ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #4 : \"ผมอยู่ในโปรแกรม\" คำพูดฮิตติดปาก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.65K
      4
      22 มี.ค. 48





                                      หมายเหตุ       เขียนวันที่ 22 มี.ค. 48   หนัก 88.7 กิโลกรัม



                                      พอเดินขึ้นมาถึงชั้น 3 และเข้าไปในห้องทำงาน ผมก็เห็นโหลขนมปังต่างๆวางอยู่เต็มไปหมด ผมก็เดินผ่านไปเฉยๆแล้วก็มานั่งที่โต๊ะ คำถามแรกที่เพื่อนโต๊ะข้างๆถามคือ \"วันนี้ไม่มีขนมปังทาเนยกับโค้กติดมาเหรอ\" ผมตอบไปว่า \"วันนี้ไม่มีหรอก เพราะเรากำลังอยู่ในโปรแกรม\" เขาทำหน้างงๆ \"โปรแกรมอะไรเหรอ\" ผมตอบกลับไปว่า \"ก็โปรแกรมลดน้ำหนักไง\" เขาก็ยิ่งงงหนัก \"แล้วจะมาลดอะไรกันตอนนี้\"  ผมก็เลยสวนกลับไปว่า \"ก็อยากลดตอนนี้แหละ คิดว่าสมควรแก่เวลาแล้ว\" เขาพูดว่า \"อืม...ก็ดีนะ\" แล้วเขาก็ไม่มีอะไรจะสนทนากับผมอีก



                                      ผ่านไปสักพัก ก็มีคนหยิบขนมปังสับปะรดมากองไว้ที่โต๊ะผม ผมยังไม่ได้หยิบสักชิ้น เพื่อนโต๊ะข้างๆก็พูดขึ้นก่อน \"เอาไปเลยนะขนมพวกนั้นน่ะหรือว่าจะเอามาไว้ที่โต๊ะพี่แทนก็ได้ ไม่รู้หรือไงว่าเขากำลังเข้าโปรมแกรมลดน้ำหนักอยู่\" ผมนึกในใจว่าได้ผลแฮะ ตอนนี้ผมสร้างคนที่จะคอยเตือนแทนให้แล้ว ข่าวเรื่องที่ว่าผมอยู่ในโปรแกรมก็แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ จนแถวนั้นเขารู้กันหมด บางคนบอกว่าทำได้ บางคนก็บอกว่าผมทำไม่ได้หรอก บางคนพนันขันต่อกันก็มี ก็สนุกกันใหญ่ล่ะครับงานนี้



                                      ช่วงก่อนเที่ยงมีรุ่นน้องมาถามผมว่า \"พี่เอาเค้กไหมคะ เดี๋ยวลงไปข้างล่างจะซื้อมาฝาก\" ผมเงยหน้ามองเขา ยังไม่ทันจะพูดอะไรออกไป รุ่นน้องคนนั้นก็พูดขึ้นว่า \"อืม...ลืมไปค่ะว่าพี่อยู่ในโปรแกรม งั้นก็คงกินไม่ได้\" แล้วเขาก็เดินจากไป ผมก็ได้คนที่คอยช่วยควบคุมเพิ่มมากขึ้น และมันก็จะเป็นหยั่งงี้ไปเรื่อยๆ สรุปว่าสถานการณ์ตอนนี้คือทุกคนทราบหมดแล้ว และทุกคนก็เหมือนจะคอยควบคุมให้ผมอยู่ในโปรแกรมโดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ตัว แต่ถ้ามีคนไหนที่ไม่ช่วยควบคุมมาชวนผมกินนั่นกินนี่ ผมก็จะบอกพวกเขาไปว่า \"ผมอยู่ในโปรแกรมครับผม\" ก็เป็นอันเข้าใจกัน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมอาจจะบอกแค่ว่า \"ไม่หรอกครับ ผมกำลังลดความอ้วน\" เพื่อนๆก็จะตอบกลับมาว่า \"ลดอะไรกัน อ้วนจนป่านนี้แล้ว กินๆไปเหอะ\" แล้วผมก็จะใจอ่อนกินเข้าไป แต่พอบอกว่า\"กำลังอยู่ในโปรแกรม\"ทุกคนดูท่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี และมันก็ทำให้การลดน้ำหนักของผมง่ายขึ้น



                                      พอถึงตอนเที่ยงก็นับว่าเป็นช่วงเวลาของการพิสูจน์ที่สำคัญ เพราะพวกเราจะไปกินข้าวกันเป็นกลุ่มประมาณ 6 คนเป็นอย่างน้อย พอถึงตอนนี้ที่จะต้องกินข้าวด้วยกัน ก็มีเพื่อนบางคนเห็นผมมีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนแปลงไปก็เลยซื้อข้าวมากินยั่ว ขณะที่ผมยังใช้เมนูเดิมคือ เกาเหลาโฟกับน้ำหนึ่งขวด เพื่อนก็ซื้อพวกข้าวผัดอเมริกัน ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูมากินยั่วผม กินไปกินมาก็พึมพำออกมาว่า \"ไก่นุ่มมาก น่ากินจังเลย หอมอร่อย\" แล้วเขาก็หันมาถามผมว่า \"กินข้าวมันไก่ด้วยกันไหม ซื้อมาเผื่อนะเนี่ย\" ผมนึกการพูดแบบหนึ่งได้เดี๋ยวนั้น จึงพูดกลับไปว่า \"คงไม่หรอก ข้าวมันไก่เนี่ยเรากินมาทั้งชีวิตเลย รู้สึกว่ามันจะประมาณ 6000 จานได้แล้วมั้ง คิดว่าต้องพักบ้าง กินมาเยอะแล้ว เบื่อแล้วล่ะ อยากหันมากินเกาเหลาโฟดูบ้าง เพราะไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่\"



                                      เพื่อนผมก็พยักหน้าเป็นเข้าใจแล้วเขาก็หันไปกินข้าวมันไก่ของเขาต่อ ผมเลยมาคิดถึงเทคนิคที่ใช้ในวันนั้นได้ ผมคิดเอาเองว่า อะไรที่มีคาลอรี่สูงและเราอยากกินนั้น ควรคิดแบบว่าเรากินมันมาเยอะแล้ว ควรเปลี่ยนไปกินอาหารแบบอื่นบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสันและมีรสชาติมากขึ้น อย่างไก่ kfc ผมก็กินมาหลายพันชิ้นแล้ว ควรจะหยุดซะที  และยังมีอาหารอื่นๆอีกเยอะ ข้าวขาหมู 3400 จาน บะหมี่น้ำสองก้อน 7000กว่าจาน ข้าวผัดไข่ดาวเกือบหมื่นจาน สเต๊กไก่ 3000 จาน พิซซาประมาณ 25000 ชิ้น  ผัดซีอิ้วเกือบ 6000 จาน โอย...มันเยอะมากจริงๆเลย พอคิดได้อย่างนี้ ผมก็ได้เกราะป้องกันมาอีกหนึ่งเทคนิค และมันก็เป็นวิธีคิดที่ใช้ได้ และมันก็เป็นไปตามนั้น อาหารคาลอรี่สูงทุกแขนงนี้ ผมเคยกินมาหมดแล้วและรู้ซึ้งถึงรสชาติของมันเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น มันคงไม่มีอะไรให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว เพราะเท่าที่กินมามันก็มากพอแล้ว



                                     เวลาล่วงเลยมาถึงมื้อเย็น ผมก็ไปร้านเดิมที่เคยกินทุกวัน เพราะผมชอบบรรยากาศของร้านนี้มาก ทุกครั้งผมจะสั่งประมาณว่า ลาบไก่ 1 กับข้าวเปล่า 2 หรือไม่ก็ ข้าวผัดเสฉวนกับม่าม่าต้มยำ แต่คราวนี้หลังจากดูเมนูอยู่นานผมจึงเอ่ยปากสั่งไปว่า \"เอาส้มตำแครอท แล้วก็ขอผักแกล้มเยอะๆนะครับ\" พนักงานเสริพก็ทำหน้างงๆ ผมก็ย้ำอีกทีว่า \"เอาตามนั้นแหละครับ\" แล้วเธอก็จากไป สรุปว่าวันนี้ผมเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยมื้อเช้าและกลางวันกินเกาเหลาโฟกับน้ำเปล่า ส่วนมื้อเย็นผมกินส้มตำแครอทกับน้ำเปล่า แล้วผมก็กลับบ้านไปชั่งน้ำหนักเย็นนั้นปรากฏว่าผมหนัก 106.5 กิโลกรัม



                                    แล้วผมก็พบสูตรการกินอาหารโดยเน้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทั้ง 3 มื้อโดยที่ยังไม่ต้องออกกำลังกายอะไรเพิ่มเติม ผมก็สามารถลดน้ำหนักได้วันละประมาณ ครึ่งกิโลฯ



      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×