ฟิคบารามอส : การประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก (ฟิคฉลองสงกรานต์จ้า)
ช่วงเวลา : ไม่รู้ (รู้แต่ยังเรียนไม่จบแน่ๆ 55+)
คำบรรยาย : เอดินเบิร์กจัดงานประกวดนาง(นาย)สงกรานต์ขึ้น โดยให้บรรดาหนุ่มๆ แต่งตัวเป็นสตรีขึ้นประกวด งานนี้โรเวนทุ่มสุดตัว ส่งหนุ่มหน้ามนแห่งป้อมอัศวินขึ้นเวทีเพียบ หวังคว้าทุกรางวัลกลับสู่ป้อมอัศวิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเหล่าคณะกรรมการผู้ชมทั้งหลายที่จะโพ สต์ให้คะแนนเหล่าผู้ประกวดกันแล้ว
**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 1)
การประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก ครั้งที่ 1
เนื่องด้วยเทศกาลสงกรานต์เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง โรงเรียนพระราชาจึงขอร่วมรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามนี้ไว้ โดยจัดการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กขึ้น
ในการนี้ จึงให้ป้อมทั้งสี่ของโรงเรียนจัดส่งบุคคลที่มีความสามารถและเพรียบพร้อม ขึ้นประชันความงามกันในวันที่ 13 เมษายน นี้
อนึ่ง ด้วยนักศึกษาสาวในโรงเรียนพระราชามีจำนวนน้อย และเพื่อความสนุกครึกครื้นของเทศกาล จึงเหล่าอัศวินหนุ่มแห่งเอดินเบิร์ก แต่งกายด้วยชุดไทยสไบเฉียงที่ทางโรงเรียนได้จัดไว้ให้ขึ้นประชันความงามบน เวที
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
ปล. สนับสนุนรายการโดย จ้าวปีศาจแห่งเดมอส และไฮคิงแห่งบารามอส
**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 2)
การคัดเลือกนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก
เนื่องด้วยมีผู้สมัครเข้ารับการประกวดเป็นจำนวนมาก ทางคณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก (ซึ่งประกอบด้วยมหาปราชญ์เลโมธีเป็นประธานและมีเหล่าคณาจารย์เป็นกรรมการ) จึงขอคัดเลือกผู้สมัครในขั้นต้นให้เหลือเพียง 20 คน เพื่อขึ้นเวทีประกวดในวันที่ 13 เมษายน นี้ก่อนขั้นหนึ่ง
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 3)
การให้คะแนนนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก
สืบเนื่องจากการประชุมของคณะผู้จัดงานและตัวแทนป้อมทั้งสี่แห่งโรงเรียนพระ ราชา สรุปผลการให้คะแนนการคัดเลือกนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก ด้วยวิธีประชามติ
โดยให้เหล่าผู้เข้าร่วมชมงานประกวดโพสต์ให้คะแนนนาง(นาย)สงกรานต์อันดับ 1 ถึง 3 ดังนี้
นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก ให้ 3 คะแนน
รองอันดับ 1 ให้ 2 คะแนน
รองอันดับ 2 ให้ 1 คะแนน
ทั้งนี้จะประกาศผลนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กภายในเดือน เมษายน โดยรวบรวมคะแนนจากผู้เช้าชมงานประกวดจาก 50 ท่านแรก
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 4)
รายชื่อผู้เข้ารอบการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก 20 คน
1. อาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น
2. โรม โอดิซซี่
3. โรเวน ฮาเวิร์ด
4. ชีวาส เดเบส
5. ลูคัส ซาโดเรีย
6. ลอเรนซ์ ดอร์น
7. เซอร์ เทวิส ฟิลิปปี้
8. ไธนอส ทิลดอล
9. คาโล วาเนบลี
10. โร เซวาเรส
11. คิล ฟิลมัส
12. ซีบิล สเวน
13. กัส โทนีย่า
14. ครี๊ด ธันเดอร์
15. นิกส์ พรินส์วิล
16. อาชูร่า เอพริล
17. เอ็ดเวิร์ด ลอเลนโซ่
18. ทิวดอร์ ซานคีเยฟ
19. เจค สวอน
20. เดท ไฟเออร์
เปิดให้ผู้เข้าร่วมชมงานประกวดโพสต์ให้คะแนนนาง(นาย)สงกรานต์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 5)
การให้คะแนนนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก (ครั้งที่ 2)
สืบเนื่องจากประกาศฉบับที่ 3 ที่สรุปการให้คะแนนโดยวิธีประชามติ และให้รวบรวมคะแนนจากผู้เข้าชมงานประกวด 50 ท่านแรก และจากตัวเลขผู้เข้าชมงานประกวดที่เกินคาดคะเน ทางคณะผู้จัดงานจึงขอเปลี่ยนแปลงการรวบรวมคะแนน โดยขอรวบรวมจากผู้เข้าชมงานประกาศ จำนวน 100 ท่าน หรือภายในเดือนเมษายนเท่านั้น โดยคณะผู้จัดงานจะทำการอัพเดทคะแนนรวมให้ทราบเป็นระยะ และจะประกาศผลคะแนนและมอบรางวัลให้แก่นาย(นาง)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในเดือนถัดไป
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
**********************************************************
หลังเวทีประกวด (1) == กรณี เฟริน x คาโล และแล้ว วันมหาสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายนก็ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง เฟรินที่ระริกระรี้กับการจัดงานประกวดครั้งนี้อย่างออกหน้าออกตาก็กำลัง เฝ้ารอยลโฉมเจ้าชายน้ำแข็งในชุดสไบเฉียงที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่ห้องเสื้อ จับแต่งตัวอย่างใจจดจ่อ อาจเป็นเพราะไม่ต้องสวมชุดที่ชวนให้ขยาดนั่นด้วยตนเอง(แต่ชอบดูชาวบ้านใส่) จึงมีความสุขและลุ้นหนักหนาว่าสภาพของเดอะไอซ์ปริ๊นซ์จะออกมาเป็นเช่นไร
ในใจสาวหวนนึกถึงเหตุการณ์ช่วงก่อนหน้านี้ในห้องพักของป้อมอัศวิน ที่เจ้าหล่อนต้องกล่อมชายหนุ่มน้ำแข็งอยู่นานสองนานกว่าเจ้าตัวจะยอมแต่ง ตัวขึ้นเวทีในตอนนี้ แล้วยังข้อตกลงที่เจ้าหล่อนต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ..
O/////O
“น๊าๆ คาโลน๊า พวกรุ่นพี่เองเขาก็แต่งชุดสไบอะไรนี่เหมือนกัน พวกคิลเองก็ด้วย ไม่ใช่นายคนเดียวเสียหน่อย”
นัยน์ตาสีฟ้าเย็นเหยียบปรายตามองผู้พูดที่ดวงหน้าระรี่ระรี้สนุกอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเบือนหน้ากลับเฉกเช่นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มาตรการละลายน้ำแข็งเริ่มปฏิบัติ หญิงสาวขยับตัวเข้าประชิดร่างหนุ่มทางด้านหนัง สองมือบางโอบเข้าที่หัวไหล่แกร่งทั้งสองข้าง ในขณะที่ศรีษะซบลงกับต้นคอขาว “นะจ๊ะ.. แค่แต่งตัวเหมือนผู้หญิงโบราณแล้วก็ออกไปเดินบนเวทีนิดเดียวเอง ไม่เห็นจะหนักหนาสาหัสอะไรเสียหน่อย”
เสียงอ้อนนุ่มๆ ที่ต้นคอหวังให้น้ำแข็งที่จับตัวหนาละลายในพริบตา หากแต่เสียงตอบกลับมาของเจ้าชายดอกพิกุลร่วงกลับทำให้หัวขโมยสาวหัวเสีย “งั้นนายก็แต่งตัวด้วยชุดสไบเฉียงแทนฉันสิ”
เฟรินเงยหน้ามองชายหนุ่มทันที “จะบ้าหรือ!! เขาให้ผู้ชายแต่งประกวดนะ ไม่ใช่ฉันที่เป็นผู้หญิงนะ”
“แต่นายชอบบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มย้อนให้สาวน้อยต้องสะอึก “แหวนอันนั้นนายก็ยังชอบเอามาใส่แกล้งฉันไม่ใช่หรือ”
นัยน์ตาสีฟ้าหันกลับจ้องมองร่างสาวน้อยเบื้องหน้าอย่างเต็มตา นี่หากไม่ใช่เพราะว่าจะมาอ้อนขอจากเขา เจ้าหล่อนคงไม่คิดจะมาหาเขาในสภาพสาวน้อยเป็นแน่ โดยเฉพาะถ้าไม่มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง คนอย่าง เฟริน เดอเบอโรว์ คงไม่มีทางทุ่มสุดตัวเข้ามาตะคองกอดเขาแบบนี้เป็นแน่
เฟรินหงุดหงิดสุดๆ กับเจ้าชายโครตเรื่องมากตรงหน้า หากไม่ใช่เพราะส่วนแบ่งของเงินรางวัลที่เจ้าชายเมจิคสัญญาว่าจะให้หลังจาก ที่เดอะไอซ์ปริ๊นซ์ได้ครองตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เจ้าหล่อนคงไม่ลงทุนง้อเจ้าคนเรื่องมากหัวสูงปรี๊ดขนาดนี้เป็นแน่
“แหมม..” เฟรินส่งเสียงอ่อนเสียงหวาน “นายก็รู้นี่นาว่าร่างสาวน้อยของฉันไม่ค่อยจะปลอดภัยสักเท่าไหร่นัก” เอ่ยพร้อมกระแซะเข้าไปข้างๆ หนุ่มน้ำแข็ง “ร่างสาวน้อยของฉันนี่ก็สวยไม่หยอก ถ้าไปเดินตลาดคนเดียวคงไม่วายจะมีพวกหนุ่มๆ มาคอยตามจีบ แล้วยังพวกที่หวังจะฆ่าธิดาแห่งความมืด ฉันก็ควรพลางตัวไว้ก่อนจริงไม๊”
นัยน์ตาสีฟ้าเข้มจ้องกลับพร้อมขยับตัวออกห่างจากร่างนุ่มที่ชวนให้ใจอ่อน ยวบ “กฏของโรงเรียนห้ามออกไปนอกเขตโรงเรียนตามใจชอบอยู่แล้ว” คาโลพูดอย่างไม่สนใจกริยาที่เริ่มจะหงุดหงิดของหญิงสาวตรงหน้า “และเมื่ออยู่ภายในความคุ้มครองของมหาปราชญ์เลโมธีในโรงเรียนพระราชา ก็จะไม่มีใครสามารถเข้ามาทำร้ายนายได้”
ใบหน้าหวานเริ่มงอง้ำ “แล้วปัญหายุ่งๆ ที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะเกิดในโรงเรียนหรือไง”
“นั่นเพราะนายเอาตัวเข้าไปหามันเองต่างหาก”
คำตอบที่ทำให้สาวน้อยฉุนจัด “เออ!! ฉันมันชอบแส่นี่” เฟรินเบือนหน้าไปอีกด้านเพื่อสงบสติอารมณ์ หากไม่ใช่เพราะส่วนแบ่งรางวัลที่จะได้ค่อนข้างแน่นอนเจ้าหล่อนคงออกจากห้อง ไปแล้วแน่ๆ
“แล้วนายจะเอายังไง..” น้ำเสียงห้วนจัดถาม ก่อนหันหน้ามาเผชิญกับชายหนุ่มน้ำแข็งอีกครั้ง “โรเวนเขาสั่งให้นายต้องแต่งตัวโชว์โฉมพรุ่งนี้ นายจะกล้าขัดคำสั่งเขางั้นหรือ”
“ฉันจะสละสิทธิ์.. โรเวนไม่มีสิทธิ์บังคับฉันในเรื่องนี้” ชายหนุ่มยื่นคำขาด
“สละสิทธิ์!!” สาวน้อยตะโกนอย่างไม่สมหญิง “เจ้าคนงี่เง่า!! นายไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นตัวเก็งชนะเลิศ หรือไม่ก็ต้องได้ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งแน่ๆ นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องรางวัลที่จะได้รับนะ..”
‘นั่นไงล่ะ.. เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว’ ชายหนุ่มคิดอย่างปลงๆ “เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอก”
“นายไม่สนแต่ฉันสนนะ” เฟรินตะเบงเสียงใส่ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าตนเองเผยความต้องการที่ไม่ควรให้ชายหนุ่มตรง หน้ารู้ออกไป หญิงสาวจึงพยายามสงบใจ ยกแม่น้ำทั้งห้าชักจูงชายหนุ่มต่อ
“นาย.. เอ่อ.. นายจะปล่อยให้ปราสาทขุนนาง.. ให้เจ้าชายอาเธอร์ได้ตำแหน่งงั้นหรือ”
“ทางป้อมอัศวินก็ยังมีพวกกลุ่มพี่โรเวนเป็นตัวเก็งอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วยังพวกคิลอีก”
“แต่ทางนั้นเขาอาจเล่นไม่ซื่อก็ได้ ทางนั้นเขาได้เข้ารอบคนเดียวเองไม่ใช่หรือ”
“ภายใต้จมูกเลโมธีที่เป็นกรรมการ กับพ่อนายที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่และส่งกำลังทัพจากเดมอสมาคุ้มกัน” แม่น้ำที่หัวขโมยยกมาเริ่มหดสั้นขึ้นเรื่อยๆ “แล้วยังกติกาที่ให้ผู้เข้าชมงานงานร่วมเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์..เพียงแค่ นี้การโกงก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น”
แม่น้ำที่ไม่เหลือซักเส้นทำให้หญิงสาวจนหนทาง ต้องกลับไปงัดลูกไม้ดั้งเดิมขึ้นมาอีก “จะต้องให้ฉันทำยังไงนายถึงจะยอมแต่งชุดนั้นขึ้นเวทีประกวด”
คำขาดชัดเจนของหญิงสาวกระตุกมุมปากของเจ้าชายนักรักให้แย้มขึ้น ก่อนจะจางหายไปในทันที “นายพูดเองนะ..หวังว่าคงจะไม่กลับคำพูด”
“รู้แล้ว!!” เฟรินแทบจะกัดลิ้นตัวเองเมื่อพบว่าต้องตกเป็นรองเดอะไอซ์ปริ๊นซ์อีกครั้ง “จะเอายังไงก็รีบว่ามา”
“ก่อนอื่นนายต้องมอบแหวนมาให้ฉันก่อน” ว่าแล้วก็แบมือรอรับแหวนตัวแสบที่ทำให้เขาต้องหัวหมุนหลายต่อหลายครั้ง
มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงคลำของกลางให้อุ่นใจ “ถ้าให้นายแล้วแล้วจะคืนให้ฉันเมื่อไหร่ล่ะ”
ไม่มีคำตอบจากเจ้าชายดอกพิกุลร่วงอีกครั้ง เว้นแต่มือแกร่งที่ยังแบนิ่งกับสายตาสีฟ้าเข้มที่ไม่ยอมใจอ่อน กระนั้นหัวขโมยจอมก่อเรื่องก็ยังไม่ยอมแพ้ “หลังจากงานเลิก.. ฉันจะให้นายเก็บได้ถึงแค่พรุ่งนี้เช้าเท่านั้น”
“ได้.. ฉันจะรับฝากไว้ถึงพรุ่งนี้เช้า” ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะยื่นมือเข้าใกล้หญิงสาวยิ่งขึ้น กระนั้นแล้วหญิงสาวก็ยังไม่มั่นใจ
สาวน้อยยกมือที่กำแหวนไว้มั่นขึ้นก่อนจะหันไปยืนยันคำมั่นอีกครั้ง “พอจบงานแล้วนายต้องคืนให้ฉันจริงๆ นะ”
“นักรบคาโนวาลไม่เคยผิดคำพูด”
เฟรินค่อยๆ ยื่นแหวนออกไปอย่างกล้าๆ กลัว เสียดายสุดๆ “นายห้ามเบี้ยว..”
“ข้อสอง..” ไม่ทันที่เสียงหวานจะกล่าวจบ มือแกร่งก็ตวัดแหวนเล็กๆ ออกจากมือบางนุ่มพร้อมเสียงเย็นเหยียบดังตัดบทคำร้องของหญิงสาว
“คืนนี้..หลังงานเลิก.. นายต้องมาหาฉัน.. ที่นี่.. คนเดียว..” “หลังเลิกงาน.. คืนนี้.. ทำไมล่ะ” หญิงสาวถามต่อด้วยความฉงน
“นายมาถึงก็จะรู้เอง..” ชายหนุ่มยื่นคำขาด “ถ้านายไม่มา สัญญาเป็นอันยุติ.. และฉันจะไปขอสละสิทธิ์กับคณะผู้จัดงานครั้งนี้”
“ก็ได้..ก็ได้” เฟรินตอบรับแทบจะทันทีด้วยกลัวว่าส่วนแบ่งรางวัลที่ควรได้จะสละสิทธิ์ไปตรง หน้า โดยหารู้ไม่ว่าค่ำคืนที่จะถึงนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง.. .. ..
O/////O
เพียงแค่คิดถึงข้อตกลงก็ทำให้ใบหน้าหวานต้องร้อนวูบวาบ อะไรจะเกิดขึ้นระหว่างคนรักชายหล่อกับสาวสวย ในค่ำคืนสองต่อสอง หากแต่เมื่อคิดถึงอุปนิสัยของคนรักหนุ่ม หญิงสาวก็ต้องส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
“ไม่มีทาง..อย่างเจ้าชายยังไม่หย่านมพันธุ์นั้นจะทำอะไรเป็นกันล่ะ” คงไม่พ้นให้อ่านหนังสือหรือทบทวนบทเรียนอีกแหง๋ คิดแล้วก็อดห่อเหี่ยวหัวใจไม่ได้
“ขอโทษนะที่ฉันยังไม่หย่านม” เสียงเย็นๆ ดังขึ้นให้สาวปากปีสุนัขต้องหันสบ
เฟรินยิ้มแหยให้กับเจ้าชายคนรักที่ปรากฏตัวออกมาในมาดที่แปลกไป “นายแต่งแบบนี้แล้วสวยจังเลย” หญิงสาวรีบอ้อนกระแซะเข้าใกล้ สไบสีเงินพานผ่านไหล่แกร่งไปทางด้านหลัง เหมือนจะต่อผมสีเงินของชายหนุ่มให้ยาวลู่ลงกับผ้านุ่งสีทองที่ตัดกัน ใบหน้าขาวที่ผาดแดงนิดๆ พองามเปลี่ยนเค้าเข้มให้หวาน หากแต่พอคิดว่าสภาพสาวน้อยในชุดไทยข้างหน้าคือเจ้าชายหนุ่มคนรัก เฟรินก็อดจะขำนิดๆ ไม่ได้ “แต่น่าจะเอาดอกไม้ทัดผมด้วยถึงจะยิ่งสวย”
ว่าแล้วสาวน้อยก็บรรจงเด็ดออกชบาที่ปักอยู่ในแจกันแถวนั้นขึ้นไปทัดหูสาว( หนุ่ม)น้อยคนใหม่ ก่อนลากว่าที่นาง(นาย)สงกรานต์ไปรอเรียกขึ้นเวที..
**********************************************************
หลังเวทีประกวด (2) == กรณี ลูคัส x ลอเรนซ์“ว๊าว!! ชุดสวยๆ ทั้งนั้นเลย” ซาตานหนุ่มอุทานขึ้นทันทีที่ก้าวเข้าสู่ด้านหลังของเวทีซึ่งจัดไว้เป็นสถานที่สำหรับการแต่งองค์ทรงเครื่องของบรรดาเหล่านาง(นาย)สงกรานต์ผู้เข้าประกวดทั้งหลาย หากแต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ใบหน้าที่บูดสนิทตั้งแต่หลายวันที่ผ่านมาคลายลงได้
ชายหนุ่มเจ้าของฉายานักบวชหน้าบูดปรายตามองเพื่อนสนิทที่ดูสนุกกับการเลือกเฟ้นชุดผ้านุ่งกับผ้าสไบที่ทางห้องเสื้อจัดวางไว้ให้อย่างมีความสุข เจ้าซาตานหนุ่มดูไม่ยี่ระกับการที่ต้องสวมชุดเสื้อผ้าที่ขัดต่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็นชายชาตรีแต่ประการใดซึ่งตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง
“ลอรี่!! ลอรี่!! สีนี้น่าจะเหมาะกับนายนะ”
~~เฟี้ยว~~ ฉึก
เสียงร่าเริงดังขึ้นพร้อมเสียงมีดที่ลอยผ่านอากาศ เฉียดข้างแก้มที่ไร้ตำหนิของนายซาตานไปปักลงที่กองชุดผ้านุ่งและผ้าสไบที่ทางห้องเสื้อยกมาตั้งกองไว้ให้เลือก
“ฉันบอกนายหลายครั้งแล้วว่า
‘ห้ามเรียกฉันแบบนั้นอีก’” ใบหน้าเหี้ยมของนักบวชหันตอบทันควัน “ส่วนชุดเสื้อผ้าพันธุ์นั้น..ไม่ว่าสีไหนก็ไม่มีทางที่จะเหมาะกับฉัน..
เด็ดขาด”
เสียงเหี้ยมที่บ่งว่าอารมณ์ของผู้พูดตึงเปรี๊ยะแทบจะขาดอยู่รอมร่อสร้างความตระหนกแก่เหล่าเจ้าหน้าที่จากห้องเสื้อและเหล่ารุ่นน้องที่กำลังผลัดผ้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นอันมาก กระนั้นแล้วก็ไม่ทำให้ซาตานหนุ่มผู้ชอบยั่วสหายสนิทจะเลิกความคิดนั้นได้ “งั้นเหรอ.. แต่สีทองนี่เข้ากับสีผมนายมากเลยน๊า.. ลอรี่..”
~~เฟี้ยว~~ หมับ~~
“หากพวกนายจะไม่ทำลายข้าวของ พวกนายจะต้องตายกันใช่ไม๊!!” เสียงห้วนเข้มดังขึ้นจากด้านหลังของซาตานหนุ่มที่เข้ามาคว้ามีดนั่น ก่อนจะปักลงบนทรัพย์สินของห้องเสื้อให้ป้อมอัศวินต้องเป็นหนี้มากขึ้นอีก
นัยน์ตาสีน้ำทะเลปราดมองไปยังมีดเล่มเก่าที่ปักบนกองผ้าก่อนหันไปยังสองคู่หู “ความเสียหายนี้จะหมายถึงรางวัลใดรางวัลหนึ่งที่พวกนายจะต้องคว้าให้ได้!!” ว่าจบก็เดินเข้าไปดึงมีดที่ปักบนกองผ้าออก ก่อนจะยื่นมือไปทางนักบวชที่จ้องตอบตาไม่กระพริบ “เอามีดที่นายเก็บไว้ออกมาให้หมด”
“ทำไม?” เสียงลุ้นๆ ของนักบวชถามกลับท่านเสธผู้เป็นหัวหน้าโดยตรง “ในฐานะผู้คุมกฎ ฉันมีสิทธิพกอาวุธทุกชนิดที่ต้องใช้ขณะอยู่ในโรงเรียน”
“แต่มันไม่จำเป็นสำหรับการประกวดนี่” โรเวนตอบห้วนๆ “ส่งมา!!”
นัยน์ตาสองคู่จ้องกันไม่วายกระทั่งเจ้าของดวงตาสีม่วงเป็นฝ่ายพลุบต่ำลง และปลดมีดที่ซุกซ่อนตามเสื้อผ้าให้ท่านเสนาธิการผู้เป็นหัวหน้า
ลอเรนซ์ ดอร์น นักบวชหนุ่มแห่งแอเรียส ผู้ซึ่งเคยภาคภูมิใจในความเป็นชายแท้ของตนเองมาตลอด หากแต่บัดนี้กลับต้องทนสวมชุดที่เรียกให้ศักดิ์ศรีความเป็นชายต้องหดหาย
ชายหนุ่มหวังแล้วหวังอีก สวดอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก ขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาให้เขาได้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์อันเลวร้ายในครั้งนี้ กระนั้นแล้วความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าก็ยังส่งมาไม่ถึง เมื่อมีชื่อของเขาติดประกาศเป็นอีกผู้หนึ่งที่ต้องแต่งกายด้วยชุดผ้านุ่งสไบเฉียงขึ้นเวทีประกวด
เมื่อเหตุการณ์ค่อยๆ เลวร้ายลง ทางเลือกสุดท้ายคงเหลือเพียงการสละสิทธิ์ หากแต่ประกาศิตของท่านเสธแห่งป้อมอัศวินที่ประกาศจะคว้าทุกตำแหน่งในการประกวดครั้งนี้ทำให้เขาไม่มีทางเลือก และอาจเป็นเพราะเจ้าชายเมจิคผู้นี้มี
‘สิ่งนั้น’ อยู่ในครอบครองก็เป็นได้ สิ่งที่เขาไม่คิดเลยว่าจะมีอยู่ในโลกใบนี้
“.. .. เรนซ์ ..”
“..คุณลอเรนซ์ฮ้า”
เสียงเรียกข้างตัวเรียกให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิด นัยน์ตาคมเข้มจับจ้องไปยังเจ้าหน้าที่สาวประเภทสองที่ทางห้องเสื้อคัดเลือกให้มาเป็นผู้แต่งตัวให้ผู้เข้าประกวดก่อนจะสังเกตเห็นผ้านุ่งสีขาวสว่างกับผ้าสไบสีทองอร่ามที่กำลังถูกนำมาประดับบนเรือนร่างหนุ่ม
ลอเรนซ์เบือนหน้าหนีความสมเพชที่ตนเองกำลังจะได้รับ หากก็ไม่อาจไปไหนได้พ้นเมื่อท่านเสนาธิการฝ่ายซ้ายสั่งให้นายซาตานยืนคุมเข้มเฝ้าการตกแต่งเรือนกายของเขาไว้มั่น
“ชุดนี้เข้ากับคุณลอเรนซ์จริงๆ ฮ่า” เจ้าหน้าที่สาว(หนุ่ม) เอ่ยชม “แต่ถ้าให้ดีก็ควรจะลงแป้งด้วยนะฮ้า”
“ไม่ต้อง!!” ลอเรนซ์เสียงเขียว เพียงแต่ต้องสวมชุดประเภทนี้ เขาก็แทบจะรับไม่ได้แล้ว หากต้องลงแป้งเป็นเหมือนเหล่าเจ้าหน้าที่ เขาคงต้องยิ่งทนรับสภาพไม่ได้แน่ๆ
เจ้าหน้าที่ห้องเสื้อตะหนกกับเสียงเข้มที่ได้รับ หากก็อดทึ่งกับมาดแมนของนักบวชแห่งป้อมอัศวินไม่ได้ เจ้าหน้าที่สาวประเภทสองกระแซะเข้าไปปลดชุดของชายหนุ่มออกอย่างถูกใจ มือบางลูบไล้ไปตามร่างแกร่งของนักบวชหนุ่มให้สยิวเล่น
สภาพของลอเรนซ์แทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ชายหนุ่มสุดแสนจะแขยง กระทั่งความอดกลั้นของชายหนุ่มถึงจุดสิ้นสุด
“คำภีร์มนต์สวรรค์!!”คำภีร์มนต์ถูกคลี่ออกเพื่อรวบร่างของเจ้าหน้าที่ผู้กระทำเกินหน้าที่ หากแต่เกราะเวทย์อันแข็งแกร่งของซาตานหนุ่มก็เข้ายับยั้งได้ทันท่วงที ลูคัสขยิบตาให้เจ้าหน้าที่รีบเผ่นหลบหน้านักบวชที่บูดถึงขีดสุดไปก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้คู่หูหนุ่มที่พยายามกลั้นใจนับหนึ่งถึงร้อย
“ดีที่โรเวนไปแต่งตัวอยู่ด้านนู้น ไม่งั้นนายต้องถูกเล่นงานแน่ๆ”
“ถึงต้องสู้กับโรเวนฉันก็ไม่กลัว” นักบวชตอบเสียงดุดัน
ลูคัสยิ้มรับ “ฉันว่านายกลัวสิ่งที่โรเวนขู่ไว้มากกว่า ไม่งั้นคงไม่มายืนอยู่ที่นี่หรอก” นัยน์ตาสีดำเปร่งประกาย
คำพูดที่ทำให้ผู้ฟังต้องตระหนกหวั่น “นายหมายความว่ายังไง” ถามห้วนๆ
“ไม่ได้หมายความว่ายังไงหรอก” รอยยิ้มหมิ่นเหม่ชวนให้สงสัย “ฉันจะไปเรียกพนักงานคนอื่นที่ไม่วุ่นวายกับนายมาให้น๊า.. ฉันอยากเห็น
‘ลอรี่’ ในชุดผ้านุ่งสไบเฉียงจะแย่แล้ว..”
“อะ.. ไอ้ลูคัส!!” เสียงห้วนดุดังตามร่างซาตานหนุ่มไป หากแต่ไร้เสียงมีดที่มักจะบินตามไปด้วยเท่านั้น
‘หวังว่าลูคัสคงจะไม่รู้เรื่องนั้นหรอกนะ’**********************************************************
หลังเวทีประกวด (3) == กรณี โรเวน x อาเธอร์“เฮ้อ~~” เสียงถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่ายดังขึ้นจากเจ้าชายใจสิงห์หัวหน้าปราสาทขุนนางที่กำลังยืนนิ่งให้เจ้าหน้าที่จากห้องเสื้อแต่งองค์ทรงเครื่องสำหรับการขึ้นโชว์ตัวบนเวที
นัยน์ตาคมเข้มกวาดมองไปทั่วบริเวณด้านหลังเวทีซึ่งเป็นสถานที่แต่งองค์ทรงเครื่องของเหล่าบรรดานาง(นาย)สงกรานต์ทั้งหลาย ภาพเหล่าชาวป้อมอัศวินที่ยืนแต่งตัวเป็นทิวสร้างความขุ่นมัวแก่หัวหน้าปราสาทขุนนางเป็นอันมาก
ทั้งที่ในความเป็นจริง มีสมาชิกปราสาทขุนนางอีกมากที่เหมาะสมจะขึ้นโชว์ตัวบนเวทีในครั้งนี้ หากไม่ใช่เป็นเพราะ..
เจ้าชายแห่งเจมิไน.. โรเวน ฮาเวิร์ดแม้เขาจะไม่คิดจะสนับสนุนหรือพิศวาสการประกวดนี้สักเท่าใดนัก หากแต่ความพ่ายแพ้ก็ไม่อยู่ในบทบัญญัติของเจ้าชายใจสิงห์แห่งซาเรส ชายหนุ่มครุ่นคิดถอยหลังไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น.. วันที่เขาต้องถอนชื่อเหล่าสมาชิกปราสาทขุนนางที่ควรจะได้เข้ารอบออกจากบัญชีด้วยตนเอง..
“ท่านอาเธอร์.. นั่นคือบัญชีรายชื่อที่ท่านจะเสนอให้คณะกรรมการเพื่อคัดเลือกผู้ขึ้นโชว์ตัวบนเวทีหรือ”เสียงทุ้มนุ่มของเสนาธิการผู้มากด้วยปัญญาแห่งป้อมอัศวินเอ่ยถามหัวหน้าปราสาทขุนนางทันทีที่การประชุมของเหล่าสมาชิกสภาสูงเกี่ยวกับประกาศของมติที่ประชุมคณะผู้จัดงานประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กสิ้นสุดลง“ถ้าใช่แล้วจะทำไมงั้นหรือ..” นัยน์ตาสีเข้มเหลือบมองไปยังม้วนกระดาษที่อยู่ในมือของเจ้าชายคู่แข่งคนสำคัญ “ส่วนนั่นก็คือบัญชีรายชื่อของป้อมอัศวิน.. หวังว่าคงจะมีคนที่เหมาะสมพอจะสู้กับตัวแทนของปราสาทขุนนางได้นะ”รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากของเสนาธิการจอมเจ้าเล่ห์ “ไม่ต้องห่วงหรอกท่าน.. ทางป้อมอัศวินเองก็คัดมาแต่ตัวเก็งเท่านั้น” นัยน์ตาสีน้ำทะเลเหลือบมอบกลับไปยังคู่แข่งจากซาเรสเบื้องหน้า “แต่ฉันไม่คิดว่าท่านควรจะเสนอบัญชีนั่นเข้าสู่ที่ประชุมคณะผู้จัดการประกวดในครั้งนี้หรอกนะ”นัยน์ตาสีเข้มเลิกขึ้นอย่างลังเล เขารับรู้ถึงความสามารถทั้งหลายของเจ้าชายคู่แข่งเบื้องหน้าเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะด้านปัญญา ไหวพริบ ฝีมือ ล้วนไม่ด้อยกว่าใครทั้งสิ้น กระนั้นแล้ว..เขาก็มั่นใจในตนเองว่าจะสามารถรับมือชายหนุ่มเบื้องหน้าได้ในทุกกรณี “ท่านหมายความว่ายังไง.. ทำไมเราจึงจะเสนอบัญชีรายชื่อของสมาชิกปราสาทขุนนางเข้าสู่ที่ประชุมคณะผู้จัดงานไม่ได้”รอยยิ้มพรายปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเข้ม นัยน์ตาสีน้ำทะเลพราวระยับ “ก็เพราะ ‘สิ่งนี้’ น่ะสิ” หยิบสิ่งหนึ่งที่คั่นอยู่ในสมุดโน็ตประจำตัวออกมาเจ้าชายใจสิงห์แห่งซาเรสตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ‘นี่มัน.. นี่มันหมายความว่าอย่างไร..’ มือเท้าสั่นระรัวก่อนจะกลับมาสงบนิ่งในเวลาไม่นานนัก “ท่านต้องการอะไร.. เจ้าชายโรเวน”“ก็แค่ข้อเสนอง่ายๆ ที่ท่านต้องรับปาก.. ก็เท่านั้น”เจ้าชายอาเธอร์ส่ายศรีษะอย่างอ่อนล้า.. เขาไม่คาดคิดว่าตนเองจะเสียท่าให้กับคู่แข่นคนสำคัญจากป้อมอัศวินได้ง่ายดายเพียงนี้.. หากไม่ใช่ว่าคณะกรรมการลงมติให้หัวหน้าป้อมจะต้องเป็นหนึ่งในผู้โชว์ตัวด้วย ปราสาทขุนนางคงจะไม่มีตัวแทนขึ้นโชว์ตัวเป็นแน่..
และความพ่ายแพ้จะปรากฏขึ้นแก่ปราสาทขุนนางผู้มั่งคั่งและยิ่งใหญ่..
เสียงวี๊ดว๊ายของบรรดาเจ้าหน้าที่สาวประเภทสองของทางห้องเสื้อดังขึ้นพร้อมความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอีกด้านของห้องแต่งตัว เจ้าชายหนุ่มปราดตามองไปยังสองหนุ่มผู้คุมกฏคนสำคัญที่กำลังมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ห้องเสื้อกับเสนาธิการหนุ่มคู่ปรับคนสำคัญที่เดินเรื่อยมาทางเขาอย่างไม่สนใจจะแก้ไขปัญหาที่เกิดจากคนของเขา
“ในเย็นเหลือเกินนะ..ไม่กลัวสองคนนั่นจะก่อเรื่องจนป้อมอัศวินต้องเกิดปัญหาขึ้นอีกหรือไง”
นัยน์ตาสีน้ำทะเลสบใบหน้ากร้านของหัวหน้าปราสาทขุนนางผู้เป็นคู่แข่งคนสำคัญ “ไม่ต้องห่วงหรอกท่านอาเธอร์” เจ้าชายเมจิคโต้กลับ “ฉันเชื่อมั่นในว่าที่นาง(นาย)สงกรานต์จากป้อมอัศวิน”
“มั่นใจจริงนะ” นัยน์ตากร้าวจ้องเขม็ง
กระนั้นแล้วรอยยิ้มพร่าก็ยังปรากฏขึ้นบนดวงหน้าท่านเสธจอมเจ้าเล่ห์แห่งป้อมอัศวิน “แน่นอนสิท่าน.. ก็ปราสาทขุนนางอุตสาห์ยอมถอยให้ป้อมอัศวินตั้งขนาดนี้แล้วนี่นา”
ชายหนุ่มเจ้าของฉายาใจสิงห์พยายามระงับสิงห์ในใจอย่างสุดความสามารถ “เรื่องนี้ไม่มีทางจบลงง่ายๆ แน่..” อาเธอร์ยืนกราน
“ถูกต้อง..” โรเวนยิ้มรับ “ไม่มีทางจบลงง่ายๆ แน่.. หากคำมั่นของเราต้องยุติลงเพราะท่านเป็นเหตุ”
นัยน์ตากร้าวลุกวาวอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ก่อนจะเดินหลบฉากไปสงบสติอารมณ์อยู่อีกด้านหนึ่งของด้านหลังเวที
ครั้งเดียว.. ครั้งเดียวก็เกินพอ.. สำหรับความอดสูในครั้งนี้.. โรเวน ฮาเวิร์ด แล้วเจ้าจะต้องชดใช้..**********************************************************
หลังเวทีประกวด (4) == กรณี โร x คิล x ชาวป้อมอัศวินผู้ร่วมชะตากรรมนัยน์ตาหลากคู่จ้องมองกันและกันอย่างสุดรัดทดในสภาพที่ไม่แตกต่างกันสักเท่าใดนัก
โร เซวาเรส : ในชุดผ้าสไบสีเขียวสวยกลมกลืนเข้ากับดวงตางามกับผ้านุ่งสีน้ำตาลอ่อน
คิล ฟิลมัส : ในชุดผ้าสไบสีม่วงอ่อนสดใสกับผ้านุ่งสีม่วงเข้มดูเข้าชุด
กัส โทนิย่า : ในชุดผ้าสไบสีเทาเงินกระจ่างตากับผ้านุ่งสีน้ำทะเลเข้ม
ครี๊ด ธันเดอร์ : ในชุดผ้าสไบสีน้ำตาลอ่อนกับผ้านุ่งสีน้ำตาลเข้ม
ซีบิล สเวน : ในชุดผ้าสไบสีฟ้าอ่อนกับผ้านุ่งสีน้ำเงินเข้ม
นิกส์ พรินส์วิล : ในชุดผ้าสไบสีเหลืองอ่อนกับผ้านุ่งสีน้ำตาลเข้ม
อาชูร่า เอพริล : ในชุดผ้าสไบสีน้ำเงินเข้มกับผ้านุ่งสีเดียวกัน
เอ็ดเวิร์ด ลอเลนโซ่ : ในชุดผ้าสไบสีแดงกับผ้านุ่งสีเดียวกัน
ทิวดอร์ ซานคีเยฟ : ในชุดผ้าสไบสีชมพูกับผ้านุ่งสีแดงเข้ม
เจค สวอน : ในชุดผ้าสไบสีครีมอ่อนกับผ้านุ่งสีน้ำตาล
เดท ไฟเออร์ : ในชุดผ้าสไบสีโอรสกับผ้านุ่งสีแดงเข้ม
“ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมเข้าร่วมงานประกวดนี่ตามคำของพี่โรเวน” เสียงเอ่ยอนาจใจดังขึ้นจากนายนักดาบแห่งซาเรส เดท ไฟเออร์
“แต่ก็จะได้วันหยุดพิเศษนี่ครับ” นักบวชแห่งบารามอส ซีบิล สเวน เอ่ยตอบ
“ใช่แล้ว.. แถมถ้าป้อมเรากวาดรางวัลได้หมดก็จะมีเงินพาทั้งป้อมไปทัศนศึกษาที่ชายทะเลด้วย” นักรบแห่งไนล์ ครี๊ด ธันเดอร์ เริ่มฝันหวานไปถึงชายหาดที่เต็มไปด้วยสาวน้อยใหญ่นุ่งชุดว่ายน้ำนอนอาบแดดเต็มชายหาด พาให้เพื่อนในกลุ่มหลายคนฝันตาม
“อย่าหวังมากจะดีกว่า” เสียงกล่าวเรียบๆ ของนายขอทานแห่งทริสทอร์ โร เซวาเรส ดังดับฝันของเหล่าเพื่อนเสียสนิท “คนอย่าง โรเวน ฮาเวิร์ด แห่งเจมิไน คงไม่มีแค่นี้แน่”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน” นักบวชแห่งกิลดิเรก กัส โทนิย่า เอ่ยสนับสนุน
“แต่พี่เขาสัญญาไว้แล้วนี่นา” เจ้าชายแห่งซาเรส อาชูร่า เอพริล ตั้งประเด็น “คนระดับเจ้าชายแห่งเจมิไนผู้ดำรงตำแหน่งในสภาสูงตั้งแต่ปีหนึ่ง คงไม่กลับคำพูดหรอก”
นัยน์ตาสีมรกตเบือนออกอย่างไม่อยากต่อความ “ก็แค่ให้เตรียมใจไว้เท่านั้น.. ฉันก็ไม่คิดว่าพี่โรเวนจะไม่ทำตามที่พูดหรอก” แล้วสมองใสก็ใคร่ครวญถึงข้อเสนอพิเศษที่ท่านเสธซ้ายคนเก่งแห่งป้อมที่เคยกล่าวไว้เฉพาะกับเขา
“หากนายไม่ถอนตัว วันหยุดพิเศษที่จะมีขึ้นฉันจะให้นายได้เที่ยวกับเฟรินตามลำพัง”นัยน์ตาสีมรกตสบตอบนัยน์ตาสีน้ำทะเลอย่างไม่เชื่อหู “พี่ว่าอะไรนะครับ”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดบนใบหน้าสวย “ก็แค่ข้อเสนอพิเศษสำหรับนายไง.. โร เซวาเรส” โรเวนย้ำ “นายกับเฟริน.. สองต่อสอง..”นายขอทานนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ก่อนที่สีหน้าจะกลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว “คงไม่ง่ายหรอกกระมัง.. ท่านเจ้าชายแห่งคาโนวาลคงไม่ยอมแน่..”“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก..” แววตามั่นใจเต็มร้อย “ฉันมีหนทางให้นายได้อยู่กับเฟรินเพียงสองคนแน่นอน”คำมั่นของเจ้าชายเมจิคเรียกความหวังที่ฝังอยู่ก้นบึ้งแห่งจิตใจให้ลุกโชน เขาเคยแอบอิจฉาเจ้าชายแห่งแดนนักรบอยู่เสมอ เฟรินชอบเข้าไปขลุกอยู่ในห้องพักของชายหนุ่มคนรักอยู่เสมอ(ไม่ว่าจะมีนายนักฆ่า กขค อยู่หรือไม่ก็ตาม) และเจ้าชายแห่งแดนนักรบนั่นก็มักถือวิสาสะเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคอยกีดกัดไม่ให้หญิงสาวไปอยู่ตามลำพังกับใครอื่นหรือแม้แต่ตัวเขาเองเสมอหากท่านเสธเมจิคสามารถมอบช่วงเวลาให้เขาได้อยู่ตามลำพังกับเจ้าหล่อน เขาก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับการประกวดที่แสนประหลาดนี้โดยไม่ขัดข้องแต่อย่างใดเสียงประกาศของผู้ประกาศสาวแห่งปราการปราชญ์ดังขึ้นเรียกให้ขอทานหนุ่มหลุดออกภวังค์แห่งความคิด เสียงใสหวานกล่าวพิธีการและขั้นตอนของการประกวด
ชายหนุ่มลุกเดินไปด้านหน้า แอบอยู่ด้านหลังม่านผืนใหญ่ที่แบ่งส่วนหน้าและหลังเวทีออกจากกัน นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปยังผู้เข้าร่วมชมงานทั้งหลายพลันประสบเข้ากับเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลหวานที่ถูกเชิญออกไปนั่งด้านข้างจ้าวปีศาจผู้เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่บนที่นั่งยกระดับสำหรับแขกผู้ชมงานกิตติมศักดิ์
หญิงสาวนั่งไม่เป็นสุขนักด้วยความไม่ชอบเป็นจุดเด่น และยังคอยแหล่มองพร้อมวิจารณ์สาวงามน้อยใหญ่ที่คอยเบียดเสียดเข้าชมบรรดานาง(นาย)สงกรานต์ในดวงใจให้จ้าวปีศาจผู้เป็นบิดาฟัง
ชายหนุ่มมองดวงหน้าหวานอย่างเป็นสุขก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงเรียบๆ ของนักฆ่าร่วมป้อมดังขึ้นข้างตัว “มองไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกน่า”
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบสบเจ้าของนัยน์ตาสีม่วงพราวระยับ “ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรนี่นา” ว่าแล้วก็เดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อนที่ยังคงนั่งเป็นตุ๊กตาให้เจ้าหน้าที่ห้องเสื้อลงแป้งเพิ่มให้
คิลมองตามเพื่อนหนุ่มแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว เขาเองก็พอจะทราบความรู้สึกของสหายหนุ่มผู้นี้อยู่บ้าง อาจเพราะเขาเองก็เป็นผู้หนึ่งที่จับตามอง ’ธิดาแห่งความมืด’ แม้จะไม่ใช่ในลักษณะเดียวกับเจ้าชายแห่งคาโนวาลหรือนายขอทานแห่งทริสทอร์ก็ตามที
ชายหนุ่มหันกลับไปที่เพื่อนสาวผู้ซึ่งสนิทยิ่งกว่าเพื่อนหนุ่มทั้งหลาย อาจเพราะเป็นเพื่อนคนแรกของเขา เพื่อนที่ไม่เคยเห็นเขาในแง่มุมที่คนส่วนมากมอง เพื่อนที่มองเขาในแง่มุมที่เป็นตัวของเขาเอง
นัยน์ตาสีม่วงพลุบมองสภาพของตนเองพลันความรันทดก็ปรากฏสู่นัยน์ตาสีม่วงสวย เขาไม่น่าเสียท่ายอมรับคำท้าของเจ้าชายแห่งเจมิไนเลย..
“ฉันหวังว่านายคงไม่ชิงถอนตัวหรอกนะ” เสียงของท่านเสธเมจิคดังขึ้นเรียกให้ชายหนุ่มหันสบหลังจากรับทราบประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 20 คนที่ต้องขึ้นโชว์ตัวบนเวที นักฆ่าหนุ่มก็ตัดสินใจสละสิทธิถอนตัวแทบในทันที หากแต่ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ดำเนินการตามที่ตั้งใจไว้ เจ้าชายเสนาธิการฝ่ายซ้ายก็เรียกตัวไว้เสียก่อน“แล้วทำไมผมจะถอนตัวจากการประกวดประเภทนี้ไม่ได้ล่ะ” นักฆ่าหนุ่มแย้ง “เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่หรือ”โรเวนส่ายหน้าอย่างระอา “ก็เป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและไม่ใช่.. อย่างที่ฉันประกาศไปว่าต้องการเงินรางวัลทั้งหมดเพื่อชำระหนี้สินทั้งหลายของป้อม ทั้งยังเป็นทุนพาพวกเราไปเที่ยวทะเลได้”นัยน์ตาสีม่วงเบือนสบรุ่นพี่หนุ่มอย่างเบื่อๆ “ถึงอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวกับผม ผมเชื่อว่าในป้อมเรายังมีอีกหลายคนที่คงจะกวาดรางวัลเข้าป้อมได้.. พี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้นไม่ใช่หรือ”รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอันแสนชาญฉลาด “ก็ใช่.. แต่นายก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในตัวเก็งที่จะได้รับรางวัล และฉันก็ไม่คิดว่าจะมีชาวป้อมอัศวินคนไหนควรสละสิทธิถอนตัวจากการประกวดด้วยด้วย”“ผมว่าพี่ควรเปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้วกระมัง..” รอยยิ้มอย่างผู้ชนะปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเข้มคมของนักฆ่าผู้เคยผ่านสมรภูมิ “อย่างน้อยผมก็เห็นเจ้าคาโลตรงดิ่งไปทางปราสาทแล้ว”นัยน์ตาสีน้ำทะเลพราวระยับ “แต่ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น.. เพราะคาโลจะไม่ถอนตัว”นัยน์ตาสีม่วงจ้องสบดวงหน้าจอมเจ้าเล่ห์ของเจ้าชายเมจิค ฉับพลันชายหนุ่มก็รู้ได้ว่ารุ่นพี่เสนาธิการผู้นี้จะต้องเตรียมแผนการรับมือกับเหล่าชาวป้อมที่หัวแข็งไม่ฟังคำสั่งไว้แล้วเป็นแน่กระนั้นแล้วชายหนุ่มก็ยังมั่นใจในเจ้าชายเพื่อนร่วมห้องพักหัวหน้าชั้นปี “นักรบแห่งคาโนวาลยึดมั่นในเกรียรติยศศักดิ์ศรียิ่งชีพ ผมไม่คิดว่าเจ้านั่นจะยอมละทิ้งสิ่งนั้นเพื่อเงินรางวัลเพียงแค่นั้นหรอก”“ก็ใช่..” ใบหน้าพร่าพรายไปด้วยรอยแห่งความเชื่อมั่น “ลองมาพนันกันไม๊ล่ะ”นัยน์ตาเข้มเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหู “ป้อมอัศวินไม่สนับสนุนการพนัน..”“ก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไรนี่..” โรเวนตอบเรื่อยๆ “เพียงแต่ถ้านายแพ้พนัน.. นายก็ต้องเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข”“แล้วถ้าผมชนะ..”“ฉันก็จะไม่มารบกวนนายอีก.. ไม่ว่านายจะถอนตัวหรือไม่ก็ตาม”นักฆ่าหนุ่มใช้ความคิดหนัก แม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวเพื่อนหนุ่ม หากก็ไม่มั่นใจในท่านเสธฝ่ายซ้ายตรงหน้า“กลัวว่าคาโลจะเปลี่ยนใจงั้นหรือ.. แสดงว่านายไม่มั่นใจในตัวเพื่อนของนายสินะ” โรเวนยิ้มกริ่ม รอยแห่งความสับสนฉายขึ้นบนดวงหน้าที่มักจะเปื้อนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของนักฆ่ารุ่นน้อง “หรือไม่.. นายก็ไม่มั่นใจในตัวของนายเอง” ชายหนุ่มใส่ไฟต่อ “ไม่นึกว่าทายาทนักฆ่าแห่งตระกูลฟิลมัสจะขี้ขลาดขนาดนี้”คำปรามาสที่ทายาทตระกูลนักฆ่าอันดับหนึ่งไม่อาจยอมรับได้ “ตกลง!! จะพนันยังไงก็ว่ามา”นัยน์ตาสีน้ำทะเลพราวระยังอย่างถูกใจ “ถ้าคาโลไม่ถอนตัวก็ถือว่าฉันชนะ ฉะนั้น..ในระหว่างนี้นายห้ามถอนตัวก่อนเจ้าชายแห่งคาโนวาลเด็ดขาด!!”**********************************************************
หลังเวทีประกวด (5) == เหล่าสภาสูงผู้ร่วมชะตากรรมเสียงเฮจากด้านหน้าเวทีดังลั่นสนองเสียงพิธีกรที่บรรยายความเป็นมาของงานประกวดในครั้งนี้
ไธนอส ทิลดอล และ ชีวาส เดเบส มองหน้ากันอย่างหดหู่ ไม่เว้นแม้แต่ โรม โอดิซซี่ หรือ เซอร์เทวิส ฟิลิปปี้ ที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันเท่าใดนัก
สภาพของสมาชิกสภาสูงอันทรงเกียรติแห่งเอดินเบิร์กในชุดผ้าสไบและผ้านุ่งหลากสีสันสร้างความอับอายขายหน้าแก่ชายแท้เยี่ยงพวกเขาเป็นอันมาก
แต่กระนั้นแล้วคำว่าหน้าที่ก็ยังค้ำคอในฐานะตัวแทนแห่งศักดิ์ศรีของป้อมของตนเอง
“ป่านนี้แล้ว.. ทำใจเสียดีกว่า” เซอร์เทวิสเอ่ยปลอบใจตัวเองและผู้ร่วมชะตากรรม
“เพื่อป้อมของเรา” ชีวาสเอ่ยอย่างขลาดๆ “เพื่อป้อมอัศวิน..”
“ใช่..” โรมเอ่ยร่วม “เพื่อป้อม.. เพื่อแผ่นดินประชาชน”
เสียงเรียกขานรายชื่อผู้เข้าร่วมประกวดดังจากด้านหน้าเวที
“ได้เวลาแล้ว” ไธนอสประกาศก้อง ก่อนเดินนำหน้า “ไม่มีเวลาใคร่ครวญแล้ว..
ไปกันเถอะ!!”
สภาสูงทั้งสี่เดินออกสู่หน้าเวทีด้วยความมุ่งมั่น นำพาร่างกายในชุดผ้านุ่งสไบเฉียงออกสู่สายตาสาธารณะชนผู้เข้าร่วมชมงาน..**********************************************************
หน้าเวทีประกวด == ประกาศผลการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก“และแล้ว.. เวลาแห่งการรอคอยก็ได้มาถึง..” พิธีกรสาวประกาศเสียงสดใส กลบเสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาสาวๆ ผู้เข้าชมงานเสียสิ้น
“ผลคะแนนรวมของผู้เข้าร่วมประกวด..ได้มาอยู่ในมือของดิฉันแล้ว”เสียงดนตรีบรรเลงกระหึ่มลั่นก้องทั่วสนามหน้าปราสาทซึ่งเป็นสถานที่จัดตั้งเวทีการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในครั้งนี้
“ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง
รองอันดับสองของการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในครั้งนี้.. ได้แก่..”
เสียงกรี๊ดกร๊าดเงียบกริบทันใด
“ลำดับที่ 6 ลอเรนซ์ ดอร์น รวมคะแนนได้ 98 คะแนน จากผู้ร่วมโหวต 97 โหวต”เสียงเฮดังกึกก้องทั่วลานหน้าปราสาทเอดินเบิร์ก สาวงามใหญ่น้อยผู้เทคะแนนให้นาง(นาย)สงกรานต์ในครั้งนี้แทบจะกรูขึ้นไปเยี่ยมเยียนนาง(นาย)สงกรานต์ประจำใจ หากไม่ใช่ด้วยข่ายมนต์อันแข็งแกร่งของมหาปราชญ์แห่งเอดินเบิร์ที่กางขึ้นป้องกันเวทีไว้ล่วงหน้า เหล่าผู้เข้าประกวดทั้งหลายคงไม่สามารถลงจากเวทีในอาการครบถ้วนเป็นแน่
สาวใสจากปราการปราชญ์ผู้ทำหน้าทีพิธีกรกล่าวต่อ “ลำดับจากนี้ไป.. ขอเชิญท่านประธานจัดงาน.. ท่านมหาปราชญ์เลโมธีขึ้นมาสวมมงกุฎดอกไม้และมอบรางวัลให้แก่รองนาง(นาย)สงกรานต์อันดับสองค่ะ”
พร้อมกับเสียงประกาศ มหาปราชญ์ผู้ยิ่งยงก็ปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกับสองสาวจากปราการปราชญ์ผู้ถือมงกุฎและเงินรางวัล
หลังจากการสวมมงกุฎและมอบรางวัลให้กับรองอันดับสองเสร็จสิ้นลง พิธีกรก็ประกาศผู้ได้รับตำแหน่งในลำดับถัดไป “ผู้ได้รับตำแหน่ง
รองอันดับหนึ่งของการประกวดนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในครั้งนี้.. ได้แก่..”
“ลำดับที่ 11 คิล ฟิลมัส รวมคะแนนได้ 133 คะแนน จากผู้ร่วมโหวต 97 โหวต”เสียงเฮดังกึกก้องอีกรอบ หากแต่ดังขึ้นกว่ารอบก่อนเป็นเท่าตัว
“ขอเชิญท่านไฮคิงแห่งบารามอสขึ้นมาสวมมงกุฎดอกไม้และมอบรางวัลให้แก่รองนาง(นาย)สงกรานต์อันดับหนึ่งค่ะ”
ไฮคิงแห่งบารามอสปรากฏตัวขึ้นพร้อมสาวผู้ถือมงกุฎและรางวัลจากปราการปราชญ์ และเมื่อสวมมงกุฎและมอบรางวัลเรียบร้อยแล้ว พิธีกรสาวก็กล่าวต่อ “และแล้ว.. จากนี้ไป.. จะเป็นการประกาศชื่อ
ผู้ครองตำแหน่งนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในครั้งนี้.. ได้แก่..”
เสียงรอบบริเวณลานเงียบกริบทันตา รอรับการประกาศชื่อบุคคลที่เฝ้ารอ
“ลำดับที 9 คาโล วาเนบลี รวมคะแนนได้ 145 คะแนน จากผู้ร่วมโหวต 97 โหวต”เสียงเฮสลั่นลั่นลาน กระหึ่มไปทั่วบริเวณกว้าง “บัดนี้ขอเชิญท่านจ้าวปีศาจเอวิเดส เกรเดเวล สปอร์เซอร์รายใหญ่ของการจัดงานในครั้งนี้ขึ้นสวมมงกุฎและมอบเงินรางวัลให้แก่นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กได้แล้วค่ะ”
จ้าวปีศาจเดินเข้าประชิดร่างของนาง(นาย)สงกรานต์พร้อมรอยยิ้มร่าสนุกสนาน.. “เป็นการประกวดที่ดีมากจริงๆ” กล่าวเบาๆ พร้อมสวมมงกุฎและมอบรางวัลให้แก่ผู้ครองตำแหน่งนาง(นาย)สงกรานต์ในครั้งนี้
หากแต่ผู้ครองตำแหน่งกลับไม่ยิ้มสักนิด ชายหนุ่มอยากหลบลี้หนีหน้าไปให้พ้นจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุด
เมื่อพิธีการมอบรางวัลเสร็จสิ้น เสียงใสจากพิธีกรสาวก็ดังขึ้นอีกครา “จากนี้ไปจะเข้าสู่ประเพณีสงกรานต์ที่ทุกท่านรอคอย.. นาง(นาย)สงกรานต์ทั้งสามของเราจะเข้าสู่ขบวนสรงน้ำพระที่ได้จัดเตรียมไว้และตะเวนไปรอบเมืองเอดินเบิร์กก่อนจะกลับมายังโรงเรียนในตอนเย็น..
ทางคณะผู้จัดงานหวังว่าทุกๆ ท่านคงจะมีความสุขสนุกสนานไปกับงานประเพณีสงกรานต์ของเราในครั้งนี้.. ขอบคุณค่ะ”
**********************************************************
แถมท้ายหลังการประกวด == คาโล(นาง(นาย)สงกรานต์) x เฟริน“คืนนี้..หลังงานเลิก.. นายต้องมาหาฉัน.. ที่นี่.. คนเดียว..”คำของเจ้าชายพระคู่หมั้นดังขึ้นอีกครั้งหลังจากการประกวดได้สิ้นสุดลง เฟรินยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ด้านหน้าประตูห้องหัวหน้าชั้นปี ห้องที่เคยเป็นห้องพักของเขามาก่อน หากแต่ด้วยความจริงที่ปรากฏ เจ้าหล่อนจึงต้องอพยพตัวเองไปพำนักอยู่ห้องข้างๆ ที่ถูกจัดไว้เป็นห้องพักส่วนตัวของเธอ
แม้ตามปกติเจ้าหล่อนจะเข้าออกห้องนี้อยู่เป็นนิจ แถมไม่เคยขออนุญาตเจ้าของห้องเลยสักครั้ง หากแต่การถูกเรียกให้มาโดยเจ้าชายน้ำแข็งพระคู่หมั้นก็ทำให้หญิงสาวประหม่าได้ไม่มากก็น้อย
มือบางค่อยๆ แง้มประตูให้กางออกก่อนจะสอดส่ายสายตามองเข้าไปในห้องกว้าง ฉับพลันประตูนั้นก็เปิดออกกว้างโดยเจ้าชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้อง
“มาแล้วทำไมไม่เข้ามา ยืนทำอะไรอยู่ข้างนอก” เสียงพูดยาวที่ต่างจากปกติวิสัยของชายหนุ่ม กระนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าหัวขโมยสาวพระคู่หมั้น คำพูดยาวเหยียดก็เป็นความเคยชินที่มีเฉพาะกับเจ้าหล่อนเท่านั้น
“ก็.. ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” หญิงสาวแสร้งแสดงความไม่ทุกข์ร้อน “ว่าแต่นายเรียกฉันมามีอะไรงั้นหรือ”
ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่มผู้กลัวดอกพิกุลจะร่วง คาโลโบกมือเรียกพนักงานสาวจากห้องเสื้อที่เขารั้งตัวไว้ให้เข้ามาลากตัวหญิงสาวผู้ไม่รู้เรื่องเข้าไปในห้องน้ำ
เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวน้อยที่ชายหนุ่มพอจะรู้ว่าเพราะเหตุใดดังขึ้นเป็นระยะ กระทั่งเวลาผ่านไปแม้เพียงชั่วครู่แต่ก็เหมือนชั่วกัปของเจ้าชายหนุ่มผู้เฝ้ารอ ประตูห้องน้ำเปิดออก เผยให้เห็นร่างบางของสาวน้อยผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกเกล้ารวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง ประดับด้วยห่วงทองอันตระการตา ชฎาทองประดับเพชรประดับบนศรีษะได้รูปสวย เรือนกายตกแต่งด้วยผ้านุ่งสีน้ำตาลเข้มเข้ากับผ้าสไบสีน้ำตาลอ่อนขลิบทอง และเครื่องเพชรชุดใหญ่เข้าชุดกับรองเท้าสีเหลืองทองอร่ามตา
ภาพที่เห็นทำให้เจ้าชายหนุ่มต้องตะลึงงัน ในคราแรกคาโลคิดเพียงอยากให้หญิงสาวผู้นี้ได้ลองสวมชุดสไบเฉียงแบบที่ตนต้องสวมขึ้นไปยืนอับอายขายหน้าบนเวทีบ้าง กระนั้นแล้วเมื่อประดับครบเครื่อง สาวน้อยผู้นี้กลับเฉิดฉายวิจิตร ชายหนุ่มจึงมิอาจละสายตาจากความงามเบื้องหน้าได้เลย
นัยน์ตาสีน้ำตาลไหววูบไปกับเครื่องประดับครบครันบนเรือนร่าง หญิงสาวคำนวนถึงยอดเงินที่จะได้จากการจำหน่ายอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่ว่าเจ้าหล่อนเหลือบเห็นแสงวูบวาบของเครื่องประดับทองฝังเพชรที่เหล่านี้ก่อน เจ้าหล่อนคงไม่ยอมอยู่นิ่งให้เจ้าหน้าที่สาวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสไบเฉียงผ้านุ่งนี้เป็นแน่
“ท่านคาโลเพคะ” เสียงหวานของพนักงานสาวเรียกให้เจ้าชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์แห่งมนต์สะกด มือบางยื่นส่งบิลเก็บเงินค่าแรงให้แก่เจ้าชายหนุ่มหลังเสร็จสิ้นภารกิจ
“อืม..” คาโลเอ่ย “แล้วไม่รวมราคาค่าชุดนี้ด้วยเลยหรือ”
“เอ๋.. ขอโทษเพคะ..” พนักงานสาวร้องพร้อมรับบิลจากมือเจ้าชายกลับมาแก้ไขราคา “นี่เพคะ.. ราคารวมทั้งหมด”
คาโลเพ่งพิศจำนวนหลักของตัวเลขก่อนจะเอื้อมหยิบเช็คส่วนตัวออกมาเซ็นจ่ายให้กับพนังานงานสาว
เฟรินที่มองพฤติการณ์ตรงหน้าอย่างใคร่ครวญ “นายซื้อชุดนี้ให้ฉันงั้นหรือ” รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนดวงหน้าสวย “ขอบใจนะ..”
“ก็แค่ไม่อยากเรื่องมากหากของๆ เขาต้องมาหายไปก็เท่านั้น”
คำตอบที่ควรสร้างความหงุดหงิดแก่หญิงสาว หากแต่ก็เท่านั้นเมื่อสาวน้อยหัวขโมยกำลังพินิจแต่เพียงเพชรประดับทองในเครื่องประดับที่อยู่บนเรือนร่าง
คาโลถอนใจเฮือกใหญ่อย่างปลงในนิสัยที่คงจะไม่มีทางแก้ให้หายตลอดชีวิตของหัวขโมยสาว ก่อนจะเรียกให้หญิงสาวเข้าไปนั่งยังโต๊ะหนังสือกลางห้องที่เขาได้จัดเตรียมไว้แล้ว “เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยก็มาทำงานกันได้แล้ว”
“ทำงาน?” หญิงสาวทวนคำ “ทำงานอะไร”
คิ้วหน้าเลิกขึ้นอย่างฉงน แต่ก็พอจะเข้าใจว่าสาวน้อยผู้นี้ทำอะไรในห้องเรียนบ้าง “ก็รายงานพันหน้าเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ของอาจารย์คิงชามัลไง.. หวังว่านายคงยังไม่ลืมนะ”
ใบหน้าหวานเหรอหรา “เอ่อ.. ไม่หรอก.. ไม่ลืมหรอกน่า” เดินไปนั่งข้างๆ เจ้าชายหนุ่มผู้ที่มักจะเป็นผู้ทำทำรายงานแทนให้เสมอ “แล้วนายทำหรือยังล่ะ”
“เสร็จแล้ว.. แต่ว่าจะเอามาอ่านทวนเผื่อแก้ไขอีกนิดหน่อย”
คำตอบที่แสนน่าหมั่นไส้ “งั้นเอามาให้ลอกหน่อยสิ”
“นายควรจะทำเอง” ชายหนุ่มตอบเป็นการเป็นงาน
แขนบางโอบร่างแกร่งไว้มั่น เนื้อเนียนขาวซุกไซร้ร่างแกร่งให้หวั่นไหว “น๊าๆ คาโล”
ใจแกร่งเต้นไม่เป็นจังหวะ.. เขาพยายามคิดถึงแต่เรื่องรายงานและบทเรียนที่จะต้องทบทวนเพื่อจะไม่ให้จิตใจต้องหวั่นไหวอีกรอบ กระนั้นแล้วหญิงสาวก็กำลังกระตุ้นราคะของเขาให้ลอยเด่นเหนือสติสัมปะชัญญะจนได้
ภาพหญิงสาวในชุดสวยก็เป็นอีกเหตุที่ทำให้เขามิอาจบังคับตนเองได้ คาโลพยายามนิ่งหากแต่หญิงสาวกลับพยายามกระแซะเข้าใกล้ ดวงหน้าหวานไซร้หน้าเข้มให้กระหายอยาก
และแล้วราตรีกาลก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า..
‘ไม่ได้นะ.. เจ้าคือเจ้าชายแห่งคาโนวาล.. ไม่ควรกระทำเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้..’ ชายหนุ่มเตือนสติตนเอง “นายควรรีบทำรายงานได้แล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองวันก็ต้องส่งงานแล้ว”
“นายก็เอามาให้ฉันลอกสิ แป๊บเดียวก็เสร็จ” หญิงสาวยังคงกระแซะต่อให้ใจหนุ่มหวิวๆ
คาโลพยายามเบือนหลบดวงหน้าหวานที่กระแซะเข้าใกล้ หากก็เหลือบเห็นผิวเนียนขาวของหัวไหล่สาวที่เผยต้องแสงไฟภายในห้อง เรื่อยไปยังเนินเนื้อที่ถูกปิดไว้โดยผ้าสไบสีสวย
ชุดผ้านุ่งผ้าสไบที่เขาคิดว่าหากสาวน้อยผู้นี้ได้สวมแล้วคงจะงามปานนางสวรรค์ กลับกระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ลุกโชน
ชายหนุ่มพยายามขยับร่างหนีให้พ้น กระนั้นแล้วสาวน้อยผู้ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นสาวก็ยังแนบกายเข้าใกล้
ราตรีอันยาวนานค่อยๆ คืบคลานต่อไปอย่างเชื่องช้า..
ปล. คิดกันเอาเองว่าคาโลจะหักห้ามใจได้ไม๊และชะตากรรมของเฟรินจะเป็นเช่นไร อุอุ**********************************************************
แถมท้ายหลังการประกวด == แผนการ และ “สิ่งนั้น” ของโรเวนปลายเท้าที่กระดิกบนเตียงนอนบอกถึงอารมณ์ที่แสนจะสำราญใจของผู้ที่กำลังนอนเอนกเป็นอันมาก โรเวนยิ้มร่ากับผลงานที่ปรากฏเมื่อป้อมอัศวินสามารถกวาดตำแหน่งนาง(นาย)สงกรานต์ทั้งสามอันดับมาครองได้เป็นผลสำเร็จ
ชายหนุ่มหวนคิดไปถึงใบหน้าบอกบุญไม่รับของสามหนุ่มนักรบราชาผู้ได้ครองตำแหน่ง เขาไม่นึกเลยว่า
แผนการที่วางไว้และ
‘สิ่งนั้น’ ที่เขาเก็บไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น..จะใช้งานได้ดีเพียงนี้
สำหรับเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล.. สิ่งที่จำเป็นสำหรับหลอกล่อคงไม่พ้นเจ้าหญิงหัวขโมยที่เห็นเงินเป็นชีวิตจิตใจ
สำหรับผู้คุมกฏขอทานหนุ่มนั้นก็ไม่ต่าง.. หัวใจหนุ่มถูกสาวน้อยหัวขโมยลักไปแล้วเช่นกัน ซึ่งมองได้จากการที่ขอทานผู้นี้ออกตัวช่วยเหลือธิดาแห่งความมืดในครั้งนั้น ครั้งเมื่อความลับของธิดาแห่งความมืดเปิดเผยออก และจากคำบอกเล่าของสหายนักบวชผู้ใต้บังคับบัญชาเมื่อครั้งสงครามศักดิ์สิทธิ์ได้ผ่านพ้นไป เจ้าหนุ่มผู้คลั่งรักยังเคยเอาตัวเข้าขวางคมมีดบินของนักบวชเพื่อปกป้องคุ้มกันไม่ให้หญิงสาวผู้นั้นได้รับอันตรายอีกด้วย..
แต่เขาก็พอจะรับรู้ถึงเสน่ห์สาวของรุ่นน้องหัวขโมยผู้ไม่สมหญิง.. เพราะแม้แต่เจ้าชายจอมเจ้าชู้แห่งซาเรสยังเกือบติดกับเสน่ห์นี้ หากไม่ใช่เพราะความสำนึกในความเป็นหญิงของสาวเจ้านั้นมีอยู่เพียงน้อยนิด บางทีเขาอาจจะใช้รุ่นน้องสาวผู้นี้เล่นงานหัวหน้าปราสาทขุนนางด้วยก็เป็นได้..
และอาจรวมถึงหนุ่มนักฆ่าจากตระกูลฟิลมัส.. นักฆ่าหนุ่มผู้เห็นความสำคัญของเพื่อน แต่เขาก็สามารถหักหลังทำร้ายเพื่อนได้.. เพียงเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายสามารถสำเร็จลุล่วง.. ฉะนั้นการหลอกล่อเจ้าหนุ่มผู้นี้ก็ควรเป็นศักดิ์ศรีแห่งตะกูลนักฆ่าที่สั่งสม
รวมถึงความท้าทายอันเป็นวิสัยของชนชาวป้อมอัศวินที่มีอยู่ในวิญญาณทายาทป้อมอัศวินทั้งหลาย จึงไม่เป็นการยากที่จะหลอกล่อเหล่าชาวป้อมอื่นๆ ให้คล้อยตาม.. ยอมเดินเข้าสู่แผนการของเขาด้วยตนเอง
แต่สำหรับนักบวชหนุ่มและหัวหน้าปราสาทขุนนางที่อาจจะไม่คล้อยตามแผนการของเขาได้.. เขาจึงต้องใช้
‘สิ่งนั้น’ สิ่งที่เขาเก็บได้จากจาก
‘ศึกชิงตัวธิดาแห่งความมืด’ ศึกที่เขาเกือบจะพร่าชีวิตของเจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาล
ในครั้งนั้น หลังจากศึกระหว่างเขาและเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาลสิ้นสุดลง แม้ว่าเขตอาคมแห่งการปกป้องของเจ้าแห่งน้ำแข็งยังคงอยู่ หากก็ใช่ว่าเขาจะไม่สามารถเดินไปช่วยเหลือสหายศึกหรือลูกน้องผู้คุมกฏคนสำคัญของเขาได้แต่สิ่งที่เขาได้พบเห็นนั้นกลับเป็นภาพที่ติดตาเขาตลอดมา.. ภาพที่เขาคิดว่าหากบันทึกเก็บไว้คงจะมีประโยชน์ในอนาคตอย่างมากมายมหาศาล ‘ภาพของเจ้าชายอาเธอร์ที่กำลังตะคองกอดจูบกับนักบวชหนุ่มแห่งป้อมอัศวิน’ภาพที่ชวนให้คิดไปในทางที่ไม่น่าจะเป็นสองหนุ่มหน้าเข้ม แต่กระนั้นเมื่อใบหน้าหน้าสองดวงที่เกือบจะแนบชิดของหัวหน้าปราสาทขุนนางโน้มตัวเข้าใกล้กับนักบวชหนุ่มผู้คุมกฎแห่งป้อมอัศวินผู้ยังสลบไสลไม่ได้สติมากยิ่งขึ้น โรเวนก็รีบบันทึกภาพเก็บไว้แทบจะในทันที เขาจะไม่มีทางพลาดฉากเด็ดของคู่แข่งคนสำคัญกับลูกน้องผู้คุมกฏคนสำคัญโดยเด็ดขาดกระนั้นแล้วด้วยสงครามศักดิ์สิทธ์ที่ตามมาหลังจากนั้นก็ทำให้เขาหลงลืมสิ่งนั้นไป กระทั่งบัดนี้.. เขาค้นเจอภาพที่ซุกซ่อนเก็บไว้นั้นขึ้นมาโดยบังเอิญ และก็ภาพนั้นเองที่ทำให้ป้อมอัศวินสามารถกวาดรางวัลมาได้ทั้งหมดในครั้งนี้มือกร้านหยิบภาพที่วางไว้ข้างตัวขึ้นมองอีกครา เขาได้ก๊อปปี้ภาพนี้มอบให้คู่กรณีทั้งสองหลังจากสิ้นสุดการประกวดแล้ว แต่กระนั้นภาพต้นฉบับก็ยังอยู่ที่เขา.. เขายังสามารถใช้ประโยชน์จากภาพทั้งสองนี้ได้อีกอย่างแน่นอน.. ไม่ช้าก็เร็ว..
ปล. ชะตากรรมของลอรี่กับอาธี่จะเป็นเช่นไร ความม่วงกำลังลอยเข้าหาแล้ว..**********************************************************
แถมท้ายหลังการประกวด == ชายทะเลของเหล่าชาวป้อมอัศวินสภาพชายทะเลที่เปลี่ยวเหงาเหมือนร้างผู้คนมานานปรากฏขึ้นในสายตาเหล่านักรบราชา ชาวป้อมอัศวินมองภาพเบื้องหน้าด้วยความรันทดอย่างที่สุด พวกเขาไม่ควรเชื่อน้ำคำของเจ้าชายเสนาธิการฝ่ายซ้ายแห่งป้อมอัศวินเสียจริง..
เป็นจริงดังคำของท่านเสนาธิการจอมเจ้าเล่ห์เกี่ยวกับวันหยุดพิเศษและเที่ยวชายทะเลของเหล่าชาวป้อมอัศวิน หากแต่นั้นก็คือวันหยุดพิเศษของโรงเรียนพระราชาเช่นกัน..
วันหยุดที่เกิดขึ้นเพราะงานเทศกาลสงกรานต์ และการเที่ยวทะเลฟรีที่มาจากคำเชิญจากเจ้าของปราสาทเก่าแห่งหนึ่งในสกอร์ปิโอ ที่เชิญนักเรียนทั้งโรงเรียนให้ไปพักผ่อนเล่นน้ำทะเล ก่อนจะทำการดัดแปลงภายในปราสาทให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเล..
ปราสาทร้างที่ปลูกสร้างอยู่ติดกับบริเวณชายหาดอันแสนรกร้างนี้..
“เอ้า!! อย่ามัวยืนเฉยสิ.. เอาเข้าของเข้าไปเก็บในห้องพักได้แล้ว” เสียงเข้มของหัวหน้าปราสาทขุนนางที่ดูแลในเรื่องการเดินทางเร่งให้เหล่านักรบราชาขนเข้าของเข้าสู่ตัวปราสาทอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศภายในปราสาทดูวังเวงน่ากลัว หากแต่เมื่อคราคล่ำไปด้วยเหล่านักเรียนแห่งโรงเรียนพระราชา ปราสาทหลังนี้กลับดูสว่างไสวได้ในพริบตา
เสียงเข้มของหัวหน้าแผ่นดินประชาชนผู้ดูแลเรื่องสถานที่พักดังเรียกให้ทุกคนตั้งใจฟัง “ผู้หญิงจะพักอยู่ทางปีกตะวันออก ส่วนกลุ่มผู้ชายพักอยู่ทางปีด้านตะวันตก รายละเอียดการแบ่งห้องพักจะติดประกาศอยู่ที่นี่ ให้เข้ามาดูแลรับกุญแจห้องกันได้”
นักเรียนใหญ่น้อยจับกลุ่มเพื่อนร่วมห้องพักทยอยรับกุญแจพร้อมเข้าสู่ห้องพักของตนเองทันที
“ฉันอยู่กับพวกแองจี้หรือเนี่ย.. ตั้งสี่คนจะอัดเข้าไปในห้องได้ไม๊เนี่ย” เฟรินบ่น
“อย่าเพิ่งบ่นเลยน่า..” คิลกล่าวเรียบๆ “โรเวนเรียกรวมพลชาวป้อมอัศวินแล้วนะ”
เฟรินทำหน้าบูด หากแต่ก็ตามเพื่อนรักไปฟังหน้าที่ของพลพรรคป้อมอัศวินจากท่านเสนาธิการทันที
“ป้อมอัศวินรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัย.. เราจะแบ่งเวรยามกันเป็นสามกลุ่ม คือภายในปราสาท ภายนอกปราสาท และชายทะเล ตามแผนผังนี้นะ” ว่าแล้วท่านเสนาธิการคนเก่งก็แจกผังเวรยามให้เหล่าพลพรรคป้อมอัศวินดู “หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว เวรยามในช่วงเวลานี้ให้มารายงานตัวที่นี่และเริ่มปฏิบัติงานได้ทันที”
“ฉันคู่กับโรงั้นหรือ.. เวรกลางคืน.. บริเวณชายหาด..” เฟรินจ้องมองผังเวรยามก่อนจะส่งเสียงร้องวี๊ดว๊าย “ว๊าว!! บรรยากาศโรแมนติกชมัดเลย!!”
นายขอทานคู่หูเฝ้ายามมองหน้าสาวน้อยด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย หากแต่ดวงใจกลับเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ข้อเสนอของท่านเสนาธิการฝ่ายซ้ายดังก้องขึ้นในศรีษะอันชาญฉลาดอีกครั้ง
“หากนายไม่ถอนตัว วันหยุดพิเศษที่จะมีขึ้นฉันจะให้นายได้เที่ยวกับเฟรินตามลำพัง”ตามลำพังของท่านเสธคงหมายถึงสิ่งนี้กระมัง.. ชายหนุ่มถอนใจน้อยๆ หากแต่อดสุขใจกับความคิดที่ว่าบรรยากาศโรแมนติกไม่ได้
ภาพสาวน้อยที่เห็นดีเห็นงามกับการแบ่งผังเวรยามของท่านเสนาธิการสร้างความขุ่นใจแก่เจ้าชายนักรักเป็นอันมาก.. เขาไม่พอใจนักกับการแบ่งงานเช่นนี้ กระนั้นแล้วเขาเองก็มีหน้าหน้าอื่นที่ต้องกระทำเช่นกัน
โรเวนมอบหมายให้เขาเป็นผู้ดูแลบริเวณดาดฟ้าของปราสาทร่วมกับทายาทนักฆ่าแห่งซาเรสและสองผู้คุมกฎนักบวชซาตาน บริเวณที่เขาต้องรับผิดชอบนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพราะสามารถเห็นบริเวณโดยรอบได้อย่างถนัดตา ซึ่งเขาก็แอบหวังว่าจะได้เห็นหญิงสาวสุดที่รักที่ถูกจัดให้เดินยามกับหนุ่มขอทานปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย
แสงอาทิตย์สุดท้ายหายลับไปกับผืนน้ำอันกว้างใหญ่เหมือนกลืนความทุกข์โศกหายลับไปด้วย กระนั้นแล้วความกังวลของนักบวชแห่งปัอมอัศวินก็มิได้จางหาย ลอเรนซ์ยืนนิ่งอยู่บนดาดฟ้าของปราสาทเพื่อเฝ้าระวังภัยตามคำสั่งที่ได้รับ ในประหวั่นนึกถึงเพียงคำพูดของคู่หูซาตาน..
“ฉันว่านายกลัวสิ่งที่โรเวนขู่ไว้มากกว่า ไม่งั้นคงไม่มายืนอยู่ที่นี่หรอก”คำพูดที่เหมือนบอกให้รู้ว่าผู้พูดรู้เรื่อง ‘สิ่งนั้น’ สิ่งที่สร้างความอับอายให้แก่ชีวิตนักบวชอย่างสุดซึ้ง ทั้งที่เขาไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับภาพนั้น ทั้งที่เขาไม่เคยเป็นดั่งเช่นที่ภาพนั้นแสดงออก.. กระนั้นแล้วหากมีใครเห็นภาพนั้นเข้า.. คงต้องมีการเข้าใจผิดเป็นแน่..
แล้วหากเจ้านายซาตานหน้าเป็นนั่นเห็นเข้า จะเข้าใจผิดด้วยหรือไม่..ชายหนุ่มถอนใจออกอีกครั้งอย่างรำคาญใจ ใจนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่เป็นสาเหตุแห่งความอดสูในชีวิตนักบวชศักดิ์สิทธิ์แห่งแอเรียส
“.. เรนซ์..”“..ลอเรนซ์..”เสียงทุ้มที่แม้จะไม่ชื่นชอบนัก หากก็คุ้นหูจากที่เข้าร่วมประชุมสมาชิกสภาสูงบ่อยครั้ง ชายหนุ่มเจ้าของฉายานักบวชหน้าบูดแห่งป้อมอัศวินค่อยๆ ปรือตารับแสงสีขาวกระจ่างจากเขตแดนแห่งเจ้าชายหิมะก่อนจะสบเข้ากับดวงหน้าเข้มที่อยู่ไม่ห่างนักของเจ้าชายหนุ่มใจสิงห์แห่งซาเรสนัยน์ตาสวยเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนจะผละร่างออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นในบัดดล“ทะ.. ท่านจะทำอะไร.. ท่านอาเธอร์!!” กระชับมีดบินอันแสนคมกริบมั่นดวงหน้าเข้มฉายแววฉงน “ทำอะไร.. นายหมายถึงทำอะไรล่ะ..” หัวหน้าปราสาทขุนนางย้อนถาม “ฉันเห็นว่าสลบไปจากการต่อสู้กับพวกเฟรินก็จึงเข้ามาช่วย นายคิดว่าฉันจะทำอะไรงั้นหรือ”นักบวชหนุ่มนิ่งงัน สมองใสหวนคิดถึงการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านพ้น “ใช่.. ฉันกำลังร่ายคำภีร์มนต์สวรรค์ใส่เฟรินพร้อมกับผ่าปฐพีที่มุ่งตรงมาด้านหน้า..” ลอเรนซ์หันสบดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มเบื้องหน้า “งั้นท่านก็คงกำจัดธิดาแห่งความมืดและพรรคพวกเรียบร้อยแล้วสิ.. ทั้งที่ได้รับคำสั่งให้ประจำการอยู่บริเวณชายป่าอีกด้านแท้ๆ ยังอุตส่าห์ข้ามฟากมาช่วยเหลือบริเวณด้านนี้ ช่างน่าชื่นชมจริงนะ..”“หึ.. จะให้อยู่ทางด้านโน้นเพื่ออะไรล่ะ ในเมื่อพวกนั้นผ่านออกมาทางบริเวณนี้แล้ว” นักรบใจสิงห์ตอบต่ออย่างไม่ยี่ระ “แต่ฉันก็ยังยึดมั่นในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนะ.. ฉันวางเขตอาคมในบริเวณนั้นก่อนถึงได้ออกมาทางนี้” รอยยิ้มละมัยปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเข้ม “ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดียิ่ง.. ที่มาทันเห็นภาพการต่อสู้เมื่อครู่.. การต่อสู้ที่รุ่นพี่เสียทีพ่ายแพ้ให้แก่รุ่นน้องปีสองป้อมเดียวกัน..”ดวงหน้าขาวกระจ่างของนักบวชแห่งแอเรียสร้อนระอุจนแทบจะระเบิด ชายหนุ่มสุดแสนจะโมโหที่ได้รับคำหมิ่นประมาท กระนั้นแล้วเขาเองก็ยอมรับถึงความประมาทของตนเองที่ประเมินฝีมือของหัวขโมยสาวว่าเป็นเพียงรุ่นน้องปีสอง เขาลืมคิดไปว่าเจ้าหล่อนคือธิดาแห่งความมืด ธิดาคนเดียวของเจ้าปีศาจแห่งเดมอส รวมถึงอานุภาพของดาบวิเศษในมือ ดาบที่ผ่าปฐพีแยกดินแดนเอเดนและเดมอสออกจากกันมาแล้วเขาจะต้องหาทางแก้มือกับเจ้าหล่อนอีกครั้งเพื่อกู้เอาศักดิ์ศรีที่สูญไปนี้กลับคืนมาให้ได้..ลอเรนซ์หันหลังเดินออกจากบริเวณนั้นด้วยใจที่มุ่งมั่น เขายอมรับความเป็นจริงที่ถูกสบประมาทโดยหัวหน้าปราสาทขุนนางอย่างโดยดี..ความเจ็บปวดในครั้งนั้นแม้บัดนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำท่านเสธเจ้าชายแห่งเจมิไนยังตอกย้ำซ้ำเติมเขาด้วยรูปถ่ายอันแสนชวนขนลุกที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น.. ภาพแห่งความอัปยศในชีวิตนักบวชศักดิ์สิทธิ์..
ความอัปยศที่ไม่ควรเกิดขึ้น.. มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก..
โรเวนสัญญาจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ หากเขายินยอมเข้าร่วมการประกวดที่แสนอดสูนั่น..
เขาจะไม่ยอมให้ใครอื่นได้ล่วงรู้ความลับของเขาอีกเป็นอันขาด..
หากแต่เจ้าซาตานนั่น.. เจ้าซาตานที่ยังคงทำหน้าระรื่น.. เจ้าซาตานที่เฉไฉเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเหมือนนกรู้ยามที่เขาลองเลียบเคียงถาม.. เจ้าซาตานที่เหมือนจะล่วงรู้ความลับของเขาเข้าอีกคนหนึ่ง..
เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี..ขณะที่นักบวชหนุ่มกำลังอยู่ในภวังค์แห่งความคิดของตนเอง อีกด้านหนึ่งของดาดฟ้าปราสาท ซึ่งเป็นจุดรักษาการณ์เฝ้าระวังภัยของเจ้าชายหนุ่มแห่งคาโนวาลผู้ซึ่งไม่อาจสงบใจนิ่งในขณะนี้ได้
เขาคิดถึงเพียงหัวขโมยสาวสุดที่รักของเขาที่ต้องเดินยามร่วมกับนายขอทานผู้ที่เขารู้ว่ามีใจให้เจ้าหล่อนไม่มากก็น้อยเพียงลำพังบนหาดทรายงามยามค่ำคืนอันแสนโรแมนติก.. คาโลพยายามสลัดความคิดนี้ออกจากมโนสำนึก เขาพยายามจดจ่ออยู่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มงวด กระนั้นแล้วก็เป็นการยากเหลือเกินที่เขาจะสลัดความคิดนี้ออกไปได้..
“คาลี่” เสียงเรียกจากรุ่นพี่ซาตานดังให้เจ้าชายนักรักต้องสะดุ้ง “มัวยืนคิดอะไรคนเดียวหรือ..”
เจ้าของชื่อที่ถูกแผลงหันกลับไปทางต้นเสียงที่ได้ยิน เห็นรุ่นพี่ซาตานร่วมป้อมพร้อมนักฆ่าหนุ่มเพื่อนสนิทกำลังเดินมาทางด้านที่เขาต้องรับผิดชอบ นัยน์ตาสีฟ้าสวยสบดวงตาสองสีที่แสนระรื่นของสองหนุ่มไปมาอย่างแปลกใจ “พี่กับคิลมาทำอะไรกันตรงนี้ บริเวณนี้เป็นจุดรักษาการณ์ของผมไม่ใช่หรือ..”
ซาตานหนุ่มยิ้มรับกับความแข็งขันของสหายรุ่นน้อง “อย่าซีเรียสนักเลยคาลี่.. ที่นี่ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก” ก่อนจะไปทางรุ่นน้องนักฆ่าที่เดินเคียงกันมา “ตอนนี้เรามาเที่ยวกัน ฉะนั้นต้องสนุกเข้าไว้.. จริงไม๊คิลลี่”
ยิ้มกว้างของนักฆ่าหนุ่มคือคำตอบ โดยนิสัยของนายคิลมัส.. เขาเองก็ไม่ค่อยจริงจังอะไรกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนัก เขายังคิดถึงขั้นที่จะแอบลงไปนอนในห้องพักเพียงลำพังด้วยคิดว่าเพื่อนเจ้าชายคงไม่แอบลงไปพร้อมกับตนเป็นแน่ แต่ก่อนที่เขาจะได้กระทำสิ่งใด.. รุ่นพี่ซาตานกลับพาเขามาทางนี้เสียก่อน..
คาโลพอจะเข้าใจเจตนาและความต้องการของสองหนุ่มขี้เล่น หากแต่ก็ไม่คิดจะเล่นตามเกมส์ใดๆ ทั้งนั้น เลือดขัตติยะแห่งแดนนักรบบ่มเพาะให้ชายหนุ่มยึดมั่นในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเหนือสิ่งอื่นใด
เขายังคงยืนนิ่ง.. นัยน์ตาคู่สวยทอดกวาดมองไปยังเบื้องล่างที่บัดนี้มืดสนิท คงเห็นเพียงแสงตะเกียงเป็นจุดๆ ที่จุดไว้มอบแสงสว่างให้แก่นักรบราชาที่มาเที่ยวในครั้งนี้..
“อืม..” เสียงซาตานดังขึ้นอีกครั้ง “แถวนี้มืดจริงๆ แฮะ..” นัยน์ตาสีดำมองทอดออกไปเบื้องหน้า “แต่มองทะเลจากจุดนี้สวยจริงๆ นะ เห็นคลื่นน้ำสะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายเลย”
เสียงของซาตานลากนัยน์ตาสีฟ้าให้มองตามทาง เขาเห็นประกายงามของน้ำที่ส่องระยิบ และบริเวณนั้นเองที่เขาเห็นแสงตะเกียงเล็กๆ จุดนึงค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ
“ตรงนั้นพวกเฟรี่ต้องเดินยามใช่หรือเปล่า..” เสียงซาตานหนุ่มยังคงดังอย่างต่อเนื่อง “อืม.. เฟรี่อยู่ยามคู่กับโรรี่สินะ”
‘ใช่.. เฟรินของเขาเดินยามคู่กับเจ้าขอทานกำมะลอนั้น..’ เจ้าชายหนุ่มคิดตาม ‘เจ้าขอทานที่เขารู้ว่าต้องมีใจให้คนของเขาไม่มากก็น้อย’ความคิดหนุ่มลอยไปถึงครั้งเมื่ออยู่ปีหนึ่ง เขากับนายขอทานนั่นเกือบจะมีเรื่องทะเลาะกันเพราะไข่มุกแสงจันทร์ที่ประดับบนคอระหงของสาวน้อย เฟรินที่แม้จะไม่สวยสุด หากแต่ก็เด่นสะดุดตา นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ทอประกายแสนเจิดจรัส ขนตาที่ยาวงอนงาม เรือนผมที่นุ่มลื่นแม้เจ้าตัวจะไม่ค่อยใส่ใจดูแลนัก..
เฟรินของเขา.. เจ้าหญิงเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจของเขา..“หืม!!” เสียงอุทานเบาๆ จากรุ่นพี่ซาตานดึงความสนใจของเจ้าชายหนุ่มอีกครั้ง “แสงไฟหายไปแล้ว..”
นัยน์ตาสีฟ้าสวยจ้องไปยังหาดทรายท่ามกลางความมืดมิด แสงตะเกียงจุดเล็กๆ ที่ควรจะเห็นอันตรธานหายไปเหมือนไม่เคยมีในบริเวณนั้น ความกังวลเริ่มจับใจหนุ่มนักรักในบัดดล..
‘เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น.. เฟริน!!..’นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววสับสนให้เห็นชัด ชายหนุ่มแสนห่วงสาวคนรักที่ต้องเดินยามบริเวณหาดทรายที่มืดมิด กระนั้นแล้วหน้าที่ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายก็ยังคงอยู่ตรงหน้า..
รอยยิ้มกระจ่างที่มักระบายอยู่บนดวงหน้าเข้มกระตุกขึ้นเพียงนิดก่อนจะกลับสู่สภาพที่ควรจะเป็น..
“ลงไปหาเฟรี่ที่ชายหาดกับคิลลี่ก็ได้นะ.. คาลี่”
คำเปิดทางของรุ่นพี่ซาตานเรียกสองหนุ่มรุ่นน้องให้หันสบ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องตอบอย่างสงสัยในขณะที่นัยน์ตาสีม่วงกลับระริกอย่างถูกใจ
“พี่เองก็เป็นห่วงเฟรี่เหมือนกัน” นัยน์ตาสีดำสงบนิ่ง “หากมีคนร้ายจริง.. แค่โรรี่คนเดียวคงปกป้องเฟรี่ได้ไม่นานหรอก” นัยน์ตาสีฟ้าสวยไหววูบกังวลอยู่ในที “ทางนี้พี่กับลอรี่ดูแลกันได้อยู่แล้ว..ไม่ต้องห่วงหรอก”
คาโลจ้องมองดวงหน้าระรื่นของซาตานหนุ่มรุ่นพี่ชั่วอึดใจ ความสามารถของสองรุ่นพี่ผู้คุมกฏประจักษ์ชัดอยู่ห้วงคำนึง.. ลมหายใจถูกผ่อนออกช้าๆ พร้อมนัยน์ตาที่ส่องตรงไปบริเวณชายหาดที่มืดมิดอีกครั้ง..
หน้าที่และความรัก.. สิ่งที่เขาควรเลือก..
To Be Continue...**********************************************************
ประกาศ (ฉบับที่ 6)ประกาศรายชื่อ 10 อันดับแรกของการประกวด นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก
จากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ 97 ราย (120 โพสต์ 97 โหวต)
1. คาโล วาเนบลี รวมได้ 145 คะแนน
2. คิล ฟิลมัส รวมได้ 133 คะแนน
3. ลอเรนซ์ ดอร์น รวมได้ 98 คะแนน
4. ลูคัส ซาโดเรีย รวมได้ 47 คะแนน
5. โร เซวาเรส รวมได้ 41 คะแนน
6. โรเวน ฮาเวิร์ด รวมได้ 34 คะแนน
7. ซีบิล สเวน รวมได้ 28 คะแนน
8. กัส โทนีย่า รวมได้ 14 คะแนน
9. อาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น รวมได้ 11 คะแนน
10. ครี๊ด ธันเดอร์ รวมได้ 8 คะแนน
คณะผู้จัดงาน(คณะกรรมการการศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก)
**********************************************************
27/5/2550
อัพ อัพ อัพ แล้วจ้า
แต่ยังไม่จบนะ ฮิฮิ
16/5/2550
มาอัพชายทะเลของเหล่าชาวป้อมอัศวินแล้วจ้า
คราวนี้มาพร้อมกับคำสัญญาที่ท่านเสธจอมเจ้าเล่ห์สัญญาไว้กับชาวป้อมทั้งหลาย
แล้วสัญญาพิเศษของแต่ละคนละ..
~~ยังไม่จบน๊า~~ ยังมีปัญหาที่แก้ไม่ตกของลอรี่จังอีก แล้วจะรีบมาต่อให้นะจ๊ะ
7/5/2550ประกาศ (ฉบับที่ 6)
ประกาศรายชื่อ 10 อันดับแรกของการประกวด นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก6/5/2550
เผยโฉม "แผนการ" และ "สิ่งนั้น" ของโรวี่แล้วจ้า สำหรับตอนต่อไป จะเป็นชะตากรรมของชาวป้อมกับการไปเที่ยวชายทะเลช่วงสงกรานต์
ปล. มีใครอยากรู้ว่าลูคัสรู้เรื่อง "สิ่งนั้น" ของลอรี่ไม๊ กรุณายกมือขึ้น......
2/5/2550
มาต่อ แถมท้ายหลังการประกวด == คาโล(นาง(นาย)สงกรานต์) x เฟริน ให้แล้วจ้า
สำหรับใครอยากรู้ว่า "สิ่งนั้น" ของโรเวนคืออะไร อะไรที่ทำให้ลอรี่กะอาธี่ไม่กล้าหือ
กรุณารอต่อไป ()
1/5/2550
ประกาศผลการประกวด นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์ก
29/4/2550
อีกเพียง 6 โหวตเท่านั้นจะครบ 100 โหวตแล้ว
โค้งสุดท้ายใกล้เข้ามา
ใครจะได้ครองตำแหน่งนาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบิร์กในครั้งนี้
28/4/2550
อัพเดทคะแนนรวม 113 โพสต์ 92 โหวต
ประกาศ : ด้วยปรากฏว่ามีผู้ชมส่งผลโหวตมาหลายครั้งโดยจงใจ
ซึ่งเมื่อตรวจพบจะทำการลงโพสต์นั้นออกทั้งหมดในทันที
หวังว่าสาวกบารามอสทั้งหลายจะมีความบริสุทธิ์ใจในการโหวตให้คะแนน นาง(นาย)สงกรานต์ในครั้งนี้
27/4/2550 (รอบสอง)
หมดหลังเวทีของ โรวี่ x อาธี่ ก็ต่อด้วย โรรี่ x คิลลี่ x ชาวป้อมอัศวินผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหลาย
และอีกแค่สามวันเท่านั้น.. ประกาศผลการโหวต นาง(นาย)สงกรานต์แห่งเอดินเบริ์ก
27/4/2550
อัพเดทคะแนนรวม 100 โพสต์ 86 โหวต
ปรากฏผลว่าคาโลยังนำ คิลน้อยตามติด ลอรี่ยังรั้งอันดับสามไว้เหนียวแน่น
แล้วผลสุดท้ายใครจะเป็นผู้เข้าวิน
อีกแค่ 14 โหวต เท่านั้น (หรือ 3 วันเท่านั้น)
25/4/2550
อัพเดทคะแนนรวม 88 โพสต์แล้วจ้า
โค้งสุดท้ายแล้วน๊า รีบๆ โหวตคะแนนกันเข้ามาเลย เหล่าสาวกบารามอสทั้งหลาย
ดูกันสิว่าคู่ชิงดำระหว่าง
คาโล วาเนบลี และ คิล ฟิลมัส
ใครจะได้รับตำแหน่ง
นาง (นาย) สงกรานต์ประจำเอดินเบิร์ก
23/4/2550
โอ้ คราวก่อนที่อัพ ลอรี่xลูคัส เค้าลืมเม้มตรงนี้ไปหรือเนี่ย
มะเป็นไรเน้อ 55+
เอาเป็นว่าต่อ โรวี่xอาธี่ ให้ติ๊ดนึง (แล้วจะรู้ว่าท่านเสธแห่งป้อมอัศวินร้ายเพียงใด)
พร้อมกับอัพเดทคะแนนรวม 79 โพสต์ แล้วจ้า
17/4/2550 (รอบสอง)
มาปิดประกาศฉบัยที่ 5 จ้า
พร้อมกับอัพเดทคะแนนรวม 48 โพสต์
17/4/2550
ไม่ได้อัพฉากหลังเวทีน๊า แค่มาอัพเดทคะแนนรวมเฉยๆ
สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ลงคะแนน ไม่ต้องกลัวช้านะจ๊ะ
เราจะจัดเก็บคะแนนจากกรรมการ 50 ท่านแรก (จากประมาณ 50 โพสต์อะ)
หรือหากไม่ครบจะตัดปิดวันที่ 30/4/2550
ฉะนั้น ยังสามารถโพสต์คะแนนเข้ามาได้เรื่อยๆ จ้า
15/4/2550
มาต่อหลังเวที(1) == กรณี เฟริน x คาโล ให้แล้วจ้า
ช่วงวันหยุดนี้คงไม่ค่อยได้เข้ามาดูน๊า เพราะเราต่อเน็ตที่บ้านไม่ได้
ดังนั้นอย่าลืมเข้ามาให้คะแนนนาง(นาย)สงกรานต์ทั้งหลายด้วยนะจ๊ะ
ปล. เล่นน้ำดีๆ ระวังอย่าไปสาดคนที่เขาต้องออกไปธุระล่ะ เขาจะว่าเอาน๊า
ปล2. ขอบคุณสำหรับนามสกุลของทิวดอร์จ้า (เราไปเอามาจากเว็บซันทรีอะ จำมะได้ มะได้เปิดไกด์บุกส์ดูด้วย)
12/4/2550เดี๋ยวมาต่อหลังเวทีให้ ฮิฮิ (แต่กี่เดี๋ยวไม่รู้น๊า กำลังจิ้น)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น