ะ วะฮ่าฮ่าๆ!
กลับไปที่สองคนนั้นต่อ
“ริวทาโร่พูดถึงใครเนี่ย?” เคย์โตะอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“เปล่า~” ริวทาโร่ตัดประเด็น
“ว่าแต่เคย์โตะ นึกว่าจะขับรถมาซะอีก” เด็กเกรียนเปลี่ยนประเด็น ตากลมโตทั้งคู่ก้มมองสำรวจเคย์โตะตั้งแต่หัวจรดเท้า…ชุดนักเรียน = =
“จะบ้าหรอ ฉันพึ่งอยู่ ม.ปลาย นะ จะให้ไปขับรถได้ยังไง” เคย์โตะหัวเราะ
“เอ๊า! ก็เคยอ่านในการ์ตูน พวกนิสัยประมาณเคย์โตะอ่ะ มีรถขับกันหมดนี่นา =3=” ริวทาโร่ตอบข้างๆคูๆ นี่มันเหตุผลเรอะ!
เคย์โตะหัวเราะ
“ฮ่าๆ! พูดอะไรของริวเนี่ย! ว่าแต่ในการ์ตูนมีตัวละครแบบฉันด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้เลย~” …พระเอกฟิคโอคาริวไง =w=b
“=3=! อย่ามาหัวเรานะ! แล้วนี่พึ่งเลิกเรียนรึไง? ว่าแต่ ช่วงนี้ปิดเทอมไม่ใช่เหรอ?” ด้วยความอายเลยเปลี่ยนไปเรื่องชุดนักเรียนแทนซะงั้น ก็นั่นน่ะสิ โรงเรียนของเค้ากับจูริก็ปิดเทอม คนในวงอื่นๆของไอ้จูริก็ปิดเทอม แถวนี้ก็ไม่มีใครใส่ชุดนักเรียนซักคน แสดงว่าเราไม่ได้คิดไปเองสินะว่าปิดเทอม = =
“อ๋อ~ พอดีเราเรียน โรงเรียนแตกต่างกันนิดหน่อยน่ะ ^^ ของฉันพึ่งเปิดเทอม โทษทีนะที่ใส่ชุดนักเรียนมา” ริวทาโร่มองชุดเครื่องแบบของเคย์โตะอีกครั้ง…จะขอโทษทำไม ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ แค่ชุดนักเรียนก็เท่ห์จะแย่อยู่แล้ว ถ้าให้ใส่ชุดไปเที่ยวเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน มีหวังเราคงเกร็งจนพูดอะไรไม่ถูก =///=
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย” ริวทาโร่แสร้งหันหน้าไปมองทางอื่น ว่าแต่โรงเรียนอะไรของเขาฟระ? “ว่าแต่ โรงเรียนเคย์โตะทำไมเปิดปิดเทอมไม่เหมือนประชาชนเขา?”
“ก็ โรงเรียนฉันเป็นของประเทศอังกฤษน่ะ ก็เลยเปิดปิดตามอังกฤษไง ^^” เคย์โตะตอบยิ้มๆ เด็กเกรียนขมวดคิ้ว
“แต่นี่ญี่ปุ่น แล้วจะไปเปิดปิดตามอังฤษทำไม - -”
“นั่นสินะ~ ^^” เคย์โตะหัวเราะน้อยๆ เด็กคนนี้นี่มันมีหลักการเป็นของตัวเองจริงๆ
“เอาล่ะ ช่างมันเหอะ ไปหาอะไรกินดีกว่า นี่สามโมงครึ่งแล้ว ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย” เคย์โตะยกนาฬิกาขึ้นมาดู พร้อมกับยิ้มในใน ‘ที่ไม่กินน่ะ เพราะอยากไปกินกับริวทาโร่ต่างหากล่ะ~’ ว่าไปนั่น ฮะๆ
“ห๊ะ ทำไมไม่กินข้าวเที่ยง? เคย์โตะรู้มั๊ย ถ้าฉันไม่ได้กินข้าวซักมื้อนะ ฉันจะหมดแรงจนอ้าปากไม่ออกเลยล่ะ รู้งี้แล้วทำไมเคย์โตะไม่กินข้าวให้ครบมื้อห๊ะ!” นั่น ชวนไปหาอะไรกิน โดนเทศน์กลับมาอีก เวรกรรม
“อ่ะ เอ่อ ขอโทษ” เคย์โตะพูดอะไรม่ออกเลยพูดคำว่าขอโทษออกไป จะว่าไป เขาจะไปขอโทษมันทำไมเนี่ย?
“นายขอโทษก็ไม่ได้อะไรหรอก ป่ะ ไปกินข้าวกัน” ว่าจบ ริวทาโร่ก็คว้าข้อมือเคย์โตะเอาไว้แล้วจูงพาไปร้านอาหารแถวนั้นอย่างลืมตัว
เคย์โตะก้มไปมองที่มือเล็กแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ว่าแล้ว ว่าต้องคิดถูกที่ไม่ไปกินข้าวหน้าเป็ดที่โรงอาหาร~~
.
.
นาฬิกาเรือนใหม่ของโลกมนุษย์บนข้อมือของเทวดาทั้งสองกระพริบไฟ ปรากฏตัวเลขบอกเวลาออกมา 15.00 (ดิจิตอลซะด้วย) เทวดาเรียวสุเกะก็เริ่มรู้สึกอิ่มพอดี
“อ๊ะ 3 โมงแล้ว ก็ว่าทำไมอิ่มๆ” เทวดาเรียวสุเกะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูพลางมืออีกข้างปัดเศษขนมที่มือกับกางเกงแน่นเปรี๊ยะของตน
“นี่ท่านพึ่งอิ่มเรอะ - -” เทวดาไดกิค้อนนิดๆ ดีนะที่เทวดาทั้งสองสองเงินไว้ใช้ได้ ไม่งั้นคงต้องเปลี่ยนจากทัวร์โลกมนุษย์เป็นทัวร์ห้องล้างจานตามร้านอาหาร(ขนม)โลกมนุษย์เป็นแน่
“อื้ม!” เทวดาเรียวสุเกะพยักหน้ารับยิ้มสนใจ - -ll
แป๊ะ! เสียงเทวดาไดกิตบหน้าผากตัวเอง ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเล้ย - - ช่างเหอะ
“อือๆ แล้วจะพาเราไปซื้อเสื้อผ้าได้รึยัง?” เทวดาไดกิถามให้แน่ใจ
“เอาสิๆ ร้านไหนดีท่าน เล็งไว้รึยัง ร้านนั้นเป็นไง?” เทวดาเรียวสุเกะชี้ไปที่ร้านคอสเพลแถวนั้น ครบเครื่องโกธิค โลลิต้า คาแรคเตอร์ รวมไปถึง บันนี่เกิร์ล?
“ใครจะไปใส่อะไรพรรค์นั้นเล่า!” เทวดาไดกิโวย เราไม่ได้อยากแต่งตัวประหลาดแบบนั้นซักหน่อย!
“อ่าว ก็เราไม่รู้นี่ =3= แล้วร้านนั้นล่ะ?” นิ้วป้อมของเทวดาเรียวสุเกะชี้อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นชุดขายเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงแบรนด์ชื่อดัง
“นี่! เราไม่ใช่สุนัขนะ! พอได้แล้ว! แล้วตามเรามา!” เทวดาไดกิเม้งแตก พอๆไม่น่าไปยืนฟังท่านหมูอ้วนนี่พูดเลย!
เทวดาไดกิเดินตึงตังหนีไปทางตรงกันข้ามกับที่ๆเทวดาเรียวสุเกะชี้ไปทั้งหมด ร้อนถึงเทวดาเรียวสุเกะ รีบเดินตามไปแทบไม่ทัน
“อ้าว ท่านไดกิ! ทิ้งเราไปได้ไง! ท่านทิ้งเราไม่ได้น้า! TOT/!”
.
.
“เคย์โตะ สั่งอีกได้มั๊ยอ่ะ *O*/” เสียงเจื้อยแจ้วแต่ฟังแล้วรู้ว่าคนพูดเกรียน? ดังขึ้น หลังจากได้ยินเสียงวางช้อนดังแกร๊ง
“เอ๋? อืม ได้สิ อยากกินอะไรก็กินเลย” เคย์โตะเงยหน้าขึ้นมาจากการกินข้าวของตัวเอง ในใจก็คิดคิดไม่ได้ทำ ทำไมกินเร็วจัง - -
“จริงอ้ะ! ไม่โกหกนะ *3*!” เด็กเกรียนพยายามทำตาปิ๊งๆให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามตอบรับ
เคย์โตะหัวเรา
“ไม่โกหกหรอกน่า แล้วถามฉันทำไม?”
“ก็เคย์โตะเป็นคนจ่ายไง~” ริวทาโร่ยิ้มแฉ่งเห็นฟัน…นี่ถ้ามากับแม่เขาไม่ถามหรอก อุตส่าห์มีมารยาทนะเนี่ย
ว่าแต่แต่เจ้าเด็กนี่ลืมอะไรไปรึเปล่า? เคย์โตะยังไม่ได้เอ่ยปกาอะไรซักคำ แถมคนที่พาเคย์โตะเข้าร้านมันก็เขาเองนี่หว่า…เอาแล้ว
เคย์โตะกลั้นหัวเราะ คิดเองเออเองทั้งนั้นว่าเขาจะจ่ายให้~จริงๆก็ต้องจ่ายให้อยู่แล้วล่ะ แต่มันตลกที่ว่าเขายังไม่ได้พูดอะไรซักคำก็ดันพูดเองออกมาซะและ นี่กะจะไม่ให้เขาได้ตัดสินใจเลยนะเนี่ย
ทั้งเลือกร้าน ทั้งเรื่องเงิน แกล้งหน่อยดีกว่า~
“อะแฮ่ม เดี๋ยวริวทาโร่ ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะจ่ายให้ริวเลยนะ” เคย์โตะดัดเสียงให้ขรึมนิดๆ
ริวทาโร่ที่พึ่งสั่งออร์เดอร์ไป 2 เมนูเสร็จก็ทำตาโตที่โตอยู่แล้วให้โตขึ้นไปอีก
“เฮ้ย! ทำไมอ้ะ! แล้วไม่บอก สั่งไปแล้วอ้ะ! ToT” ราวกับฝันสลายพร้อมกับกระเป๋าตังค์แฟ้บๆที่เหน็บอยู่ที่กระเป๋ากางเกงเริ่มสั่นไหวเป็นการเตือน? ว่าตังค์ที่มีน่ะ ไม่พอแน่ๆ
“อะไรกัน ก็ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะออกให้เลยต่างหากนี่นา” เคย์โตะปั้นหน้าเฉย แต่ในใจน่ะ ขำจะตายอยู่แล้ว! ก็ดูหน้าของริวทาโร่สิ ทำหน้าอย่างกับจะโดนไล่ที่ซะงั้นแหน่ะ ฮ่าๆ!
“อ่ะ เออว่ะ…” ริวทาโร่พูดกับตัวเองเบาๆ ฮือ แล้วทำไงดีอ่า ToT!
เคย์โตะก้มหน้ามองขาตัวเองอย่างเก็บกดสุดๆ เพราะมันจะอดกลั้นอยากขำออกมาไม่ไหวแล้ว!
“ทะ ทำไงดีอ่า ยะ ยกเลิกทันมั๊ยอ่า แต่ก็อยากกินอ่ะ ยืนเงินเคย์โตะก็ได้มั๊ยอ่ะ ทำไงดี ToT!” ริวทาโร่ร้อนรน ทำให้เคย์โตะเริ่มจะอดใจไม่ไหวต่อไป (เฮ้ย!) ระเบิดหัวเราะออกมายกใหญ่
“ฮ่าๆ!!! โอ๊ย! ริวทาโร่ตลกจัง ฮ่าๆ!!! นะ น้ำตาจะไหลเลยเนี่ย ฮ่าๆ!” สุดภาพบุรุษสุดเดิร์นหัวเราะเสียงดัง
“เอ๊า! ไม่มีตังค์แล้วมันน่าขำตรงไหนเล่า ToT!”
“ฮ่าๆ! ฉันหมายถึง ทำไมต้องทำหน้าเหมือนกับว่า ตังค์ไม่พอแล้วโลกจะแตกอย่างนั้นต่างหากล่ะ ฮ่าๆ” เคย์โตะใช้นิ้วปาดน้ำตา เด็กมันตลกจริงๆ เขาขำแล้วยังไม่รู้อีก
ริวทาโร่ฮึดฮัดหน้าแดง
“มันจะแตกก็เพราะไม่มีตังค์จ่ายไงเล่า! =3=! เคย์โตะนั่นแหละผิด ไม่ยอมบอกว่าฉันต้องจ่ายเอง” นั่น โยนความคิดให้ชาวบ้านเขาอีก
“อะไรๆ ผิดตรงไหน ปกติเขาต้องเลี้ยงข้าวกันด้วยหรอ? แถมริวทาโร่ยังเป็นฝ่ายลากฉันเข้ามากินด้วยอีกนะ อันที่จริงริวทาโร่ต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงฉันด้วยซ้ำนะเนี่ย” เคย์โตะพูดจริงจัง ทำไงดี ยิ่งเห็นยิ่งอยากแล้งเข้าไปอีก?
“=[ ]= ตึงงงงง” เด็กเกรียนอ้าปากค้างเหมือนมีอะไรตกใส่หัว ไม่นึกเลยว่าเคย์โตะจะตอบกลับมาขนาดนี้ เล่นเอาพูดไม่ออก
“ฮ่าๆ! ดูหน้าริวทาโร่สิ ฮ่าๆ! พอแล้วๆ! ไม่กลับแล้ว ฉันจ่ายให้ริวทาโร่อยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงๆ เพราะงั้น ฮ่าๆ! ขอร้อง หยุดทำหน้าประหลาดซักทีเถอะ ฮ่าๆ!!!” เคย์โตะระเบิดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ทั้งยกมือห้าม ทั้งปาดน้ำตา อะไรมันจะขำขนาดนั้น ริวทาโร่ทำหน้าเหรอหราทำอะไรไม่ถูก สรุปโดนแกล้งใช่มั๊ยเนี่ย!...และอาหารก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟ
.
.
ก๊อกๆ เสียงเคาะกำแพงกันห้องลองเสื้อผ้าดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับเสียงของเทวดาไดกิ
“ท่านเรียวสุเกะ เปลี่ยนเสร็จรึยัง เราเปลี่ยนเสร็จแล้วนะ” ตอนนี้เทวดาทั้งสองอยู่ในห้องลองเสื้อในร้านขายเสื้อผ้า(ธรรมดาๆ)แห่งหนึ่ง เทวดาไดกิเข้าลองห้องติดกับเทวดาเรียวสุเกะ เลยลองเคาะกำแพงเรียกดูได้จะได้ออกไปปรากฏตัวสู่สายตาประชาชี เอ๊ย! พนักงานร้านที่ยืนรออยู่หน้าห้อง อ้อ ตอนนี้ เทวดาทั้งสองกำลังลองกางเกงอยู่ล่ะ
“ง่ะ ท่านไดกิ เราใส่ไซส์นี้ไม่ได้อ่ะ” ชั่วอึดใจ เทวดาเรียวสุเกะก็ตอบข้ามกำแพงกลับมา เทวดาไดกิขมวดคิ้ว
“เห~ ไหนเราดูหน่อยซิ” เทวดาดิเปิดผ้าม่านเดินออกมาจากห้องปะทะกับสายตาของพนักงานผู้แต่งหน้าหนา?
“โอ้โห เหมาะมากเลยค่ะ! เป็นยังไงคะ ชอบมั๊ย?” เจ้าหล่อนตาเป็นประกายเต็มที่ ไม่ใช่ว่าอยากขายของ แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าเธอเนี่ยสิ ดูดีอย่างกับหลุดออกมาจากนิยสารแฟชั่นอย่างนั้นแหละ *O*!
“เอ่อ ครับ แต่เดี๋ยวขอเรา เอ๊ย! ผมดูเพื่อนผมก่อนนะ พี่สาว? เอ่อ ไม่ต้องเฝ้าแล้วล่ะฮะ” เทวดาไดกิพยายามไล่หญิงสาว เอ่อ ทำไมคุยกับมนุษย์นี่คุยยากจัง - -
“ค๊า! >///<” คนโดนเรียกว่าพี่สาว ปลาบปลื้มและถอยกลับไปตามคำขอ
หลังจากที่พนักงานไปแล้ว
“ไหนท่าน ออกมาให้เราดูหน่อยซิ” เทวดาไดกิยืนรอยู่หน้าห้องลองเสื้อของเทวดาเรียวสุเกะที่อยู่ข้างๆ
“ระ เราออกไปไม่ได้” เทวดาเรียวสุเกะตอบกลับมาเสียงอ่อย
“หืม ไม่เป็นไรหรอก ตรงนี้มีแค่เราคนเดียว…ไม่ต้องอายหรอก” เทวดาไดกิมองซ้ายมองขวา แถวนี้ไม่มีใครแล้ว
“มะ ไม่ได้อ่ะ มันติด”
“ติด? ติดอะไรท่าน”
“เอ่อ…น่า ท่านเข้ามาช่วยเราหน่อยสิ ฮือๆ” เทวดาเรียวสุเกะทำเสียงเหมือนกับจะร้องไห้ เทวดาไดกิเลยรีบเปิดม่านเข้าไปดู
“ทำไมท่าน โดนวิญญาณร้ายดึงไว้เหรอ!” เทวดาไดกิปรากฏกายขึ้นพร้อมกับผ้าม่านที่ถูกเปิดออก แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ใช่เทวดาเรียวสุเกะที่โดนวิญญาณร้ายจับเอาไว้อย่างที่คิด
“แหะๆ กางเกงมันติดอ่ะท่าน ใส่ไม่ได้ พอจะถอดก็ถอดไม่ได้อ่า ToT~”
“…”
.
.
“=3=!”
“อะไรริวทาโร่เลิกโกรธได้แล้ว อุตส่าห์เลี้ยงข้าวนะ” เคย์โตะท้วงหลังจากโดนทำหน้าบึ้งใส่ออกมานานตั้งแต่กินข้าวเสร็จ
“ไม่!” เด็กเกรียนตอบกลับมา นี่ไม่ได้สำนึกเลยนะ ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร = = เออดิ พึ่งให้เขาจ่ายค่าข้าวให้ไปยังไปทำหน้าบึ้งใส่ผู้มีประคุณอีก!
“ก็บอกว่าขอโทษแล้วไง”
“แล้วมันหายหรอ?”
“ก็เลี้ยงข้าวไปแล้วอีกนะ ไม่พอรึไง?” เคย์โตะ เริ่มจนปัญญา ว่าแต่ ว่ากันตามหลักจริงๆเขาต้องเป็นฝ่ายเสียหายไม่ใช่หรอ? = =
“อ่ะ…” คำว่าเลี้ยงข้าวทำริวทาโร่สะอึกเล็กน้อย? แต่มันเสียหน้านี่หว่า มันแทนกันไม่ได้หรอก =3=!
เคย์โตะปรายตามองริวทาโร่ที่เดินอยู่ข้างๆ แถมยังทำหน้าเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆอีก เฮ้อ…นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันยังเลี้ยงยากขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นอะไรกันขึ้นมาจะเลี้ยงยากขนาดไหนนะ~
เคย์โตะคิดไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว
“>_> เป็นอะไร? จู่ๆก็อมยิ้มออกมา?” ริวทาโร่ถาม ก็เคย์โตะอ่ะดิ จู่ๆก็ทำหน้าเหนื่อย จู่ๆก็อมยิ้ม
“ห๊ะ อ๋อ เปล่า~ หายโกรธรึยัง เดี๋ยวจะพาไปซื้อไอติม”
“เคย์โตะเห็นว่าฉันเป็นเด็กรึไง! =3=/!” เด็กจะตาย…เคย์โตะคิด
“ก็เปล่า~ ก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่นา ไม่อยากกินหรอ?”
“ไม่เอา อยากไปเกมส์เซ็นเตอร์…ถ้าพาไปจะหายโกรธ โอเคป่ะ >_>” ริวทาโร่เว้นวรรค เมื่อเห็นเคย์โตะทำท่าเซ็งออกมา เลยแทรกคำพูดต่อไปให้เคย์โตะสมยอม?
“ก็ได้ๆ นำทางไปสิ” เคย์โตะเกาหัวกับความเอาแต่ใจของคนที่มาด้วย กำลังจะปฏิเสธซักหน่อย โดนขู่ออกมาซะก่อน…ไม่ใช่อะไร แค่ไม่ค่อยชอบเท่านั้นเอง มันหนวกหูน่ะ แต่ช่างเหอะ ดูท่างทางเขาจะมากับโปรเกมส์ตัวยงซะแล้ว…
.
.
“สมน้ำหน้า อยากกินเยอะทำไมล่ะ” เทวดาไดกกิพูดวนไปวนมาตั้งแต่อออกมาจากร้านกางเกง
“ก็เราหิวนี่นาท่าน แล้วก็เลิกตอกย้ำเราได้แล้ว! =3=/”
“เราไม่ได้ตอกย้ำ เราพูดเรื่องจริงนะ ดีนะที่ร้านนั้นเขามีไซส์ L ไม่งั้น ท่านคงได้อดกางเกงเป็นแน่” เทวดาไดกิเหน็บอีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าท่านเรียวสุเกะจะรอบเอวขยายภายในเวลาที่พึ่งลงมาโลกมนุษย์ได้แค่ครึ่งวันเนี่ย! เอ๊ะ หรือเพิ่มมานานแล้วแต่ชุดเทวดามันไม่กางเกงหว่า?
“พอได้แล้วล่ะท่าน ไม่งั้นเราโป้งจริงๆด้วยนะ!” เทวดาเรียวสุเกะยื่นคำขาดทำท่ายกนิ้วโป้งขึ้นมาขู่
“- - นี่ท่าน โตแล้วนะ ยังจะมาเล่นอะไรแบบนี้อีก” เฮ้อ…เทวดาล่ะเหนื่อยจ๊ายเหนื่อยใจ ทำไมเลี้ยงเด็ก เอ๊ย! เลี้ยงคู่หูนี่มันยากจังหว่า?
“เราไม่ใช่เด็กนะ! เราเป็นเทวดาเต็มตัวแล้ว!” เทวดาเรียวสุเกะยืดอก ทำท่าทางน่าเกรงขามเต็มที่
ในระหว่างที่เทวดาเรียวสุเกะกำลังพยายามทำท่าน่าเกรงขามอยู่นั้น มีมนุษย์สองสามคน เดินเข้าไปหา
“เอ่อ ขอโทษนะคะ/ครับ” สะกิดๆ
“เห? (´□`。) ”
“อุ๊ย! ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งหล่อ!” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตะลึง
“เดี๋ยวก่อนๆคุณ ทางผมมาก่อนนะ” ผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆรีบเข้ามาขัด
“อ๊ะ เดี๋ยวสิพวกคุณ ทางเราก็เดินเข้ามาพร้อมๆกันนะ” และคนอีกหลายๆกลุ่มย่อยๆก็ทยอยเดินกันเข้ามา จนกลายเป็นว่าเทวดาทั้งสองอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่ามนุษย์ที่มาขอส่วนบุญเสียแล้ว เอ๊ย! มาทำอะไรกันก็ไม่รู้!
“อะ เอ่อ…พวกท่านเป็นใครเนี่ย?” เทวดาเรียวสุเกะทำหน้างงสุดๆ แต่ก็โดนเทวดาไดกิดุเสียก่อน ‘ท่าน! ระวังหน่อยสิ ต้องพูดภาษามนุษย์นะ!’ เทวดาเรียวสุเกะทำหน้าบึ้งเมื่อถูกดุอีกครั้ง
“อ๊ะ! ขอโทษทีนะน้อง เข้าเรื่องเลยละกัน น้องสองคนสนใจเป็นดารามั๊ย? ตอนนี้ค่ายพี่กำลังมองหาดาราหน้าใหม่อยู่ พี่ว่าน้องสองคน…” ยังไม่ทันจะพูดจบ ผู้หญิงอีกคนก็ชิงพูดขัดขึ้นมา
“ถอยไป! นี่ มาเป็นนายแบบให้สังกัดพี่ดีกว่านะ Pichi Lemon ไง รู้จักใช่มั๊ย? นั่นแหละๆ! มาๆมาทำงานกับพี่ดีกว่าน๊ะ~” หญิงสาวคนที่สองพูดรัวกว่าเดิม ทั้งถามเองตอบเอง จนเทวดาจับใจความได้แค่คำว่า ‘Pichi’ กับ ‘Lemon’ เท่านั้น
‘Pichi?’ คำศัพท์นี้แปลว่าอะไร? พวกมนุษย์บัญญัติคำใหม่ขึ้นมาใช้แล้วหรอ )0[]0(! เทวดาไดกิเริ่มเกิดอาการ Culture Shock!
‘Lemon’ มนุษย์ผู้นี้จะซื้อเลมอนให้เรากินงั้นหรอ =w,=b ดีมากๆ เดี๋ยวเราจะให้พรนะ ฮิฮิ~
ในระหว่างที่ความคิดอันเรื่อยเปื่อยของเทวดาทั้งสองกำลังจะต่อเนื่องไป ท่ามกลางการถกเถียงแย่งเทวดาทั้งสองของเหล่ามนุษย์ก็หยุดนิ่ง เมื่อเด็กสาวคนหนึ่งอายุดูท่าทางอายุก็ไม่น่าจะเกิน ม.ปลาย ก็เดินแหวกเข้ามา ที่สำคัญ เด็กคนนั้นยังพูดสำเนียงคันไซอีกด้วย!
ผ่าง~!!!
“ถอยโว้ยยย!!!” เด็กสาวคนนั้นตะโกนดังแหวกคลื่นมนุษย์กลุ่มใหญ่ เปิดทางไปสู่เทวดาทั้งสอง
‘เฮ้ย! แย่แล้ว! เด็กคนนั้นทายาทกลุ่มบริหาร ค่าย Johnny นี่นา!’
‘เวรแล้ว! เฮ้อ! โชคไม่ดีเลยแฮะ!’
‘โอยย แห้วอีกแล้ว กลับไปโดนผู้ใหญ่ด่าแน่เลย~orz’
เสียงของเล่ามนุษย์ที่มาก่อนเริ่มกระซิบคุยกันอย่างหมดหวัง จนเทวดาเริ่มงง ใครอีกฟระเนี่ย =[]=! ดูท่าทางมีอิทธิพลมาก เด็กสาวคนนั้นสะพายเป้เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วยืนจ้องหน้าเทวดาทั้งสองอย่างตั้งใจ
“…” << เทวดา
“…” เด็กคนนั้น
ฟิ้ววววว วว ว ว
“เอ่อ…คือ มะ มีธุระอะไรกับพวกเราเหรอ?” เทวดาเรียวสุเกะทำลายความเงียบ เหล่ามนุษย์ที่ยืนอยู่รอบข้าง กลืนน้ำลายดังเอื๊อก!
“…เธอสองคนชื่อไรอ่ะ?” ผ่านไปอึดใจ เด็กสาวคนนั้นก็ถามคำถามกลับ แถมยังคันไซเบนเต็มๆอีกต่างหาก!
‘โอ้ว! Culture shock อีกแล้ว! )=[]=(!’
‘พอแล้วท่านไดกิ! = = เอาแล้วไง จะให้เราตอบว่าไรอ่ะ เรียวสุเกะงั้นเหรอ?’ นี่คือการคุยผ่านกระแสจิตของเทวดา!
‘บ้าหรอท่าน แล้วนามสกุลล่ะ!’ เอ่อ ท่านไดกิใส่ใจทุกรายละเอียดไปมั๊ย - -
‘งั้นใช้นามสกุลสมัยยังเป็นมนุษย์อยู่ดีมั๊ยอ่ะ? แต่มันนานแล้วอ่ะท่าน’
‘ก็ดีนะท่าน ไม่เป็นอะไรหรอก ตอบๆไปเหอะ มนุษย์ผู้นี้น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ แถมยังพูดสำเนียงแปลกๆอีก - -’
ควับ! กลับมาที่โลกแห่งความเป็นจริง
“เอ่อ เรา อาริโอกะ ไดกิ” ใช่นามสกุลนี้รึเปล่า ไม่แน่ใจแฮะ - -
“แล้วนายล่ะ?” เด็กสาวหันหน้าไปทางเทวดาเรียวสุเกะที่ยืนแก้มกลมอยู่ข้างๆ เทวดาเรียวสุเกะตกใจกับภาษาคันไซที่มาอย่างกระทันหัน? เลยเผลอตอบสลับกัน!
“เรียวสุเกะ ยามาดะ” =[]=! เรียงผิดแล้วท่าน! ตอบใหม่ๆ!
แต่เด็กสาวคนนั้นไม่ยืนรอให้เทวดาเรียวสุเกะแก้ตัว
“งั้นก็ไดยามะเรียลลิตี้สินะ *o*!! กรี๊ดดด! บันไซ! นายสองคนมาเดบิวค่ายเราเหอะ นะๆ เอาชื่อนี้เลย! เดือนหน้าเราออกซีดีเปิดตัวกัน! ป่ะ ไปกันเหอะ เวลามีน้อย” พูดจบเด็กสาวก็คว้าข้อมือเทวดาทั้งสองเอาไว้แล้วออกแรงลากไปทันที
“แว๊ก! เธอปล่อยเรานะ อะไรเรียลลิตี้!! ปล่อยยยย!” เทวดาไดกิพยายามตะโกนร้อง แล้วอะไรเรียลลิตี้!
“อืม~ เราเข้าใจเรื่องเรียลลิตี้นะ แต่เราว่าเธอพูดอะไรผิดรึเปล่า ต้องยามะไดสิ!” เทวดาเรียวสุเกะทำนิ้วจิ้มแก้มแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ว่าแต่ นี่เข้าใจด้วยเหรอว่ามันหมายถึงอะไรน่ะ!
.
.
“เคย์โตะ จะกลับกี่โมงอ่ะ?” ริวทาโร่ถามเคย์โตะที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่สายตากลับเพ่งไปที่ตู้เกมส์อย่างมีสมาธิ
“ไม่รู้เหมือนกัน อยากกลับกี่โมงล่ะ” เคย์โตะถามกลับ แต่สายตาก็กำลังเพ่งไปที่ตู้เกมส์ด้วยเช่นกัน สรุปแม่งเล่นเกมส์ตู้เดียวกัน - -
“ถามงี้จะไปส่งเหรอ?”
“ก็ต้องไปส่งสิ เป็นห่วง”
“เห~ พูดจริงดิ”
“ไม่จริง แล้วจะพูดมั๊ยเล่า…เฮ้ย ริว! ผีออกมาแล้ว ยิงมันๆ!”
“รับทราบ! ปังๆ!!! ฟู่ว~” เด็กเกรียนทำท่าเป่าลมที่ปืนของเล่นอย่างไว้ท่า…สาบานเหอะ ว่านี่ฟิคโอคาริว orz โอคาริวจงเจริญล่ะ ToT!
“สมเป็นริวจริงๆแฮะ” เคย์โตะวางปืน แล้วหันมาชม อ๊ะ แน่นอนว่าเกมส์จบแล้วนะ
“ฮุๆ~ ว่าแต่เป็นห่วงอะไร” จู่ๆเด็กเกรียนก็ถามกลับอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย
“อะไรกัน ถามทำไม ก็รู้ๆกันอยู่” เคย์โตะตอบยิ้มๆ แล้วก็แสร้งเดินไปที่อื่น
ริวทาโร่ยืนคิดอยู่พักนึง ‘รู้แล้วจะถามหรอวะ =*=!’
“เดี๋ยวสิเคย์โตะ รู้อะไรเล่า!” ริวทาโร่เดินตามเคย์โตะที่เดินไปข้างนอกเกมส์เซ็นเตอร์ก่อนแล้ว มือเล็กกระตุกแขนเสื้อคนที่มาด้วยกัน
เคย์โตะยังอมยิ้มอยู่
“ก็ริวทาโร่ตัวเล็ก โดนใครอุ้มไปจะทำยังไงล่ะ” เคย์โตะตอบ เด็กเกรียนทำหน้าบู้
“ไม่ได้ตัวเล็กซักหน่อย! =3=! อีกอย่างยังไงก็เป็นผู้ชายนะ ดูแลตัวเองได้~” ริวทาโร่โวยวายและพยายามเบ่งกล้ามโชว์ แต่นะ ถึงในใจจะรู้ก็เหอะ ว่าตัวเองน่ะ มีฟีโรโมนดึงดูเพศเดียวกันอยู่ orz
เคย์โตะหัวเราเบาๆ (ทำไมเคตดูเท่ห์จังวะ?)
“ฉันก็รู้ว่าริวทาโร่ดูแลตัวเองได้ แต่เข้าใจคำว่า “ห่วง” แล้วก็ “หวง” รึเปล่าล่ะ?” เคย์โตะอมยิ้ม เด็กเกรียนยืนเรียบเรียงความแตกต่างระหว่าง ห่วง กับ หวงซักแป๊บ ก็เขินหน้าแดงออกมา ก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนเสื้อเคย์โตะ เคย์โตะหัวเราะ
“อ้าว ถ้าเข้าใจแล้วก็อย่าปล่อยมือสิ ก็บอกแล้วว่า ทั้งหวง แล้วก็ห่วง ^w^” เคย์โตะพูดแล้วก็จับมือเล็กและก็ออกเดินซะอย่างนั้น
“เย้ย! เคย์โตะ จับมือทำไม มันเขิน!” ริวทาโร่โวยวาย แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ก็ไม่ยอมปล่อยมือล่ะนะ~
.
.
“เฮ้อ เกือบไปแล้ว~” เทวดาเรียวสุเกะถอนหายใจ เมื่อกี้กว่าจะหนีออกมาจากเด็กมนุษย์คนนั้นได้ก็เล่นเอาเกือบตาย =_=b
“นั่นสิท่าน ว่าแต่ ไหนอธิบายคำว่า ‘ไดยามะเรียลลิตี้’ มาให้เราฟังหน่อยซิ๊” เทวดาไดกิถามหลังจากที่คาใจมานาน
ไดยามะ…เจ๊อะ! ยามะไดไม่ได้หรอก =3=! เซ็ง!
“ไม่เอาอ่ะ ไม่บอก~”
“นี่ท่าน อย่ามาดื้อกับเรานะ =*= บอกมา” เทวดาไดกิดุ แถมยังทำเสียงเข้มนิดๆอีกด้วย
“=3= ไดยามะก็เราสองคนไง เรียลลิตี้ ก็คือ เรียลลิตี้ เข้าใจยังเท่า =3=/” เทวดาเรียวสุเกะตอบข้างๆคูๆ แล้วมีหรือที่เทวดาไดกิจะเข้าใจ
“ไม่เห็นจะเข้าใจ =*= ว่าแต่ท่านไปเข้าใจมันได้ยังไงเนี่ย!”
“โห่ย! ท่านนี่เข้าใจยากจริงๆ” เทวดาเรียวสุเกะเท้าสะเอว “เอางี้ ท่านรักเรามั๊ย?”
เทวดาไดกิทำท่าออกห่าง ((( ( (= =;; “อะ อะไรท่าน จู่ๆก็ถาม”
“เอาน่า ตอบมาสิ”
“…รักสิ”
รักมากป่าว~ =w=“
“มากสิ ไม่งั้นเราจะได้เป็นคู่หูกันมั๊ยล่ะ =3=/!” เทวดาเท้าสะเอวบ้าง ป่าว มันเขิน ////
“ฮิฮิ~ ก็นั่นแหละ มันถึงได้เรียลลิตี้ไง ลัลล้า~” เทวดาเรียวสุเกะอธิบาย แล้วก็เดินเต้นระบำไปที่ร้านไอติมฝั่งตรงข้าม
“อ้าวเดี๋ยวสิ!”
.
.
ระหว่างทางเดินกลับบ้าน(มั้ง)
“นี่ริว จริงๆแล้วมีอะไรจะบอกล่ะ” เคย์โตะพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองพึ่งจบบทสนทนาเรื่องวีรกรรมของจูริเสร็จ (เต่าน้อยเกี่ยวไรด้วยเนี่ย =[]=!) (อ้อ ตอนนี้ไมได้จับมือเดินนะ ฮ่าๆ)
“ฮะๆๆ ไอ้จูริแม่ง…! เห ไรหรอ?”
เคย์โตะอมยิ้ม
“จำได้มั๊ย วันแรกที่เจอกันน่ะ ที่ฉันไปช่วยริวตอนที่ริวล้มน่ะ” เคย์โตะเริ่มเปรย
“จำได้สิ” จะจำไม่ได้ได้ไง ก็ตกหลุมรักตั้งแต่ตอนนั้นนี่หว่า =////=
“หรอ แล้วไม่สงสัยหรอ ว่าทำไมฉันถึงเข้าไปช่วยริวครั้งที่สองด้วยน่ะ?” เออนั่นสิ จะว่าไป ข้อนี้ริวก็ไม่เคยรู้แฮะ? จำได้ว่าตอนนั้นถาม เคย์โตะบอกจำเสียงได้ก็เลยวิ่งมาแค่นั้นเอง
“ไม่อ่ะ ก็เคย์โตะบอกแค่ว่า จำเสียงฉันได้ตอนช่วยครั้งแรกก็เลยวิ่งมา” แต่คำถามเคย์โตะทำให้เขานึกถึงเรื่องประหลาดๆวันนั้นขึ้นมาได้อีกครั้งทันทีหลังจากลืมไปนานแล้ว =[]=
เคย์โตะยิ้ม
“ก็จริงนะ อย่างอย่างนั้นแหละ ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจำได้ แถมหน้าริวตอนนั้นก็เห็นแค่เสี้ยวเดียวแท้ๆ ว่ามั๊ย?” เคย์โตะหันมาถาม ริวทาโร่ก็พยักหน้ารับ อันที่จริงไม่ได้ฟังเท่าไหร่ มัวแต่นึกขนลุกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น =_=;;;
“แล้วตอนสุดท้าย ตอนที่นั่งคุยกัน จู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ และตอนนั้นในใจมันก็รู้สึกขึ้นมาเลยว่า ฉันชอบ…”
ในขณะที่เคย์โตะกำลังจะสารภาพรัก(ซักที) บรรยากาศกำลังไปได้สวย ริวทาโร่ก็ดั๊นไปเห็นอะไรซะก่อน…
“เดี๋ยว! เคย์โตะนั่น…!”
.
.
“นี่ เลิกกินได้แล้ว! ยังไม่เข็ดอีกรึไง!” เทวดาไดกิบ่น ตอนนี้เทวดาเรียวสุเกะเริ่มหาอะไรกินอีกแล้ว
“ก็มันหิวนี่ท่าน! ไหนว่ารักเราไง ไม่ตามใจเราเลย =3=!”
“รักกับตามใจมันไม่เหมือนกัน หยุดกินได้แล้ว! แล้วก็ช่วยกันมองหาโรงแรมดีๆด้วยสิ เลือกมานานแล้วนะ!”
“โห่ย ที่ไหนก็เหมือนกันแหละ =3= อ๊ะ แต่จะให้ดี เอาที่มีร้านอาหารอร่อยๆด้วยนะ” เทวดาเรียวสุเกะไม่ลืมที่จะเสนอข้อแนะให้ ว่าแต่นี่แนะแล้ว?
“เออๆๆๆ = =! เหนื่อยใจจริงๆ” เทวดาไดกิเลิกคิดที่จะเถียง หันกลับไปมองหาโรงแรมดีๆแถวนั้น เทวดาเรียวสุเกะก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เออจะว่า ไปอยากไปหาเคย์โตะ กับ ริวทาโร่จังไม่รู้เป็นยังไงกันบ้าง~นิๆ ท่านจำสองคนนั้นได้มั๊ย” เทวดาเรียวสุเกะสะกิดเทวดาไดกิที่พร้อมจะองค์ลงได้ทุกเมื่อ -*-
“อะไร ต้องจำได้สิ ไว้ค่อยไปหา ตอนนี้มาหาโรงแรมกันก่อน = =”
“โห่ย ท่านอ้ะ =3=! ทำไมต้องเย็นชาด้วย เราก็แค่…อ๊ะ ท่านนั่นมัน!”
.
.
“นายสองคนนี่!”
“เคย์โตะ กับ ริวทาโร่!”
“เอ๊ะ!?”
“ห่ะ!?”
อะไรกันนี่! จู่ๆ สองมนุษย์ กับ สองเทวดาก็โคจรมาเจอกันโดยบังเอิญซะแล้ว!!! ทั้งๆที่ต่างฝ่ายต่างก็กำลังนึกถึงกันพอดี อย่างนี้ไม่เรียกชะตาฟ้าลิขิตแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะเนี่ย!
แต่นะ มันมีอะไรผิดพลาดไปรึเปล่า?
“นายสองคนตอนนั้นนี่? แล้วทำไมรู้จักชื่อเราสองคนด้วยล่ะ O.o” เคย์โตะถาม จู่ๆก็กำลังจะสารภาพรักซักหน่อย ริวทาโร่ก็ดันหันไปเจอนายสองคนนี้พอดี ก็จะใครล่ะ ก็คนที่พวกเขาเคยเห็นตอนวันที่เจอกับริวทาโร่วันแรกไง
“เดี๋ยวแล้วเธอสองคน เคยเห็นเราสองคนด้วยหรอ o.O!” ได้ไงอ้ะ! เทวดาไดกิถาม เมื่อกี้จู่ๆเทวดาเรียวสุเกะก็พูดถึงเคย์โตะริวทาโร่ แล้วก็ดันโผล่มาเจอกันจริงๆซะได้ แถมสองคนนั้นยังเคยเห็นเราสองคนอีก มันหมายความว่ายังไง =[]=!!!!
“O[]O” << ริวทาโร่ ยะ ยิ่งได้ยินเสียงชัดๆ ความทรงจำเสียงประหลาดๆในวันนั้นที่ดังในหูก็ยิ่งชัดขึ้น ไม่ผิดแน่ เสียงเจ้าตัวกลมคนนี้ไม่ผิดแน่!
“O.O;;” << เทวดาเรียวสุเกะ ทะ ทำไมริวทาโร่เคยเห็นเราล่ะ ไม่นะ เห็นได้ไงอ้ะ!
ฟิ้ววว ว ววว
สถานการณ์ตอนนี้ คือ ริวทาโร่และเทวดาเรียวสุเกะยืนจ้องหน้ากันข้าง ส่วนตัวแทนทั้งสองฝ่ายอย่างเคย์โตะกับเทวดาไดกิก็สนทนากันต่อ
“ทำไมพวกนายสองคนรู้จักชื่อเราสองคนล่ะ?”
“เดี๋ยว เราถามก่อน เธอสองเคยเห็นพวกเราได้ยังไง?”
“ก็ตอนนั้นเดินกลับบ้าน เห็นนายสองคนยืนทะเลาะกันอยู่ เลยจำได้” เคย์โตะตอบตามความจริง ว่าแต่ถามแปลกๆ? คนเราก็ต้องมีบ้างที่เคยเห็นกันเป็นธรรมดาแหละน่า สองคนนั้นเหอะ ถึงขั้นรู้จักชื่อเลย = =;;
“=[]=” ชะตาเล่นตลกชัดๆ หรือว่าท่านเทพเคย์แกล้งบันดาลอะไรให้พวกนั้นมาเห็นเราสองคนตอนเที่ยวโลกมนุษย์ครั้งที่แล้วกันเนี่ย!
“แล้วตกลงพวกนายรู้จักชื่อพวกเราได้ยังไง…” เคย์โตะซักต่อ แต่ริวทาโร่ก็ดันขัดขึ้นมาอีกซะก่อน
“นาย! นายใช่มั๊ยที่มาเล่นคุณไสยใส่ฉันวันนั้นอ่ะ! ใช่มั๊ย! นายแค้นอะไรฉันห๊ะ รู้มั๊ยว่ามันโคตรน่ากลัวเลยนะตอนนั้น ToT!!” ริวทาโร่ชี้หน้าเทวดาเรียวสุเกะที่ยังอึ้งอยู่ ห่ะ นี่ริวทาโร่เข้าใจผิดว่าวันนั้นเทวดาเรียวสุเกะเป็นคนเล่นคุณไสย์ใส่เขางั้นเรอะ!?
“คุณไสย?” เคย์โตะชักสีหน้า
“อ๊ะเอ่อ คือนั่น…” เทวดาไดกิทำท่าจะแก้ตัว เวรแล้ว ริวทาโร่คงจะจำตอนที่ท่านเรียวสุเกะจะพาไปหาเคย์โตะตอนนั้นแน่ๆเลย เฮ้อ! ไม่น่าไว้ใจท่านเรียวสุเกะเล้ย แล้วตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ยยยย!
แต่ตามคำขอ ไม่ทันให้เทวดาไดกิต้องนั่งคิดหาคำแก้ตัว เจ้าตัวปัญหาก็ตอบแทนให้อย่างทันใจ
“อะไรนะ! เราไม่ได้เล่นคุณไสยนะ! เราเป็นเทวดาต่างหาก! แล้ววันนั้นที่เราทำไปน่ะ เราทำเพื่อให้ริวทาโร่ได้รักกับเคย์โตะต่างหาก เข้าใจเราหน่อยสิ =3=!!!”
หา!!!!
“=[]=! ทะ เทวดา!” เคย์โตะกับริวทาโร่ร้องพร้อมกัน รวมถึงเทวดาไดกิด้วย
“ทะท่านเรียวสุเกะ ระ รู้ตัวมั๊ยพูดอะไรออกไปอ่ะ =[]=!”
ส่วนเทวดาเรียวสุเกะก็ไม่ได้ฟังอะไรซักกะติ๊ด มัวแต่หัวเสียเรื่องคุณไสย = =! เราเป็นเทวดาตัวอย่าง ไม่ทำอะไรอย่างพวกมนต์ดำหรอก! มันต้องเคลีย!
“ก็ใช่ไง! จำไว้ด้วย อย่าเอาเราไปปนกับของพวกนั้น! เรา เทวดาเรียวสุเกะ ส่วนนี่ ท่านไดกิ คู่หูของเรา! ที่เรารู้จักเธอสองคนก็เพราะ พวกเธอสองคนอยู่ในความรับผิดชอบของเราสองคนในตอนนั้น เพื่อให้เธอทั้งสองรักกัน และเราก็สองคนก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นเทวดา เพราะฉะนั้นเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วสินะ! และเราก็พูดจริงด้วย ริวทาโร่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะงั้นอย่าคิดว่าเราบ้าล่ะ! เนอะท่านไดกิ! =_=b!” เทวดาเรียวสุเกะพูดจบก็หันไปขอแรงจากเทวดาไดกิอีกครั้ง ที่ตอนนี้เริ่มจะสลายหายไปกับอากาศแล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าต้องมานั่งเปิดโปงความเป็นเทวดาให้มนุษย์ที่เคยอยู่ในความดูแลฟังนะเนี่ย
“=[]= อ๊ะ เอ่อ…” ริวทาโร่ถึงกับต่ออะไรไม่ออก โดนพูดความจริงใส่ขนาดนี้ก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง”
ส่วนเคย์โตะที่รู้เรื่องน้อยกว่าริวทาโร่ กำลังพยายามรวบรวมข้อมูลประมูลผลอยู่ ตอนนี้เขา งงไปหมดแล้วว!!! แล้วนี่เขากำลังยืนคุยกับเทวดาตัวจริงอยู่เรอะ โอ๊วววว!!
เทวดาเรียวสุเกะยืนยิ้มเท้าสะเอวอย่างภูมิใจในฐานะเทวดาตัวอย่าง? อะแฮ่ม =w=! ก่อนที่เทวดาทั้งสองจะเริ่มคุยกัน ปล่อยให้มนุษย์ทั้งสองยืนจมไปกับคำพูดของเทวดาเรียวสุเกะต่อไป
“นี่ท่าน บอกเขาหมดเลยนะ orz” เทวดาไดกิจับบ่าเทวดาเรียวสุเกะแล้วก้มหน้าถอนหายใจ จะบ่นก็บ่นไม่ออกและ
“อ้าวท่าน ไม่เห็นเป็นไรเลย ท่านเทพเคย์ไม่ว่าหรอก เพราะเมื่อกี้ท่านเทพเคย์หัวเราะใหญ่เลยตอนเราพูดน่ะ ท่านไม่ได้ยินหรอ =w=b”
“งั้นหรอ ค่อยยังชั่ว แล้วจะได้ยินได้ไง ในเมื่อเรากำลังอึ้งกับคำพูดท่านอยู่เนี่ย = =” ท่านเทพเคย์ ก็นะ ท่านเทพเคย์ สมัยท่านเป็นเทวดาอย่างพวกเรา ท่านเป็นสายเดียวกับท่านเรียวสุเกะรึเปล่าเนี่ย = =
“หุหุ เอ๊า เคย์โตะ ริวทาโร่ เลิกอึ้งได้แล้ว! แล้วนี่เป็นคนรักกันรึยัง? เราอุตส่าห์ให้พรไปนะ” เทวดาเรียวสุเกะเดินไปเขย่าตัวของเด็กหนุ่มทั้งสอง แล้วทวงถามผล?
“เอ๋? อ๊ะ พร พรอะไร =///=” ริวทาโร่รู้สึกตัว พอเริ่มจะรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ (เร็วจัง) ก็เข้าใจขึ้นมา ว่าที่แท้ ที่ตอนนั้นใจเต้นกับเคย์โตะอย่างรุนแรงก็เป็นเพราะพรของเทวดาเรียวสุเกะนั่นเอง =////=
“เอ่อ…ยะยัง ก็เมื่อกี้กำลังจะสารภาพรัก แล้วนาย เอ่อ พวกท่านก็มาขัดพอดีนี่นา” เคย์โตะยืนเกาหัว ว่าแต่ แอบหัวเสียนิดๆ นี่ตกลงเขารักริวทาโร่เพราะ พรของเทวดางั้นหรอ? งั้นริวก็ด้วยน่ะสิ? พูดงี้ เขาก็รู้หรอกน่าว่า เราใจตรงกัน แต่ถ้านั่นเป็นเพราะพรของเทวดา เขาก็เสียใจนะ
“เห! เคย์โตะจะสารภาพรักกับฉันหรอ O///O!!!” ริวทาโร่ทำตาโต ไม่เห็นรู้เลย!
“จริงดิ้! งั้นเราขอโทษนะๆที่มาขัด >人<! ” เทวดาเรียวสุเกะ รีบยกมือขอโทษใหญ่ เห็นงี้ก็เหอะ เขาเซ้นสิทีฟนะ ก็เขาเป็นเทวดาตัวอย่างแห่งความรักนี่ อะแฮ่ม! =w= (พูดจังไอคำเนี้ย)
“งั้นเหรอ! เราขอโทษด้วยเหมือนกันนะ! >人<! ” เทวดาไดกิขอโทษบ้าง ว่าแต่งั้นเหอะ แล้วทำไมไม่หลบไป?
“ไม่เป็นไรหรอกท่าน…ก็ใช่น่ะสิ นี่ริวไม่ได้ฟังเลยหรอ ฮ่าๆ” เคย์โตะหัวเราะที่ริวทาโร่มัวแต่หันไปมองทางอื่น ไม่ได้ฟังเขาเท่าไหร่ ทั้งๆที่ตัวเองก็พยักหน้างึกงักตลอดแท้ๆ
“อ่ะ เออ ขอโทษ =/////= แฮะๆ”
“แต่ฉันชักไม่แน่ใจแล้วสิ ว่าควรจะสารภาพรักต่อดีมั๊ย…” เคย์โตะลดเสียงเบาๆ
“เอ๋? มะ หมายความว่าไงอ่ะเคย์โตะ” ริวทาโร่สะดุ้ง ทำไมอ้ะ ToT!
“ทำไมอ้ะ! ToT!” เทวดาเรียวสุเกะทำท่าตามริวทาโร่
“นั่นสิ ToT!” เทวดาไดกิเอาบ้าง เอ่อ ชักจะไปกันใหญ่
“=_=lll” เคย์โตะทำหน้าลำบากใจที่โดนคน(กับเทวดา) ทำท่าร้องไห้ใส่ “ก็…ถ้าฉันกับริวทาโร่รักกันเพราะพรเทวดาแบบนี้ มันก็ไม่มีความหมายน่ะสิ…” เคย์โตะทำหน้าเศร้าแล้วหันไปมองเทวดาทั้งสองที่กำลังยืนร้องไห้กัดผ้าเช็ดหน้าอยู่ข้างริวทาโร่?
“เอ๋?” เทวดาทั้งสองเอียงคอ
“เอ่อ…นั่นมันก็” ริวทาโร่ก็เริ่มคิดแบบนั้น เลยหันไปมองเทวดาทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างๆด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ความรักครั้งนี้มันก็คงไม่มีความหมายจริงๆนั่นแหละ
เมื่อเริ่มรู้สึกว่าโดนจ้อง และเริ่มกดดัน เทวดาทั้งสองก็เริ่มที่จะต้องพูดอะไรออกมา แน่นอนเรื่องลึกซึ้งคงให้เทวดาเรียวสุเกะพูดไม่ได้ = =
“เดี๋ยวก่อนนะ พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว เราสองคนให้พรก็จริง แต่หมายถึง แค่ให้พรให้พวกเธอสองคนมีความรักที่ราบลื่นต่างหาก ส่วนที่พวกเธอสองคนรักกันน่ะ เราทั้งสองไม่เกี่ยวนะ” เทวดาไดกิอธิบาย
“ใช่ๆ ชะตาความรักของริวทาโร่กับเคย์โตะน่ะ ถูกกำหนดมาอยู่แล้ว เพียงแค่เราทั้งสอง ช่วยให้มันก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร้อุปสรรคแค่นั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ตอนนั้นเราสองคนไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทุกอย่างมันเป็นไปเอง” เทวดาเรียวสุเกะพูดต่อ
“มันเป็นเพราะฟ้าเป็นคนนำทางให้พวกเธอนะ” สุดท้ายเทวดาทั้งสองพูดพร้อมกันพลันนึกไปถึงเหตุการณ์ต่างๆในอดีต กับประโยคที่ถูกบัญญัติเอาไว้ในบันทึกแห่งโชคชะตา รวมถึงเรื่องที่โดนเทวดาโตะรินยัดงานให้ด้วย =_= ไหนจะเทวดาฮิคกี้ตกสวรรค์อีก นึกได้อย่างนี้ เทวดาทั้งสองก็เผลอทำหน้าเซ็งขึ้นมา ดีนะ เคย์โตะกับริวทาโร่ไม่เห็น
“จริงดิ งั้นก็แสดงว่า เราเป็นคู่กันจริงๆน่ะสิริวทาโร่” เคย์โตะหัวเราะเบาๆ งี้ก็สารภาพรักได้แล้วล่ะสิ~ แต่คงต้องแล้วมั้งเนี่ย ก็เทวดาเล่นพูดแทนหมดแล้ว ฮะๆ
“ไม่รู้ดิ =///= แต่ถ้าเคย์โตะยอมให้เป็น ก็จะเป็นนะ” เด็กเกรียนเขิน อ๊าก พูดไรไปวะเนี่ย!
เคย์โตะอมยิ้ม
“ยอมสิ งั้นเป็นแฟนกันนะ รักริว ฟอด~~” เคย์โตะก้มลงหอมแก้มริวทาโร่หนึ่งทีแรงๆ ต่อหน้าเทวดาแห่งความรักทั้งสอง
={ }=!!!!!
“อะไรเนี่ย! เล่นทีเผลอนี่!” ริวทาโร่โวยวาย หน้าแดง! อ๊ากกกกกกกกกก โดนหอมแก้มครั้งแรกในชีวิต!!!
“อ้าว ไม่ได้หรอ ฮ่าๆๆ! ต่อหน้าท่านเทวดา อย่ามาทำไม่ดีสิ เดี๋ยวตกนรกนะ ฮ่าๆๆ!” เคย์โตะแกล้งชี้ไปที่เทวดาตัวป้อมทั้งสอง ที่ข้าวของหลุดลงไปกองที่พื้นกันหมด
ถึงจะเป็นเทวดาแห่งความรัก แต่ไม่เคยมายืนเป็นพยายานรักให้ใครจริงๆเขานี่นา!
“ฮึ้ยยยยย ก็ได้!” ริวทาโร่เขิน “เพราะเป็นคนที่รักหรอกนะ ถึงได้ยอม~~” อ๊าก พูดเองเขินเองงง!! (ノ><)ノ !!
“ฮะๆ! น่ารักที่สุดเลย~~!” เคย์โตะหยิกแก้มริวทาโร่หนึ่งที “ว่าแต่ เรามาขอบคุณท่านเทวดาของเรากันดีกว่าริวทาโร่ นี่พวกท่านมาทำอะไรกันที่นี่น่ะ มาเที่ยวหรอ ซื้อของเต็มเลย~ กลับเมื่อไหร่ล่ะ มานอนพักบ้านพวกเราดีกว่า~” เคย์โตะหันไปหาเทวดาทั้งสองที่ยังยืนค้างกันอยู่
“ใช่ๆๆ! ต้องตอบแทน! ท่านๆท่านเรียวสุเกะใช่มั๊ย ท่านมานอนบ้านผมนะ ผมชอบท่านแล้วล่ะ!!” ริวทาโร่เดินไปกระโดดกอดคอเทวดาเรียวสุเกะแล้วดึงแก้มเล่น จนเทวดาเรียวสุเกะต้องถอยหนี
“อ่ะเอ่อ ห่ะ เอ่อ ไปสิ พวกเราหาที่พักกันอยู่พอดี” เทวดาเรียวสุเกะพยักหน้าเออออ จะว่าไปก็ดีเหมือนกันแฮะ ฮี่ๆจะได้มีอะไรทำ~
“นั่นสิ พวกเราว่างกันอยู่พอดี งั้นท่านเรียวสุเกะ งานของพวกเราคือ มาคอยดูแลเคย์โตะกับริวทาโร่กันดีกว่าเนอะ!” เทวดาไดกินึกขึ้นได้ และเข้าใจถึงความหมายที่เทวดายูริบอกว่า ‘เดี๋ยวก็มีอะไรมาให้ทำเอง’ แล้ว
“เอ๋!? จริงรึเปล่า!?” เคย์โตะร้องดีใจ แน่นอว่าริวทาโร่ก็ด้วย แหงสิ มีเทวดามาดูแล ใครจะไม่ดีใจ!
“ดีเลยท่าน ตามนั้น! งั้นเราฝากตัวด้วยนะริวทาโร่ =w=!” เทวดาเรียวสุเกะยิ้มก้มลงหยิบถุงเสื้อผ้าที่หล่นแล้วเดินเข้าไปชิดริวทาโร่
“ได้เล้ย! ท่านมาเป็นพี่ชายให้ผมด้วยละกัน =w=b”
“โอเคตามนั้น!” และแล้วริวทาโร่ก็ได้พี่ชายตัวกลมทีเป็นเทวดาไปอยู่บ้านในที่สุด!
“เห แล้วเราล่ะ ท่าน ท่านทิ้งเราได้ไง =[]=! ไหนท่านว่าเรารักกันไง!!” เทวดาเรียวสุเกะเก็บของตามแล้วเดินไปโวยวายกับเทวดาเรียวสุเกะ ไหนว่าเรียลลิตี้ นี่ทิ้งกันแล้วเรอะ!
“ท่านก็ไปอยู่บ้านเคย์โตะสิ จะได้ดูแลเคย์โตะด้วยไง =w=b” เทวดาเรียวสุเกะบอก
“ใช่ๆ ท่านมาเป็นพี่ชายผมด้วยสิ ตามนี้นะ ^_^b” เมื่อเคย์โตะเอ่ยปากขอ เทวดาจะปฏิเสธได้ยังไง
“เอางั้นเรอะ งั้นเราก็ตกลงล่ะ ^_^! แต่บางทีพวกเราก็ต้องกลับไปทำงานบนสวรรค์บ้างล่ะนะ อาจจะอยู่ดูแลด้วยไม่ได้ทุกวัน” เทวดาไดกิชิงบอก
“ใช่ๆ ถึงตอนนี้จะว่างงานก็เหอะ ฮ่าๆ!” เทวดาเรียวสุเกะเกาหัว
“รับทราบ!!” โอคาริวรับปาก วันนี้วันดีจริงๆได้ทั้งคนรัก แถมยังได้ทั้งพี่ชายเทวดาอีก!
“งั้นก็โอเคฝากตัวด้วยเหล่าน้องชาย ทีนี้พาเราไปหาอะไรกินได้รึยัง เราหิวแล้วริวทาโร่ =w=” เทวดาเรียวสุเกะลูบพุงตัวเอง
“โอเคเลยฮะ ไปกันเลย!”
“เฮ้ย! ท่านเมื่อกี้พึ่งกินไอติมไปนะ!” เทวดาไดกิโวย แต่ไม่ทันซะแล้ว เพราะเทวดาเรียวสุเกะเดินกอดคอกับริวทาโร่เข้าร้านอาหารไปซะแล้ว
“ฮ่าๆๆ ช่วยไม่ได้หรอกพี่ไดกิ งั้นเราตามไปกันเหอะ” เคย์โตะหัวเราะ โอบไหล่พี่ชายคนใหม่เดินตามสองคนแรกเข้าร้านอาหร
“เฮ้อ…ช่วยไม่ได้ล่ะนะ =_=” เทวดาไดกิปลงแล้วโอบไหล่น้องชายคนใหม่พากันเข้าร้านอาหาร
..
..
.
อวสาน กร๊ากกกกกกกกก!!!
โซล : เป็นฟิคสั้นที่ยาวมาก กร๊ากกก นี่แต่งมาเดือนกว่าแล้วนะ ในสมุด เป็นครั้งแรกที่แต่งในสมุดอ่า คือแต่งในห้องเรียน (นั่น) วิชาสังคมเรียนไม่รู้เรื่องไง เลยนั่งแต่งฟิคแม่งเลย กร๊ากกก เพราะงั้นมันก็จะมีแต่น้ำไม่มีเนื้อ เพราะเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า ชักเริ่มยาว แถมไม่ได้เรื่องไรเล้ย เลยรีบมาพิมพ์ในคอมแล้วแต่งต่อให้เสร็จ เริ่มเบื่อ กร๊าก เดี๋ยวไปแต่งเรื่องอื่นต่อ (ซักที) ฮ่าๆๆ ยังไงก็ชอบจังๆ (นั่น) ถึงมันจะไม่มีอะไรเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าตกลง เรื่องนี้ โอคาริว feat.ไดยามะ หรือ ไดยามะ feat. โอคาริวก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า อย่าไปคิดมาก กร๊ากกก!!! อ้อ ไม่ได้ตรวจคำผิด กับ เนื้อเรื่องนะ โดยเฉพาะหลังๆหลังจากที่ไดยามะเรียลลิตี้เสร็จแล้ว ก็สดเลย แล้วก็ลงเลย ดังนั้น อย่าไปคาดหวังไรนะ ถ้าเจอไรแปลกๆก็ขอโทษด้วย ฮ่าๆ
ยินดีแฟนไทยด้วยนะที่จัมพ์จะไปหา ขอให้สนุกนะ!
ปล.คิดถึงริวริวของพี่ที่สุดเล้ย!
ปล.ฟิคเรื่องนี้เป็นตอนที่ 10 ของบทความนี้พอดีเลย ฤกษ์ดีๆ อิอิ
ความคิดเห็น