คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2A : I am .........
"ก็เราเป็น ... พ่อของเล่นนี่นา!" เสียงใสๆ โทนแหลมสูงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของเด็กสาวแสนน่ารักอุดมไปด้วยหน้าอกหน้าใจดังขึ้น ท่ามกลางความมืดของห้องพักเล็กๆขนาด 3*4 เมตร มีเพียงแสงจันทร์ลอดผ่านม่านเข้ามาทางหน้าต่าง พอให้มองเห็นกันและกัน
ผมนั่งจ้องมองเธอค้างอยู่แบบนั้นไป ประมาณ 6 วินาที
"หะ ... เมื่อกี้ ว่ายังไงนะ!" ผมพูดออกไปพร้อมกับสติที่เริ่มก่อตัวกลับมา แม้ว่าคำพูดของเธอเมื่อกี้จะชัดเจน แต่เสียงนั่น กลับก้องกังวาน และความหมายของมันเข้าใจยากซะจนผมฟังแทบไม่ถนัด
เด็กสาวเบื้องหน้าผมยิ้มหวานให้ ยืดกายแอ่นอก ตอบคำถามผม ด้วยเสียงแห่งความภาคภูมิใจ
"เราเป็นพ่อของเล่นไง ... พ่อกลับมาหาเล่นแล้วนะ!"
.... ผมได้ยินไม่ผิดแน่ๆ.. อืม ไม่ผิดแน่ๆ แต่มันไม่ใช่ ผมว่ามันต้องมีอะไรผิดแผกแปลกไป ผมว่าผมอาจจะเข้าใจอะไรผิด ... ขออีกรอบเพิ่มความชัวร์หน่อย
"เอาให้ชัดๆอีกรอบซิ!"
"ehh!" เธอสีหน้าเปลี่ยนในบัดดล เมื่อผมพูดอีกครั้ง ท่าทางเธอดูกระวนกระวายมากขึ้น
"ah... Do you not understand me?" แล้วเธอก็ปล่อยภาษาต่างชาติออกมา
ผมถึงกับอึ้งในบัดดล เพราะ ผมดันไม่เก่งภาษาอังกฤษเอาเสียเลย ถึงแม้ว่าจะพอเข้าใจศัพท์ง่ายๆ แต่ถ้าไปถึงขั้นยากๆ คงจะแย่
ไม่สิ นี่ตรูกำลังอึ้งกับเรื่องแปลกๆ มากกว่า สามเรื่องพร้อมๆกันเลยนะเห้ย
เด็กสาวแปลกหน้าแสนน่ารักมานอนในห้อง
เด็กสาวแปลกหน้าแสนน่ารักโผกอด
เด็กสาวแปลกหน้าแสนน่ารักบอกว่าตนเองเป็นใคร
เด็กสาวแปลกหน้าแสนน่ารักพูดภาษาอังกฤษ
เดี๋ยว เรียกสติกลับมาก่อน รู้สึกจะเริ่มบ่นในหัวมากเกินไปแล้ว ตอนนี้ต้องรีบตอบกลับไปก่อน ว่าแต่ มันจะตอบกลับไปยังไงฟระ!!... เอาเหอะ ตอบกลับไปแบบงูๆปลาๆเนี่ยแหละ!
"ไอ แอม อันเด้อสะตู้ด! ... แต่ เอ้ย บัด ไอ นอด เข้าใจ .. อันเด้อสะแต้น ยัว เวิร์ด เมื่อตะกี้" ผมพยายามจะบอกเธอว่า ผมเข้าใจที่เธอพูด แต่ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเธอเมื่อกี้เลยสักกะนิด
"Oh! good, then I'll repeat it again." เธอยิ้มดีใจใหญ่แล้วพยายามชี้ตัวเองอีกครั้ง
โอเค ... เธอเข้าใจที่ผมพยายามสื่อ
บางที อาจเพราะเธอเป็นเด็กต่างชาติ การจะใช้คำพูดแบบภาษาเรา คงจะทำให้เธอพูดผิด เลยพูดออกมาแบบนั้น เข้าใจหละ ... เข้าใจหละ เข้าใจหละ!!
ผมพยักหน้าพร้อมจ้องมองใบหน้าสวยใสของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ ตั้งใจฟังสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ เอาหละ!ไหนขอฟังชัดๆซิ ว่าเธอจะพูดอะไร!
เธอจ้องผมกลับ หายใจเข้าเล็กน้อยพร้อมตอบผมด้วยความมั่นใจ
"I am your father"
ป๊อก!
"Ughh!"
ผมหยุดมือของผมไม่ได้จริงๆ มันยื่นไปเขกมะเหงก ใส่หัวเด็กสาวเบื้องหน้าผมแบบอัตโนมัติ แม้ว่าเธอจะน่ารักแค่ไหนหรือเป็นแค่เด็กผู้หญิงแปลกหน้าก็ตาม มันก็ไม่อาจจะหยุดมือของผมได้
"เน่! มันเจ็บนะเล่น! เขกหัวพ่อตัวเองแบบนี้ได้ยังไง อึก! เจ็บๆๆ! ตอนเด็กๆ พ่อไม่เคยสั่งสอนให้เล่นเป็นคนก้าวร้าวซักหน่อย!" เธอโวยไป เอามือกุมหัวไป ทำหน้าเจ็บไป
"เธอนั่นแหละ! จะบ้าหรือไง มาพูดล้อเล่นแบบนี้ มันไม่ขำนะเห้ย!" ผมโวยกลับ
"เน่! เราพูดจริงๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น! เราเป็นพ่อของ...อ้ะ อย่าเขกๆ Ughh!!!"
ตอนนี้อารมณ์ผมขึ้นนิดๆ เพราะเธอที่เอาเรื่องของพ่อมาล้อเล่นแบบนี้
ไม่ทันที่เธอจะพูดจบผมก็ยืนขึ้นง้างแขนกำมือขู่เตรียมเขกอีกรอบ เพราะตอนนี้ ผมคิดอะไรไม่ออกนอกจาก ใช้ความกลัว ขู่ให้เด็กเบื้องหน้าพูดความจริง ทำให้เธอรีบเอามือ บังหัวตัวเอง แล้วร้องเสียงหลงออกมา ด้วยความกลัว
"บอกความจริงมาเลย! เธอเป็นใคร มาจากไหน มาทำไม แล้วจะมาโกหกเรื่องบ้าๆแบบนี้ทำไม!"
"เราไมได้โกหกนะ! เราเป็น...หวา!!" เธอหันกลับมาขึ้นเสียงใส่ผมบ้าง แต่ก็ต้องรีบเอามือกุมหัว หลับตาปี๋อีกรอบ เมื่อผมยื่นมะเหงกไปใกล้ๆ
ดะ ดูไร้เดียงสา ชะมัด!!
พอผมจ้องมองตัวเธอที่สั่นกลัวแล้ว มันก็ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาไม่มากก็น้อย ที่ไปทำท่าน่ากลัวขู่เด็กแบบนี้
ผมเอามือลง พร้อมกับนั่งที่พื้นข้างเตียง อย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ
"อ่า ขอโทษที ที่ขู่ พอเธอมาพูดล้อเล่นเรื่องพ่อของพี่ เลยเผลอ..."
"ไม่ได้ล้อเล่นนะ!" เธอดันตัวพลิกคลานสี่ขายื่นหน้าเข้าใกล้ผม พร้อมเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง
โทษทีนะ ที่พี่อดมองหน้าอกของน้องตกตามแรงโน้มถ่วงไม่ได้
ความมืดไม่ได้ช่วยเลยเห้ย! แล้วนั่น ไม่ได้ใส่ยกทรงเหรอฟระ! แค่ใส่เสื้อยืดรัดรูปเฉยๆเหรอฟระ
เดี๋ยว กลับเข้าเรื่องก่อน สติ เตลิดแล้วสิ กับชายหนุ่ม ที่โสดซิงมาตลอด 17 ปี แบบผมแล้ว เรื่องแบบนี้ มันก็อันตรายได้ที่ ถ้าใครมาเห็นเข้า ... ไม่ ไม่มีใครเข้ามาเห็นหรอก
"เอาเถอะ ไม่โกหกก็ไม่โกหก" ผมไม่คิดจะโทษ โกรธเธอเรื่องที่เธอบอกว่าตนเองเป็นพ่อของผมแล้วหละ มันอาจจะเป็นปมด้อยไม่ก็มุขใหม่ของเด็กฝรั่ง ยากที่จะให้เข้าใจกับคนบ้านเรา ...ปัญหาสำคัญกว่าก็คือ ...
"เชื่อแล้วสินะ"
"ยัง"
"แต่เราเป็นพ่อของเล่นจริงๆนะ" เธอเอ่ยเสียงจริงจังโทนสูงแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เข้าไปอีก
ผมต้องเหลือบมองไปทางอื่นกับท่าทีง้องอนของเธอ ที่ทำให้หน้าแสนน่ารักและก้อนไขมันที่อกอันอวบอิ่มนั้นใกล้ผมเข้ามาอีก
ท่าทาง ถ้ายังเป็นแบบนี้ เนื้อหาคงไม่เดินไปไหน นอกจาก วนเวียนกับ หน้าอก และ มุขข้าคือพ่อของเจ้า แน่ๆ
"เอาแบบนี้นะ นั่งให้เรียบร้อยแล้วตั้งใจฟังพี่ดีๆนะ"
"อื้ม" เธอพยักหน้าตอบรับพร้อมทำตาม
โอเค ผมหันหน้ากลับมาได้แล้ว
"คือว่า วันนี้พี่ตื่นแต่เช้าเพื่อไปสอบที่โรงเรียน เสร็จแล้วตอนเย็นก็เพิ่งทำงานกลับมาถึงห้องตีสองกว่าๆ กำลังเหนื่อยล้า พอเปิดห้องเข้ามาก็ดันเจอเด็กผู้หญิงแปลกหน้าไม่เคยพบหรือรู้จักกันมาก่อนนอนอยู่บนเตียง เธอคิดว่าพี่ควรจะทำยังไง ?"
"อาบน้ำให้ตัวหอมๆ หอมกันสักฟอดให้หายเหนื่อย แล้วนอนกอดกันแบบพ่อลูกอย่างมีความสุข!"
"ไม่ใช่เฟ้ย!" ผมขึ้นเสียงสูง จนเธอสะดุ้ง
ตอบเหมือนเด็กเกินไปแล้ว! ....ก็เด็กนี่หว่า สงสัยจะให้คำถามปลายเปิด ไม่ได้
"มันต้องตกใจสิ! ปกติคนเพิ่งเจอหน้ากัน จะมานอนกอดกันได้ยังไงกันเล่า!"
"ก็เราเป็น ..."
"หยุดก่อน ให้พี่อธิบายส่วนของพี่จบ แล้วตอบคำถามของพี่ก่อน ค่อยเข้าเรื่องของเธอ ระหว่างนี้ห้ามพูดอะไรนอกเหนือเรื่องพวกนั้น"
"แต่..."
"ไม่มีแต่ ไม่งั้น พี่คงต้องเชิญเธอออกจากห้อง เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง"
ผมรีบหยุดเธอไว้ เพราะไม่งั้นเนื้อหามันจะวนเวียนกลับไปจุดเริ่มต้นอีกรอบ
"อื้ม ..." เธอพยักหน้ารับ
ดีมาก เด็กดี ...
"ถ้าเจอคนแปลกหน้ามาอยู่ในห้อง เธอจะตกใจไหม ... คือ คนแปลกหน้านะ ไม่ใช่เจอพ่อตนเอง"
"อื้อ ตกใจสิ แล้วก็ไม่ไว้ใจด้วย!"
"ถ้าเธอบอกว่า ไม่ไว้ใจ ดังนั้นแล้ว ถ้าคนแปลกหน้านั่นพูดอะไรมา เธอจะเชื่อไหม"
"ไม่เด็ดขาด!"
"แล้วยิ่ง อีกฝ่าย พูดเรื่องที่เหนือธรรมชาติ เกินไป ราวกับการ์ตูน เธอจะเชื่อมั้ย?"
"ไม่มีทาง!"
เออ สิเว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!
"แต่ว่าเรื่องของเรามันคนละ กรณีกันนะ! เราเป็นพ่อลูกกันจริงๆ"
"บอกว่าอย่าพึ่ง ไงเล่า" ผมรีบหยุดเธอ
มันทำให้เธอ เงียบลงอีกครั้ง
"เห้อ.." ผมได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ
คงต้องเริ่มถามเพื่อตีกรอบ มากขึ้นไปอีก
"คือ เธอรู้ตัวใช่ไหม ว่าตัวเธอเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย"
"อื้อ เราเป็นผู้หญิง"
"อายุหละ?"
"เก้าขวบ"
..........
"แล้วเธอรู้ ใช่ไหม ว่าการจะมีลูกได้ ต้องประกอบไปด้วยอะไร"
"อื้อ เรารู้"
"อะไรบ้าง"
"คุณพ่อ กับคุณแม่"
"ใช่ๆ นั่นแหละ คุณแม่เป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงหละ?"
"ผู้หญิง"
...........
"แล้วพ่อหละ..."
"ผู้ชายไงหละ ทำไมเล่นถามแต่เรื่องที่ใครๆก็ควรจะรู้อยู่แล้วหละ ?"
ปุ!
ผมทุบเตียงทันที
มันทำให้เธอสะดุ้งอีกรอบ
"ก็รู้หน่ะสิเฟ้ย! พ่อเป็นผู้ชายไงครับน้อง!!! พ่อต้องเป็นผู้ชาย แถมพ่อก็ต้องอายุมากกว่าลูกด้วย พี่หน่ะ สิบเจ็ดปีแล้วนะ เธอเพิ่งเก้าขวบ! จะมาพูดซ้ำไปซ้ำมาว่าตนเองเป็นพ่อของชั้น ได้ยังไงกันเล่า!!!" ผมโวยเสียงดังด้วยความหงุดหงิด
ยัยเด็กนี่ก็รู้หมด ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แสดงว่า ที่พูดตั้งแต่ต้น คือตั้งใจปั่นหัวกันเล่นๆสินะ!
"ไม่ใช่ไงเล่า เน่! ฟังเราบ้างสิ ... เล่นไม่ยอมฟังเราเลย แล้วจะเข้าใจได้ยังไง!" เธอยกไม้ยกมือโวยวาย อมลมแก้มป่อง ดวงตาสีเขียวมรกต ของเธอมันบ่งบอกถึงความดื้อรั้น
"ก็นั่นแหละ ปัญหาต่อมา ที่พี่ถามเธอตอนแรกไง! ใครจะไปเชื่อคนแปลกหน้าที่บุกรุกเข้ามาในห้องแถมพูดเรื่องเหนือธรรมชาติ กันบ้างเล่า!"
"คนแปลกหน้า ... พูดเรื่องเหนือธรรมชาติ ...?"
"อืม..."
"จริงด้วยสิ เราลืมไปเลย อยู่ๆเราก็โผล่มา แถมมาพูดเรื่องแบบนี้ เล่นจะเชื่อเราได้ไงหละเนอะ"
"เออ ... ช่วยคิดให้มันเร็วกว่านี้หน่อยจะดีมากเลยครับน้อง ..."
โอเค เหมือนเธอจะเข้าใจแล้ว กว่าจะเข้าใจได้ เล่นเอาปวดหัวจี๊ดเลย ดีนะ ที่วันพรุ่งนี้ ไม่มีสอบแล้ว ไม่งั้นคงบ้ากว่านี้
"เราชื่อคามิลล่า โรส เกิดวันที่ สิบสี่กุมภา อายุเก้าขวบ อาศัยอยู่โบสถ์กึ่งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเซ้นต์ ซันนี่ จนถึงเมื่อสองปีก่อน ชอบเรียนหนังสือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วาดรูป ร้องเพลง เล่นกีฬาค่ะ!"
"ครับน้องโรส"
ว่าแต่ จะมาเล่า ประวัติให้ฟังทำไมกันหละครับคุณน้อง
"เท่านี้ เราก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากันแล้ว!" เธอยิ้มหวาน พูดพร้อมกับยืดอกแสดงถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"ไม่ใช่แล้วเฟ้ย! ยังเป็นอยู่ ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ครับ ทำไมเธอถึงได้คุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้" ผมแย้งกลับไปอีกรอบทันควัน
"เล่นนั่นแหละ คุยกับพ่อไม่รู้เรื่อง! ก็บอกว่าเราเป็นพ่อของเล่นไงเล่า!" เธออมลมแก้มป่องโวยวายอีกระรอก
ยัยเด็กนี่ น่ารัก แต่ดื้อเกินไปแล้วเว้ย!!
หมับ!
ผมยื่นมือไปจับไหล่ของเธอที่งองุ้ม ด้วยความงอนอยู่ เล่นเอาเธอสะดุ้งไปแวบหนึ่ง พร้อมมองหน้าผมอย่างดีใจ
"เชื่อเราแล้วสินะ"
"ไม่"
"บู่ว!" เธอพ่นลมทำเสียงซะน่ารักน่าฟัด
"การจะทำให้ใครเชื่อได้ มันต้องมีหลักฐาน"
"หลักฐาน?" เธอเอียงคอ
"เพื่อเอามาพิสูจน์ สิ่งที่เธอพูดขึ้นมายังไงหละ!"
"พิสูจน์ งั้นเหรอ"
"ถ้าพิสูจน์ได้ชั้นก็จะเชื่อ" ผมเอ่ยออกไปด้วยเสียงหนักแน่น ระหว่างยังปล่อยมือออกจากไหล่ของเธอช้าๆ
"......" เธอนิ่งเงียบพร้อมกับกำมือแน่น เม้มปาก คิ้วขมวด ด้วยสีหน้าจริงจังมากกว่าตอนต้น
ว่าแล้ว ... ไม่มีจริงๆสินะ
ทั้งหมด ก็คือมุขตลกร้ายของเด็กสาวตัวน้อยยกเว้นหน้าอกคนนี้
เธออาจจะเป็นลูกของชาวต่างชาติที่โตในประเทศมาตั้งแต่แรก เพราะมีเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้หนีออกจากบ้าน แล้วดันไปเจอที่ซ่อนกุญแจสำรองเราพอดี เลยแอบเข้ามานอนเพราะไม่มีที่ไป พอเรามาเจอเข้า ก็ต้องหาเรื่องเพื่อให้ตัวเองอยู่ที่นี่ต่อได้ ด้วยการเนียนทำเป็นรู้จัก เพื่อจะได้มีที่อยู่อาศัย ในระหว่างหนีออกจากบ้าน น่าเสียดาย มุขประวัติของเธอนั่นทำให้รู้ได้เลยว่าไม่น่าใช่ เพราะถ้าเป็นเด็กต่างชาติแถมโตมาจากโบสถ์จริงคงไม่เข้าใจภาษาบ้านเราแล้วพูดชัดขนาดนี้ รวมกับเด็กกำพร้าที่ไหน จะมีเงินเดินทางจากต่าประเทศมาที่นี่ได้บ้าง
แถมไอ้มุขคนรู้จักของเธอ มันก็เหนือธรรมชาติไปนิดนึง ... ไม่สิ โคตรเหนือธรรมชาติเลย
ผมรอสักพักใหญ่ๆ เธอก็ยังคงเงียบอยู่แบบนั้น มันก็เหมือนเป็นคำตอบในตัวอยู่แล้ว ผมจึงเริ่มเอ่ยขึ้น
"ไม่มีหลักฐานสินะ ... เอาเถอะ พี่ก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรหรอก จะให้เธออยู่จนกว่าจะ ..."
"เน่ ..." เสียงเล็กโทนสูง ที่โดนกดต่ำเอ่ยแทรกคำพูดผมออกมา
ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอที่จ้องมาหาผมในตอนนี้ มันดูจริงจังมากกว่าทุกครั้งซะจนรอบนี้ผมพูดอะไรต่อไม่ออก ได้แต่เงียบจ้องมองเธอกลับ เหมือนกับว่า ผมควรจะเริ่มให้ความสนใจเธอได้เสียที เธอคงจะมีเรื่องเครียดจากทางบ้านมาเยอะจริงๆ
ก็ดี สารภาพและระบายออกมาเลยครั้งน้อง พี่พร้อมรับฟังอยู่แล้ว
"ถ้าเราพิสูจน์ได้หละก็ .... เล่นจะเชื่อใช่ไหม ว่าเราเป็นพ่อของเล่นจริงๆ"
........
นี่เธอจริงจังกับเรื่อง I am your father ขนาดนั้นเชียวเหรอฟระ นึกว่าจะยอมสารภาพซะอีก!
เอาเถอะ
"เห้อ..." ผมถอนหายใจออกมา
ถ้าจะดื้อดึงขนาดนั้นหละก็ ได้เลย ชั้นหมดแรงจะสู้กับเธอแล้ว ร่างกายชั้นมันอ่อนล้าเต็มทีแล้ว
"ครับครับ ถ้าพิสูจน์ได้หละก็จะเชื่อในทันทีเลยครับ" ผมตอบกลับออกไปด้วยเสียงเรียบๆ
"งั้น!..." เธอมีท่าทางดีใจในบัดดล
"แต่ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน ... ตอนนี้พี่เหนื่อยสุดๆแล้ว ขอพี่นอนพักก่อนเถอะนะ พี่จะนอนพื้น ส่วนเธอนอนเตียงไปก็แล้วกัน" ผมตัดประเด็นออกทันที เพราะ แม้ว่าผมจะยังตาสว่าง แต่ร่างกายผม มันบอกให้นอนได้แล้ว
"ก็ได้... แต่กลิ่นตัวของเล่น ยังเหม็นอยู่นะ! เน่! ไปอาบน้ำให้สะอาดก่อนค่อยมานอนเข้าใจไหม"
"เรื่องมากจริงเฟ้ย!!"
"เน่! ไม่ได้นะ!! เชื้อโรคมันจะหมักหมม ไม่ดีต่อสุขภาพ!! แล้วก็ตื่นมาไม่สดชื่นอีกด้วย!"
"แต่ชั้นเหนื่อยนะเฟ้ย"
"อาบน้ำก่อนจะได้สะอาดๆ ตัวหอมๆไง!"
เธอเป็นแม่ของชั้นรึไงฟระ!! ... ไม่สิ เราต้องปล่อยให้ยัยเด็กนี่เล่นบทพ่อไปก่อน จะได้นอนตาหลับสักกะที
เอากันจริงๆแล้ว อาบน้ำก็ดีเหมือนกัน
"อืม ... อาบก็อาบ ..." ผมเอ่ยตอบรับระหว่างลุกขึ้น เดินไปหยิบ ผ้าเช็ดตัว กับชุดนอนโดยไม่ได้เปิดไฟขึ้นมาแต่อย่างใด
วันนี้ ก็ขอจบเรื่องแค่นี้ก่อนแล้วกันถึงจะเหนื่อยกายหนักใจมาทั้งวัน แล้วยังมาเจอเรื่องปวดหัวเรื่องนี้อีก แต่ก็รู้สึกโล่งอกแปลกๆ ... อย่างน้อย เธอก็เข้ามาสร้างสีสัน ให้กับชีวิตไร้สีของผมในวันนี้ได้เป็นอย่างดี เล่นเอาหายเครียดเรื่องที่ทำงานไปเป็นปลิดทิ้งเลย
"ให้อาบให้ไหม?"
"จะบ้าเรอะ!"
"ตอนเด็กๆ พ่อก็อาบให้เล่นนะ!"
"ไม่ต้องเลยเฟ้ย!!"
โอเค ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว
บางที ผมอาจจะต้องเครียดเรื่องพรากผู้เยาว์แทนก็เป็นได้
จบตอนที่ 2A : I am your father
เรื่องราวของตอนต่อไป
เอาหละโรส ไหนหลักฐาน พิสูจน์มาสิ!
เรารู้จักชื่อเล่นตั้งแต่ยังไม่ทันถามยังไงหละ
นั่นมันใช่หลักฐานที่ไหนกันเล่า!
=========================================================================
ความคิดเห็น