ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #3 : ก้าวแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.36K
      2
      22 มี.ค. 48







                           หมายเหตุ   เขียนวันที่ 22 มี.ค. 48   หนัก 88.7 กิโลกรัม





                           ผมยังจำวันแรกของการเริ่มปฏิบัติการได้ดี มันเป็นวันอังคารที่ 1 ก.พ. 48 ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนผมจะแต่งตัวออกจากบ้าน ผมก็รีบไปชั่งน้ำหนักก่อน ตรงตาชั่งขึ้นว่า 107 กิโลกรัม โอเค 107ก็107 เดี๋ยวดูซิว่าถ้าเข้าโปรแกรมวันนี้ ตอนเย็นจะเหลือสักเท่าไหร่



                           วันนั้นผมไปทำงานแต่เช้า ถ้าเป็นวันก่อนๆ มื้อเช้าของผมจะต้องประกอบไปด้วยการเดินไปซื้อขนมปังทาเนย 2 แผ่น แล้วก็ต่อด้วยไปนั่งกินข้าวแกงกับสองอย่าง 1 จาน หลังจากนั้นก็แวะซื้อน้ำอัดลม 2 กระป๋องเพื่อเอาขึ้นไปกินกับขนมปังทาเนยที่โต๊ะทำงาน นั่นล่ะครับมื้อเช้าของผมที่ผมปฏิบัติมาเป็นแรมปี แต่วันนี้มันจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป



                           พอผมลงจากรถ กำลังจะเดินตรงเข้าที่ทำงาน ร้านแรกที่ผมต้องผ่านก่อนเลยคือ ร้านขนมปังทาเนย แต่วันนี้ผมจะเปลี่ยนพฤติกรรมการกินแล้ว คงจะต้องบอกเขาไปตรงๆ จะเดินผ่านไปเฉยๆโดยไม่ซื้อมันก็กระไรอยู่ รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เพราะเคยซื้อกินกันมาเป็นแรมปี พอผมเดินเข้าไปใกล้ร้าน หนุ่มเจ้าของร้านเขาก็ยิ้มให้ ผมยิ้มตอบ แล้วก็ชิงพูดไปก่อนที่เขาจะหยิบขนมปังขึ้นมาปิ้งให้ผมตามความเคยชิน \"สงสัยผมคงไม่ได้อุดหนุนคุณแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ผมเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักอยู่ เริ่มวันนี้วันแรกครับ\" เขาตอบกลับมาแบบยินดี \"ไม่เป็นไรครับ เรื่องของสุขภาพสำคัญกว่าอยู่แล้ว\" โล่งอกไปที ด่านแรกผ่านไปแล้ว



                          ต่อมาก็เป็นร้านข้าวแกง พอเดินผ่านมาก็บังเอิญว่าผมไม่ได้สนิทกับเขามากมายนัก ก็เลยไม่ทักทายอะไรเดินผ่านไปเฉยๆ

    แล้วก็มาถึงร้านน้ำอัดลม อันนี้ก็ไม่ต้องไปทักทายอะไรกันมากเพราะไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น แค่วันนี้ไม่ซื้อก็เท่านั้นเอง



                         พอจัดการกับสามร้านนั้นเรียบร้อยแล้วก็เหลือปัญหาว่าแล้วเช้านี้จะกินอะไรดีล่ะ หรือจะไม่กินดี แต่ถ้าไม่กินเลยไม่น่าจะเป็นวิธีที่ดีแน่ ผมก็เลยเดินตรงไปที่ร้านอาหารทันที ขณะที่เดินไปที่ร้านอาหารผมก็คิดว่า คงไปดูแถวๆนั้นว่ามีอะไรเหมาะที่จะกินเป็นมื้อเช้าบ้าง เมื่อก่อนเคยมีเพื่อนเอาโปรแกรมอาหารมาให้ดูว่า มื้อเช้ากินแบบนี้ มื้อกลางวันและเย็นกินแบบนี้ แต่ปัญหาสำคัญคือเวลาที่อยู่ในที่ทำงานเราจะทำตามโปรแกรมแบบนี้ได้อย่างไร มันไม่สะดวกทุกประการ ผมก็เลยคิดวิธีว่า เซ็ทโปรแกรมขึ้นมาเอง โดยดูจากที่ๆเรากินอยู่ทุกวัน แล้วสังเกตดูว่ามีอะไรที่เรากินได้บ้าง



                        พอมาถึงโรงอาหารผมก็สังเกตทันที โชคดีที่โรงอาหารที่ทำงานผมมีร้านอยู่หลายร้าน ประมาณ 13 ร้าน ผมกวาดตามองดูก็พบร้านที่เตะตาแค่สองร้านคือร้านเย็นตาโฟกับร้านส้มตำ แต่ถ้ากินส้มตำตอนเช้าคงไม่ดีแน่ ผมก็เลยเดินตรงไปที่ร้านเย็นตาโฟ  แล้วก็ไปสั่งเขาว่า \"เกาเหลาโฟชามนึงครับ\" เขาทำหน้างงเล็กน้อย เขาคงจำหน้าผมได้ และคงคิดว่าทำไมวันนี้มาแปลก ทุกทีเห็นสั่งแต่ \"บะหมี่โฟ ขอบะหมี่ 2 ก้อนนะเฮีย\" แต่ผมก็ทำเฉยๆ ไม่บอกกล่าวอะไรมาก พอแกทำใกล้จะเสร็จก็หันมาถามว่า \"ข้าวเปล่าไหมครับ\" ผมตอบไปอย่างมั่นใจว่า\"ไม่ครับ\" นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องตอบว่า \"เอามา 2 จาน เพิ่มข้าวด้วยนะ\"



                        และมื้อเช้าก็ผ่านไปได้ด้วยดีกับเกาเหลาโฟ 1 ชามและน้ำเปล่า 1 ขวด สำหรับเกาเหลาโฟนั้น ผมกินผักบุ้งแล้วก็ลูกชิ้นกุ้งกับเลือดหมูและหมูชิ้น เหลือลูกชิ้นปลา ปลาหมึก แล้วก็เกี๊ยวเอาไว้ ไม่กินครับ



                       พอผมเดินมาที่หน้าลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นห้องทำงาน ผมก็เปลี่ยนใจขึ้นบันไดแทน แต่พอขึ้นไปชั้นบนผมต้องรับมือกับอะไรอีกหลายอย่าง ผมไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้เขาจัดฉลองตู้เย็นใหม่กัน หลายคนซื้อของเข้าตู้เย็นกันเยอะแยะเต็มไปหมด และที่สำคัญหลายคนก็ซื้อของเตรียมมาให้ผมอีกด้วย และนี่ก็คืออุปสรรคที่กำลังรออยู่เบื้องหน้าสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าโปรแกรมอย่างผม







                          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×