ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอียิปต์ โอม...

    ลำดับตอนที่ #121 : เอาชีวิตรอดในทะเลทรายซาฮาร่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.55K
      5
      21 เม.ย. 50

    ในที่สุดก็กลับมาแล้วขอรับ - -

    ขอบคุณสำหรับคำตอบทุกๆ คำตอบนะขอรับ

     

    ถ้าใครเคยอ่านการเอาชีวิตรอดในทะเลทรายซาฮาร่ามาแล้วก็คงจะรู้ว่ามันสนุกดี  (เอ๊ะ ยังไง)  ส่วนใครยังไม่ได้อ่านก็ไปหาอ่านซะ  (กำลังจะพาเสียเงิน  ใช้วิธีท่านD13 ก็ได้นะ  ยืนอ่านให้จบที่ร้านไปเลย  เอิ้กๆ หรือจะใช้วิธีข้าน้อยก็ได้  ยืมเขาอ่านเอา  เอิ้กๆ - -)

               

                พล่ามมากเข้าเรื่องดีกว่า  เนื้อหาบางส่วนอาจจะไม่ได้ลง  เพราะข้าน้อยไม่ได้จดมาด้วยนั่นเอง...

     

                การกำเนิดทะเลทราย

                ทะเลทรายเกิดจากพื้นดินที่ถูกกระแสลมพัดเป็นเวลานาน  จนเกิดการกัดกร่อนหรือเกิดจากแม่น้ำลำธารที่แห้งขอด  เนื่องจากอุณหภูมิในทะเลทรายแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน  ทำให้โขดหินขยายและหดตัวจากความแตกต่างของอุณหภูมิ  นานวันเข้าหินจะเกิดรอยร้าวและแตก  จากโขดหินเป็นก้อนและกลายเป็นกรวด  และเป็นเม็ดทรายในที่สุด!  ผนวกกับเวลาที่มีพายุฝน  น้ำฝนมีส่วนผสมของเกลือมาก  และเมื่อหยุดตก  พื้นดินจะแห้งเร็วมาก  เกลือจะตกตะกอนและซึมลงสู่ดิน  ผ่านไปหลายปีพืชที่ขาดน้ำไม่ได้และทนต่อสภาพความเค็มของดินไม่ไหวก็จะค่อยๆ  ตายไปในที่สุดก็จะไม่มีพืชหลงเหลือในทะเลทราย!

     

                ระยะแรกเริ่ม : พื้นที่ราบเรียบมีแม่น้ำไหลผ่าน  ถูกน้ำซัดกร่อนจนก้นแม่น้ำกลายเป็นรูปตัว V (เสียดายไม่มีรูปให้ดู  ข้าน้อยวาดงามจัดเครื่องแสกนไม่ได้เลย - -)

                ระยะกลาง : แม่น้ำซัดกร่อนจนพื้นที่กว้างขึ้นเหมือนหุบเขา (จินตนาการเข้าเร็ว  กว้างออกๆ)

                ระยะหลัง : ก้นแม่น้ำกว้างและเรียบ  เกิดการทับถมของดินทรายที่ถูกพัดผ่านมา

               

    ทะเลทราย

                ในทะเลทรายประกอบด้วยพื้นผิดต่างๆ  เช่น

    โขดหิน

                เป็นพื้นที่มีโขดหินหรือหินที่มีขนาดใหญ่

    กรวดทราย

                ประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นก้อนหินเล็กๆ  กรวด  และ  ทราย

    ทราย

                เป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วยพื้นทรายและเนินทราย  ซึ่งเกิดจากการผุกร่อนของกรวด เนื่องจากกระแสลม

     

    กระบวนการจากหินกลายเป็นทราย

    ก้อนหินที่ถูกแดดเผานานๆ จะขยายตัวจนเกิดเป็นรอยร้าว  เมื่อฝนตกลงมาจะมีน้ำขังอยู่ในรอยร้าว  ถ้าอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วในเวลากลางคืน  น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งทำให้รอยร้าวมากขึ้น (ภาพลอยมาแล้วขอรับ - -)

                การขยายและหดตัวแบบนี้  ทำให้หินผุกร่อนจนแตกหักในที่สุด

     

    ทะเลทรายในโลก

    ทะเลทรายมีอยู่ทั่วโลก  โดยกระจายอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร  บริเวณที่มีความกดอากาศสูง  พื้นที่มีภูเขาล้อมรอบ  และบริเวณชายฝั่งซึ่งมีกระแสอากาศหนาวพัดผ่าน

     

    แวะหน่อยขอรับ - -

    อะไรเอ่ย  ตอนเด็ก  4  ขา  ตอนหนุ่ม  2  ขา  ตอนแก่  3  ขา???

    เฉลยด้านล่างนะขอรับ

    (คำถามนี้จะเป็นคำถามที่สฟิงซ์จะถามคนที่ผ่านไปมา  ถ้าตอบไม่ได้จะถูกจับกิน) มั้ง?

               

                การจ่ายเงินด้วยมือซ้ายของคนอียิปต์นั้นเป็นการดูถูก  ฉะนั้นจ่ายมือขวา  (จำไม่ค่อยได้แฮะ)

                ตอบ  คน

     

                กลับเข้าสู่เนื้อหาอีกครั้ง

     

                กุหลาบทะเลทราย

                กุหลาบทะเลทราย ( Caliche)  เป็นตะกอนแข็งของแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3)  ที่รวมตัวกับสารชนิดอื่น  เช่น  กรวด  ทราย  ดินเหนียว  และโคลน  แล้วตกตะกอนมีลักษณะเป็นชั้นและสีดังกล่าว  จึงได้ชื่อว่า กุหลาบทะเลทราย  (ง่า  รูปมันมีแต่ไม่มีปัญญาเอามาให้ดู  เอาเป็นว่าคิดถึงกุหลาบที่แข็งเป็นหินก็แล้วกัน)

     

                จิตรกรรรมฝาผนังในทะเลทราย

                ภาพวาดบนฝาผนัง หอศิลป์ธรรมชาติแห่งซาฮาร่า

                ในปี ค.ศ.1956  มีผู้พบภาพวาดมากกว่า  1500  ภาพบนแผ่นหิน  บริเวณที่ราบสูงกลางทะเลทรายซาฮาร่า  นักโบราณคดีคาดว่า  ภาพเหล่านี้ถูกวาดขึ้นในช่วง 8000 3000  ปีก่อนคริสต์ศักราช  ในภาพได้แสดงให้เห็นการเพาะปลูก  การสู้รบ  และภาพสัตว์ต่างๆ เช่น  ยีราฟ  นกกระจอกเทศ  และกระต่าย  ซึ่งถือว่าเป็นการบันทึกอารยธรรมของมนุษยชาติในยุดแรกเริ่มเลยทีเดียว

                จากจินตกรรมฝาผนัง  สู่อดีตของทะเลทราย

                จากภาพดังกล่าว  ทำให้เราสันนิษฐานว่า  เดิมทะเลทรายซาฮาร่าเคยเป็นทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม  และเมื่อนานมาแล้ว  อาจเคยเป็นทะเลมาก่อน  เนื่องจากมีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของปะการังและเปลือกหอย

                ความลับบนภาพวาด อารยธรรมมนุษย์ต่างดาว

                ภาพวาดบนแผ่นหินเหล่านี้  มีบางภาพที่ดูคล้ายจานบินและมนุษย์ต่างดาว  แต่เราไม่อาจสรุปได้  จากภาพดังกล่าวว่า  คนโบราณที่อาศัยในแถบนี้เคยพบมนุษย์ต่างดาว  ภาพที่เห็นอาจเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น

                ฉะนั้นเรายังสรุปไม่ได้ว่าภาพเหล่านี้มีความหมายใด!

     

               

                วิธีก่อไฟ (ไม่ต้องอ่านก็ได้นะขอรับ  เหอะๆ)

                วิธีเสียดสี

                กรีดแผ่นไม้เป็นร่องตื้นๆ  จากนั้นนำแท่งไม้ปลายแหลมซึ่งขนาดพอดีมือ  ขูดไปมาที่ร่องบนแผ่นไม้  จนเกิดความร้อนขึ้น  เมื่อมีควันให้เติมต้นหญ้าแห้งเพื่อให้ติดไฟ

                วิธีเสียดสีแบบคันธนู

                ผูกเชือกไว้กับกิ่งไม้ให้มีลักษณะคล้ายคันธนู  จากนั้นพันเชือกรอบกิ่งไม้อีกกิ่ง  1  รอบ  เมื่อต้องการให้เกิดความร้อน  ก็นำกิ่งไม้ไปวางบนแผ่นไม้ที่ขุดเป็นร่องเล็กๆ  แล้วสีกิ่งไม้ (คันธนู) ไปมาเร็วๆ

                ใช้เลนส์ (อันนี้สนุกดี  ถ้าเคยเรียนประถมก็คงจะได้ทำกันเนอะ)

                เนื่องจากเลนส์นูนจะรวมแสงไว้เป็นจุดเดียว  เราจึงสามารถนำเลนส์นูนหรือแว่นขยายมาถือกลางแดด  เพื่อรวมแสงอาทิตย์ส่องไปยังหญ้าหรือใบไม้แห้งให้เกิดความร้อนและไฟขึ้น

                ปั่นแท่งไม้ (วิธีนี้ในการ์ตูนเห็นบ่อย)

                นำแท่งไม้ปลายแหลมมาวางไว้บนแผ่นไม้ซึ่งขุดเป็นร่องเล็กๆ ไว้  เมื่อต้องการให้เกิดความร้อนก็ปั่นแท่งไม้เร็วๆ  จะเกิดความร้อนขึ้นให้ใส่หญ้าแห้งเพื่อทำให้ไฟลุก

     

                มูลของอูฐที่แห้งก็นำมาใช้แทนฟืนได้

     

                กฎ 3333 เพื่อการมีชีวิตรอด

                หากเกิดเหตุการณ์วิกฤต  เราควรปฎิบัติตัวอย่างไร...  ความจริงแล้วไม่ว่าเราจะติดเกาะ  หลงป่า  หรือหลงอยู่ในทะเลทราย  ก็ควรทำตัวให้มีความหวังอยู่เสมอ

                กฎ 3333 คือ  กฎสำคัญที่เราควรจดจำและระวังให้ดี

    1.      เราขาดอากาศได้เพียง  3  นาที

    2.      เราขาดความอบอุ่นได้เพียง  3  ชั่วโมง

    3.      เราขาดน้ำได้เพียง  3  วัน

    4.      เราขาดอาหารได้เพียง  3  อาทิตย์

     

    พืชทะเลทราย

                พืชที่ขึ้นได้ในทะเลทรายนั้นจะต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้  พืชเหล่านี้จึงมักมีอายุสั้นๆ  และในสภาพที่ขาดน้ำ  รากของมันจึงยาวกว่าปกติ  เพื่อดูดซับน้ำใต้ดินที่อยู่ลึกได้  นอกจากนั้นเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ  ใบของพืชเหล่านี้จึงมักมีขนาดเล็ก  หรือเป็นหนาม

                ต้นปาล์ม  ผลรับประทานได้  มีรสหวานและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสารอาหาร (ไม่มีรูปอีกแล้ว)

                อัมเบรลลาทอร์น ( Umbrella  thorn)  ลำต้นขรุขระมีสีเทาถึงดำ  มีหนามรอบลำต้น  เปลือกของต้นใช้เป็นยาได้

                แตงโมทะเลทราย  พืชประเภทแตง  แต่ผลรับประทานไม่ได้  หากรับประมานจะปวดท้อง

                ฮอร์สแรดิช (horseradish)  ไม่พุ่มยืนต้น  ยางสามารถนำมาทำเป็นยาแก้ปวด  และสามารถถนอมอาหารได้

                ไทม์  (thyme) กิ่งก้าน  และใบมีกลิ่นหอม  เมื่อนำไปตากแดดหรืออังความร้อนกลิ่นจะหอมยิ่งขึ้น

                เวิร์มวูด (wordwood)  ไม่พุ่มชนิดหนึ่งสามารถสกัดเป็นยาชาและยารักษาโรคอื่นๆ ได้

     

     

                ค้นหาทิศทาง

                ไม่ว่าจะผจญภัยที่ใด  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ  ต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งใด  และทิศทางใด  ถ้าทำเข็มทิศหรือแผนที่หายควรทำอย่างไร?  เรามีมีวิธีค้นหาทิศทาง  โดยสังเกตจากธรรมชาติ

                1.  ดูดาว

                ถ้าหากอยู่ในบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรให้สังเกตดาวเหนือ  และถ้าอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรควรสังเกตดาวใต้

    2.      เข็มนาฬิกา (ใครดูโคนันคงรู้แล้ว)

    หันด้านที่เข็มสั้นชี้ไปทางดวงอาทิตย์  เส้นกลางระหว่างเข็มสั้นและเลข  12  คือทิศเหนือหรือใต้ (ขึ้นอยู่กับเวลา)

                ตอนเช้าจะเป็นทิศเหนือ

                ตอนเย็นจะเป็นทิศใต้

    3.      สังเกตภูมิประเทศ  (ง่ายสุดมั้งนี่)  ขึ้นไปบนยอดเขาหรือที่สูงเพื่อสังเกตภูมิประเทศโดยรอบ

    4.      สังเกตแสงอาทิตย์

    ปักไม้ไว้บนดินแล้วสังเกตเงา  เงาในช่วงเช้าคือทิศตะวันตก  และช่วงบ่ายคือทิศตะวันออก

     

                ทางน้ำกลางทะเลทราย Wadi

                ทางน้ำที่แห้งขอดนี้จะมีน้ำก็ต่อเมื่อฝนตกหนักเท่านั้น  และมีอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่าและทะเลทรายในอาหรับเท่านั้น  หากปริมาณน้ำฝนมากกว่าปริมาณน้ำที่ซึมลงไปในพื้นทราย  มันจะกลายเป็นทางน้ำไหล!

                แม้ทางน้ำที่แห้งขอดเหล่านี้จะกลายเป็นทางน้ำไหลเพียงชั่วคราวเท่านั้น  แต่มันก็ยังทำให้เกิดการกัดเซาะกร่อนเหมือนแม่น้ำลำธารทั่วไป  แต่ปลายน้ำของมันมักตื้นหรือซึมหายไปกลางทะเลทราย

     

               

    เครื่องมือส่งสัญญาณ  :  กระจกเงา

                การส่งสัญญาณในวันที่ท้องฟ้าโปร่งและแดดจ้าใช้กระจกเงาดีที่สุด  หากไม่มีกระจกเงา  สามารถนำโลหะที่มันเงามาใช้แทนได้  นำกระจกเงาหรือแผ่นโลหะมาคล้องไว้กับคอ  และหันกระจกเงาหรือแผ่นโลหะเข้าหาแสงอาทิตย์  จะเกิดแสงสะท้อนเป็นสัญญาณให้สังเกตเห็นได้ง่าย  แต่ไม่ควรจ่อไปทางนักบินมากนัก  เพราะแสงอาจส่องเข้าตานักบินได้

     

     

    แมลงสคารับ ผู้พิทักษ์ความสะอาดแห่งทะเลทราย  (น้องกุดจี่บ้านเฮา)

                หากพบอูฐ  เราก็จะพบตัวแมลงสคารับหรือด้วงมูลสัตว์เสมอ  เนื่องจากมูลอูฐเป็นอาหารที่สำคัญของแมลงสคารับ  ทั้งยังเป็นแหล่งวางไข่ของมันอีกด้วย  เราจะเห็นแมลงสคารับลงไปคลุกอยู่กับมูลอูฐ  โดยจะปั้นมูลเป็นก้องกลมขนาดใหญ่  ด้วยเหตุนี้มันจึงได้ชื่อว่า  ผู้พิทักษ์ความสะอาดแห่งทะเลทราย

                แมลงสคารับมีมากถึง  7000  ชนิด  พบเห็นทั่วทุกมุมโลก  ยกเว้นที่ขั้วโลกใต้  ที่น่าทึ่งคือ  แมลงสคารับสามารถปั้นมูลเพียง  50  รอบเท่านั้น  ชาวอียิปต์โบราณเห็นว่ามูลอูฐที่แมลงสคารับปั้น  มีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์  จึงเชื่อว่าแมลงชนิดนี้คือ  แมลงที่เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ส่งมา  จึงนับถือมันเป็นแมลงศักดิ์สิทธิ์  เราจึงเห็นภาพแมลงสคารับตามแผ่นจารึก  ภาพวาด  และภาพสลักทั่วไปในอียิปต์

     

     

     

                เกลือในทะเลทราย

                สมัยโบราณทวีปแอฟริกาเคยเป็นมหาสมุทร  แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกครั้งใหญ่  ทำให้เปลือกโลกค่อยๆ ผุดขึ้นมาจากมหาสมุทรจนกลายเป็นพื้นทวีป  ดังนั้นจึงมีผลึกเกลือปนอยู่ในดินและหิน

                เมื่อจะนำมาใช้  จะนำดินที่มีรสเค็มไปละลายน้ำ  และปล่อยให้น้ำระเหยไปจะได้ผลึกเกลือ

                คนโบราณในทะเลทรายจะหาเกลือโดยวิธีนี้  เกลือในทะเลยทรายหาได้ยากมาก  บางครั้งสามารถใช้แลกกับทองคำได้

     

                เกลือในทางน้ำแห้ง

                เนื่องจากทะเลทรายซาฮาร่าเคยเป็นมหาสมุทรมาก่อน  ดินและทรายจึงมีเกลือปนอยู่  เมื่อฝนตก  เกลือที่อยู่ในดินจะละลาย  แต่ในทะเลทรายอุณหภูมิจะสูงมาก  น้ำจึงระเหยและดูดซับเร็ว  ทำให้ผลึกเกลือยังตกค้างอยู่ในทางน้ำแห้ง

     

     

    คาราวาน  :  พ่อค้าในทะเลทราย

                คาราวาน  คือ  กลุ่มผู้เดินทางหรือกลุ่มพ่อค้าที่เดินทางในทะเลทราย  มักใช้อูฐเป็นพาหนะ  ในกองคาราวานหนึ่งมักประกอบด้วยอูฐ  5 10  ตัว  แต่อาจมากถึง  50  ตัว  และอาจมีขบวนผู้คุ้มกันด้วย  เพื่อป้องกันกองคาราวานจากกลุ่มโจร

                ตั้งแต่ศตวรรษที่  19  ถนนและทางรถไฟตัดผ่านทะเลทราย  ทำให้กองคาราวานที่เดินทางด้วยอูฐลดลง  แต่ปัจจุบันยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา

               

                ชนเผ่าทวาเร็ก (Tuareg)  เป็นอีกชนเผ่าหนึ่งที่ร่อนเร่ในทะเลทราย  ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางในทะเลทราย  และมีชื่อเสียงในเรื่องกองคาราวานเกลือ  ปัจจุบันนอกจากคาราวานเกลือแล้ว  ชาวทวาเร็กยังจัดคาราวานเชิงท่องเที่ยวอีกด้วย

               

     

                ไม่ไหวๆ  ง่วงมากๆ  เดี๋ยวมาต่อนะขอรับ - -

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×