คืนฝันวันมฤตยู - นิยาย คืนฝันวันมฤตยู : Dek-D.com - Writer
×

    คืนฝันวันมฤตยู

    โดย koko1358

    นพดลเป็นผู้ชายธรรมดาที่หลงรักเพื่อนสนิท ทว่าโชคชะตาช่างเล่นตลกกับเขาเหลือเกิน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,721

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.72K

    ความคิดเห็น


    47

    คนติดตาม


    6
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ส.ค. 53 / 07:59 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กำลังอยู่ในระหว่างรีไรท์.......(-    -")....เฮ้อ สลบ 55+

    Dream & Death ___คืนฝันวันมฤตยู  AA00---บทนำ...

                

                
               ในยามดึกสงัดที่เงียบเชียบไร้ผู้คน...

               ชายชราคนหนึ่งก้าวเท้าไปตามพื้นถนนคอนกรีตเรียบๆ อย่างไม่รีบร้อนนัก...ชุดสูทสีดำสนิทกับรองเท้าคัชชูสีดำเรียบๆ ทำให้เขาดูภูมิฐานเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง...

               เขาเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆ ที่ปกคลุมหลังฝนตก...

               บ้านเรือนที่เรียงรายอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแลดูเงียบเหงาเหมือนทุกๆ วัน...มีเพียงหลอดนีออนเก่าๆ ของเสาไฟฟ้าเท่านั้นที่ยังทำงานอย่างซื่อสัตย์

               ยามหน้าหมู่บ้านหลับฝันดีอีกแล้ว...ชายชราส่ายหน้าน้อยๆ ให้เจ้าคนอ้วนลงพุงที่กรนครืดๆ อยู่ในป้อมยาม...ภาพวงจรปิดในจอเป็นสีเขียวตุ่นๆ ยังคงเรียบร้อยดีไม่มีสิ่งผิดปรกติ

               เขามองมันอย่างสนใจทีเดียว พลางคิดว่าที่ที่เขาทำงานอยู่น่าจะมีสิ่งนี้บ้างคงจะประหยัดคนอยู่เวรได้อีกโขทีเดียว...คิดแล้วก็เลิกแขนเสื้อขึ้นเพื่อดูว่านี่ถึงเวลาหรือยัง...

               เขายังอ้อยอิ่งกับมันอีกเล็กน้อย ไล้สายตาไปตามระบบและทำความเข้าใจพวกมันอยู่พักหนึ่งก่อนจะผละไปจากป้อมยาม

               ไม่นานนักชายชราก็มาหยุดยืนอยู่ที่ระหว่างบ้านสองหลัง...ประตูรั้วเตี้ยๆ ถูกลมพัดดังเอี๊ยดอ๊าดพร้อมกับพัดเอาเศษใบไม้แห้งที่นุ่มนิ่มเพราะฝนให้ปลิวแผ่วๆ กับพื้นหญ้าสีเขียวหน้าบ้าน

               เขาอมยิ้มน้อยๆ ให้ที่นั่น...รู้สึกถึงความอบอุ่นและรอยยิ้มที่ประปรายเข้ามาในความทรงจำ

               ก่อนจะเดินเข้าบ้านหลังที่มีประตูสีฟ้าด้วยการทะลุผ่าน...

               ห้องพระเล็กๆ มีหิ้งพระและรูปขาวดำวางอยู่ที่นั่น...

               รูปของเขานั่นเอง...

               ชายชรามองดูมันด้วยสีหน้าเรียบเฉยและอาจเจือด้วยความเสียดายอยู่สักนิด...
     
               เอาเถอะ...จะนึกถึงให้ได้อะไรขึ้นมาในเมื่อมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว...จากสีหน้านิ่งๆ ค่อยแปลเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นและในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นความเชี่อมั่น.

               ดวงตาของเขาวาวโรจน์ไปด้วยพลัง แม้ผมจะหงอกขาวหรือผิวหนังจะเหี่ยวย่นสักเท่าไร...แต่ดวงตาของเขาก็ไม่เคยที่จะแก่ลงเลยแม้สักน้อย

               วันนี้เขามีงานต้องสะสาง !

               ร่างสันทัดสูดหายใจเฮือกใหญ่ พลางหัวเราะน้อยๆ กับตนเอง...ที่จริงเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้อากาศเลยแม้แต่น้อย...เอาเถอะๆ มันก็แค่นั้น รีบทำให้จบๆ แล้วกลับลงไปข้างล่างดีกว่า

               ชายชราเอื้อมมือเข้าไปในรูปถ่ายของเขาเองและดึงกระเป๋าหนังสีดำออกมา...มันเป็นแบบเปิดด้วยรหัส มีแฝงเลขรหัสสามตัวประทับบนฟันเฟืองสีทองแวววับ

               เขาหมุนพวกมันไปมาก่อนที่ประเป๋าจะเปิดดังกริ๊ก...พลางตรวจเช็คสิ่งของด้านในว่าอยู่ครบดีหรือไม่...ซึ่งดูแล้วของข้างในก็ไม่น่าจะมีมูลค่ามากมายอะไรนัก เพราะพวกมันคือขวดแก้วใสที่ปิดด้วยจุกไม้ก๊อกเท่านั้นเอง

               หากแต่เมื่อดูจากตัวกระเป๋าจะพบว่าถูกทำขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ...เนื่องจากมันบุกำมะหยี่สีแดงไว้เป็นร่องสำหรับเก็บขวดแต่ละใบเลยทีเดียว

               ขวดพวกนี้สำคัญยังไงกันหนอ?...ถึงได้รับการดูแลดีถึงเพียงนี้...
     
               เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ชายชราก็ปิดกระเป๋าแล้วกระโจนออกทางหน้าต่างทันที
     
               ร่างในชุดสูทสีดำลอยละลิวลงมาที่พื้นถนนอย่างคล่องตัว...เขาผิวปากดังหวืดแล้วชักนาฬิกาข้อมือมาดูเล็กน้อยด้วยความเคยชิน...ดูซิ๊ว่าคู่หูจะมาได้เร็วสักแค่ไหน

               ยังไม่ทันทีเข็มวินาทีจะเดินได้ถึงสิบครั้ง เจ้านกแสกตัวมหึมาก็ร่อนลงมาเกาะที่แขนอย่างว่าง่าย...ขนาดตัวของมันราวกับแม่ไก่สักสามตัวรวมกันเห็นจะได้...มันกระพือปีกพับๆ และยกขาข้างหนึ่งบิดขี้เกียจราวกับเมื่อยขบมานาน

               ไปกันเถอะ เขาเอ่ยเบาๆ ก่อนจะสะบัดให้มันบิน และกระโจนตามการนำทางนั้นด้วยความเร็วสูง

               ชายชราว่องไวจนดูเหมือนเงาดำที่วูบวาบไปตามท้องถนน...เร็วเสียจนแม้ตามนุษย์สามารถเห็นเขาได้จริงก็คงไม่สามารถเห็นสิ่งใดในระหว่างการเคลื่อนที่ได้

               ความตายย่อมไวกว่าแสงอยู่แล้ว...และเขานั้นก็คือผู้ที่ไวพอๆ กับความตาย...

               ทว่า...เจ้านกนั่นไวกว่าเขา...
     
               มันมาเกาะรอและส่งเสียงดังก้องที่บ้านของเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว...ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนที่ชายชราจะก้าวเท้าเข้าไปอย่างเงียบกริบ

               เขามาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของหญิงแก่ๆ คนหนึ่ง...มือของเธอซีดเซียวดวงตาหลับพริ้มสนิท...และจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกแล้วจากร่างนี้...

               เขายืนอย่างสงบ...เฝ้ารอและอดเวทนาไม่ได้ ยังไงการจากกันก็ยังคงน่าสะเทือนใจอยู่เสมอสำหรับชายชรา...เขาหรี่ตาลงเล็กๆ เปิดกระเป๋าก่อนจะหยิบขวดแก้วขึ้นมาหนึ่งใบ...

               ท่ามกลางเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นของลูกสาว...วิญญาณค่อยๆ ลอยหลุดออกจากร่างและตื่นกลัวเมื่อเห็นคนในชุดดำ...
     
               หญิงชราเบิกตากว้างและยังสับสนกับการทรงตัวในสภาพไร้น้ำหนัก

               ระบบนำทางของท่านเสีย... ชายชราเปรยเรียบๆ และเปิดฝาขวดออก...แรงดูดมหาศาลเกิดขึ้นทันทีจนข้างนอกมีลมพัดไปมาวูบใหญ่ เพียงอึดใจเท่านั้นหญิงชราก็ถูกดูดเข้ามาอยู่ในขวด

               เธอเคาะมันดังกึกๆ อย่างไม่พอใจ ปากร้องตะโกนอะไรบางอย่างออกมาด้วย..ชายชราไม่ได้ยินสิ่งนั้นเพราะระบบดูดเสียงของขวดนั่นเอง  สิ่งนี้ช่วยให้พนักงานเก็บวิญญาณไม่ต้องรำคาญขึ้นอีกเยอะเลย ดีกว่าสมัยที่ยังใช้โซ่ตามจับเป็นไหนๆ เรียบง่าย รวดเร็ว และประหยัดเวลาขึ้นตั้งเยอะ

               ไปกับเราก่อน...ลงไปรายงานตัว แล้วคืนที่สามก็จะได้กลับขึ้นมาอำลาญาติพี่น้อง เขากล่าวอย่างเฉียบขาดเมื่อเห็นคนในขวดยังพยายามขัดขืน

               แน่นอน...หญิงแก่เข้าใจและเกรงเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจนั่น เธอหยุดนิ่ง และไม่เปิดปากอีกเลย

               ร่างสันทัดไม่รอเวลามากนักเขาใส่เธอลงในกระเป๋าแล้วก้าวออกจากบ้านทันที...คืนนี้ยังมีอีกหลายงานในข่ายความรับผิดชอบของเขา จะมามัวโอ้เอ้เห็นท่าคงต้องตามตัวกันวุ่นแน่

               เข็มนาฬิกาขยับกริ๊กๆ เป็นจังหวะอย่างเที่ยงตรง...

               เที่ยงตรงและแม่นยำเฉกเช่นคนของพิภพมัจจุราช...

               เที่ยงตรงและเที่ยงธรรม...

                                                ++++++++++++

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "วิจารณ์นิยายโดยForeverค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีค่ะ 'ซีชอร์' นักวิจารณ์จากForeverค่ะ อ่านจบแล้วอย่าลืมไปเซ็นต์รับที่บริษัทด้วยนะคะ ชื่อนิยาย: คืนฝันวันมฤตยู ก่อนอื่นตามธรรมเนียม...การวิจารณ์ของซีเป็นการใช้ความเห็นส่วนบุคคล คนอื่นรวมถึงผู้เขียนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้นะคะ บางจุดซีอาจจะมีพูดตรงๆแรงๆไปบ้าง ซีไม่มีเจตนาจะยั่วโมโหหรือทำให้ท่านรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด แต่หากทำให้ไม่ ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีค่ะ 'ซีชอร์' นักวิจารณ์จากForeverค่ะ อ่านจบแล้วอย่าลืมไปเซ็นต์รับที่บริษัทด้วยนะคะ ชื่อนิยาย: คืนฝันวันมฤตยู ก่อนอื่นตามธรรมเนียม...การวิจารณ์ของซีเป็นการใช้ความเห็นส่วนบุคคล คนอื่นรวมถึงผู้เขียนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้นะคะ บางจุดซีอาจจะมีพูดตรงๆแรงๆไปบ้าง ซีไม่มีเจตนาจะยั่วโมโหหรือทำให้ท่านรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด แต่หากทำให้ไม่พอใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เอาล่ะ เรามาเริ่มวิจารณ์ในแต่ละหัวข้อกันเถอะ! โครง เรื่อง: โครงเรื่องเกี่ยวเนื่องกับยมทูตในเมืองไทย มีนายทวาร มีความเชื่อเรื่องวิญญาณจะกลับมาเยี่ยมญาติวันที่3หลังเสียชีวิต ตัวเอกเป็นนักเขียนนิยาย ข้อมูลอิงกับวงการสื่อสิ่งพิมพ์แบบเจาะลึกอยู่ เป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างแหวกแนวจากในท้องตลาดดี ปัญหาที่ซีกังวลคือ...เมื่อดูจากบทนำนิยาย ‘แล้วนิยายของนพดลก็ได้ตีพิมพ์ภายใน 7 วัน ทว่าหลังจากนั้นเขาจะต้องตาย...’ หลังจากนี้ จุดบรรจบระหว่าง 2 จุดนี้มันจะมายังไง เพราะเท่าที่อ่านจนถึงตอนที่6 ซียังหาความเกี่ยวเนื่องระหว่างเรื่องนิยายกับยมทูตไม่เจอ นอกจากความที่มันลิงค์กับพระเอก อาจเป็นเพราะเนื้อหาเพิ่งเริ่มต้น เลยยังมองภาพรวมได้ไม่เด่นชัดมาก แค่ซีกลัวว่ามันจะกลายเป็นนิยายย่อย 2 เรื่องในเรื่องเดียว คือส่วนนึงพูดถึงปัญหาวงการนิยาย และอีกส่วนนึงพูดถึงยมโลก...ตอนนี้ซีคงยังวิจารณ์ตรงจุดนี้ได้ไม่มาก คงต้องดูกันต่อไปซักพักแหละเนอะ ^^” ตัว ละคร: เรื่องลักษณะคาแรคเตอร์ถือว่าฉีกกรอบสไตล์พระเอกไทยมาก เรื่องนี้มาแบบ พระเอกผมยาว ไว้เครา แต่งตัวเซอร์ๆ และชอบเขียนนิยาย ส่วนนางเอกก็มาซะผมสั้น ฉีกลุคตลาดทั่วไปที่ต้องไว้ผมยาวเพื่อความเป็นเลดี้ พระ-นางไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ดูแล้วรู้ว่ารู้จักทำมาหากินและเรียนหนังสือ ส่วนคุณๆฝั่งยมโลกก็ไม่ใช่พวกหน้าตาดีเด่นอะไร พูดง่ายๆคือออกแบบคาแรคเตอร์ได้เจ๋งมาก ซีชอบตรงจุดนี้ค่ะ ปัญหาคือซีไปหักคะแนนเยอะจากมิติตัวละคร...คือซีอ่านแล้วยังสับสนอยู่ ตัวละครบทนึงก็ดูห้าวๆ นักเลงๆ แต่มาอีกบทก็คิดมาก อ่อนไหวไปซะหมด สรุปแล้วจะมาแนวไหนกันแน่?? คือเหมือนว่าบุคลิกมันยังไม่คงที่ อ่านแล้วเหมือนเป็นสองคนในร่างเดียวค่ะ ทั้งฝั่งนพดลและก้อยการะเกดเลย (สังเกตวิธีพูดจาจากบทแรกแล้วเทียบกับบทถัดๆมามันเหมือนคนละแนวน่ะค่ะ) ส่วนด้านคุณปู่...อ่านแล้วยังมองนิสัยของตัวละครนี้ไม่ค่อยออกค่ะ นอกจากรู้สึกว่าเค้าจะค่อนข้างพูดจาอิงหลักปรัชญามาก ส่วนตัวละครที่สำนักพิมพ์ แบนมาก แบบว่า...โผล่มาแว่บเดียวแล้วก็หายยาว...อ่านถึงตอนที่6ลืมไปแล้วว่า 2 สาวนั่นชื่ออะไร ส่วนนิสัยก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันค่ะ = =” ฉาก สถานที่ เวลา: ฉากเหมือนจะโดดไปโดดมา เหมือนที่ซีจะบอกในส่วนต่อไปว่าซีรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้ไปเน้นบรรยายอารมณ์มากกว่าทิวทัศน์หรือสถานที่ ทำให้บางครั้งก็อ่านแล้วงงๆ จินตนาการไม่ค่อยออกเท่าที่ควรว่าเหตุเกิดที่ไหน เวลาไหน การบรรยายมักจะดึงอารมณ์ตัวละคร การกระทำตัวละครก่อน แล้วค่อยพูดตามมาว่าเกิดที่ไหน ยังไง นานๆทีก็โอเค แต่พอถี่ๆเข้ามันทำให้สับสนเวลาอ่านน่ะค่ะ คืองงไปก่อนแล้วค่อยมารู้ทีหลังว่าฉากเป็นยังไง ซีแนะนำว่าอยากให้เพิ่มการบรรยาย ‘ภาพ’สถานที่ให้มากขึ้นตอนต้นที่เริ่มเปลี่ยนฉาก เพื่อให้เกิดสมดุลกับพรรณนาโวหารค่ะ การดำเนินเนื้อเรื่อง + มุมมองการเล่าเรื่อง: มุมมองการเล่าเรื่องชัดเจนดีค่ะว่าตัวไหนเป็นคนเล่าเรื่อง นักอ่านเห็นมุมมองผ่านใคร อ่านแล้วไม่สับสน แต่การดำเนินเรื่องซีว่ามันเรียบและเอื่อยไปซักนิด ซีไม่ค่อยรู้สึกสะดุดหรือตื่นเต้นไปพร้อมตัวละครเท่าไหร่ค่ะ พูดง่ายๆคือไม่ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ ชีวิตและความสัมพันธ์ของ 3 ตัวละครหลักไหลลื่นอยู่ แต่บทที่พูดถึงยมโลกกับสำนักพิมพ์ค่อนข้างกระโดดเข้า-ออกไปซักหน่อย ความสมเหตุสมผล: โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะคะ แต่มีสะกิดใจตรงจุดเล็กจุดน้อยมากกว่า จุดแรกคือในตอนแรกที่พระเอกไปปลุกนางเอกเข้า แล้วมาน้อยใจ คือทั้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ซีคิดว่านพควรจะรู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอว่าก้อยการะเกดเกลียดการถูกกวนเวลานอน ทำไมบทบรรยายถึงบอกว่าถ้าสังเกตสักนิด...มันเหมือนไม่เคยรู้มาก่อน? แต่ว่าบทหลังๆก็บรรยายเหมือนนพก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรไปกวนคุณเธอเวลานอนนี่นา? อีกจุดคือตรงที่พระเอกไปตื่นที่โรงพยาบาลแล้วรู้สึกปวดไปทั่วร่าง...ทำไมพระเอกไม่เอะใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายตัวเอง? เพราะถ้าแค่เป็นลมไปจริงๆอาการไม่ควรจะมากถึงขนาดนี้ แถมมีผ้าก๊อซเต็มตัวเลยนี่คะ? บท สนทนา: บทสนทนามันต่อเนื่องกันดีค่ะ แต่ปัญหาคือภาษา+ลักษณะการพูดระหว่างตัวละครมันมีช่องว่างต่างกันมาก ทำให้รู้สึกอ่านไปขมวดคิ้วไป -*- ภาษา สำนวน - การบรรยาย: เริ่มที่แนะนำเรื่องนะคะ...บทแนะนำเรื่องสั้นมาก และไม่ดึงดูดเท่าที่ควร คือแต่งเสร็จแล้วตาย ทำไมถึงตาย? ตรงนี้นิยายดำเนินเรื่องไปเอื่อยมาก คืออ่านไปแล้วจนถึงตอนที่6 ยังไม่รู้เลยว่าจะตายเพราะอะไร นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ๆของเรื่องนี้ยังมีอีก 2 จุดค่ะ 1.พรรณนาโวหารเยิ่นเย้อเกินไป 2.สำนวนภาษาผสมปนเปจนอ่านแล้วเครียด 1. ::พรรณาโวหาร:: ปัญหาของเรื่องนี้คือการบรรยายฉาก สถาการณ์ หรือสถานที่ค่อนข้างน้อยมาก จนบางครั้งอ่านแล้วไม่เห็นภาพชัดเจน ส่วนใหญ่ไปเน้นที่การพรรณนาความรู้สึกของตัวละครซะมากกว่า ถ้ามีแต่พอดีจะทำให้คนอ่านดื่มด่ำกับตัวละครได้มาก แต่ซีรู้สึกว่าสำหรับเรื่องนี้ ขอโทษที่ต้องพูดแรงนิดหน่อยนะคะ...การพรรณนาอารมณ์ โดยเฉพาะของตัวความคิดของนพดล มันมากเกินไป...จากความสะเทือนอารมณ์มันเลยกลายเป็นเพ้อค่ะ อ่านแล้วเกิดอาการหงุดหงิดว่าผู้ชายอะไรมันจะเพ้อ จะฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ คนเขียนเล่าอารมณ์ทุกกระเบียดนิ้ว ซ้ำว่าวิตกอย่างนั้น เปรียบกับอย่างนี้ มันเลยคล้ายกับทั้งบรรทัดมันย่ำต๊อกอยู่กับที่ แทนที่จะทำให้เราดื่มด่ำ อินไปกับตัวละคร มันกลายเป็นอ่านแล้วเหนื่อยใจค่ะ ขอแนะนำนิดนึงตรงนี้นะคะ แนะนำว่าทอนพรรณนาโวหารให้กระชับขึ้น แล้วไปเน้นบรรยายโวหารแทนจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับนิยายได้มากกว่าค่ะ 2. ::สำนวนภาษา:: การบรรยายเน้นภาษาออกไปทางแนววรรณกรรมสมัยเก่า สังเกตจากคำว่า กระมัง ไฉน โถ่ หนอ แต่การพูดจาของนภดลกับก้อยการะเกดมันออกไปทางวัยรุ่น...คือถ้าวัยรุ่นหน่อยๆมันยังพอกลืนกันได้ แต่คนเขียนแต่งให้ 2 คนนี้พูดกันด้วยภาษาที่ ‘แอ๊บแบ๊ว’มาก เช่น หรอ อิอิ เป็นบ้าอะไรอ๊ะ...ตัวอย่างเช่นคำหลัง ถ้าเป็น ‘เป็นบ้าอะไรน่ะ’ มันจะดูภาษาไปทางเดียวกันกับบทบรรยายมากกว่าน่ะค่ะ ยังไม่พอการใช้คำพูดของคุณปู่ยังทำให้ซีงงมาก คือ...ซีรู้สึกว่าอายุคุณปู่ต่อให้แก่ยังไงยุคสมัยก็ไม่น่าจะเกิน 100ปีก่อน ภาษาที่ใช้ไม่น่าจะเป็น เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย หรือแทนตัวด้วยเรา อะไรแบบนี้...คืออ่านแล้วรู้สึกว่าภาษามันสะดุดน่ะค่ะ แถมบางจุดภาษาคุณปู่ก็วัยรุ่นมาก เช่น ‘ดูซิ๊’ ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักแล้ว คนเฒ่าคนแก่จะใช้เป็น ‘ดูสิ’ และเวลาพูดแทนตัวกับหลานมักจะแทนตัวด้วย ‘ปู่’ ไปเลยมากกว่านะคะ ยังไม่รวมภาษาที่นายทวารใช้อีก...ใส่สูทแต่ภาษาเหมือนหลุดมาจากอยุธยาคือมันไปคนละทางมากๆ ชนิดที่ไม่ใช่แค่ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยเลยน่ะค่ะ สรุปนะคะ นิยายเรื่องนี้สำนวนภาษาเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด มันหลากหลายและต่างกันจนอ่านแล้วไม่สนุกทั้งๆที่พล็อตเรื่องน่าสนใจค่ะ ซีคิดว่านิยายเรื่องนี้ เป้าหมายน่าจะจับอยู่กลุ่มวัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงผู้ใหญ่หน่อย และเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายย้อนยุค ดังนั้นภาษาที่ใช้บรรยายแนะนำให้ปรับให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อยนึงจะดีกว่าค่ะ แต่การใช้ภาษาสนทนาของตัวเอกทั้งสองที่แบ๊วเกินแนะนำให้ปรับให้เป็นทางการขึ้นอีกนิดจะทำให้สำนวนของทั้งเรื่องไหลลื่นไปแนวเดียวกันมากกว่า - คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดเห็นบ้างแต่ไม่เยอะ ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ แต่ระวังเรื่องวรรณยุกต์ของคำลงท้ายนิดนึงนะคะ ตรง วะ/ว่ะ ยกตัวอย่างคำผิดนิดหน่อยนะคะ อ๊ะ >>อะ หรอ >>เหรอ (อันนี้ผิดเยอะมาก) ติ๊งต๊อง>>ติงต๊อง ห๋า >>หา เหมาะกะฉัน >>เหมาะกับฉัน (คือดูจากระดับภาษาในการบรรยาย ใช้ กับ จะเหมาะกว่า กะ ค่ะ) การใช้เครื่องหมาย ~ ยังค่อนข้างเยอะเกินไปค่ะ บางจุดละไปเลยจะดีกว่า และตัวเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เวลาใส่ไม่ต้องเว้นวรรคค่ะ เขียนติดไปเลย เช่น เฮ้ย! ไม่ใช่ เฮ้ย ! ปัญหาคำซ้ำและการหลากคำไม่ค่อยเห็นแต่มีบ้าง เช่น การใช้คำว่า ‘เล็กๆ’ เยอะเกิน(โดยเฉพาะตอนที่2)+ใช้ผิดบางจุด เช่น หรี่ตาลงเล็กๆ...ตรงนี้ใช้แค่หรี่ตาก็พอค่ะ ยิ้มเล็กๆ ส่ายหน้าเล็กๆ...ตรงนี้เปลี่ยนเป็น ‘ยิ้มน้อยๆ/ยิ้มบางๆ’ ‘ส่ายหน้าน้อยๆ’ จะเหมาะกว่าค่ะ ที่เหลือโดยรวมถือว่าโอเคแล้ว อีกจุดที่ซีรู้สึกว่าจะใช้คำผิดคือตรง ผ้าม่านโอนไหว...โอนน่าจะใช้กันต้นไม้ หรือสิ่งที่เป็นลำๆมากกว่า กับเนื้อผ้าควรใช้เป็น ‘พลิ้วไหว’ จะตรงกว่าค่ะ ความน่าติดตาม: อย่างที่บอกค่ะ ตัวโครงเรื่องดูแหวกแนวและน่าสนใจ แต่ปัญหาเรื่องพรรณนาโวหารและสำนวนภาษามันไปทอนความน่าติดตามให้ด้อยลงไปมากค่ะ ถ้าปรับให้เข้าที่มีแววว่านิยายเรื่องนี้จะไปได้ไกลเลยค่ะ สรุปคะแนน โครงเรื่อง [8/10] ตัวละคร [7/10] ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] การดำเนินเนื้อเรื่อง + มุมมองการเล่าเรื่อง [7.5/10] ความสมเหตุสมผล [7/10] บทสนทนา [8/10] ภาษาสำนวน - การบรรยาย [14.5/20] - คำผิด คำซ้ำ การใช้คำ [7/10] ความน่าติดตาม [6/10] รวม 72/100 นิยายคุณอยู่ในเกรด C   อ่านน้อยลง

    SeaShore | 7 ส.ค. 53

    • 5

    • 0

    ": ))* Nitata ! รับวิจารณ์นิยาย! [อยากเก่ง? คลิกโลด!] ส่งงานวิจารณ์เรื่อง คืนฝันวันมฤตยู"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีค่ะคุณ KoKo (เฟรชขอเรียกแค่คำว่า “koko” นะ) รู้สึกยินดีมากค่ะที่ได้วิจารณ์งานเขี่ยนของคุณ อ่านชื่อเรื่องทีแรกแล้ว เฟรชนึกถึงหนังสยองขวัญของญี่ปุ่นเลย ยังไงเฟรชก็ดูเนื้อเรื่องก่อนนะคะ ถ้าสามารถระบุได้ว่าเป็นแนวอะไรเฟรชก็จะบอกให้ค่ะ 1.ชื่อเรื่อง (10คะแนน) น่าสนใจดีค่ะ อย่างที่บอกไปว่าอ่านแล้วทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญ ฯลฯ ไมรู้คนอ ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีค่ะคุณ KoKo (เฟรชขอเรียกแค่คำว่า “koko” นะ) รู้สึกยินดีมากค่ะที่ได้วิจารณ์งานเขี่ยนของคุณ อ่านชื่อเรื่องทีแรกแล้ว เฟรชนึกถึงหนังสยองขวัญของญี่ปุ่นเลย ยังไงเฟรชก็ดูเนื้อเรื่องก่อนนะคะ ถ้าสามารถระบุได้ว่าเป็นแนวอะไรเฟรชก็จะบอกให้ค่ะ 1.ชื่อเรื่อง (10คะแนน) น่าสนใจดีค่ะ อย่างที่บอกไปว่าอ่านแล้วทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญ ฯลฯ ไมรู้คนอื่นว่าไงนะแต่เฟรชว่ามันก็เหมาะกับเนื้อเรื่องแล้วนี่นา อาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องตอนนี้ยังไม่เข้าฉากไคลแมกซ์ก็ได้ ยังไงก็ต้องรอดูต่อไปค่ะ ชื่อเรื่องเฟรชให้ 9 คะแนนค่ะ 2.ความน่าสนใจ (10คะแนน) แล้วนิยายของนพดลก็ได้ตีพิมพ์ภายใน 7 วัน ทว่าหลังจากนั้นเขาจะต้องตาย... ห้วน สั้นเกินไปค่ะ น่าจะเพิ่มการบรรยายให้มากกว่านี้จะช่วยดึงดูดความน่าสนใจมากขึ้น พูดถึงหน้าหลักนิยายบ้างนะคะ ทำได้ดีแล้วค่ะ เนื้อหาตรงหน้าหลักดูลึกลับและน่าสนใจ แต่น่าจะหาของตกแต่งบ้าง เพราะถึงเนื้อหาน่าสนใจ แต่หากมีตัวหนังสือติดกันเต็มพรืดไปหมด เกรงว่าผู้อ่านจะเบื่อเสียก่อน ความน่าสนใจเฟรชให้ 8.5 คะแนนค่ะ 3.โครงเรื่อง (10คะแนน) แปลกดีค่ะ แหวกแนวตลาดดีแต่โครงเรื่องรองของคุณเราว่ามันปลีกย่อยเกินไป เรากลัวว่าคุณจะเอามารวมกันไม่ได้ ทั้งเรื่องความตาย เรื่องสำนักพิมพ์ เรื่องความรักของนภดลและการะเกด เพราะเท่าที่อ่านมา 3เรื่องนี้มันตีกันไปหมด เรียกได้ว่าเด่นพอๆ กันเลย ดังนั้นคุณควรจะเน้นธีมหลักของเรื่องที่คุณต้องการนำเสนอ อยากเน้นเรื่องอะไร ความตาย สำนักพิมพ์ ความรัก ? ก็ใส่ไปให้เต็มที่ แต่ย้ำว่าขอให้เน้นเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น โครงเรื่องเฟรชให้ 8.5 คะแนนค่ะ 4.การบรรยาย (10คะแนน) เท่าที่ได้วิจารณ์นิยายมา เฟรชจะพบว่าทุกคนจะทำได้ดีในส่วนการบรรยายภายในจิตใจตัวละคร ทุกคนใส่ใจตรงนี้มาก จนลืมบรรยายสภาพแวดล้อมภายในไป ไม่ว่าตัวละครจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไรอยู่ คุณควรใส่การบรรยายสถานที่ สภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศบริเวณนั้นลงไปด้วยจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกอินไปกับนิยายคุณมากขึ้น ทั้งนี้เฟรชต้องขอชมว่าการบรรยายภายในจิตใจตัวละครคุณทำได้ดีแล้วค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มตาม การบรรยายเฟรชให้ 8.5คะแนนค่ะ 5.การดำเนินเรื่องและการใช้ภาษา (10คะแนน) การดำเนินเรื่องเหมือนไม่ค่อยปะติปะต่อกันนัก บางทีอ่านแล้วต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ว่าทำไมตัวละครถึงมาตรงนี้ได้ ฯลฯ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนฉาก อย่าเพิ่งรีบร้อนเปลี่ยน ค่อยๆ หาบทบรรยายเสริมไป เกลี่ยๆ ฉากให้เปลี่ยนไปอย่างสวยงาม พูดถึงการใช้ภาษา อืม... คุณใช้ระดับภาษาไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไร คือส่วนหนึ่งคุณก็ใช้คำที่ดูโบราณอย่าง หนอ กระมัง ฯลฯ แต่ส่วนหนึ่งคุณก็ใช้ภาษาวัยรุ่น อย่าง ทำอะไรอ๊ะ , หรอ , อิอิ ฯลฯ อ่านแล้วมันขัดกันน่ะค่ะ โดยส่วนตัวแนะนำให้เลือกใช้ระดับภาษาแบบกลางๆ คือไม่วัยรุ่นจ๋ามากแต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำโบราณ การดำเนินเรื่องและการใช้ภาษาเฟรชให้ 8 ค่ะ 6.ตัวละคร (10คะแนน) แปลกดีค่ะ ส่วนมากพระเอกนิยายหรือตัวเอกฝ่ายชายจะเป็นหนุ่มหน้าตี๋อินเทรนด์ที่ไม่เถื่อนก็ดูเป็นคุณหนูจ๋าไปเลย แต่นิยายคุณไม่ใช่ นิยายคุณนี้พระเอกมาแนวพ่อหนุ่มนักติสท์เลย นี่ไม่ใช่ข้อเสียค่ะแต่เป็นข้อดี ขอนับถือในความแหวกแนวของคุณจริงๆ ค่ะ ส่วนนางเอกก็ดูแก่นๆ เซี้ยวๆ ดี ไม่ได้เป็นคุณหนูวี้ดว้ายจอมวีน ชอบค่ะ แต่นิสัยทั้งสองนี้ เฟรชยังไม่จับจุดไม่ค่อยได้เลย น่าจะเพิ่มคาแร็คเตอร์ให้เด่นชัดและมั่นคงกว่านี้ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็ยังไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไรค่ะ โผล่มาแผลบเดียวก็หายไป อย่าลืมนะคะว่าเมื่อไรที่คุณสร้างตัวละครในนิยายมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวเด่นหรือไม่เด่น คุณควรจะกำหนดบทสรุปเขามาด้วย อย่าให้หายแวบไปเฉยๆ เพราะถ้าโผล่มาอีกที ผู้อ่านจะลืม ใจจริงชอบคุณปู่ค่ะดูลึกลับดี ตัวละครเฟรชให้ 8.5 ค่ะ 7.ความสมจริง (5คะแนน) ดีแล้วค่ะ สมเหตุสมผลดีแล้วค่ะ อาจจะมีจุดติงเล็กๆ น้อยๆ ของการะเกดกับนภดลบ้าง (ในช่วงต้นๆ น่ะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกแปร่งๆ เล็กน้อย) ความสมจริงเฟรชให้ 4.5 ค่ะ 8.อื่นๆ (คำผิด คำตกหล่น ภาษาวิบัติ) (5คะแนน) ***แทรก**** “หรอ” ถือเป็นภาษาวิบัติค่ะ ที่ถูกคือ “เหรอและหรือ” เท่านั้น รบกวนแก้ไขด้วยนะคะ ผู้เขียนควรดูเรื่องการใช้วรรณยุกต์ด้วย คำว่า “ย่ะ/ยะ” “ว่ะ/วะ” “น่ะ/นะ” ถึงจะเขียน คล้ายกัน แต่ใช้ต่างกัน อย่างคำว่า “อะไรว่ะนพ~?...” ควรจะเปลี่ยนเป็น “อะไรวะนพ” มากกว่านะคะ ทั้งนี้ต้องดูบริบทรอบข้างด้วยว่าควรจะใช้คำไหน บทที่ 1 >> ผลุดผลัด - ผลุนผลัน แปรปรวณ - แปรปรวน บทที่ 2 >> ริมปีปาก – ริมฝีปาก บทที่ 3 >> เปิกตา – เบิกตา ห๋า – หา (ไม่ต้องเติมไม้จัตวาค่ะ) พะวัง - ภวังค์ พฤษพาคม – พฤษภาคม บทที่ 5 >> ขมวก-ฉมวก บทที่ 6 >> ขอติงเรื่องขนาดตัวหนังสือว่าตัวเล็กมาก น่าจะเพิ่มให้เป็นขนาด 16 คะแนนตรงนี้เฟรชให้ 3 ค่ะ **ตอบ** เท่าที่อ่านมานิยายคุณน่าจะอยู่ในหมวด “ระทึกขวัญ” ค่ะ ***เพิ่มเติม*** สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ : D เป็นกำลังใจให้พัฒนางานเขียนต่อไป ไฟทติ้ง!! รวมคะแนน 58.5 / 70 ดีแล้วค่ะ เกรด A- อย่าลืมมาเซ็นรับด้วยนะคะ ที่ http://writer.dek-d.com/rakchan/writer/viewlongc.php?id=637094&chapter=2 ลงนาม...เฟรช : ))*   อ่านน้อยลง

    สายลมพาฝัน / เขียนดาว | 13 ส.ค. 53

    • 4

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    ": ))* Nitata ! รับวิจารณ์นิยาย! [อยากเก่ง? คลิกโลด!] ส่งงานวิจารณ์เรื่อง คืนฝันวันมฤตยู"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีค่ะคุณ KoKo (เฟรชขอเรียกแค่คำว่า “koko” นะ) รู้สึกยินดีมากค่ะที่ได้วิจารณ์งานเขี่ยนของคุณ อ่านชื่อเรื่องทีแรกแล้ว เฟรชนึกถึงหนังสยองขวัญของญี่ปุ่นเลย ยังไงเฟรชก็ดูเนื้อเรื่องก่อนนะคะ ถ้าสามารถระบุได้ว่าเป็นแนวอะไรเฟรชก็จะบอกให้ค่ะ 1.ชื่อเรื่อง (10คะแนน) น่าสนใจดีค่ะ อย่างที่บอกไปว่าอ่านแล้วทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญ ฯลฯ ไมรู้คนอ ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีค่ะคุณ KoKo (เฟรชขอเรียกแค่คำว่า “koko” นะ) รู้สึกยินดีมากค่ะที่ได้วิจารณ์งานเขี่ยนของคุณ อ่านชื่อเรื่องทีแรกแล้ว เฟรชนึกถึงหนังสยองขวัญของญี่ปุ่นเลย ยังไงเฟรชก็ดูเนื้อเรื่องก่อนนะคะ ถ้าสามารถระบุได้ว่าเป็นแนวอะไรเฟรชก็จะบอกให้ค่ะ 1.ชื่อเรื่อง (10คะแนน) น่าสนใจดีค่ะ อย่างที่บอกไปว่าอ่านแล้วทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญ ฯลฯ ไมรู้คนอื่นว่าไงนะแต่เฟรชว่ามันก็เหมาะกับเนื้อเรื่องแล้วนี่นา อาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องตอนนี้ยังไม่เข้าฉากไคลแมกซ์ก็ได้ ยังไงก็ต้องรอดูต่อไปค่ะ ชื่อเรื่องเฟรชให้ 9 คะแนนค่ะ 2.ความน่าสนใจ (10คะแนน) แล้วนิยายของนพดลก็ได้ตีพิมพ์ภายใน 7 วัน ทว่าหลังจากนั้นเขาจะต้องตาย... ห้วน สั้นเกินไปค่ะ น่าจะเพิ่มการบรรยายให้มากกว่านี้จะช่วยดึงดูดความน่าสนใจมากขึ้น พูดถึงหน้าหลักนิยายบ้างนะคะ ทำได้ดีแล้วค่ะ เนื้อหาตรงหน้าหลักดูลึกลับและน่าสนใจ แต่น่าจะหาของตกแต่งบ้าง เพราะถึงเนื้อหาน่าสนใจ แต่หากมีตัวหนังสือติดกันเต็มพรืดไปหมด เกรงว่าผู้อ่านจะเบื่อเสียก่อน ความน่าสนใจเฟรชให้ 8.5 คะแนนค่ะ 3.โครงเรื่อง (10คะแนน) แปลกดีค่ะ แหวกแนวตลาดดีแต่โครงเรื่องรองของคุณเราว่ามันปลีกย่อยเกินไป เรากลัวว่าคุณจะเอามารวมกันไม่ได้ ทั้งเรื่องความตาย เรื่องสำนักพิมพ์ เรื่องความรักของนภดลและการะเกด เพราะเท่าที่อ่านมา 3เรื่องนี้มันตีกันไปหมด เรียกได้ว่าเด่นพอๆ กันเลย ดังนั้นคุณควรจะเน้นธีมหลักของเรื่องที่คุณต้องการนำเสนอ อยากเน้นเรื่องอะไร ความตาย สำนักพิมพ์ ความรัก ? ก็ใส่ไปให้เต็มที่ แต่ย้ำว่าขอให้เน้นเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น โครงเรื่องเฟรชให้ 8.5 คะแนนค่ะ 4.การบรรยาย (10คะแนน) เท่าที่ได้วิจารณ์นิยายมา เฟรชจะพบว่าทุกคนจะทำได้ดีในส่วนการบรรยายภายในจิตใจตัวละคร ทุกคนใส่ใจตรงนี้มาก จนลืมบรรยายสภาพแวดล้อมภายในไป ไม่ว่าตัวละครจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไรอยู่ คุณควรใส่การบรรยายสถานที่ สภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศบริเวณนั้นลงไปด้วยจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกอินไปกับนิยายคุณมากขึ้น ทั้งนี้เฟรชต้องขอชมว่าการบรรยายภายในจิตใจตัวละครคุณทำได้ดีแล้วค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มตาม การบรรยายเฟรชให้ 8.5คะแนนค่ะ 5.การดำเนินเรื่องและการใช้ภาษา (10คะแนน) การดำเนินเรื่องเหมือนไม่ค่อยปะติปะต่อกันนัก บางทีอ่านแล้วต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ว่าทำไมตัวละครถึงมาตรงนี้ได้ ฯลฯ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนฉาก อย่าเพิ่งรีบร้อนเปลี่ยน ค่อยๆ หาบทบรรยายเสริมไป เกลี่ยๆ ฉากให้เปลี่ยนไปอย่างสวยงาม พูดถึงการใช้ภาษา อืม... คุณใช้ระดับภาษาไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไร คือส่วนหนึ่งคุณก็ใช้คำที่ดูโบราณอย่าง หนอ กระมัง ฯลฯ แต่ส่วนหนึ่งคุณก็ใช้ภาษาวัยรุ่น อย่าง ทำอะไรอ๊ะ , หรอ , อิอิ ฯลฯ อ่านแล้วมันขัดกันน่ะค่ะ โดยส่วนตัวแนะนำให้เลือกใช้ระดับภาษาแบบกลางๆ คือไม่วัยรุ่นจ๋ามากแต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำโบราณ การดำเนินเรื่องและการใช้ภาษาเฟรชให้ 8 ค่ะ 6.ตัวละคร (10คะแนน) แปลกดีค่ะ ส่วนมากพระเอกนิยายหรือตัวเอกฝ่ายชายจะเป็นหนุ่มหน้าตี๋อินเทรนด์ที่ไม่เถื่อนก็ดูเป็นคุณหนูจ๋าไปเลย แต่นิยายคุณไม่ใช่ นิยายคุณนี้พระเอกมาแนวพ่อหนุ่มนักติสท์เลย นี่ไม่ใช่ข้อเสียค่ะแต่เป็นข้อดี ขอนับถือในความแหวกแนวของคุณจริงๆ ค่ะ ส่วนนางเอกก็ดูแก่นๆ เซี้ยวๆ ดี ไม่ได้เป็นคุณหนูวี้ดว้ายจอมวีน ชอบค่ะ แต่นิสัยทั้งสองนี้ เฟรชยังไม่จับจุดไม่ค่อยได้เลย น่าจะเพิ่มคาแร็คเตอร์ให้เด่นชัดและมั่นคงกว่านี้ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็ยังไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไรค่ะ โผล่มาแผลบเดียวก็หายไป อย่าลืมนะคะว่าเมื่อไรที่คุณสร้างตัวละครในนิยายมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวเด่นหรือไม่เด่น คุณควรจะกำหนดบทสรุปเขามาด้วย อย่าให้หายแวบไปเฉยๆ เพราะถ้าโผล่มาอีกที ผู้อ่านจะลืม ใจจริงชอบคุณปู่ค่ะดูลึกลับดี ตัวละครเฟรชให้ 8.5 ค่ะ 7.ความสมจริง (5คะแนน) ดีแล้วค่ะ สมเหตุสมผลดีแล้วค่ะ อาจจะมีจุดติงเล็กๆ น้อยๆ ของการะเกดกับนภดลบ้าง (ในช่วงต้นๆ น่ะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกแปร่งๆ เล็กน้อย) ความสมจริงเฟรชให้ 4.5 ค่ะ 8.อื่นๆ (คำผิด คำตกหล่น ภาษาวิบัติ) (5คะแนน) ***แทรก**** “หรอ” ถือเป็นภาษาวิบัติค่ะ ที่ถูกคือ “เหรอและหรือ” เท่านั้น รบกวนแก้ไขด้วยนะคะ ผู้เขียนควรดูเรื่องการใช้วรรณยุกต์ด้วย คำว่า “ย่ะ/ยะ” “ว่ะ/วะ” “น่ะ/นะ” ถึงจะเขียน คล้ายกัน แต่ใช้ต่างกัน อย่างคำว่า “อะไรว่ะนพ~?...” ควรจะเปลี่ยนเป็น “อะไรวะนพ” มากกว่านะคะ ทั้งนี้ต้องดูบริบทรอบข้างด้วยว่าควรจะใช้คำไหน บทที่ 1 >> ผลุดผลัด - ผลุนผลัน แปรปรวณ - แปรปรวน บทที่ 2 >> ริมปีปาก – ริมฝีปาก บทที่ 3 >> เปิกตา – เบิกตา ห๋า – หา (ไม่ต้องเติมไม้จัตวาค่ะ) พะวัง - ภวังค์ พฤษพาคม – พฤษภาคม บทที่ 5 >> ขมวก-ฉมวก บทที่ 6 >> ขอติงเรื่องขนาดตัวหนังสือว่าตัวเล็กมาก น่าจะเพิ่มให้เป็นขนาด 16 คะแนนตรงนี้เฟรชให้ 3 ค่ะ **ตอบ** เท่าที่อ่านมานิยายคุณน่าจะอยู่ในหมวด “ระทึกขวัญ” ค่ะ ***เพิ่มเติม*** สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ : D เป็นกำลังใจให้พัฒนางานเขียนต่อไป ไฟทติ้ง!! รวมคะแนน 58.5 / 70 ดีแล้วค่ะ เกรด A- อย่าลืมมาเซ็นรับด้วยนะคะ ที่ http://writer.dek-d.com/rakchan/writer/viewlongc.php?id=637094&chapter=2 ลงนาม...เฟรช : ))*   อ่านน้อยลง

    สายลมพาฝัน / เขียนดาว | 13 ส.ค. 53

    • 4

    • 0

    "วิจารณ์นิยายโดยForeverค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    สวัสดีค่ะ 'ซีชอร์' นักวิจารณ์จากForeverค่ะ อ่านจบแล้วอย่าลืมไปเซ็นต์รับที่บริษัทด้วยนะคะ ชื่อนิยาย: คืนฝันวันมฤตยู ก่อนอื่นตามธรรมเนียม...การวิจารณ์ของซีเป็นการใช้ความเห็นส่วนบุคคล คนอื่นรวมถึงผู้เขียนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้นะคะ บางจุดซีอาจจะมีพูดตรงๆแรงๆไปบ้าง ซีไม่มีเจตนาจะยั่วโมโหหรือทำให้ท่านรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด แต่หากทำให้ไม่ ... อ่านเพิ่มเติม

    สวัสดีค่ะ 'ซีชอร์' นักวิจารณ์จากForeverค่ะ อ่านจบแล้วอย่าลืมไปเซ็นต์รับที่บริษัทด้วยนะคะ ชื่อนิยาย: คืนฝันวันมฤตยู ก่อนอื่นตามธรรมเนียม...การวิจารณ์ของซีเป็นการใช้ความเห็นส่วนบุคคล คนอื่นรวมถึงผู้เขียนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้นะคะ บางจุดซีอาจจะมีพูดตรงๆแรงๆไปบ้าง ซีไม่มีเจตนาจะยั่วโมโหหรือทำให้ท่านรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด แต่หากทำให้ไม่พอใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เอาล่ะ เรามาเริ่มวิจารณ์ในแต่ละหัวข้อกันเถอะ! โครง เรื่อง: โครงเรื่องเกี่ยวเนื่องกับยมทูตในเมืองไทย มีนายทวาร มีความเชื่อเรื่องวิญญาณจะกลับมาเยี่ยมญาติวันที่3หลังเสียชีวิต ตัวเอกเป็นนักเขียนนิยาย ข้อมูลอิงกับวงการสื่อสิ่งพิมพ์แบบเจาะลึกอยู่ เป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างแหวกแนวจากในท้องตลาดดี ปัญหาที่ซีกังวลคือ...เมื่อดูจากบทนำนิยาย ‘แล้วนิยายของนพดลก็ได้ตีพิมพ์ภายใน 7 วัน ทว่าหลังจากนั้นเขาจะต้องตาย...’ หลังจากนี้ จุดบรรจบระหว่าง 2 จุดนี้มันจะมายังไง เพราะเท่าที่อ่านจนถึงตอนที่6 ซียังหาความเกี่ยวเนื่องระหว่างเรื่องนิยายกับยมทูตไม่เจอ นอกจากความที่มันลิงค์กับพระเอก อาจเป็นเพราะเนื้อหาเพิ่งเริ่มต้น เลยยังมองภาพรวมได้ไม่เด่นชัดมาก แค่ซีกลัวว่ามันจะกลายเป็นนิยายย่อย 2 เรื่องในเรื่องเดียว คือส่วนนึงพูดถึงปัญหาวงการนิยาย และอีกส่วนนึงพูดถึงยมโลก...ตอนนี้ซีคงยังวิจารณ์ตรงจุดนี้ได้ไม่มาก คงต้องดูกันต่อไปซักพักแหละเนอะ ^^” ตัว ละคร: เรื่องลักษณะคาแรคเตอร์ถือว่าฉีกกรอบสไตล์พระเอกไทยมาก เรื่องนี้มาแบบ พระเอกผมยาว ไว้เครา แต่งตัวเซอร์ๆ และชอบเขียนนิยาย ส่วนนางเอกก็มาซะผมสั้น ฉีกลุคตลาดทั่วไปที่ต้องไว้ผมยาวเพื่อความเป็นเลดี้ พระ-นางไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ดูแล้วรู้ว่ารู้จักทำมาหากินและเรียนหนังสือ ส่วนคุณๆฝั่งยมโลกก็ไม่ใช่พวกหน้าตาดีเด่นอะไร พูดง่ายๆคือออกแบบคาแรคเตอร์ได้เจ๋งมาก ซีชอบตรงจุดนี้ค่ะ ปัญหาคือซีไปหักคะแนนเยอะจากมิติตัวละคร...คือซีอ่านแล้วยังสับสนอยู่ ตัวละครบทนึงก็ดูห้าวๆ นักเลงๆ แต่มาอีกบทก็คิดมาก อ่อนไหวไปซะหมด สรุปแล้วจะมาแนวไหนกันแน่?? คือเหมือนว่าบุคลิกมันยังไม่คงที่ อ่านแล้วเหมือนเป็นสองคนในร่างเดียวค่ะ ทั้งฝั่งนพดลและก้อยการะเกดเลย (สังเกตวิธีพูดจาจากบทแรกแล้วเทียบกับบทถัดๆมามันเหมือนคนละแนวน่ะค่ะ) ส่วนด้านคุณปู่...อ่านแล้วยังมองนิสัยของตัวละครนี้ไม่ค่อยออกค่ะ นอกจากรู้สึกว่าเค้าจะค่อนข้างพูดจาอิงหลักปรัชญามาก ส่วนตัวละครที่สำนักพิมพ์ แบนมาก แบบว่า...โผล่มาแว่บเดียวแล้วก็หายยาว...อ่านถึงตอนที่6ลืมไปแล้วว่า 2 สาวนั่นชื่ออะไร ส่วนนิสัยก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันค่ะ = =” ฉาก สถานที่ เวลา: ฉากเหมือนจะโดดไปโดดมา เหมือนที่ซีจะบอกในส่วนต่อไปว่าซีรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้ไปเน้นบรรยายอารมณ์มากกว่าทิวทัศน์หรือสถานที่ ทำให้บางครั้งก็อ่านแล้วงงๆ จินตนาการไม่ค่อยออกเท่าที่ควรว่าเหตุเกิดที่ไหน เวลาไหน การบรรยายมักจะดึงอารมณ์ตัวละคร การกระทำตัวละครก่อน แล้วค่อยพูดตามมาว่าเกิดที่ไหน ยังไง นานๆทีก็โอเค แต่พอถี่ๆเข้ามันทำให้สับสนเวลาอ่านน่ะค่ะ คืองงไปก่อนแล้วค่อยมารู้ทีหลังว่าฉากเป็นยังไง ซีแนะนำว่าอยากให้เพิ่มการบรรยาย ‘ภาพ’สถานที่ให้มากขึ้นตอนต้นที่เริ่มเปลี่ยนฉาก เพื่อให้เกิดสมดุลกับพรรณนาโวหารค่ะ การดำเนินเนื้อเรื่อง + มุมมองการเล่าเรื่อง: มุมมองการเล่าเรื่องชัดเจนดีค่ะว่าตัวไหนเป็นคนเล่าเรื่อง นักอ่านเห็นมุมมองผ่านใคร อ่านแล้วไม่สับสน แต่การดำเนินเรื่องซีว่ามันเรียบและเอื่อยไปซักนิด ซีไม่ค่อยรู้สึกสะดุดหรือตื่นเต้นไปพร้อมตัวละครเท่าไหร่ค่ะ พูดง่ายๆคือไม่ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ ชีวิตและความสัมพันธ์ของ 3 ตัวละครหลักไหลลื่นอยู่ แต่บทที่พูดถึงยมโลกกับสำนักพิมพ์ค่อนข้างกระโดดเข้า-ออกไปซักหน่อย ความสมเหตุสมผล: โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะคะ แต่มีสะกิดใจตรงจุดเล็กจุดน้อยมากกว่า จุดแรกคือในตอนแรกที่พระเอกไปปลุกนางเอกเข้า แล้วมาน้อยใจ คือทั้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ซีคิดว่านพควรจะรู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอว่าก้อยการะเกดเกลียดการถูกกวนเวลานอน ทำไมบทบรรยายถึงบอกว่าถ้าสังเกตสักนิด...มันเหมือนไม่เคยรู้มาก่อน? แต่ว่าบทหลังๆก็บรรยายเหมือนนพก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรไปกวนคุณเธอเวลานอนนี่นา? อีกจุดคือตรงที่พระเอกไปตื่นที่โรงพยาบาลแล้วรู้สึกปวดไปทั่วร่าง...ทำไมพระเอกไม่เอะใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายตัวเอง? เพราะถ้าแค่เป็นลมไปจริงๆอาการไม่ควรจะมากถึงขนาดนี้ แถมมีผ้าก๊อซเต็มตัวเลยนี่คะ? บท สนทนา: บทสนทนามันต่อเนื่องกันดีค่ะ แต่ปัญหาคือภาษา+ลักษณะการพูดระหว่างตัวละครมันมีช่องว่างต่างกันมาก ทำให้รู้สึกอ่านไปขมวดคิ้วไป -*- ภาษา สำนวน - การบรรยาย: เริ่มที่แนะนำเรื่องนะคะ...บทแนะนำเรื่องสั้นมาก และไม่ดึงดูดเท่าที่ควร คือแต่งเสร็จแล้วตาย ทำไมถึงตาย? ตรงนี้นิยายดำเนินเรื่องไปเอื่อยมาก คืออ่านไปแล้วจนถึงตอนที่6 ยังไม่รู้เลยว่าจะตายเพราะอะไร นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ๆของเรื่องนี้ยังมีอีก 2 จุดค่ะ 1.พรรณนาโวหารเยิ่นเย้อเกินไป 2.สำนวนภาษาผสมปนเปจนอ่านแล้วเครียด 1. ::พรรณาโวหาร:: ปัญหาของเรื่องนี้คือการบรรยายฉาก สถาการณ์ หรือสถานที่ค่อนข้างน้อยมาก จนบางครั้งอ่านแล้วไม่เห็นภาพชัดเจน ส่วนใหญ่ไปเน้นที่การพรรณนาความรู้สึกของตัวละครซะมากกว่า ถ้ามีแต่พอดีจะทำให้คนอ่านดื่มด่ำกับตัวละครได้มาก แต่ซีรู้สึกว่าสำหรับเรื่องนี้ ขอโทษที่ต้องพูดแรงนิดหน่อยนะคะ...การพรรณนาอารมณ์ โดยเฉพาะของตัวความคิดของนพดล มันมากเกินไป...จากความสะเทือนอารมณ์มันเลยกลายเป็นเพ้อค่ะ อ่านแล้วเกิดอาการหงุดหงิดว่าผู้ชายอะไรมันจะเพ้อ จะฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ คนเขียนเล่าอารมณ์ทุกกระเบียดนิ้ว ซ้ำว่าวิตกอย่างนั้น เปรียบกับอย่างนี้ มันเลยคล้ายกับทั้งบรรทัดมันย่ำต๊อกอยู่กับที่ แทนที่จะทำให้เราดื่มด่ำ อินไปกับตัวละคร มันกลายเป็นอ่านแล้วเหนื่อยใจค่ะ ขอแนะนำนิดนึงตรงนี้นะคะ แนะนำว่าทอนพรรณนาโวหารให้กระชับขึ้น แล้วไปเน้นบรรยายโวหารแทนจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับนิยายได้มากกว่าค่ะ 2. ::สำนวนภาษา:: การบรรยายเน้นภาษาออกไปทางแนววรรณกรรมสมัยเก่า สังเกตจากคำว่า กระมัง ไฉน โถ่ หนอ แต่การพูดจาของนภดลกับก้อยการะเกดมันออกไปทางวัยรุ่น...คือถ้าวัยรุ่นหน่อยๆมันยังพอกลืนกันได้ แต่คนเขียนแต่งให้ 2 คนนี้พูดกันด้วยภาษาที่ ‘แอ๊บแบ๊ว’มาก เช่น หรอ อิอิ เป็นบ้าอะไรอ๊ะ...ตัวอย่างเช่นคำหลัง ถ้าเป็น ‘เป็นบ้าอะไรน่ะ’ มันจะดูภาษาไปทางเดียวกันกับบทบรรยายมากกว่าน่ะค่ะ ยังไม่พอการใช้คำพูดของคุณปู่ยังทำให้ซีงงมาก คือ...ซีรู้สึกว่าอายุคุณปู่ต่อให้แก่ยังไงยุคสมัยก็ไม่น่าจะเกิน 100ปีก่อน ภาษาที่ใช้ไม่น่าจะเป็น เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย หรือแทนตัวด้วยเรา อะไรแบบนี้...คืออ่านแล้วรู้สึกว่าภาษามันสะดุดน่ะค่ะ แถมบางจุดภาษาคุณปู่ก็วัยรุ่นมาก เช่น ‘ดูซิ๊’ ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักแล้ว คนเฒ่าคนแก่จะใช้เป็น ‘ดูสิ’ และเวลาพูดแทนตัวกับหลานมักจะแทนตัวด้วย ‘ปู่’ ไปเลยมากกว่านะคะ ยังไม่รวมภาษาที่นายทวารใช้อีก...ใส่สูทแต่ภาษาเหมือนหลุดมาจากอยุธยาคือมันไปคนละทางมากๆ ชนิดที่ไม่ใช่แค่ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยเลยน่ะค่ะ สรุปนะคะ นิยายเรื่องนี้สำนวนภาษาเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด มันหลากหลายและต่างกันจนอ่านแล้วไม่สนุกทั้งๆที่พล็อตเรื่องน่าสนใจค่ะ ซีคิดว่านิยายเรื่องนี้ เป้าหมายน่าจะจับอยู่กลุ่มวัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงผู้ใหญ่หน่อย และเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายย้อนยุค ดังนั้นภาษาที่ใช้บรรยายแนะนำให้ปรับให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อยนึงจะดีกว่าค่ะ แต่การใช้ภาษาสนทนาของตัวเอกทั้งสองที่แบ๊วเกินแนะนำให้ปรับให้เป็นทางการขึ้นอีกนิดจะทำให้สำนวนของทั้งเรื่องไหลลื่นไปแนวเดียวกันมากกว่า - คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดเห็นบ้างแต่ไม่เยอะ ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ แต่ระวังเรื่องวรรณยุกต์ของคำลงท้ายนิดนึงนะคะ ตรง วะ/ว่ะ ยกตัวอย่างคำผิดนิดหน่อยนะคะ อ๊ะ >>อะ หรอ >>เหรอ (อันนี้ผิดเยอะมาก) ติ๊งต๊อง>>ติงต๊อง ห๋า >>หา เหมาะกะฉัน >>เหมาะกับฉัน (คือดูจากระดับภาษาในการบรรยาย ใช้ กับ จะเหมาะกว่า กะ ค่ะ) การใช้เครื่องหมาย ~ ยังค่อนข้างเยอะเกินไปค่ะ บางจุดละไปเลยจะดีกว่า และตัวเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เวลาใส่ไม่ต้องเว้นวรรคค่ะ เขียนติดไปเลย เช่น เฮ้ย! ไม่ใช่ เฮ้ย ! ปัญหาคำซ้ำและการหลากคำไม่ค่อยเห็นแต่มีบ้าง เช่น การใช้คำว่า ‘เล็กๆ’ เยอะเกิน(โดยเฉพาะตอนที่2)+ใช้ผิดบางจุด เช่น หรี่ตาลงเล็กๆ...ตรงนี้ใช้แค่หรี่ตาก็พอค่ะ ยิ้มเล็กๆ ส่ายหน้าเล็กๆ...ตรงนี้เปลี่ยนเป็น ‘ยิ้มน้อยๆ/ยิ้มบางๆ’ ‘ส่ายหน้าน้อยๆ’ จะเหมาะกว่าค่ะ ที่เหลือโดยรวมถือว่าโอเคแล้ว อีกจุดที่ซีรู้สึกว่าจะใช้คำผิดคือตรง ผ้าม่านโอนไหว...โอนน่าจะใช้กันต้นไม้ หรือสิ่งที่เป็นลำๆมากกว่า กับเนื้อผ้าควรใช้เป็น ‘พลิ้วไหว’ จะตรงกว่าค่ะ ความน่าติดตาม: อย่างที่บอกค่ะ ตัวโครงเรื่องดูแหวกแนวและน่าสนใจ แต่ปัญหาเรื่องพรรณนาโวหารและสำนวนภาษามันไปทอนความน่าติดตามให้ด้อยลงไปมากค่ะ ถ้าปรับให้เข้าที่มีแววว่านิยายเรื่องนี้จะไปได้ไกลเลยค่ะ สรุปคะแนน โครงเรื่อง [8/10] ตัวละคร [7/10] ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] การดำเนินเนื้อเรื่อง + มุมมองการเล่าเรื่อง [7.5/10] ความสมเหตุสมผล [7/10] บทสนทนา [8/10] ภาษาสำนวน - การบรรยาย [14.5/20] - คำผิด คำซ้ำ การใช้คำ [7/10] ความน่าติดตาม [6/10] รวม 72/100 นิยายคุณอยู่ในเกรด C   อ่านน้อยลง

    SeaShore | 7 ส.ค. 53

    • 5

    • 0

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น